ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมื่อจันทร์เต็มดวง

    ลำดับตอนที่ #1 : เจ้านายที่รัก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 22
      0
      31 ก.ค. 46

    ในยามบ่ายอันสดใสของฤดูใบไม้ผลิ   แสงแดดอ่อนๆยามบ่ายช่วยเพิ่มทวีความงามให้กับทุ่งดอกไม้หลากสีสัน   ถึงกระนั้นแสงสีทองจากดวงตะวัน   ก็ยังเทียบไม่ได้กับความสดใส   และเสียงหัวเราะของเด็กสาว 2 คน   ที่เปี่ยมไปด้วยความซุกซน   และความรักสนุกของเด็กทั้งสองที่วิ่งเล่นอยู่ในทุ่งกว้างแห่งนี้   เสียงฝีเท้าที่ดังกระทบกับผืนหญ้า   ผู้เป็นเจ้าของเสียงฝีเท้าออกแรงวิ่งเพื่อมิให้เพื่อนอีกคนหนึ่งไล่จับเขาทัน   ทว่ามือเล็กๆของอีกฝ่ายก็สามารถแตะชายเสื้อนักเรียนแล้วออกแรงดึงเพื่อมิให้วิ่งออกไปได้อีก   แต่ผลที่ได้กลับทำให้ทั้งคู่ล้มลงบนผืนหญ้าอันอ่อนนุ่ม



    “ว้า อะไรกันจับได้อีกแล้วเหรอ”   เด็กสาวคนหนึ่งพูด



    สายลมอ่อนโชยมาทำให้ผมสีส้มที่ผูกไว้เป็นแกละสองข้างที่ยาวเลยบ่าของเธอนอหน่อยพลิ้วไปตามสายลม   ผิวของเธอนั้นขาวราวหิมะ   ตาสีแดงฉานราวเปลวเพลิง   ถึงแม้ดวงตาของเธอนั้นเป็นสีแดงฉาน   แต่ดวงตาของเธอนั้นบ่งบอกถึงความอ่อนหวาน   ไร้เดียงสาและแสนบริสุทธิ์   เสียงเล็กใสน่าฟังราวกับเสียงของนกที่ร้องเพลง   อายุของเธอนั้นราวๆ 14 ปีเครื่องประดับที่เธอสวมใส่อยู่นั้นมีเพียงสร้อยคอสีเงินที่สลักไว้ว่า  MIGA ซึ่งบ่งบอกวาป็นชื่อของเธอ



    “ก็เธอวิ่งช้าเองนี่นา” เด็กอีกคนพูดต่อ

    “อะไรกันอากาเนะ มิกะไม่ได้วิ่งช้าสักหน่อย” มิกะพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างงอน



    อากาเนะเป็นผู้หญิงที่มัดหางม้าสูง   ปลายผมของเธอนั้นก็ยาวประบ่าพอๆกับมิกะเพื่อนสนิทของเธอ   ผมของอากาเนะนั้นเป็นสีขาวเงิน   ดวงตาสีเขียวมรกตของเธอที่บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งที่ไม่มีที่สิ้นสุด   เสียงของเธอนั้นแหบและใหญ่กว่ามิกะเล็กน้อย   เธอมีอายุ 14 ปีเท่ากับมิกะ   เธอมีนามว่าอากาเนะ



    “เอาน่าๆ ชั้นพูดผิดไปขอโทษที” อากาเนะพูดขอโทษเพื่อนของเธอแบบขอไปที



    ท่ามกลางความเงียบสงัดที่เกิดขึ้นระหว่างเด็กสาวทั้งสองคน   จู่ๆก็มีเสียงที่ทำความความเงียบสงัดนั้นไปในทันที   เสียงนั้นฟังดูคล้ายเสียงของนาฬิกาข้อมือที่ดังขึ้น



    “ได้เวลากลับบ้านแล้วเหรอ?” อากาเนะถามเพื่อนสนิทของเธอ

    “อื้อ จวนจะได้เวลาที่มิกะจะต้องกลับบ้านแล้วล่ะ” มิกะตอบด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริง

    “แล้วเธอกับเจ้านายสนิทกันไปถึงไหนแล้วล่ะ” อากาเนะถามต่อด้วยความอยากรู้

    “เค้า...ยังไม่เคยยิ้มให้ชั้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว” เธอตอบพร้อมกับดวงตาสีแดงฉานที่ฉายแววเศร้าลง



    ยังไม่ทันสิ้นคำพูดของมิกะ   รถยนต์หรูสีดำคันหนึ่งก็มาจอดอยู่ตรงหน้า   ทันใดนั้นประตูรถก็เปิดออก   พร้อมกับผู้ชายคนหนึ่งที่ก้าวลงมาจากรถ   ถ้าดูจากลักษณะเสื้อผ้าของเขานั้นก็คงเดาได้ไม่ยากว่าเขานั้นเป็นคนรถ   พร้อมกับประตูรถอีกบานที่เปิดออกแต่คราวนี้ผู้ที่ก้าวลงมาจากรถเป็นผู้หญิงในชุดเมท   ผู้หญิงคนนั้นกล่าวหลังจากที่เปิดประตูให้มิกะอย่างเรียบร้อยว่าว่า



    “คุณมิกะคะ ได้เวลากลับบ้านแล้วค่ะ”

    “พรุ่งนี้มาเล่นกันใหม่นะอากาเนะ” มิกะหันไปบอกลากับเพื่อนของเธอก่อนที่จะก้าวขึ้นรถไป

    “อือ พรุ่งนี้เจอกันใหม่นะ” อากาเนะพูดบอกลามิกะ



    ภาพที่อากาเนะเห็นเป็นภาพสุดท้ายในวันนี้คือภาพรถยนต์สีดำที่เพื่อนสนิทของเธอนั่งอยู่จากไป

    บรรยากาศภายในรถที่เงียบสงัดทำให้มิกะรู้สึกแปลกๆ   ที่เป็นเหตุนั้นเพราะเธอเป็นเด็กผู้หญิงที่ไม่ชอบความเงียบเอาเสียเลย



    “วันนี้คุณทาคุมิ   เหนื่อยไหมคะ” มิกะพูดถามเจ้านายของเธอเพื่อทำลายความเงียบ

    “…ก็งั้นๆ” เสียงของเด็กหนุ่มที่ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา



    ทาคุมินั้นเป็นเด็กหนุ่มชาวจีนที่มีอายุมากกว่ามิกะ   เส้นผมสีม่วงอมน้ำเงินที่แสนยาวนั้นถูกรวบเป็นมวยไว้ด้านหลังศีรษะอย่างเรียบร้อย   เขาใส่ต่างหูสีแดงที่ข้างขวาเพียงข้างเดียว   ดวงตาสีทองของเขาที่ดูเย็นชา   และแสนอ้างว้าง   ทำให้ใบหน้าของเด็กหนุ่มที่ไม่เคยยิ้มยิ่งดูอ้างว้างเดียวดายมากขึ้นไปอีก



    “วันนี้มิกะสนุกมาเลยค่ะ” เธอพูดต่ออย่างร่าเริง

    “…” ไม่มีเสียงจากเด็กหนุ่มชาวจีนตอบกลับมา

    “คุณทาคุมิ   จำวันที่เราพบกันครั้งแรกได้ไหมคะ” เธอพูดต่อ

    “ได้” เด็กหนุ่มพูดตอบอย่างห้วนๆ

    “วันนั้นที่เรา 2 คนเจอกันในวันที่มิกะอยู่ในร่างนี้” เธอเล่าเรื่องต่อ

    “เมื่อ 2 ปีที่แล้วเธอไม่ได้อยู่ในร่างนี้ตั้งแต่ต้นแล้วนี่   เธออย่าลืมนะว่าเธอไม่ใช่มนุษย์ทั้งหมด” ทาคุมิพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบโดยไม่ได้มองคู่สนทนาเลย

    “ใช่ค่ะ   ใครจะเชื่อล่ะว่ามิกะไม่ใช่มนุษย์” เธอพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่สนุกสนาน

    “แค่เมื่อก่อนชั้นเลี้ยงเธอไว้   ในฐานะสัตว์เลี้ยงของฉัน   เป็นแค่กระต่ายตัวหนึ่งเท่านั้นพอเธอตายเธอก็...”

    “กลับมาเกิดในร่างของมนุษย์” มิกะพูดต่อ

    “ร่างเดิมของมิกะคือกระต่าย   มิกะจะกลายเป็นกระต่ายอีกครั้งในคืนจันทร์เต็มดวง”

    “ชั้นไม่เข้าใจ...ทำไมเธอต้องมายุ่งกับชีวิตของฉันด้วย”

    ในที่สุดเด็กหนุ่มชาวจีนก็หันมามองคู่สนทนาด้วยสายตาที่แสนเย็นชา

    “มิกะต้องทำให้คุณทาคุมิมีความสุขค่ะ   เพราะคติของมิกะคือ   ความสุขของเจ้านายคือความสุขของมิกะ   มิกะต้องทดแทนคุณที่คุณทาคุมิเคยเลี้ยงมิกะอย่างดี   จนกว่าร่างนี้ของมิกะจะตายไปไงคะ”  



    ในตอนนี้มิกะได้ยิ้มให้ทาคุมิอย่างใสซื่อบริสุทธ์   แต่ทาคุมิกลับไม่สนมิกะเลยแม้แต่น้อยเขามองออกไปที่หน้าต่างนอกรถแลมองดูท้องฟ้าที่สดใสไนยามบ่ายก่อนที่จะหลับตาลงเนื่องจากความเหน็ดเหนื่อยที่เขาเจอมาตลอดวัน  





    ไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าไรทาคุมิได้ตื่นขึ้นเพราะมีเสียงใสๆของใครบางคนปลุกให้เขาตื่นขึ้น



    “ถึงบ้านแล้วค่ะคุณทาคุมิ   เหนื่อยมากเลยเหรอคะวันนี้” เธอถามด้วยน้ำเสียงที่แสดงความเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด

    “ไม่ใช่เรื่องของเธอ” ทาคุมิหันมาพูดกับมิกะด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและราบเรียบเหมือนเดิม   จนทำให้อีกฝ่ายรีบกล่าวคำขอโทษด้วยความรู้สึกผิด



    “ขะ..ขอโทษค่ะที่มิกะล่วงเกินเรื่องส่วนตัวของคุณทาคุมิ”



    เธอพูดขอโทษกับทาคุมิด้วยความรู้สึกผิดอย่างมหาศาล   สีหน้าของเธอนั้นคล้ายกับใบหน้าที่กำลังจะร้องไห้น้ำตาใสๆของเธอนั้นคลออยู่ในเบ้าตา   แต่น้ำตานั้นกลับหยุดไหลทันที   เมื่อรู้สึกถึงฝ่ามือที่แข็งแรงของอีกฝ่ายที่เธอกำลังขอโทษวางลงบนศีรษะของเธอเหมือนเป็นการปลอบ   เธอรู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน   เธอไม่กล้ามองหน้าทาคุมิในตอนนี้เพราะเธอไม่มั่นใจว่าทาคุมิจะมองเธอด้วยสายตาแบบไหนกัน   ในที่สุดทาคุมิและมิกะก็เดินเข้าไปในบ้าน   ทุกครั้งที่เขา 2 คนเดินด้วยกันมิกะจะเดินตามหลังทาคุมิ 2 ก้าวทุกครั้งและครั้งนี้ก็เช่นกัน   ก่อนที่ทั้งสองคนจะเดินเข้าไปในบ้านทาคุมิได้หันมามองมิกะแว่บหนึ่งด้วยสายตาที่อบอุ่นก่อนที่จะหันกลับไป   มิกะได้รู้สึกถึงความรู้สึกแปลกๆต่อสายตาที่ทาคุมิมองเธอ   ตลอดช่วงเวลาที่เหลือของวันนั้นมิกะใช้เวลาทั้งวันอยู่ในห้องของตน   จนได้เวลานอนเมทจึงกล่าวราตรีสวัสดิ์กับมิกะเหมือนเป็นการเตือนว่าได้เวลาที่เธอจะต้องเข้านอนแล้ว   มิกะล้มตัวลงนอนบนเตียงที่นุ่มสบายแต่ก่อนที่เธอจะหลับตาลงเธอรำพึงรำพันกับตนเองว่า



    “มิกะอยากจะบอกสิ่งที่อัดอั้นตันใจอยู่ในอกว่ามิกะรักคุณมากที่สุดแต่ทุกครั้งที่มิกะสบตาคุณความกล้าที่จะพูดสิ่งนั้นจะหายไปทุกที   เป็นเพราะอะไรกันนะ”









    นิยายเรื่องแรกค่ะช่วยลงความเห็นด้วยนะคะจะได้นำมาปรับปรุงให้ดีขึ้นค่ะและถ้าชอบก็โหวตคะแนนกันมานะคะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×