ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1 :: หญิงสาวปริศนา
ตึกใหญ่โตสีขาวสะอาดตาตั้งตระหง่านเด่นขึ้นมาท่ามกลางสนามหญ้าเขียวขจีซึ่งแสนจะกว้างใหญ่หลายสิบไร่
เด็กวัยรุ่นราวพันคนทั้งหญิงและชาย ต่างเดินพลุกพล่านบนสนามและในตึก
รั้วสีน้ำตาลสูงซึ่งบ่งบอกอาณาเขตของสถานที่แห่งนี้ดูเด่นสะดุดตาอย่างชัดเจน ประตูทางเข้าอันมโหฬาร
ติดป้ายซึ่งสลักชื่อไว้สละสลวย แสงสีทองที่ตัวอักษรทอประกายล้อแสงแดดยามเช้า
Dragoneal Magic School
จงตระหนักในหัวใจที่กล้าแกร่งดั่งมังกร
หญิงสาวแปลกหน้าคนหนึ่งมองดูชื่อป้ายอย่างสนใจ
หล่อนสวมฮู้ดซึ่งเย็บติดกันกับเสื้อคลุมสีดำดั่งรัตติกาลที่ยาวกรอมพื้น
มือขาวซีดข้างหนึ่งถือไม้เท้าธรรมดาๆ ดวงตาสีดำสนิทของเธอละสายตาจากป้าย
เพ่งมองความเป็นไปภายในสถานที่ที่เธอเพิ่งมาถึง ก่อนจะสาวเท้าเข้าไปในสถานที่แห่งนั้น
เกิดเสียงพึมพำกระซิบกระซาบไปทั่ว เมื่อบุคคลในตึกและสนามหญ้าได้พบเห็นบุคคลแปลกหน้าที่แสนจะลึกลับ
สายตาของผู้คนที่ประดังประเดมาให้หญิงสาวคนนี้ล้วนมีแต่สายตาที่สงสัยใคร่รู้
“ใครกันน่ะ”เด็กวัยรุ่นชายคนหนึ่งตะโกนถามกันกับเหล่าเพื่อนนักเรียน
“ไม่รู้”อีกเสียงตอบกลับมา
จากเสียงพึมพำต่ำๆที่เหมือนดั่งเสียงผึ้งก็กลายเป็นเสียงจอแจไม่ได้ศัพท์
เมื่อบุคคลแปลกหน้าก้าวเข้าไปในห้องห้องหนึ่งในตึกสีขาว
“นั่นใครกันแน่”ร่างของหญิงสาวแปลกหน้าลับสายตาไปจากกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มใหญ่แล้ว
แต่เสียงจอแจนั้นไม่มีทีท่าว่าจะเบาลงเลย กลับทวีความดังมากขึ้นไปอีก
“เข้าไปในห้องนั้นด้วย”
“ห้องไหน”
“ห้องนั้นไง”
“เชิญครับๆ”บุคคลที่อยู่ในห้องนั้น เชื้อเชิญบุคคลที่มาใหม่อย่างยินดี
หญิงสาวนั่งลงบนเก้าอี้ไม้ที่อยู่หน้าโต๊ะที่ติดป้านสวยงามได้ชัดเจน อักษรสีทองทอประกายโดดเด่นเตะตา
โรเบิร์ต ดาร์ลิงตัน
รองผู้อำนวยการ
Dragoneal Magic School
“โรงเรียนดีน่ะ”หญิงสาวกล่าวเบาๆให้กับชายที่นั่งลงอีกฝั่งโดยมีโต๊ะทำงานซึ่งแสนจะเต็มไปด้วยเอกสารที่รก
รุงรังคั่นกลาง
“ขอบคุณครับ ท่านผู้อำนวยการ”ชายชรากล่าวอย่างนบน้อม ก่อนจะยื่นถ้วยชาที่มีควันลอยกรุ่นให้หญิงสาว
หล่อนเปิดหมวกฮู้ดออก เผยให้เห็นใบหน้าเรียวและขาวซีด ผมสีดำที่เหยียดตรงและยาว ริมฝีปากสีชมพูอวบอิ่ม
อีกทั้งดวงตาสีดำสนิทที่ดูน่าเกรงขามยิ่งนัก
“การค้นหาเป็นยังไงบ้างครับ”ชายชราถาม ขณะยื่นจานขนมครัมเป็ตให้เข้าใกล้หญิงสาวมากขึ้น
“ก็ดี”หญิงสาวตอบเรื่อยๆ “ที่เรียกฉันมามีอะไรรึเปล่าโรเบิร์ต”
“มีครับ”ชายชรากล่าว ก่อนจะลุกจากเก้าอี้ที่บุนวมสีดำสนิท
แล้วเลื่อนมือที่เหี่ยวย่นเปิดตู้โบราณเก่าคร่ำคร่า ก่อนจะหยิบแฟ้มสีน้ำเงินเข้มแล้วยื่นให้หญิงสาว
“ผมขอเชิญท่านผู้อำนวยการเป็นวิทยากรของที่นี่เป็นเวลา 2 อาทิตย์หน่อยครับ
เนื่องจากช่วงนี้บุคลากรของเรากำลังขาดแคลนครับ”ชายชรากล่าวอย่างไม่แน่ใจกับเมื่อเห็นท่าทีนิ่งเฉยของหญิงสาว
“จะได้ไหมครับ”ชายชราถามอีกครั้ง หญิงสาวที่ก้มลงมองแฟ้มสีน้ำเงิน เงยหน้าขึ้นมาก่อนจะกล่าวเสียงใส
“ได้ค่ะ ลุงโรเบิร์ต!”
ชายชรายิ้มกว้าง เช่นเดียวกับหญิงสาวที่ยิ้มตอบกลับไปเช่นกัน...
....................................................................................................
...............................................................................
“จอห์น! เอาคืนมาเดี๋ยวนี้น่ะ”เสียงตะเบ็งลั่นของเด็กผู้หญิงดังขึ้นภายในห้องเรียนที่อยู่ริมสุดของชั้น
“โธ่ แอน อย่าตะโกนให้ดังมากนักซิ เดี๋ยวใครบางคนไม่สบอารมณ์หรอกน่ะ”เด็กหนุ่มที่ชื่อว่า”จอห์น”กล่าว
ก่อนจะปรายตามองเด็กหนุ่มอีกคนอย่างเย้ยๆ
เด็กหนุ่มที่ถูกพาดพิงถึงยังคงนิ่งเฉย
สายตาที่มองผ่านแว่นตาจับจ้องแต่หนังสือราวกับจะกลืนกินทุกตัวอักษร
“จอห์น! อย่ายุ่งกับเขาน่ะ เอาตำราของฉันคืนมาได้แล้ว!”แอนตะโกนลั่น
ก่อนจะกระโดดฉวยตำราไปจากมือของชายหนุ่มที่แย่งหนังสือของเธอไป
“ขอโทษแทนจอห์นด้วยน่ะ เอรอส”แอนยิ้มหวานให้ชายหนุ่มอีกคนที่ไม่สนใจอะไร
เมื่อสามารถแย่งตำราของตนเองคืนมาได้สำเร็จ
“โธ่! ก็แค่พวกเด็กบ้าเรียน”จอห์นเบ้ปาก ก่อนจะเดินกลับไปยังโต๊ะของตัวเอง เด็กสาวถลึงตาใส่
เสียงฝีเท้าดังก้องขึ้นมาจากทางเดินที่อยู่หน้าห้องเรียน
วัยรุ่นที่อยู่ในห้องต่างกุลีกุจอหาที่นั่งของตัวเองและนั่งลงอย่างสงบ
เอรอสปิดหนังสือลง เขาเงยหน้ามองรองผู้อำนวยการโรเบิร์ตและหญิงสาวแปลกหน้าที่เดินเข้ามาในห้อง
แทนที่จะเป็นอาจารย์สาวที่คอยแต่เล่าเรื่องไร้สาระไม่หยุดหย่อนมาสอนตามปกติ เด็กชายเพ่งมองหญิงสาวเขม็ง
เมื่อเห็นใบหน้าของหญิงสาวได้ชัดเจน
เด็กหนุ่มแทบจะเปลี่ยนจากสีหน้าเคลือบแคลงใจเป็นสีหน้าแห่งความฉงนสนเท่ห์แทบทันที
“เฮสเทีย...”เอรอสอุทานออกมาเบาๆ พยายามสบตากับหญิงสาวร่างสูงโปร่งที่ยืนอยู่ให้ได้ หากแต่ไร้ผล
“เอาล่ะ วันนี้ฉันมีเรื่องจะมาแจ้งให้ทราบ”รองผู้อำนวยการกล่าวเสียงดัง
ก่อนจะผายมือไปยังหญิงสาวที่ยืนนิ่ง
“วันนี้จะมีวิทยากรมาสอนแทนอาจารย์มาเรียที่ลาพักร้อนไป”ชายชรากล่าว”เธอชื่อว่าเฮ...”
รองผู้อำนวยการเงียบเสียงไปเมื่อหญิงสาวทำสัญานมือเป็นเชิงให้หยุดพูด เธอก้าวเท้าออกมาข้างหน้า
ก่อนจะเปล่งเสียงกังวานดั่งแก้วใสออกมาเพื่อแนะนำตนเอง
“ฉันชื่อ จูเลีย ดาร์ลิงตัน
เป็นหลานของรองผู้อำนวยการของที่นี่”หญิงสาวเอ่ย”ฉันจะมาสอนวิชาเวทและคาถาในชั้นเรียนนี้
ก็จะมาสอนเป็นเวลา 2 อาทิตย์แทนอาจารย์มาเรียของเธอ”
ชายชราและเอรอสเลิกคิ้ว มองหญิงสาวด้วยความข้องใจ แต่ก็ไม่ได้ปริปากอะไรออกมา...
“จูเลีย”เอรอสพึมพำ ก้มหน้าลง ใบหน้ามีรอยยิ้มที่มุมปากประดับไว้ ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ
วิทยากรคนใหม่หันไปมองเด็กหนุ่มอย่างสงสัย
ก่อนจะเบิกตากว้างและเบือนหน้ามองไปยังชายชราที่ยังกล่าวกับนักเรียนในชั้นไม่หยุด
เมื่อชายชราเดินจากไป ทิ้งให้วิทยากรสาวยืนเคว้งคว้างท่ามกลางหมู่นักเรียนที่เพ่งความสนใจมาที่เธอ
หญิงสาวมองอย่างขุ่นเคืองไปที่ชายหนุ่มผู้สวมแว่นเพียงคนเดียวในห้องที่ยังหัวเราะไม่หยุด
เด็กนักเรียนสาวคนหนึ่งยกมือขึ้น ก่อนจะถามออกมาด้วยน้ำเสียงใสๆ
“อาจารย์อายุเท่าไรค่ะ”
“ 17 จ้ะ”วิทยากรคนใหม่ตอบ
นักเรียนทั้งชั้นเบิกตากว้าง เสียงเซ็งแซ่ดังขึ้น นักเรียนชายคนหนึ่งโพล่งถามออกมา
“อายุเท่าพวกเราเลยนี่! ทำไมมาเป็นครูได้ล่ะ จะได้เรื่องมั้ยเนี่ย”
เส้นเลือดในสมองของหญิงสาวเต้นตุบๆด้วยความโกรธ วิทยากรสาวฝืนยิ้ม ก่อนจะกล่าวออกมา
“อาจารย์เรียนจบมา 3 ปีแล้วจ้ะ”
จากสีหน้าดูถูกของเหล่านักเรียน เปลี่ยนเป็นสีหน้าที่แสดงออกถึงความทึ่งและชื่นชม
“ดูท่าอาจารย์จะอัจฉริยะจังน่ะฮ่ะ”
หญิงสาวหันขวับหรี่ตามองเอรอสที่สู้สายตากลับมา ยิ้มเป็นเชิงล้อ อย่างขุ่นเคือง
ก่อนจะละสายตามาจากเด็กหนุ่มและกล่าวเสียงดังลั่น
“วันนี้อาจารย์ขอทำความรู้จักกับนักเรียนทุกคนและมีแบบทดสอบกันเล็กน้อยจ้ะ!”
เสียงโอดครวญดังมาจากหมู่นักเรียน ทุกคนเบ้หน้ายกเว้นแต่เอรอสที่ยังยิ้มระรื่น
ด้วยท่าทีกวนอารมณ์ของเด็กหนุ่มทำให้ในใจวิทยากรสาวเดือดปุดๆด้วยความโมโหยิ่งนัก!!!
--------------------------------------------------
“ให้ตายสิ!!!”วิทยากรสาวกล่าวอย่างโกรธเคือง “ฉันลืมไปสนิทว่านายยังเรียนที่นี่ไม่จบ”
หญิงสาวมองเด็กหนุ่มข้างกายที่ยิ้มกวนๆให้ เด็กชายกล่าวอย่างอารมณ์ดี
“แต่เธอจะเปลี่ยนชื่อให้เหนื่อยไปทำไมกันเล่า”
วิทยากรสาวถอนหายใจพรืดมองเด็กหนุ่มอย่างดูถูก
“ฉันนึกว่านายจะรู้ซะอีก เอรอส
”เด็กชายมองหญิงสาวร่างสูงอย่างไม่สบอารมณ์”นายจะให้ฉันประกาศชื่อไปทั่วโรงเรียนไม่ได้หรอก ชื่อเฮสเทีย
ดรากอเนลของฉัน เป็นอันตรายเกินไปสำหรับที่นี่”
“เหตุผล?”
“นายก็รู้... ว่า ตระกูลดรากอนเนลน่ารังเกียจแค่ไหน ยิ่งเป็นพวกที่มีพลังเวทอย่างฉันด้วยแล้ว
ยิ่งน่าตกใจและเป็นอันตรายต่อผู้คนหลายเท่าตัวเชียวล่ะ แล้วนายเป็นยังไงบ้าง”หญิงสาวเปลี่ยนเรื่อง
“เซ็ง”เอรอสตอบสั้นๆ หญิงสาวเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“ใครที่ไหนจะมาเกลือกกลั้วกับพวกเลือดผสมอย่างฉันล่ะ”เอรอสกล่าวอย่างเบื่อหน่าย”พ่อเป็นมนุษย์
แม่เป็นจอมเวท เฮอะ! คงมีใครรับได้อยู่หรอกน่ะ”
“ฉันเข้าใจว่าการที่เราสองคนเป็นพวกเลือดผสม มันน่าเจ็บปวดแค่ไหน...
แต่เราต้องจำทนอยู่ในเขาวงกตแห่งการดูถูกและเกลียดชังของผู้คน และถ้านายยังคงจำได้
แม่ของฉันและแม่ของนายเป็นจอมเวท แน่นอน เธอคือคนเดียวกัน แต่พ่อของนายเป็นมนุษย์
และพ่อของฉันเป็นชาวเผ่ามังกร มันไม่แตกต่างมากนักหรอก
ในเมื่อพวกเลือดผสมอย่างเราอยู่ในสังคมแห่งการดูถูกเหมือนกัน!!!”หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่ปิดความขมขื่น
ไม่มิด
“ฉันยังไม่เข้าใจ”เอรอสกล่าว”มันปกติที่ผู้คนจะเกลียดพวกชาวเผ่ามังกร แต่พวกมนุษย์... ทำไมต้อง...”
“นั่นเป็นเพราะความคิดของพวกเขา”เฮสเทียแทรกขึ้น”พวกจอมเวทและคนอื่นทั้งหลายถูกปลูกฝังมาว่า
มนุษย์นั้นอ่อนแอ... ทั้งอ่อนแอและโง่เขลา แต่นายได้พิสูจน์ให้เห็นในสายตาฉันว่า
นายเป็นมนุษย์ที่แข็งแกร่งมาก... แต่พวกนั้นไม่ยอมรับ ถึงแม้ว่านายจะมีเลือดของจอมเวทอยู่ครึ่งหนึ่ง
เพียงเพราะนายมีพ่อเป็นมนุษย์ “
“เฮ้อ...”เอรอสถอนหายใจ”ฉันเกลียดที่นี่ เกลียดพวกเสแสร้ง เกลียดการย่ำยี
เกลียดสายตาที่บ่งบอกถึงการแบ่งชนชั้นอย่างชัดเจน”
“นายน่าจะชินได้แล้วน่ะ”หญิงสาวพูดพลางทอดสายตามองนักเรียนที่ทยอยเข้าตึก”ยังดีกว่าฉันที่ต้องถูกการตามล่า นอกจากการเหยียดหยามอีก”
เอรอสมองวิทยากรสาวเงียบๆอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจพรืดแล้วตบไหล่พี่สาวของตัวเอง
“ได้เวลาเรียนแล้ว...”
-------------------------------------------
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น