ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Born
Born 
23    กุมภาพันธ์  ค.ศ.1988  ค่ำคืนของฤดูหนาวที่มีพายุหิมะกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง  เหมือนกับภายในพระราชวังแวร์ชายส์ที่กำลังวุ่นวายอลหม่าน  เสียงผู้คนเอะอะอึกทึก  ทั่วทั้งพระราชวัง
“เมื่อไหร่หมอรอล์ฟจะมาซักที!!!”  เสียงผู้ชายที่ดูมีอำนาจที่สุดในกลุ่มคนพวกนั้น  ตะเบ็งออกมาอย่างหมดความอดทน
“รออีกหน่อยเถิดพะยะค่ะ  หมอรอล์ฟกำลังเดินทางมา  ข้างนอกมีพายุหิมะกว่าจะมาถึงนี่คงใช้เวลานาน” ชายสูงอายุที่ดูท่าทางภูมิฐานกล่าวปลอบชายคนนั้นให้ใจเย็นๆ
“รองั้นรึ!! เมียเราเจ็บจะตายอยู่แล้วนะ ถ้าเมียกับลูกเราเป็นอะไรไปล่ะก็  พวกเจ้าทุกคนเตรียมหัวขาดได้!” ชายคนนั้นตะขอกกลับอย่างโมโหสุดขีด  ทำให้ผู้คนที่อยู่บริเวณรอบข้างชายผู้นั้นหน้าถอดสีไปตามๆกัน
“ถวายบังคมเพคะ หมอรอล์ฟเดินทางมาถึงแล้ว” ผู้หญิงคนหนึ่งถอดสายบัว  แล้วกราบทูลอย่างกล้าๆกลัวๆกับชายคนนั้น
“แล้วมาบอกอะไรฉันเล่า!!!รีบพาหมอรอล์ฟเข้าไปในห้องเซ่ ”ชายคนนั้นตวาดหญิงผู้นั้นกลับเสียงดังแล้วชี้เข้าไปในห้องที่เมียเขานอนเจ็บอยู่
“พะ......เพค่ะ” หญิงผู้นั้นตอบแล้วถอดสายบัวอีกครั้ง  ก่อนรีบหันหลังกลับไปพาหมอรอล์ฟเข้าไปในห้องนั้น
“ไม่ได้เรื่อง ...ฮึ่ม!” ชายคนนั้นบ่นผู้หญิงคนนั้นอย่างโมโห ที่ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจเขา  ก่อนจะนั่งรอฟังอาการของเมียเขาต่อไปที่โซฟา
...................................................................................................................................................................................
เวลาผ่านไปเนินนานด้วยความเคร่งเครียด  หลังจากที่หมอรอล์ฟเข้าไปในห้องนั้น  ทุกคนต่างเฝ้ารอและจดจ่อที่ประตูหน้าห้องนั้น  ราวกับว่าถ้าคาดสายตาจากประตูนั้นแม้เพียงวินาทีเดียว  จะพลาดสิ่งที่พวกเขาเฝ้ารอมานานแสนนาน  ระหว่างการรอไม่มีเสียงใดเล็ดลอดมาทำลายบรรยากาศ จะมีก็เพียงแต่เสียงลมหายใจที่แผ่วเบาของใครหลายคน และเสียงอึมอำที่รู้สึกได้ถึงความวิตกกังวล  ทันใดนั้นก็มีเสียงทำลายความเงียบสงบอันชวนน่าอึดอัดที่ออกมาจากประตูนั้น
“อุแว้ ......อุแว้!!! ” เสียงทารกร้องลั่นดังก้องไปทั่วพระราชวัง
“คลอดแล้วๆ”ชายผู้นั้นตะโกนร้องออกมาอย่างดีใจ  ผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นต่างส่งเสียงอื้ออึงดีใจกันยกใหญ่ที่ตัวเองไม่ต้องหัวขาด 
สักพักหมอรอล์ฟก็ก้าวออกมาจากห้อง  โดยมีพยาบาลที่ตามมาด้วยคอยดูแลผู้ป่วยอยู่ภายในห้อง
“หมอรอล์ฟ ขอเราดูหน้าลูกหน่อยได้ไหม” ชายผู้เป็นสามีของผู้ป่วยกล่าวกับหมอรอล์ฟด้วยน้ำเสียงดีใจปนตื่นเต้น
“ได้พะยะค่ะ  แต่กระหม่อมขอกราบทูลอะไรกับพระราชาสักอย่างหนึ่งก่อน” หมอรอล์ฟพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
“ว่ามาซิ เราอยากเห็นหน้าลูกเต็มแก่แล้ว”ชายที่ถูกเรียกว่าพระราชาพูดกับหมออย่างอารมณ์ดี
“คือพระราชินีซิลเวีย ได้ให้กำเนิดพระราชธิดาพะยะค่า”หมอกล่าวกับพระราชาก่อนที่จะหยุดเว้นวรรคประโยคที่จะพูดต่อไป “แต่พระราชินีเสียเลือดในการคลอดมากจนร่างกายทนไม่ไหว กระหม่อมคาดว่าคงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ตอนนี้พระราชินีอยากจะพบฝ่าบาทมากพะยะค่ะ”
หมอพูดประโยคต่อไปด้วยน้ำเสียงเศร้าสลดและรู้สึกผิดที่เขาไม่สามารถช่วยชีวิตพระราชินีให้อยู่ต่อนานๆได้  แม้จะพยายามแล้วก็ตาม
“ว่าอะไรนะ!!!”  พระราชากล่าวด้วยน้ำเสียงตระหนกตกใจ  ก่อนจะรีบผลุนผลันเข้าไปในห้องนั้น  หัวใจเขาแทบจะหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม  ถึงแม้ว่าเขาจะดีใจที่ได้ลูก แต่หากต้องเสียเมียที่รักไปแล้วก็เหมือนชีวิตของเขาต้องหายไปครึ่งหนึ่ง
“ ซิลเวีย !!! เธอต้องไม่เป็นไรนะ  อดทนไว้นะ  มั่วยืนเซ่ออะไรอยู่เล่า!!!  รีบมารักษาเมียฉันสิ ” พระราชากุมมือหญิงที่นอนอยู่บนเตียงไว้แน่น  ปลอบประโลมให้เธออดทน  ก่อนจะหันไปตวาดนางพยาบาลที่มั่วแต่ยืนนิ่งไม่ยอมมาช่วยปฐมพยาบาลเมียเขา
“สายไปแล้วล่ะค่ะ......แค่กๆ  ฉันรู้ตัวของฉันดี” เสียงของเธอแผ่วเบาไม่ต่างกับเสียงกระซิบ “ฉันฝากดูลูกของเรา ด้วยนะค่ะ  แค่กๆ.......  ดูแลลูกให้ดี  เอาใจใส่แกให้มากๆ แค่กๆๆ อย่าให้แกน้อยใจที่เกิดมาไม่มี..............แม่”  สิ้นเสียงลมหายใจเธอก็พลันหยุดลงด้วย  ร่างกายไร้วิญญาณของเธอนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงที่ปูด้วยผ้าลินินสีขาว  ใบหน้าสวยงามหมดจดดูซีดเซียวและอ่อนระโหยโรยแรง  พระราชายังคงกุมมือของเธอไว้แน่น  ข้างกายของเธอมีทารกเพศหญิงหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู  ส่งเสียงร้องดังลั่น  เหมือนกับรับรู้ว่าผู้ให้กำเนิดเธอได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับอีกแล้ว
“ซิลเวียยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!” พระราชาเรียกชื่อหญิงผู้นั้นปานใจจะขาด  น้ำตาของเขาค่อยๆไหลรินอาบแก้มแล้วไหลลงมายังมือที่ขาวผุดผ่องของเธอ
ตอนนี้ภายนอกพระราชวังพายุหิมะเริ่มสงบลงแล้ว    เหลือแต่เพียงหิมะที่โปรยปรายมาอย่างบางเบา  ส่วนภายในพระราชวังยังคงเต็มไปด้วยบรรยากาศที่เศร้าสลดของผู้คนที่อยู่ที่นั่น  เด็กน้อยที่เพิ่งลืมตาดูโลกเมื่อสักครู่  ตอนนี้เธอเริ่มหมดแรงกับการตะเบ็งเสียงร้องให้  และกำลังหลับตาพริ้ม  เด็กน้อยผู้นี้ยังไม่รู้ประสีประสา  ที่จริงเธอไม่รู้อะไรเลย  ไม่รู้แม้แต่ว่าเช้ารุ่งขึ้นที่เธอตื่นขึ้นมาแม่นมจะรีบเอานมมาให้ดื่ม  มีแต่คนมาคอยปรนนิบัติเอาใจเธอ  ไม่รู้ว่าอีก 3 วันต่อมา พระราชาจะจัดงานเลี้ยงฉลองที่ยิ่งใหญ่ให้สำหรับเจ้าหญิงองค์ใหม่ของประเทศ  และไม่รู้ว่าอีกไม่นานนี้เธอจะตื่นขึ้นมาและต้องพบว่าตัวเองฉี่รดที่นอนอีกแล้ว.........................................................................
****************************************To  Be  C@ntinue***********************************
23    กุมภาพันธ์  ค.ศ.1988  ค่ำคืนของฤดูหนาวที่มีพายุหิมะกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง  เหมือนกับภายในพระราชวังแวร์ชายส์ที่กำลังวุ่นวายอลหม่าน  เสียงผู้คนเอะอะอึกทึก  ทั่วทั้งพระราชวัง
“เมื่อไหร่หมอรอล์ฟจะมาซักที!!!”  เสียงผู้ชายที่ดูมีอำนาจที่สุดในกลุ่มคนพวกนั้น  ตะเบ็งออกมาอย่างหมดความอดทน
“รออีกหน่อยเถิดพะยะค่ะ  หมอรอล์ฟกำลังเดินทางมา  ข้างนอกมีพายุหิมะกว่าจะมาถึงนี่คงใช้เวลานาน” ชายสูงอายุที่ดูท่าทางภูมิฐานกล่าวปลอบชายคนนั้นให้ใจเย็นๆ
“รองั้นรึ!! เมียเราเจ็บจะตายอยู่แล้วนะ ถ้าเมียกับลูกเราเป็นอะไรไปล่ะก็  พวกเจ้าทุกคนเตรียมหัวขาดได้!” ชายคนนั้นตะขอกกลับอย่างโมโหสุดขีด  ทำให้ผู้คนที่อยู่บริเวณรอบข้างชายผู้นั้นหน้าถอดสีไปตามๆกัน
“ถวายบังคมเพคะ หมอรอล์ฟเดินทางมาถึงแล้ว” ผู้หญิงคนหนึ่งถอดสายบัว  แล้วกราบทูลอย่างกล้าๆกลัวๆกับชายคนนั้น
“แล้วมาบอกอะไรฉันเล่า!!!รีบพาหมอรอล์ฟเข้าไปในห้องเซ่ ”ชายคนนั้นตวาดหญิงผู้นั้นกลับเสียงดังแล้วชี้เข้าไปในห้องที่เมียเขานอนเจ็บอยู่
“พะ......เพค่ะ” หญิงผู้นั้นตอบแล้วถอดสายบัวอีกครั้ง  ก่อนรีบหันหลังกลับไปพาหมอรอล์ฟเข้าไปในห้องนั้น
“ไม่ได้เรื่อง ...ฮึ่ม!” ชายคนนั้นบ่นผู้หญิงคนนั้นอย่างโมโห ที่ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจเขา  ก่อนจะนั่งรอฟังอาการของเมียเขาต่อไปที่โซฟา
...................................................................................................................................................................................
เวลาผ่านไปเนินนานด้วยความเคร่งเครียด  หลังจากที่หมอรอล์ฟเข้าไปในห้องนั้น  ทุกคนต่างเฝ้ารอและจดจ่อที่ประตูหน้าห้องนั้น  ราวกับว่าถ้าคาดสายตาจากประตูนั้นแม้เพียงวินาทีเดียว  จะพลาดสิ่งที่พวกเขาเฝ้ารอมานานแสนนาน  ระหว่างการรอไม่มีเสียงใดเล็ดลอดมาทำลายบรรยากาศ จะมีก็เพียงแต่เสียงลมหายใจที่แผ่วเบาของใครหลายคน และเสียงอึมอำที่รู้สึกได้ถึงความวิตกกังวล  ทันใดนั้นก็มีเสียงทำลายความเงียบสงบอันชวนน่าอึดอัดที่ออกมาจากประตูนั้น
“อุแว้ ......อุแว้!!! ” เสียงทารกร้องลั่นดังก้องไปทั่วพระราชวัง
“คลอดแล้วๆ”ชายผู้นั้นตะโกนร้องออกมาอย่างดีใจ  ผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นต่างส่งเสียงอื้ออึงดีใจกันยกใหญ่ที่ตัวเองไม่ต้องหัวขาด 
สักพักหมอรอล์ฟก็ก้าวออกมาจากห้อง  โดยมีพยาบาลที่ตามมาด้วยคอยดูแลผู้ป่วยอยู่ภายในห้อง
“หมอรอล์ฟ ขอเราดูหน้าลูกหน่อยได้ไหม” ชายผู้เป็นสามีของผู้ป่วยกล่าวกับหมอรอล์ฟด้วยน้ำเสียงดีใจปนตื่นเต้น
“ได้พะยะค่ะ  แต่กระหม่อมขอกราบทูลอะไรกับพระราชาสักอย่างหนึ่งก่อน” หมอรอล์ฟพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
“ว่ามาซิ เราอยากเห็นหน้าลูกเต็มแก่แล้ว”ชายที่ถูกเรียกว่าพระราชาพูดกับหมออย่างอารมณ์ดี
“คือพระราชินีซิลเวีย ได้ให้กำเนิดพระราชธิดาพะยะค่า”หมอกล่าวกับพระราชาก่อนที่จะหยุดเว้นวรรคประโยคที่จะพูดต่อไป “แต่พระราชินีเสียเลือดในการคลอดมากจนร่างกายทนไม่ไหว กระหม่อมคาดว่าคงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ตอนนี้พระราชินีอยากจะพบฝ่าบาทมากพะยะค่ะ”
หมอพูดประโยคต่อไปด้วยน้ำเสียงเศร้าสลดและรู้สึกผิดที่เขาไม่สามารถช่วยชีวิตพระราชินีให้อยู่ต่อนานๆได้  แม้จะพยายามแล้วก็ตาม
“ว่าอะไรนะ!!!”  พระราชากล่าวด้วยน้ำเสียงตระหนกตกใจ  ก่อนจะรีบผลุนผลันเข้าไปในห้องนั้น  หัวใจเขาแทบจะหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม  ถึงแม้ว่าเขาจะดีใจที่ได้ลูก แต่หากต้องเสียเมียที่รักไปแล้วก็เหมือนชีวิตของเขาต้องหายไปครึ่งหนึ่ง
“ ซิลเวีย !!! เธอต้องไม่เป็นไรนะ  อดทนไว้นะ  มั่วยืนเซ่ออะไรอยู่เล่า!!!  รีบมารักษาเมียฉันสิ ” พระราชากุมมือหญิงที่นอนอยู่บนเตียงไว้แน่น  ปลอบประโลมให้เธออดทน  ก่อนจะหันไปตวาดนางพยาบาลที่มั่วแต่ยืนนิ่งไม่ยอมมาช่วยปฐมพยาบาลเมียเขา
“สายไปแล้วล่ะค่ะ......แค่กๆ  ฉันรู้ตัวของฉันดี” เสียงของเธอแผ่วเบาไม่ต่างกับเสียงกระซิบ “ฉันฝากดูลูกของเรา ด้วยนะค่ะ  แค่กๆ.......  ดูแลลูกให้ดี  เอาใจใส่แกให้มากๆ แค่กๆๆ อย่าให้แกน้อยใจที่เกิดมาไม่มี..............แม่”  สิ้นเสียงลมหายใจเธอก็พลันหยุดลงด้วย  ร่างกายไร้วิญญาณของเธอนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงที่ปูด้วยผ้าลินินสีขาว  ใบหน้าสวยงามหมดจดดูซีดเซียวและอ่อนระโหยโรยแรง  พระราชายังคงกุมมือของเธอไว้แน่น  ข้างกายของเธอมีทารกเพศหญิงหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู  ส่งเสียงร้องดังลั่น  เหมือนกับรับรู้ว่าผู้ให้กำเนิดเธอได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับอีกแล้ว
“ซิลเวียยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!” พระราชาเรียกชื่อหญิงผู้นั้นปานใจจะขาด  น้ำตาของเขาค่อยๆไหลรินอาบแก้มแล้วไหลลงมายังมือที่ขาวผุดผ่องของเธอ
ตอนนี้ภายนอกพระราชวังพายุหิมะเริ่มสงบลงแล้ว    เหลือแต่เพียงหิมะที่โปรยปรายมาอย่างบางเบา  ส่วนภายในพระราชวังยังคงเต็มไปด้วยบรรยากาศที่เศร้าสลดของผู้คนที่อยู่ที่นั่น  เด็กน้อยที่เพิ่งลืมตาดูโลกเมื่อสักครู่  ตอนนี้เธอเริ่มหมดแรงกับการตะเบ็งเสียงร้องให้  และกำลังหลับตาพริ้ม  เด็กน้อยผู้นี้ยังไม่รู้ประสีประสา  ที่จริงเธอไม่รู้อะไรเลย  ไม่รู้แม้แต่ว่าเช้ารุ่งขึ้นที่เธอตื่นขึ้นมาแม่นมจะรีบเอานมมาให้ดื่ม  มีแต่คนมาคอยปรนนิบัติเอาใจเธอ  ไม่รู้ว่าอีก 3 วันต่อมา พระราชาจะจัดงานเลี้ยงฉลองที่ยิ่งใหญ่ให้สำหรับเจ้าหญิงองค์ใหม่ของประเทศ  และไม่รู้ว่าอีกไม่นานนี้เธอจะตื่นขึ้นมาและต้องพบว่าตัวเองฉี่รดที่นอนอีกแล้ว.........................................................................
****************************************To  Be  C@ntinue***********************************
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น