ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เจ้าม้าแก่ของลุกกลั๊กคิดอะไรอยู่
“แม้แต่ใบหญ้าสักใบยังไม่มีเล้ย”  เจ้าม้าแก่คิด
    มันกำลังลากเกวียนไปตามทาง  บนเกวียนนั้นมีถังไม้โอ๊คที่เขียนว่า  “น้ำเป็นของพระราชา”  และใต้คำพูดก็มีคราประจำพระองค์ของพระราชาที่เป็นรูปถังน้ำทองคำกับมงกุฏติดอยู่
    ส่วนลุงกั๊ก  คนขายน้ำ  ก็เดินอยู่ข้างๆ  เกวียนของเขา
    “น้ำ..น้ำเย็นๆ น้ำพุเย็นฉ่ำ”  ลุงกั๊กร้องตะโกนอย่างกระปรี้กระเปร่าอยู่ไม่หยุดหย่อน
    เกวียนแล่นกุกๆ  กักๆ  ขึ้นไปตามสะพาน  ทว่า ใต้สะพานนั้นไม่มีน้ำอยู่เลย  มีเพียงก้อนหินที่แห้งผากฝุ่นจับเขลอะอยู่เท่านั้น
    “เราจะเรียกมันว่าสะพานได้ยังไงกันเล่า  ถ้าไม่มีน้ำอยู่ข้างใต้ตัวมันเลยอย่างนี้..”  เจ้าม้าแก่คิด  “เฮ้อ  มันก็เป็นแค่คำพูดที่ไร้ความหมายคำหนึ่งเท่านั้นเอง  แต่ทำไมน้า  เจ้านกฮูก .ปราชญ์แห่งราตรีกาล  ที่ชอบบินมาเกาะบนหลังคาคอกม้าฉันตอนกลางคืน  ถึงได้เฝ้าบอกฉันอยู่เรื่อยว่า  เคยมีแม่น้ำที่ให้น้ำมากมายเท่าที่เราจะต้องการอยู่ที่นี่  เอ .หรือว่ามันจะแก่จนเลอะเทอะไปซะแล้ว  โธ่ เจ้าปราชญ์แห่งราตรีกาลที่น่าสงสารเอ๊ย ”
    เกวียนวิ่งเข้าไปในตรอกแคบๆแห่งหนึ่ง  สองข้างทางของตรอกนี้เรียงรายไปด้วยบ้านที่เป็นสีเทาเพราะฝุ่นจับ
    “เราจะเรียกมันว่าบึงได้อย่างไรกันเล่า  ถ้าไม่มีหญ้าขึ้นเลยซักต้น  มันควรละอายแก่ใจบ้างนะนี่  ที่เรียกตัวเองว่าบึงอย่างนี้พวกต้นไม้ที่ไม่มีใบก็เหมือนกัน  นับเป็นต้นไม้ไม่ได้หรอก ”
    “ขอแค่คำเดียวเท่านั้นแหละจะแม่ .นะจ๊ะ .”  เสียงเด็กชายผอมแห้งคนหนึ่งคร่ำครวญขึ้น
    “ลุงกลั๊ก”  ผู้หญิงน่าตาซีดเซียวคนหนึ่งร้องเรียกคนขายน้ำ “รินน้ำให้เจ้าหนูน้อยนี่สักอึกเถอะจ้ะ .”
    “ห-ยู-ด” ลุงกลั๊กร้องบอกม้าของเขาพลางรั้งบังเหียนเอาไว้  “แล้วเธอมีอะไรจ่ายฉันล่ะ”  ลุงกลั๊กถาม
    “ลูกไม้ม้วนหนึ่งจ้ะลุกกลั๊ก”  ผู้หญิงคนนั้นรีบบอก  “ลูกไม้ลายใยแมงมุมอย่างดีเลยจ้ะ  ลุงก็รู้นี่จ๊ะว่าฉันถักลูกไม้ได้ดีขนาดไหน”
    เด็กน้อยรับทั้งน้ำทั้งเหยือกมา  กรอกลงในคออึกเดียว  แม่ของเด็กรีบเอามือมารองน้ำใต้คางที่หยดลงมา
    จากนั้นเจ้าม้าก็ลากเกวียนต่อ  มันผ่านบ่อน้ำแห่งหนึ่งซึ่งมีก้อนหินถมเต็มอยู่  ที่ข้างบ่อน้ำมียาม 2  คน  กำลังนั่งพิงกับขอบบ่อ  คนหนึ่งคือเจ้าขาเก้งก้างตัวแสบ  อีกคนหนึ่งคือเจ้าตัวแสบวายร้าย  ทั้งคู่กำลังฆ่าเวลาด้วยการแข่งขันว่าใครจะถ่มน้ำลายได้ไกลกว่ากัน
    “เราจะเรียกมันว่าบ่อน้ำได้อย่างไรเล่า  ถ้าเราอยากดื่มน้ำสักอึกจากมันไม่ได้เลย”  ม้าคิด  “มันก็เป็นแค่คำที่ไร้ความหมายคำหนึ่งเท่านั้นเอง
    “ไง”  ลุงกลั๊กร้องถามยามทั้ง 2  “มีใครลองมั่งมั้ย”
    “ลองอะไร”  เจ้าขาเก้งก้างถามตัวแสบถามเสียงที่ขี้เกียจ  พร้อมลืมตาขึ้นข้างหนึ่ง
    “ก็มีใครพยายามลองย้ายก้อนหินเพื่อเอาน้ำบ้างไหมล่ะ”
    “กลางวันมันก็เงียบดีนี่ ”  เจ้าวายร้ายตัวแสบตอบพลางอ้าปากหาวหวอด  “ส่วนกลางคืนเราก็เอาปืนใหญ่มาประจำทุกบ่อใครอยากลองก็เข้ามาซี้”
    “น้ำ น้ำบริสุทธิ์..น้ำพุ ”  ลุงกลั๊กร้องตะโกนขายขึ้นอีก  แต่ไม่มีใครออกมาจากบ้านเลย  ต่างพากันปิดประตูหน้าต่างกันหมด
    “ไม่มีหญ้าสักต้นหรือใบไม้สักใบเลย  มีแต่พื้นดินที่แห้งผากเมืองนี้มันตายไปแล้ว  เราคงจะได้เห็นแต่ในความฝัน  ไม่ก็ในสวนหลังรั้วของพระราชวังเท่านั้นหรอก  โอย..ไอ้เสียงน้ำกระฉอกในถังนี่ก็ทำเอาเราบ้าไปได้ทีเดียว ”  นี่คือสิ่งที่เจ้ามาแก่ของลุงกลั๊กคิดอยู่
   
    มันกำลังลากเกวียนไปตามทาง  บนเกวียนนั้นมีถังไม้โอ๊คที่เขียนว่า  “น้ำเป็นของพระราชา”  และใต้คำพูดก็มีคราประจำพระองค์ของพระราชาที่เป็นรูปถังน้ำทองคำกับมงกุฏติดอยู่
    ส่วนลุงกั๊ก  คนขายน้ำ  ก็เดินอยู่ข้างๆ  เกวียนของเขา
    “น้ำ..น้ำเย็นๆ น้ำพุเย็นฉ่ำ”  ลุงกั๊กร้องตะโกนอย่างกระปรี้กระเปร่าอยู่ไม่หยุดหย่อน
    เกวียนแล่นกุกๆ  กักๆ  ขึ้นไปตามสะพาน  ทว่า ใต้สะพานนั้นไม่มีน้ำอยู่เลย  มีเพียงก้อนหินที่แห้งผากฝุ่นจับเขลอะอยู่เท่านั้น
    “เราจะเรียกมันว่าสะพานได้ยังไงกันเล่า  ถ้าไม่มีน้ำอยู่ข้างใต้ตัวมันเลยอย่างนี้..”  เจ้าม้าแก่คิด  “เฮ้อ  มันก็เป็นแค่คำพูดที่ไร้ความหมายคำหนึ่งเท่านั้นเอง  แต่ทำไมน้า  เจ้านกฮูก .ปราชญ์แห่งราตรีกาล  ที่ชอบบินมาเกาะบนหลังคาคอกม้าฉันตอนกลางคืน  ถึงได้เฝ้าบอกฉันอยู่เรื่อยว่า  เคยมีแม่น้ำที่ให้น้ำมากมายเท่าที่เราจะต้องการอยู่ที่นี่  เอ .หรือว่ามันจะแก่จนเลอะเทอะไปซะแล้ว  โธ่ เจ้าปราชญ์แห่งราตรีกาลที่น่าสงสารเอ๊ย ”
    เกวียนวิ่งเข้าไปในตรอกแคบๆแห่งหนึ่ง  สองข้างทางของตรอกนี้เรียงรายไปด้วยบ้านที่เป็นสีเทาเพราะฝุ่นจับ
    “เราจะเรียกมันว่าบึงได้อย่างไรกันเล่า  ถ้าไม่มีหญ้าขึ้นเลยซักต้น  มันควรละอายแก่ใจบ้างนะนี่  ที่เรียกตัวเองว่าบึงอย่างนี้พวกต้นไม้ที่ไม่มีใบก็เหมือนกัน  นับเป็นต้นไม้ไม่ได้หรอก ”
    “ขอแค่คำเดียวเท่านั้นแหละจะแม่ .นะจ๊ะ .”  เสียงเด็กชายผอมแห้งคนหนึ่งคร่ำครวญขึ้น
    “ลุงกลั๊ก”  ผู้หญิงน่าตาซีดเซียวคนหนึ่งร้องเรียกคนขายน้ำ “รินน้ำให้เจ้าหนูน้อยนี่สักอึกเถอะจ้ะ .”
    “ห-ยู-ด” ลุงกลั๊กร้องบอกม้าของเขาพลางรั้งบังเหียนเอาไว้  “แล้วเธอมีอะไรจ่ายฉันล่ะ”  ลุงกลั๊กถาม
    “ลูกไม้ม้วนหนึ่งจ้ะลุกกลั๊ก”  ผู้หญิงคนนั้นรีบบอก  “ลูกไม้ลายใยแมงมุมอย่างดีเลยจ้ะ  ลุงก็รู้นี่จ๊ะว่าฉันถักลูกไม้ได้ดีขนาดไหน”
    เด็กน้อยรับทั้งน้ำทั้งเหยือกมา  กรอกลงในคออึกเดียว  แม่ของเด็กรีบเอามือมารองน้ำใต้คางที่หยดลงมา
    จากนั้นเจ้าม้าก็ลากเกวียนต่อ  มันผ่านบ่อน้ำแห่งหนึ่งซึ่งมีก้อนหินถมเต็มอยู่  ที่ข้างบ่อน้ำมียาม 2  คน  กำลังนั่งพิงกับขอบบ่อ  คนหนึ่งคือเจ้าขาเก้งก้างตัวแสบ  อีกคนหนึ่งคือเจ้าตัวแสบวายร้าย  ทั้งคู่กำลังฆ่าเวลาด้วยการแข่งขันว่าใครจะถ่มน้ำลายได้ไกลกว่ากัน
    “เราจะเรียกมันว่าบ่อน้ำได้อย่างไรเล่า  ถ้าเราอยากดื่มน้ำสักอึกจากมันไม่ได้เลย”  ม้าคิด  “มันก็เป็นแค่คำที่ไร้ความหมายคำหนึ่งเท่านั้นเอง
    “ไง”  ลุงกลั๊กร้องถามยามทั้ง 2  “มีใครลองมั่งมั้ย”
    “ลองอะไร”  เจ้าขาเก้งก้างถามตัวแสบถามเสียงที่ขี้เกียจ  พร้อมลืมตาขึ้นข้างหนึ่ง
    “ก็มีใครพยายามลองย้ายก้อนหินเพื่อเอาน้ำบ้างไหมล่ะ”
    “กลางวันมันก็เงียบดีนี่ ”  เจ้าวายร้ายตัวแสบตอบพลางอ้าปากหาวหวอด  “ส่วนกลางคืนเราก็เอาปืนใหญ่มาประจำทุกบ่อใครอยากลองก็เข้ามาซี้”
    “น้ำ น้ำบริสุทธิ์..น้ำพุ ”  ลุงกลั๊กร้องตะโกนขายขึ้นอีก  แต่ไม่มีใครออกมาจากบ้านเลย  ต่างพากันปิดประตูหน้าต่างกันหมด
    “ไม่มีหญ้าสักต้นหรือใบไม้สักใบเลย  มีแต่พื้นดินที่แห้งผากเมืองนี้มันตายไปแล้ว  เราคงจะได้เห็นแต่ในความฝัน  ไม่ก็ในสวนหลังรั้วของพระราชวังเท่านั้นหรอก  โอย..ไอ้เสียงน้ำกระฉอกในถังนี่ก็ทำเอาเราบ้าไปได้ทีเดียว ”  นี่คือสิ่งที่เจ้ามาแก่ของลุงกลั๊กคิดอยู่
   
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น