ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SALASMO

    ลำดับตอนที่ #1 : west sernia

    • อัปเดตล่าสุด 28 ส.ค. 47


    Salasmo

        เสียงหอบแฮ่กๆ ดังขึ้นทำให้นอลลิน สาวน้อยตกใจ  ขณะนี้เธอกำลังแช่ตัวอยู่ในบ่อน้ำ  ทำให้เธอตกใจในเสียงนั้น เธอหยุดหายใจไปพักหนึ่งแล้วตั้งสติแล้วพูดออกไปว่า

    “ ใครหนะ  ออกมาเดี๋ยวนี้นะ”

    เธอค่อยขยับตัวแล้วไปเอื้อมหยิบผ้าคลุมตัวที่ละน้อย  แล้วรอฟังแต่ไม่มีเสียงใด

    ตอบกลับมาขณะที่มือเธอเกือบถึงผ้าคลุมก็ปรากฏร่าง ร่างหนึ่งออกมา

        “ ช่วยข้าที ช่วยข้าด้วย” เสียงจากชายร่างผอมสูงปรากฏกายออกมาจากพุ่มไม้

    “ เจ้าเป็นใคร อย่าเข้ามานะ”

        จากนั้นมีเสียงดังของชายหลายคนดังมา

    “ หามันให้ทั่ว ถ้าพวกเจ้าไม่อยากตาย” ชายผู้หนึ่งตะโกนสั่ง

           “ข้าจะช่วยเจ้า  ลงมานี่สิ” นอลลินบอกให้ชายผู้นั้นลงมาในบ่อ

         “เจ้าเห็นใครผ่านมาแถวนี้ไหม”

       นอลลินหันไปมอง  เห็นชายใส่ชุดดำกลุ่มหนึ่ง

    “เจ้าเป็นใครถือดียังไงมาแอบดูข้าอาบน้ำ  เจ้าไม่รู้หรือว่าที่นี่เป็นเขตต้องห้าม”

    “ ข้าถามเจ้าว่าเห็นใครมาแถวนี้ไหม  ถ้ายังไม่อยากตายก็บอกมาซะดีๆ หรืออยากให้ข้าใช้กำลัง”

    “ ถ้าเจ้าทำอะไรข้านึกหรือว่าจะรอดออกจากหุบเขาแห่งนี้ไปได้”

      “หมายความว่าไง”

      “ ที่นี่คือหุบเขาแห่งเวสเซอเนียที่ที่ใครไม่สามารถออกไปได้ถ้าข้าไม่สั่ง”

         “ พวกเราถอยก่อน  ที่นี่ไม่ปลอดภัย  รอท่านซีเวียมาก่อนเถอะเจ้าไม่รอด”

      ชายกลุ่มนั้นรีบเดินจากไปโดยเร็ว  หายไปพร้อมกับความมืด

         “ขึ้นมาได้แล้ว   เร็วซิจะแอบดูข้าไปถึงไหนกัน”

      จากนั้นได้มีฝีเท้าดังมาแต่ไกล  ใกล้เข้ามา

         “ท่านนอลลินเป็นอะไรรึเปล่า   เจ้าเป็นใครแล้วเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร”

        “ คือข้า…..”

         “ ข้าพาเค้ามาเอง  เจ้ามีอะไรรึไม่”

      “แต่ท่านมีคู่หมั้นแล้ว  มันมิเหมาะสมแล้วท่านลิคสิเฟียท่านจะว่าเช่นไร”

        “ เจ้าไม่บอกพ่อข้าก็ไม่รู้  จริงไหมเรียว”

      “  ครับท่านนอลลิน   พวกเจ้าออกไปได้แล้วปิดปากให้เงียบทุกคนเข้าใจไหม”

    “ ครับท่าน”

    “  ข้าขอตัวก่อน  ครับคุณหนู”

    “ เดี๋ยว ขอบคุณนะเรียว”

    “  ขึ้นมาได้แล้ว เร็วซิ หยิบผ้าคลุมมาให้ข้าด้วย”

    ชายผู้นั้นเดินไปแล้วหยิบผ้าคลุมให้นอลลิน   เธอได้พาชายผู้นั้นเข้าทางประตูด้านหลังแล้วพาเข้าห้องนอนของเธอ

    “ ต้องขอขอบคุณท่านมากที่ช่วยข้า”

        “ท่านชื่ออะไร  แล้วไปทำสิ่งใดมาพอจะบอกข้าได้หรือไม่”

    “ ข้า…มีนามว่าซาลาสโม่   ตอนนี้เรื่องของข้าบอกท่านได้แค่นี้ข้าเกรงว่าท่านจะเดือดร้อน”

    “ ไม่เป็นไร  ถ้าเจ้าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร   ข้าขอนอนก่อนละกัน”

    “  ข้าขอลาท่านตรงนี้เลยละกัน”

    “ เจ้าควรนอนที่นี่นะ  ขืนออกไปคงไม่พ้นปากประตูแน่  ตอนนี้พ่อข้าคงรู้แล้วและคิดว่าข้ากับเจ้าเป็นอะไรกัน  ทีนี้เจ้ารู้แล้วนะว่าเจ้าอยู่ในฐานะใด”

    แต่ข้า. . .

    “ ราตรีสวัส  ซาลาสโม่”

    ซาลาสโม่นอนลงที่เตียงเดียวกับนอลลินแล้วครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่ประสบในคืนนี้   คืนที่โหดร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมาในชีวิต เค้านอนไม่หลับจนกระทั่งเช้า

    ณ ห้องประชุมแห่งปราสาทแห่งเวสเซอเนีย

        “ เจ้ารู้ความผิดของเจ้าแล้วใช่ไหม”   ลิคสิเฟียผู้ปกครองหุบเขาแห่งนี้กล่าว

        “  ข้าไม่มีความผิดเช่นใดเลย  หากแต่ข้ามี. . .

          “ เจ้ายังมีหน้ามาเถียงอีกรึ  เจ้านั่นมันเป็นใครบังอาจมาทำเช่นนี้กับเจ้า  ”

    “ หากแต่ท่านมิได้ฟังข้า  ท่านพ่อจักไม่ได้ฟังเรื่องจริงท่านคิดไปเอง”

          “ นี่เจ้ามีข้อจะแก้ตัวรึ  ในเมื่อมันมีหลักฐานเช่นนี้แล้ว”

            ถ้าท่านพ่อคิดว่าข้าไร้เกียรติขนาดนั้นตามใจท่าน  ข้าไม่มีข้อโต้แย้งอีก ขอตัว”

    นอลลินเดินออกไปจากห้องประชุมด้วยสีหน้ากลุ้มใจนางเดินครุ่นคิดมาจนถึงสวนในปราสาท  แต่เป็นสวนที่นางรู้สึกว่านางไม่เคยมาที่นี่มาก่อนบรรยากาศที่นี่อบอวลไปด้วยกลิ่นดอกไม้นานาชนิด  ทำให้นางรู้สึกผ่อนคลายในขณะที่นางกำลังปล่อยจิตใจให้ล่องลอยนั้นก็มีฝีเท้าคู่หนึ่งดังใกล้เข้ามา

    “ ท่านมาทำอะไรที่นี่”

    นางหันหน้าไปมองตามเสียงนั้น

    “  เจ้านั่นเอง  เจ้ารู้จักที่นี่ด้วยรึ”

    “  ข้าเป็นคนสร้างมันขึ้นมากับมือข้าเอง”

    “  ข้าไม่ยักกะรู้ว่าเจ้า  ทหารผู้เก่งกาจเชี่ยวชาญในการรบจะมีจิตใจที่อ่อนโยนเช่นนี้  หามีจิตใจที่หยาบกระด้างไม่”

    “ข้าว่าเจ้าชมข้าเกินไปแล้ว  ถึงแม้ข้าจะเป็นแม่ทัพของที่แห่งนี้   ข้าก็ยังเป็นวินเซอบัคคนรับใช้เจ้าอยู่ดี”

    “  ข้าขอมาที่นี่อีกได้หรือไม่”

    “  ตามใจ ข้าขอตัวก่อน” วินเซอบัคเดินจากไป

    “  ข้านึกว่าเจ้าจะไม่มีความรู้สึกแล้วซะอีก  สบายใจขึ้นมาหน่อยแล้ว”

    ตอนนี้ซาลาสโมได้ถูกควบคุมตัวไว้ที่คุกมิดเดิลเมาท์คุกที่อยู่บนยอดเขาที่สูงที่สุดในหุบเขาแห่งนี้  การป้องกันของคุกแห่งนี้เต็มไปด้วยอันตราย

    “  เจ้าชื่ออะไรรึถึงได้ถูกนำตัวเอามาไว้ที่คุกแห่งนี้” ชายแก่ชราผม และ เครายาวรุงรังถามซาลาสโมด้วยเสียงอันแผ่วเบา

    “ ข้าชื่อว่าซาลาสโม แล้วท่านละ”

    “  นี่เจ้าคือ…..เจ้ามาจากทางเหนือของเมืองยาสซีใช่หรือไม่”

    “  นี่ท่านรู้ได้ยังไงว่าข้ามาจากที่นั่น” ซาลาสโมถามด้วยสีหน้าที่ฉงน

    “  ข้ารู้ได้จากชื่อเจ้าไงละ  เดิมทีข้าอยู่ที่นั่นข้าเป็นเพื่อนกับอาจารย์ของเจ้า   ข้าจากที่นั่นมาได้ 20 ปีแล้วโดยไม่ได้กลับไปที่นั่นอีกเลย”

    “  เหตุใดท่านจึงไม่กลับไปที่นั่นอีก ”

    “  อาจารย์เจ้าเป็นอย่างไรบ้างละ   ข้าว่าตอนนี้เค้าคงจะแก่พอๆกับข้าแต่คงสบายกว่าข้าสินะ  คงไม่ต้องมาทนอยู่ในนี้เช่นเดียวกับข้า”

    “  ใช่ท่านไม่ต้องกังวลอะไรอีกต่อไปแล้วละ  ทั้งเรื่องข้า  พ่อของข้า ”

    “  เจ้าหมายความว่าอย่างไรฮะ   รึว่าดาโกสตาร์ ”

    “  อย่างที่ท่านคิด  อาจารย์ข้าถูกฆ่าพร้อมทั้งลูกศิษย์ทั้งสำนักเหลือก็แต่เพียงข้า   ข้าผิดเองข้าช่วยพวกเค้าไม่ได้  ข้ามันไม่เอาไหน ”

    ซาลาสโมพูดพลางเอามือชกที่กำแพง

    “  พอได้แล้วละ  เจ้าไม่ใช่สาเหตุของเรื่องนี้  เรื่องนี้ซักวันยังไงก็ต้องเกิดขึ้น  เจ้าเป็นเพียงแค่ผู้ร่วมชะตากรรมเท่านั้น  บัดนี้ชะตากรรมของเจ้าได้เปลี่ยนไปแล้วซาลาสโม  ”

    “  ชะตากรรมของข้า  ท่านหมายความว่าอย่างไร  ”

    “  เจ้าต่อจากนี้ไปต้องฝึกฝนตัวเองซะใหม่เตรียมพร้อมกับการรบ   ข้าเองคืออาจารย์ของพ่อเจ้า  พ่อเจ้าต้องฝึกฝนตนหนักจนกว่าจะรักษาบัลลังก์ เอาไว้ได้  ”

    “  ท่านพูดเรื่องใดบัลลังก์  บัลลังก์อะไร  อาจารย์บอกว่าพ่อข้าเป็นนักรบอยู่ที่เมืองแห่งนั้นแต่โดนคุมขังอยู่เพราะท่านหนีศึกในการรบจึงถูกต้องโทษจองจำ  ”

    “  สิ่งที่อาจารย์เจ้าพูดนั้นเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นทั้งหมด   เค้าต้องการปกปิดฐานะเจ้าไว้เพื่อปกป้องตัวเจ้าเอง  และแม่ของเจ้าไม่ให้ได้รับอันตราย  ”

    “ ท่านเป็นใครกันแน่  ”

    “   อย่างที่ข้าบอกข้าเป็นอาจารย์ของพ่อเจ้า  ข้ามีนามว่า เซอเทสโซหรือพ่อมดแห่งสนัททีอ็อด  ”

    “  ตอนนี้เจ้าไม่ต้องรู้เรื่องทั้งหมดในตอนนี้เจ้ามีหน้าที่คือเชื่อฟังข้า  ทำตามที่ข้าสั่งเข้าใจไหม  ”

    “  ทำไมข้าต้องทำตาม  ที่ท่านสั่ง  ”

    “  ถ้าเจ้าอยากแก้แค้นให้กับทุกคนที่เจ้าสูญเสีย  ”

    นอลลินกลับมาถึงห้องพบว่าซาลาสโมไม่อยู่แล้วนเธอจึง  ถามทหารหน้าห้อง

    “  เจ้าเห็นซาลาสโม  หรือไม่  ”

    “  ท่านลิคสิเฟียสั่งให้นำตัวท่านซาลาสโมไปคุมขัง  คับท่านนอลลิน  ”

    “  ท่านไม่ต้องตามหาหรอก  ”

    “  เรียว  เจ้ารู้ว่าซาลาสโมอยู่แห่งใดรึไง  บอกข้ามา  ”

    “  ต่อให้ข้าบอกท่านนอลลินไป  ท่านก็ไม่สามารถช่วยท่านซาลาสโมออกมาได้อยู่ดี  ข้าอยากให้ท่านรอเวลา  จนกว่าท่านลิคสิเฟียจะอภัยโทษให้ท่านซาลาสโม   มิเช่นนั้นต่อให้ข้าและท่านพยามยามเช่นใดก็นำตัวท่านซาลาสโมกลับมาไม่ได้  และยังเป็นการทำให้ท่านซาลาสโมอาจเดือดร้อนหนักขึ้นเป็นได้  ”

    “  แต่เรื่องทั้งหมดข้าทำไปเพราะช่วยซาลาสโมนะไม่ใช่อย่างที่เจ้าและท่านพ่อเข้าใจ  ”

    “  ข้าเชื่อท่าน  ”

    ตึง  …ตึง…..ตึง…..ตึง..

    เสียงกลองศึกลั่นขึ้นท่ามกลางการสนทนาของทั้งสอง   มันดังสนั่นหวั่นไหวคงเป็นสัญญาณแห่งการออกศึก

    “  เสียงนี้….”

    “  ข้าออกไปดูเอง  ท่านนอลลินรออยู่ที่นี่เถอะ  ”

    “  มีอะไรกันทำไมถึงลั่นกลองศึก  ” เรียวเดินออกไปที่หอสังเกตุการทางปีกขวาของปราสาทเพื่อถามทหารว่ามีเหตุร้ายอะไร

    “  เรียนท่านเรียว   บัดนี้ได้มีทัพใหญ่ทัพหนึ่งมาบุกประชิดเมืองของเรา  ท่านลิคสิเฟียสั่งลั่นกลองศึกเพื่อเตรียมพร้อมเหล่าทหาร”

    “  แล้วตอนนี้ท่านลิคสิเฟียอยู่ที่ใด”

    “  ตอนนี้แม่ทัพ  นายกอง และแนวหน้าทุกคนได้ทำการประชุมกันอยู่ ณ ประสาท”

    ณ ห้องประชุมแบล็ควอลเลอร์   นานมาแล้วที่ห้องนี้ไม่มีการประชุมอย่างนี้พร้อมกับเหล่าทหารพร้อมหน้าเช่นนี้



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×