ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : สามแยก...แตกต่าง(เริ่มชีวิตใหม่)
ฝ่ายรันเอง เมื่ออยู่คนเดียวลำพัง ก็มักจะนึกเรื่องของนนท์เสมอ  ภาพเหตุการณ์ที่สนามบิน ทำให้เธอรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก 
            “นี่เราทำร้ายคนที่รักเราอย่างนั้นสิ.. ทำไมเราถึงเป็นแบบนี้นะ ทำไมถึงทิ้งเขาไว้”
                      “นนท์ไม่รักเราจริงรึเปล่า  นนท์โกหกเราทำไม เพื่ออะไรกัน”
                      “ป่านนี้จะทำอะไรอยู่นะ คงอยู่อย่างเรื่อยเปื่อยไปวันๆสินะ”
                              “ขอโทษนะนนท์  แต่..ไม่ต้องยกโทษให้เราหรอก”
    อยู่ๆ รันก็รู้สึกราวกับว่า หน้าของเธออาบไปด้วยหยาดน้ำ ใช่.. ฉันกำลังร้องไห้..
เธอพยายามเดินหลบเลี่ยงฝูงชนไปยังมุมแคบๆมุมหนึ่ง สองขาของเธอช่างล้าราวกับออกเดินหลายกิโลฯอย่างไม่หยุดพัก  เธอค่อยๆทรุดตัวลงพิงกับกำแพง ก้มหน้าลงซบกับหัวเข่าอย่างอ่อนแรง  ระหว่างที่เธออยู่กับความอ้างว้างและรู้สึกผิด หารู้ไม่ว่า มีสายตาสามคู่กำลังจับจ้องเธออยู่ด้วยความสนใจ
            “เฮ้ย!! นั่นมันรุ่นน้องที่เข้ามาใหม่นี่หว่า  ที่หักอกไอ้บอลน่ะ” ชายหนุ่มชี้ไป พรางทำเสียงกระซิบกระซาบ
                “หักอกไอ้บอล บ้าป่าว ไอ้บอลออกจะป๊อปในหมู่สาวๆ ไม่เคยมีใครกล้าหักอกมันเลยสักคนนี่  หรือว่าน้องเขาเป็นสาวประเภทสองฟะ”
              “น่าสนใจว่ะ  นานๆจะเจอคนเล่นตัวซะที” 
            “เฮ้ยเจ  จะมั่นใจในตัวเองไปหน่อยไหมเพื่อน”
                    “ถ้าข้าจีบได้ ข้าจะได้อะไรวะ”
              “ถ้าเอ็งจีบน้องเขาได้นะ  พวกข้าจะยกให้เอ็งป๊อป แทนไอ้บอลมัน แต่ข้าว่าอย่างเอ็ง ไม่มีทางหรอก”  เพื่อนฝูงพากันส่ายหน้า ฝ่ายเจก็ไม่รอช้า
                    “พวกเอ็งกลับไปก่อนเลยไป ไปไหนก็ไป  ข้าจะเริ่มวันนี้เลย”
        เขาไม่รอช้า ใช้สองมือเสยผมอย่างมั่นใจก่อนที่จะเดินตรงไปยังที่หมาย และบัดนี้ เขาได้มายืนอยู่ข้างๆร่างที่กำลังนั่งก้มหน้าอยู่ระยะห่างไม่ถึง 1 เมตร เธอยังไม่รู้สึกตัว
                      “เอ่อ น้องครับ น้องไม่สบายใจอะไรรึเปล่า” เจพยายามทำเสียงเป็นมิตร และร่าเริง            “ ..”  รันไม่ตอบได้แต่ก้มหน้าอยู่อย่างนั้น
                  “คือพี่จำหน้าน้องได้น่ะ เราอยู่โรงเรียนเดียวกัน พี่ก็แค่เป็นห่วงในฐานะรุ่นพี่”
            “อ๋อ.อ่ะ ค่ะ  ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ขอบคุณ”  รันลุกขึ้นพยายามเดินหนี
              “ให้พี่คุยเป็นเพื่อนไหม ดูท่าทางจะเหงานี่”   
                      “อยากอยู่คนเดียวมากกว่าค่ะ ถ้าไม่เป็นการเสียมารยาท ก็ ขอโทษด้วยนะคะ”      รันบอกปัดอย่างไม่ใยดี  สัญชาติญาณของเธอคือต้องออกห่างจากผู้ชายทั้งโลก
                      “เสียมารยาทสิ  มากด้วย”  เจทำเสียงดุ  ทำให้รันหยุดฟังเหตุผล
          “พี่อุตส่าห์เป็นห่วงน้อง ทำไมน้องถึงทำตัวเย่อหยิ่งแบบนี้ ทำไมไม่รู้จักยอมรับสภาพจิตใจของคนอื่นบ้าง”     
  ไม่รู้จักยอมรับสภาพจิตใจคนอื่นเหรอ  พี่รู้ไหม ก็เพราะยอมรับ รันถึงต้องมานั่งร้องไห้แบบนี้ พี่ไม่เข้าใจหรอกนะ
                            “เอ่อ..ขอโทษค่ะ  ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้พี่คิดแบบนั้น”
                                  “ถ้างั้น ขอพี่คุยด้วยนะ”  เจแอบโล่งอกอยู่ในใจ เขารู้สึกสนใจเธอคนนี้ขึ้นมาตะหงิดๆแล้ว
                 
    เจชวนรันคุยโน่นคุยนี่ ดูโน่นดูนี่ เลือกดูของตามร้านต่างๆ ฝ่ายรันเองก็พยายามห่างจากเขาอย่างน้อยซักหนึ่งเมตรก็ยังดี ฝ่ายเจ ก็แอบขำเล็กๆไม่ให้เจ้าตัวได้สังเกตเห็น
                          .คนอาร๊าย  จะระวังตัวปานนั้น .
และคืนนั้น..
    รันรู้สึกราวกับว่ามีอะไรมาบีบหัวใจให้นอนไม่หลับ  เธอกระวนกระวายอยู่นาน จนกระทั่งต้องลุกออกมาที่ระเบียง ริมระเบียงมีเตียงผ้าใบเล็กๆตั้งไว้ เธอไม่รอช้าที่จะเอนตัวลง พรางแหงนหน้ามองดวงดาวนับสิบที่ทักทายเธอ เธอค่อยๆหลับตาลงอีกครั้งอย่างช้าๆ สายลมเย็นพริ้วพัดผ่านเธออย่างนุ่มนวล ภาพเหตุการณ์ที่ฝังอยู๋ในจิตใจได้บังเกิดขึ้น  เธอเริ่มนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภาพที่เจคอยชวนเธอพูดคุย ทำให้เธออมยิ้มเล็กๆขึ้นมา ก่อนที่จะเผลอหลับไป
.
ฝ่ายนนท์..  เขาก็นอนไม่หลับเช่นกัน  สมุดบันทึกหน้าแล้วหน้าเล่าที่เขาเฝ้าเขียนพูดคุยกับตัวเอง ..รัน  อยู่ที่นั่นคงสบายดีนะ  เราเป็นห่วงเหลือเกิน  ก็เพราะรัก รัก.. ที่รันไม่ควรให้ความสำคัญ  รัก..ที่รันควรจะวางมันทิ้งไว้ที่นี่..  แต่ ..ในความเป็นเพื่อนล่ะ..  ตอนนี้เธอจะคิดถึงชั้นมั้ย
            “นี่เราทำร้ายคนที่รักเราอย่างนั้นสิ.. ทำไมเราถึงเป็นแบบนี้นะ ทำไมถึงทิ้งเขาไว้”
                      “นนท์ไม่รักเราจริงรึเปล่า  นนท์โกหกเราทำไม เพื่ออะไรกัน”
                      “ป่านนี้จะทำอะไรอยู่นะ คงอยู่อย่างเรื่อยเปื่อยไปวันๆสินะ”
                              “ขอโทษนะนนท์  แต่..ไม่ต้องยกโทษให้เราหรอก”
    อยู่ๆ รันก็รู้สึกราวกับว่า หน้าของเธออาบไปด้วยหยาดน้ำ ใช่.. ฉันกำลังร้องไห้..
เธอพยายามเดินหลบเลี่ยงฝูงชนไปยังมุมแคบๆมุมหนึ่ง สองขาของเธอช่างล้าราวกับออกเดินหลายกิโลฯอย่างไม่หยุดพัก  เธอค่อยๆทรุดตัวลงพิงกับกำแพง ก้มหน้าลงซบกับหัวเข่าอย่างอ่อนแรง  ระหว่างที่เธออยู่กับความอ้างว้างและรู้สึกผิด หารู้ไม่ว่า มีสายตาสามคู่กำลังจับจ้องเธออยู่ด้วยความสนใจ
            “เฮ้ย!! นั่นมันรุ่นน้องที่เข้ามาใหม่นี่หว่า  ที่หักอกไอ้บอลน่ะ” ชายหนุ่มชี้ไป พรางทำเสียงกระซิบกระซาบ
                “หักอกไอ้บอล บ้าป่าว ไอ้บอลออกจะป๊อปในหมู่สาวๆ ไม่เคยมีใครกล้าหักอกมันเลยสักคนนี่  หรือว่าน้องเขาเป็นสาวประเภทสองฟะ”
              “น่าสนใจว่ะ  นานๆจะเจอคนเล่นตัวซะที” 
            “เฮ้ยเจ  จะมั่นใจในตัวเองไปหน่อยไหมเพื่อน”
                    “ถ้าข้าจีบได้ ข้าจะได้อะไรวะ”
              “ถ้าเอ็งจีบน้องเขาได้นะ  พวกข้าจะยกให้เอ็งป๊อป แทนไอ้บอลมัน แต่ข้าว่าอย่างเอ็ง ไม่มีทางหรอก”  เพื่อนฝูงพากันส่ายหน้า ฝ่ายเจก็ไม่รอช้า
                    “พวกเอ็งกลับไปก่อนเลยไป ไปไหนก็ไป  ข้าจะเริ่มวันนี้เลย”
        เขาไม่รอช้า ใช้สองมือเสยผมอย่างมั่นใจก่อนที่จะเดินตรงไปยังที่หมาย และบัดนี้ เขาได้มายืนอยู่ข้างๆร่างที่กำลังนั่งก้มหน้าอยู่ระยะห่างไม่ถึง 1 เมตร เธอยังไม่รู้สึกตัว
                      “เอ่อ น้องครับ น้องไม่สบายใจอะไรรึเปล่า” เจพยายามทำเสียงเป็นมิตร และร่าเริง            “ ..”  รันไม่ตอบได้แต่ก้มหน้าอยู่อย่างนั้น
                  “คือพี่จำหน้าน้องได้น่ะ เราอยู่โรงเรียนเดียวกัน พี่ก็แค่เป็นห่วงในฐานะรุ่นพี่”
            “อ๋อ.อ่ะ ค่ะ  ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ขอบคุณ”  รันลุกขึ้นพยายามเดินหนี
              “ให้พี่คุยเป็นเพื่อนไหม ดูท่าทางจะเหงานี่”   
                      “อยากอยู่คนเดียวมากกว่าค่ะ ถ้าไม่เป็นการเสียมารยาท ก็ ขอโทษด้วยนะคะ”      รันบอกปัดอย่างไม่ใยดี  สัญชาติญาณของเธอคือต้องออกห่างจากผู้ชายทั้งโลก
                      “เสียมารยาทสิ  มากด้วย”  เจทำเสียงดุ  ทำให้รันหยุดฟังเหตุผล
          “พี่อุตส่าห์เป็นห่วงน้อง ทำไมน้องถึงทำตัวเย่อหยิ่งแบบนี้ ทำไมไม่รู้จักยอมรับสภาพจิตใจของคนอื่นบ้าง”     
  ไม่รู้จักยอมรับสภาพจิตใจคนอื่นเหรอ  พี่รู้ไหม ก็เพราะยอมรับ รันถึงต้องมานั่งร้องไห้แบบนี้ พี่ไม่เข้าใจหรอกนะ
                            “เอ่อ..ขอโทษค่ะ  ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้พี่คิดแบบนั้น”
                                  “ถ้างั้น ขอพี่คุยด้วยนะ”  เจแอบโล่งอกอยู่ในใจ เขารู้สึกสนใจเธอคนนี้ขึ้นมาตะหงิดๆแล้ว
                 
    เจชวนรันคุยโน่นคุยนี่ ดูโน่นดูนี่ เลือกดูของตามร้านต่างๆ ฝ่ายรันเองก็พยายามห่างจากเขาอย่างน้อยซักหนึ่งเมตรก็ยังดี ฝ่ายเจ ก็แอบขำเล็กๆไม่ให้เจ้าตัวได้สังเกตเห็น
                          .คนอาร๊าย  จะระวังตัวปานนั้น .
และคืนนั้น..
    รันรู้สึกราวกับว่ามีอะไรมาบีบหัวใจให้นอนไม่หลับ  เธอกระวนกระวายอยู่นาน จนกระทั่งต้องลุกออกมาที่ระเบียง ริมระเบียงมีเตียงผ้าใบเล็กๆตั้งไว้ เธอไม่รอช้าที่จะเอนตัวลง พรางแหงนหน้ามองดวงดาวนับสิบที่ทักทายเธอ เธอค่อยๆหลับตาลงอีกครั้งอย่างช้าๆ สายลมเย็นพริ้วพัดผ่านเธออย่างนุ่มนวล ภาพเหตุการณ์ที่ฝังอยู๋ในจิตใจได้บังเกิดขึ้น  เธอเริ่มนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ภาพที่เจคอยชวนเธอพูดคุย ทำให้เธออมยิ้มเล็กๆขึ้นมา ก่อนที่จะเผลอหลับไป
.
ฝ่ายนนท์..  เขาก็นอนไม่หลับเช่นกัน  สมุดบันทึกหน้าแล้วหน้าเล่าที่เขาเฝ้าเขียนพูดคุยกับตัวเอง ..รัน  อยู่ที่นั่นคงสบายดีนะ  เราเป็นห่วงเหลือเกิน  ก็เพราะรัก รัก.. ที่รันไม่ควรให้ความสำคัญ  รัก..ที่รันควรจะวางมันทิ้งไว้ที่นี่..  แต่ ..ในความเป็นเพื่อนล่ะ..  ตอนนี้เธอจะคิดถึงชั้นมั้ย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น