ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : คิดถึง.......เธอ
ตอนที่ 1
    เช้าวันนี้ท้องฟ้าอึมครึมไม่สดใส  เพราะเฆมได้ลอยไปบดบังแสงแดดจากดวงอาทิตย์  ทำให้บรรยากาศดูหม่นหมอง  แต่ก็คงไม่เท่ากับความหม่นหมองในใจของเขา  วันนี้ซีเหมินเข้าบริษัทเช้ากว่าปกติ  เขามองท้องฟ้านั้นผ่านกระจกบานใหญ่ในห้องทำงานของเขาแล้วก็พลันนึกถึงเหตุการณ์หนึ่งเข้า  เป็นเหตุการณ์ที่เขา
จำไม่เคยลืม  วันที่เขาได้รับรู้ว่าเสี่ยวเกินต้องการจะบอกอะไรกับเขาในยามรุ่งอรุณเช้าวันที่ท้องฟ้าสดใส  และ
สิ่งที่จะลืมไม่ได้ก็คือ  เธอ ..คนที่ทำให้เขารู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร  “เสี่ยวโยว”  ป่านนี้เธอจะเป็นอย่างไรบ้าง 
ทำอะไรอยู่  คิดถึงเขาบ้างไหม  แต่แล้วความคิดของเขาก็หยุดลงเมื่อได้ยินเสียงเลขาฯของเขาเรียก
เลขาฯ    :    ผู้จัดการครับ  ได้เวลาทำงานแล้วครับ
ซีเหมิน    :    จะไปเดี๋ยวนี้  (พลางนึกในใจว่า  ฉันคือซีเหมินนะ  ทำไมคิดอะไรฟุ้งซ่านแบบนี้)
    ซีเหมินสลัดความคิดนั้นทิ้งไปและเริ่มทำงาน  เขาทำงานด้วยความตั้งใจขยันขันแข็ง  เมื่อรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น  เขาเหลือบมองนาฬิกาเป็นเวลาเที่ยงแล้ว  ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะทำงานจนเพลินขนาดนี้  แล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับ  เขาแปลกใจมากเพราะคนที่โทรเข้ามาก็คือ  พ่อของเขานั่นเอง
ซีเหมิน    :    ฮัลโหล!  พ่อมีอะไรครับ
พ่อ    :    พอดีเที่ยงนี้พ่อว่างก็เลยอยากจะชวนแกไปทานข้าวด้วยกันน่ะ
ซีเหมิน    :    ก็ได้ครับ  (รอยยิ้มของเขาผุดขึ้นและแอบดีใจอยู่ลึกๆ  เพราะเขากับพ่อแทบจะไม่ได้ทานข้าว
        ด้วยกันมานานมากแล้ว)
    ขณะกำลังทานอาหาร ณ ร้านอาหารสุดหรูแห่งหนึ่ง
พ่อ    :    งานเป็นอย่างไรบ้าง  (พ่อถามทั้งที่รู้ว่า  ซีเหมินทำงานได้ดีและเก่ง  เป็นความภาคภูมิใจของพ่อ
        มาก)
ซีเหมิน    :    ก็ดีครับ  ตอนนี้งานหนักนิดหน่อยแต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร
พ่อ    :    หมู่นี้แกทำงานหนักมากนะ  มาทำงานเช้ากลับบ้านก็ดึก  ระวังสุขภาพบ้าง  พ่อกับแม่เป็นห่วง 
        (หลังจากที่ซีเหมินเข้าโรงพยาบาลผ่าตัดกระเพาะนั้น  ทำให้เขา พ่อ แม่ เข้าใจกันมากขึ้น)
ซีเหมิน    :    ไม่เป็นไรหรอกครับ  ผมดูแลตัวเองได้
พ่อ    :    แกก็เป็นซะอย่างนี้น่ะสิ  แล้วเมื่อไรจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนซะทีล่ะ  พ่อกับแม่น่ะอยากเห็นลูกมี
      ความสุข  อยากเห็นหน้าหลานอยากอุ้มหลานเร็วๆ
ซีเหมิน    :    (คำถามนี้ทำให้ซีเหมินสะอึก)  ก็ ..ผมยังไม่อยากแต่งงานนี่ครับ  แล้วก็ยังไม่เจอใครที่ใช่เลย
พ่อ    :    แล้วเด็กผู้หญิงที่แกพามาบ้านเมื่อตอนนั้นล่ะ  (พ่อหมายถึง  เสี่ยวโยว  ที่ซีเหมินพามาปลอบใจ
        ตอนที่เลิกกับจงเจ๋อนั่นเอง)
ซีเหมิน    :    พ่อรู้ได้ยังไง  (เขารู้ในทันทีว่าเป็นใคร  เพราะนอกจากเสี่ยวเกินแล้วเขาไม่เคยพาผู้หญิงคนไหน
        มาที่บ้านเลยมีก็แต่ คนเดียว)
พ่อ    :    ฮึ!  นั่นน่ะบ้านพ่อนะ  ทำไมจะไม่รู้
ซีเหมิน    :    คือ ..(เขาหน้าแดงแถมหลบตาพ่อ)  ก็เป็นเพื่อนน่ะครับ  ไม่มีอะไร
พ่อ    :    แน่ใจนะ????  พ่อว่าไม่หรอก  แกหลบตาพ่อแบบนี้  ชอบเขาล่ะสิ
ซีเหมิน    :    ไม่ ..เอ่อ .(เขาปฏิเสธได้ไม่เต็มปากนัก  เพราะเขาก็ไม่แน่ใจว่า  เขารักเธอรึเปล่า  แต่ที่แน่ๆ
          เขาชอบเธอ  แต่ไม่มั่นใจว่านี่เป็นความรักหรือเปล่า)
    (พ่อยิ้มกับท่าทางของลูกชาย  พ่อรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ต้องมีอะไรพิเศษแน่ถึงทำให้ลูกชายคนนี้มีอาการ
แบบนี้)
พ่อ    :    เอาเถอะ  ไม่ก็ไม่  แต่อนาคตก็ไม่แน่ใช่ไหม?
ซีเหมิน    :    รีบทานเถอะครับ  เดี๋ยวกลับไปทำงานสาย  (เขารีบตัดบท)
    เมื่อกลับถึงที่ทำงานแล้ว  ซีเหมินก็เข้าห้องทำงานกำลังจะลงมือทำงาน  แต่ก็ต้องหยุดวางปากกาทิ้งและนึกถึงสิ่งที่พูดกับพ่อไปเมื่อกี้ว่า “ทำไมเราถึงแสดงอาการอย่างนั้นออกไปได้นะ  ไม่สมกับเป็นเราเลย  ฉันคือ
ซีเหมินนะ”  รวมถึงบุคคลที่สามที่ถูกพูดถึงด้วย
    เช้าวันนี้ท้องฟ้าอึมครึมไม่สดใส  เพราะเฆมได้ลอยไปบดบังแสงแดดจากดวงอาทิตย์  ทำให้บรรยากาศดูหม่นหมอง  แต่ก็คงไม่เท่ากับความหม่นหมองในใจของเขา  วันนี้ซีเหมินเข้าบริษัทเช้ากว่าปกติ  เขามองท้องฟ้านั้นผ่านกระจกบานใหญ่ในห้องทำงานของเขาแล้วก็พลันนึกถึงเหตุการณ์หนึ่งเข้า  เป็นเหตุการณ์ที่เขา
จำไม่เคยลืม  วันที่เขาได้รับรู้ว่าเสี่ยวเกินต้องการจะบอกอะไรกับเขาในยามรุ่งอรุณเช้าวันที่ท้องฟ้าสดใส  และ
สิ่งที่จะลืมไม่ได้ก็คือ  เธอ ..คนที่ทำให้เขารู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร  “เสี่ยวโยว”  ป่านนี้เธอจะเป็นอย่างไรบ้าง 
ทำอะไรอยู่  คิดถึงเขาบ้างไหม  แต่แล้วความคิดของเขาก็หยุดลงเมื่อได้ยินเสียงเลขาฯของเขาเรียก
เลขาฯ    :    ผู้จัดการครับ  ได้เวลาทำงานแล้วครับ
ซีเหมิน    :    จะไปเดี๋ยวนี้  (พลางนึกในใจว่า  ฉันคือซีเหมินนะ  ทำไมคิดอะไรฟุ้งซ่านแบบนี้)
    ซีเหมินสลัดความคิดนั้นทิ้งไปและเริ่มทำงาน  เขาทำงานด้วยความตั้งใจขยันขันแข็ง  เมื่อรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น  เขาเหลือบมองนาฬิกาเป็นเวลาเที่ยงแล้ว  ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะทำงานจนเพลินขนาดนี้  แล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับ  เขาแปลกใจมากเพราะคนที่โทรเข้ามาก็คือ  พ่อของเขานั่นเอง
ซีเหมิน    :    ฮัลโหล!  พ่อมีอะไรครับ
พ่อ    :    พอดีเที่ยงนี้พ่อว่างก็เลยอยากจะชวนแกไปทานข้าวด้วยกันน่ะ
ซีเหมิน    :    ก็ได้ครับ  (รอยยิ้มของเขาผุดขึ้นและแอบดีใจอยู่ลึกๆ  เพราะเขากับพ่อแทบจะไม่ได้ทานข้าว
        ด้วยกันมานานมากแล้ว)
    ขณะกำลังทานอาหาร ณ ร้านอาหารสุดหรูแห่งหนึ่ง
พ่อ    :    งานเป็นอย่างไรบ้าง  (พ่อถามทั้งที่รู้ว่า  ซีเหมินทำงานได้ดีและเก่ง  เป็นความภาคภูมิใจของพ่อ
        มาก)
ซีเหมิน    :    ก็ดีครับ  ตอนนี้งานหนักนิดหน่อยแต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร
พ่อ    :    หมู่นี้แกทำงานหนักมากนะ  มาทำงานเช้ากลับบ้านก็ดึก  ระวังสุขภาพบ้าง  พ่อกับแม่เป็นห่วง 
        (หลังจากที่ซีเหมินเข้าโรงพยาบาลผ่าตัดกระเพาะนั้น  ทำให้เขา พ่อ แม่ เข้าใจกันมากขึ้น)
ซีเหมิน    :    ไม่เป็นไรหรอกครับ  ผมดูแลตัวเองได้
พ่อ    :    แกก็เป็นซะอย่างนี้น่ะสิ  แล้วเมื่อไรจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนซะทีล่ะ  พ่อกับแม่น่ะอยากเห็นลูกมี
      ความสุข  อยากเห็นหน้าหลานอยากอุ้มหลานเร็วๆ
ซีเหมิน    :    (คำถามนี้ทำให้ซีเหมินสะอึก)  ก็ ..ผมยังไม่อยากแต่งงานนี่ครับ  แล้วก็ยังไม่เจอใครที่ใช่เลย
พ่อ    :    แล้วเด็กผู้หญิงที่แกพามาบ้านเมื่อตอนนั้นล่ะ  (พ่อหมายถึง  เสี่ยวโยว  ที่ซีเหมินพามาปลอบใจ
        ตอนที่เลิกกับจงเจ๋อนั่นเอง)
ซีเหมิน    :    พ่อรู้ได้ยังไง  (เขารู้ในทันทีว่าเป็นใคร  เพราะนอกจากเสี่ยวเกินแล้วเขาไม่เคยพาผู้หญิงคนไหน
        มาที่บ้านเลยมีก็แต่ คนเดียว)
พ่อ    :    ฮึ!  นั่นน่ะบ้านพ่อนะ  ทำไมจะไม่รู้
ซีเหมิน    :    คือ ..(เขาหน้าแดงแถมหลบตาพ่อ)  ก็เป็นเพื่อนน่ะครับ  ไม่มีอะไร
พ่อ    :    แน่ใจนะ????  พ่อว่าไม่หรอก  แกหลบตาพ่อแบบนี้  ชอบเขาล่ะสิ
ซีเหมิน    :    ไม่ ..เอ่อ .(เขาปฏิเสธได้ไม่เต็มปากนัก  เพราะเขาก็ไม่แน่ใจว่า  เขารักเธอรึเปล่า  แต่ที่แน่ๆ
          เขาชอบเธอ  แต่ไม่มั่นใจว่านี่เป็นความรักหรือเปล่า)
    (พ่อยิ้มกับท่าทางของลูกชาย  พ่อรู้ว่าผู้หญิงคนนี้ต้องมีอะไรพิเศษแน่ถึงทำให้ลูกชายคนนี้มีอาการ
แบบนี้)
พ่อ    :    เอาเถอะ  ไม่ก็ไม่  แต่อนาคตก็ไม่แน่ใช่ไหม?
ซีเหมิน    :    รีบทานเถอะครับ  เดี๋ยวกลับไปทำงานสาย  (เขารีบตัดบท)
    เมื่อกลับถึงที่ทำงานแล้ว  ซีเหมินก็เข้าห้องทำงานกำลังจะลงมือทำงาน  แต่ก็ต้องหยุดวางปากกาทิ้งและนึกถึงสิ่งที่พูดกับพ่อไปเมื่อกี้ว่า “ทำไมเราถึงแสดงอาการอย่างนั้นออกไปได้นะ  ไม่สมกับเป็นเราเลย  ฉันคือ
ซีเหมินนะ”  รวมถึงบุคคลที่สามที่ถูกพูดถึงด้วย
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น