ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : แรกเริ่มเดิมที
หนึ่ง : เริ่มต้นด้วยความยุ่งเหยิง
หลังจากที่ผ่านพ้นการเรียนชั้น ป.6 มาแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่นักเรียนรุ่นนี้จะก้าวขึ้นมาเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อย่างเต็มตัว คนที่ผ่านเข้ามาก็มีหลายประเภท สอบเข้ามาบ้าง โควต้าจากโรงเรียนเก่าบ้าง เด็กฝากบ้าง ความสามารถพิเศษบ้าง สำนักพระราชวังบ้าง ฯลฯ ในส่วนของโควต้านั้นต้องเป็นนักเรียนที่เรียนเก่งจริงๆ ถึงจะได้คัดเลือกมา วีกับแพรวก็เป็น 1 ในนั้น มากที่สุดก็คงจะเป็นสอบเข้ามา ซึ่งแก้วเป็นคนที่สอบผ่าน
    ชื่อของทั้ง 3 คนที่ปรากฏนี้ เป็นบุคคลที่มีความสำคัญมาก จะเล่าประวัติคร่าวๆ ของแต่ละคนให้ฟังละกัน
    วี...วีรธิดา  วรศรัณย์ อายุ 13 ปี (ม.1) หนัก 48 กก. สูง 168 ซม. เกิดวันที่ 19 เมษายน พ.ศ.2531 ชอบสีน้ำเงิน เขียว...รู้จักกับแพรวเพราะเคยอยู่โรงเรียนเดียวกันตอนประถม แต่ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกัน ความสามารถพิเศษคือเล่นวอลเล่ย์บอล (เก่งมาก) เทควันโด้ (สายดำ) เรียนตอนประถมได้เกรด 4 ทุกวิชามาตลอด สอบไม่เคยได้เกินที่ 5 ตั้งแต่ ป.1 ยัน ป.6 เป็นคนอารมณ์ดี เฮฮา ขี้สงสาร ใจอ่อน เข้ากับคนได้ง่าย รักเพื่อน แต่ถ้าเกลียดใครล่ะก็เกลียดเข้ากระดูกดำเลยแหละ
    แพรว...สะคราญกมล  อุทัยศรี อายุ 13 ปี (ม.1) หนัก 43 กก. สูง 164 ซม. เกิดวันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2531 ชอบสีชมพู เหลือง...รู้จักกับวีเพราะเคยเห็นหน้ากันตอนอยู่โรงเรียนเก่า แต่ไม่ได้สนิทกัน ความสามารถพิเศษคือ เรียนเก่งมากถึงมากที่สุด สอบชิงทุนติดทุกปี ด้านกีฬาเก่งแบดมินตันกับว่ายน้ำ นิสัยดี เป็นคนน่ารัก ออกจะเอาแต่ใจตัวเองบ้างนิดหน่อย ขี้แงพอสมควร แต่พอได้มาสนิทกับวีก็ดีขึ้น จริงๆ แล้วไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร
    แก้ว...จรีนา  สิริสิงห อายุ 13 ปี (ม.1) หนัก 45 กก. สูง 165 ซม. เกิดวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2531 เป็นลูกครึ่ง (ไทย-สเปน) หน้าตาออกจะอินเตอร์ฯ หน่อยๆ ชอบสีเทา ฟ้า...ไม่รู้จักทั้งวีและแพรวเพราะมาจากโรงเรียนอื่นและใช้วิธีสอบเข้ามา มีเพื่อนจากโรงเรียนเก่าตามมาเยอะ เลยตั้งเป็นแก๊งขึ้นมา มีสมาชิกมากมายนับไม่ถ้วน แก้วอยู่ในระดับหัวหน้าๆ เลยทีเดียว ในตอนแรกจะไม่ถูกกับวีและแพรว โดยเฉพาะกับวี เจอหน้าต้องทะเลาะกันตลอด ที่จริงเป็นคนดี มีเหตุผล แต่ขี้งอน จริงจังกับบางเรื่อง เป็นคนสนุกสนาน รักเพื่อนในกลุ่มมาก แต่ถ้าคนไม่รู้จักอย่าหวังเลยว่าจะได้คุยกับแก้วง่ายๆ เพราะแรกๆ นั้นแก้วหยิ่งพอสมควร การเรียนดี ความสามารถพิเศษคือ เล่นดนตรีสากลเป็นทุกอย่าง แต่เจ้าตัวไม่เปิดเผยให้ใครฟัง เพราะเบื่อเนื่องจากถูกยัดเยียดให้เรียนตั้งแต่ตอนเด็กๆ
    เมื่อได้รู้ประวัติทั้ง 3 คนไปแล้วมากพอสมควร ก็เตรียมเข้าเรื่องได้เลยนะ
    วันนี้เป็นวันเปิดภาคเรียนวันแรกของโรงเรียนนี้ สำหรับรุ่นน้อง ม.1 อาจจะดูใหม่หน่อย ไม่ค่อยคุ้นกับสถานที่ แต่ก็พอเดาๆ ทางไปได้ เพราะโรงเรียนก็ไม่ได้ลึกลับซับซ้อนอะไรนัก วันแรกนี้ อ. แต่ละวิชายังไม่สอนอะไร เพียงแค่แนะนำสิ่งใหม่ๆ ให้นักเรียนได้รู้จักก่อน อ. บางคนก็ให้นักเรียนแต่ละคนแนะนำตัวเอง สำหรับการจัดที่นั่งนั้น ก็นั่งกันตามใจชอบ ใครจะนั่งกับใครก็นั่ง แน่นอนอยู่แล้วว่าแก้วจะต้องจับกลุ่มกับเพื่อนเก่านั่งเป็นกลุ่มเป็นก้อนอยู่หลังห้องทั้งแถบ ส่วนวีกับแพรวพอจะเคยเห็นหน้ากันบ้างก็เลยตกลงนั่งด้วยกัน แล้วทำความรู้จักกัน เหมือนตั้งต้นเริ่มจากศูนย์ใหม่ เพราะอยู่โรงเรียนเก่าไม่เคยพูดคุยกันเลย
    “หวัดดี...เราชื่อแพรวนะ”
    “หวัดดี...เราชื่อวี มาจากที่เดียวกันใช่มั้ยเนี่ย”
    “ใช่ เราเคยเห็นหน้าเธอ”
    “เราก็เหมือนกัน”
    “มาเป็นเพื่อนกันเถอะนะ”
    “ได้สิ...ไม่มีปัญหา”
    ส่วนทางด้านแก้ว เป็นกลุ่มแก๊งนักเรียนหญิงที่มีอิทธิพลมาก เรียกได้ว่าเกือบทุกห้องที่รู้จักชื่อแก้วกันไปทั่ว แต่แก้วไม่ได้ทำตัวซ่า รึทำผิดกฎของโรงเรียนเลย ก็จะมีแต่เพื่อนๆ ในกลุ่มที่ชอบยุให้แก้วแหกกฎบ่อยๆ แต่แก้วก็เลี่ยงเสมอ ไม่ยอมทำตาม
    “กูบอกมึงแล้วไงไอ้แก้ว ว่าให้พับกระโปรงขึ้นมา แล้วก็ดึงถุงเท้าขึ้นมาสูงๆ แค่นี้ทำไม่ได้รึไงวะ”
    “แกไม่ใช่แม่ฉันนี่ ทำไมฉันต้องเชื่อแกด้วย อีกอย่างทำอย่างนั้นฉันไม่ชอบนี่หว่า”
    “วะ ไอ้นี่ อยู่กลุ่มเดียวกันรึเปล่าวะเนี่ย”
    “ใช่น่ะใช่ ฉันอยู่กลุ่มเดียวกับแก แต่ฉันไม่อยากทำตามว่ะ แค่เรื่องผมอย่างเดียวก็พอแล้ว”
    “เออๆ เรื่องของมึงเหอะ กูไม่อยากพูดแล้ว เปลืองน้ำลายชิบเป๋ง ไม่เคยจะฟังเล้ย”
“คิดได้อย่างนี้ตั้งนานก็ดี”
“เออ...กูขออีกเรื่องเถอะ พูดมึงกูไม่ได้เหรอวะ แกกับฉันมันดูเพราะเกินไป”
“ยุ่งกับฉันอีกแล้ว ฉันให้แกเลิกพูดกูมึงจะได้มั้ย”
“กูไม่เถียงแล้วก็ได้วะ พูดกับมึงทีไร กูปวดหัวทุกที”
“ช่วยไม่ได้ ไปเถอะไปนั่งได้แล้ว เรียกไอ้พวกนั้นมาด้วย”
ไอ้พวกนั้นที่แก้วหมายถึงก็คือคนในกลุ่ม นับแค่ในห้องนี้ก็มีทั้งหมด 9 คนรวมแก้วด้วย เกินครึ่งของผู้หญิงในห้องซะอีก คนในกลุ่มของแก้วรักกันมาก เรียกได้ว่าไม่ทิ้งกัน แต่ทุกคนก็ล้วนแสบๆ ซ่าๆ กันทั้งนั้น ตั้งแต่หัวจรดเท้านี่ผิดระเบียบของโรงเรียนตลอด แต่โรงเรียนนี้ไม่ได้เข้มงวดเรื่องผม นักเรียนจะทำยังไงกับผมก็ได้ แต่อย่างอื่นก็มีทำโทษเหมือนกัน เพื่อนแก้วเข้าห้องปกครองกันบ่อยๆ ที่โรงเรียนเก่า เมื่อถึงเวลาพักกลางวัน กลุ่มแก้วทั้งหมดก็เดินไปกินข้าวด้วยกัน บางวันก็มีเพื่อนเก่าห้องอื่นมาร่วมแจมด้วย ทำให้ดูเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดของโรงเรียน ไม่มีใครกล้าหือด้วย ทำให้แก้วกลายเป็นคนที่ popular มากใน ม.1 และเกือบทั้ง ม.ต้น พวกผู้ชายที่ใจถึงก็พากันมาจีบแก้วมากมาย ถึงแม้ว่าวันนี้จะเป็นวันแรกของการเปิดเรียนก็ตาม หลายคนก็รู้จักแก้วซะแล้ว แต่แก้วไม่สนใจใครซักคน ส่วนวีนั้นก็ไปกินข้าวกับแพรวกันแค่ 2 คน ในความคิดของวีนั้นดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยชอบแก้วเอาซะเลย เพราะอยู่ในกลุ่มคนไม่ธรรมดา แต่ก็ไม่ได้มีอคติอะไรมากมาย
“กินข้าวอิ่มแล้วไปไหนกันต่อดีล่ะแพรว”
“เราว่าไปเรียนต่อดีกว่า เดี๋ยวจะหาห้องไม่เจอ”
“ต่อไปเรียนอะไรล่ะ”
“เดี๋ยวดูตารางสอนก่อนแป๊ปนึงนะ อ้อ...เรียนวิทย์น่ะ”
“วิทย์...แล้วห้องมันอยู่ไหนล่ะเนี่ย”
“ไม่รู้สิ เค้าเขียนว่าห้อง ว.8”
“เดินหาเดี๋ยวก็คงจะเจอเองนั่นแหละ ไปกันเถอะ อิ่มแล้ว”
มันไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิดซะแล้ว ที่จะหาห้องวิทย์เจอ วีลองถามรุ่นพี่ดู เค้าก็แค่ชี้ๆ ทางให้ แต่วีก็ไม่รู้เรื่องอยู่ดี วีเริ่มรู้สึกหงุดหงิดเพราะใกล้เข้าเวลาเรียนแล้ว จึงรีบเดินอย่างไม่ระวัง เลยไปชนกับแก้วเข้าอย่างแรง ข้าวของๆ แก้วก็ตกพื้นหมด วีรีบมากจนไม่ได้สนใจก็เลยพูดไปแค่คำขอโทษอย่างรีบๆ
“โทษทีๆ”
แล้ววีก็เดินไปเฉยๆ โดยที่ไม่รู้ว่าชนใคร แก้วก็เลยอารมณ์เสีย กะว่าจะด่าวีอยู่แล้ว แต่วีเดินไปซะก่อน จึงได้แต่พูดด่าวีอยู่คนเดียว
“เฮ้ย อะไรวะ ชนกันแล้วเดินหนีไปเฉยเลย ไม่ช่วยกันซักนิด แกรู้รึเปล่าวะไอ้ฝน ว่าไอ้คนที่มันชนฉันเมื่อกี้เป็นใคร”
“รู้สิ ก็คนที่ชื่อวีรธิดา ห้องเราไง เห็นเค้าบอกว่าเรียนเก่งนะ”
“เรียนเก่งแต่จิตทรามก็ไม่ไหวว่ะ”
“เค้าอาจจะไม่ได้ตั้งใจก็ได้มั้ง”
“แม่ง อย่าให้ฉันด่าถึงโคตรเหง้านะโว้ย รู้จักไอ้แก้วน้อยไปซะแล้ว”
“เถอะน่าๆ ปล่อยวางซะบ้างเถอะ มึงเนี่ย”
“เออๆ รีบไปกันเถอะ เกินเวลามามากแล้ว”
ในที่สุดก็ผ่านคาบวิทย์ไปแล้วครึ่งชั่วโมง พวกนักเรียนเพิ่งจะมาถึงกัน เพราะเป็นห้องที่หาเจอยากมาก
“เฮ่อ เจอซักที แม่งจะสร้างห้องไว้เรียนรึทำเป็นค่ายกลกันแน่วะ”
“ใจเย็นๆ หน่อยไอ้แก้ว มึงน่ะโมโหเรื่องอื่นแล้วอย่าพาลสิวะ”
“เออ ฉันเลิกแล้วก็ได้ แกช่วยเตือนฉันหน่อยนะ ถ้าฉันจะเผลอไปด่าเค้าน่ะ”
“เดี๋ยวกูเตือนมึงเอง”
คาบนี้อ. ไม่ได้สอนอะไร แต่ให้ทำแบบทดสอบก่อนเรียน ซึ่งก็ทำเสร็จกันเร็วมาก จึงคุยกัน วีสังเกตได้ว่าแก้วมองวีด้วยสายตาแปลกๆ วีเลยคุยกับแพรว
“แพรวๆ วันนี้เราไปทำอะไรให้กลุ่มแก้วบ้างรึเปล่า”
“รู้สึกว่าจะใช่นะ ตอนที่เดินหาห้องวิทย์ไง วีเดินชนแก้วน่ะ”
“อ๋อ คนที่เราเดินชนก็คือแก้วเองเหรอ”
“เราว่าวีน่าจะไปขอโทษแก้วซักหน่อยนะ”
“ไว้พรุ่งนี้ละกัน ดูท่าตอนนี้จะอารมณ์ไม่ดี”
“โอเค.ๆ พรุ่งนี้”
“หวังว่าแก้วเค้าคงไม่คิดจะเป็นศัตรูกับเราหรอกนะ”
“ทำไมวีถึงคิดอย่างนั้นล่ะ”
“ก็สายตาของแก้วที่มองเรา มันเหมือนกับคิดจะฆ่ากันเลยนี่นา”
“คิดมากไปรึเปล่า เค้าคงไม่คิดถึงขนาดนั้นหรอก”
“ไม่รู้สิ...หมดเวลาพอดี ไปเรียนต่อเถอะ รู้สึกว่าจะเป็นภาษาไทย”
“เรียนที่ห้องใช่มั้ย ค่อยยังชั่วหน่อย”
เมื่อจบคาบวิทย์ ก็เดินกลับห้องเรียนภาษาไทยต่อ แล้วก็ต่ออีก 2 คาบ เมื่อจบการเรียนของวันแรก วันนี้ก็ยังไม่มีการบ้าน เมื่อถึงเวลากลับบ้าน วีก็เดินไปกับแพรว ส่วนแก้วก็เดินไปกับเพื่อนๆ กลุ่มเดิม
“วีกลับยังไงเหรอ”
“ก็กลับรถเมล์น่ะ ฝั่งโน้น...แพรวล่ะ”
“พ่อมารับ แต่ก็ฝั่งโน้นเหมือนวี”
“งั้นก็ไปรอด้วยกันเลยสิ”
บังเอิญว่าแก้วกับเพื่อนๆ ก็มารอที่ป้ายรถเมล์ใกล้ๆ กับวีและแพรวเช่นกัน แต่เพื่อนๆ ในกลุ่มของแก้วไม่มีใครกลับสายเดียวกับแก้วเลย พวกเพื่อนๆ ของแก้วกลับไปหมดแล้ว เหลือแต่แก้วคนเดียว
“เออ...วี เราไปแล้วนะ พ่อมาแล้ว”
“โชคดี บาย...”
ตอนนี้ก็เหลือแต่แก้วกับวีแค่ 2 คนที่ป้ายรถเมล์ แล้วทั้งคู่ก็สังเกตเห็นกัน แก้วนั้นยังโกรธเรื่องเมื่อกลางวันไม่หาย วีเองก็ยังจำได้ จึงคิดที่จะเข้าไปขอโทษแก้ว
“เอ่อ...เราขอโทษนะ ที่เมื่อกลางวันเดินชนน่ะ”
“.....”
“นี่ เราขอโทษ...”
“.....”
“แค่เดินชนทำไมต้องโกรธขนาดนี้ด้วย”
“ไม่ได้โกรธ...แต่ไม่ชอบ”
แก้วพูดแค่นั้นแล้วก็เดินหนีไป ในใจของวีที่ไม่ค่อยชอบแก้วอยู่แล้วยิ่งไม่ชอบเข้าไปใหญ่ เมื่อรถเมล์มาวีก็รีบขึ้นที่ประตูหน้า โดยที่ไม่รู้เลยว่าขึ้นคันเดียวกับแก้ว เพราะแก้วขึ้นประตูหลัง พอมาเจอกันก็แปลกใจ
“ขึ้นสายเดียวกันเหรอเนี่ย”
“ก็ใช่น่ะสิ ไม่งั้นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอจะเป็นใครล่ะ”
“เราถามดีๆ ตอบให้ดีๆ บ้างไม่ได้รึไง”
“เธอไม่ได้เกี่ยวดองอะไรกับฉันนี่ ทำไมต้องเชื่อฟังเธอด้วย”
“เออ ทีหลังเราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาพูดด้วยอีก”
“ดี”
ดูเหมือนว่าตอนนี้วีกับแก้วไม่ถูกกันซะเลย เมื่อถึงที่หมายแก้วก็ลงป้ายไป ส่วนวีก็ลงป้ายถัดจากแก้ว วีรีบเดินกลับบ้านเพราะจะรีบกลับไปเล่น MSN เหมือนที่เคยทุกวัน เมื่อเข้าบ้านไปก็เจอกับคนรับใช้ (พี่เลี้ยง) ที่คอยมารับใช้ จนวีนึกเบื่อในความสุขสบายมากเกินไป แต่ก็ต้องทนไป เพราะเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ ครอบครัวของวีมีฐานะดีมาก พ่อแม่รวย แต่วีก็ไม่เคยนึกอยากทำตัวเป็นคุณหนู อวดความร่ำรวย
“หวัดดีพี่อุ้ม หวัดดีป้าเรือน”
“สวัสดีค่ะคุณหนู ทำไมวันนี้กลับเร็วจังล่ะคะ”
“ก็มันเปิดเรียนวันแรก อ. เค้าปล่อยเร็ว”
“ขึ้นไปอาบน้ำก่อนเถอะค่ะ แล้วค่อยลงมากินข้าวพร้อมคุณท่าน”
“อ้าว พ่อกับแม่กลับมาแล้วเหรอ”
“ยังหรอกค่ะ แต่เมื่อกี้คุณท่านโทร. มาบอกว่า อีกประมาณชั่วโมงจะกลับถึงบ้าน”
“อ้อ...เหรอ”
“พี่เตรียมอะไรไว้ให้เรียบร้อยแล้วนะคะ”
“ขอบคุณ ทีหลังวีทำเองก็ได้พี่อุ้ม”
~~End~หนึ่ง : เริ่มต้นด้วยความยุ่งเหยิง~~
สอง : คิดถึงเพื่อนเก่า
วีแทบจะไม่ต้องทำอะไร เพราะมีพี่เลี้ยงคอยทำทุกอย่างให้ ปีนี้ก็เป็นปีแรกที่วีมีอิสระมากขึ้น เพราะที่ผ่านมา แม้แต่แต่งตัว ก็ให้พี่เลี้ยงแต่งให้ พอถึงตอนนี้หัดทำเองบ้างก็รู้สึกไม่วุ่นวายดี เมื่อวีอาบน้ำเสร็จก็จัดตารางสอน แล้วลงมาเตรียมจะกินข้าว พ่อกับแม่ก็กลับมาพอดี
“หวัดดีค่ะแม่ หวัดดีค่ะพ่อ”
“กลับมาแล้วเหรอลูก เป็นไงบ้างเปิดเรียนวันแรก”
“ก็ดีค่ะ”
“มีเพื่อนบ้างรึยังล่ะ”
“อย่างวีต้องมีอยู่แล้วค่ะพ่อ”
“ทำเป็นคุยไป เลือกเพื่อนที่ดีๆ นะลูก เดี๋ยวพากันไปเกเรียน”
“วีมองคนออกน่าพ่อ ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก”
“เอาเถอะๆ กินข้าวเลยดีกว่า”
หลังจากที่กินข้าวเสร็จ พ่อกับแม่ของวีก็ดูทีวีซักพัก แล้วก็ขึ้นไปอาบน้ำ แล้วก็เข้าห้องนอนเลย ส่วนวีก็ขึ้นห้องไปเล่น MSN กับเพื่อนเก่า เมื่อเข้าโปรแกรมไปได้แล้ว ก็เริ่มเล่นเลย
“หวัดดี เมเม”
“นึกว่าลืมซะแล้ว”
“จะลืมได้ไง ก็เล่นอยู่ทุกวัน”
“แต่วันนี้สายไปตั้งครึ่งชั่วโมงนะ”
“โทษทีๆ เพิ่งกินข้าวเสร็จ”
“โรงเรียนเปิดวันแรกเป็นไงบ้างวี”
“ดี แต่ไม่ดีเท่าตอนอยู่กับเมย์”
“มีเพื่อนเก่าอยู่ห้องเดียวกันบ้างมั้ย”
“ไม่มี แต่มีเพื่อนเก่าห้องอื่น”
“ใคร”
“แพรว...รู้จักมั้ย”
“ใช่ สะคราญกมล รึเปล่า”
“อือ”
“รู้จักสิ เพื่อนเก่าเมย์เอง”
“นิสัยเป็นยังไง”
“ก็ดีนะ แต่ว่าขี้แงไปหน่อย ออกคุณหนูนิดๆ ด้วย”
“เหรอ...แล้วเมย์ก็เปิดวันนี้ไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ ห้องเมย์มีเพื่อนโรงเรียนเก่าเต็มเลย”
“เมย์อยู่สตรีวิทฯ ใช่มั้ย”
“อือ”
“ดีจัง”
“ตรงไหน”
“ผู้หญิงเยอะดี”
“ทำอย่างกับเป็นพวกผู้ชายไปได้”
“ทำไม อย่างน้อยวีก็ไม่ได้เป็นเลสฯ ละกัน”
“โกหก”
“พูดจริง”
“ไม่เชื่อ”
“ตามใจ ไม่ได้เป็นซะหน่อย”
“เปลี่ยนเรื่องดีกว่า”
“เรื่องอะไรดีล่ะ”
“ก็อย่างเช่น...”
“อะไร”
“คิดถึงวีจัง”
“จริงอ้ะ”
“จริงสิ เมย์อยากจะโทร. หาวี เออใช่ เบอร์มือถือวีเบอร์อะไร”
“09-xxx-xxxx”
“ของเมย์ 06-xxx-xxxx นะ”
“เปลี่ยนเบอร์แล้วเหรอ”
“เครื่องเก่าหาย เปลี่ยนเครื่องเมื่อเดือนที่แล้วเอง”
“แล้วจะโทร. หาทุกวันเลย”
“ให้มันจริงเถอะ”
“คนอย่างวีเคยผิดสัญญาเหรอ”
“เคย”
“เอาเป็นว่าต่อไปจะไม่ผิดสัญญาแน่นอน”
“เล่น MSN กับคนอื่นบ้างรึเปล่า”
“ก็มี แต่บางวันเท่านั้นแหละ เสาร์-อาทิตย์ น่ะ”
“กับใครเหรอ บอกได้มั้ย”
“กับพลอย เอม ทราย จุ๊ หยา กิ่ง บี กั้ง โอม ชิต เว่ แล้วก็จำไม่ได้แล้ว”
“ทำไมหลายคนจัง”
“คนมันป๊อปน่ะ ต้องเข้าใจ แต่เดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยแล้ว”
“รู้สึกอยากจะอ้วกน่า...”
“พูดเล่นน่า แล้วเมย์เล่นกับใครบ้าง”
“ก็เล่นแต่กับวีคนเดียวแล้วก็เพื่อนแถวบ้าน”
“เหรอ”
“วันนี้จะเล่นถึงกี่โมง”
“4 ทุ่ม”
“ไม่ไหวมั้ง ดึกไป”
“3 ทุ่มครึ่ง”
“ก็ได้ๆ”
“เก็บดอกไม้ให้เธออย่างอารมณ์ดี  เธอชอบสีแดงขาวชมพูฟ้า  เก็บหลายดอกหลายพันธุ์คณนา  ประดับประดาเป็นพวงหรีดให้เธอ”
“ขำตายเลยนะ”
“ล้อเล่นหน่อยเดียวเอง อย่าโกรธสิจ๊ะ”
“ไม่โกรธหรอกน่า แค่นี้เอง”
“นี่แหละถึงจะเป็นเมเมตัวจริง”
“เสาร์นี้ว่างมั้ย”
“ว่าง”
“ไปเที่ยวกัน”
“ที่ไหน”
“ดูหนัง เมเจอร์ฯ”
“โอเค. แฮร์รี่นะ”
“ก็กะว่าจะดูเรื่องนี้แหละ”
“อือๆ เจอกันที่โรงเรียนเก่านะ 11 โมง ได้มั้ย”
“ได้ แต่มีข้อแม้นะ”
“บอกมาเลย อะไร...”
“ต้องไปกันแค่ 2 คน”
“มันแน่อยู่แล้ว”
“ปกติเห็นต้องเอาเอมไปด้วยนี่”
“เอมไม่ว่างหรอก เรียนไวโอลิน”
“รู้ไปหมดเลยนะ”
“นิดหน่อย”
“ได้ข่าวพัดยศบ้างมั้ย”
“ไม่ ทำไมอ่ะ”
“เห็นเค้าลือกันว่ามันเป็นเกย์”
“เหลือเชื่อ ออกจะแมนขนาดนั้น”
“มันตบะแตก ไปอยู่โรงเรียนชายล้วนก็เลยไปเลย”
“เมย์ก็อยู่โรงเรียนหญิงล้วน เป็นอย่างนั้นรึเปล่า”
“ไม่มีทาง แต่ก็ไม่แน่”
“หมายความว่าไง ไม่แน่...”
“หมายความว่าอาจจะเป็นอย่างว่าก็ได้น่ะสิ”
“ไม่เอา วีอยากให้เมย์เป็นอย่างนี้ อย่างเดิมดีแล้ว”
“เมย์ก็พูดไปอย่างนั้นแหละ แต่ถ้าวันไหนที่วีไม่คุยกับเมย์ล่ะก็ เมย์เป็นแน่”
“วีก็คุยกับเมย์ทุกวันอยู่แล้วล่ะ”
“ถ้าเกิดมีคนเล่นกับวีอยู่ แล้วเมย์เข้ามาทีหลังล่ะ”
“วีก็จะแนะนำเพื่อนของวีให้เมย์รู้จักไง”
“ไม่ล่ะ ขอบใจ”
“ทำไมอ่ะ”
“เถอะน่า เอาเป็นว่าไม่ต้องละกัน”
“โอเค.ๆ”
“ซาหวัดดีวี”
“อ้าว เอมนี่นา มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”
“เมื่อกี้นี้เอง”
“เออ มาก็ดีเหมือนกัน วีกำลังคุยกับเมย์อยู่เลย...ใช่มั้ยเมเม”
“.....”
“เมเม ไปไหนแล้ว”
“ไหนล่ะเมย์”
“เมย์จ๋า ยังไม่ 3 ทุ่มครึ่งเลย จะรีบไปไหน”
“เมย์เค้าอาจจะปวดชิ้งฉ่องมั้ง เรามาคุยกัน 2 คนก็ได้นี่วี”
“ได้น่ะได้ แต่วีไม่สบายใจเลย ที่อยู่ๆ เมย์ก็เงียบอย่างนี้”
“ช่างเถอะ เดี๋ยวคงมาน่ะแหละ”
“อือๆ มาคุยกันเถอะ”
ทั้งวีและเอมไม่รู้ว่าเมย์ไปไหน นึกว่าเลิกเล่นไปแล้ว เพราะที่หน้าจอแสดงไว้ว่าเมย์ Offline แต่ที่จริงก็คือ เมย์ไม่ค่อยถูกกับเอม เพราะเอมชอบแย่งวีจากเมย์ เมื่อเอมเข้ามา เมย์จึงเลิกเล่น แต่ก็ยังไม่ไปไหน ยังคงอยู่หน้าคอมฯ คอยดูว่าวีกับเอมพูดอะไรกัน โดยกดคำสั่งซ่อนตัว (...มีด้วยเหรอ/สมมติว่ามีละกัน...)
“วันเสาร์นี้วีว่างรึเปล่า”
“ไม่ว่างจ้ะ”
“ไปไหนเหรอ”
“คือ...ไม่มีอะไรหรอก จะชวนไปไหนล่ะ”
“ว่าจะชวนไปดูแฮร์รี่ซะหน่อย ไปกับเอมไม่ได้เหรอ”
“ไปดูหนังเหรอ คือว่ามีคนชวนวีแล้ว”
“ไม่ได้ วีต้องไปดูกับเอมเลย”
“อย่าทำอย่างนี้สิเอม มีเหตุผลหน่อย”
“ก็วีไม่เคยจะไปกับเอมเลยนี่นา”
“ทำไมจะไม่เคย เมื่อเทอมที่แล้วก็ไปด้วยกัน”
“ผ่านมาตั้งเทอมนึงแล้วนะ”
“ไว้วันหลังได้มั้ย”
“เอมอุตส่าห์ว่างวันเสาร์นะ อาทิตย์อื่นก็คงไม่ว่างแล้ว”
“งั้นก็ตอนเย็นวันธรรมดาก็ได้นี่”
“ทำอย่างกับว่าโรงเรียนเราอยู่ใกล้กัน”
“ก็...ถ้าจะไปจริงๆ ก็ไปได้”
“ก็ได้ๆ วันจันทร์เลยนะ”
“แต่ว่าไม่ใช่เรื่องแฮร์รี่นะ เพราะเรื่องนี้กำลังจะไปดูวันเสาร์นี้แล้ว”
“ทำไมอ้ะ...รู้มั้ยที่เอมอยากดูแฮร์รี่กับวีเพราะอะไร”
“เพราะ...”
“เพราะว่าจะได้อยู่กับวีนานๆ ไง”
“คิดอย่างนั้นจริงๆ เหรอ”
“ก็จริงน่ะสิ”
“แล้วมันมีเรื่องอื่นที่นานเหมือนแฮร์รี่อีกมั้ยล่ะ”
“ไม่มีนะ แต่เอมรู้แล้วล่ะว่าจะทำยังไง”
“ยังไง”
“ก็ดู 2 เรื่องต่อกันเลยสิ”
“2 เรื่อง ร่วมๆ 3-4 ชั่วโมงกว่าเนี่ยนะ”
“ใช่ พอๆ กันเลยแหละ”
“เอาตามนั้นก็ได้”
“เอมรักวีที่สุดเล้ย”
“แต่...มันจะไม่เลิกดึกเหรอ”
“ไม่รู้สิ ขอคิดก่อนนะ เริ่มดูเรื่องแรกรอบ 5 โมง ใช้เวลา 2 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ทุ่มนึง พอดูเรื่องที่ 2 ก็สรุปแล้วดูเสร็จเวลา 2-3 ทุ่มกว่าๆ”
“มันดึกไปนะวีว่า”
“น่านะ แค่นี้ทำเพื่อเอมไม่ได้รึไง”
“เฮ่อ ก็ได้ๆ วีต้องโกหกแม่อีกแล้วสิเนี่ย”
“ทำไมต้องโกหก”
“ก็จะให้วีพูดว่า “แม่คะ วีขอไปดูหนังกับเพื่อน กลับ 3 ทุ่มนะคะ” รึไง”
“งั้นก็บอกว่าไปบ้านเพื่อน ไปติวอะไรอย่างนี้สิ”
“เอางั้นเหรอ”
“รึไม่ก็ วีมานอนค้างบ้านเอมเลย”
“เอาจริงๆ สิ”
“ก็จริงไง ไม่เห็นจะเป็นไรเลย”
“ขอวีคิดดูก่อนได้มั้ย”
“วีไม่เห็นต้องคิดมากเลย ก็แค่มานอนค้างแค่เนี้ย”
“งั้นวีก็ขอบอกแม่ก่อน”
“อือๆ อย่าลืมขอให้ได้ล่ะ”
“พูดอย่างกับว่าจะรีบไปไหนอย่างนั้นแหละ”
“ก็ใช่น่ะสิ วันนี้เอมขอเล่นแค่แป๊ปเดียว จะไปนอนแล้ว”
“นั่นสินะ จะ 4 ทุ่มอยู่แล้ว”
“งั้นเอมไปก่อนนะ บาย”
“บาย...นอนหลับฝันดีนะ”
“เดี๋ยวๆ มีอีกอย่างนึง”
“อะไร”
“คิดถึงนะ”
“เหมือนกัน เจอกันวันจันทร์”
“บายจริงๆ ล่ะ”
“บายจริงๆ เหมือนกัน”
วีกำลังจะออกจากโปรแกรม เพราะเพื่อนคุยบายกันไปหมดแล้ว แต่ก็ประหลาดใจที่มีข้อความขึ้นมาอีกและเห็น mail ของเมย์
“สวัสดี ครั้งที่ 2”
“เฮ้ย เมย์ไปแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ก็กลับมาใหม่แล้วไง ผิดเหรอ”
“เปล่า แล้วเมื่อกี้ไปไหนมา”
“ไม่ได้ไปไหน นั่งอยู่เฉยๆ นั่นแหละ แค่ไม่ได้คุยแค่นั้นเอง”
“ทำได้ไงแล้วทำไมอยู่ๆ ก็เลิก”
“.....”
“เพราะเอมใช่มั้ย”
“เปล่านี่ เอมไม่เกี่ยว”
“แล้วทำไมพอเอมเข้ามา เมย์ก็ออก แต่พอเอมไป เมย์ก็เข้ามาใหม่”
“ก็ได้ๆ...ใช่ เพราะเอมนั่นแหละ เมย์นึกว่าวีจะไปดูหนังกับเอมวันเสาร์นี้ซะแล้ว”
“วีจะไปได้ไง วีนัดกับเมย์ไว้แล้ว”
“ก็ทุกทีเห็นทำอย่างนั้นบ่อยนี่”
“จะมาหาเรื่องชวนทะเลาะรึไง”
“ใช่สิ เมย์มันไม่ดี ไม่ใช่เอมนี่”
“อย่าใจน้อยได้มั้ย วีก็รักเพื่อนทุกคนเท่ากันแหละ”
“ถ้ารักเมย์จริง อย่าไปกับเอมสิ”
“ก็วีอุตส่าห์ไปคนละวันกันแล้วนะ”
“ช่วยไม่ได้ งั้นก็ไปกับเอมเถอะ เมย์เปลี่ยนใจแล้ว”
“อย่าทำอย่างนี้ได้มั้ย”
“ทำอะไร”
“ก็อย่าทำเป็นว่าไม่ชอบเอม...”
“เอมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อะไรก็เอม วีเคยนึกถึงเมย์บ้างมั้ย”
“วีจะบอกอะไรให้นะ วีรักเมย์ที่สุด แล้วก็ทั้งห่วงทั้งหวงด้วย แต่เมย์ก็ต้องให้วีมีเวลาให้คนอื่นบ้าง”
“หวง...ห่วงรึ...”
“ใช่”
“ตามใจเถอะ วีไปกับเอมก็ได้ แต่อย่าลืมไปกับเมย์นะ”
“วีอยากไปกับเมย์ที่สุด”
“ขออีกอย่าง ห้ามหวานกับเอมในโรงหนังนะ”
“นี่...วีไม่ใช่ผู้ชายนะ”
“นั่นแหละ ห้ามนะ”
“โอเค.ๆ แต่กับเมย์ได้ใช่มั้ย”
“แล้วแต่จะคิด”
“แสดงว่าได้”
“...อือ...”
แล้ววีกับเมย์ก็คุยกันต่อจนลืมดูเวลา พอมาเห็นอีกทีก็พบว่าใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว
“ตายล่ะ จะเที่ยงคืนแล้ววี”
“จริงอ้ะ ทำไมมันเร็วจัง”
“เมย์ต้องไปนอนแล้วนะ ถ้าแม่รู้โดนด่าแน่เลย”
“วีก็เหมือนกัน บ๊ายบายนะ”
“ฝันถึงเมย์ด้วยนะ บาย”
~~End~สอง : คิดถึงเพื่อนเก่า~~
สาม : จะคุยกันดีๆ ไม่ได้รึไง
หลังจากที่เลิกราการคุยกันไปแล้ว ทั้งวีและเอมก็ไปนอน คืนนี้วีไม่ได้ฝันถึงเมย์อย่างที่เมย์อยากให้เป็น แต่กลับฝันถึงแก้ว เช้าขึ้นมาตื่นขึ้นก็ยังงงๆ กับเรื่องที่ฝันถึงแก้วเมื่อคืน
“ทำไมเราถึงฝันอย่างนั้นฟะ ฝันว่าแก้วเป็นแฟน ไม่มีทางและก็ไม่มีวันด้วย”
วันนี้วันศุกร์ ทางโรงเรียนจะมีประชุมนักเรียนทุกๆ วันศุกร์นี้ ตามที่แจ้งไว้เมื่อวาน วีจึงบอกพ่อกับแม่
“พ่อกับแม่คะ วันนี้ที่โรงเรียนมีประชุมนักเรียน วีอาจจะกลับเย็นนะ”
“อย่าเย็นมากละกันลูก”
“ค่ะ”
“ให้พ่อไปรับมั้ยล่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ วีกลับเองดีกว่า”
“ให้พ่อไปรับเถอะ มันดึกจะอันตราย”
“ไม่มีใครกล้าทำอะไรวีหรอก ถ้ามีก็โดนวีจัดการก่อนล่ะ”
“ถึงลูกจะเป็นแชมป์เทควันโด้ก็จริง แต่แม่ว่าให้พ่อเค้าไปรับดีกว่า”
“ก็ได้ค่ะ แต่อาจจะมีเพื่อนที่กลับทางเดียวกันติดรถมาด้วยนะ”
“ไกลมั้ยล่ะ”
“เลยบ้านเราไป 2 ซอย”
“เดี๋ยวพ่อไปส่งให้ก็ได้”
“งั้นพ่อก็ไปรับวีได้เลยค่ะ”
“กว่าจะตกลงได้นี่มีหลายข้อแม้จังนะเรา”
“ไปกันเถอะค่ะพ่อ จะ 6 โมงครึ่งอยู่แล้ว”
“ไปๆ”
พ่อกับแม่วีนั้นทำงานที่เดียวกัน ก่อนไปทำงานก็ต้องไปส่งวีที่โรงเรียนก่อน แล้วจึงค่อยไปที่ทำงาน พอถึงโรงเรียน วีก็เดินเข้าไปหาแพรวที่กำลังนั่งรอวีอยู่
“วี หวัดดี”
“หวาด...ดี...”
“เป็นอะไรน่ะ ยังกะคนอดหลับอดนอน”
“ก็เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย”
“ทำอะไรอยู่”
“เล่น MSN”
“วีเล่นด้วยเหรอ ขอ mail หน่อยสิ”
“อ้ะ...ขอของแพรวด้วย”
“อ้ะนี่...แล้วเมื่อคืนวีเล่นถึงกี่โมงเนี่ย”
“เที่ยงคืน...”
“เที่ยงคืน...เล่นกับใครเนี่ย ดึกจัง”
“เล่นกับเพื่อนแพรวนั่นแหละ เมย์น่ะ”
“เมย์ไหน”
“เมย์-พิมรา ไง”
“อ๋อ เมย์ไปอยู่โรงเรียนอะไรแล้วล่ะ เรากับเมย์ไม่ได้ติดต่อกันเลย”
“สตรีวิทฯ”
“อือ...”
“วันนี้แพรวรู้รึยังว่ามีประชุม เลิกเย็น”
“รู้แล้ว โชคร้ายเป็นบ้าเลย พ่อกับแม่ดันไม่ว่าง มารับไม่ได้ เราเลยต้องกลับเอง”
“แต่เราต้องขอบอกว่าแพรวโชคดีเป็นบ้าเลยนะ”
“ทำไมอ้ะ”
“ก็วันนี้พ่อเราจะมารับ แล้วเราก็ขอพ่อแล้วด้วยว่าจะมีเพื่อนกลับด้วยคนนึง”
“แล้ววีรู้ได้ไงว่าเราจะกลับด้วย”
“เดาเอา ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร”
“ใครว่า ดีสิ ปลอดภัยกว่าตั้งเยอะ”
“เราก็คิดอย่างนั้น”
“เออ...วีขอโทษแก้วรึยัง เรื่องเมื่อวานนี้น่ะ”
“ขอโทษไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีประโยชน์ขึ้นมาเลย”
“ทำไมล่ะ”
“ก็แก้วไม่สนใจอะไรเลย”
“แย่จังนะ”
“ช่างเถอะ  วีก็ไม่อยากไปยุ่งกับเค้าเท่าไหร่หรอก”
“คราวหน้าก็อย่าไปมีเรื่องกับเค้าอีกล่ะ”
“อยู่แล้วน่า”
ถึงเวลา 7.20 น. นักเรียนก็ไปเข้าแถวกัน รวมทั้งวีและแพรวด้วย เมื่อเข้าแถวเสร็จ ก็พากันไปขึ้นห้องเรียน ในห้อง 1/7 นี้จะแบ่งนักเรียนออกเป็น 3 กลุ่ม แพรวนั้นอยู่กลุ่ม 1 ส่วนวีอยู่กลุ่ม 3 แก้วก็อยู่กลุ่ม 3 เหมือนกัน (จัดตามเลขที่) เข้าเรียนคาบแรกก็ภาษาอังกฤษ เรียนมาจนถึงพักกลางวัน วีกับแพรวดินไปกินข้าวที่ชั้น 1 พอกินเสร็จก็เดินสวนกับพวกแก้ว ทั้งวีและแก้วก็แสดงท่าทีว่าไม่ถูกกันเท่าไหร่นัก ในที่สุดแก้วก็เป็นฝ่ายพูด (หาเรื่อง) ขึ้นก่อน
“มองทำไม”
“แล้วมามองเราทำไม”
“ก็ฉันมีสิทธิ์”
“ฉันก็มีสิทธิ์เหมือนกัน”
“อย่ามาพูดตามฉันได้มั้ย”
“ก็ไม่อยากจะตามใครเหมือนกันแหละนะ”
“อ้าว พูดอย่างนี้ มาตัวต่อตัวกันเลยดีมั้ย”
“โทษที ฉันตบใครไม่เป็นหรอกนะ”
“เฮ้ย ไอ้แก้วพอเหอะ มึงอย่าไปมีเรื่องกับเค้าเลย”
“วีก็เหมือนกัน อย่าไปหาเรื่องแก้วเค้าเลย”
“แพรวพูดผิดรึเปล่า ใครหาเรื่องใครกันแน่”
“โธ่เอ๊ย”
“เอาเซ่...”
แพรวกับพวกเพื่อนๆ ของแก้วต้องรั้งตัววีและแก้วไว้ไม่ให้ทำอะไรกันไปมากกว่านี้ ในที่สุดก็สามารถห้ามได้สำเร็จ แต่ก็ยังไม่วายอาฆาตแค้นกันอยู่ดี
“ฉันไม่มีวันญาติดีกับเธอแน่”
“แล้วคิดว่าฉันจะทำอย่างนั้นได้รึไงเล่า”
ก่อนที่ทั้งสองคนจะ (เกือบ) ตีกันอีก ก็ถูกเพื่อนๆ พากันแยกออกไปก่อน แล้วก็เดินห่างกันจนลับตาไปแล้วทั้ง 2 ฝ่าย แพรวจึงคุยกับวี
“วีเป็นอะไรไปเนี่ย ปกติไม่เห็นจะเคยทะเลาะกับใครเลยนี่”
“ไม่รู้สิ เจอหน้ายัยนี่ทีไร ชวนทะเลาะทุกที”
“วีก็ทำไม่ถูกนะ”
“รู้อยู่เหมือนกันแหละ ว่าเราเองทำไม่ถูก”
“แล้วก็ยังจะทำ”
“ทำไงได้ ก็ยัยนั่นน่ะเกลียดเราจะตาย ถ้ายัยแก้วได้ซักครึ่งนึงของแพรวนะ จะดีมากเลย”
“แก้วเค้าอาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่วีคิดหรอกนะ”
“เห็นแค่นี้ก็รู้แล้วว่าธาตุแท้น่ะขนาดไหน”
“แต่อย่าลืมสิว่า แก้วไม่เคยทำผิดกฎของโรงเรียนเหมือนพวกเพื่อนๆ ในกลุ่มเลยนะ แสดงว่าจิตใต้สำนึกยังดีเหมือนกันนะ”
“แพรวนี่มองโลกในแง่ดีจังเลยนะ”
“เราน่ะเหรอ”
“อือ ต่างกับเราอย่างสิ้นเชิงเลย”
“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก”
พอใกล้ถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว คนที่เป็นเวรวันนี้ก็ทำเวรไป วีก็เลยโทร. หาพ่อให้แน่ใจว่าจะมารับกี่โมง เมื่อคุยเสร็จแล้ว หญิงซึ่งเป็น 1 ในกลุ่มแก้ว มาขอยืมมือถือของวีไปเล่นเกม วีเองก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะยืมเล่นอยู่ตรงหน้า แล้วหญิงก็ไม่ใช่คนที่วีมีอคติด้วย จากนั้นก็เดินกันไปเข้าหอประชุม แก้วยังไม่รู้ว่าวันนี้มีประชุมเลิกเย็น
“เค้าจะไปไหนกันวะฝน”
“เอ้า ก็เข้าหอประชุมไง”
“เข้าไปทำไมฟะ”
“มึงนี่ไม่รู้อะไรเลยเหรอวะ วันนี้มีประชุมเลิกเย็นไง”
“จริงป่ะเนี่ย โกหก...”
“กูจะโกหกมึงทำไม คนเค้าก็ไปกันทั้งหมดนั่นแหละ”
“ฉันยังไม่ได้โทร. บอกที่บ้านเลยว่ะ วันนี้บอกว่าจะกลับเร็วซะด้วยสิ มือถือฉันก็แบตฯ หมด”
“อ้าว ไหนมึงบอกว่าพ่อแม่มึงไม่เคยอยู่บ้านเลยไง”
“ก็ช่วงนี้ดันอยู่น่ะสิ คุมเข้มฉันใหญ่เลย เพราะเห็นว่าฉันเพิ่งขึ้นม.1 บ้าๆ เนี่ย”
“มึงก็รีบไปโทร. ตู้หยอดเหรียญซิวะ”
“เฮ้ย แต่ที่เดินผ่านมา แล้วก็ที่เห็นๆ อยู่มันมีคนต่อคิวอยู่เยอะเลยนะ แล้วก็มีเครื่องเสียด้วย”
“แล้วมึงจะทำไงวะเนี่ย”
“อ้าว ไอ้หญิง ฉันขอยืมมือถือแป๊ปนึงสิ”
“คือว่าไอ้นี่มัน...”
“อย่างกไปหน่อยเลยน่า นิดเดียวเอง”
แก้วไม่ได้ฟังต่อว่าหญิงจะพูดอะไร ที่หญิงจะพูดก็คือจะบอกว่ามือถือนี้เป็นของคนซึ่งไม่ถูกกับแก้ว แก้วก็คว้าไปโทร. เสียก่อน วีผ่านมาพอดีจึงจะขอมือถือคืนจากหญิง
“หญิง มือถือเราล่ะ”
“เอ่อ...คือว่า”
“อ้ะ หญิง ขอบใจมาก”
“อ่ะวี”
“แล้วแกจะไปให้เค้าทำไมวะ”
“ทำไมเค้าจะให้ฉันไม่ได้ ในเมื่อมันเป็นของฉัน”
“ไม่ใช่ของแกหรอกเรอะ”
“ก็ฉันจะบอกแกแล้ว แต่แกไม่ยอมฟังเลย”
“แกนะแก...ขอโทษที่ใช้ของ...เธอ...”
แล้วแก้วก็เดินหนีไปด้วยอาการหน้าแตกเล็กน้อย วีเองก็ไม่คิดอะไรมากแต่สงสัยที่แก้วพูดขอโทษกับตน
“เมื่อกี้เราหูฝาดไปรึเปล่าที่แก้วพูดว่าขอโทษน่ะ”
“เปล่านี่ แก้วพูดจริงๆ”
เวลาผ่านไป การประชุมก็เสร็จเป็นเวลา 17.30 น. วีก็เดินออกไปพร้อมแพรว ทางออกตรงประตูไปเบียดกับแก้วพอดี แต่แก้วไม่ได้หาเรื่องต่อกับวี กลับเดินเลี่ยงไปอย่างเงียบๆ กับเพื่อนๆ
“สงสัยจะผีเข้าแฮะ”
“มันก็ดีไม่ใช่เหรอแบบเนี้ย”
“อือ ดีมากเลยล่ะ”
~~End~สาม : จะคุยกันดีๆ ไม่ได้รึไง~~
สี่ : นัดเจอกัน
ไปถึงที่นัดหมายกับพ่อไว้ พ่อของวีก็มาพอดี เมื่อขึ้นรถไปได้ วีก็แนะนำพ่อกับแพรวให้รู้จักกัน
“หวัดดีพ่อ”
“สวัสดีค่ะ”
“จ้ะๆ หวัดดี”
“นี่แพรวนะพ่อ เป็นเพื่อนสนิทของวีเอง”
“แค่ 2-3 วันนี่สนิทกันแล้วเหรอ”
“ก็มาจากโรงเรียนเก่าด้วยกันน่ะ”
“อ๋อ...”
ในที่สุดก็มาถึงบ้านของแพรว แพรวก็ขอบคุณพ่อของวีก่อนที่จะลงจากรถไป
“ขอบคุณค่ะคุณพ่อ...บ๊ายบายนะวี”
“บาย...”
แล้วพ่อของวีก็ขับรถกลับบ้าน
“เพื่อนลูกคนนี้ท่าทางเรียบร้อยนะ”
“ใช่ค่ะ เรียบร้อยแล้วก็เรียนเก่งด้วย”
“เอาให้ได้แบบเค้าบ้างสิเราน่ะ”
“โธ่ พ่อไม่รู้อะไรซะแล้ว ลูกพ่อคนเนี้ยน่ะเก่งจะตาย”
“จริงอ้ะ แต่พ่อไม่มีลูกสาวขี้โม้นะ”
“วีไม่ได้โม้นะ”
“เออๆ เก่งก็เก่ง”
เมื่อถึงบ้าน วีก็รีบอาบน้ำ กินข้าวแล้วก็เล่น MSN ต่อกับเมย์ วันนี้เป็นวันศุกร์ ซึ่งวีนั้นไม่ค่อยชอบเล่นวันนี้เท่าไหร่ เมย์เองก็รู้ เพราะทุกวันศุกร์วีจะอยากนอนเร็ว
“หวัดดีวี มารึยัง”
“มาแล้วๆ วันนี้ขอคุยนิดเดียวนะ”
“รู้แล้วล่ะว่าขี้เกียจ”
“เข้าใจก็ดี”
“จะย้ำแค่ว่า พรุ่งนี้อย่าลืมไปนะ”
“ไม่ลืมหรอก เรื่องสำคัญอย่างเนี้ย”
“อีกเรื่องนึง...ไหนบอกว่าวันนี้จะโทร. หาเมย์ไง”
“วีโทร. แล้วนะ ตอนพักกลางวัน แต่เมย์ปิดเครื่องมั้ง”
“เออใช่ วันนี้เมย์เพิ่งจะเปิดเครื่องตอนเย็นๆ นี่เอง ลืมเปิดตั้งแต่เช้าแน่ะ”
“พรุ่งนี้ก็เปิดเร็วๆ ล่ะ จะได้โทร. ติด”
“โอเค.”
“มีอะไรอีกมั้ย”
“รู้แล้วล่ะว่าอยากเลิกแล้ว”
“ก็ทำนองนั้น แต่ไม่เชิง”
“เอาเป็นว่าแค่นี้แหละ ไม่อยากรบกวน”
“สำหรับเมย์แล้วไม่เรียกว่ารบกวนหรอก”
“ก่อนจะไปนะวี เมย์ขอพิมพ์อะไรอย่างนึงให้อ่านได้มั้ย”
“ได้สิ”
“เข้าใจใช่ไหมที่ฉันทำ เพราะอะไรและเพราะใคร อยากรู้บ้างว่าเธอคิดยังไง...เข้าใจบ้างไหมเพราะฉันทำทุกๆ อย่างจากหัวใจ รู้มั้ยว่ามีใคร...ที่รักเธอ...”
“ขอบคุณ เพลงของซาซ่าใช่ป่ะ”
“ใช่”
“วีชอบซาซ่ามากเลย”
“จริงเหรอ แล้วจะส่งรูปซาซ่าไปให้ดูบ่อยๆ นะ วีชอบใครเป็นพิเศษมั้ยล่ะ”
“แก้วน่ะ”
“อือๆ”
“บายล่ะนะ ง่วงแล้ว ขอบคุณสำหรับเรื่องซาซ่า”
“ไม่เป็นไร บาย...”
หลังจากที่เลิกเล่นไปแล้ว วีก็เข้านอน คืนนี้ก็ฝันถึงแก้วอีกเช่นเคย ตื่นเช้าขึ้นมาก็งงอีกครั้ง
“ฝันถึงยัยแก้ว 2 คืนติดกัน สงสัยจะมีเรื่องซวยหนักแน่ๆ”
จากนั้นก็ไปอาบน้ำ แต่งตัว ขออนุญาตพ่อกับแม่ไปข้างนอก พ่อแม่ของวีก็ให้เพราะรู้ว่าวีไม่ไปไหนไกลอยู่แล้ว แต่ที่ไหนได้ ไกลจากบ้านมากทีเดียว พอวีไปถึงโรงเรียนเก่าก็เจอกับเมย์ ทั้ง 2 คนต่างก็แปลกใจมาก
“ใช่วีจริงๆ เหรอเนี่ย”
“ก็ใช่น่ะสิ ทำไมล่ะ”
“ก็วีดูสูงขึ้นเยอะเลยน่ะสิ”
“เมย์ก็ดูน่ารักขึ้นมากเลย จำแทบไม่ได้”
“โม้อีกแล้ว ไปกันเถอะเดี๋ยวไปสาย”
“วีพูดจริงนะ ยังมาหาว่าโม้อีก”
หลังจากนั้นทั้งวีกับเมย์ก็เดินไปที่ป้ายรถเมล์ เพื่อที่จะขึ้นรถเมล์ แต่รออยู่นานเหมือนกันกว่าที่รถเมล์จะมา พอรถเมล์มาก็รีบขึ้นเลย ภายในรถเมล์ก็มีที่ว่างอยู่บ้าง วีกับเมย์เลยได้นั่งด้วยกันทั้งคู่
“เมย์คิดไว้รึยัง ว่าถ้าดูหนังเสร็จจะไปไหนต่อ”
“ยังเลย ถึงเวลาก็คงจะรู้เองมั้ง”
~~End~สี่ : นัดเจอกัน~~
ห้า : เจอกันง่ะ ทำไงอ่ะ
ไม่นานนักก็ไปถึงเมเจอร์ฯ รัชโยธิน ที่นี่เป็นที่ๆ วัยรุ่นส่วนใหญ่มักจะไปดูหนังกัน คนรุ่นราวคราวเดียวกันกับวีและเมย์นั้นก็มีเยอะแยะเต็มไปหมด ที่เลือกมาที่นี่ก็เพราะว่าเมย์มีบัตรลด (เฉพาะสาขานี้) พอทั้ง 2 คนเข้าไปได้แล้วก็ไปซื้อตั๋ว พอก่อนจะเข้าโรงหนัง (โรงที่ฉายเรื่องแฮร์รี่) วีก็มีเรื่องให้ตกใจสุดขีด ก็คือเจอกับแก้วที่มากับเพื่อนอีก 2 คน แต่แก้วไม่เห็นวี วีได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้นั่งใกล้ๆ แก้วเลย แต่ก็เหมือนพระเจ้าจะไม่เข้าข้าง เพราะวีดันได้นั่งใกล้แก้วซะนี่ มีเพียงเก้าอี้ว่างตัวเดียวที่คั่นกลางไว้ ก่อนหนังจะเริ่ม วีเลยขอสลับที่กับเมย์
“เมเม สลับที่กับวีได้มั้ย”
“ไม่เอา ขี้เกียจ นั่งๆ ไปเถอะตรงไหนก็เหมือนกันนั่นแหละ”
“โธ่ ก็ได้ๆ”
แก้วก็ตกลงกับเพื่อนกันดีแล้วว่านั่งกันตรงไหน พอหนังเริ่ม แก้วก็ตกใจมากเพราะเห็นวี จึงจะขอแลกที่กับเพื่อน
“เฮ้ย ไอ้ฝน แกแลกที่กับฉันหน่อยสิวะ”
“หึ กูชอบนั่งตรงกลางว่ะ”
“แกไม่ช่วยฉันเลยนะ”
“แล้วนั่งตรงนั้นมันเดือดร้อนตรงไหนวะ”
“มันก็ไม่ได้เดือดร้อนหรอก แต่ว่า...”
“แต่ว่าอะไรของมึง”
“ก็ข้างๆ ฉันคือเค้าน่ะสิ”
“เค้าไหน พี่โอ้เหรอ”
“บ้า ไม่ใช่พี่โอ้ หมายถึงเป็นวีรธิดาน่ะ”
“เหรอ บังเอิญจัง แต่ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย ถ้ามึงไม่ไปหาเรื่องเค้าน่ะ”
“ฉันไม่ขอให้แกช่วยแล้วก็ได้...แป้งๆ แลกที่กับฉันหน่อยสิ”
“ไม่ล่ะแก้ว หนังมันเริ่มแล้ว เดี๋ยวจะรบกวนคนอื่นเค้า”
“โธ่เอ๊ย ฉัน...”
แก้วจึงต้องจำใจนั่งตรงนั้นไป ไม่นานทั้งแก้วและวีก็หันมาเจอกันพอดี ก็อึ้งๆ กันไปทั้ง 2 ฝ่ายแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกันเลย
“วีเป็นอะไรรึเปล่า ดูไม่ค่อยอยู่นิ่งเลยนะ”
“เปล่าๆ ไม่เป็นอะไร”
“งั้นก็ดีแล้ว...อ่ะ กินหนมป่ะ”
“ป้อนหน่อยซี่...”
“อ่ะ”
“มา วีป้อนให้เมย์มั่ง”
แก้วเห็นก็รู้สึกงงๆ ไม่แน่ใจว่าคนที่มากับวีเป็นผู้หญิงรึผู้ชาย ถ้าเป็นผู้ชายนี่จะเชื่อสนิทเลย แต่พอแก้วดูดีๆ ก็เห็นว่าเป็นผู้หญิง ก็ยังไม่หายงงซักที เพราะดูแล้วเหมือนแฟนกันมากกว่า
“รู้สึกว่ามึงจะไม่สนใจดูหนังเลยนะ”
“ทำไมฉันจะไม่ดู แกเห็นฉันทำอย่างอื่นรึไง”
“ก็มึงเอาแต่มองเค้าอยู่นั่นแหละ เค้าจะจู๋จี๋กับแฟนกัน”
“แฟนกะผีน่ะสิไอ้ฝน ที่แกเห็นนั่นมันผู้หญิงนะโว้ย ผู้หญิงด้วยกันเอง”
“อ้าวเรอะ กูนึกว่าแฟนกัน”
“ตอนแรกฉันก็คิดเหมือนแกนั่นแหละ”
แก้วจึงตัดสินใจไม่มองไปที่วีอีก แต่ก็ไม่รู้ว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้แก้วต้องหันไปมองวีบ่อยๆ จนวีรู้ตัวจึงหันมามองแก้วบ้าง แก้วจึงหลบสายตาไปที่จอหนังแทน แล้วต่อไปแก้วก็ไม่หันมองอีก ก็จะมีนานๆ ครั้งเท่านั้น ในที่สุดพอหนังจบ แก้วจึงคิดจะรีบๆ ออกไปกับเพื่อน เพราะไม่อยากเจอวี แต่อีกใจนึงก็คิดอยากจะเห็นหน้าเพื่อนของวี (เมย์) ให้ชัดๆ สุดท้ายก็ตัดสินใจเลือกอย่างหลัง คือแอบดูหน้าเพื่อนวี ซึ่งก็ได้เห็นชัดจริงๆ ตอนที่เดินออกจากโรงหนังมาแล้ว
“มึงเป็นอะไรวะแก้ว จะตามเค้าไปเลยรึไง”
“ใครว่าฉันจะตาม แค่อยากดูหน้าเพื่อนเค้าแค่นั้นเอง”
“แล้วเป็นไงบ้างล่ะ”
“โคตรสวย+น่ารักเลย”
“ยิ่งกว่ามึงอีกเหรอวะ”
“ฉันไม่ได้สวยแล้วก็ไม่ได้น่ารักซะหน่อย”
“เอาเหอะว่ะ ไปหาอะไรกินกัน กูชักจะหิวแล้ว”
“กูก็หิวเหมือนกัน ไปเหอะแก้ว”
ส่วนวีกับเมย์นั้นตกลงกันว่าจะไปกินไอติมกันที่ร้านซเวนเซ่นส์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับร้านที่แก้วไปกิน คราวนี้วีไม่เห็นแก้ว แต่แก้วอยู่ในมุมที่มองเห็นวีและเมย์อย่างชัดแจ๋ว จึงถือโอกาสดูซะเลย ก็เห็นว่าวีกับเมย์สนิทกันมากและเห็นวีกับเมย์ผลัดกันป้อนไอติมให้กัน แล้วก็คุยกันอย่างสนิทสนม
“ไม่รู้อีกนานแค่ไหนเนอะ ที่กว่าวีจะได้เจอเมย์อีก”
“นั่นสิ แปลกนะ โรงเรียนเราก็ไม่ได้อยู่ไกลกันซะหน่อย”
“แต่คงอีกนานแหละ กว่าจะเจอกันอีก”
“เมย์ไม่อยากให้วีกลับเลย”
“วีก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน”
“เมย์อยากอยู่โรงเรียนเดียวกับวีอ่ะ”
“อยู่ที่นั่นน่ะดีแล้ว โรงเรียนที่วีอยู่มันไม่ดีพอที่เมย์จะมาอยู่หรอก”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงเมย์ก็ไม่สนหรอก ให้ได้อยู่กับวีก็ดีแล้ว”
“วีดีใจนะที่เมย์ยังนึกถึงบ้าง”
“ไม่ใช่นึกถึงนะ แต่คิดถึงเลยล่ะ ไม่อยากให้หมดวันนี้เลย”
“ให้ชื่อวีไม่หายไปจากหัวสมองของเมย์ก็พอ”
“เมย์ไม่มีทางลืมวีหรอก กลับจะคิดถึงจนจะเป็นบ้าน่ะสิ”
“รู้มั้ย...ว่าเมย์น่ะเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับวีเลย”
“ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอก แค่วีคิดถึงเมย์บ้าง ขอนิดเดียวเนี่ยแหละ”
“วีน่ะคิดถึงเมย์ทุกวัน สมมุติว่าถ้าเกิดนานไปแล้วเมย์เผลอลืมวีก็ไม่เป็นไรหรอกนะ แต่อยากให้รู้ไว้เลยว่าวีจะคอยติดตามข่าวคราวของเมย์ตลอดล่ะ”
“อย่าพูดให้ซึ้งได้มั้ย”
“แค่นี้จะร้องไห้เลยเหรอ...อย่าร้องเลยน่า...นะ”
“ป...เปล่า ผงมันเข้าตาน่ะ”
“ไหน...ให้วีดูซิ...”
วียื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ เมย์ เพื่อจะดูว่าเมย์เป็นอะไรมากรึเปล่า เห็นได้ว่าวีนั้นรักและห่วงใยเมย์มากขนาดไหน แก้วเองก็เห็น จึงคิดได้ว่าที่จริงวีก็เป็นคนดี แต่ไม่รู้ทำไมพอเจอหน้ากันต้องมีเรื่องกันทุกที
“แก้วไปเหอะ ไปที่อื่นกันต่อ”
“ฉันขี้เกียจไปแล้วว่ะ อยากกลับบ้าน...แป้ง แกจะกลับรึไปต่อ”
“แล้วแต่พวกมึงน่ะ”
“งั้นก็ไปต่อกับไอ้ฝนล่ะกัน ฉันขอตัวกลับบ้านก่อน”
“มึงไม่สบายรึเปล่าวะ หน้าซีดๆ”
“เปล่า ยังดีอยู่ แค่อยากกลับไปนอน”
“เออๆ งั้นกูก็ไม่ไปต่อแล้วล่ะ กลับบ้านกันเหอะ”
“ไป...วันหลังค่อยเที่ยวใหม่”
หลังจากนั้นแก้วกับเพื่อนก็กลับบ้าน แต่แก้วก็ไม่ลืมมองดูวีอีกครั้งก่อนที่จะกลับ ส่วนวีกับเมย์ก็ออกจากร้านมาทีหลัง แล้วก็เดินคุยกันไปเรื่อยๆ และขึ้นรถเมล์กลับบ้าน เมย์ต้องลงก่อนวี ก่อนลงจึงร่ำลากัน
“ไปก่อนนะวี เราต้องได้เจอกันอีกนะ”
“ชัวร์ วีคิดถึงเมย์นะ”
“เหมือนกัน ไปแล้วนะ”
“โชคดี...”
~~End~ห้า : เจอกันง่ะ ทำไงอ่ะ~~
หก : เพื่อนใหม่ (รึเปล่า)
ไม่นานวีก็กลับถึงบ้าน ก็คิดจะนอนซักพัก แต่นอนได้ไม่นานก็ลุกขึ้นมาเปิดคอมฯ เพื่อจะเล่น คราวนี้ไม่ได้เล่น MSN แต่เล่น PIRCH แทน เพราะอยากจะคุยกับคนแปลกหน้าบ้าง แล้วก็เลยเข้าไปเล่น PIRCH ในชื่อห้องว่า “one สบาย”
“มีใครอยู่บ้างมั้ย”
“มีฉันคนนึงแหละ”
“จะไม่ถามหรอกนะว่าชื่ออะไร”
“เธอนี่แปลก เวลาเล่นเค้าจะถามชื่อกันก่อนไม่ใช่เหรอ”
“แล้วถ้าถามจะได้ความจริงมั้ยล่ะ”
“ก็พูดถูกนะ มีเหตุผลดี”
“อยากให้คุยกันแบบดีๆ”
“ก็ได้ ที่เราเข้ามาก็หวังอย่างนั้นเหมือนกัน”
“เล่น PIRCH นี่บ่อยมั้ย”
“ไม่บ่อย ส่วนมากจะเล่น MSN มากกว่า”
“เหมือนเราเลย แล้วทำไมวันนี้ถึงเล่น PIRCH ล่ะ”
“อยากคุยที่ใหม่บ้าง”
“คิดว่าคุยอย่างนี้มันจะมีสาระเหรอ”
“ไม่รู้สิ ใครๆ ก็คงจะคิดเหมือนกันนั่นแหละ”
“คิดว่าไง”
“ก็คิดว่าเข้ามาระบาย เข้ามาคุยหลอกกันน่ะสิ”
“แต่เราไม่ชอบทำอย่างนั้น”
“เหมือนกัน ทำไมถึงไม่ชอบ”
“รู้สึกว่าเข้ามาแล้วเปล่าประโยชน์น่ะสิ สู้พูดดีๆ กับคนดีๆ แล้วคุยกันได้ดีกว่า”
“ดูแล้วเธอน่าจะไว้ใจได้นะ”
“เราไม่อยากให้เธอคิดอย่างนั้น”
“ทำไม”
“คนเราไม่ควรไว้ใจใครง่ายๆ ดูเค้าให้ลึกซะก่อน ค่อยไว้ใจ”
“ขอบใจ เราขอถามความจริงซักอย่างจากเธอได้มั้ย”
“อะไรล่ะ แล้วไม่คิดว่าเราจะหลอกเหรอ”
“ไม่อ่ะ คือว่าจะถามว่าเธอเป็นผู้หญิงรึผู้ชาย”
“ให้ทาย”
“ทอม/ดี้/กระเทย/ประเทือง/ตุ๊ด/เกย์/เลสเบี้ยน รึไม่ก็ผู้หญิงรึผู้ชายซักอย่าง ถูกมั้ย”
“ใจคอจะให้เป็นหมดนี่เลยรึไง บอกให้ก็ได้ เราเป็นผู้หญิง”
“จริงรึเปล่า แต่เราเป็นผู้ชายนะ”
“จ้างก็ไม่เชื่อ เธอต้องเป็นผู้หญิงแน่นอน”
“รู้ได้ไง”
“ดูจากการพูด ความคิด ฯลฯ เธอต้องเป็นผู้หญิงแน่ๆ”
“เธอมองดูคนออกนี่”
“แค่ลองวิเคราะห์ดูเฉยๆ”
แล้ววีก็หยุดพิมพ์ตอบไปซักพักนึง เพราะครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่
“ทำไมเงียบไป”
“เปล่า คิดอะไรอยู่นิดหน่อย”
“เราว่าเธอพอจะเป็นคนดี ขอปรึกษาอะไรด้วยหน่อย”
“คิดอย่างนั้นเหรอ ก็ได้ๆ”
“อยากคุยเรื่องที่โรงเรียนเราน่ะ”
“พูด (พิมพ์) มาเลย”
“ก็คือ เราเป็นอะไรก็ไม่รู้นะ ชอบไปทะเลาะกับคนๆ นึงอยู่เรื่อยเลย ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีเรื่องโกรธกัน”
“คนๆ นั้นเคยทำอะไรให้เธอเสียหายรึเปล่า”
“ก็เคยน่ะนะ แต่มันก็ไม่มาก เราก็ไม่ได้คิดเรื่องนั้นแล้วด้วย”
“แล้วจะทะเลาะกันทำไม รึว่าเค้าชวนทะเลาะ”
“เปล่า แต่พักนี้เราก็ไม่ค่อยได้ทะเลาะแล้วล่ะ จะหลบหน้ามากกว่า”
“เธอนี่แปลกๆ นะ เหมือนเพื่อนที่โรงเรียนเราคนนึงเลย”
“เหรอ เธออยู่โรงเรียนอะไรล่ะ”
“ขอโทษนะ ไม่ขอบอก”
“โอเค.ๆ เราเข้าใจ”
“แนะนำให้เอามั้ย เธอไม่ต้องหลบหน้าเค้าหรอก มีอะไรก็พูดกันตรงๆ ไปเลย”
“ก็อยากจะทำอย่างนั้น แต่ทำไมทำไม่ได้ก็ไม่รู้”
“แล้วคนๆ นั้นเป็นผู้ชายรึผู้หญิง”
“ผู้หญิง”
“อ้าว เธอก็เกือบเข้าข่ายเลสฯ  แล้วนะเนี่ย”
“จะบ้ารึไง เราไม่มีทางเป็นเลสเบี้ยนหรอกนะ”
“เธอลองคิดตามเราดูนะ อ่ะ ตอนแรกเธอทะเลาะกับเค้า เพราะเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง แต่เธอก็ไม่คิดโกรธแล้ว แต่ก็ต้องชวนทะเลาะทุกที แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นหลบหน้า เธอลองคิดสิ ว่าทำไมเธอไม่อยากเจอหน้าเค้า”
“ไม่รู้”
“เธอเริ่มรู้สึกสับสนใช่มั้ยล่ะ”
“แต่ที่แน่ๆ ฉันไม่ใช่เลสฯ”
“โอเค.ๆ เธอไม่ใช่เลสฯ ก็ได้ แต่ให้เราเดานะ ต่อไปเธอคงต้องเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันกับคนๆ นั้นแน่”
“ทำไมเธอถึงคิดอย่างนั้น”
“เธอเคยได้ยินคำว่ายิ่งเกลียดยิ่งเจอมั้ย เหมือนกับยิ่งหลบยิ่งเจอไง พอเจอกันบ่อยก็สนิทกันเองแหละ”
“แต่คงไม่ใช่กับคนๆ นี้แน่”
“แล้วแต่จะคิด คงให้คำปรึกษาได้แค่นี้“
“จะไปแล้วเหรอ”
“เปล่า เดี๋ยวมานะ หิวน้ำ”
“แล้วจะรอ”
“นี่ มารึยัง”
“ยังไม่มาอีกเหรอ”
“รอจนจะแก่อยู่แล้วนะ”
“นี่ๆ ไปกินน้ำรึไปไหนเนี่ย”
“โทษที มาแล้วๆ นึกว่าจะไม่รอ”
“ได้ไง ตั้งแต่เล่นมายังไม่เคยเจอใครคุยดีเท่าเธอเลย”
“พูดจริงเหรอ”
“จากใจเลย”
“ขอบใจอีกที”
“ขอ mail หน่อยสิ เผื่อจะไว้คุยกันใน MSN หน่อย”
“อ้ะ...ขอด้วย”
“อ่ะ...”
“อยากคุยกับเธอให้รู้จักกันมากกว่านี้”
“เราไว้ใจเธอนะ เธอไว้ใจเรารึเปล่า”
“ไว้ใจสิ ไม่งั้นคงไม่ให้มาคุยใน MSN หรอก”
“เธอเล่นวันไหนบ้าง”
“ทุกวัน”
“ตอนไหน”
“6 โมง4 ทุ่มขึ้นไป”
“ดึกพอกับเราเลย”
“แต่เราคิดว่ามันจะมีปัญหานิดหน่อย”
“เรื่องอะไร ไม่อยากคุยกับเราเหรอ”
“เปล่า ไม่ใช่อย่างนั้น คือว่าเราคุยกับเพื่อน (เก่า) เราทุกวัน ตั้งแต่เย็นจนดึก แล้วเพื่อนเราก็ไม่ชอบให้ใครเข้ามาคุยด้วยเลย”
“ก็คุยกันคนละห้องกับเราสิ”
“เดี๋ยวเราตอบเพื่อนช้า ไม่เอาอ่ะ”
“งั้นก็ไม่มีหวังแล้วสินะ”
“ยังพอมี แต่เราคิดว่าเธอคงไม่ทำหรอก”
“อะไร”
“คุยดึกกว่านั้น รึจนกว่าเราจะคุยกับเพื่อนเราเสร็จ”
“ดีเลย”
“นี่เธอเอาจริงเหรอเนี่ย เราแค่พูดเล่นนะ”
“ก็เอาจริงน่ะสิ”
“อยากคุยกับเราขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ใช่ คุยกับเธอแล้วเราสบายใจดี”
“ไม่คิดว่าเราจะหลอกเธอบ้างรึไง”
“ไม่”
“ฉันอยากให้เธอคิดซะหน่อย แต่เราน่ะพอจะไว้ใจได้ แต่ถ้าเป็นคนอื่น เราไม่อยากให้เธอคิดอย่างนี้”
“เราก็พอจะดูรู้นะว่าใครดีใครเลว”
“แล้วเราจัดอยู่ในประเภทไหนล่ะ”
“ก็ต้องดีน่ะสิ ถามได้”
“ไม่เข้าใจเล้ย ทำไมเพื่อนเราคนนึงถึงได้เกลียดเรานักหนา”
“คนอย่างเธอมีคนเกลียดด้วยเหรอ”
“มันก็ต้องมีบ้างแหละน่า”
“แต่ก็จะเป็นส่วนน้อย เค้าอาจเข้าใจผิดก็ได้มั้ง”
“เราก็หวังให้มันเป็นอย่างที่เธอพูด”
“นี่ก็ 5 โมงกว่าแล้ว ใกล้ถึงเวลาเพื่อนเธอแล้วสินะ”
“ใช่ๆ  แล้ววันนี้เราจะคุยกันอีกมั้ย”
“ก็อาจจะ ยังไงก็เข้าไปดูก่อนละกัน (ใน MSN)”
“โอเค.”
“ไปล่ะ”
“ไปเหมือนกัน...”
~~End~หก : เพื่อนใหม่ (รึเปล่า)~~
เจ็ด : ไม่คิดว่าจะเจอคนดี
วีเล่น PIRCH กับคนแปลกหน้าเสร็จ ก็รู้สึกแปลกใจที่ยังพอหาคนดีๆ เจอ จากนั้นก็เลยลงมากินข้าวเย็นและขึ้นมาอาบน้ำ แล้วเล่น MSN กับเมย์ต่อ แต่ปรากฏว่าเมย์ Offline อยู่ วีจึงไปเข้าไปหาคนแปลกหน้าที่คุยกันเมื่อตอนบ่ายและเจอพอดี
“เธอ...เข้ามาเร็วจัง แล้วเพื่อนเธอล่ะ”
“เค้ายังไม่มาเลย เราเลยมาคุยกับเธอก่อน”
“เรากำลังคุยกับเพื่อนอยู่พอดี มาคุยด้วยกันเลยก็ได้”
“อ้าวเหรอ โทษที เราว่าไม่ดีกว่า เธอคุยกับเพื่อนไปเหอะ”
“ไม่เป็นไร คุยได้ เค้านิสัยดี”
“ไม่ล่ะ ขอบใจ งั้นเราไปก่อนนะ เดี๋ยวเข้ามาใหม่ตอนดึกๆ”
“เอาอย่างนั้นก็ได้ แล้วเจอกันนะ”
“แน่นอน”
วีลองดูเมย์อีกครั้ง แต่ก็ยังเหมือนเดิมคือ Offline เลยไปคุยกับเอมแทน
“เอมเล่นอยู่รึเปล่า”
“วีเองเหรอ เอมกำลังจะไปคุยด้วยอยู่เลย”
“ใจตรงกันเลยนะ”
“เป็นไงบ้างล่ะ ไปเที่ยววันนี้”
“ก็มีทั้งดีแล้วก็ไม่ดี”
“บอกได้มั้ย...ยังไง”
“ก็...ได้”
“ขอเรื่องไม่ดีก่อน”
“ไม่ดีก็คือ เจอเพื่อนที่โรงเรียนที่ไม่ค่อยถูกกัน”
“แล้วเรื่องดีล่ะ”
“ก็ไปดูหนังกับเมเมไง”
“อ๋อ ที่แท้ก็ไปกับเมย์นี่เอง นึกว่าใคร”
“ขอถามหน่อยสิ เอมเคยเล่น PIRCH บ้างมั้ย”
“เคย แต่ไม่ชอบ เพราะไม่รู้จักคนที่คุยด้วย”
“แต่เมื่อตอนบ่ายๆ วันนี้ วีลองเล่นดู เจอคนดีด้วยล่ะ”
“โชคดีนะ เพราะที่นั่นน่ะหาคนดีได้ยากจะตาย”
“ใช่ ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะเจอหรอก กะจะไประบายซะหน่อย”
“อ้าว แล้ววันนี้ไม่เล่นกับเมย์เหรอ”
“เมย์ไม่อยู่น่ะสิ ไม่รู้ไปไหน นี่ก็จะทุ่มนึงอยู่แล้ว”
“ทุกครั้งเห็นไม่เคยสายนี่”
“นั่นสิ เป็นอะไรรึเปล่าก็ไม่รู้”
“คงไม่หรอกมั้ง”
“เอมยังอยากไปดูหนังกับเราอยู่มั้ย”
“อยากน่ะสิ ถามทำไม”
“ก็นึกว่าจะเปลี่ยนใจ”
“เรื่องอะไรจะเปลี่ยน กว่าจะนัดวีได้ที ลำบากจะตาย”
“ไม่ลำบากหรอก อันที่จริงวีก็อยากเจอเอมบ่อยๆ เหมือนกัน”
“เหมือนกัน แต่คงไม่ได้...ใช่มั้ย”
“อย่าทำเศร้าได้มั้ย”
“เปล่านี่”
“เพื่อให้เอมสบายใจนะ เราสัญญาว่าจะต้องเจอหน้าเอมให้ได้ อย่างน้อยที่สุด...เทอมละครั้ง”
“โหย น้อยจัง แต่ก็ยังดี วีพูดจริงนะ”
“อื้อ”
“เอมมมมมมรักกกกกวีจังงงงงเลยยยยย...”
“เข้าใจๆๆๆๆๆแล้วๆๆๆๆๆ”
“ฮ่าๆๆ”
“เอ๋...รู้สึกว่าเมเมจะมาแล้วนะ”
“งั้นก็ต้องไปแล้วล่ะสิ”
“วีก็ไม่อยากทำอย่างนั้นนักหรอก ดึงเมย์เข้ามาคุยด้วยกันดีมั้ย”
“ไม่ดีกว่า เอมรู้ดีว่าเมย์ไม่ค่อยชอบเอมเท่าไหร่”
“ไม่หรอก คิดมากไปได้”
“ก็มันจริงมั้ยล่ะ...ไปเถอะ เดี๋ยวเมย์จะรอนาน”
“ขอโทษจริงๆ นะเอม แล้ววันหลังค่อยคุยกันอีก”
“ไม่เป็นไร หวัดดี”
“หวัดดี...”
เมื่อออกจากเอมแล้ว วีก็เข้าไปหาเมย์
“มาแล้วจ้า...”
“ไปไหนมาเนี่ย”
“ก็ไปคุยกับคนอื่นก่อน เมื่อกี้เมย์ยัง Offline อยู่นี่”
“ไม่ต้องบอกหรอกว่ากับใคร เพราะเมย์รู้แล้ว”
“รู้ได้ไง”
“เดาเอานะว่าเป็นเอม”
“ถูกเผง”
“ว่าแล้วเชียว คุยกันนานเลยล่ะสิ”
“แป๊ปเดียวเอง แค่ครึ่งชั่วโมงได้”
“งั้นเหรอ วันนี้คุยเรื่องอะไรดีล่ะ”
“ไม่รู้สิ เออ ขอบคุณนะที่ส่งรูปซาซ่ามาให้ วีเปิดดูเมื่อตอนเย็นแล้ว”
“ไม่เป็นไร แค่นี้เอง พี่เราก็ชอบ เลยมีรูปเยอะเลย”
“ขอบจายๆ วันหลังขอประวัติด้วย”
“ได้สิ รอหน่อยละกัน”
วีกับเมย์คุยกันต่อไปเรื่อยๆ จนถึงประมาณ 5 ทุ่มกว่า ก็ลากันไป แล้ววีจึงไปเข้าหาคนแปลกหน้าคนนั้นต่ออีกครั้ง
“เรามาแล้วนะ”
“เธอนี่เอง กำลังรออยู่พอดี”
“หวังว่าคงคุยกับเพื่อนเสร็จแล้วนะ”
“อื้อ รอเธอมาครึ่งชั่วโมงแล้ว”
“โทษที งั้นก็คุยมาได้เลย”
วีกับคนแปลกหน้านั้นคุยกันอย่างถูกคอ แล้วก็เริ่มทำความรู้จักกันมากขึ้น เพราะต่างคนก็ต่างไว้ใจกัน
“เธอบอกชื่อเธอให้เรารู้หน่อยได้มั้ย”
“เราจำได้ เธอเคยบอกว่าจะไม่ได้ความจริง”
“งั้นก็ชื่ออะไรก็ได้ ที่จะพอเรียกแทนคำว่าเธอ”
“ก็ได้ๆ เรียกเราว่าหวานละกัน”
“หวานเหรอ ชื่อเพราะดีนะ”
“แล้วจะให้เราเรียกเธอว่าอะไร”
“เรียกว่า...โอ้ ละกัน”
“หา ว่าไงนะ โอ้เหรอ”
“ทำไมล่ะ ไม่ดีตรงไหน”
“ไม่ใช่ไม่ดีหรอก คือว่า...โอ้ เป็นชื่อของรุ่นพี่ที่เราปลื้มๆ อยู่นะสิ”
“ผู้ชายใช่มั้ย”
“ใช่น่ะสิ ก็ดีเหมือนกันนะ เรียกเธอว่าโอ้ดีกว่า”
“ตกลงตามนั้น”
ทั้ง 2 คนก็เข้าใจกันดีและตกลงกันว่าบอกชื่อที่เพิ่งคิดกันใหม่ไป จากนั้นก็คุยกัน เรื่อยๆ จนล่วงไปถึงตี 3 กว่าๆ
“ไม่ง่วงบ้างรึไงหวาน”
“นิดหน่อย คุยกับโอ้จนลืมเวลาเลย”
“เราเริ่มจาง่วงแล้วน้า”
“เหมือนกัน ม่ายเคยคุยดึกเท่านี้มาก่อนเลย”
“อย่างนี้ไม่เรียกดึกแล้ว เค้าเรียกว่าใกล้จะเช้าแล้ว”
“ไม่อยากเลิกเลย”
“เอาเหอะ พรุ่งนี้ค่อยมาต่อ วันนี้เราต้องตื่นเช้าด้วย”
“กี่โมง”
“8 โมง”
“งั้นก็รีบไปนอนเหอะ ได้นอนแค่ประมาณ 5 ชั่วโมงเอง”
“หวานก็เหมือนกัน อย่านอนดึกบ่อยนะ เดี๋ยวไม่ซาบาย”
“ขอบใจที่ห่วง โอ้ก็เหมือนกันล่ะ”
“อื้อ บ๊ายบายละนะ”
“นอนหลับฝันดีนะโอ้”
“thanks ,you ,too”
~~End~เจ็ด : ไม่คิดว่าจะเจอคนดี~~
แปด : อยู่ใกล้กันนี่นา
เมื่อเลิกคุยกันกับหวานไปแล้ว ทั้งวีและหวานก็รีบเข้านอนทันที เพราะง่วงมากๆ คืนนี้วีไม่ได้ฝันถึงแก้วอีก แต่ฝันถึงว่าได้อยู่โรงเรียนเดียวกับเมย์ แล้วตอนเช้าก็ตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย
“ถ้าฝันได้แบบเมื่อคืนทุกคืนก็ดีน่ะสิ”
ว่าแล้ววีก็อาบน้ำ แล้วลงมาหาอุ้ม
“พี่อุ้มจะไปจ่ายตลาดใช่ป่ะ”
“ค่ะ วันนี้สายไปหน่อย”
“ให้วีไปด้วยคนนะ”
“มันจะดีเหรอคะ มันออกจะลำบากนะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอก แค่นี้เอง”
“ถ้าคุณหนูวีอยากไปก็ได้ค่ะ แต่คุณท่านจะไม่ว่าเหรอคะ”
“พ่อกับแม่คงไม่ว่าหรอก ไปกันเถอะ”
“ค่ะๆ”
อุ้มไปจ่ายตลาดโดยใช้จักรยาน วีเป็นคนซ้อนไป ตลาดก็ห่างจากซอยบ้านวีไปประมาณ 5 ซอย ระหว่างทางในซอยนึงนั้น วีได้เห็นแก้วในบ้านของแก้วโดยบังเอิญ
“นั่นมันแก้วนี่นา บ้านอยู่แถวนี้เหรอไงนะ”
“เพื่อนคุณหนูวีเหรอคะ”
“อื้อ พี่อุ้มรู้มั้ยว่าซอยนี้ซอยอะไร”
“ซอย 8 ค่ะ”
“ก็ห่างจากบ้านเราแค่ 23 ซอยเองนี่”
“ค่ะ”
พอไปถึงตลาด วีกับอุ้มก็ลงไปซื้อของด้วยกันและช่วยกันถือของ
“เอามาให้วีถือมั่งสิพี่อุ้ม”
“พี่ถือได้ค่ะ”
“เอามาเถอะน่า มันหนักจะตาย ถือคนเดียวจะไหวได้ไง”
“ขอบคุณนะคะ”
“แค่นี้เอง จิ๊บจ๊อย”
พอจ่ายตลาดเสร็จก็กลับบ้าน คราวนี้วีได้เห็นหน้าแก้วอย่างชัดเลยแน่ใจว่าบ้านของแก้วอยู่ตรงนี้ เมื่อกลับถึงบ้านก็ช่วยอุ้มทำกับข้าวและกินอาหารเช้าพร้อมกับพ่อแม่
“พ่อกับแม่อยู่บ้านใช่มั้ยคะวันนี้”
“ตอนบ่ายต้องบินไปสัมมนาที่เชียงใหม่น่ะลูก”
“อีกแล้วเหรอคะ แล้วกี่วันล่ะคราวนี้”
“อาทิตย์เดียวเอง แต่พอเสร็จที่เชียงใหม่ แม่กับพ่อก็จะต้องไปต่อที่สิงค์โปร์เลยน่ะ”
“ตั้งอาทิตย์นึงแน่ะ แถมยังไปต่ออีก”
“เอาเถอะน่า มีพี่อุ้มอยู่แล้วนี่...อุ้ม ดูแลวีแทนฉันด้วยนะ”
“ค่ะ คุณท่าน”
เมื่อถึงตอนบ่ายพ่อกับแม่จึงเตรียมตัวไปที่สนามบิน
“กลับมาเร็วๆ นะคะ”
“อยู่บ้านดีๆ ล่ะลูก”
“แม่ไปแล้วนะ จะรีบกลับ”
“หวัดดีค่ะแม่ หวัดดีค่ะพ่อ”
~~End~แปด : อยู่ใกล้กันนี่นา~~
เก้า : รถไฟชนกัน
จากนั้นวีก็เข้าบ้านมาทำการบ้านและบอกเรื่องที่จะค้างบ้านเอมพรุ่งนี้ให้อุ้มฟัง ในเชิงที่จะขออนุญาต
“พี่อุ้ม พรุ่งนี้วีขอไปนอนค้างที่บ้านเพื่อนนะคะ”
“ค้างเลยเหรอคะ พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าคุณท่านอยู่จะอนุญาตรึเปล่า”
“วีเคยลองบอกกับพ่อแม่ไว้บ้างแล้ว นะคะ ให้วีไปเถอะ”
“แล้วบ้านเพื่อนคุณหนูวีอยู่ไกลมั้ยคะ”
“ก็ไม่ไกลหรอก แต่ว่าต้องนั่งรถไป”
“จะไปยังไงล่ะคะ”
“ก็ตอนเย็นๆ วีจะไปที่บ้านเพื่อนเลย จะไปติวเลขน่ะ แล้วตอนเช้าวันอังคารตอนประมาณตี 5 กว่าๆ ก็ให้ลุงช่วยไปรับแล้วก็ไปส่งที่โรงเรียนเลย ได้มั้ยล่ะ”
“เพื่อนคุณหนูวีไว้ใจได้นะคะ”
“แน่นอน เพื่อนสนิทน่ะ”
“ก็...แล้วแต่คุณหนูวีเถอะค่ะ พี่คงจะพูดว่าอนุญาตรึไม่อนุญาตไม่ได้หรอก”
“ขอบคุณนะพี่อุ้ม”
“.....”
เช่นเคยว่าวันนี้วีต้องเล่น MSN แต่ว่าเป็นเรื่องน่าประหลาดที่ไม่ดีเท่าไหร่สำหรับวี นั่นก็คือทั้งเมย์ เอมและหวานเข้ามาพร้อมกันเลย วีทำอะไรแทบไม่ถูก เรียกตัวเองกับคนที่คุยด้วยผิดบ้างถูกบ้าง จนเมย์ หวานและเอมสงสัย เลยต้องเคลียร์กันให้รู้เรื่อง ก็กินเวลานานกว่าจะเสร็จ
“เรารู้หน้าที่ดี แล้วจะเข้ามาใหม่ตอนประมาณ 4 ทุ่มนะ”
“ขอโทษด้วยนะ แล้วเจอกัน”
“อื้อ”
เมื่อหวานไปแล้ว วีก็มาคุยกับเอมและเมย์ที่คราวนี้ต้องมาอยู่ด้วยกันทั้ง 3 คน
“มาแล้วๆ”
“อือๆ เมย์ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากคุยกับวีนิดหน่อย แต่ถ้าเอมจะคุยล่ะก็ เราบายแล้วนะ เชิญเถอะ”
“เดี๋ยวสิเมย์ จะรีบไปไหน”
“นั่นสิ คุยกับวีก็ได้ เอมไม่มีอะไรเหมือนกัน”
แต่ปรากฏว่าเอมได้ออกไปจากที่นั่นเรียบร้อยแล้ว
“เฮ้อ เมย์นี่ขี้งอนจริงๆ นะ คราวนี้ ไปจริงเลยด้วย Offline ไปเลย”
“ก็ไม่ต่างจากเอมเท่าไหร่หรอก”
“นี่ เอมไม่ขี้งอนขนาดนั้นหรอก”
“แต่มากกว่านั้นซะอีก”
“เออๆ เอาเลย”
“นั่นไง เริ่มจะงอนแล้วไง”
“ไม่เอาแล้ว เลิกๆ มาพูดถึงเรื่องพรุ่งนี้ดีกว่า”
“พรุ่งนี้...อะไรเหรอ”
“นี่ลืมจริงๆ รึว่าแกล้งลืมเนี่ย”
“ล้อเล่นน่า แกล้งลืมหรอก”
“ตกลงว่ายังไง บอกแผนมาหน่อยซิ”
“ก็เริ่มจากเจอกันที่โรงเรียนเก่าตอน 4 โมง แล้วถึงที่โรงหนังก็ดูหนัง 2 เรื่อง ถึงประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ แล้วก็ไปนอนค้างที่บ้านเอม แล้วพอตอนเช้า ตี 5 ครึ่ง ลุงช่วย (คนขับรถที่บ้าน) ก็จะมารับวีที่บ้านเอมแล้วพาไปส่งที่โรงเรียนเลย”
“อื้อ เป็นแผนที่ดีมากที่สุดเลย”
“มีเรื่องอะไรอีกมั้ย”
“ก็ไม่มีนี่ บอกแค่นี้แหละ อย่าผิดนัดนะ ไม่งั้นโป้งด้วย”
“โอ๋ๆ ไม่ผิดนัดหรอกจ้ะ ไปนะ”
“บาย...”
~~End~เก้า : รถไฟชนกัน~~
สิบ : ฝันที่ไม่อยากให้เป็นจริง
หลังจากนั้นวีก็เห็นว่ายังไม่ถึง 4 ทุ่ม เพิ่งจะ 2 ทุ่มครึ่งเอง ก็เลยไปนอนพักก่อนเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า แล้วก็ปลุกนาฬิกาไว้ตอน 4 ทุ่ม เพื่อจะตื่นมาคุยกับหวานตามที่สัญญาไว้
ในขณะที่วีนอนหลับไปนั้นก็ฝัน วีฝันถึงเรื่องบางอย่าง (ต่อไปนี้เป็นช่วงความฝัน)
“ไหนๆ ก็คุยกันมานานแล้ว เราอยากเจอหน้าหวานจัง”
“จะเอาจริงเหรอ เรากลัวว่าโอ้เจอหน้าเราแล้วจะตกใจน่ะสิ”
“ทำไมเหรอ หน้าหวานใกล้เคียงกับผีเลยรึไง”
“ประมาณนั้น”
“เราไม่สนหรอก นะๆ ได้มั้ย”
“ก็ได้ๆ เจอกันที่ไหนล่ะ บ้านเราอาจจะไม่ได้อยู่ใกล้กันก็ได้นะ”
“แล้วบ้านหวานอยู่แถวไหนล่ะ”
“แถวๆ บางพลัดน่ะ”
“จริงอ่ะ เราก็เหมือนกัน”
“งั้นก็นัดเจอใกล้ๆ เนี่ยแหละ”
“เจอกันที่เซ็นฯ ปิ่นฯ ได้มั้ย”
“ไม่ใกล้แล้วก็ไม่ไกล”
“เอาตามนี้ละกัน”
“โอเค. บ๊ายบาย”
“บาย...”
วีกับหวานนัดเจอกันที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ทั้งคู่นัดกันมาว่าจะใส่เสื้อสีอะไรกัน วีนั้นใส่สีน้ำเงิน ส่วนหวานใส่สีฟ้า เมื่อไปถึงที่ก็รอกันอยู่นาน วีและหวานก็ดูนาฬิกาบ่อยๆ กันทั้งคู่
“หวานจะมามั้ยเนี่ย”
“มารึยังเนี่ยโอ้ ช้าจัง”
วีมองไปรอบๆ ก็สะดุดอย่างนึงตรงที่เห็นแก้ว แต่ไม่ได้คิดอะไร เพราะที่นี่มีคนมาเที่ยวเยอะ แต่พอดูดีๆ ก็เห็นว่าแก้วยืนอยู่คนเดียว ดูนาฬิกาบ่อยเหมือนรอใครซักคนและที่สำคัญแก้วใส่เสื้อสีฟ้า
“เป็นไปไม่ได้หรอกน่า แก้วจะเป็นหวานได้ไง ฮ่าๆ...”
ขณะเดียวกัน สายตาของแก้วก็มาเจอะวีพอดี เลยเกิดอาการอยากจะหลบหน้าเหมือนเคย แต่จำคำของโอ้ได้ ที่เคยแนะนำว่าอย่าหลบหน้า มีอะไรก็พูดๆ กันไปเลยจะดีกว่า แก้วจึงตัดสินใจเดินเข้ามาหาวี ท่ามกลางความงุนงงของวีที่มีอยู่ไม่น้อย
“สวัสดี”
“ห...หวัดดีแก้ว”
“.....”
“ม...มาทำอะไรเหรอ”
“รอเพื่อนน่ะไม่รู้ไปอยู่ไหน ยังไม่มาเลย”
“เราก็มารอเพื่อนเหมือนกัน”
“งั้นก็ขอนั่งด้วยคนนะ”
“ได้สิ ตามสบาย”
ในตอนแรกแก้วก็ไม่ได้คิดเอะใจอะไร แต่ไปๆ มาๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าโอ้จะใส่เสื้อสีน้ำเงินซึ่งวีเองก็ใส่สีนี้เช่นกัน แต่คิดว่าบังเอิญ เมื่อรอนานๆ เข้าทั้ง 2 คนก็ชักทนไม่ไหว
“โอ้เค้าไปไหนของเค้านะ รอนานแล้วนะ”
“หวานก็เหมือนกัน ผิดนัดแน่เลย”
“เดี๋ยวๆ เมื่อกี้พูดว่าหวานเหรอ”
“แล้วเมื่อกี้อะไรโอ้ๆ นะ”
“อย่าบอกนะว่าเธอคือโอ้”
“แล้วเธอก็อย่าบอกนะว่าเธอคือหวาน”
“โอ้ ไม่นะ...”
~~End~สิบ : ฝันที่ไม่อยากให้เป็นจริง~~
หลังจากที่ผ่านพ้นการเรียนชั้น ป.6 มาแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่นักเรียนรุ่นนี้จะก้าวขึ้นมาเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อย่างเต็มตัว คนที่ผ่านเข้ามาก็มีหลายประเภท สอบเข้ามาบ้าง โควต้าจากโรงเรียนเก่าบ้าง เด็กฝากบ้าง ความสามารถพิเศษบ้าง สำนักพระราชวังบ้าง ฯลฯ ในส่วนของโควต้านั้นต้องเป็นนักเรียนที่เรียนเก่งจริงๆ ถึงจะได้คัดเลือกมา วีกับแพรวก็เป็น 1 ในนั้น มากที่สุดก็คงจะเป็นสอบเข้ามา ซึ่งแก้วเป็นคนที่สอบผ่าน
    ชื่อของทั้ง 3 คนที่ปรากฏนี้ เป็นบุคคลที่มีความสำคัญมาก จะเล่าประวัติคร่าวๆ ของแต่ละคนให้ฟังละกัน
    วี...วีรธิดา  วรศรัณย์ อายุ 13 ปี (ม.1) หนัก 48 กก. สูง 168 ซม. เกิดวันที่ 19 เมษายน พ.ศ.2531 ชอบสีน้ำเงิน เขียว...รู้จักกับแพรวเพราะเคยอยู่โรงเรียนเดียวกันตอนประถม แต่ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกัน ความสามารถพิเศษคือเล่นวอลเล่ย์บอล (เก่งมาก) เทควันโด้ (สายดำ) เรียนตอนประถมได้เกรด 4 ทุกวิชามาตลอด สอบไม่เคยได้เกินที่ 5 ตั้งแต่ ป.1 ยัน ป.6 เป็นคนอารมณ์ดี เฮฮา ขี้สงสาร ใจอ่อน เข้ากับคนได้ง่าย รักเพื่อน แต่ถ้าเกลียดใครล่ะก็เกลียดเข้ากระดูกดำเลยแหละ
    แพรว...สะคราญกมล  อุทัยศรี อายุ 13 ปี (ม.1) หนัก 43 กก. สูง 164 ซม. เกิดวันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2531 ชอบสีชมพู เหลือง...รู้จักกับวีเพราะเคยเห็นหน้ากันตอนอยู่โรงเรียนเก่า แต่ไม่ได้สนิทกัน ความสามารถพิเศษคือ เรียนเก่งมากถึงมากที่สุด สอบชิงทุนติดทุกปี ด้านกีฬาเก่งแบดมินตันกับว่ายน้ำ นิสัยดี เป็นคนน่ารัก ออกจะเอาแต่ใจตัวเองบ้างนิดหน่อย ขี้แงพอสมควร แต่พอได้มาสนิทกับวีก็ดีขึ้น จริงๆ แล้วไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร
    แก้ว...จรีนา  สิริสิงห อายุ 13 ปี (ม.1) หนัก 45 กก. สูง 165 ซม. เกิดวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2531 เป็นลูกครึ่ง (ไทย-สเปน) หน้าตาออกจะอินเตอร์ฯ หน่อยๆ ชอบสีเทา ฟ้า...ไม่รู้จักทั้งวีและแพรวเพราะมาจากโรงเรียนอื่นและใช้วิธีสอบเข้ามา มีเพื่อนจากโรงเรียนเก่าตามมาเยอะ เลยตั้งเป็นแก๊งขึ้นมา มีสมาชิกมากมายนับไม่ถ้วน แก้วอยู่ในระดับหัวหน้าๆ เลยทีเดียว ในตอนแรกจะไม่ถูกกับวีและแพรว โดยเฉพาะกับวี เจอหน้าต้องทะเลาะกันตลอด ที่จริงเป็นคนดี มีเหตุผล แต่ขี้งอน จริงจังกับบางเรื่อง เป็นคนสนุกสนาน รักเพื่อนในกลุ่มมาก แต่ถ้าคนไม่รู้จักอย่าหวังเลยว่าจะได้คุยกับแก้วง่ายๆ เพราะแรกๆ นั้นแก้วหยิ่งพอสมควร การเรียนดี ความสามารถพิเศษคือ เล่นดนตรีสากลเป็นทุกอย่าง แต่เจ้าตัวไม่เปิดเผยให้ใครฟัง เพราะเบื่อเนื่องจากถูกยัดเยียดให้เรียนตั้งแต่ตอนเด็กๆ
    เมื่อได้รู้ประวัติทั้ง 3 คนไปแล้วมากพอสมควร ก็เตรียมเข้าเรื่องได้เลยนะ
    วันนี้เป็นวันเปิดภาคเรียนวันแรกของโรงเรียนนี้ สำหรับรุ่นน้อง ม.1 อาจจะดูใหม่หน่อย ไม่ค่อยคุ้นกับสถานที่ แต่ก็พอเดาๆ ทางไปได้ เพราะโรงเรียนก็ไม่ได้ลึกลับซับซ้อนอะไรนัก วันแรกนี้ อ. แต่ละวิชายังไม่สอนอะไร เพียงแค่แนะนำสิ่งใหม่ๆ ให้นักเรียนได้รู้จักก่อน อ. บางคนก็ให้นักเรียนแต่ละคนแนะนำตัวเอง สำหรับการจัดที่นั่งนั้น ก็นั่งกันตามใจชอบ ใครจะนั่งกับใครก็นั่ง แน่นอนอยู่แล้วว่าแก้วจะต้องจับกลุ่มกับเพื่อนเก่านั่งเป็นกลุ่มเป็นก้อนอยู่หลังห้องทั้งแถบ ส่วนวีกับแพรวพอจะเคยเห็นหน้ากันบ้างก็เลยตกลงนั่งด้วยกัน แล้วทำความรู้จักกัน เหมือนตั้งต้นเริ่มจากศูนย์ใหม่ เพราะอยู่โรงเรียนเก่าไม่เคยพูดคุยกันเลย
    “หวัดดี...เราชื่อแพรวนะ”
    “หวัดดี...เราชื่อวี มาจากที่เดียวกันใช่มั้ยเนี่ย”
    “ใช่ เราเคยเห็นหน้าเธอ”
    “เราก็เหมือนกัน”
    “มาเป็นเพื่อนกันเถอะนะ”
    “ได้สิ...ไม่มีปัญหา”
    ส่วนทางด้านแก้ว เป็นกลุ่มแก๊งนักเรียนหญิงที่มีอิทธิพลมาก เรียกได้ว่าเกือบทุกห้องที่รู้จักชื่อแก้วกันไปทั่ว แต่แก้วไม่ได้ทำตัวซ่า รึทำผิดกฎของโรงเรียนเลย ก็จะมีแต่เพื่อนๆ ในกลุ่มที่ชอบยุให้แก้วแหกกฎบ่อยๆ แต่แก้วก็เลี่ยงเสมอ ไม่ยอมทำตาม
    “กูบอกมึงแล้วไงไอ้แก้ว ว่าให้พับกระโปรงขึ้นมา แล้วก็ดึงถุงเท้าขึ้นมาสูงๆ แค่นี้ทำไม่ได้รึไงวะ”
    “แกไม่ใช่แม่ฉันนี่ ทำไมฉันต้องเชื่อแกด้วย อีกอย่างทำอย่างนั้นฉันไม่ชอบนี่หว่า”
    “วะ ไอ้นี่ อยู่กลุ่มเดียวกันรึเปล่าวะเนี่ย”
    “ใช่น่ะใช่ ฉันอยู่กลุ่มเดียวกับแก แต่ฉันไม่อยากทำตามว่ะ แค่เรื่องผมอย่างเดียวก็พอแล้ว”
    “เออๆ เรื่องของมึงเหอะ กูไม่อยากพูดแล้ว เปลืองน้ำลายชิบเป๋ง ไม่เคยจะฟังเล้ย”
“คิดได้อย่างนี้ตั้งนานก็ดี”
“เออ...กูขออีกเรื่องเถอะ พูดมึงกูไม่ได้เหรอวะ แกกับฉันมันดูเพราะเกินไป”
“ยุ่งกับฉันอีกแล้ว ฉันให้แกเลิกพูดกูมึงจะได้มั้ย”
“กูไม่เถียงแล้วก็ได้วะ พูดกับมึงทีไร กูปวดหัวทุกที”
“ช่วยไม่ได้ ไปเถอะไปนั่งได้แล้ว เรียกไอ้พวกนั้นมาด้วย”
ไอ้พวกนั้นที่แก้วหมายถึงก็คือคนในกลุ่ม นับแค่ในห้องนี้ก็มีทั้งหมด 9 คนรวมแก้วด้วย เกินครึ่งของผู้หญิงในห้องซะอีก คนในกลุ่มของแก้วรักกันมาก เรียกได้ว่าไม่ทิ้งกัน แต่ทุกคนก็ล้วนแสบๆ ซ่าๆ กันทั้งนั้น ตั้งแต่หัวจรดเท้านี่ผิดระเบียบของโรงเรียนตลอด แต่โรงเรียนนี้ไม่ได้เข้มงวดเรื่องผม นักเรียนจะทำยังไงกับผมก็ได้ แต่อย่างอื่นก็มีทำโทษเหมือนกัน เพื่อนแก้วเข้าห้องปกครองกันบ่อยๆ ที่โรงเรียนเก่า เมื่อถึงเวลาพักกลางวัน กลุ่มแก้วทั้งหมดก็เดินไปกินข้าวด้วยกัน บางวันก็มีเพื่อนเก่าห้องอื่นมาร่วมแจมด้วย ทำให้ดูเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดของโรงเรียน ไม่มีใครกล้าหือด้วย ทำให้แก้วกลายเป็นคนที่ popular มากใน ม.1 และเกือบทั้ง ม.ต้น พวกผู้ชายที่ใจถึงก็พากันมาจีบแก้วมากมาย ถึงแม้ว่าวันนี้จะเป็นวันแรกของการเปิดเรียนก็ตาม หลายคนก็รู้จักแก้วซะแล้ว แต่แก้วไม่สนใจใครซักคน ส่วนวีนั้นก็ไปกินข้าวกับแพรวกันแค่ 2 คน ในความคิดของวีนั้นดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยชอบแก้วเอาซะเลย เพราะอยู่ในกลุ่มคนไม่ธรรมดา แต่ก็ไม่ได้มีอคติอะไรมากมาย
“กินข้าวอิ่มแล้วไปไหนกันต่อดีล่ะแพรว”
“เราว่าไปเรียนต่อดีกว่า เดี๋ยวจะหาห้องไม่เจอ”
“ต่อไปเรียนอะไรล่ะ”
“เดี๋ยวดูตารางสอนก่อนแป๊ปนึงนะ อ้อ...เรียนวิทย์น่ะ”
“วิทย์...แล้วห้องมันอยู่ไหนล่ะเนี่ย”
“ไม่รู้สิ เค้าเขียนว่าห้อง ว.8”
“เดินหาเดี๋ยวก็คงจะเจอเองนั่นแหละ ไปกันเถอะ อิ่มแล้ว”
มันไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิดซะแล้ว ที่จะหาห้องวิทย์เจอ วีลองถามรุ่นพี่ดู เค้าก็แค่ชี้ๆ ทางให้ แต่วีก็ไม่รู้เรื่องอยู่ดี วีเริ่มรู้สึกหงุดหงิดเพราะใกล้เข้าเวลาเรียนแล้ว จึงรีบเดินอย่างไม่ระวัง เลยไปชนกับแก้วเข้าอย่างแรง ข้าวของๆ แก้วก็ตกพื้นหมด วีรีบมากจนไม่ได้สนใจก็เลยพูดไปแค่คำขอโทษอย่างรีบๆ
“โทษทีๆ”
แล้ววีก็เดินไปเฉยๆ โดยที่ไม่รู้ว่าชนใคร แก้วก็เลยอารมณ์เสีย กะว่าจะด่าวีอยู่แล้ว แต่วีเดินไปซะก่อน จึงได้แต่พูดด่าวีอยู่คนเดียว
“เฮ้ย อะไรวะ ชนกันแล้วเดินหนีไปเฉยเลย ไม่ช่วยกันซักนิด แกรู้รึเปล่าวะไอ้ฝน ว่าไอ้คนที่มันชนฉันเมื่อกี้เป็นใคร”
“รู้สิ ก็คนที่ชื่อวีรธิดา ห้องเราไง เห็นเค้าบอกว่าเรียนเก่งนะ”
“เรียนเก่งแต่จิตทรามก็ไม่ไหวว่ะ”
“เค้าอาจจะไม่ได้ตั้งใจก็ได้มั้ง”
“แม่ง อย่าให้ฉันด่าถึงโคตรเหง้านะโว้ย รู้จักไอ้แก้วน้อยไปซะแล้ว”
“เถอะน่าๆ ปล่อยวางซะบ้างเถอะ มึงเนี่ย”
“เออๆ รีบไปกันเถอะ เกินเวลามามากแล้ว”
ในที่สุดก็ผ่านคาบวิทย์ไปแล้วครึ่งชั่วโมง พวกนักเรียนเพิ่งจะมาถึงกัน เพราะเป็นห้องที่หาเจอยากมาก
“เฮ่อ เจอซักที แม่งจะสร้างห้องไว้เรียนรึทำเป็นค่ายกลกันแน่วะ”
“ใจเย็นๆ หน่อยไอ้แก้ว มึงน่ะโมโหเรื่องอื่นแล้วอย่าพาลสิวะ”
“เออ ฉันเลิกแล้วก็ได้ แกช่วยเตือนฉันหน่อยนะ ถ้าฉันจะเผลอไปด่าเค้าน่ะ”
“เดี๋ยวกูเตือนมึงเอง”
คาบนี้อ. ไม่ได้สอนอะไร แต่ให้ทำแบบทดสอบก่อนเรียน ซึ่งก็ทำเสร็จกันเร็วมาก จึงคุยกัน วีสังเกตได้ว่าแก้วมองวีด้วยสายตาแปลกๆ วีเลยคุยกับแพรว
“แพรวๆ วันนี้เราไปทำอะไรให้กลุ่มแก้วบ้างรึเปล่า”
“รู้สึกว่าจะใช่นะ ตอนที่เดินหาห้องวิทย์ไง วีเดินชนแก้วน่ะ”
“อ๋อ คนที่เราเดินชนก็คือแก้วเองเหรอ”
“เราว่าวีน่าจะไปขอโทษแก้วซักหน่อยนะ”
“ไว้พรุ่งนี้ละกัน ดูท่าตอนนี้จะอารมณ์ไม่ดี”
“โอเค.ๆ พรุ่งนี้”
“หวังว่าแก้วเค้าคงไม่คิดจะเป็นศัตรูกับเราหรอกนะ”
“ทำไมวีถึงคิดอย่างนั้นล่ะ”
“ก็สายตาของแก้วที่มองเรา มันเหมือนกับคิดจะฆ่ากันเลยนี่นา”
“คิดมากไปรึเปล่า เค้าคงไม่คิดถึงขนาดนั้นหรอก”
“ไม่รู้สิ...หมดเวลาพอดี ไปเรียนต่อเถอะ รู้สึกว่าจะเป็นภาษาไทย”
“เรียนที่ห้องใช่มั้ย ค่อยยังชั่วหน่อย”
เมื่อจบคาบวิทย์ ก็เดินกลับห้องเรียนภาษาไทยต่อ แล้วก็ต่ออีก 2 คาบ เมื่อจบการเรียนของวันแรก วันนี้ก็ยังไม่มีการบ้าน เมื่อถึงเวลากลับบ้าน วีก็เดินไปกับแพรว ส่วนแก้วก็เดินไปกับเพื่อนๆ กลุ่มเดิม
“วีกลับยังไงเหรอ”
“ก็กลับรถเมล์น่ะ ฝั่งโน้น...แพรวล่ะ”
“พ่อมารับ แต่ก็ฝั่งโน้นเหมือนวี”
“งั้นก็ไปรอด้วยกันเลยสิ”
บังเอิญว่าแก้วกับเพื่อนๆ ก็มารอที่ป้ายรถเมล์ใกล้ๆ กับวีและแพรวเช่นกัน แต่เพื่อนๆ ในกลุ่มของแก้วไม่มีใครกลับสายเดียวกับแก้วเลย พวกเพื่อนๆ ของแก้วกลับไปหมดแล้ว เหลือแต่แก้วคนเดียว
“เออ...วี เราไปแล้วนะ พ่อมาแล้ว”
“โชคดี บาย...”
ตอนนี้ก็เหลือแต่แก้วกับวีแค่ 2 คนที่ป้ายรถเมล์ แล้วทั้งคู่ก็สังเกตเห็นกัน แก้วนั้นยังโกรธเรื่องเมื่อกลางวันไม่หาย วีเองก็ยังจำได้ จึงคิดที่จะเข้าไปขอโทษแก้ว
“เอ่อ...เราขอโทษนะ ที่เมื่อกลางวันเดินชนน่ะ”
“.....”
“นี่ เราขอโทษ...”
“.....”
“แค่เดินชนทำไมต้องโกรธขนาดนี้ด้วย”
“ไม่ได้โกรธ...แต่ไม่ชอบ”
แก้วพูดแค่นั้นแล้วก็เดินหนีไป ในใจของวีที่ไม่ค่อยชอบแก้วอยู่แล้วยิ่งไม่ชอบเข้าไปใหญ่ เมื่อรถเมล์มาวีก็รีบขึ้นที่ประตูหน้า โดยที่ไม่รู้เลยว่าขึ้นคันเดียวกับแก้ว เพราะแก้วขึ้นประตูหลัง พอมาเจอกันก็แปลกใจ
“ขึ้นสายเดียวกันเหรอเนี่ย”
“ก็ใช่น่ะสิ ไม่งั้นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอจะเป็นใครล่ะ”
“เราถามดีๆ ตอบให้ดีๆ บ้างไม่ได้รึไง”
“เธอไม่ได้เกี่ยวดองอะไรกับฉันนี่ ทำไมต้องเชื่อฟังเธอด้วย”
“เออ ทีหลังเราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาพูดด้วยอีก”
“ดี”
ดูเหมือนว่าตอนนี้วีกับแก้วไม่ถูกกันซะเลย เมื่อถึงที่หมายแก้วก็ลงป้ายไป ส่วนวีก็ลงป้ายถัดจากแก้ว วีรีบเดินกลับบ้านเพราะจะรีบกลับไปเล่น MSN เหมือนที่เคยทุกวัน เมื่อเข้าบ้านไปก็เจอกับคนรับใช้ (พี่เลี้ยง) ที่คอยมารับใช้ จนวีนึกเบื่อในความสุขสบายมากเกินไป แต่ก็ต้องทนไป เพราะเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ ครอบครัวของวีมีฐานะดีมาก พ่อแม่รวย แต่วีก็ไม่เคยนึกอยากทำตัวเป็นคุณหนู อวดความร่ำรวย
“หวัดดีพี่อุ้ม หวัดดีป้าเรือน”
“สวัสดีค่ะคุณหนู ทำไมวันนี้กลับเร็วจังล่ะคะ”
“ก็มันเปิดเรียนวันแรก อ. เค้าปล่อยเร็ว”
“ขึ้นไปอาบน้ำก่อนเถอะค่ะ แล้วค่อยลงมากินข้าวพร้อมคุณท่าน”
“อ้าว พ่อกับแม่กลับมาแล้วเหรอ”
“ยังหรอกค่ะ แต่เมื่อกี้คุณท่านโทร. มาบอกว่า อีกประมาณชั่วโมงจะกลับถึงบ้าน”
“อ้อ...เหรอ”
“พี่เตรียมอะไรไว้ให้เรียบร้อยแล้วนะคะ”
“ขอบคุณ ทีหลังวีทำเองก็ได้พี่อุ้ม”
~~End~หนึ่ง : เริ่มต้นด้วยความยุ่งเหยิง~~
สอง : คิดถึงเพื่อนเก่า
วีแทบจะไม่ต้องทำอะไร เพราะมีพี่เลี้ยงคอยทำทุกอย่างให้ ปีนี้ก็เป็นปีแรกที่วีมีอิสระมากขึ้น เพราะที่ผ่านมา แม้แต่แต่งตัว ก็ให้พี่เลี้ยงแต่งให้ พอถึงตอนนี้หัดทำเองบ้างก็รู้สึกไม่วุ่นวายดี เมื่อวีอาบน้ำเสร็จก็จัดตารางสอน แล้วลงมาเตรียมจะกินข้าว พ่อกับแม่ก็กลับมาพอดี
“หวัดดีค่ะแม่ หวัดดีค่ะพ่อ”
“กลับมาแล้วเหรอลูก เป็นไงบ้างเปิดเรียนวันแรก”
“ก็ดีค่ะ”
“มีเพื่อนบ้างรึยังล่ะ”
“อย่างวีต้องมีอยู่แล้วค่ะพ่อ”
“ทำเป็นคุยไป เลือกเพื่อนที่ดีๆ นะลูก เดี๋ยวพากันไปเกเรียน”
“วีมองคนออกน่าพ่อ ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก”
“เอาเถอะๆ กินข้าวเลยดีกว่า”
หลังจากที่กินข้าวเสร็จ พ่อกับแม่ของวีก็ดูทีวีซักพัก แล้วก็ขึ้นไปอาบน้ำ แล้วก็เข้าห้องนอนเลย ส่วนวีก็ขึ้นห้องไปเล่น MSN กับเพื่อนเก่า เมื่อเข้าโปรแกรมไปได้แล้ว ก็เริ่มเล่นเลย
“หวัดดี เมเม”
“นึกว่าลืมซะแล้ว”
“จะลืมได้ไง ก็เล่นอยู่ทุกวัน”
“แต่วันนี้สายไปตั้งครึ่งชั่วโมงนะ”
“โทษทีๆ เพิ่งกินข้าวเสร็จ”
“โรงเรียนเปิดวันแรกเป็นไงบ้างวี”
“ดี แต่ไม่ดีเท่าตอนอยู่กับเมย์”
“มีเพื่อนเก่าอยู่ห้องเดียวกันบ้างมั้ย”
“ไม่มี แต่มีเพื่อนเก่าห้องอื่น”
“ใคร”
“แพรว...รู้จักมั้ย”
“ใช่ สะคราญกมล รึเปล่า”
“อือ”
“รู้จักสิ เพื่อนเก่าเมย์เอง”
“นิสัยเป็นยังไง”
“ก็ดีนะ แต่ว่าขี้แงไปหน่อย ออกคุณหนูนิดๆ ด้วย”
“เหรอ...แล้วเมย์ก็เปิดวันนี้ไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ ห้องเมย์มีเพื่อนโรงเรียนเก่าเต็มเลย”
“เมย์อยู่สตรีวิทฯ ใช่มั้ย”
“อือ”
“ดีจัง”
“ตรงไหน”
“ผู้หญิงเยอะดี”
“ทำอย่างกับเป็นพวกผู้ชายไปได้”
“ทำไม อย่างน้อยวีก็ไม่ได้เป็นเลสฯ ละกัน”
“โกหก”
“พูดจริง”
“ไม่เชื่อ”
“ตามใจ ไม่ได้เป็นซะหน่อย”
“เปลี่ยนเรื่องดีกว่า”
“เรื่องอะไรดีล่ะ”
“ก็อย่างเช่น...”
“อะไร”
“คิดถึงวีจัง”
“จริงอ้ะ”
“จริงสิ เมย์อยากจะโทร. หาวี เออใช่ เบอร์มือถือวีเบอร์อะไร”
“09-xxx-xxxx”
“ของเมย์ 06-xxx-xxxx นะ”
“เปลี่ยนเบอร์แล้วเหรอ”
“เครื่องเก่าหาย เปลี่ยนเครื่องเมื่อเดือนที่แล้วเอง”
“แล้วจะโทร. หาทุกวันเลย”
“ให้มันจริงเถอะ”
“คนอย่างวีเคยผิดสัญญาเหรอ”
“เคย”
“เอาเป็นว่าต่อไปจะไม่ผิดสัญญาแน่นอน”
“เล่น MSN กับคนอื่นบ้างรึเปล่า”
“ก็มี แต่บางวันเท่านั้นแหละ เสาร์-อาทิตย์ น่ะ”
“กับใครเหรอ บอกได้มั้ย”
“กับพลอย เอม ทราย จุ๊ หยา กิ่ง บี กั้ง โอม ชิต เว่ แล้วก็จำไม่ได้แล้ว”
“ทำไมหลายคนจัง”
“คนมันป๊อปน่ะ ต้องเข้าใจ แต่เดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยแล้ว”
“รู้สึกอยากจะอ้วกน่า...”
“พูดเล่นน่า แล้วเมย์เล่นกับใครบ้าง”
“ก็เล่นแต่กับวีคนเดียวแล้วก็เพื่อนแถวบ้าน”
“เหรอ”
“วันนี้จะเล่นถึงกี่โมง”
“4 ทุ่ม”
“ไม่ไหวมั้ง ดึกไป”
“3 ทุ่มครึ่ง”
“ก็ได้ๆ”
“เก็บดอกไม้ให้เธออย่างอารมณ์ดี  เธอชอบสีแดงขาวชมพูฟ้า  เก็บหลายดอกหลายพันธุ์คณนา  ประดับประดาเป็นพวงหรีดให้เธอ”
“ขำตายเลยนะ”
“ล้อเล่นหน่อยเดียวเอง อย่าโกรธสิจ๊ะ”
“ไม่โกรธหรอกน่า แค่นี้เอง”
“นี่แหละถึงจะเป็นเมเมตัวจริง”
“เสาร์นี้ว่างมั้ย”
“ว่าง”
“ไปเที่ยวกัน”
“ที่ไหน”
“ดูหนัง เมเจอร์ฯ”
“โอเค. แฮร์รี่นะ”
“ก็กะว่าจะดูเรื่องนี้แหละ”
“อือๆ เจอกันที่โรงเรียนเก่านะ 11 โมง ได้มั้ย”
“ได้ แต่มีข้อแม้นะ”
“บอกมาเลย อะไร...”
“ต้องไปกันแค่ 2 คน”
“มันแน่อยู่แล้ว”
“ปกติเห็นต้องเอาเอมไปด้วยนี่”
“เอมไม่ว่างหรอก เรียนไวโอลิน”
“รู้ไปหมดเลยนะ”
“นิดหน่อย”
“ได้ข่าวพัดยศบ้างมั้ย”
“ไม่ ทำไมอ่ะ”
“เห็นเค้าลือกันว่ามันเป็นเกย์”
“เหลือเชื่อ ออกจะแมนขนาดนั้น”
“มันตบะแตก ไปอยู่โรงเรียนชายล้วนก็เลยไปเลย”
“เมย์ก็อยู่โรงเรียนหญิงล้วน เป็นอย่างนั้นรึเปล่า”
“ไม่มีทาง แต่ก็ไม่แน่”
“หมายความว่าไง ไม่แน่...”
“หมายความว่าอาจจะเป็นอย่างว่าก็ได้น่ะสิ”
“ไม่เอา วีอยากให้เมย์เป็นอย่างนี้ อย่างเดิมดีแล้ว”
“เมย์ก็พูดไปอย่างนั้นแหละ แต่ถ้าวันไหนที่วีไม่คุยกับเมย์ล่ะก็ เมย์เป็นแน่”
“วีก็คุยกับเมย์ทุกวันอยู่แล้วล่ะ”
“ถ้าเกิดมีคนเล่นกับวีอยู่ แล้วเมย์เข้ามาทีหลังล่ะ”
“วีก็จะแนะนำเพื่อนของวีให้เมย์รู้จักไง”
“ไม่ล่ะ ขอบใจ”
“ทำไมอ่ะ”
“เถอะน่า เอาเป็นว่าไม่ต้องละกัน”
“โอเค.ๆ”
“ซาหวัดดีวี”
“อ้าว เอมนี่นา มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”
“เมื่อกี้นี้เอง”
“เออ มาก็ดีเหมือนกัน วีกำลังคุยกับเมย์อยู่เลย...ใช่มั้ยเมเม”
“.....”
“เมเม ไปไหนแล้ว”
“ไหนล่ะเมย์”
“เมย์จ๋า ยังไม่ 3 ทุ่มครึ่งเลย จะรีบไปไหน”
“เมย์เค้าอาจจะปวดชิ้งฉ่องมั้ง เรามาคุยกัน 2 คนก็ได้นี่วี”
“ได้น่ะได้ แต่วีไม่สบายใจเลย ที่อยู่ๆ เมย์ก็เงียบอย่างนี้”
“ช่างเถอะ เดี๋ยวคงมาน่ะแหละ”
“อือๆ มาคุยกันเถอะ”
ทั้งวีและเอมไม่รู้ว่าเมย์ไปไหน นึกว่าเลิกเล่นไปแล้ว เพราะที่หน้าจอแสดงไว้ว่าเมย์ Offline แต่ที่จริงก็คือ เมย์ไม่ค่อยถูกกับเอม เพราะเอมชอบแย่งวีจากเมย์ เมื่อเอมเข้ามา เมย์จึงเลิกเล่น แต่ก็ยังไม่ไปไหน ยังคงอยู่หน้าคอมฯ คอยดูว่าวีกับเอมพูดอะไรกัน โดยกดคำสั่งซ่อนตัว (...มีด้วยเหรอ/สมมติว่ามีละกัน...)
“วันเสาร์นี้วีว่างรึเปล่า”
“ไม่ว่างจ้ะ”
“ไปไหนเหรอ”
“คือ...ไม่มีอะไรหรอก จะชวนไปไหนล่ะ”
“ว่าจะชวนไปดูแฮร์รี่ซะหน่อย ไปกับเอมไม่ได้เหรอ”
“ไปดูหนังเหรอ คือว่ามีคนชวนวีแล้ว”
“ไม่ได้ วีต้องไปดูกับเอมเลย”
“อย่าทำอย่างนี้สิเอม มีเหตุผลหน่อย”
“ก็วีไม่เคยจะไปกับเอมเลยนี่นา”
“ทำไมจะไม่เคย เมื่อเทอมที่แล้วก็ไปด้วยกัน”
“ผ่านมาตั้งเทอมนึงแล้วนะ”
“ไว้วันหลังได้มั้ย”
“เอมอุตส่าห์ว่างวันเสาร์นะ อาทิตย์อื่นก็คงไม่ว่างแล้ว”
“งั้นก็ตอนเย็นวันธรรมดาก็ได้นี่”
“ทำอย่างกับว่าโรงเรียนเราอยู่ใกล้กัน”
“ก็...ถ้าจะไปจริงๆ ก็ไปได้”
“ก็ได้ๆ วันจันทร์เลยนะ”
“แต่ว่าไม่ใช่เรื่องแฮร์รี่นะ เพราะเรื่องนี้กำลังจะไปดูวันเสาร์นี้แล้ว”
“ทำไมอ้ะ...รู้มั้ยที่เอมอยากดูแฮร์รี่กับวีเพราะอะไร”
“เพราะ...”
“เพราะว่าจะได้อยู่กับวีนานๆ ไง”
“คิดอย่างนั้นจริงๆ เหรอ”
“ก็จริงน่ะสิ”
“แล้วมันมีเรื่องอื่นที่นานเหมือนแฮร์รี่อีกมั้ยล่ะ”
“ไม่มีนะ แต่เอมรู้แล้วล่ะว่าจะทำยังไง”
“ยังไง”
“ก็ดู 2 เรื่องต่อกันเลยสิ”
“2 เรื่อง ร่วมๆ 3-4 ชั่วโมงกว่าเนี่ยนะ”
“ใช่ พอๆ กันเลยแหละ”
“เอาตามนั้นก็ได้”
“เอมรักวีที่สุดเล้ย”
“แต่...มันจะไม่เลิกดึกเหรอ”
“ไม่รู้สิ ขอคิดก่อนนะ เริ่มดูเรื่องแรกรอบ 5 โมง ใช้เวลา 2 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ทุ่มนึง พอดูเรื่องที่ 2 ก็สรุปแล้วดูเสร็จเวลา 2-3 ทุ่มกว่าๆ”
“มันดึกไปนะวีว่า”
“น่านะ แค่นี้ทำเพื่อเอมไม่ได้รึไง”
“เฮ่อ ก็ได้ๆ วีต้องโกหกแม่อีกแล้วสิเนี่ย”
“ทำไมต้องโกหก”
“ก็จะให้วีพูดว่า “แม่คะ วีขอไปดูหนังกับเพื่อน กลับ 3 ทุ่มนะคะ” รึไง”
“งั้นก็บอกว่าไปบ้านเพื่อน ไปติวอะไรอย่างนี้สิ”
“เอางั้นเหรอ”
“รึไม่ก็ วีมานอนค้างบ้านเอมเลย”
“เอาจริงๆ สิ”
“ก็จริงไง ไม่เห็นจะเป็นไรเลย”
“ขอวีคิดดูก่อนได้มั้ย”
“วีไม่เห็นต้องคิดมากเลย ก็แค่มานอนค้างแค่เนี้ย”
“งั้นวีก็ขอบอกแม่ก่อน”
“อือๆ อย่าลืมขอให้ได้ล่ะ”
“พูดอย่างกับว่าจะรีบไปไหนอย่างนั้นแหละ”
“ก็ใช่น่ะสิ วันนี้เอมขอเล่นแค่แป๊ปเดียว จะไปนอนแล้ว”
“นั่นสินะ จะ 4 ทุ่มอยู่แล้ว”
“งั้นเอมไปก่อนนะ บาย”
“บาย...นอนหลับฝันดีนะ”
“เดี๋ยวๆ มีอีกอย่างนึง”
“อะไร”
“คิดถึงนะ”
“เหมือนกัน เจอกันวันจันทร์”
“บายจริงๆ ล่ะ”
“บายจริงๆ เหมือนกัน”
วีกำลังจะออกจากโปรแกรม เพราะเพื่อนคุยบายกันไปหมดแล้ว แต่ก็ประหลาดใจที่มีข้อความขึ้นมาอีกและเห็น mail ของเมย์
“สวัสดี ครั้งที่ 2”
“เฮ้ย เมย์ไปแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ก็กลับมาใหม่แล้วไง ผิดเหรอ”
“เปล่า แล้วเมื่อกี้ไปไหนมา”
“ไม่ได้ไปไหน นั่งอยู่เฉยๆ นั่นแหละ แค่ไม่ได้คุยแค่นั้นเอง”
“ทำได้ไงแล้วทำไมอยู่ๆ ก็เลิก”
“.....”
“เพราะเอมใช่มั้ย”
“เปล่านี่ เอมไม่เกี่ยว”
“แล้วทำไมพอเอมเข้ามา เมย์ก็ออก แต่พอเอมไป เมย์ก็เข้ามาใหม่”
“ก็ได้ๆ...ใช่ เพราะเอมนั่นแหละ เมย์นึกว่าวีจะไปดูหนังกับเอมวันเสาร์นี้ซะแล้ว”
“วีจะไปได้ไง วีนัดกับเมย์ไว้แล้ว”
“ก็ทุกทีเห็นทำอย่างนั้นบ่อยนี่”
“จะมาหาเรื่องชวนทะเลาะรึไง”
“ใช่สิ เมย์มันไม่ดี ไม่ใช่เอมนี่”
“อย่าใจน้อยได้มั้ย วีก็รักเพื่อนทุกคนเท่ากันแหละ”
“ถ้ารักเมย์จริง อย่าไปกับเอมสิ”
“ก็วีอุตส่าห์ไปคนละวันกันแล้วนะ”
“ช่วยไม่ได้ งั้นก็ไปกับเอมเถอะ เมย์เปลี่ยนใจแล้ว”
“อย่าทำอย่างนี้ได้มั้ย”
“ทำอะไร”
“ก็อย่าทำเป็นว่าไม่ชอบเอม...”
“เอมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อะไรก็เอม วีเคยนึกถึงเมย์บ้างมั้ย”
“วีจะบอกอะไรให้นะ วีรักเมย์ที่สุด แล้วก็ทั้งห่วงทั้งหวงด้วย แต่เมย์ก็ต้องให้วีมีเวลาให้คนอื่นบ้าง”
“หวง...ห่วงรึ...”
“ใช่”
“ตามใจเถอะ วีไปกับเอมก็ได้ แต่อย่าลืมไปกับเมย์นะ”
“วีอยากไปกับเมย์ที่สุด”
“ขออีกอย่าง ห้ามหวานกับเอมในโรงหนังนะ”
“นี่...วีไม่ใช่ผู้ชายนะ”
“นั่นแหละ ห้ามนะ”
“โอเค.ๆ แต่กับเมย์ได้ใช่มั้ย”
“แล้วแต่จะคิด”
“แสดงว่าได้”
“...อือ...”
แล้ววีกับเมย์ก็คุยกันต่อจนลืมดูเวลา พอมาเห็นอีกทีก็พบว่าใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว
“ตายล่ะ จะเที่ยงคืนแล้ววี”
“จริงอ้ะ ทำไมมันเร็วจัง”
“เมย์ต้องไปนอนแล้วนะ ถ้าแม่รู้โดนด่าแน่เลย”
“วีก็เหมือนกัน บ๊ายบายนะ”
“ฝันถึงเมย์ด้วยนะ บาย”
~~End~สอง : คิดถึงเพื่อนเก่า~~
สาม : จะคุยกันดีๆ ไม่ได้รึไง
หลังจากที่เลิกราการคุยกันไปแล้ว ทั้งวีและเอมก็ไปนอน คืนนี้วีไม่ได้ฝันถึงเมย์อย่างที่เมย์อยากให้เป็น แต่กลับฝันถึงแก้ว เช้าขึ้นมาตื่นขึ้นก็ยังงงๆ กับเรื่องที่ฝันถึงแก้วเมื่อคืน
“ทำไมเราถึงฝันอย่างนั้นฟะ ฝันว่าแก้วเป็นแฟน ไม่มีทางและก็ไม่มีวันด้วย”
วันนี้วันศุกร์ ทางโรงเรียนจะมีประชุมนักเรียนทุกๆ วันศุกร์นี้ ตามที่แจ้งไว้เมื่อวาน วีจึงบอกพ่อกับแม่
“พ่อกับแม่คะ วันนี้ที่โรงเรียนมีประชุมนักเรียน วีอาจจะกลับเย็นนะ”
“อย่าเย็นมากละกันลูก”
“ค่ะ”
“ให้พ่อไปรับมั้ยล่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ วีกลับเองดีกว่า”
“ให้พ่อไปรับเถอะ มันดึกจะอันตราย”
“ไม่มีใครกล้าทำอะไรวีหรอก ถ้ามีก็โดนวีจัดการก่อนล่ะ”
“ถึงลูกจะเป็นแชมป์เทควันโด้ก็จริง แต่แม่ว่าให้พ่อเค้าไปรับดีกว่า”
“ก็ได้ค่ะ แต่อาจจะมีเพื่อนที่กลับทางเดียวกันติดรถมาด้วยนะ”
“ไกลมั้ยล่ะ”
“เลยบ้านเราไป 2 ซอย”
“เดี๋ยวพ่อไปส่งให้ก็ได้”
“งั้นพ่อก็ไปรับวีได้เลยค่ะ”
“กว่าจะตกลงได้นี่มีหลายข้อแม้จังนะเรา”
“ไปกันเถอะค่ะพ่อ จะ 6 โมงครึ่งอยู่แล้ว”
“ไปๆ”
พ่อกับแม่วีนั้นทำงานที่เดียวกัน ก่อนไปทำงานก็ต้องไปส่งวีที่โรงเรียนก่อน แล้วจึงค่อยไปที่ทำงาน พอถึงโรงเรียน วีก็เดินเข้าไปหาแพรวที่กำลังนั่งรอวีอยู่
“วี หวัดดี”
“หวาด...ดี...”
“เป็นอะไรน่ะ ยังกะคนอดหลับอดนอน”
“ก็เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย”
“ทำอะไรอยู่”
“เล่น MSN”
“วีเล่นด้วยเหรอ ขอ mail หน่อยสิ”
“อ้ะ...ขอของแพรวด้วย”
“อ้ะนี่...แล้วเมื่อคืนวีเล่นถึงกี่โมงเนี่ย”
“เที่ยงคืน...”
“เที่ยงคืน...เล่นกับใครเนี่ย ดึกจัง”
“เล่นกับเพื่อนแพรวนั่นแหละ เมย์น่ะ”
“เมย์ไหน”
“เมย์-พิมรา ไง”
“อ๋อ เมย์ไปอยู่โรงเรียนอะไรแล้วล่ะ เรากับเมย์ไม่ได้ติดต่อกันเลย”
“สตรีวิทฯ”
“อือ...”
“วันนี้แพรวรู้รึยังว่ามีประชุม เลิกเย็น”
“รู้แล้ว โชคร้ายเป็นบ้าเลย พ่อกับแม่ดันไม่ว่าง มารับไม่ได้ เราเลยต้องกลับเอง”
“แต่เราต้องขอบอกว่าแพรวโชคดีเป็นบ้าเลยนะ”
“ทำไมอ้ะ”
“ก็วันนี้พ่อเราจะมารับ แล้วเราก็ขอพ่อแล้วด้วยว่าจะมีเพื่อนกลับด้วยคนนึง”
“แล้ววีรู้ได้ไงว่าเราจะกลับด้วย”
“เดาเอา ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร”
“ใครว่า ดีสิ ปลอดภัยกว่าตั้งเยอะ”
“เราก็คิดอย่างนั้น”
“เออ...วีขอโทษแก้วรึยัง เรื่องเมื่อวานนี้น่ะ”
“ขอโทษไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีประโยชน์ขึ้นมาเลย”
“ทำไมล่ะ”
“ก็แก้วไม่สนใจอะไรเลย”
“แย่จังนะ”
“ช่างเถอะ  วีก็ไม่อยากไปยุ่งกับเค้าเท่าไหร่หรอก”
“คราวหน้าก็อย่าไปมีเรื่องกับเค้าอีกล่ะ”
“อยู่แล้วน่า”
ถึงเวลา 7.20 น. นักเรียนก็ไปเข้าแถวกัน รวมทั้งวีและแพรวด้วย เมื่อเข้าแถวเสร็จ ก็พากันไปขึ้นห้องเรียน ในห้อง 1/7 นี้จะแบ่งนักเรียนออกเป็น 3 กลุ่ม แพรวนั้นอยู่กลุ่ม 1 ส่วนวีอยู่กลุ่ม 3 แก้วก็อยู่กลุ่ม 3 เหมือนกัน (จัดตามเลขที่) เข้าเรียนคาบแรกก็ภาษาอังกฤษ เรียนมาจนถึงพักกลางวัน วีกับแพรวดินไปกินข้าวที่ชั้น 1 พอกินเสร็จก็เดินสวนกับพวกแก้ว ทั้งวีและแก้วก็แสดงท่าทีว่าไม่ถูกกันเท่าไหร่นัก ในที่สุดแก้วก็เป็นฝ่ายพูด (หาเรื่อง) ขึ้นก่อน
“มองทำไม”
“แล้วมามองเราทำไม”
“ก็ฉันมีสิทธิ์”
“ฉันก็มีสิทธิ์เหมือนกัน”
“อย่ามาพูดตามฉันได้มั้ย”
“ก็ไม่อยากจะตามใครเหมือนกันแหละนะ”
“อ้าว พูดอย่างนี้ มาตัวต่อตัวกันเลยดีมั้ย”
“โทษที ฉันตบใครไม่เป็นหรอกนะ”
“เฮ้ย ไอ้แก้วพอเหอะ มึงอย่าไปมีเรื่องกับเค้าเลย”
“วีก็เหมือนกัน อย่าไปหาเรื่องแก้วเค้าเลย”
“แพรวพูดผิดรึเปล่า ใครหาเรื่องใครกันแน่”
“โธ่เอ๊ย”
“เอาเซ่...”
แพรวกับพวกเพื่อนๆ ของแก้วต้องรั้งตัววีและแก้วไว้ไม่ให้ทำอะไรกันไปมากกว่านี้ ในที่สุดก็สามารถห้ามได้สำเร็จ แต่ก็ยังไม่วายอาฆาตแค้นกันอยู่ดี
“ฉันไม่มีวันญาติดีกับเธอแน่”
“แล้วคิดว่าฉันจะทำอย่างนั้นได้รึไงเล่า”
ก่อนที่ทั้งสองคนจะ (เกือบ) ตีกันอีก ก็ถูกเพื่อนๆ พากันแยกออกไปก่อน แล้วก็เดินห่างกันจนลับตาไปแล้วทั้ง 2 ฝ่าย แพรวจึงคุยกับวี
“วีเป็นอะไรไปเนี่ย ปกติไม่เห็นจะเคยทะเลาะกับใครเลยนี่”
“ไม่รู้สิ เจอหน้ายัยนี่ทีไร ชวนทะเลาะทุกที”
“วีก็ทำไม่ถูกนะ”
“รู้อยู่เหมือนกันแหละ ว่าเราเองทำไม่ถูก”
“แล้วก็ยังจะทำ”
“ทำไงได้ ก็ยัยนั่นน่ะเกลียดเราจะตาย ถ้ายัยแก้วได้ซักครึ่งนึงของแพรวนะ จะดีมากเลย”
“แก้วเค้าอาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่วีคิดหรอกนะ”
“เห็นแค่นี้ก็รู้แล้วว่าธาตุแท้น่ะขนาดไหน”
“แต่อย่าลืมสิว่า แก้วไม่เคยทำผิดกฎของโรงเรียนเหมือนพวกเพื่อนๆ ในกลุ่มเลยนะ แสดงว่าจิตใต้สำนึกยังดีเหมือนกันนะ”
“แพรวนี่มองโลกในแง่ดีจังเลยนะ”
“เราน่ะเหรอ”
“อือ ต่างกับเราอย่างสิ้นเชิงเลย”
“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก”
พอใกล้ถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว คนที่เป็นเวรวันนี้ก็ทำเวรไป วีก็เลยโทร. หาพ่อให้แน่ใจว่าจะมารับกี่โมง เมื่อคุยเสร็จแล้ว หญิงซึ่งเป็น 1 ในกลุ่มแก้ว มาขอยืมมือถือของวีไปเล่นเกม วีเองก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะยืมเล่นอยู่ตรงหน้า แล้วหญิงก็ไม่ใช่คนที่วีมีอคติด้วย จากนั้นก็เดินกันไปเข้าหอประชุม แก้วยังไม่รู้ว่าวันนี้มีประชุมเลิกเย็น
“เค้าจะไปไหนกันวะฝน”
“เอ้า ก็เข้าหอประชุมไง”
“เข้าไปทำไมฟะ”
“มึงนี่ไม่รู้อะไรเลยเหรอวะ วันนี้มีประชุมเลิกเย็นไง”
“จริงป่ะเนี่ย โกหก...”
“กูจะโกหกมึงทำไม คนเค้าก็ไปกันทั้งหมดนั่นแหละ”
“ฉันยังไม่ได้โทร. บอกที่บ้านเลยว่ะ วันนี้บอกว่าจะกลับเร็วซะด้วยสิ มือถือฉันก็แบตฯ หมด”
“อ้าว ไหนมึงบอกว่าพ่อแม่มึงไม่เคยอยู่บ้านเลยไง”
“ก็ช่วงนี้ดันอยู่น่ะสิ คุมเข้มฉันใหญ่เลย เพราะเห็นว่าฉันเพิ่งขึ้นม.1 บ้าๆ เนี่ย”
“มึงก็รีบไปโทร. ตู้หยอดเหรียญซิวะ”
“เฮ้ย แต่ที่เดินผ่านมา แล้วก็ที่เห็นๆ อยู่มันมีคนต่อคิวอยู่เยอะเลยนะ แล้วก็มีเครื่องเสียด้วย”
“แล้วมึงจะทำไงวะเนี่ย”
“อ้าว ไอ้หญิง ฉันขอยืมมือถือแป๊ปนึงสิ”
“คือว่าไอ้นี่มัน...”
“อย่างกไปหน่อยเลยน่า นิดเดียวเอง”
แก้วไม่ได้ฟังต่อว่าหญิงจะพูดอะไร ที่หญิงจะพูดก็คือจะบอกว่ามือถือนี้เป็นของคนซึ่งไม่ถูกกับแก้ว แก้วก็คว้าไปโทร. เสียก่อน วีผ่านมาพอดีจึงจะขอมือถือคืนจากหญิง
“หญิง มือถือเราล่ะ”
“เอ่อ...คือว่า”
“อ้ะ หญิง ขอบใจมาก”
“อ่ะวี”
“แล้วแกจะไปให้เค้าทำไมวะ”
“ทำไมเค้าจะให้ฉันไม่ได้ ในเมื่อมันเป็นของฉัน”
“ไม่ใช่ของแกหรอกเรอะ”
“ก็ฉันจะบอกแกแล้ว แต่แกไม่ยอมฟังเลย”
“แกนะแก...ขอโทษที่ใช้ของ...เธอ...”
แล้วแก้วก็เดินหนีไปด้วยอาการหน้าแตกเล็กน้อย วีเองก็ไม่คิดอะไรมากแต่สงสัยที่แก้วพูดขอโทษกับตน
“เมื่อกี้เราหูฝาดไปรึเปล่าที่แก้วพูดว่าขอโทษน่ะ”
“เปล่านี่ แก้วพูดจริงๆ”
เวลาผ่านไป การประชุมก็เสร็จเป็นเวลา 17.30 น. วีก็เดินออกไปพร้อมแพรว ทางออกตรงประตูไปเบียดกับแก้วพอดี แต่แก้วไม่ได้หาเรื่องต่อกับวี กลับเดินเลี่ยงไปอย่างเงียบๆ กับเพื่อนๆ
“สงสัยจะผีเข้าแฮะ”
“มันก็ดีไม่ใช่เหรอแบบเนี้ย”
“อือ ดีมากเลยล่ะ”
~~End~สาม : จะคุยกันดีๆ ไม่ได้รึไง~~
สี่ : นัดเจอกัน
ไปถึงที่นัดหมายกับพ่อไว้ พ่อของวีก็มาพอดี เมื่อขึ้นรถไปได้ วีก็แนะนำพ่อกับแพรวให้รู้จักกัน
“หวัดดีพ่อ”
“สวัสดีค่ะ”
“จ้ะๆ หวัดดี”
“นี่แพรวนะพ่อ เป็นเพื่อนสนิทของวีเอง”
“แค่ 2-3 วันนี่สนิทกันแล้วเหรอ”
“ก็มาจากโรงเรียนเก่าด้วยกันน่ะ”
“อ๋อ...”
ในที่สุดก็มาถึงบ้านของแพรว แพรวก็ขอบคุณพ่อของวีก่อนที่จะลงจากรถไป
“ขอบคุณค่ะคุณพ่อ...บ๊ายบายนะวี”
“บาย...”
แล้วพ่อของวีก็ขับรถกลับบ้าน
“เพื่อนลูกคนนี้ท่าทางเรียบร้อยนะ”
“ใช่ค่ะ เรียบร้อยแล้วก็เรียนเก่งด้วย”
“เอาให้ได้แบบเค้าบ้างสิเราน่ะ”
“โธ่ พ่อไม่รู้อะไรซะแล้ว ลูกพ่อคนเนี้ยน่ะเก่งจะตาย”
“จริงอ้ะ แต่พ่อไม่มีลูกสาวขี้โม้นะ”
“วีไม่ได้โม้นะ”
“เออๆ เก่งก็เก่ง”
เมื่อถึงบ้าน วีก็รีบอาบน้ำ กินข้าวแล้วก็เล่น MSN ต่อกับเมย์ วันนี้เป็นวันศุกร์ ซึ่งวีนั้นไม่ค่อยชอบเล่นวันนี้เท่าไหร่ เมย์เองก็รู้ เพราะทุกวันศุกร์วีจะอยากนอนเร็ว
“หวัดดีวี มารึยัง”
“มาแล้วๆ วันนี้ขอคุยนิดเดียวนะ”
“รู้แล้วล่ะว่าขี้เกียจ”
“เข้าใจก็ดี”
“จะย้ำแค่ว่า พรุ่งนี้อย่าลืมไปนะ”
“ไม่ลืมหรอก เรื่องสำคัญอย่างเนี้ย”
“อีกเรื่องนึง...ไหนบอกว่าวันนี้จะโทร. หาเมย์ไง”
“วีโทร. แล้วนะ ตอนพักกลางวัน แต่เมย์ปิดเครื่องมั้ง”
“เออใช่ วันนี้เมย์เพิ่งจะเปิดเครื่องตอนเย็นๆ นี่เอง ลืมเปิดตั้งแต่เช้าแน่ะ”
“พรุ่งนี้ก็เปิดเร็วๆ ล่ะ จะได้โทร. ติด”
“โอเค.”
“มีอะไรอีกมั้ย”
“รู้แล้วล่ะว่าอยากเลิกแล้ว”
“ก็ทำนองนั้น แต่ไม่เชิง”
“เอาเป็นว่าแค่นี้แหละ ไม่อยากรบกวน”
“สำหรับเมย์แล้วไม่เรียกว่ารบกวนหรอก”
“ก่อนจะไปนะวี เมย์ขอพิมพ์อะไรอย่างนึงให้อ่านได้มั้ย”
“ได้สิ”
“เข้าใจใช่ไหมที่ฉันทำ เพราะอะไรและเพราะใคร อยากรู้บ้างว่าเธอคิดยังไง...เข้าใจบ้างไหมเพราะฉันทำทุกๆ อย่างจากหัวใจ รู้มั้ยว่ามีใคร...ที่รักเธอ...”
“ขอบคุณ เพลงของซาซ่าใช่ป่ะ”
“ใช่”
“วีชอบซาซ่ามากเลย”
“จริงเหรอ แล้วจะส่งรูปซาซ่าไปให้ดูบ่อยๆ นะ วีชอบใครเป็นพิเศษมั้ยล่ะ”
“แก้วน่ะ”
“อือๆ”
“บายล่ะนะ ง่วงแล้ว ขอบคุณสำหรับเรื่องซาซ่า”
“ไม่เป็นไร บาย...”
หลังจากที่เลิกเล่นไปแล้ว วีก็เข้านอน คืนนี้ก็ฝันถึงแก้วอีกเช่นเคย ตื่นเช้าขึ้นมาก็งงอีกครั้ง
“ฝันถึงยัยแก้ว 2 คืนติดกัน สงสัยจะมีเรื่องซวยหนักแน่ๆ”
จากนั้นก็ไปอาบน้ำ แต่งตัว ขออนุญาตพ่อกับแม่ไปข้างนอก พ่อแม่ของวีก็ให้เพราะรู้ว่าวีไม่ไปไหนไกลอยู่แล้ว แต่ที่ไหนได้ ไกลจากบ้านมากทีเดียว พอวีไปถึงโรงเรียนเก่าก็เจอกับเมย์ ทั้ง 2 คนต่างก็แปลกใจมาก
“ใช่วีจริงๆ เหรอเนี่ย”
“ก็ใช่น่ะสิ ทำไมล่ะ”
“ก็วีดูสูงขึ้นเยอะเลยน่ะสิ”
“เมย์ก็ดูน่ารักขึ้นมากเลย จำแทบไม่ได้”
“โม้อีกแล้ว ไปกันเถอะเดี๋ยวไปสาย”
“วีพูดจริงนะ ยังมาหาว่าโม้อีก”
หลังจากนั้นทั้งวีกับเมย์ก็เดินไปที่ป้ายรถเมล์ เพื่อที่จะขึ้นรถเมล์ แต่รออยู่นานเหมือนกันกว่าที่รถเมล์จะมา พอรถเมล์มาก็รีบขึ้นเลย ภายในรถเมล์ก็มีที่ว่างอยู่บ้าง วีกับเมย์เลยได้นั่งด้วยกันทั้งคู่
“เมย์คิดไว้รึยัง ว่าถ้าดูหนังเสร็จจะไปไหนต่อ”
“ยังเลย ถึงเวลาก็คงจะรู้เองมั้ง”
~~End~สี่ : นัดเจอกัน~~
ห้า : เจอกันง่ะ ทำไงอ่ะ
ไม่นานนักก็ไปถึงเมเจอร์ฯ รัชโยธิน ที่นี่เป็นที่ๆ วัยรุ่นส่วนใหญ่มักจะไปดูหนังกัน คนรุ่นราวคราวเดียวกันกับวีและเมย์นั้นก็มีเยอะแยะเต็มไปหมด ที่เลือกมาที่นี่ก็เพราะว่าเมย์มีบัตรลด (เฉพาะสาขานี้) พอทั้ง 2 คนเข้าไปได้แล้วก็ไปซื้อตั๋ว พอก่อนจะเข้าโรงหนัง (โรงที่ฉายเรื่องแฮร์รี่) วีก็มีเรื่องให้ตกใจสุดขีด ก็คือเจอกับแก้วที่มากับเพื่อนอีก 2 คน แต่แก้วไม่เห็นวี วีได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้นั่งใกล้ๆ แก้วเลย แต่ก็เหมือนพระเจ้าจะไม่เข้าข้าง เพราะวีดันได้นั่งใกล้แก้วซะนี่ มีเพียงเก้าอี้ว่างตัวเดียวที่คั่นกลางไว้ ก่อนหนังจะเริ่ม วีเลยขอสลับที่กับเมย์
“เมเม สลับที่กับวีได้มั้ย”
“ไม่เอา ขี้เกียจ นั่งๆ ไปเถอะตรงไหนก็เหมือนกันนั่นแหละ”
“โธ่ ก็ได้ๆ”
แก้วก็ตกลงกับเพื่อนกันดีแล้วว่านั่งกันตรงไหน พอหนังเริ่ม แก้วก็ตกใจมากเพราะเห็นวี จึงจะขอแลกที่กับเพื่อน
“เฮ้ย ไอ้ฝน แกแลกที่กับฉันหน่อยสิวะ”
“หึ กูชอบนั่งตรงกลางว่ะ”
“แกไม่ช่วยฉันเลยนะ”
“แล้วนั่งตรงนั้นมันเดือดร้อนตรงไหนวะ”
“มันก็ไม่ได้เดือดร้อนหรอก แต่ว่า...”
“แต่ว่าอะไรของมึง”
“ก็ข้างๆ ฉันคือเค้าน่ะสิ”
“เค้าไหน พี่โอ้เหรอ”
“บ้า ไม่ใช่พี่โอ้ หมายถึงเป็นวีรธิดาน่ะ”
“เหรอ บังเอิญจัง แต่ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย ถ้ามึงไม่ไปหาเรื่องเค้าน่ะ”
“ฉันไม่ขอให้แกช่วยแล้วก็ได้...แป้งๆ แลกที่กับฉันหน่อยสิ”
“ไม่ล่ะแก้ว หนังมันเริ่มแล้ว เดี๋ยวจะรบกวนคนอื่นเค้า”
“โธ่เอ๊ย ฉัน...”
แก้วจึงต้องจำใจนั่งตรงนั้นไป ไม่นานทั้งแก้วและวีก็หันมาเจอกันพอดี ก็อึ้งๆ กันไปทั้ง 2 ฝ่ายแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกันเลย
“วีเป็นอะไรรึเปล่า ดูไม่ค่อยอยู่นิ่งเลยนะ”
“เปล่าๆ ไม่เป็นอะไร”
“งั้นก็ดีแล้ว...อ่ะ กินหนมป่ะ”
“ป้อนหน่อยซี่...”
“อ่ะ”
“มา วีป้อนให้เมย์มั่ง”
แก้วเห็นก็รู้สึกงงๆ ไม่แน่ใจว่าคนที่มากับวีเป็นผู้หญิงรึผู้ชาย ถ้าเป็นผู้ชายนี่จะเชื่อสนิทเลย แต่พอแก้วดูดีๆ ก็เห็นว่าเป็นผู้หญิง ก็ยังไม่หายงงซักที เพราะดูแล้วเหมือนแฟนกันมากกว่า
“รู้สึกว่ามึงจะไม่สนใจดูหนังเลยนะ”
“ทำไมฉันจะไม่ดู แกเห็นฉันทำอย่างอื่นรึไง”
“ก็มึงเอาแต่มองเค้าอยู่นั่นแหละ เค้าจะจู๋จี๋กับแฟนกัน”
“แฟนกะผีน่ะสิไอ้ฝน ที่แกเห็นนั่นมันผู้หญิงนะโว้ย ผู้หญิงด้วยกันเอง”
“อ้าวเรอะ กูนึกว่าแฟนกัน”
“ตอนแรกฉันก็คิดเหมือนแกนั่นแหละ”
แก้วจึงตัดสินใจไม่มองไปที่วีอีก แต่ก็ไม่รู้ว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้แก้วต้องหันไปมองวีบ่อยๆ จนวีรู้ตัวจึงหันมามองแก้วบ้าง แก้วจึงหลบสายตาไปที่จอหนังแทน แล้วต่อไปแก้วก็ไม่หันมองอีก ก็จะมีนานๆ ครั้งเท่านั้น ในที่สุดพอหนังจบ แก้วจึงคิดจะรีบๆ ออกไปกับเพื่อน เพราะไม่อยากเจอวี แต่อีกใจนึงก็คิดอยากจะเห็นหน้าเพื่อนของวี (เมย์) ให้ชัดๆ สุดท้ายก็ตัดสินใจเลือกอย่างหลัง คือแอบดูหน้าเพื่อนวี ซึ่งก็ได้เห็นชัดจริงๆ ตอนที่เดินออกจากโรงหนังมาแล้ว
“มึงเป็นอะไรวะแก้ว จะตามเค้าไปเลยรึไง”
“ใครว่าฉันจะตาม แค่อยากดูหน้าเพื่อนเค้าแค่นั้นเอง”
“แล้วเป็นไงบ้างล่ะ”
“โคตรสวย+น่ารักเลย”
“ยิ่งกว่ามึงอีกเหรอวะ”
“ฉันไม่ได้สวยแล้วก็ไม่ได้น่ารักซะหน่อย”
“เอาเหอะว่ะ ไปหาอะไรกินกัน กูชักจะหิวแล้ว”
“กูก็หิวเหมือนกัน ไปเหอะแก้ว”
ส่วนวีกับเมย์นั้นตกลงกันว่าจะไปกินไอติมกันที่ร้านซเวนเซ่นส์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับร้านที่แก้วไปกิน คราวนี้วีไม่เห็นแก้ว แต่แก้วอยู่ในมุมที่มองเห็นวีและเมย์อย่างชัดแจ๋ว จึงถือโอกาสดูซะเลย ก็เห็นว่าวีกับเมย์สนิทกันมากและเห็นวีกับเมย์ผลัดกันป้อนไอติมให้กัน แล้วก็คุยกันอย่างสนิทสนม
“ไม่รู้อีกนานแค่ไหนเนอะ ที่กว่าวีจะได้เจอเมย์อีก”
“นั่นสิ แปลกนะ โรงเรียนเราก็ไม่ได้อยู่ไกลกันซะหน่อย”
“แต่คงอีกนานแหละ กว่าจะเจอกันอีก”
“เมย์ไม่อยากให้วีกลับเลย”
“วีก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน”
“เมย์อยากอยู่โรงเรียนเดียวกับวีอ่ะ”
“อยู่ที่นั่นน่ะดีแล้ว โรงเรียนที่วีอยู่มันไม่ดีพอที่เมย์จะมาอยู่หรอก”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงเมย์ก็ไม่สนหรอก ให้ได้อยู่กับวีก็ดีแล้ว”
“วีดีใจนะที่เมย์ยังนึกถึงบ้าง”
“ไม่ใช่นึกถึงนะ แต่คิดถึงเลยล่ะ ไม่อยากให้หมดวันนี้เลย”
“ให้ชื่อวีไม่หายไปจากหัวสมองของเมย์ก็พอ”
“เมย์ไม่มีทางลืมวีหรอก กลับจะคิดถึงจนจะเป็นบ้าน่ะสิ”
“รู้มั้ย...ว่าเมย์น่ะเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับวีเลย”
“ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอก แค่วีคิดถึงเมย์บ้าง ขอนิดเดียวเนี่ยแหละ”
“วีน่ะคิดถึงเมย์ทุกวัน สมมุติว่าถ้าเกิดนานไปแล้วเมย์เผลอลืมวีก็ไม่เป็นไรหรอกนะ แต่อยากให้รู้ไว้เลยว่าวีจะคอยติดตามข่าวคราวของเมย์ตลอดล่ะ”
“อย่าพูดให้ซึ้งได้มั้ย”
“แค่นี้จะร้องไห้เลยเหรอ...อย่าร้องเลยน่า...นะ”
“ป...เปล่า ผงมันเข้าตาน่ะ”
“ไหน...ให้วีดูซิ...”
วียื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ เมย์ เพื่อจะดูว่าเมย์เป็นอะไรมากรึเปล่า เห็นได้ว่าวีนั้นรักและห่วงใยเมย์มากขนาดไหน แก้วเองก็เห็น จึงคิดได้ว่าที่จริงวีก็เป็นคนดี แต่ไม่รู้ทำไมพอเจอหน้ากันต้องมีเรื่องกันทุกที
“แก้วไปเหอะ ไปที่อื่นกันต่อ”
“ฉันขี้เกียจไปแล้วว่ะ อยากกลับบ้าน...แป้ง แกจะกลับรึไปต่อ”
“แล้วแต่พวกมึงน่ะ”
“งั้นก็ไปต่อกับไอ้ฝนล่ะกัน ฉันขอตัวกลับบ้านก่อน”
“มึงไม่สบายรึเปล่าวะ หน้าซีดๆ”
“เปล่า ยังดีอยู่ แค่อยากกลับไปนอน”
“เออๆ งั้นกูก็ไม่ไปต่อแล้วล่ะ กลับบ้านกันเหอะ”
“ไป...วันหลังค่อยเที่ยวใหม่”
หลังจากนั้นแก้วกับเพื่อนก็กลับบ้าน แต่แก้วก็ไม่ลืมมองดูวีอีกครั้งก่อนที่จะกลับ ส่วนวีกับเมย์ก็ออกจากร้านมาทีหลัง แล้วก็เดินคุยกันไปเรื่อยๆ และขึ้นรถเมล์กลับบ้าน เมย์ต้องลงก่อนวี ก่อนลงจึงร่ำลากัน
“ไปก่อนนะวี เราต้องได้เจอกันอีกนะ”
“ชัวร์ วีคิดถึงเมย์นะ”
“เหมือนกัน ไปแล้วนะ”
“โชคดี...”
~~End~ห้า : เจอกันง่ะ ทำไงอ่ะ~~
หก : เพื่อนใหม่ (รึเปล่า)
ไม่นานวีก็กลับถึงบ้าน ก็คิดจะนอนซักพัก แต่นอนได้ไม่นานก็ลุกขึ้นมาเปิดคอมฯ เพื่อจะเล่น คราวนี้ไม่ได้เล่น MSN แต่เล่น PIRCH แทน เพราะอยากจะคุยกับคนแปลกหน้าบ้าง แล้วก็เลยเข้าไปเล่น PIRCH ในชื่อห้องว่า “one สบาย”
“มีใครอยู่บ้างมั้ย”
“มีฉันคนนึงแหละ”
“จะไม่ถามหรอกนะว่าชื่ออะไร”
“เธอนี่แปลก เวลาเล่นเค้าจะถามชื่อกันก่อนไม่ใช่เหรอ”
“แล้วถ้าถามจะได้ความจริงมั้ยล่ะ”
“ก็พูดถูกนะ มีเหตุผลดี”
“อยากให้คุยกันแบบดีๆ”
“ก็ได้ ที่เราเข้ามาก็หวังอย่างนั้นเหมือนกัน”
“เล่น PIRCH นี่บ่อยมั้ย”
“ไม่บ่อย ส่วนมากจะเล่น MSN มากกว่า”
“เหมือนเราเลย แล้วทำไมวันนี้ถึงเล่น PIRCH ล่ะ”
“อยากคุยที่ใหม่บ้าง”
“คิดว่าคุยอย่างนี้มันจะมีสาระเหรอ”
“ไม่รู้สิ ใครๆ ก็คงจะคิดเหมือนกันนั่นแหละ”
“คิดว่าไง”
“ก็คิดว่าเข้ามาระบาย เข้ามาคุยหลอกกันน่ะสิ”
“แต่เราไม่ชอบทำอย่างนั้น”
“เหมือนกัน ทำไมถึงไม่ชอบ”
“รู้สึกว่าเข้ามาแล้วเปล่าประโยชน์น่ะสิ สู้พูดดีๆ กับคนดีๆ แล้วคุยกันได้ดีกว่า”
“ดูแล้วเธอน่าจะไว้ใจได้นะ”
“เราไม่อยากให้เธอคิดอย่างนั้น”
“ทำไม”
“คนเราไม่ควรไว้ใจใครง่ายๆ ดูเค้าให้ลึกซะก่อน ค่อยไว้ใจ”
“ขอบใจ เราขอถามความจริงซักอย่างจากเธอได้มั้ย”
“อะไรล่ะ แล้วไม่คิดว่าเราจะหลอกเหรอ”
“ไม่อ่ะ คือว่าจะถามว่าเธอเป็นผู้หญิงรึผู้ชาย”
“ให้ทาย”
“ทอม/ดี้/กระเทย/ประเทือง/ตุ๊ด/เกย์/เลสเบี้ยน รึไม่ก็ผู้หญิงรึผู้ชายซักอย่าง ถูกมั้ย”
“ใจคอจะให้เป็นหมดนี่เลยรึไง บอกให้ก็ได้ เราเป็นผู้หญิง”
“จริงรึเปล่า แต่เราเป็นผู้ชายนะ”
“จ้างก็ไม่เชื่อ เธอต้องเป็นผู้หญิงแน่นอน”
“รู้ได้ไง”
“ดูจากการพูด ความคิด ฯลฯ เธอต้องเป็นผู้หญิงแน่ๆ”
“เธอมองดูคนออกนี่”
“แค่ลองวิเคราะห์ดูเฉยๆ”
แล้ววีก็หยุดพิมพ์ตอบไปซักพักนึง เพราะครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่
“ทำไมเงียบไป”
“เปล่า คิดอะไรอยู่นิดหน่อย”
“เราว่าเธอพอจะเป็นคนดี ขอปรึกษาอะไรด้วยหน่อย”
“คิดอย่างนั้นเหรอ ก็ได้ๆ”
“อยากคุยเรื่องที่โรงเรียนเราน่ะ”
“พูด (พิมพ์) มาเลย”
“ก็คือ เราเป็นอะไรก็ไม่รู้นะ ชอบไปทะเลาะกับคนๆ นึงอยู่เรื่อยเลย ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีเรื่องโกรธกัน”
“คนๆ นั้นเคยทำอะไรให้เธอเสียหายรึเปล่า”
“ก็เคยน่ะนะ แต่มันก็ไม่มาก เราก็ไม่ได้คิดเรื่องนั้นแล้วด้วย”
“แล้วจะทะเลาะกันทำไม รึว่าเค้าชวนทะเลาะ”
“เปล่า แต่พักนี้เราก็ไม่ค่อยได้ทะเลาะแล้วล่ะ จะหลบหน้ามากกว่า”
“เธอนี่แปลกๆ นะ เหมือนเพื่อนที่โรงเรียนเราคนนึงเลย”
“เหรอ เธออยู่โรงเรียนอะไรล่ะ”
“ขอโทษนะ ไม่ขอบอก”
“โอเค.ๆ เราเข้าใจ”
“แนะนำให้เอามั้ย เธอไม่ต้องหลบหน้าเค้าหรอก มีอะไรก็พูดกันตรงๆ ไปเลย”
“ก็อยากจะทำอย่างนั้น แต่ทำไมทำไม่ได้ก็ไม่รู้”
“แล้วคนๆ นั้นเป็นผู้ชายรึผู้หญิง”
“ผู้หญิง”
“อ้าว เธอก็เกือบเข้าข่ายเลสฯ  แล้วนะเนี่ย”
“จะบ้ารึไง เราไม่มีทางเป็นเลสเบี้ยนหรอกนะ”
“เธอลองคิดตามเราดูนะ อ่ะ ตอนแรกเธอทะเลาะกับเค้า เพราะเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง แต่เธอก็ไม่คิดโกรธแล้ว แต่ก็ต้องชวนทะเลาะทุกที แล้วก็เปลี่ยนมาเป็นหลบหน้า เธอลองคิดสิ ว่าทำไมเธอไม่อยากเจอหน้าเค้า”
“ไม่รู้”
“เธอเริ่มรู้สึกสับสนใช่มั้ยล่ะ”
“แต่ที่แน่ๆ ฉันไม่ใช่เลสฯ”
“โอเค.ๆ เธอไม่ใช่เลสฯ ก็ได้ แต่ให้เราเดานะ ต่อไปเธอคงต้องเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันกับคนๆ นั้นแน่”
“ทำไมเธอถึงคิดอย่างนั้น”
“เธอเคยได้ยินคำว่ายิ่งเกลียดยิ่งเจอมั้ย เหมือนกับยิ่งหลบยิ่งเจอไง พอเจอกันบ่อยก็สนิทกันเองแหละ”
“แต่คงไม่ใช่กับคนๆ นี้แน่”
“แล้วแต่จะคิด คงให้คำปรึกษาได้แค่นี้“
“จะไปแล้วเหรอ”
“เปล่า เดี๋ยวมานะ หิวน้ำ”
“แล้วจะรอ”
“นี่ มารึยัง”
“ยังไม่มาอีกเหรอ”
“รอจนจะแก่อยู่แล้วนะ”
“นี่ๆ ไปกินน้ำรึไปไหนเนี่ย”
“โทษที มาแล้วๆ นึกว่าจะไม่รอ”
“ได้ไง ตั้งแต่เล่นมายังไม่เคยเจอใครคุยดีเท่าเธอเลย”
“พูดจริงเหรอ”
“จากใจเลย”
“ขอบใจอีกที”
“ขอ mail หน่อยสิ เผื่อจะไว้คุยกันใน MSN หน่อย”
“อ้ะ...ขอด้วย”
“อ่ะ...”
“อยากคุยกับเธอให้รู้จักกันมากกว่านี้”
“เราไว้ใจเธอนะ เธอไว้ใจเรารึเปล่า”
“ไว้ใจสิ ไม่งั้นคงไม่ให้มาคุยใน MSN หรอก”
“เธอเล่นวันไหนบ้าง”
“ทุกวัน”
“ตอนไหน”
“6 โมง4 ทุ่มขึ้นไป”
“ดึกพอกับเราเลย”
“แต่เราคิดว่ามันจะมีปัญหานิดหน่อย”
“เรื่องอะไร ไม่อยากคุยกับเราเหรอ”
“เปล่า ไม่ใช่อย่างนั้น คือว่าเราคุยกับเพื่อน (เก่า) เราทุกวัน ตั้งแต่เย็นจนดึก แล้วเพื่อนเราก็ไม่ชอบให้ใครเข้ามาคุยด้วยเลย”
“ก็คุยกันคนละห้องกับเราสิ”
“เดี๋ยวเราตอบเพื่อนช้า ไม่เอาอ่ะ”
“งั้นก็ไม่มีหวังแล้วสินะ”
“ยังพอมี แต่เราคิดว่าเธอคงไม่ทำหรอก”
“อะไร”
“คุยดึกกว่านั้น รึจนกว่าเราจะคุยกับเพื่อนเราเสร็จ”
“ดีเลย”
“นี่เธอเอาจริงเหรอเนี่ย เราแค่พูดเล่นนะ”
“ก็เอาจริงน่ะสิ”
“อยากคุยกับเราขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ใช่ คุยกับเธอแล้วเราสบายใจดี”
“ไม่คิดว่าเราจะหลอกเธอบ้างรึไง”
“ไม่”
“ฉันอยากให้เธอคิดซะหน่อย แต่เราน่ะพอจะไว้ใจได้ แต่ถ้าเป็นคนอื่น เราไม่อยากให้เธอคิดอย่างนี้”
“เราก็พอจะดูรู้นะว่าใครดีใครเลว”
“แล้วเราจัดอยู่ในประเภทไหนล่ะ”
“ก็ต้องดีน่ะสิ ถามได้”
“ไม่เข้าใจเล้ย ทำไมเพื่อนเราคนนึงถึงได้เกลียดเรานักหนา”
“คนอย่างเธอมีคนเกลียดด้วยเหรอ”
“มันก็ต้องมีบ้างแหละน่า”
“แต่ก็จะเป็นส่วนน้อย เค้าอาจเข้าใจผิดก็ได้มั้ง”
“เราก็หวังให้มันเป็นอย่างที่เธอพูด”
“นี่ก็ 5 โมงกว่าแล้ว ใกล้ถึงเวลาเพื่อนเธอแล้วสินะ”
“ใช่ๆ  แล้ววันนี้เราจะคุยกันอีกมั้ย”
“ก็อาจจะ ยังไงก็เข้าไปดูก่อนละกัน (ใน MSN)”
“โอเค.”
“ไปล่ะ”
“ไปเหมือนกัน...”
~~End~หก : เพื่อนใหม่ (รึเปล่า)~~
เจ็ด : ไม่คิดว่าจะเจอคนดี
วีเล่น PIRCH กับคนแปลกหน้าเสร็จ ก็รู้สึกแปลกใจที่ยังพอหาคนดีๆ เจอ จากนั้นก็เลยลงมากินข้าวเย็นและขึ้นมาอาบน้ำ แล้วเล่น MSN กับเมย์ต่อ แต่ปรากฏว่าเมย์ Offline อยู่ วีจึงไปเข้าไปหาคนแปลกหน้าที่คุยกันเมื่อตอนบ่ายและเจอพอดี
“เธอ...เข้ามาเร็วจัง แล้วเพื่อนเธอล่ะ”
“เค้ายังไม่มาเลย เราเลยมาคุยกับเธอก่อน”
“เรากำลังคุยกับเพื่อนอยู่พอดี มาคุยด้วยกันเลยก็ได้”
“อ้าวเหรอ โทษที เราว่าไม่ดีกว่า เธอคุยกับเพื่อนไปเหอะ”
“ไม่เป็นไร คุยได้ เค้านิสัยดี”
“ไม่ล่ะ ขอบใจ งั้นเราไปก่อนนะ เดี๋ยวเข้ามาใหม่ตอนดึกๆ”
“เอาอย่างนั้นก็ได้ แล้วเจอกันนะ”
“แน่นอน”
วีลองดูเมย์อีกครั้ง แต่ก็ยังเหมือนเดิมคือ Offline เลยไปคุยกับเอมแทน
“เอมเล่นอยู่รึเปล่า”
“วีเองเหรอ เอมกำลังจะไปคุยด้วยอยู่เลย”
“ใจตรงกันเลยนะ”
“เป็นไงบ้างล่ะ ไปเที่ยววันนี้”
“ก็มีทั้งดีแล้วก็ไม่ดี”
“บอกได้มั้ย...ยังไง”
“ก็...ได้”
“ขอเรื่องไม่ดีก่อน”
“ไม่ดีก็คือ เจอเพื่อนที่โรงเรียนที่ไม่ค่อยถูกกัน”
“แล้วเรื่องดีล่ะ”
“ก็ไปดูหนังกับเมเมไง”
“อ๋อ ที่แท้ก็ไปกับเมย์นี่เอง นึกว่าใคร”
“ขอถามหน่อยสิ เอมเคยเล่น PIRCH บ้างมั้ย”
“เคย แต่ไม่ชอบ เพราะไม่รู้จักคนที่คุยด้วย”
“แต่เมื่อตอนบ่ายๆ วันนี้ วีลองเล่นดู เจอคนดีด้วยล่ะ”
“โชคดีนะ เพราะที่นั่นน่ะหาคนดีได้ยากจะตาย”
“ใช่ ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะเจอหรอก กะจะไประบายซะหน่อย”
“อ้าว แล้ววันนี้ไม่เล่นกับเมย์เหรอ”
“เมย์ไม่อยู่น่ะสิ ไม่รู้ไปไหน นี่ก็จะทุ่มนึงอยู่แล้ว”
“ทุกครั้งเห็นไม่เคยสายนี่”
“นั่นสิ เป็นอะไรรึเปล่าก็ไม่รู้”
“คงไม่หรอกมั้ง”
“เอมยังอยากไปดูหนังกับเราอยู่มั้ย”
“อยากน่ะสิ ถามทำไม”
“ก็นึกว่าจะเปลี่ยนใจ”
“เรื่องอะไรจะเปลี่ยน กว่าจะนัดวีได้ที ลำบากจะตาย”
“ไม่ลำบากหรอก อันที่จริงวีก็อยากเจอเอมบ่อยๆ เหมือนกัน”
“เหมือนกัน แต่คงไม่ได้...ใช่มั้ย”
“อย่าทำเศร้าได้มั้ย”
“เปล่านี่”
“เพื่อให้เอมสบายใจนะ เราสัญญาว่าจะต้องเจอหน้าเอมให้ได้ อย่างน้อยที่สุด...เทอมละครั้ง”
“โหย น้อยจัง แต่ก็ยังดี วีพูดจริงนะ”
“อื้อ”
“เอมมมมมมรักกกกกวีจังงงงงเลยยยยย...”
“เข้าใจๆๆๆๆๆแล้วๆๆๆๆๆ”
“ฮ่าๆๆ”
“เอ๋...รู้สึกว่าเมเมจะมาแล้วนะ”
“งั้นก็ต้องไปแล้วล่ะสิ”
“วีก็ไม่อยากทำอย่างนั้นนักหรอก ดึงเมย์เข้ามาคุยด้วยกันดีมั้ย”
“ไม่ดีกว่า เอมรู้ดีว่าเมย์ไม่ค่อยชอบเอมเท่าไหร่”
“ไม่หรอก คิดมากไปได้”
“ก็มันจริงมั้ยล่ะ...ไปเถอะ เดี๋ยวเมย์จะรอนาน”
“ขอโทษจริงๆ นะเอม แล้ววันหลังค่อยคุยกันอีก”
“ไม่เป็นไร หวัดดี”
“หวัดดี...”
เมื่อออกจากเอมแล้ว วีก็เข้าไปหาเมย์
“มาแล้วจ้า...”
“ไปไหนมาเนี่ย”
“ก็ไปคุยกับคนอื่นก่อน เมื่อกี้เมย์ยัง Offline อยู่นี่”
“ไม่ต้องบอกหรอกว่ากับใคร เพราะเมย์รู้แล้ว”
“รู้ได้ไง”
“เดาเอานะว่าเป็นเอม”
“ถูกเผง”
“ว่าแล้วเชียว คุยกันนานเลยล่ะสิ”
“แป๊ปเดียวเอง แค่ครึ่งชั่วโมงได้”
“งั้นเหรอ วันนี้คุยเรื่องอะไรดีล่ะ”
“ไม่รู้สิ เออ ขอบคุณนะที่ส่งรูปซาซ่ามาให้ วีเปิดดูเมื่อตอนเย็นแล้ว”
“ไม่เป็นไร แค่นี้เอง พี่เราก็ชอบ เลยมีรูปเยอะเลย”
“ขอบจายๆ วันหลังขอประวัติด้วย”
“ได้สิ รอหน่อยละกัน”
วีกับเมย์คุยกันต่อไปเรื่อยๆ จนถึงประมาณ 5 ทุ่มกว่า ก็ลากันไป แล้ววีจึงไปเข้าหาคนแปลกหน้าคนนั้นต่ออีกครั้ง
“เรามาแล้วนะ”
“เธอนี่เอง กำลังรออยู่พอดี”
“หวังว่าคงคุยกับเพื่อนเสร็จแล้วนะ”
“อื้อ รอเธอมาครึ่งชั่วโมงแล้ว”
“โทษที งั้นก็คุยมาได้เลย”
วีกับคนแปลกหน้านั้นคุยกันอย่างถูกคอ แล้วก็เริ่มทำความรู้จักกันมากขึ้น เพราะต่างคนก็ต่างไว้ใจกัน
“เธอบอกชื่อเธอให้เรารู้หน่อยได้มั้ย”
“เราจำได้ เธอเคยบอกว่าจะไม่ได้ความจริง”
“งั้นก็ชื่ออะไรก็ได้ ที่จะพอเรียกแทนคำว่าเธอ”
“ก็ได้ๆ เรียกเราว่าหวานละกัน”
“หวานเหรอ ชื่อเพราะดีนะ”
“แล้วจะให้เราเรียกเธอว่าอะไร”
“เรียกว่า...โอ้ ละกัน”
“หา ว่าไงนะ โอ้เหรอ”
“ทำไมล่ะ ไม่ดีตรงไหน”
“ไม่ใช่ไม่ดีหรอก คือว่า...โอ้ เป็นชื่อของรุ่นพี่ที่เราปลื้มๆ อยู่นะสิ”
“ผู้ชายใช่มั้ย”
“ใช่น่ะสิ ก็ดีเหมือนกันนะ เรียกเธอว่าโอ้ดีกว่า”
“ตกลงตามนั้น”
ทั้ง 2 คนก็เข้าใจกันดีและตกลงกันว่าบอกชื่อที่เพิ่งคิดกันใหม่ไป จากนั้นก็คุยกัน เรื่อยๆ จนล่วงไปถึงตี 3 กว่าๆ
“ไม่ง่วงบ้างรึไงหวาน”
“นิดหน่อย คุยกับโอ้จนลืมเวลาเลย”
“เราเริ่มจาง่วงแล้วน้า”
“เหมือนกัน ม่ายเคยคุยดึกเท่านี้มาก่อนเลย”
“อย่างนี้ไม่เรียกดึกแล้ว เค้าเรียกว่าใกล้จะเช้าแล้ว”
“ไม่อยากเลิกเลย”
“เอาเหอะ พรุ่งนี้ค่อยมาต่อ วันนี้เราต้องตื่นเช้าด้วย”
“กี่โมง”
“8 โมง”
“งั้นก็รีบไปนอนเหอะ ได้นอนแค่ประมาณ 5 ชั่วโมงเอง”
“หวานก็เหมือนกัน อย่านอนดึกบ่อยนะ เดี๋ยวไม่ซาบาย”
“ขอบใจที่ห่วง โอ้ก็เหมือนกันล่ะ”
“อื้อ บ๊ายบายละนะ”
“นอนหลับฝันดีนะโอ้”
“thanks ,you ,too”
~~End~เจ็ด : ไม่คิดว่าจะเจอคนดี~~
แปด : อยู่ใกล้กันนี่นา
เมื่อเลิกคุยกันกับหวานไปแล้ว ทั้งวีและหวานก็รีบเข้านอนทันที เพราะง่วงมากๆ คืนนี้วีไม่ได้ฝันถึงแก้วอีก แต่ฝันถึงว่าได้อยู่โรงเรียนเดียวกับเมย์ แล้วตอนเช้าก็ตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงีย
“ถ้าฝันได้แบบเมื่อคืนทุกคืนก็ดีน่ะสิ”
ว่าแล้ววีก็อาบน้ำ แล้วลงมาหาอุ้ม
“พี่อุ้มจะไปจ่ายตลาดใช่ป่ะ”
“ค่ะ วันนี้สายไปหน่อย”
“ให้วีไปด้วยคนนะ”
“มันจะดีเหรอคะ มันออกจะลำบากนะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอก แค่นี้เอง”
“ถ้าคุณหนูวีอยากไปก็ได้ค่ะ แต่คุณท่านจะไม่ว่าเหรอคะ”
“พ่อกับแม่คงไม่ว่าหรอก ไปกันเถอะ”
“ค่ะๆ”
อุ้มไปจ่ายตลาดโดยใช้จักรยาน วีเป็นคนซ้อนไป ตลาดก็ห่างจากซอยบ้านวีไปประมาณ 5 ซอย ระหว่างทางในซอยนึงนั้น วีได้เห็นแก้วในบ้านของแก้วโดยบังเอิญ
“นั่นมันแก้วนี่นา บ้านอยู่แถวนี้เหรอไงนะ”
“เพื่อนคุณหนูวีเหรอคะ”
“อื้อ พี่อุ้มรู้มั้ยว่าซอยนี้ซอยอะไร”
“ซอย 8 ค่ะ”
“ก็ห่างจากบ้านเราแค่ 23 ซอยเองนี่”
“ค่ะ”
พอไปถึงตลาด วีกับอุ้มก็ลงไปซื้อของด้วยกันและช่วยกันถือของ
“เอามาให้วีถือมั่งสิพี่อุ้ม”
“พี่ถือได้ค่ะ”
“เอามาเถอะน่า มันหนักจะตาย ถือคนเดียวจะไหวได้ไง”
“ขอบคุณนะคะ”
“แค่นี้เอง จิ๊บจ๊อย”
พอจ่ายตลาดเสร็จก็กลับบ้าน คราวนี้วีได้เห็นหน้าแก้วอย่างชัดเลยแน่ใจว่าบ้านของแก้วอยู่ตรงนี้ เมื่อกลับถึงบ้านก็ช่วยอุ้มทำกับข้าวและกินอาหารเช้าพร้อมกับพ่อแม่
“พ่อกับแม่อยู่บ้านใช่มั้ยคะวันนี้”
“ตอนบ่ายต้องบินไปสัมมนาที่เชียงใหม่น่ะลูก”
“อีกแล้วเหรอคะ แล้วกี่วันล่ะคราวนี้”
“อาทิตย์เดียวเอง แต่พอเสร็จที่เชียงใหม่ แม่กับพ่อก็จะต้องไปต่อที่สิงค์โปร์เลยน่ะ”
“ตั้งอาทิตย์นึงแน่ะ แถมยังไปต่ออีก”
“เอาเถอะน่า มีพี่อุ้มอยู่แล้วนี่...อุ้ม ดูแลวีแทนฉันด้วยนะ”
“ค่ะ คุณท่าน”
เมื่อถึงตอนบ่ายพ่อกับแม่จึงเตรียมตัวไปที่สนามบิน
“กลับมาเร็วๆ นะคะ”
“อยู่บ้านดีๆ ล่ะลูก”
“แม่ไปแล้วนะ จะรีบกลับ”
“หวัดดีค่ะแม่ หวัดดีค่ะพ่อ”
~~End~แปด : อยู่ใกล้กันนี่นา~~
เก้า : รถไฟชนกัน
จากนั้นวีก็เข้าบ้านมาทำการบ้านและบอกเรื่องที่จะค้างบ้านเอมพรุ่งนี้ให้อุ้มฟัง ในเชิงที่จะขออนุญาต
“พี่อุ้ม พรุ่งนี้วีขอไปนอนค้างที่บ้านเพื่อนนะคะ”
“ค้างเลยเหรอคะ พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าคุณท่านอยู่จะอนุญาตรึเปล่า”
“วีเคยลองบอกกับพ่อแม่ไว้บ้างแล้ว นะคะ ให้วีไปเถอะ”
“แล้วบ้านเพื่อนคุณหนูวีอยู่ไกลมั้ยคะ”
“ก็ไม่ไกลหรอก แต่ว่าต้องนั่งรถไป”
“จะไปยังไงล่ะคะ”
“ก็ตอนเย็นๆ วีจะไปที่บ้านเพื่อนเลย จะไปติวเลขน่ะ แล้วตอนเช้าวันอังคารตอนประมาณตี 5 กว่าๆ ก็ให้ลุงช่วยไปรับแล้วก็ไปส่งที่โรงเรียนเลย ได้มั้ยล่ะ”
“เพื่อนคุณหนูวีไว้ใจได้นะคะ”
“แน่นอน เพื่อนสนิทน่ะ”
“ก็...แล้วแต่คุณหนูวีเถอะค่ะ พี่คงจะพูดว่าอนุญาตรึไม่อนุญาตไม่ได้หรอก”
“ขอบคุณนะพี่อุ้ม”
“.....”
เช่นเคยว่าวันนี้วีต้องเล่น MSN แต่ว่าเป็นเรื่องน่าประหลาดที่ไม่ดีเท่าไหร่สำหรับวี นั่นก็คือทั้งเมย์ เอมและหวานเข้ามาพร้อมกันเลย วีทำอะไรแทบไม่ถูก เรียกตัวเองกับคนที่คุยด้วยผิดบ้างถูกบ้าง จนเมย์ หวานและเอมสงสัย เลยต้องเคลียร์กันให้รู้เรื่อง ก็กินเวลานานกว่าจะเสร็จ
“เรารู้หน้าที่ดี แล้วจะเข้ามาใหม่ตอนประมาณ 4 ทุ่มนะ”
“ขอโทษด้วยนะ แล้วเจอกัน”
“อื้อ”
เมื่อหวานไปแล้ว วีก็มาคุยกับเอมและเมย์ที่คราวนี้ต้องมาอยู่ด้วยกันทั้ง 3 คน
“มาแล้วๆ”
“อือๆ เมย์ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากคุยกับวีนิดหน่อย แต่ถ้าเอมจะคุยล่ะก็ เราบายแล้วนะ เชิญเถอะ”
“เดี๋ยวสิเมย์ จะรีบไปไหน”
“นั่นสิ คุยกับวีก็ได้ เอมไม่มีอะไรเหมือนกัน”
แต่ปรากฏว่าเอมได้ออกไปจากที่นั่นเรียบร้อยแล้ว
“เฮ้อ เมย์นี่ขี้งอนจริงๆ นะ คราวนี้ ไปจริงเลยด้วย Offline ไปเลย”
“ก็ไม่ต่างจากเอมเท่าไหร่หรอก”
“นี่ เอมไม่ขี้งอนขนาดนั้นหรอก”
“แต่มากกว่านั้นซะอีก”
“เออๆ เอาเลย”
“นั่นไง เริ่มจะงอนแล้วไง”
“ไม่เอาแล้ว เลิกๆ มาพูดถึงเรื่องพรุ่งนี้ดีกว่า”
“พรุ่งนี้...อะไรเหรอ”
“นี่ลืมจริงๆ รึว่าแกล้งลืมเนี่ย”
“ล้อเล่นน่า แกล้งลืมหรอก”
“ตกลงว่ายังไง บอกแผนมาหน่อยซิ”
“ก็เริ่มจากเจอกันที่โรงเรียนเก่าตอน 4 โมง แล้วถึงที่โรงหนังก็ดูหนัง 2 เรื่อง ถึงประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ แล้วก็ไปนอนค้างที่บ้านเอม แล้วพอตอนเช้า ตี 5 ครึ่ง ลุงช่วย (คนขับรถที่บ้าน) ก็จะมารับวีที่บ้านเอมแล้วพาไปส่งที่โรงเรียนเลย”
“อื้อ เป็นแผนที่ดีมากที่สุดเลย”
“มีเรื่องอะไรอีกมั้ย”
“ก็ไม่มีนี่ บอกแค่นี้แหละ อย่าผิดนัดนะ ไม่งั้นโป้งด้วย”
“โอ๋ๆ ไม่ผิดนัดหรอกจ้ะ ไปนะ”
“บาย...”
~~End~เก้า : รถไฟชนกัน~~
สิบ : ฝันที่ไม่อยากให้เป็นจริง
หลังจากนั้นวีก็เห็นว่ายังไม่ถึง 4 ทุ่ม เพิ่งจะ 2 ทุ่มครึ่งเอง ก็เลยไปนอนพักก่อนเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า แล้วก็ปลุกนาฬิกาไว้ตอน 4 ทุ่ม เพื่อจะตื่นมาคุยกับหวานตามที่สัญญาไว้
ในขณะที่วีนอนหลับไปนั้นก็ฝัน วีฝันถึงเรื่องบางอย่าง (ต่อไปนี้เป็นช่วงความฝัน)
“ไหนๆ ก็คุยกันมานานแล้ว เราอยากเจอหน้าหวานจัง”
“จะเอาจริงเหรอ เรากลัวว่าโอ้เจอหน้าเราแล้วจะตกใจน่ะสิ”
“ทำไมเหรอ หน้าหวานใกล้เคียงกับผีเลยรึไง”
“ประมาณนั้น”
“เราไม่สนหรอก นะๆ ได้มั้ย”
“ก็ได้ๆ เจอกันที่ไหนล่ะ บ้านเราอาจจะไม่ได้อยู่ใกล้กันก็ได้นะ”
“แล้วบ้านหวานอยู่แถวไหนล่ะ”
“แถวๆ บางพลัดน่ะ”
“จริงอ่ะ เราก็เหมือนกัน”
“งั้นก็นัดเจอใกล้ๆ เนี่ยแหละ”
“เจอกันที่เซ็นฯ ปิ่นฯ ได้มั้ย”
“ไม่ใกล้แล้วก็ไม่ไกล”
“เอาตามนี้ละกัน”
“โอเค. บ๊ายบาย”
“บาย...”
วีกับหวานนัดเจอกันที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ทั้งคู่นัดกันมาว่าจะใส่เสื้อสีอะไรกัน วีนั้นใส่สีน้ำเงิน ส่วนหวานใส่สีฟ้า เมื่อไปถึงที่ก็รอกันอยู่นาน วีและหวานก็ดูนาฬิกาบ่อยๆ กันทั้งคู่
“หวานจะมามั้ยเนี่ย”
“มารึยังเนี่ยโอ้ ช้าจัง”
วีมองไปรอบๆ ก็สะดุดอย่างนึงตรงที่เห็นแก้ว แต่ไม่ได้คิดอะไร เพราะที่นี่มีคนมาเที่ยวเยอะ แต่พอดูดีๆ ก็เห็นว่าแก้วยืนอยู่คนเดียว ดูนาฬิกาบ่อยเหมือนรอใครซักคนและที่สำคัญแก้วใส่เสื้อสีฟ้า
“เป็นไปไม่ได้หรอกน่า แก้วจะเป็นหวานได้ไง ฮ่าๆ...”
ขณะเดียวกัน สายตาของแก้วก็มาเจอะวีพอดี เลยเกิดอาการอยากจะหลบหน้าเหมือนเคย แต่จำคำของโอ้ได้ ที่เคยแนะนำว่าอย่าหลบหน้า มีอะไรก็พูดๆ กันไปเลยจะดีกว่า แก้วจึงตัดสินใจเดินเข้ามาหาวี ท่ามกลางความงุนงงของวีที่มีอยู่ไม่น้อย
“สวัสดี”
“ห...หวัดดีแก้ว”
“.....”
“ม...มาทำอะไรเหรอ”
“รอเพื่อนน่ะไม่รู้ไปอยู่ไหน ยังไม่มาเลย”
“เราก็มารอเพื่อนเหมือนกัน”
“งั้นก็ขอนั่งด้วยคนนะ”
“ได้สิ ตามสบาย”
ในตอนแรกแก้วก็ไม่ได้คิดเอะใจอะไร แต่ไปๆ มาๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าโอ้จะใส่เสื้อสีน้ำเงินซึ่งวีเองก็ใส่สีนี้เช่นกัน แต่คิดว่าบังเอิญ เมื่อรอนานๆ เข้าทั้ง 2 คนก็ชักทนไม่ไหว
“โอ้เค้าไปไหนของเค้านะ รอนานแล้วนะ”
“หวานก็เหมือนกัน ผิดนัดแน่เลย”
“เดี๋ยวๆ เมื่อกี้พูดว่าหวานเหรอ”
“แล้วเมื่อกี้อะไรโอ้ๆ นะ”
“อย่าบอกนะว่าเธอคือโอ้”
“แล้วเธอก็อย่าบอกนะว่าเธอคือหวาน”
“โอ้ ไม่นะ...”
~~End~สิบ : ฝันที่ไม่อยากให้เป็นจริง~~
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น