ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำเรื่อง:เรื่องเล่าถึงเยอรมัน
Together Forever  พี่ชายที่รัก
บทนำและบทที่1
                        ถึงเวลาแล้วที่เด็กหญิงเล็กๆคนหนึ่ง  จะเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่  มีความรักและเดินไปในทางของเธอเอง  แต่ทำไม?  พี่ชายถึงไม่เข้าใจสักทีนะ
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*------<> + <> + <>-----*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
บทนำ
สวัสดีค่ะทุกๆคน  วันนี้เซจะมาเล่าเรื่องที่มีตัวละครหลักเป็นตัวเองกับพี่ชายค่ะ(บุคลิกเอามาจากพี่ชายแต่ชื่อไม่ใช่ค่ะ)
ในความจริง(แล้วนี่ปลอมเรอะจ๊ะ)เซไม่เคยคิดจะแต่งเรื่องแบบนี้หรอกค่ะ  ชอบเขียนแบบแฟนตาซีมากกว่า
อืมม..เรามาเข้าเรื่องเหอะค่ะ
จริงๆแล้ว เซไม่ได้ชื่อเซเวียร์หรอกค่ะ(ก้อรู้กันอยู่แล้วอ่ะ)  แต่ว่าชื่อว่า เซราวี  คำว่าราวีน่ะมาจากเรวินที่เป็นชื่อของป๊ะป๋าค่ะ แปลว่าทราย(ภาษาอะไรซักอย่าง)
ดังนั้น  เพื่อนๆของเซเลยชอบบอกว่าเซชื่อแปลกมากๆ
แต่เซก็ไม่เคยเอามาถือเป็นจริงเป็นจังมันสักครั้ง(ไม่สนใจด้วย)  เพราะเซคิดว่าชื่อของ พี่ชายเซน่ะ  “เฉิ่ม” ชะมัด
พี่ชายของเซสองคน  คนโตชื่อเควินและคนรองชื่อแอนดรูว์ค่ะ
คือมันอาจจะไม่เฉิ่มสำหรับบางคนนะคะ  แต่พี่วินกับแอนดี้น่ะ  ชอบพูดเสมอๆว่า
“ทำไมฉันต้องชื่อเควินด้วยนะ?”
“แอนดรูว์น่ะ..เห่ย!!”
แบบนี้ประจำ  แต่เซจะไม่พูดถึงเรื่องนี้มากหรอกค่ะ  เพราะมันไม่เกี่ยวกันเลย(แล้วที่หล่อนพล่ามมาเนี่ยอารายยยยยย)
และถึงแม้พวกพี่ๆจะ “เห่ย” ที่ชื่อ  มันก็ไม่ได้หมายความว่าพี่พี่เค้าจะ  “เห่ย”ที่หน้านะคะ
เพราะรูปลักษณ์ของพี่เค้าเนี่ย  ตรงกับพวกหนุ่มลูกครึ่งในฝันของสาวไทยเลยล่ะคะ
พี่วินมีผมสีน้ำตาลอ่อน  แกมดำ (ที่แอนดี้ชอบบอกว่าเหมือนกาลูกผสม)  แต่ว่าตาของพี่เนี่ย  สวยสุดๆเลยค่ะ  มันเป็นสีเขียวแบบจางๆ  จางมากจนคล้ายมีสีเทาหม่นๆชืดๆมาปนด้วยแล้วก็ใสๆเหมือนปลาสดๆ(เฮ้ย!?!)  จริงๆใครเห็นก็ต้องบอกว่าพี่วินเนี่ยหล่อลากซุง  เอ้ยลากดินเลย
ส่วนแอนดี้ก็มีสีผมที่แปลกมากๆ เพราะดันไปสีเหมือนแม่ของคุณย่า( ..ทวด .) หมายถึงสีทองค่ะ 
เซเลยเป็นยายหัวดำคนเดียวในหมู่พี่น้อง  (แอนดี้เคยบอกว่าสีเหมือนอึ๊หมู <<ซึ่งโดนเซเตะไปหลายป้าบ)แต่เซชอบตาของตัวเองที่สุด  เพราะมันเป็นสีเขียวเหมือนทะเล  เขียวเข้มมากๆเละล่ะค่ะ (ซึ่งจริงๆแล้วแอนดี้ก้อตาสีนี้ค่ะ แหะแหะ)
เซกับพี่ๆน่ะอยู่เมืองไทยจนถึงเมื่อปลายปีค่ะ  ตอนนั้นจู่ๆคุณพ่อก็จะเอาคุณแม่ไปอยู่ที่สวิสฯด้วยกัน แล้วก็จะส่งเซ(กับพี่)ไปเยอรมันหาคุณย่า
แหม..ถ้าเป็นประเทศอื่นก็ดีสินะ เยอรมันเนี่ย ไงก็ไม่รู้
เอาเป็นว่า..จนได้ค่ะ ปะป๋าเล่นโยกย้ายพวกเราตามใจชอบเลย
เราสามคนมาถึงเยอรมันอย่างงงๆค่ะ บอกตามตรงนะคะเซตอนนั้นรู้สึกว่าเหมือนเป็นเรื่องล้อเล่นเลยค่ะ
สนามบินที่เยอรมันสวยมากๆๆ (พวกเรากลายเป็นบ้านนอกเข้ากรุงทันทีเลยค่ะ แหะแหะ)
เราเดินทางจากบอร์นไปคาร์ลสรูเฮบ้านเกิดของป๊ะป๋า  โดยมีคุณลุงเจมส์เป็นคนขับรถส่วนคุณย่าก็มาไม่ได้เพราะว่าแก่มากแล้วและก็ไม่ค่อยสบาย
ระหว่างทางน่ะคุณลุงเจมส์เล่าให้ฟังว่าคุณย่าของเซกะพี่ๆน่ะเป็นราชนิกูลเก่า<<ยอดไปเลยนะคะ
แค่หลังจากที่คุณพ่อแต่งออกไปนะคุณพ่อก็แทบจะไม่มาเยี่ยมคุณย่าเลย  จริงๆเรื่องนี้พี่ๆไม่ค่อยอยากให้เซรู้ค่ะ  แต่เซดื้อเลยไปถามเอาจากคุณยาย
ตอนที่พี่วินยังเด็กๆและแอนดี้เพิ่งเกิด คุณพ่อน่ะยังไม่ได้บอกเรื่องคุณแม่กับคุณย่าเลย
คุณพ่อเค้ามาอยู่เมืองไทยปีกว่าก็พาคุณแม่ไปกราบคุณย่าค่ะ  แค่ว่าคุณย่าไม่ยอมรับคุณแม่  คุณยายบอกว่าคุณย่าเป็นเชื่อสายโดยตรงของราชนิกูลอังกฤษที่เรียกว่าพวกเคานท์ที่ตอนหลังสละสิทธิ์ในการเป็นกษัตริย์เลยย้ายจากอังกฤษไปเยอรมัน(อันนี้เซก้อกำลังงงกะมันอยู่เลยค่ะ ไอ้ “สิทธิ” ในการเป็นกษัตริย์เนี่ย!!)
คุณย่าไม่ชอบที่คุณแม่เป็นคนไทย  จริงๆแล้วคุณย่าอยากให้เป็นคนอังกฤษมากกว่า
แล้วคุณพ่อก็ไม่เคยกลับไปหาคุณย่าเลย
นี่คงดีกันแล้วมั้งคะเนี่ย  เลยยอมเอาพวกเซไปอยู่ที่บ้าน  พวกพี่ๆบอกว่าห้ามพูดเรื่องนี้  เซก้อจะไม่พูดละกัน
นี่แน่ะ! ยัยน้องบ้องตื้น  แกอย่ามาเรียกชั้นว่าแอนดี้นะ  แกก็รู้ว่า..
โอ๊ย! อย่ามาแย่งเซเขียนนะ  แอนดี้นี่นิสัยแย่จริงๆ
แหะแหะ โทดค่ะ เกิดการทะเลาะกันนิดหน่อย  แอนดี้นี่ร้ายจังมาเรียกเราว่ายัยน้องบ้องตื้น
มาเล่าต่อดีกว่านะคะ  ลุงเจมส์บอกว่าคาร์ลสรูเฮเป็นเมืองชนบทที่เงียบสงบมากๆ  และเป็นแหล่งสำคัญในการผลิตไวน์ของเยอรมันค่ะ
แต่ว่านะ  ที่เซไม่เคยคาดคิดเลยค่ะก็คือว่าบ้านของคุณย่าน่ะ ประสาท  เอ้ย!  ปราสาทชัดๆ
แล้วก็กว้าง..  กว้างมากๆเลยค่ะ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตเซเลยล่ะ  ที่เห็นพี่วินตื่นเต้น “มาก” ขนาดนี้
กว้างมากๆจนถึงมากที่สุด  ลุงเจมส์บอกว่าจริงๆแล้วไม่กว้างขนาดนี้ค่ะ
แค่เมื่อปีที่แล้วมันมีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ไวน์  คุณย่าเลยกว้านซื้อที่เกือบรอบเมืองไว้แล้วจ้างชาวสวนเจ้าของที่แต่เดิมไว้ทำงานในไร่องุ่น  เพื่อให้พวกชาวบ้านไม่อดตายหรือตกงาน
(พี่วินตาโตเท่าไข่ไก่  ละล่ำละลักกระซิบกับเซว่าไอ้การทำแบบนี้  มันทำให้คุณย่าต้องเสียเงินจำนวนมหาศาล  เป็นร้อยๆล้าน)<<ผลก็คือเซเลยกลายเป็นใบ้ไปเลย  ใครจะไปรู้ล่ะว่ามันจะเยอะปานนั้น
ไอ้แบบนี้มันก็ดีนะคะ  แต่ที่เซเกลียดมากๆ  ก็คือการที่ยัยเมทตาน้ำข้าวพวกนั้นจ้องพี่วินกับแอนดี้ยังกะแร้งจ้องเหยื่องั้นล่ะ  พี่วินยังไม่เท่าไหร่  อีตาแอนดี้นะเล่นหูเนตากับแม่พวกนั้นใหญ่เลย 
เอาเถอะขี้เกียจเล่าแล้ว
เซขอจบบทนำแค่นี้นะคะ 
อ้อ..นี่อาจเรียกได้ว่าอารัมภบทนะคะ(พี่วินบอก)
<>::<>::<>::<>::<>::<>::<>::<>::<>::<>::<>::<>::<>::<>::<>
บทนำและบทที่1
                        ถึงเวลาแล้วที่เด็กหญิงเล็กๆคนหนึ่ง  จะเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่  มีความรักและเดินไปในทางของเธอเอง  แต่ทำไม?  พี่ชายถึงไม่เข้าใจสักทีนะ
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*------<> + <> + <>-----*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*
บทนำ
สวัสดีค่ะทุกๆคน  วันนี้เซจะมาเล่าเรื่องที่มีตัวละครหลักเป็นตัวเองกับพี่ชายค่ะ(บุคลิกเอามาจากพี่ชายแต่ชื่อไม่ใช่ค่ะ)
ในความจริง(แล้วนี่ปลอมเรอะจ๊ะ)เซไม่เคยคิดจะแต่งเรื่องแบบนี้หรอกค่ะ  ชอบเขียนแบบแฟนตาซีมากกว่า
อืมม..เรามาเข้าเรื่องเหอะค่ะ
จริงๆแล้ว เซไม่ได้ชื่อเซเวียร์หรอกค่ะ(ก้อรู้กันอยู่แล้วอ่ะ)  แต่ว่าชื่อว่า เซราวี  คำว่าราวีน่ะมาจากเรวินที่เป็นชื่อของป๊ะป๋าค่ะ แปลว่าทราย(ภาษาอะไรซักอย่าง)
ดังนั้น  เพื่อนๆของเซเลยชอบบอกว่าเซชื่อแปลกมากๆ
แต่เซก็ไม่เคยเอามาถือเป็นจริงเป็นจังมันสักครั้ง(ไม่สนใจด้วย)  เพราะเซคิดว่าชื่อของ พี่ชายเซน่ะ  “เฉิ่ม” ชะมัด
พี่ชายของเซสองคน  คนโตชื่อเควินและคนรองชื่อแอนดรูว์ค่ะ
คือมันอาจจะไม่เฉิ่มสำหรับบางคนนะคะ  แต่พี่วินกับแอนดี้น่ะ  ชอบพูดเสมอๆว่า
“ทำไมฉันต้องชื่อเควินด้วยนะ?”
“แอนดรูว์น่ะ..เห่ย!!”
แบบนี้ประจำ  แต่เซจะไม่พูดถึงเรื่องนี้มากหรอกค่ะ  เพราะมันไม่เกี่ยวกันเลย(แล้วที่หล่อนพล่ามมาเนี่ยอารายยยยยย)
และถึงแม้พวกพี่ๆจะ “เห่ย” ที่ชื่อ  มันก็ไม่ได้หมายความว่าพี่พี่เค้าจะ  “เห่ย”ที่หน้านะคะ
เพราะรูปลักษณ์ของพี่เค้าเนี่ย  ตรงกับพวกหนุ่มลูกครึ่งในฝันของสาวไทยเลยล่ะคะ
พี่วินมีผมสีน้ำตาลอ่อน  แกมดำ (ที่แอนดี้ชอบบอกว่าเหมือนกาลูกผสม)  แต่ว่าตาของพี่เนี่ย  สวยสุดๆเลยค่ะ  มันเป็นสีเขียวแบบจางๆ  จางมากจนคล้ายมีสีเทาหม่นๆชืดๆมาปนด้วยแล้วก็ใสๆเหมือนปลาสดๆ(เฮ้ย!?!)  จริงๆใครเห็นก็ต้องบอกว่าพี่วินเนี่ยหล่อลากซุง  เอ้ยลากดินเลย
ส่วนแอนดี้ก็มีสีผมที่แปลกมากๆ เพราะดันไปสีเหมือนแม่ของคุณย่า( ..ทวด .) หมายถึงสีทองค่ะ 
เซเลยเป็นยายหัวดำคนเดียวในหมู่พี่น้อง  (แอนดี้เคยบอกว่าสีเหมือนอึ๊หมู <<ซึ่งโดนเซเตะไปหลายป้าบ)แต่เซชอบตาของตัวเองที่สุด  เพราะมันเป็นสีเขียวเหมือนทะเล  เขียวเข้มมากๆเละล่ะค่ะ (ซึ่งจริงๆแล้วแอนดี้ก้อตาสีนี้ค่ะ แหะแหะ)
เซกับพี่ๆน่ะอยู่เมืองไทยจนถึงเมื่อปลายปีค่ะ  ตอนนั้นจู่ๆคุณพ่อก็จะเอาคุณแม่ไปอยู่ที่สวิสฯด้วยกัน แล้วก็จะส่งเซ(กับพี่)ไปเยอรมันหาคุณย่า
แหม..ถ้าเป็นประเทศอื่นก็ดีสินะ เยอรมันเนี่ย ไงก็ไม่รู้
เอาเป็นว่า..จนได้ค่ะ ปะป๋าเล่นโยกย้ายพวกเราตามใจชอบเลย
เราสามคนมาถึงเยอรมันอย่างงงๆค่ะ บอกตามตรงนะคะเซตอนนั้นรู้สึกว่าเหมือนเป็นเรื่องล้อเล่นเลยค่ะ
สนามบินที่เยอรมันสวยมากๆๆ (พวกเรากลายเป็นบ้านนอกเข้ากรุงทันทีเลยค่ะ แหะแหะ)
เราเดินทางจากบอร์นไปคาร์ลสรูเฮบ้านเกิดของป๊ะป๋า  โดยมีคุณลุงเจมส์เป็นคนขับรถส่วนคุณย่าก็มาไม่ได้เพราะว่าแก่มากแล้วและก็ไม่ค่อยสบาย
ระหว่างทางน่ะคุณลุงเจมส์เล่าให้ฟังว่าคุณย่าของเซกะพี่ๆน่ะเป็นราชนิกูลเก่า<<ยอดไปเลยนะคะ
แค่หลังจากที่คุณพ่อแต่งออกไปนะคุณพ่อก็แทบจะไม่มาเยี่ยมคุณย่าเลย  จริงๆเรื่องนี้พี่ๆไม่ค่อยอยากให้เซรู้ค่ะ  แต่เซดื้อเลยไปถามเอาจากคุณยาย
ตอนที่พี่วินยังเด็กๆและแอนดี้เพิ่งเกิด คุณพ่อน่ะยังไม่ได้บอกเรื่องคุณแม่กับคุณย่าเลย
คุณพ่อเค้ามาอยู่เมืองไทยปีกว่าก็พาคุณแม่ไปกราบคุณย่าค่ะ  แค่ว่าคุณย่าไม่ยอมรับคุณแม่  คุณยายบอกว่าคุณย่าเป็นเชื่อสายโดยตรงของราชนิกูลอังกฤษที่เรียกว่าพวกเคานท์ที่ตอนหลังสละสิทธิ์ในการเป็นกษัตริย์เลยย้ายจากอังกฤษไปเยอรมัน(อันนี้เซก้อกำลังงงกะมันอยู่เลยค่ะ ไอ้ “สิทธิ” ในการเป็นกษัตริย์เนี่ย!!)
คุณย่าไม่ชอบที่คุณแม่เป็นคนไทย  จริงๆแล้วคุณย่าอยากให้เป็นคนอังกฤษมากกว่า
แล้วคุณพ่อก็ไม่เคยกลับไปหาคุณย่าเลย
นี่คงดีกันแล้วมั้งคะเนี่ย  เลยยอมเอาพวกเซไปอยู่ที่บ้าน  พวกพี่ๆบอกว่าห้ามพูดเรื่องนี้  เซก้อจะไม่พูดละกัน
นี่แน่ะ! ยัยน้องบ้องตื้น  แกอย่ามาเรียกชั้นว่าแอนดี้นะ  แกก็รู้ว่า..
โอ๊ย! อย่ามาแย่งเซเขียนนะ  แอนดี้นี่นิสัยแย่จริงๆ
แหะแหะ โทดค่ะ เกิดการทะเลาะกันนิดหน่อย  แอนดี้นี่ร้ายจังมาเรียกเราว่ายัยน้องบ้องตื้น
มาเล่าต่อดีกว่านะคะ  ลุงเจมส์บอกว่าคาร์ลสรูเฮเป็นเมืองชนบทที่เงียบสงบมากๆ  และเป็นแหล่งสำคัญในการผลิตไวน์ของเยอรมันค่ะ
แต่ว่านะ  ที่เซไม่เคยคาดคิดเลยค่ะก็คือว่าบ้านของคุณย่าน่ะ ประสาท  เอ้ย!  ปราสาทชัดๆ
แล้วก็กว้าง..  กว้างมากๆเลยค่ะ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตเซเลยล่ะ  ที่เห็นพี่วินตื่นเต้น “มาก” ขนาดนี้
กว้างมากๆจนถึงมากที่สุด  ลุงเจมส์บอกว่าจริงๆแล้วไม่กว้างขนาดนี้ค่ะ
แค่เมื่อปีที่แล้วมันมีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ไวน์  คุณย่าเลยกว้านซื้อที่เกือบรอบเมืองไว้แล้วจ้างชาวสวนเจ้าของที่แต่เดิมไว้ทำงานในไร่องุ่น  เพื่อให้พวกชาวบ้านไม่อดตายหรือตกงาน
(พี่วินตาโตเท่าไข่ไก่  ละล่ำละลักกระซิบกับเซว่าไอ้การทำแบบนี้  มันทำให้คุณย่าต้องเสียเงินจำนวนมหาศาล  เป็นร้อยๆล้าน)<<ผลก็คือเซเลยกลายเป็นใบ้ไปเลย  ใครจะไปรู้ล่ะว่ามันจะเยอะปานนั้น
ไอ้แบบนี้มันก็ดีนะคะ  แต่ที่เซเกลียดมากๆ  ก็คือการที่ยัยเมทตาน้ำข้าวพวกนั้นจ้องพี่วินกับแอนดี้ยังกะแร้งจ้องเหยื่องั้นล่ะ  พี่วินยังไม่เท่าไหร่  อีตาแอนดี้นะเล่นหูเนตากับแม่พวกนั้นใหญ่เลย 
เอาเถอะขี้เกียจเล่าแล้ว
เซขอจบบทนำแค่นี้นะคะ 
อ้อ..นี่อาจเรียกได้ว่าอารัมภบทนะคะ(พี่วินบอก)
<>::<>::<>::<>::<>::<>::<>::<>::<>::<>::<>::<>::<>::<>::<>
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น