ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่อง fic การผจญภัยในความฝันของหัวขโมยตัวแสบ

    ลำดับตอนที่ #1 : และแล้วเรื่องราวก็เริ่มต้น

    • อัปเดตล่าสุด 11 มี.ค. 48


             “ คิล คิล นายเห็นคาโลหรือเปล่า เดียวนี้ไม่เห็นมันอยู่ติดห้องเลย ไม่รู้ว่าหายหัวไปไหน ”  เสียงของเจ้าหัวขโมยตัวแสบดังขึ้นถามนักฆ่าเพื่อนรักถึงเพื่อนร่วมห้องอีกคน



        “ คาโลหรือ ป่านนี้คงอยู่ที่ห้องสมุดนะ เห็นบอกว่าจะไปหาข้อมูลอะไรสักอย่างที่ห้องสมุดนะ นายถามถึงคาโลทำไมหรือ เหงาหรือไง เฟริน ” เสียงของนักฆ่าคนเก่งกระเซาแหย่เจ้าคนเบื้องหน้าที่ตอนนี้หน้าแดงเป็นลูกตำลึงเมื่อได้ยินคำถามหลังสุดมาจากนักฆ่าเพื่อนรักของเค้า



        “ บ้า ใครจะไปคิดถึงคนอย่างมัน ชั้นแค่เห็นว่า พอมันไม่อยู่ ชั้นเลยไม่รู้จะไปแหย่ใครเท่านั้นเอง อีกอย่างถ้าชั้นจะคิดถึงใคร สู้คิดถึงสาวๆสวยไม่ดีกว่าหรือ แทนจะไปคิดถึงเจ้าชายน้ำแข็งคนนั้นนะ ” เสียงตอบอย่างคนปากไม่ตรงกับใจดังมาจากปากของหัวขโมยตัวยุ่ง



        ปากแข็งเป็นบ้าเลยเพื่อนเรา เหงาแล้วยังทำเป็นปากแข็งอีก เอ้า ลองใส่ไฟมันดูดีไหมนะ อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะทำยังไงต่อ  ว่าแล้วนัยน์ตาสีม่วงก็ฉายประกายระริกบอกความขบขัน ต้องลองหาวิธีแกล้งมันดูดีกว่า ท่าทางจะสนุก และแล้วหัวสมองอันบรรเจิดของนักฆ่าคนเก่งก็คิดวิธีใส่ไฟออก จะเอาวิธีนั้นดีไหมนะ ท่าทางจะดี ว่าแล้วคิลก็เผยรอยยิ้มอันชั่วร้ายออกมา



        “ เฟริน นายแน่ใจนะว่านายไม่ได้เหงา เมื่อกี้ตอนที่คาโล มันเดินไปที่ห้องสมุด ชั้นแอบเห็นสาวๆเดินตามมันไปเป็นแถบๆเลยรู้ไหม คงเป็นพวกแฟนคลับของคาโลนั้นแหละ ป่านนี้แม่พวกนั้นคงไปนั่งเสนอหน้าใกล้ๆเจ้าชายคาโลคนเก่งของเราแล้วแหละ อ้าว แล้วนายจะรีบไปไหนนะ เฟริน ทำไมรีบเดินอย่างนั้นล่ะ ”



        “ ก็จะไปห้องสมุดหาไอ้คาโลมันนะซิ คิล นายไปด้วยกันนะ ” เสียงของเฟรินดังขึ้น ก่อนรีบลากตัวเพื่อนรักออกจากห้องพักของทั้งสามในทันที โดยคิลนั้นแอบหัวเราะคนปากแข็งอยู่ในใจ ท่าทีอย่างนี้ละหรือที่บอกว่าไม่คิดถึง ปากแข็งจริงๆ เพื่อนเรา



        “ คิล คิล นายบอกว่าไอ้คาโลไปหาข้อมูลที่ห้องสมุด มันคืออะไรหรือ ข้อมูลที่ว่า ”



        “ รู้สึกว่า คาโลมันบอกว่าจะหาข้อมูลเกี่ยวกับโรบินฮู้ด หรืออะไรนี้แหละ ชั้นไม่ค่อยแน่ใจ ” เมื่อได้ฟังคำตอบจากคิลทำให้เฟรินอ้าปากค้าง ก่อนส่งเสียงหัวเราะออกมา พร้อมส่งเสียงจิบปากอันเป็นสัญลักษณ์ก่อนพูดว่า



        “ อะไรกัน นี้มันยังคิดมากเรื่องตอนนั้นอยู่อีกหรือ แบบนี้แสดงว่ามันไม่รู้จักนิทานเรื่องท่านโรบินฮู้ดจริงๆนะซิ มิน่าตอนนั้นมันถึงทำหน้างงๆ



        “ อะไรหรือ เฟริน ท่านโรบินฮู้ดที่นายว่า ” เสียงคิลถามขึ้นหลังได้ยินคำพูดของเฟริน



        “ อย่าบอกนะว่านายก้อไม่รู้จักนิทานเรื่องนี้ จริงซิ ชั้นลืมไปว่านายกับคาโลนะเป็น ทายาทตระกูลนักฆ่าที่ไม่เคยออกไปรู้จักโลกภายนอก กับเจ้าชายคาโนวาลผู้ที่อยู่แต่บนหอคอยงาช้าง คงไม่รู้จักเรื่องราว 108 เหมือนท่านหัวขโมยผู้เคยเดินทางไปทั่วอย่างชั้นซินะ ” เสียงตอบแบบกวนประสาทดังมาจากปากคนพูดมาก ทำให้นักฆ่าที่ไม่เคยออกไปรู้จักโลกภายนอกเบื้องหน้าชักอยากออกมาประกอบอาชีพเดิมทันที แต่เฟรินก็เริ่มเห็นประกายตาดุๆของเพื่อนจึงเริ่มคิดหาทางเอาตัวรอดทันที



        “ ไม่ต้องห่วงหรอกคิล ในฐานะที่นายมีชั้นเป็นเพื่อน ชั้นจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับท่านโรบินฮู้ดให้นายฟังนะกัน ”



        และแล้วระหว่างทางที่เดินไปห้องสมุดเฟรินก้อเล่าเรื่องราวการผจญภัยของท่านโรบินฮู้ดให้คิลฟัง ทันทีฟังจบคิลก็ถามเฟรินว่า



        “ ไอ้เรื่องที่นายเล่ามาทั้งหมดนี้ เรื่องจริงหรือเปล่า เฟริน หรือนายโม้เหมือนอย่างเคย ”



        “ เรื่องนี้ชั้นไม่ได้โม้นะ นายไม่เชื่อก็ลองเอาไปถามโรมันดูซิ โร มันเป็นห้องสมุดเคลื่อนที่ รับรองมันก้อต้องตอบเหมือนที่ชั้นเล่าเหมือนกัน หรือถ้านายยังไม่เชื่ออีก ลองเข้าไปหาหนังสือที่ห้องสมุดดูก็ได้ ท่านโรบินฮู้ดนะจัดเป็นวีรบุรุษของพวกหัวขโมยเลยรู้ไหม”



        “ เออ ชั้นเชื่อนายก็ได้ ชั้นว่านิทานเรื่องนี้ก้อสนุกดี เดียวชั้นว่าชั้นลองไปหาหนังสือเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มาอ่านดีกว่า มันส์ดีเหมือนกัน อ้าวนั้นมัน คาโลนี้ พวกเราเดินไปหามันดีกว่า เฟริน ” คิลพูดขึ้นเมื่อเห็นคาโลนั่งอยู่ในห้องสมุด โดยรอบตัวมีสาวๆน้อยใหญ่มานั่งอ่านหนังสือข้างๆ



        “ โอ้โห แถวนี้ วิวดีนะ คิล ดูสิ ว่าไง คาโล นายหาข้อมูลเกี่ยวกับท่านโรบินฮู้ดไปถึงไหนแล้ว หาเจอไหม ถ้านายหาไม่เจอมาถามท่านหัวขโมยผู้รอบรู้ท่านนี้ก้อได้นะ ” เสียงเฟรินพูดเสียงดังจนทำให้คนในห้องต่างหันมามองพวกเค้าทั้งสามทันที



        “ ไม่เป็นไร ชั้นไม่จำเป็นต้องให้นายช่วยหรอก เฟริน ” เสียงตอบอย่างเยือกเย็นดังมาจากปากคาโล โดยที่สายตาสีฟ้าคู่สวยยังไม่ละจากหนังสือ



        “ โธ่ ถ้านายไม่รู้จริงๆ ชั้นบอกนายก็ได้ ไม่เห็นต้องอายเลย เรื่องที่นายกับคิลไม่รู้จักนิทานเรื่องท่านโรบินฮู้ดนะ” เสียงตอบของคนชอบวางเพลิงเริ่มเสียงดังโดยเฉพาะคำพูดสุดท้าย ทำให้คาโลถึงกับกุมขมับ ก่อนปิดหนังสือเสียงดังพร้อมพูดว่า



        “ กลับเถอะ คิล ” คาโล รีบพูดก่อนที่เจ้าคนชอบวางเพลิงจะก่อเรื่องทำให้เค้าห้ามเข้ามาในห้องสมุดตลอดไป



        “ แหม ไม่เห็นต้องรีบออกเลย ในห้องสมุดมีอะไรดีๆต้องเยอะ ชั้นว่าชั้นต้องลองเข้ามาบ่อยๆซะแล้ว นายว่าไหม คิล ” เสียงตอบดังมาจากหัวขโมยตัวแสบทำให้คนทั้งห้องหันมามองด้วยความสนใจว่าเจ้าเด็กเบื้องหน้าจะพูดถึงอะไรดีๆที่ว่า แต่คิลและคาโลเร็วกว่าจึงดึงเจ้าหัวขโมยปากมากออกจากห้องสมุดได้ทันท่วงที



        เมื่อออกมาจากห้องสมุดแล้วทั้งสามคนจึงเดินกลับห้องพักตนในทันที โดยคาโลรู้สึดหงุดหงิดเล็กน้อยที่เฟริน มันแอบล่วงรู้ความลับที่เค้าไม่รู้จักนิทานเรื่องโรบินฮู้ดอย่างที่มันว่า ส่วนคิลก็มัวแต่ขำท่าทีของเฟรินกับคาโล จนลืมไปว่าเค้าอยากหาหนังสือเกี่ยวกับนิทานมาอ่าน แต่คนอย่างเฟรินนะหรือไม่ลืมคำพูดของเพื่อนรักไปได้หรอก ดังนั้นเมื่อพวกเค้ากลับมาถึงในห้อง เค้าจึงยื่นหนังสือเล่มหนึ่งในคิลพร้อมเอ่ยว่า



        “ นี่ไง คิล ชั้นเอาหนังสือเกี่ยวกับเทพนิยายต่างๆมาให้นายอ่านด้วย ลองเอาไปอ่านดูสิ ”



        “ เฟริน นายไปเอาหนังสือท่าทางแพงเล่มนี้มาจากไหนละ นายอย่าบอกนะว่านายแอบจิกมาจากห้องสมุดเมื่อกี้นะ ”  คิลถามด้วยท่าทีตกใจ



        “ ใช่ ก่อนออกจากห้องสมุด ชั้นจำได้ว่านายอยากอ่านหนังสือประเภทนี้ ชั้นเลยแอบจิกออกมาให้นายนะ ไม่เห็นเป็นไรเลย เดียวชั้นค่อยเอาไปคืนที่หลังก็ได้ ”



        “ หัวขโมยก็ยังเป็นหัวขโมยวันยังค่ำ เฟริน นายรู้ไหม ว่าหนังสือของเอดินเบิร์กทุกเล่มเป็นของล้ำค่าของเลโมธี หนังสือทุกเล่มถูกจะคุ้มครองโดยอาเธอร์กับโรเวนนะ เกิดเค้ารู้ว่านายแอบจิกออกมาไม่ใช่แค่นายที่ซวยนะ แต่ทุกคนในป้อมจะซวยกันหมด ” เสียงตอบด้วยท่าทางซีเรียสดังมาจากเจ้าชายคนเก่งที่เริ่มเห็นปัญหาที่เจ้าหญิงหัวขโมยตัวแสบก่อไว้ เพื่อให้เค้ากับคิลตามแก้ขึ้นมาลางๆ



        “ ตายละ หนังสือพวกนี้มันสำคัญมากเลยหรือ เห็นว่ามันเป็นแค่หนังสือเก่าๆ ไม่น่าจะสำคัญตรงไหนเลย ทำไงดีล่ะ คิล  คาโล ” เฟรินที่เริ่มรู้ความจริงเริ่มเหงื่อตก ถ้าเค้าโดนจับส่งไปให้พี่โรเวนก็ยังดี แต่เกิดโดนจับส่งให้ท่านอาเธอร์ละก็ ยิ่งคิดก็ยิ่งขนลุก



        “ ไม่ต้องห่วงหรอก เฟริน ถ้านายไม่อยากโดนจับได้ก็ต้องรีบเอาหนังสือเล่มนี้ไปคืนก่อนพวกอาเธอร์จะรู้ตัวก็ได้นี่” เสียงตอบดังมาจากคิล ทำให้คนที่ดีแต่สร้างปัญหาใจชื้นขึ้นมาหน่อย



        “ จริงด้วย ถ้าชั้นรีบเอาหนังสือไปคืนไม่แน่ พวกอาเธอร์อาจยังไม่รู้สึกตัวก็ได้ คิล นายรีบส่งหนังสือเล่มนั้นมาเร็วๆซิ เดียวชั้นค่อยใช้วิชาก้นหีบของตระกูลเดอเบอโรว์ วิชาตีนเบาแอบย่องเอาไปคืนที่ห้องสมุดคืนนี้เลยก็ได้ ” ว่าแล้วเฟรินก็ดึงหนังสือออกมาจากมือของคิล



        แต่ด้วยความรีบร้อนของเค้าทำให้หนังสือมีรอยขาดตรงส่วนหน้าปก ทันทีที่เกิดรอยขาดขึ้น หมอกประหลาดก็เข้ามาปกคลุมห้องในทันที แถมยังมีกลิ่นหอมลอยคลุ้มไปทั่วห้อง



        “ กลิ่นไอเวทย์ เฟริน คิล อย่าสูดเอากลิ่นพวกนี้เข้าไปนะ ” เสียงตะโกนของคาโลดังขึ้นเตือนเพื่อนร่วมห้องทั้งสองทันที ก่อนที่เค้าจะร่ายตาข่ายเวทมนตร์ออกมาเพื่อป้องกันไอเวทย์ประหลาดในห้อง ก่อนหันมามองเพื่อนร่วมห้องทั้งสอง คิลยังคงยืนสำลักควันอยู่ข้างตัวเค้า แล้วเฟรินล่ะ มันหายไปไหนนะ คาโลหันหน้าไปมองหาเจ้าคนต้นเรื่องอย่างเป็นห่วง ก่อนพบร่างของเฟรินนอนอยู่บนพื้นห้อง



        ด้วยความตกใจกับภาพที่เห็นทำให้เจ้าชายน้ำแข็งลืมตัวรีบวิ่งเข้าไปหาเฟรินในทันที เค้าวิ่งไปยังร่างของเฟริน ด้วยความเป็นห่วงในอาการของคนเบื้องหน้า คิลเมื่อหายจากการสำลักควันแล้ว พอเห็นภาพทีคาโล ประคองร่างอันไม่ได้สติของเฟริน ก็เกิดอาการตกใจรีบถามคาโลถึงอาการเพื่อนรักอีกคนทันที



             “ คาโล ไอ้เฟริน มันเป็นอะไรไปนะ ทำไมมันไม่ขยับตัวเลย ” คิลถามคาโลอย่างร้อนรนเพื่อเห็นเพื่อนรักตัวแสบนอนสลบเหมือนคนตายอยู่ในอ้อมกอดของคาโล



        “ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน คิล รู้แต่ว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับไอเวทย์เมือกี้แน่ๆ คิลนายช่วยไปหยิบคทาพิพากษาที่อยู่ในตู้ของชั้นมาเร็วๆเข้า ” เสียงคาโลสั่งเพื่อนรักอย่างรีบร้อน



        “ เอ้านี้ คทาพิพากษา ”



        “ ขอบใจ คิล ” ว่าแล้วคาโลที่มาดหลุดหมดแล้ว ก็รีบกระแทกไม้เท้าลงพื้นสามครั้ง พร้อยเอ่ยคาถาออกมาเบาๆ อย่างเร่งรีบ ควันจางๆก็พวยพุ่ง ก่อนร่างโปร่งใสของชายชราคนหนึ่งจะพลันปรากฏขึ้นเบื้องหน้า



        “ นายท่าน รีบข้าออกมาทำไมหรือขอรับ ” เสียงของพ่อหมอดังขึ้นเมื่อเห็นนายท่านของเค้า



        “ ท่านช่วยรีบตรวจอาการของเฟรินเร็วๆเข้า ”



        “ อาการของท่านเฟริน เป็นอาการของคนที่โดนเวทมนต์นิทรา คนที่โดนเวทมนตร์บทนี้จะทำให้นอนหลับแล้วฝันไปตามเนื้อเรื่องในหนังสือ โดยถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับตัวคนโดนเวทย์บทนี้ในความฝัน มันจะกลายเป็นความจริงด้วย และที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือ ถ้าทำให้เค้าตื่นไม่ได้ภายใน 48 ชั่วโมง คนที่โดนเวทย์บทนี้จะโดนดูดพลังชีวิตจนตาย ” เสียงของพ่อหมอดังขึ้นทันทีเมื่อทำการตรวจอาการของเฟรินเสร็จ คำตอบนั้นทำให้ทั้งคิล และคาโลต่างพากันหน้าเสีย ก่อนที่คาโลจะรีบถามแทรกว่า



        “ แล้วพวกเราต้องทำยังไงล่ะ ถึงจะช่วยเฟรินได้ ท่านรีบบอกพวกเรามาเร็ว ”



        “วิธีเดียวที่จะช่วยคนที่โดนเวทย์บทนี้คือ เข้าไปในความฝันของเค้าพร้อมพยายามทำให้เค้าตื่นให้ได้ โดยท่านต้องไม่ทำให้เนื้อเรื่องในฝันเกิดความเปลี่ยนแปลง ท่านต้องดำเนินเนื้อเรื่องไปตามปกติ แต่ต้องทำให้ท่านเฟรินตื่นจากความฝันให้ได้ แต่นายท่านแน่ใจหรือที่จะเข้าไปในความฝัน เพราะถ้าไม่สามารถปลุกท่านเฟรินได้ ตัวท่านเองก็ต้องติดอยู่ในความฝันด้วย ”



        “ ไม่เป็นไร พ่อหมอรีบร่ายมนต์ ส่งพวกชั้นเข้าไปในความฝันของเฟรินเร็วๆ นายเห็นด้วยใช่มั้ย คิล ” คาโลหันหน้าไปถามคิลที่อยู่ข้างๆ ซึ่งคิลก็พยักหน้าเป็นสัญญาณว่าเห็นด้วยกับคำพูดของคาโล



        “ ใช่  ถึงเฟริน มันจะปากมากไปหน่อยก็เถอะ แต่มันก็เป็นเพื่อนรักของพวกชั้น แค่เรื่องไปช่วยมันแค่นี้ พวกชั้นชินซะแล้ว ใช่มั้ย คาโล พ่อหมอไม่ต้องเป็นห่วงหรอก รีบเสกมนต์ให้พวกเราเข้าไปช่วยเจ้าเพื่อนตัวแสบเร็วๆเถอะ เวลาเริ่มจะไม่มีแล้ว ยิ่งโอ้เอ้ ยิ่งเสียเวลา ”



        “ ถ้าพวกท่านต้องการเช่นนั้น ข้าก็จะไม่ห้ามพวกท่าน ” ว่าแล้วพ่อหมอก็ทำการร่ายเวทมนตร์เพื่อส่งคาโลและคิลไปช่วยเจ้าเพื่อนรักตัวแสบทันที

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×