ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เอมิน่า (The Indigo Sky)

    ลำดับตอนที่ #1 : สู่ห้องเรียน B-2

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 15
      0
      8 พ.ย. 46

    เอมิน่า (The Indigo Sky)



    แด่... โมคุง

    เพื่อ... ไอจัง

    สำหรับ... โบโบ้

    ถึง... เมย์เม่

    ให้... อั่งเปา




    จาก... นีโอ

    ... ถ้าไม่มีพวกนาย 5 คน เอมิน่าคงออกมาเป็นอย่างนี้ไม่ได้ ขอบคุณมากๆนะ...





    บทที่ ๑ สู่ห้องเรียน B-2





    “ฮัด . . ชิ้ววว!” เสียงจามของเด็กหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นกลบเสียงของเพื่อนๆ ของเขาที่พูดคุยกันอยู่บนโต๊ะของหินอ่อน ทำให้เพื่อนของเขาอีกสี่คนหันมามองต้นเสียง ด้วยรอยยิ้มน้อยๆ





    “สงสัยว่าซันจะเป็นหวัดนะ” เพื่อนสาวของเขาหัวเราะร่า ทันทีที่พูดจบ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มซึ่งเป็นสีเดียวกับเส้นผมของเธอ ก็มองไปที่คนที่เธอพูดถึง





    “โธ่! เพลินอย่าว่ากันอย่างนั้นสิ” เด็กหนุ่มคนที่ถูกเพื่อนของตนหัวเราะใส่ ยิ้มออกมาเล็กน้อย





    ฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ลมหนาวพัดเข้ามาในโรงเรียนมัธยม Saint Amina อีกครั้ง ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งที่อยู่หลังตึกอาคารเรียน กลุ่มนักเรียนชั้นมัธยม 4 ชายหญิงกำลังนั่งพูดคุยกันตามปกติเป็นประจำ เหมือนกับที่พวกเขาทำกันในภาคเรียนก่อนๆ ที่เพิ่งจะผ่านพ้นไป . . . แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าทำให้พวกเขาทั้งห้า อารมณ์ดีเป็นพิเศษ อีกทั้งวันนี้ยังเป็นวันเปิดภาคเรียนวันแรกของภาคเรียนที่ 2 อีกด้วย ทำให้พวกเขาไม่ต้องมาเสียเวลาโทรศัพท์หากัน ซึ่งเป็นการเสียค่าใช้จ่ายโดยสิ้นเปลืองอย่างมาก เพราะพวกเขาคุยกันเป็นชั่วโมง





    “วันนี้อากาศหนาวเป็นพิเศษเลยเนาะ ชั้นไม่ได้เตรียมเสื้อกันหนาวมาด้วยสิ ต้องแย่แน่ๆ เลย” เด็กสาวผมบลอนซ์ยาวประบ่าที่รวบผมสูงไว้ด้วยโบว์สีกรมท่าอีกคนในกลุ่มพูดขึ้นมา เพราะรู้สึกถึงลมเย็นๆ ที่พัดมาปะทะใบหน้าของเธอ





    “เอาเสื้อกันหนาวของชั้นไปใช้แทนก่อนสิ” เด็กหนุ่มคนที่ไม่ใช่ซันเอ่ยขึ้นมา และถอดเสื้อสเวทเตอร์ของตนให้เพื่อนสาวของเขาคนนั้น ดวงตาสีน้ำเงินเข้มของเขามองใบหน้าที่งุนงงของเด็กสาวคนที่ได้รับเสื้อสเวทเตอร์ของตนมาใส่ด้วยสายตาที่เอาจริงเอาจัง





    “ชั้นก็เพิ่งเคยเห็นเหมือนกันนะว่าคนอย่างนายมิกซ์ก็มีน้ำใจกับเขาเหมือนกัน” เพลินพูดขึ้น “หรือว่า . . . นายจะแอบชอบฟ้า ฮึ?” เมื่อเพลินพูดจบ มิกซ์ก็ก้มหน้าของตนที่จู่ๆ ก็แดงผาดขึ้นมาเฉยๆ ลงไปมองใต้โต๊ะหินอ่อน





    “เอาล่ะๆ ชั้นว่าเราเปลี่ยนเรื่องคุยกันดีกว่านะ” เด็กสาวผมดำสนิทที่นั่งเงียบมาตลอดการสนทนาพูดตัดบทอย่างรวดเร็ว เพราะเธอสังเกตเห็นว่าเพื่อนของเธอนั้นแก้มแดงเป็นพิเศษเพราะความอาย





    “ยังไม่ทันอะไรเลยจะเปลี่ยนเรื่องคุยซะแล้วหรอ มิลล์” เพลินขมวดคิ้วใส่





    “เหอะน่า ก็ชั้นอยากเปลี่ยนนิ่” มิลล์พูดให้คนอื่นมาสนใจเธอมากที่สุด เพราะไม่อยากให้ใครสังเกตเห็นมิกซ์





    “ว่าแต่ นี่มันจะแปดโมงอยู่แล้วนะ เจ้านั่นยังไม่มาเลย” ซันพูดขึ้น เพื่อให้เพลินหยุดพูด





    “ใช่ๆ ชั้นก็ว่าอย่างนั้น นายนั่นน่ะสายประจำ” ฟ้าพูดบ้าง





    แต่ไม่ทันไรที่ฟ้าพูดจบ เสียงระฆังก็ดังขึ้นเป็นเวลาว่า ให้นักเรียนทุกคนเข้าเรียนได้แล้ว





    เด็กนักเรียนทั้งห้าคนจึงรีบเก็บของที่เกลื่อนกลาดเต็มโต๊ะหินอ่อนลงในกระเป๋าให้หมด โดยเฉพาะมิกซ์ที่เป็นคนชอบอ่านหนังสือเป็นพิเศษ ต้องรีบคว้าหนังสือเรียนเกือบจะทุกวิชาของเขาที่วางอยู่เต็มโต๊ะ ใส่กระเป๋าเป้อย่างรวดเร็ว





    ในขณะที่นักเรียนชายหญิงทั้งห้าคนกำลังจะเดินออกไปจากสถานที่แห่งนั้นเพื่อขึ้นไปห้องเรียนของตน ก็มีเสียงๆ หนึ่งหยุดพวกเขาเอาไว้





    “เฮ้ย! รอด้วยยย!” เด็กหนุ่มผมสีเหลืองประกายทอง ตะโกนด้วยเสียงที่ดังพอสมควร พอที่จะให้เพื่อนๆ ทั้งห้าคนของเขาได้ยิน





    “ไอ้พัช!” เพื่อนๆ ทั้งห้าคนของเขาพูดขึ้นพร้อมกัน ในขณะที่เด็กหนุ่มคนดังกล่าวกำลังวิ่งเขามาหา





    “นี่นาย . . . รู้มั้ยว่าทำตัวให้เพื่อนต้องเป็นห่วงอีกแล้วนะ ชอบมาสายเป็นประจำ แค่นายไม่มาตอนเช้าชั้นก็เบื่อจะตายอยู่แล้ว” เพลินใช้นิ้วของเธอบีบที่ต้นแขนของพัชเบาๆ แต่มันก็ทำให้เจ็บพอสมควร





    “โอ๊ย! โอ๊ย! เธอจะทำอะไรน่ะเพลิน ชั้นเจ็บนะ!” พัชขมวดคิ้วใส่เพื่อนสาวของเขา





    “แล้วใครบอกว่าไม่เจ็บล่ะ” เพลินทำสีหน้ายิ้มกริ่มๆ แล้วมองไปที่แก้มสีชมพูนิดๆ ของพัช แล้วเดินจ้ำนำหน้าเพื่อนๆ ของเธออีกห้าคนไปโดยเร็ว





    <<<<<< : : --@-- : : >>>>>>





    “แล้วห้องเรียนของเราอยู่ไหนหรอ?” พัชพูดขึ้นขณะที่กำลังเดินขึ้นบันไดมากับเพื่อนๆ





    “ก็ชั้นสาม ห้อง B-2” มิกซ์ตอบทันที เพราะเขาสนใจเรื่องประเภทนี้อยู่แล้ว





    นักเรียนทั้งห้าคนจึงมุ่งหน้าไปยังห้องดังกล่าว เมื่อถึงที่หมายแล้ว มือทั้งสองข้างของมิลล์ก็คว้าไปที่บานเลื่อนประตู เพื่อจุดประสงค์ว่าจะเปิดมันออก





    แต่ . . .





    “ทำไมมันเปิดไม่ออกนะ!” มิลล์กล่าวด้วยเสียงที่หงุดหงิด “หนักเป็นบ้าเลย คงไม่มีใครเปิดมันได้หรอก เพราะขนาดชั้นเป็นถึงนักกีฬาของโรงเรียนยังเปิดมันไม่ได้เลย”





    ทันใดนั้นซันก็เดินเข้ามาเบียดมิลล์ออกไป แล้วใช้มือเปิดประตูอย่างง่ายดาย ซึ่งมันก็ไม่ใช่งานหนักหนาสาหัสอะไรอยู่แล้ว สำหรับนักกีฬาอีกคนของโรงเรียนที่เก่งไปซะทุกด้านอย่างซันคนนี้





    “อะ เชิญคุณหญิงมิลล์ เสด็จเข้าไปก่อนเป็นคนแรกเลยนะคร้าบบ” ซันพูดประชดมิลล์ โดยทำสีหน้าล้อเลียนประกอบ





    “จ้า!” มิลล์ตะคอกใส่ซันเพราะความฉุนและเดินตึงตังเขาไปในห้อง โดยมีพัชยืนขำอยู่ด้านหลังโดยที่มิลล์ไม่เห็น แต่ถ้ามิลล์สังเกตเห็นละก็ พัชคงจะตายแน่





    เมื่อทั้งซันนั่งลงที่โต๊ะ โดยมีพัชนั่งติดริมหน้าต่าง ส่วนซันนั่งถัดออกมา นักเรียนหญิงคนอื่นๆ ที่อยู่ในห้องก็ต่างรีบคว้ากระเป๋าของตนมาอย่างเร็วที่สุดเท่าที่พวกเธอจะทำได้ เพื่อจองที่นั่งที่สามารถจะนั่งติดกับนักเรียนชายสองคนนี้ แต่ก่อนที่เธอพวกนั้นจะทำสำเร็จ เพื่อนๆ ของซันก็แย่งที่นั่งดังกล่าวไว้ได้ทันก่อนแล้ว





    “เสียใจด้วยนะ!” เพลินแลบลิ้นน้อยๆ ใส่เพื่อนสาวคนหนึ่งที่ทำท่าไม่พอใจใส่เธอ เพราะไม่ได้นั่งใกล้ซัน





    มันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วที่ซันและพัชจะมีคนรักคนชอบเยอะ เพราะเขาทั้งสองหน้าตาดี หล่อเหลาเอาการ พัชนั้นมีผิวขาวออกชมพูนิดๆ ดูสดใส ส่วนซันนั้นผิวสีเกือบแทนดูเป็นผู้ชายที่เข้มใช้ได้ เพื่อนๆ ผู้หญิงในห้องของเขาเอง ก็ยังชื่นชอบพวกเขาด้วย ยิ่งเวลาที่พัชและซันนั้นออกไปนอกห้องเรียนอุปสรรคมันก็จะเกิดทันที เพราะสายตาแต่ละสายตาของเด็กผู้หญิงในโรงเรียนแห่งนี้ได้แต่มองเขา จนเขาเองนั้นไม่เป็นทำอะไรทั้งสิ้น ได้แต่ต้องคอยระมัดระวังตัวไม่หลุดทำอะไรที่มันบ้าๆ ออกไป





    มิกซ์และเพลินเป็นฝ่ายที่นั่งอยู่ด้านหน้าของซันและพัช โดยมิกซ์มีเหตุผลที่ว่าเขาอยากจะฟังคำพูดทุกคำของอาจารย์ผู้สอนให้ชัดเจนที่สุดเพราะเขาใฝ่ทางด้านการเรียนพอสมควร แต่เพลินมีเหตุผลที่ฟังไม่ค่อยขึ้นคือ เธอไม่อยากนั่งด้านหลังของซันและพัชเพราะกลัวว่าทั้งสองจะแกล้งเธอ จนเธอไม่เป็นอันได้เรียนหนังสือ แต่ที่เธอได้เป็นเจ้าของที่นั่งตรงข้างหน้าซันเพราะฟ้าไม่ต้องการที่จะนั่งข้างๆ มิกซ์ ด้วยเหตุผลอะไรเพื่อนๆ อีกสี่คนก็ไม่ทราบเช่นกัน ส่วนตัวฟ้าเองและมิลล์นั้นก็ได้นั่งข้างหลังของ ซันโดยที่พวกเธอทั้งสองคนไม่บ่นอะไรสักนิด เป็นอันว่าการจัดที่นั่งก็เสร็จเรียบน้อยในที่สุด . . .





    การสอนเริ่มดำเนินขึ้น ซึ่งมันก็เป็นธรรมดาที่เด็กนักเรียนกลุ่มของพัชจะไม่ค่อยสนใจฟังอาจราย์สักเท่าไหร่ ยกเว้นแต่ . . . มิกซ์ . . . เขาได้แต่จดและก็จด ทุกๆ คำพูดที่อาจารย์พูดลงในสมุดโน๊ตของเขาอย่างตั้งใจ พอๆ กับฟ้า แต่ฟ้าก็จดเพียงบางส่วนเท่านั้น ส่วนคนอื่นๆ ก็นั่งทำอะไรไปเรื่อยเปื่อย . . . เพลินนั่งวาดการ์ตูนผู้หญิงลงบนแผนกระดาษสีขาวของเธอไปเรื่อยๆ จนตอนนี้มีแต่ตัวการ์ตูนผู้หญิงท่าทางต่างๆ นับสิบ เต็มหน้ากระดาษไปหมด มิลล์และซันก็ได้แต่นั่งท้าวคาง นั่งอยู่เฉยๆ อย่างนั้น ปล่อยให้คำพูดของอาจารย์ผู้สอนเข้าไปในหู และทะลุออกมาอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจอะไรแม้แต่น้อย ทางด้านของพัชซึ่งนั่งติดกับหน้า ก็หันหน้าออกไปทางหน้าต่าง มองออกไปยังขอบฟ้าอย่างเหม่อลอย . . .





    ในหัวของพัชตอนนี้มีแต่ความว่างเปล่า เขาไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงของอาจารย์ผู้สอน ดวงตาของเขาเริ่มหรี่ลงๆ และในที่สุด ศีรษะเขาก็ฟุบลงไปกองกับโต๊ะเรียนทันที





    เมื่อพัชตื่นขึ้นมาอีกที เขาก็พบว่าตัวเขาเองนั้น กำลังนอนแผ่อยู่บนทุ่งหญ้าสีเขียวขจี ดูไกลลับตามาก เขานอนโดยเงยหน้าดูท้องฟ้าสีฟ้าอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน แต่จู่ๆ ก็มีลางสังหรณ์บางอย่าง ฉุดให้เขาลุกขึ้นมานั่ง . . . เมื่อเขาลุกขึ้นมานั่งแล้ว เขาก็สังเกตเห็นว่า เพื่อนๆ ของเขาทั้งห้าคน กำลังนั่งอยู่รอบๆ ตัวของเขา ทั้งหมดนั้นมีสีหน้าที่ดูกังวลมาก ด้วยสาเหตุอะไรนั้น . . . พัชเองก็ไม่ทราบ





    ไม่นานร่างทั้งห้าของเพื่อนของพัช ก็ค่อยๆ ลอยห่างออกไปจากตัวของพัช เขาพยายามลุกขึ้นเพื่อจะวิ่งตามพวกเขาให้ทันแต่มันก็ไม่เป็นผล เพราะพวกเขาลอยถอยหลังได้เร็วเกินกว่ากำลังการวิ่งของพัชมาก . . . จนในที่สุด พัชก็หมดแรงที่จะวิ่งตามพวกเขาและทิ้งตัวนั่งลงไปบนผืนหญ้าสีเขียวด้วยความล้า . . .





    พัช . . . พัช . . . พัช . . .





    พัชพยายามมองไปรอบๆ เพื่อหาต้นเสียงที่กำลังร้องเรียกเขาอยู่ แต่ก็ไม่พบ . . . เสียงนั้นยังคงดังอยู่เรื่อยๆ





    เสียงเรียกครั้งสุดท้ายกลายเป็นเสียงตะคอกด้วยความโมโหฉุน . . .





    นายพัช!





    พัชสะดุ้งตื่นเพราะเสียงเรียก ดวงตาของเขายังคงสะลึมสะลือ เพราะเพิ่งตื่น ใครคนหนึ่งยืนอยู่ริมโต๊ะของเขา ท่าทางกำลังโกรธจัด เขาพยายามกระพริบตาหลายๆ ครั้งเพื่อให้ภาพชัดเจนมากขึ้น ร่างข้างหน้าเขาทำให้เขาถึงกำลังตกใจสุดขีด . . . อาจารย์ปัฐ!





    “อาจารย์ . . .” พัชพูดด้วยเสียงที่สั่นเล็กน้อยเพราะความกลัว





    “ครูจะตัดคะแนนความประพฤติของเธอในฐานะที่ไม่มีความสนใจในชั่วโมงเรียน” น้ำเสียงของหญิงสาววัยยี่สิบกว่าๆ นั้นฟังดูน่ากลัวจนนักเรียนทั้งห้องต่างเงียบกริบไม่มีใครกล้าปริปากพูดออกมาแม้แต่น้อย





    “แต่อาจารย์คะ . . .” เพลินที่นั่งอยู่ข้างหน้า พยายามพูดแก้ตัวให้พัชแต่ก็ถูกอาจารย์ปัฐพูดกลบไปเสียก่อน





    “ไม่มีคำว่าแต่!” ทันทีที่อาจารย์ปัฐพูดจบ เธอก็เดินกลับไปหน้าชั้นเรียนเพื่อดำเนินการสอนต่อ





    “ทำไมแกไม่พูดเตือนข้าบ้างเลยวะ” พัชหันไปมองหน้าซันด้วยท่าทีที่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก





    “ก็ข้าเรียกแกแล้ว แต่แกไม่ตื่นเองนิ่” ซันทำสีหน้าเรียบๆ





    “แล้วไป . . .” พัชถอนหายใจแรง และหันไปฟังอาจารย์ปัฐซึ่งยืนสอนอยู่ เพราะกลัวว่าจะโดนตัดคะแนนอีก





    หลังเสียงระฆังดังขึ้นเป็นเวลาว่าหมดชั่วโมงวิชาคณิตศาสตร์ของห้องเรียน B-2 แล้ว นักเรียนทุกคนต่างทยอยออกไปข้างนอก เพื่อไปพักรับประทานอาหารกลางวัน





    “นี่ชั้นไม่เคยเห็นนายหลับตอนเรียนเลยนะ แล้วไหนมาหลับได้ล่ะ?” เพลินพูดเรื่องนี้มาตลอดทางที่เดินไปโรงอาหาร จนทุกคนเริ่มที่จะรำคาญเธอแล้ว แต่คงไม่มีใครรู้ว่าเธอเป็นห่วงเพื่อนของเธอมาก





    “ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน . . . แต่ฝันที่ชั้นฝันเมื่อกี้ มันเหมือนกับว่าเป็นลางบอกเหตุอะไรบางอย่าง เดี๋ยวชั้นจะเล่าให้ฟังในโรงอาหารแล้วกัน” พัชพูดเรียบๆ แต่แฝงด้วยความรู้สึกบางอย่างที่อธิบายไม่ถูก





    หลังจากที่ทั้งห้าคนซื้อข้าวกลางวันเสร็จหมดทุกคน และหาโต๊ะที่ใช้สำหรับนั่งทานอาหารเรียบร้อยแล้ว พัชก็ทานข้าวไปพร้อมกับเล่าเรื่องที่เขาประสบเมื่อครู่ ให้ทุกๆ คนฟังอย่างคร่าวๆ





    “ประหลาดเหมือนกันแฮะ ชั้นก็ว่าน่าจะเป็นลางสังหรณ์อะไรบางอย่าง อย่างที่นายว่านั่นล่ะ” ซันพูดขึ้น





    “ว่าแต่มันคืออะไรกัน?” ดวงตาของเพลินนั้นจับจ้องไปที่ใบหน้าไร้สิวเสี่ยนของพัช





    “ถามชั้นแล้วชั้นจะไปถามใครล่ะ” พัชพูดตอบเพลินไปด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มนุ่ม





    หลังจากนั้นพวกเขาก็ลงมือทานข้าวให้เรียบร้อย





    ขณะทานข้าว อย่างว่านักเรียนคนอื่นก็ต้องมาทานข้าวเหมือนพวกเขาเช่นกัน แต่ . . . จะมีใครรู้บางไหมว่า นักเรียนหญิงม. 4 ห้องC-1 คนหนึ่งที่พัชแอบชอบอยู่ มานั่งทานข้าวข้างๆ โต๊ะของเขา





    ตั้งแต่ที่เด็กผู้หญิงคนนั้นมานั่งข้างๆ โต๊ะของพัช เขาไม่เป็นอันทำอะไรได้แต่นั่งมองเด็กหญิงคนนั้นอยู่ห่างๆ เงียบๆ คนเดียว โดยที่เพื่อนๆ อีกสี่คนไม่ได้ใส่ใจอะไรเขาเลย เขาจึงนั่งดูเด็กหญิงคนนั้น ได้นานตามต้องการ





    แต่จู่ๆ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเพลินก็มองไปที่พัช เธอสังเกตเห็นว่าใจของเพื่อนของเธอไม่ได้อยู่ที่โต๊ะอีกแล้ว แต่มันกำลังจับจ้องอยู่กับโต๊ะข้างเคียง เธอจึงมองตามสายตาของเพื่อนหนุ่มคนนั้นของเธอ . . . เธอรู้แล้วว่าสายตาคู่นั้นกำลังมองเด็กสาวม. 4 คนนั้นอยู่ เหมือนกับที่มิกซ์มองฟ้านั่นเอง





    “นี่พัช . . .” เพลินเรียก แต่พัชก็ยังคงไม่ตอบกลับ เขากลับเหม่อลอยมองเด็กหญิงคนนั้นต่อไป





    “นี่พัช!” เพลินแผดเสียงลั่นจนผู้คนในโรงอาหารจับจ้องมาที่โต๊ะของเธอ





    “เอ่อ . . . ไม่มีอะไรครับ เชิญทานข้าวต่อไปเถอะครับ” ซันพูดกลบเกลื่อนผู้คนรอบกายที่จ้องมาที่โต๊ะของเขา แล้วหันมาว่าเพลินเบาๆ “นี่เธอจะบ้ารึไง นี่มันโรงอาหารนะ ไม่ใช่ตลาด เงียบๆ หน่อยจะได้มั้ย?”





    “แต่นายดูพัชเขาสิ . . .” ซันมองตามอย่างที่เพลินบอก





    “ปล่อยเขาไปเถอะน่า . . . เขาจะทำอะไรก็เรื่องของเขานะ” ซันบอกอย่างเรียบๆ





    “แต่ . . .!”





    “เหอะน่านะ เพลิน เชื่อชั้นเถอะนะ” ซันขอร้อง





    เพลินเงียบไปสักพัก แต่เธอก็ไม่ยอมตามที่ซันบอกอย่างเด็ดขาด เธอลุกขึ้นยืนแล้วเอามือกระแทกโต๊ะอย่างแรงจนทำให้พัชสะดุ้งแล้วหันมามองเธอ แต่ก่อนที่เขาจะซักถามอะไร เพลินก็เดินจากเขาไปก่อนเสียแล้ว





    “เพลิน! รอชั้นด้วยสิ” มิลล์รีบตะโกนไล่หลังเพลินแล้วเดินจากไป





    “อ้าว! ไปกันหมดเลย แล้วชั้นจะอยู่กับใครล่ะ เอ่อ . . .ชั้นขอตัวก่อนนะ บายจ้ะ” ฟ้าพูดกับพัชและซันที่ยังคงมีสีหน้างุนงงว่ามันเกิดอะไรขึ้น และรีบวิ่งตามเพื่อนของเธอทั้งสองซึ่งตอนนี้เดินไปอยู่หน้าทางออกของโรงอาหารแล้ว





    “นี่นาย ยัยนั่นเป็นอะไรน่ะ?” พัชถามเสียงฉงน





    “ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน” ซันตอบอย่างหมดอารมณ์





    แต่เรื่องนี้ มิกซ์เหมือนกับว่าจะไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นเลย เพราะตั้งแต่เขาทานข้าวเสร็จ เขาก็หยิบหนังสือออกมาอ่านโดยไม่สนใจผู้คนรอบข้างแม้แต่น้อย มีเพียงแต่ฟ้าที่เขาแอบมองเธอเป็นบางครั้งบางคราว





    ทั้งพัชและซัน ได้แต่มองเพื่อนๆ สามคนของพวกเขาที่เดินจากไป ทิ้งให้เขาทั้งสองนั่งงุนงงอยู่อย่างนั้นราวกับรูปปั้นหินอยู่อย่างนั้น . . .





    <<<<<< : : --@-- : : >>>>>>





    “นี่มิลล์ เธอว่าพัชเค้าเป็นคนยังไงหรอ?” เพลินพูดขึ้น เมื่อเธอและมิลล์เดินออกมาจากโรงอาหารเรียบร้อยแล้ว





    “ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกันน่ะ แต่ชั้นว่าเค้าก็ดีออกนะ นิสัยดีใช้ได้เลยล่ะ แต่นายนั่นบางครั้งก็ชอบทำตัวขรึมๆ เหมือนกันนะ ใครอยู่กับเขาตอนที่มีอารมรณ์อย่างนั้นนะ คงเบื่อตายแน่เลย” มิลล์หันมามองหน้าเพลินและถามขึ้นบ้างว่า “แล้วเธอถามทำไมหรอ?”





    “อ๋อ! เปล่าไม่มีอะไรหรอก” เพลินตอบปัดๆ เพื่อแก้ตัวไป





    ทางด้านของพัชเองนั้น ก็ยังคงนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น โดยพัชเองก็ไม่พูดอะไรกับมิกซ์และซันเลยแม้แต่น้อย ตั้งแต่ที่เห็นเพื่อนๆ ทั้งสามของเขาวิ่งออกไปนอกโรงอาหาร





    “แล้วเธอว่าฉันควรกลับเข้าไปในโรงอาหารอีกรึเปล่า?” เพลินพูดต่อ





    “ก็แล้วแต่เธอนะ ถ้าเธอคิดว่าพัชเขาผิด เธอก็ไม่ต้องกลับไป แต่ถ้าเธอคิดว่าเธอเป็นคนผิด ชั้นว่าเธอรีบๆ กลับไปด่วนเลยจะดีกว่า”





    หลังจากที่เพลินเงียบไปครู่หนึ่ง เธอจึงพูดออกมาว่า





    “งั้นเรากลับไปกันเถอะ!” เพลินไม่รอช้าแล้วรีบดึงแขนเพื่อนสาวของเธอ เพื่อพาเดินย้อนกลับไป





    “อืมม์ ชั้นว่าเธอคิดถูกแล้วล่ะเพลิน” มิลล์คิดในใจ ในขณะที่ถูกเพลินลากแขนไป





    ฟ้าเองที่วิ่งตามเพื่อนของเธอสองคนไม่ทัน จึงหวนกลับมาที่โต๊ะที่พวกพัชนั่งอยู่อีกครั้ง





    “เฮ้อ! . . . ชั้นคลาดกับเพลินเค้าจนได้” ฟ้านั่งลงพร้อมกับหายใจยาว





    “ก็เอ๋อๆ อย่างเธอ วิ่งตามใครทันซะที่ไหนล่ะ” พัชมองหน้าขาวใส ที่ดูน่ารักของเพื่อนของเขา ด้วยสายตาที่ก่อให้ฟ้าหงุดหงิดทันที ที่สังเกตเห็น





    “ไอ้ . . . ไอ้พัชบ้า! มาว่าชั้นอย่างนั้นได้ไงฮะ!?” ฟ้าเกือบจะพูดไม่ออก เพราะความโมโหฉุนระคนขำเล็กน้อย





    “แล้วเรื่องอะไรชั้นจะว่าเธอไม่ได้ โธ่! ฟ้ายอมรับความ . . .” พัชถึงกับต้องหยุดพูดเมื่อสังเกตเห็นแววตาของมิกซ์ที่ละจากหนังสือมามองที่เขา ซึ่งสายตาแบบนั้น ดูน่ากลัวพิลึกๆ เพราะความโมโหที่พัชเองไปว่าฟ้า โดยมีซันนั่งหัวเราะเพราะความสะใจอยู่ข้างๆ มิกซ์





    “เอ่อ . . . ชั้นขอโทษก็ได้”





    “ทำไมนายจะต้องมาขอโทษชั้นด้วยล่ะ คนอย่างนายไม่เคยขอโทษใครอยู่แล้วนิ่!?” ฟ้าทำสีหน้าฉงน





    “ก็ชั้นอยากขอโทษนิ่ แล้วมันเรื่องอะไรของเธอด้วยที่จะบอกไม่ให้ชั้นขอโทษเธอ!” ทันใดนั้นพัชก็เห็นสายตาอาฆาตของมิกซ์ที่มองมาที่เขาอีกครั้ง เขาจึงต้องรีบเปลี่ยนคำพูดทันที “รับมันไว้เถอะน่า อย่าเรื่องมากได้มั้ย?”





    หลังจากที่เหตุการณ์เมื่อครู่สิ้นสุดลงไป ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว ก็เริ่มเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง จนในที่สุดเมื่อร่างของเด็กสาวสองคนปรากฏขึ้นที่มุมโต๊ะ ทำให้ความเงียบดังกล่าวถูกทำลายลงในที่สุด . . .







    -(ติดตามอ่านตอนต่อไปครับ)-

    ^^\"หมูแฮม^^\"
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×