ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    time keeper

    ลำดับตอนที่ #1 : การพบกัน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 23
      0
      2 พ.ย. 46

    บทนำ

       ผมหยุดมองเมืองที่อยู่เบื้องหน้าอย่างลังเลใจ  ผ่านไปเกือบ 10 ปีแล้ว เมืองนี้แทบจะไม่เปลี่ยนไปเลย ตัวเมืองไม่เปลี่ยน แต่คนต่างหากที่เปลี่ยนไป  ผมในตอนนี้ ไม่ใช่เด็กไร้เดียงสาคนนั้นอีกแล้ว  นี่ผมจะเข้าไปดีไหมนะ แค่เดินอีกไม่กี่ก้าวผมก็จะได้เข้าไปในเมืองที่อยู่มาตั้งแต่เล็ก เมืองที่เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิต  เมืองที่ผมทิ้งความทรงจำมากมายเอาไว้  แต่จะมีประโยชน์อะไร การเข้าไปคงทำให้ผมยิ่งเจ็บปวดมากขึ้นไปอีก  



       ผมเงยหน้ามองท้องฟ้า  คืนนี้ไม่มีดาว พระจันทร์ดวงใหญ่นั่นส่องแสงสีนวลกลบแสงสว่างของดวงดาวทั้งหลายไปจนหมดสิ้น  ฟ้ากระจ่างใสไม่มีเมฆหมอกปกคลุม  นี่ผมตัดสินใจผิดไปหรือเปล่านะ  บางทีตอนนั้นถ้าผมพอใจเป็นแค่ดาวดวงเล็ก ๆ ไม่ต้องการเป็นพระจันทร์  ผมจะมีความสุขมากกว่านี้รึเปล่า  จะดีแค่ไหนนะถ้าคนเราย้อนกลับไปแก้ไขความผิดพลาดในอดีตได้  ถ้าเพียงแต่ตอนนั้นผมรู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้………..



       สายลมอุ่นๆ พลิ้ว.มากระทบตัวอย่างแผ่วเบา  ผมส่ายหน้าแรง ๆ สลัดความคิดเรื่องเก่า ๆ ออกจากหัว  เปล่าประโยชน์ที่จะไปคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้ว  คนเราต้องมีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน  ไม่ใช่อดีต  อดีตเป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้ว  ต่อให้พยายามแค่ไหนก็กลับไปแก้ไขมันไม่ได้อยู่ดี



       แต่เราทำได้นี่  เรากลับไปได้!  หลายครั้งเหลือเกินที่ผมบอกกับตัวเองแบบนี้  ใช่แล้ว  ผมกลับไปในอดีตได้  แต่จะกลับไปทำไมเล่า  กลับไปให้ตัวเองได้รับความเจ็บปวดเพิ่มอย่างนั้นหรือ  ผมกลับไปได้  แต่ผมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย  



       ผมหยิบจี้ชิ้นนั้นมากำไว้ในอุ้งมือ  ความอบอุ่นของมันถ่ายทอดเข้าสู่มือผม  ถ้าเพียงแต่คราวนั้นผมไม่ยื่นมือออกไป………….เรื่องทั้งหมดนี่คงไม่เกิดขึ้น







    แฟร์เวล



    ความทรงจำอย่างเดียวที่ผมมีเกี่ยวกับแม่คือ คืนฝนตกคืนนั้น ผู้หญิงคนหนึ่งจูงผมมาทิ้งไว้ที่หน้าประตูบ้านหลังหนึ่ง  แล้วก็บอกให้ผมรออยู่ที่นั่น  ผม รอ ๆๆ แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้กลับมาอีกเลย   คืนนั้นฝนตกหนัก  หนักมาก  จนในที่สุดผมก็ทนตากฝนต่อไปไม่ไหว จึงได้ผลักประตูบ้านหลังนั้นเข้าไป  ที่นั่นคือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า  แม่ทิ้งผมไปเสียแล้ว



    ผู้ดูแลที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้ายอมให้ผมอาศัยอยู่ที่นั่น  แต่มีข้อแม้ว่าผมต้องช่วยเขาทำงานไม่ว่าเขาจะใช้ผมทำอะไรก็ตาม  ฮึ  ช่วยงานงั้นเหรอ ตอนนั้นผมพึ่ง 5 ขวบเองนะ



    คุณคิดว่าเด็ก 5 ขวบทำอะไรได้บ้างกันล่ะ  กิน  นอน ถ่าย เล่นไปวัน ๆ งั้นเหรอ  ไม่ใช่เด็กแบบผมหรอก  ที่นี่น่ะผมต้องลุกตั้งแต่เช้ามืด  มาช่วยแม่ครัวหิ้วตะกร้าไปจ่ายตลาด จากนั้นก็กลับมาช่วย เด็ดผักหั่นหมู ก็จำพวกงานจิปาถะในครัวนั่นแหละ  หลังจากนั้นก็ช่วยยกข้าวไปป้อนเด็ก ๆ  แล้วก็มาซักผ้าอ้อมกองโต  อ้าวกลางวันอีกแล้ว  ก็ต้องช่วยเขาเตรียมอาหารกลางวัน  ยกไปแจกอีก  ดูน้องให้นอนกลางวันให้เรียบร้อย  ฯลฯ  เอาเป็นว่าทำงานแบบหัวไม่ได้วางหางไม่ได้เว้นก็แล้วกัน  เท่าที่แรงเด็ก 5 ขวบจะทำได้



       ตอนอยู่ที่นั่นผมแทบไม่ได้เจอเด็กวัยเดียวกันเลย  น้อง ๆ ที่ผมช่วยเขาเลี้ยงนั้นอายุมากที่สุดก็ แค่ 3 ขวบ เอง  ผมเลยต้องเล่นคนเดียวอยู่บ่อย ๆ จนชิน อีกอย่างเวลาจะเล่นของผมก็ไม่ค่อยมีด้วย  ก็เล่นโดนใช้งานซะขนาดนั้น

    แล้ววันหนึ่งสวรรค์ก็ประทานเธอมาให้กับผม



       ผมยังจำได้ดีถึงวันที่พบเธอครั้งแรก  ตอนนั้นผมอายุประมาณ 7 ขวบ   วันนั้นเป็นวันที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้ายุ่งมาก  ได้ยินมาว่าจะมีคนใหญ่คนโตมาเยี่ยมที่นี่  ทุก ๆ คนเลยวิ่งกันวุ่นเพื่อจัดงานต้อนรับ  ผมเองก็โดนใช้งานเสียจนหัวหมุนไปหมด จนต้องแอบมาหลบเงียบ ๆ ที่มุมโปรดของผม



      มุมนั้นอยู่บริเวณหลังพุ่มไม้ ในบ้านหลังใหญ่ที่อยู่ติดกับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า  ผมเจอที่นี่โดยบังเอิญตอนมุดรั้วเข้ามาเก็บลูกบอล   ด้านหลังเป็นกำแพงอิฐเก่า ๆ  มีต้นไม้ต้นเบ้อเร่อขึ้นอยู่บริเวณนั้นด้วย ทำให้มุมนั้นสงบ  ร่มรื่น  ที่สำคัญปลอดภัยจากสายตาของคนที่นี่เพราะคงไม่มีใครบ้ามุดพุ่มไม้เข้ามาหาผมหรอก  จริงมั้ย

    ผมหาหมอนขาด ๆ 2-3 ใบ และเสื่อ เก่า ๆมาปูไว้ด้วย เวลาผมเบื่อหนัก ๆก็จะมาหลบที่นี่  ยังไม่มีใครหาผมเจอซักที  นอกจาก  เธอ………..



    \"มาทำอะไรที่นี่น่ะ\"  เสียงเล็ก ๆ เสียงหนึ่งปลุกผมให้ตื่นจากความฝันอันแสนสุข  ผมลืมตาขึ้นมอง  เจ้าของเสียงเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ  ใส่ชุดที่เมื่อไม่นานมานี้คงเป็นสีขาว  แต่ตอนนี้มอมดำไปด้วยขี้ฝุ่น  หน้าตาน่าเอ็นดู กำลังมองผมด้วยดวงตากลมโตใสแจ๋ว



    \"มาทำอะไรที่นี่น่ะ\"  เด็กคนนั้นถามอีกซ้ำครั้งหนึ่ง  



    \"จะมาทำอะไรก็ไม่เห็นเกี่ยวกับเธอนี่นา \"  ผมตอบไป  ไม่ค่อยสบอารมณ์นักที่โดนปลุก  \"ไม่รู้รึไงว่ามันเสียมรรยาทที่มารบกวนคนอื่นเขาตอนนอนน่ะ\"



    \"แล้วคนที่บุกรุกเข้ามานอนในบ้านของคนอี่นน่ะ  ไม่เสียมรรยาทเหรอ \" อีกฝ่ายเถียงตอบมา



    \" หือ  ที่นี่บ้านเธอหรอกเหรอ  ผมลุกขึ้น  มองหน้าเธอแบบ อาย ๆ นิดหน่อย  \"งั้นชั้นไปก็ได้ ไม่เห็นอยากอยู่เลย  ผมรีบรวบหมอนกับเสื่อ  เตรียมจะมุดรั้วออกไป



    \" นี่ เดี๋ยวซิ เธอชื่ออะไรน่ะ  มาจากไหนกัน \"  เด็กคนนั้นถามอีก ยังคงจ้องผมอยู่อย่างไม่วางตา  



    \"เธอล่ะ  ชื่ออะไร  มาจากไหน แล้วก็เป็นเจ้าของบ้านนี้จริง ๆ เหรอ \" ผมถามกลับไปบ้าง



    \"ไม่เอา\"   เด็กหญิงส่ายหน้า  \"เราถามก่อนเธอก็ต้องตอบเราก่อนซิ\"



    \" ก็ได้  เราชื่อแฟร์เวล  เธอล่ะ ชื่ออะไร \"

    \" ซาร่า  เธอมาจากสถานเลี้ยงกำพร้าข้าง ๆ ใช่มั้ย แฟร์เวล\"  



    \" ฮื่อ \" ผมตอบไปสั้น ๆ ไม่อยากให้ใครพูดถึงเรื่องนี้นัก  ตอนนั้นผมยังทำใจไม่ค่อยได้



    \"ที่นั่นเป็นยังไงบ้างล่ะ\"  เด็กคนนั้นซักมาอีก  ดูช่างอยากรู้อยากเห็นเสียจริง



    \"ไม่ดี \" ผมตอบ  พยายามใส่ความรำคาญลงไปในน้ำเสียง  \"เธอนี่พูดมากจังนะ  ไม่เบื่อมั่งหรือไง



    \"ไม่ดีเหรอ  แย่จังนะ\"  เธอพูดต่อ  ไม่สนใจความรำคาญในน้ำเสียงผม  เล่าเรื่องที่นั่นให้ชั้นฟังมั่งซิ  แล้วชั้นจะยอมให้เธอมาที่นี่นะ แถมจะเลี้ยงขนมเธอด้วย\"



    \"จริงเหรอ\"  ผมตาลุก  \"งั้นก็เอาซิ \" ผมวางเสื่อและหมอนลงกับพื้น  \"แต่ว่าวันนี้ชั้นต้องไปแล้ว  เจอกันพรุ่งนี้ตอนบ่าย ๆนะ\"

    \"ฮื่อ  แล้วเจอกันนะ\" เธอตอบผมพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง  ก่อนจะมุดพุ่มไม้หายไป



          นั่นเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างผมกับซาร่า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×