ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เรื่องราวตอนม.ต้น
คำนำ
เรื่องที่แต่งนี้แต่งขึ้นจากเรื่องจริงและเสริมเนื้อเรื่องบางอย่าเข้าไปนิสสสหน่อยตัวละครมีชื่อสมมติเนื่องจากไม่อยากให้คนที่ถูกเอ่ยถึงใจเรื่องนี้รู้ตัว
เนื้อเรื่อง
เด็กชายคนหนึ่งมาจากโรงเรียนดังของกรุงเทพมหานครมาเรียนที่นนทบุรีซึ่งอยู่แถวบ้านของเขาและเด็กหญิงคนหนึ่งซึ่งมาจากโรงเรียนที่มาจากกรุงเทพเหมือนกันแต่ไม่ค่อยดังเหมือนโรงเรียนของเด็กชายทั้งสองสอบเข้าเรียนที่โรงเรียนดังกล่าวเพื่อเข้าเรียนม.1ทั้งคู่อยู่ห้องเดียวกันแต่เด็กหญิงยังไม่รู้จักเด็กชายมากนักต่อมาไม่นานเด็กชายก็ขาดเรียนไปโดยมีเพื่อนๆๆๆในห้องรู้แต่เพียงแค่ว่าเค้าถูกรถชน แต่เพื่อนร่วมห้องหลายคนก็มาจากโรงเรียนเดียวของเด็กชายเช่นกัน และหนึ่งในนั้นหลายๆๆๆคนตอนนี้ก็กำลังเป็นเพื่อนของเด็กหญิงเช่นกัน
เด็กหญิงยังมีอาการงงงงเล็กน้อยว่าเด็กชายที่ถูกรถชนคือใครแต่ก็ได้ทราบจากเพื่อนเทอทีหลังว่าเด็กชายผู้นั้นคือใครไม่นานเด็กชายก็กลับมาเรียนเด็กหญิงจึงนึกในใจว่าเนี่ยนะคนที่ถูกรถชน เด็กหญิงจึงถามเพื่อนๆๆๆว่าใช่คนนี้หรือป่าวทำให้เพื่อนๆๆๆๆล้อเด็กหญิงว่าชอบเค้าหรอถึงถามเรื่องเค้าบ่อยจังเด็กหญิงก็ได้แต่บอกเพื่อนๆๆๆว่าชั้นไม่มีวันชอบหรอกคนไรไม่ร็ตัวดำชะมัด และสัญญากับตัวเองว่าจะไม่มีวันชอบเด็กผู้ชายคนนี้เด็ดขาด เพราะบุคลิกของผู้ชายคนนี้ดูแปลกกๆๆๆๆๆในสายตาของเธอเค้าเปงคนนิ่งๆๆๆๆเงียบๆๆดูขรึมๆๆแปลกๆๆสุขุมนุ่มลึกยังไงก็ไม่รู้
ต่อมาไม่นานพอใกล้จะปิดเทอมวันหนึ่งเด็กชายได้โทรมาหาเด็กหญิงและได้พูดคุยสนทนากันเด็กหญิงบอกกับตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อเลยว่าชั้นมองเค้าผิดไปตั้งแต่แรกหรอเนี่ย หลังจากนั้นเด็ฏชายก็โทรมาเรื่อยๆๆๆบ่อยจนเกือบจะทุกวันเค้าคุยกันเป็นเวลาวันละนานๆๆๆทั้งคู่อาจจะเรียกว่าสนิทสนมก็ได้ในระดับหนึ่งทำให้เด็กหญิงได้รู้ว่าเค้าไม่ใช่เด็ชายที่เงียบๆๆนิ่งๆๆๆอย่างที่เธอคิดเค้าเป็นคนที่รู้จักคิดรู้จักใช้เงินและเป็นคนที่มีเพื่อนเยอะมากทีเดียวเค้ารักเพื่อนเคค้าและเพื่อนเค้าก็รักเค้าเด็กหญิงคิดว่าเค้าไม่เคยเห็นเพื่อนกลุ่มไหนที่รักกันช่วยเหลือกันอย่างนี้มาก่อนหลังจากนั้นเค้าก็หยุดโทรมา1วันเด็กหญิงจึงเริ่มเป็นฝ่ายโทรหาเค้าบ้าง ทั้งสองเค้ากันได้ดีและหลังจากนั้นก็ปิดเทอม
พอเปิดเทอมขึ้นม.2มาเด็กหญิงก็มีเด็กชายทีอยู่คนละห้องกับเธอมาจีบเธอเธอจึงคบเป็นแฟนกับเค้ามาได้ไม่ถึง2เดือนก็ต้องเลิกกันเพราะผู้ชายคนนั้นเค้าไม่ค่อยมีเวลาให้เธอพอและเธอก็คิดว่าตัวเองก็เค้ากับเค้าไม่ได้เช่นกันแต่ในระหว่างที่เด็กหญิงคบกับผู้ชายคนนั้นอยู่ได้มีคนให้คำปรึกษาเธออยู่ตลอดเวลาก็คือเด็กชายที่เธอมองเค้าผิดไปนั่นเอง หลังจากนั้นเด็กหญิงและเด็กชายก็ตกลงคบหากันแต่ยังไม่เปิดเผยมากนักแต่ไม่นานเพื่อนร่วมชั้นเรียนของคนทั้งคู่ก็ร็ว่าเธอที้ง2คนคบกันเค้าทั้ง2คนเริ่มสนิทกันมากขึ้นสามารถคุยกันได้ในทุกๆๆเรื่องและเริ่มไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยขึ้น เด็กหญิงคิดว่าตัวเองมีความสุขมากที่สุด
และแล้วก็มาถึงวันปิดเทอมม.2เค้าทั้งคู้ได้ลงเรียนพิเศษที่บ้านอาจารย์คนหนึ่งและทำให้เค้า2คนเจอกันมากขึ้นจนทำให้เด็กหญิงเบื่อเด็กชายในที่สุดพยายามหลบหน้าไม่อยากเจอหน้าเด็กชายเด็กหญิงเริ่มปรึกษเพื่อนว่าเธออยากจะเลิกกับเด็กชายและแล้วเธอก็บอกเลิกเด็กชายที่โรงเรียนในที่สุดวินาทีนั้นเด็กหญิงรู้สึกว่าเค้ารู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมากที่เหมือนกับมีเชือกหลุดออกจากตัวเค้าทันทีโดยที่เค้าไม่เคยรู้สึกถึงความรู้สึกของเด็กชายว่าเจ็บปวดเพียงใด
หลังจากนั้นไม่นานก็เด็กหญิงก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป โดยที่เมื่อก่อนมีคนคอยโทรหาเธอเป็นห่วงเธอ และคอยให้กำลังใจช่วยเหลือเธอเสมอ และมีคนที่ให้เธอคอยเป็นห่วง มันไม่มีสิ่งนี้อีกต่อไปแล้ว เมื่อมาถึงวันใกล้เปิดเทอมตอนม.3เด็กหญิงพยายามจะหาทางคืนดีกับเด็กชายแต่เธอได้เห็นพฤติกรรมของเด็กชายที่เปลี่ยนไป  และเธอได้รู้สึกผิดอย่างร้ายแรงเมื่อวินาทีนั้นเอง
โดยที่เด็กหญิงคิดอยู้เสมอว่าที่เค้าเปลี่ยนไปนะมันเป็นความผิดของเธอคนเดียว ต่อมาไม่นานเาพยายามที่จะหาทางคืนดีกับเด็กชายหลังจากที่เธอพยายามขอคืนดีมาแล้วหลายรอบแต่เธอก็ได้ทราบข่าวจากเพื่อนสนิทของเธอว่าเด็กชายคนนั้นกำลังคบอยู่กับเพื่อนของเธอนั่นเองแต่ไม่ใช่เพื่อนที่สนิทกับเธอมากนักเพียงแต่อยู่คนละกลุ่มกันแต่อยู่ห้องเดียวกันเด็กหญิงเมื่อได้ข่าวจากเพื่อนเธอเธอแทบจะไม่อยากเชื่อหูของตัวเองเลย แต่เวลาอยู่ในห้องเธอเห็นทุกอย่างแจ่มแจ้งดีทั้งหมดเธอคิดเพียงแต่ว่าอยากวิ่งออกไปให้ไกลจากห้องนี้ให้มากที่สุดและเวลาที่เธฮเสียใจเธอก็มักจะไปนั่งในสวนจตุจักรคนเดียวเพื่อไม่อยากคิดเรื่องอะไรทั้งนั้นเพราะที่จตุจักรนี้เป็นที่ที่เธอและเด็กผู้ชายเคบมานั่งคุยกันและเธอคิดว่าที่นี่แหละที่ชั้นมีความสุขที่สุดและระหว่างนั้นเธอก็ไปนั่งที่สวนแห่งนั้นนับครั้งไม่ท้วน และไม่อยากเรียนที่นี่อีกต่อไปแล้ว เธอต้องทนรับกับสภาพที่เธอไม่อยากเห็นและไม่อยากให้อยู่ในความคิดเธอพึ่งรู้สึกว่าเธอคงชอบเค้าจิงๆๆแล้วเมื่อขาดเค้าไปแต่กว่าเธฮจะรู้ตัวทุกอย่างมันก็สายเกินกว่าจะแก้แล้ว เธอได้แต่บอกับตัวเองว่าซักวันทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม เธอได้แต่ตั้งตารอวันนั้นให้มาถึงเธฮเริ่มซึมลงจนเพื่อนเธอเริ่มถามว่าเพราะอะไร เธอจะแกล้งทำเป็นเหมือนไม่มีอะไนเกิดขึ้นเพียงแต่บอกกับตัวเองว่าอย่าเข้าใกล้เด็กชายหรือพูดคุยกับเค้าเป็นดีที่สุดเพราะจะทำให้เธอไม่สามารถที่จะลืมเค้าได้ง่ายนัก เธอเสียใจมากเมื่อเวลาเธออยู่บ้านปกติเธอเป็นคนสนุกสนานแต่เธอเริ่มเงียบลงพูดน้อยลงจนเธฮรู้ว่าบิดมารดาของเธอเริ่มรู้ว่าตัวเธอแปลกไปเค้าสามารถเดาได้ไม่ยากนักว่าต้องมีเรื่องบางอย่างเกดขึ้นกับเธอแต่เธอก็ไม่สามารถที่จะเล่าเรื่องอะไรให้บิดามารดาเธอฟังได้มากนักเนื่องจากอายุที่ยังไม่เหมาะสมของเธอซึ่งยากที่ผู้ใหญ่จะเข้าใจคือสิ่งที่เธอเข้าใจดีเธอจึงพยายามทำตัวให้สดใสร่าเริงขึ้นเหมือนเดิม แต่เวลาที่เธอมาโรงเรียนเมื่อเธอเจอคนทั้งคู่เธอก็ไม่อยากที่จะพูดคุยกับใครเลยจนเพื่อนของเธอเริ่มดูออกและเริ่มรู้ว่าเธอเป็นอะไร เพื่อนของเธอได้แต่คอยให้กำลังใจเธอและอยู่ข้างเธอเสมอเธอนึกขอบใจเพื่อนๆๆๆของเธอมาก แต่สิ่งที่เธอไม่เคยบอกให้ใครรู้มาก่อนเลยก็คือ นิสัยของเพื่อนเธอที่คบอยู่กับเด็กชายคนนั้นแสดงออกต่อเธออย่างไร เธอไม่เคยบอกใครเลยมันเป็นเรื่องที่อยากจะอธิบายขอละไว้ในฐานที่เข้าใจ  หลังจากปิดเทอมม.3ขึ้นม.4เด็กชายได้เริ่มห่างกับคนที่เธอคบอยู่ด้วยระหว่างนั้นเด็กหญิงไปอาศัยอยู่กบบ้านญาติที่ต่างจังหวัดด้วยอยากที่จะลืมเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเธฮได้ระบายเรื่องราวทั้งหมดให้ญาติผู้เป็นพี่ฟังโดยเธอไม่รู้เลยว่าญาติผู้พี่เธอพยายามช่วยเหลือเธอโดยการโทรไปหาเด็กชายคนนั้นและช่วยเหลือเธอ จนเธฮเริ่มรู้สึกว่าเธอควรขอคบกับเค้าอีกรอบแต่ก็ได้รับการบอกเป็นเชิงปฏิเสธเธอจึงน้อยใจขับรถล้มหัวแตกและก็มาถึงวันรับสมุดพก
เด็กชายเห็นแผลที่หัวเด็กหญิงเด็กชายจึงเดินมาถามว่าเป็นไงบ้างแค่คำถามนั้นคำเดียวเด็กหญิงก็รู้สึกว่าน่าจะเจ็บมากกว่านี้นะเธอจะได้สนใจชั้นมากกว่านี้แต่ก็ยังงงงงว่าเด็กชายถามเหมือนรู้ว่าเธอไปโดนอะไรมาแล้วก็ทราบว่าญาติผู้พี่เธอนี่เองที่บอกเด็กชาย หลังจากนั้นเด็กหญิงและเด็กชายก็กลับมาคบกันอีกรอบแต่นิสัยของเด็กชายก็เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมจากที่เคยคุยกันนานๆๆๆๆก็คุยกัยแป๊ปเดียวและเด็กชายไม่ค่อยสนใจเด็กหญิงเหมือนเดิม เธอได้แต่คิดในใจไปว่าเธอคงไม่ได้รักชั้นเหมือนเดิมแล้ว เธอคงมีคนอื่นแล้ว นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เด็กหญิงเสียใจเพิ่มอีกหลายเท่าเมื่อรู้ว่าเด็กชายเริ่มมีอาการเจ้าชู้เล็กน้อยเทื่อเทียบกับแต่ก่อนแล้วซึ่งไม่เคยเลยเค้ามักจะให้ความสำคัญกับเธอเสมอถ้าเป็นแต่ก่อนเด้กหญิงได้แต่คิดในใจว่าชั้นคงทำให้เธอกลับมาเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว เเละตั้งคำถามกับตัวเองเสมอว่าเค้ารักชั้นรึป่าว และพยายามใช้เวลาตัดใจจากเด็กชายแต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก เค้าไมาสามารถรู้ได้เลยว่าเด็กชายคิดอย่างไรกับเธออยู่ตอนนี้
เรื่องที่แต่งนี้แต่งขึ้นจากเรื่องจริงและเสริมเนื้อเรื่องบางอย่าเข้าไปนิสสสหน่อยตัวละครมีชื่อสมมติเนื่องจากไม่อยากให้คนที่ถูกเอ่ยถึงใจเรื่องนี้รู้ตัว
เนื้อเรื่อง
เด็กชายคนหนึ่งมาจากโรงเรียนดังของกรุงเทพมหานครมาเรียนที่นนทบุรีซึ่งอยู่แถวบ้านของเขาและเด็กหญิงคนหนึ่งซึ่งมาจากโรงเรียนที่มาจากกรุงเทพเหมือนกันแต่ไม่ค่อยดังเหมือนโรงเรียนของเด็กชายทั้งสองสอบเข้าเรียนที่โรงเรียนดังกล่าวเพื่อเข้าเรียนม.1ทั้งคู่อยู่ห้องเดียวกันแต่เด็กหญิงยังไม่รู้จักเด็กชายมากนักต่อมาไม่นานเด็กชายก็ขาดเรียนไปโดยมีเพื่อนๆๆๆในห้องรู้แต่เพียงแค่ว่าเค้าถูกรถชน แต่เพื่อนร่วมห้องหลายคนก็มาจากโรงเรียนเดียวของเด็กชายเช่นกัน และหนึ่งในนั้นหลายๆๆๆคนตอนนี้ก็กำลังเป็นเพื่อนของเด็กหญิงเช่นกัน
เด็กหญิงยังมีอาการงงงงเล็กน้อยว่าเด็กชายที่ถูกรถชนคือใครแต่ก็ได้ทราบจากเพื่อนเทอทีหลังว่าเด็กชายผู้นั้นคือใครไม่นานเด็กชายก็กลับมาเรียนเด็กหญิงจึงนึกในใจว่าเนี่ยนะคนที่ถูกรถชน เด็กหญิงจึงถามเพื่อนๆๆๆว่าใช่คนนี้หรือป่าวทำให้เพื่อนๆๆๆๆล้อเด็กหญิงว่าชอบเค้าหรอถึงถามเรื่องเค้าบ่อยจังเด็กหญิงก็ได้แต่บอกเพื่อนๆๆๆว่าชั้นไม่มีวันชอบหรอกคนไรไม่ร็ตัวดำชะมัด และสัญญากับตัวเองว่าจะไม่มีวันชอบเด็กผู้ชายคนนี้เด็ดขาด เพราะบุคลิกของผู้ชายคนนี้ดูแปลกกๆๆๆๆๆในสายตาของเธอเค้าเปงคนนิ่งๆๆๆๆเงียบๆๆดูขรึมๆๆแปลกๆๆสุขุมนุ่มลึกยังไงก็ไม่รู้
ต่อมาไม่นานพอใกล้จะปิดเทอมวันหนึ่งเด็กชายได้โทรมาหาเด็กหญิงและได้พูดคุยสนทนากันเด็กหญิงบอกกับตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อเลยว่าชั้นมองเค้าผิดไปตั้งแต่แรกหรอเนี่ย หลังจากนั้นเด็ฏชายก็โทรมาเรื่อยๆๆๆบ่อยจนเกือบจะทุกวันเค้าคุยกันเป็นเวลาวันละนานๆๆๆทั้งคู่อาจจะเรียกว่าสนิทสนมก็ได้ในระดับหนึ่งทำให้เด็กหญิงได้รู้ว่าเค้าไม่ใช่เด็ชายที่เงียบๆๆนิ่งๆๆๆอย่างที่เธอคิดเค้าเป็นคนที่รู้จักคิดรู้จักใช้เงินและเป็นคนที่มีเพื่อนเยอะมากทีเดียวเค้ารักเพื่อนเคค้าและเพื่อนเค้าก็รักเค้าเด็กหญิงคิดว่าเค้าไม่เคยเห็นเพื่อนกลุ่มไหนที่รักกันช่วยเหลือกันอย่างนี้มาก่อนหลังจากนั้นเค้าก็หยุดโทรมา1วันเด็กหญิงจึงเริ่มเป็นฝ่ายโทรหาเค้าบ้าง ทั้งสองเค้ากันได้ดีและหลังจากนั้นก็ปิดเทอม
พอเปิดเทอมขึ้นม.2มาเด็กหญิงก็มีเด็กชายทีอยู่คนละห้องกับเธอมาจีบเธอเธอจึงคบเป็นแฟนกับเค้ามาได้ไม่ถึง2เดือนก็ต้องเลิกกันเพราะผู้ชายคนนั้นเค้าไม่ค่อยมีเวลาให้เธอพอและเธอก็คิดว่าตัวเองก็เค้ากับเค้าไม่ได้เช่นกันแต่ในระหว่างที่เด็กหญิงคบกับผู้ชายคนนั้นอยู่ได้มีคนให้คำปรึกษาเธออยู่ตลอดเวลาก็คือเด็กชายที่เธอมองเค้าผิดไปนั่นเอง หลังจากนั้นเด็กหญิงและเด็กชายก็ตกลงคบหากันแต่ยังไม่เปิดเผยมากนักแต่ไม่นานเพื่อนร่วมชั้นเรียนของคนทั้งคู่ก็ร็ว่าเธอที้ง2คนคบกันเค้าทั้ง2คนเริ่มสนิทกันมากขึ้นสามารถคุยกันได้ในทุกๆๆเรื่องและเริ่มไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยขึ้น เด็กหญิงคิดว่าตัวเองมีความสุขมากที่สุด
และแล้วก็มาถึงวันปิดเทอมม.2เค้าทั้งคู้ได้ลงเรียนพิเศษที่บ้านอาจารย์คนหนึ่งและทำให้เค้า2คนเจอกันมากขึ้นจนทำให้เด็กหญิงเบื่อเด็กชายในที่สุดพยายามหลบหน้าไม่อยากเจอหน้าเด็กชายเด็กหญิงเริ่มปรึกษเพื่อนว่าเธออยากจะเลิกกับเด็กชายและแล้วเธอก็บอกเลิกเด็กชายที่โรงเรียนในที่สุดวินาทีนั้นเด็กหญิงรู้สึกว่าเค้ารู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมากที่เหมือนกับมีเชือกหลุดออกจากตัวเค้าทันทีโดยที่เค้าไม่เคยรู้สึกถึงความรู้สึกของเด็กชายว่าเจ็บปวดเพียงใด
หลังจากนั้นไม่นานก็เด็กหญิงก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป โดยที่เมื่อก่อนมีคนคอยโทรหาเธอเป็นห่วงเธอ และคอยให้กำลังใจช่วยเหลือเธอเสมอ และมีคนที่ให้เธอคอยเป็นห่วง มันไม่มีสิ่งนี้อีกต่อไปแล้ว เมื่อมาถึงวันใกล้เปิดเทอมตอนม.3เด็กหญิงพยายามจะหาทางคืนดีกับเด็กชายแต่เธอได้เห็นพฤติกรรมของเด็กชายที่เปลี่ยนไป  และเธอได้รู้สึกผิดอย่างร้ายแรงเมื่อวินาทีนั้นเอง
โดยที่เด็กหญิงคิดอยู้เสมอว่าที่เค้าเปลี่ยนไปนะมันเป็นความผิดของเธอคนเดียว ต่อมาไม่นานเาพยายามที่จะหาทางคืนดีกับเด็กชายหลังจากที่เธอพยายามขอคืนดีมาแล้วหลายรอบแต่เธอก็ได้ทราบข่าวจากเพื่อนสนิทของเธอว่าเด็กชายคนนั้นกำลังคบอยู่กับเพื่อนของเธอนั่นเองแต่ไม่ใช่เพื่อนที่สนิทกับเธอมากนักเพียงแต่อยู่คนละกลุ่มกันแต่อยู่ห้องเดียวกันเด็กหญิงเมื่อได้ข่าวจากเพื่อนเธอเธอแทบจะไม่อยากเชื่อหูของตัวเองเลย แต่เวลาอยู่ในห้องเธอเห็นทุกอย่างแจ่มแจ้งดีทั้งหมดเธอคิดเพียงแต่ว่าอยากวิ่งออกไปให้ไกลจากห้องนี้ให้มากที่สุดและเวลาที่เธฮเสียใจเธอก็มักจะไปนั่งในสวนจตุจักรคนเดียวเพื่อไม่อยากคิดเรื่องอะไรทั้งนั้นเพราะที่จตุจักรนี้เป็นที่ที่เธอและเด็กผู้ชายเคบมานั่งคุยกันและเธอคิดว่าที่นี่แหละที่ชั้นมีความสุขที่สุดและระหว่างนั้นเธอก็ไปนั่งที่สวนแห่งนั้นนับครั้งไม่ท้วน และไม่อยากเรียนที่นี่อีกต่อไปแล้ว เธอต้องทนรับกับสภาพที่เธอไม่อยากเห็นและไม่อยากให้อยู่ในความคิดเธอพึ่งรู้สึกว่าเธอคงชอบเค้าจิงๆๆแล้วเมื่อขาดเค้าไปแต่กว่าเธฮจะรู้ตัวทุกอย่างมันก็สายเกินกว่าจะแก้แล้ว เธอได้แต่บอกับตัวเองว่าซักวันทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม เธอได้แต่ตั้งตารอวันนั้นให้มาถึงเธฮเริ่มซึมลงจนเพื่อนเธอเริ่มถามว่าเพราะอะไร เธอจะแกล้งทำเป็นเหมือนไม่มีอะไนเกิดขึ้นเพียงแต่บอกกับตัวเองว่าอย่าเข้าใกล้เด็กชายหรือพูดคุยกับเค้าเป็นดีที่สุดเพราะจะทำให้เธอไม่สามารถที่จะลืมเค้าได้ง่ายนัก เธอเสียใจมากเมื่อเวลาเธออยู่บ้านปกติเธอเป็นคนสนุกสนานแต่เธอเริ่มเงียบลงพูดน้อยลงจนเธฮรู้ว่าบิดมารดาของเธอเริ่มรู้ว่าตัวเธอแปลกไปเค้าสามารถเดาได้ไม่ยากนักว่าต้องมีเรื่องบางอย่างเกดขึ้นกับเธอแต่เธอก็ไม่สามารถที่จะเล่าเรื่องอะไรให้บิดามารดาเธอฟังได้มากนักเนื่องจากอายุที่ยังไม่เหมาะสมของเธอซึ่งยากที่ผู้ใหญ่จะเข้าใจคือสิ่งที่เธอเข้าใจดีเธอจึงพยายามทำตัวให้สดใสร่าเริงขึ้นเหมือนเดิม แต่เวลาที่เธอมาโรงเรียนเมื่อเธอเจอคนทั้งคู่เธอก็ไม่อยากที่จะพูดคุยกับใครเลยจนเพื่อนของเธอเริ่มดูออกและเริ่มรู้ว่าเธอเป็นอะไร เพื่อนของเธอได้แต่คอยให้กำลังใจเธอและอยู่ข้างเธอเสมอเธอนึกขอบใจเพื่อนๆๆๆของเธอมาก แต่สิ่งที่เธอไม่เคยบอกให้ใครรู้มาก่อนเลยก็คือ นิสัยของเพื่อนเธอที่คบอยู่กับเด็กชายคนนั้นแสดงออกต่อเธออย่างไร เธอไม่เคยบอกใครเลยมันเป็นเรื่องที่อยากจะอธิบายขอละไว้ในฐานที่เข้าใจ  หลังจากปิดเทอมม.3ขึ้นม.4เด็กชายได้เริ่มห่างกับคนที่เธอคบอยู่ด้วยระหว่างนั้นเด็กหญิงไปอาศัยอยู่กบบ้านญาติที่ต่างจังหวัดด้วยอยากที่จะลืมเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเธฮได้ระบายเรื่องราวทั้งหมดให้ญาติผู้เป็นพี่ฟังโดยเธอไม่รู้เลยว่าญาติผู้พี่เธอพยายามช่วยเหลือเธอโดยการโทรไปหาเด็กชายคนนั้นและช่วยเหลือเธอ จนเธฮเริ่มรู้สึกว่าเธอควรขอคบกับเค้าอีกรอบแต่ก็ได้รับการบอกเป็นเชิงปฏิเสธเธอจึงน้อยใจขับรถล้มหัวแตกและก็มาถึงวันรับสมุดพก
เด็กชายเห็นแผลที่หัวเด็กหญิงเด็กชายจึงเดินมาถามว่าเป็นไงบ้างแค่คำถามนั้นคำเดียวเด็กหญิงก็รู้สึกว่าน่าจะเจ็บมากกว่านี้นะเธอจะได้สนใจชั้นมากกว่านี้แต่ก็ยังงงงงว่าเด็กชายถามเหมือนรู้ว่าเธอไปโดนอะไรมาแล้วก็ทราบว่าญาติผู้พี่เธอนี่เองที่บอกเด็กชาย หลังจากนั้นเด็กหญิงและเด็กชายก็กลับมาคบกันอีกรอบแต่นิสัยของเด็กชายก็เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมจากที่เคยคุยกันนานๆๆๆๆก็คุยกัยแป๊ปเดียวและเด็กชายไม่ค่อยสนใจเด็กหญิงเหมือนเดิม เธอได้แต่คิดในใจไปว่าเธอคงไม่ได้รักชั้นเหมือนเดิมแล้ว เธอคงมีคนอื่นแล้ว นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เด็กหญิงเสียใจเพิ่มอีกหลายเท่าเมื่อรู้ว่าเด็กชายเริ่มมีอาการเจ้าชู้เล็กน้อยเทื่อเทียบกับแต่ก่อนแล้วซึ่งไม่เคยเลยเค้ามักจะให้ความสำคัญกับเธอเสมอถ้าเป็นแต่ก่อนเด้กหญิงได้แต่คิดในใจว่าชั้นคงทำให้เธอกลับมาเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว เเละตั้งคำถามกับตัวเองเสมอว่าเค้ารักชั้นรึป่าว และพยายามใช้เวลาตัดใจจากเด็กชายแต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก เค้าไมาสามารถรู้ได้เลยว่าเด็กชายคิดอย่างไรกับเธออยู่ตอนนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น