ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    THe CHAMBER

    ลำดับตอนที่ #1 : Fear

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 20
      0
      29 ก.ย. 46

    เสียงพายุฝนยังคงซัดกระหน่ำลงมาอย่างไม่ขาดสาย และไม่มีท่าทีว่าจะเบาลงเลย ลมพายุพัด



    ต้นไม้ใหญ่ในสวนหน้าบ้านจนเอียงเหมือนแทบจะโค่นลงมา ต้นไม้ใหญ่ที่มีใบดกหนา



    โดนลมพัด โอนเอนไปมาอย่างรุนแรง ดูแล้วเหมือนตัวอะไรบางอย่างที่น่ากลัวกำลัง



    เคลื่อนไหวไปมาภายใต้ท้องฟ้าที่ดำมืด  เสียงลมพายุพัดกระแทกหน้าต่างดังตึงตัง



    ชายหนุ่มพลิกตัวเล็กน้อย เขาไม่ใส่ใจที่จะลุกขึ้นไปดูหรอก เพราะรู้อยู่แล้วว่ามัน



    คือเสียงอะไร ให้ตายเถอะเขาไม่น่าจะมารับจ้างเฝ้าบ้านให้ลุงของเพื่อนเขาเลยในวันหยุดยาว



    แต่ก็นั่นแหละ เขาก็ไม่รู้จะไปไหนอีกเช่นกันแล้วที่สำคัญบ้านลุงของเพื่อนเขาก็พักสบายอยู่ไม่น้อย



    เสียอยู่ตรงที่เก่าไปหน่อยเท่านั้นเอง บ้านนี้เป็นบ้านขนาดใหญ่ เรียกได้ว่าคฤหาสน์เลยก็ว่าได้



    ชายหนุ่ม กำลังนอนหลับสบายบนโซฟาตัวใหญ่อยู่ตรงบริเวณชั้นล่างของบ้าน เขาคงหลับยาวถ้าไม่มีเสียง



    ดัง ตึงตังนั่นซะก่อนเขาลุกขึ้น หาวเล็กน้อยก่อนที่จะเดินฝ่าความมืดมิดภายในห้องไป



    เปิดไฟที่สวิทอยู่ตรงข้ามห้อง “อ้าว แปลกแฮะ”เขาพูดเบาๆคนเดียว เพราะไฟเปิดไม่ติด



    เขาตั้งใจจะลุกไปหาอะไรกินซักหน่อย เพราะไหนๆก็ตื่นแล้วแต่ดูท่าเขาจะต้องแก้ปัญหา



    ตรงหน้านี่ก่อน เสียงพายุฝนข้างนอกยังคงกระหน่ำลงมาอย่างไม่ขาดสาย สายฟ้าฟาดลงมา



    สาดแสงสว่างวาบไปทั่วห้อง แสงสะท้อนเงาของเก่าต่างๆที่ใส่ไว้ในตู้โชว์ แลดูน่ากลัวพึลึก



    ชายหนุ่มหาเก้าอี้มาต่อขา เพื่อที่จะปีนขึ้นไปดูดวงไฟว่าเป็นอะไร เขาถอดครอบไฟเพดานออก



    เพื่อที่จะดูข้างใน “ไม่เป็นอะไรนี่หลอดไฟก็ไม่ได้ขาด”เขาคิดในใจ ไฟฟ้าอาจจะดับ



    ขณะที่เขากำลังจะใส่ครอบไฟกลับที่เดิมนั้นเอง  “ตึง” “ตึง” “ตึง” โคมไฟสั่นเล็กน้อย



    เขาแน่ใจว่าได้ยินเสียง “ตึง” เพราะเขาอยู่ใกล้กับเพดานและที่สำคัญโคมไฟกำลังสั่น ต้องมีอะไรอยู่ชั้นบน



    แน่ ต้องมีบางสิ่งบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ข้างบนฟังจากเสียงที่เกิดขึ้น สิ่งนั้นต้องมีขนาดใหญ่ พอๆกับคน



    ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของเขา “ขโมย”





    ก็น่าอยู่หรอกไฟกำลังดับอยู่อย่างนี้และบ้านหลังนี้ก็บ่งบอกถึงฐานะของผู้เป็นเจ้าของ มันคงฉวยโอกาส



    ตอนที่ทุกคนในบ้านไปเที่ยว แต่มันคงคิดไม่ถึงหรอก ว่าจะมีคนมาอยู่เฝ้า ชายหนุ่มคว้าไฟฉายแล้วเดินตรง



    ไปทางบันไดที่ขึ้นไปชั้นสอง บันไดเวียนทอดตัวคดเคี้ยวไปในความมืดดูราวกับงูตัวใหญ่ที่นอนสงบ



    ชายหนุ่มเปิดไฟฉายแล้วเดินขึ้นบันไดไป ทันใดนั้นเอง  กริ๊งๆๆ กริ๊งๆๆๆ เสียงโทรศัพท์กรีดร้องขึ้น



    ท่ามกลางความเงียบงัน ชายหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อยเขาเดินไปได้ครึ่งทางแล้ว เขารีบวิ่งลงมารับมัน



    “ครับ ต้องการพูดกับใครครับ”  “กับนายนั่นเหละ”เสียงปลายสายตอบกลับมา



    “อ้าววิทย์เหรอมีอะไร?”       “เปล่าไม่มีอะไรแค่จะโทรมาถามว่ายังอยู่ดีหรือเปล่า”



    “โธ่ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ข้าไม่ยกเค้าบ้านเอ็งหรอก”      “ข้าไม่ได้ห่วงบ้าน เออนี่ ที่นั่นฝนตกรึเปล่า ยศ”



    “ตกสิ ตกเยอะด้วยพายุเข้า”        “เหรอ นี่อย่าขึ้นไปข้างบนนะ”   “ทำไมล่ะ?”



    “ลุงข้าเขาไม่ค่อยชอบให้ใครขึ้นไปยุ่งน่ะ”   “อ๋อเหรอ”   “จำไว้นะยศ อย่าขึ้นไปข้างบน”



    “เออๆรู้แล้วเที่ยวให้สนุกนะ” เขารีบอยากวางสาย เพราะขโมยอาจจะยังอยู่    



    “เออแค่นี้นะ” หลังจากเพื่อนของเขาวางสายไปความเงียบได้เข้ามาแทนที่



    ชายหนุ่มไม่ได้บอกเรื่องที่เขาสงสัย กลัวแต่จะทำให้เพื่อนกังวลเปล่าๆ เขาหยิบไฟฉายอีกครั้งพร้อมกับเดิน



    มุ่งหน้าไปข้างบน   ต้องแหกกฎกันหน่อยล่ะเพราะเกิดถ้าเป็นขโมยขึ้นมาละก็เขาคงแย่แน่



    ชายหนุ่มเดินขึ้นบันไดไปชั้นบนอีกครั้ง เสียงฝีเท้ากระทบขั้นบันไดแต่ละขั้นเป็นเสียงสะท้อนก้องไปใน



    ความมืดดัง “ต็อก ต็อก ต็อก”  เขาสาดแสงจากไฟฉายไปข้างหน้าฝ่าความมืดมิดเขาเดินไปเรื่อยๆ



    จนในที่สุดก็ถึงชั้นบน ทางเดินชั้นบนเป็นทางเดินยาวลึกไปเป็นทางตรง  ความมืดมิดปกคลุมอยู่ทั่วบริเวณ



    แม้แต่ลำแสงจากไฟฉายในมือยังส่องไปไม่สุดทางเดินที่เขาเดินอยู่ แสงจากไฟฉายสะท้อนรูปภาพสีน้ำมัน



    ที่เป็นรูปบุคลต่าง เหมือนพวกเขาจะมองมาที่ชายหนุ่ม นอกจากเสียงพายุฝนที่กำลังโหมกระหน่ำแล้ว



    นับว่าชั้นบนของบ้านเงียบมาก เงียบซะจนเขาได้ยินเสียงลมหายใจของตนเองดัง เป็นจังหวะ ฟืด ฟาด



    ฟืด ฟาด ฟืด ฟาด เขายังคงเดินฝ่าความมืดเข้าไปเรื่อยๆโดยมีไฟฉายในมือเป็นเพียงแสงนำทาง



    แล้วพยายามเงี่ยหูฟังเสียงที่ผิดปกติ ชายหนุ่มเดินมาได้ประมาณ 2-3นาทีแล้ว แต่ก็ยังไม่สุดทางเดิน



    ทางเดินของชั้นบนสามารถเดินเป็นวงกลมได้ ถ้าวนจนครบรอบแล้วจะไปสิ้นสุดตรงบันไดที่เขาเดินขึ้นมา



    “กึก”เสียงหนึ่งดังขึ้นถึงแม้จะเบาแต่เขาก็ได้ยินเพราะความเงียบ เสียงดังมาทางอีกฟากหนึ่งของบ้าน



    ตรงกันข้ามกับที่เขายืนอยู่ เขาฉายแสงไฟแสงจากไฟฉายไปที่เสียง เขาเห็นเหมือนเงาคนที่วูบหายไป



    “หยุดนะ” เสียงของเขาก้องไปในความมืดมิด ชายหนุ่มรีบวิ่งไปที่ที่เห็นเงา แต่ก็ต้องคว้าน้ำเหลว



    เพราะมีเพียงแค่ความว่างเปล่าที่รอเขาอยู่ ตอนนี้เขาเริ่มแน่ใจแล้วว่ามันเป็นอะไร เขาหยิบไม้กอลฟ์



    ที่วางอยู่ข้างฝามากำไว้ในมือแน่น เพื่อใช้เป็นอาวุธ “ออกมานะ” เขาพูดอีกครั้งมีเพียงความเงียบที่ตอบมา



    ชายหนุ่มสายสายตาอย่างระแวดระวัง เพื่อมันจะออกมาทำร้ายเขา “กึก” เสียงดังขึ้นอีกครั้ง



    เขาฉายไฟไปที่เสียง ภาพที่เห็นคือประตูที่แง้มเปิดไว้ มันคงแอบเข้าไปในห้องแน่ เขารีบวิ่งตรงไปที่



    ประตูห้องดังกล่าว  ประตูห้องเป็นประตูไม้สักขนาดใหญ่ ใหญ่กว่า ประตูอื่นจนเห็นได้ชัด



    ที่ประตูสลักลวดลายเป็นลายไทยไว้ เขาเอามือจับลูกบิดประตู ทันใดนั้นเขาได้ยินเสียงดังมาจากข้างใน



    เป็นเสียงพูดที่ฟังไม่ได้ศัพย์ มันมีสองคนอย่างนั้นเหรอ เขาค่อยๆแง้มประตูออกอย่างระมัดระวัง



    ชายหนุ่มปิดไฟฉาย แล้วกระชับอาวุธในมือแน่นด้วยสองมือ เขาค่อยๆแทรกตัวเข้าไปในห้อง



    อย่างระมัดระวัง เขาโผล่พรวดเข้าไปในห้องทันที สภาพห้องเป็นห้องโล่งๆที่มีของวางอยู่ระแกะระกะ



    แต่ไม่มีที่ให้คนซ่อนตัวได้เลย มันอาจจะเป็นห้องเก็บของ แล้วเสียงที่ได้ยินมาจากไหนละ หรือเขาหูฟาด



    ชายหนุ่มค่อยๆเดินตรงเข้าไปในห้องเขาเปิดไฟฉายแล้วส่องไปที่ของต่างๆ สิ่งของต่างๆในห้อง



    มีผ้าคลุมคลุมอยู่ เหมือนมันจะถูกเก็บมานานแล้ว ทันใดนั้นสายตาของเขาเหลือบไปเห็นสิ่งของบางอย่าง



    รูปร่างมันดูสูงๆ ขนาดของมันสูงประมาณคนมีผ้าสีขาวคลุมไว้ ชายหนุ่มค่อยๆเดินตรงไปหามัน



    แล้วดึงผ้าคลุมมันออก มันคือกระจกเป็นกระจกขนาดใหญ่ ที่ส่องได้ทั้งตัวขอบกระจกสลักลวดลายต่างๆ



    เป็นรูปดอกไม้ ฝุ่นจับมันหนามากเขาค่อยๆเอามือปัดออก เงากระจกสะท้อนภาพเขาเอง แต่ทันใดนั้นเอง



    หางตาของเขาสังเกตเห็น บางสิ่งรูปร่างคล้ายคน แต่ทว่ารูปร่างมันดูบิดเบี้ยวที่หัวของมัน ไม่มีใบหน้า



    เนื้อบริเวณ ตั้งแต่หน้าผากลงมาถึงจมูกเรียบเป็นเนื้อเดียวกัน ใบหน้าของมันมีเพียงแค่ปากเท่านั้น



    ปากของมันกว้างมากจนถึงใบหู ในปากมีฟันที่แหลมคมที่เหมือนฉลาม มันยืนสองขาเหมือนคน



    ทันใดนั้น เขาหันขวับไปมองแต่ก็ต้องแปลกใจมันไม่อยู่แล้ว หายไปแล้ว  



    ใจของชายหนุ่มเต้นรัว รู้สึกเสียวสันหลังวาบเหงื่อเริ่มซึมออกมาตามมือ



    เขายืนตัวแข็งอยู่ตรงนั้นพยายามตั้งสติ จนในที่สุดเขาก็ขยับตัวได้ เขารีบวิ่งลงไปข้างล่างทันที



    เขาล้มตัวลงนอนบนโซฟา พยายามข่มตานอน แต่ไม่สำเร็จ นั่นตัวอะไร? เขาเจอตัวอะไร



    ผีเหรอ แต่รูปร่างของมันเด่นชัดราวกับคน อสุรกายอะไรกันแน่ที่เขาเห็น...........          



        











          









          

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×