ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฺBALLADE TIME THE CHAPTER

    ลำดับตอนที่ #1 : ผู้ชายขายฝัน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 66
      0
      18 มี.ค. 47





    เขาทอดสายตาผ่านกระจกใสบานใหญ่ สู่แม่น้ำที่ยังระยับระยิบพริบพรายด้วยทั้งจากแสงเดือนแสงดาวและแสงอื่น  ที่มนุษย์ผู้ประะเสริฐประดิษฐ์ขึ้น เพื่อเพิ่มความสว่างไสวในยามราตรี  เพื่อให้เกิดกิจกรรมอื่นๆ ที่ผิดแผกจากวิถีปกติประจำวันอันซ้ำซากจำเจ



                            ชายหนุ่มเพิ่งออกมาจากห้องชุดสุดหรู  หลังจากเข้าไปใช้เวลาไม่ถึงสองสามชั่วโมงในนั้น ระบายสีสรรอันบรรเจิดให้แก่ผู้ \"ขาด\" ฝันอันงดงามมาเติมเต็มให้ชีวิต  มีหลายคนบอกว่า เขาคือผู้ให้ความชุ่มชื่น รดน้ำพรวนดินในสวนสวรรค์ ช่วยทำให้พืชพันธุ์แห่งชีวิตไม่แห้งแล้งและพร้อมจะผลิดอกออกผล เป็นงานหรือการใดๆ ที่จะถูกรังสรรค์ขึ้นจากหัวใจอันชื่นบาน



                           ลิฟท์ใช้เวลานาน กว่าจะยกตัวเองขึ้นมาจนถึงชั้นที่เขายืนปล่อยอารมณ์ \"ชนะ\" จึงละสายตาจากภาพเบื้องนอก ค่อยเคลื่อนตัวผ่านเข้าไปอย่างคร้านที่จะใช้แรง  หลังจากการกรีฑาอันหนักหนาสาใจของผู้ลงสนามทั้งสองฝ่าย



                            \"แล้วโทรหาพี่นะคะน้อง\" เธอคะยั้นคะยอยัดสารพัดเลขหมายที่เขาจะสามารถติดต่อกลับมายังเธอลงในกระเป๋ากางเกง พร้อมกับธนบัตรค่าสูงสุดหลายใบเกินข้อตกลง



                            \"ถ้าต้องการพบผมก็โทรไปที่ร้านเถอะครับ  จะสะดวกกว่ามาก\"



                            \"แต่พี่อยากให้เธอได้รับค่าตอบแทนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เธอนะที่เป็นคนเหนื่อย ไม่ใช่พวกที่คอยรับโทรศัพท์พวกนั้น\"



                            \"นั่นก็จริงครับคุณพี่ แต่ก็อยู่ที่ว่าคุณพี่พอใจที่จะชดเชยส่วนที่ขาดไปนั้นให้ผมไหม ผมอยากจะรู้จักกับพี่ไปอีกนานๆ ครับ ทำสิ่งที่ช่วยให้เราสบายใจดีกว่า\"



                            ถ้อยคำสุดท้ายก่อนใช้ผิวสัมผัสเพื่ออำลา ชนะยังทำได้ไม่ดีนัก จริงอยู่แม้เขากำลังมองหาใครสักคนเพื่อใช้เป็นหลักให้แก่ตนเอง แต่ก็ไม่เคยลืมว่าผู้ใดที่ฉุดเขาขึ้นมาจากความลำบากยากแค้น  เขาเต็มใจที่จะมอบบางส่วนแห่งน้ำพักน้ำแรง  เพื่อทดแทนกับความสะดวกสบายที่เขาได้รับ เมื่อเขาเริ่มต้น \"ขายฝัน\" ให้กับผู้คนหลากหลาย



                            มีอีกสองสาวเข้ามาสมทบระหว่างการลงอันเนิ่นนาน  เขาไม่ได้เหลือบแลพวกหล่อนอีกเลย หลังจากที่ก้าวผ่านสายตาไปยืนอยู่อีกมุมหนึ่ง



                             \"โอ้! ยอดชายในอุดมคติ\"  แว่วเสียงจากการกระซิบกระซาบ  \"ได้มาเป็นผัว แม่จะให้นุ่งกุงเกงในอยู่แต่ในห้องนอน\"



                               \"แล้วหล่อนจะเอาเวลาที่ไหนไปหาเลี้ยงล่ะยะ ถ้าเขาใส่กางเกงในอยู่แต่ในห้องนอน ตัวหล่อนก็คงจะนอนแก้ผ้าอล้าอล่างอยู่แต่บนเตียง\"



                                แล้วเสียงหัวเราะคิกคักก็ดังขึ้นอย่างตั้งใจจะให้เขาหันมอง



                                 \"ผู้ชายอาไร้...ใส่กางเกงหนังได้เซ็กซี่ขนาดนี้\"



                                 คราวนี้ชนะแน่ใจว่าทั้งสองสาวพูดถึงตัวเอง เพราะก่อนหน้าที่เสียงจะเริ่มจงใจให้ได้ยินถ้อยคำอย่างเปิดเผย  เขาเพียงคิดว่าทั้งคู่คงกำลังพูดถึงผู้อุปถัมภ์ที่เพิ่งผ่านลงมา  อาจเป็นชายหนุ่มกว่าที่พวกหล่อนคาดคะเน  หรือมีความสามารถในชั้นเชิงลีลาที่ต้องนำมาเล่าสู่กันฟัง หรือกระทั่งกล่าวขวัญและบอกต่อ  เขาที่หล่อนพูดถึงอาจใช้ให้คนหนึ่งริน คนหนึ่งชง หรืออื่นใดก็ได้ที่สร้างความแปลกใหม่พอให้สองสาวผู้เจนราตรีนำมากล่าวซ้ำอย่างรื่นรมย์



                           \" สูง หล่อ ตาคม ผมเข้ม ปากสวย ....ใหญ่\" หนึ่งในสองนางเอ่ยขึ้นกับเขา ขยักไว้เล็กน้อยตรงท้ายประโยค แล้วเอื้อนต่อจนคล้ายอ้อน



                            \"พี่ขา...เพื่อนหนูเขาชอบพี่ ไปหาอะไร ร อ ง ท้ อ ง กันก่อนกลับดีไหมคะ\" น้ำเสียงยั่วยวนชวนเชิญเต็มที่ เน้นคำรัวลิ้นช้าชัดตรง \"รองท้อง\" จนเขาต้องหันมายกมุมปากนิดๆ เป็นการรับไมตรี



                          \"นะคะพี่  เดี๋ยวพวกหนูเลี้ยงเอง  วันนี้โชคสองชั้นได้เจอกระเป๋าหนักๆ แล้วยังได้มาเจอพี่อีก  นะคะ ไปกับพวกหนูก่อน\"  หญิงสาวเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องประหยัดกิริยา ยามเมื่อพบกับสิ่งต้องตาพึงใจ พวกเธอเปิดเผยทั้งวาจาท่าที  เพราะพวกเธอดัด-จริตความเป็นสุภาพสตรีมานานกว่าค่อนคืนแล้ว  อีกคนใช้เล็บที่แต่งไว้อย่างประณีตและเคลือบสีสด กรีดเกลี่ยที่ลำแขนเบาๆ



                            ชายหนุ่มเบี่ยงกายหลบนิดหนึ่ง ขณะที่ประตูลิฟท์เลื่อนปิด  หันมายิ้มให้ทั้งหน้า  ก่อนตอบด้วยเสียงนุ่มนวล



                           \"ขอบคุณครับ ผมเพิ่ง ร อ ง ท้ อ ง มาจากข้างบน\" แล้วก้าวยาวๆ ไปยังรถยนต์รับจ้างโดยไม่หันมามองอีก  เช่นกันกับพวกเธอ เขาไม่จำเป็นต้องประหยัดกิริยาอันใดเพื่อรักษาความสุภาพ  เพราะความเป็นสุภาพบุรุษ\" มีไว้สำหรับ \"งาน\" เป็นหลัก  เหมือนกับที่อีกเพศต้อง \"ดัด\" ความเป็น \"กุลสตรี\" หรือ \"สุภาพสตรี\" ไว้สำหรับงานประเภทเดียวกัน



                          \"ให้รอสาวๆ ที่ตามมานั่นไหมครับ\" คนขับเอ่ยทัก หลังจากเห็นเขารีบเปิดประตูแล้วลงบนที่นั่งข้างๆ พร้อมบอกที่หมายปลายทาง



                            \"ออกรถเลยดีกว่าครับ  ผมไม่อยากเสียแรงอะไรอีก\"  อันที่จริงเขาอารมณ์ดีขึ้นเมื่อสองสาวนั่น ช่วยพิสูจน์เสน่ห์ของเขาว่ายัง \"จรุงกลิ่นรัญจวนใจแม้เมื่อแรกเห็น\"



                             \"อย่างว่าแหละครับน้องชาย  รูปร่างหน้าตาขนาดน้องนี่ ใครได้เป็นสามีคงเข้าตำรา...\"



                              \"อะไรนะครับ\" แต่เขาก็อิดโรยเกินกว่าจะอยากต่อถ้อยสนทนา



                               \"ก็ที่เขาว่าเสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร  อย่างน้องนี่ถ้ารู้จักหาช่องทางดีๆ พี่ว่าอยู่สบายไปทั้งชาติ\"



                               \"ตอนนี้ก็พออยู่ได้ครับ\" การโต้ตอบกินนัยเกินสิ่งที่กล่าวมากมาย  เพราะต่างรู้กันในหมู่เพื่อนร่วมอาชีพยามค่ำคืนว่า \"ช่องทาง\" และการ \"พออยู่\" นั้นได้มาและใช้สิ่งใดแลกเปลี่ยนอย่างไร



                               หลังจากต่างเงียบไปครู่ใหญ่ ชนะก็เอ่ยขึ้น



                               \"ผมขอลดกระจกลงนิดนะครับ อยากสูดกลิ่นอากาศกลางคืน\"



                               \"ตามสบายครับน้องชาย พี่ก็ไม่ชอบแอร์\" แล้วคนขับก็เลยลดกระจกข้างตัวลงด้วย



                               \"อากาศกรุงเทพฯ กลางคืน  คนละเรื่องกับตอนกลางวัน ยิ่งดึกๆ อย่างนี้มีเปิดประทุนสักคันขับกินลมชมเมืองได้สบายๆ\"  คนขับสานต่ออย่างจะหาเพื่อนคุยมากกว่าสาระ  



                               \"พี่เห็นน้องลงจากรถตรงหน้าตึกนั่นตอนห้าทุ่มกว่า ก็เลยวนอยู่แถวนี้ เผื่อยังไงจะได้ไม่ต้องตระเวนหา  ดึกๆ เดี๋ยวนี้หาลูกค้ายาก แท็กซี่เกลื่อนถนนแต่คนกลับบ้านกันหมดตั้งแต่ตีสอง พวกพี่เลยแย่\"



                               ชายหนุ่มไม่ได้สนใจฟังสักเท่าไหร่เพราะปล่อยอารมณ์ให้ถูกพัดพาไปกับแรงลมที่ปะทะใบหน้า  ผมทรงสมัยนิยมปลิวเสยขึ้นไปทำให้โครงหน้าคมงามได้รูป ของชายเจ้าเสน่ห์ยิ่งเด่นกระจ่างยิ่งขึ้น  



                              กระทั่งสาวสาวที่เพิ่งเลิกงานต่างตะโกนแซวตาม  บางพวกถึงกับแทบถลาเข้ามาหารถยามชลอหรือหยุดรอสัญญาณไฟ



                              \"แสดงว่าพี่ดักรอผมอยู่\"



                              \"ก็ไม่เชิง พี่วัดดวงว่ารูปร่างหน้าตา การแต่งตัวอย่างน้องมาคอนโดหรูขนาดนี้ น่าจะต้องมีรถขับมาเอง  แต่เมื่อมาแท็กซี่ก็คงต้องกลับแท็กซี่และใช้เวลาบนนั้นไม่นาน\"

                            

                                โชเฟอร์หนุ่มสาธยายสรรพคุณของคนขับรถรับจ้างที่ต้องหูไว ตาไว รู้จักกะและเก็งสถานการณ์ ทั้งเพื่อนร่วมถนน สัญญาณจราจร ลูกค้าสารพัดแบบ กระทั่งตำรวจตามแยกต่างๆ



                                    \"พี่ดูคนเก่งนะครับ\" ชนะเอ่ยอย่างจริงใจมากกว่าประชด แม้ใจหนึ่งจะคิดว่าตนเองคงจะโดดเด่นสะดุดตาจนทำให้แม้ผู้ชายด้วยกันต้องเหลี่ยวมอง



                        แท็กซี่ ลดความเร็วลงเหมือนไม่อยากรีบถึงจุดหมายปลายทางและเลือกใช้เส้นทางปกติ แทนทางยกระดับที่ลัดและเร็วกว่า



                        \"ดึกๆ รถไม่เยอะ ค่อยๆ ไปก็แล้วกันนะ\"



                         ชายหนุ่มพยักรับ ขณะสายตายังทอดไปเบื้องนอก  อันที่จริงเขาก็ต้องการให้ภาพของ \"เมืองกรุง\" ยามราตรีที่บางสีกระพริบริบหรี่ บางแสงจัดจ้านบาดตา ช่วยลบภาพของความมัวมืดในร้านที่เขาใช้นั่งรอและห้องปฏิบัติภาระกิจที่หวานหรูจนเอียน



                          \"อย่างน้องคงมีช่องทางดีๆ อยู่แล้ว  วันวันนึงคงได้ไม่ใช่น้อย  พี่ไม่ได้ดูถูกนะ อิจฉาด้วยซ้ำ ว่ากรรมอะไรมันพาให้ต้องมาอดตาหลับขับตานอน ทนปวดทนเมื่อยตระเวนหาลูกค้าอยู่ทุกคืนทุกคืน\"  คนขับผู้มีวัยสูงกว่าผู้โดยสารเล็กน้อยพูดไปเรื่อยจะเหมือนพร่ำ



                           \"น้องว่ารูปร่างหน้าตาอย่างพี่นี่ พอจะทำมาหากินอย่างน้องได้บ้างไหม\"



                           \"ผู้โดยสารเพิ่งหันมามองและสบสายตาคนขับแท็กซี่เต็มตาในนาทีนี้เอง  ชายรุ่นพี่ไม่น่าจะล่วงวัยหนุ่มไปนาน และควรอยู่หน้ากล้องให้ช่างภาพกดชัตเตอร์มากกว่ามาอยู่หลังพวงมาลัยรถยนต์



                           \"อืมม...\" ชนะอดครางในลำคอไม่ได้ เขาเคยจำต้องมองอย่างทำเป็นสนใจใส่ใจสตรีหลายวัยที่พยายามปรุงประทิ่นกลิ่นพิศวาสให้มากเข้าไว้  ทั้งเพชรทองประดามีที่โปะลงเพื่อปกปิดส่วนตึงส่วนหย่อนที่ไม่สมดุลบนร่างกาย  แน่นอนคนอย่างพวกเขาเกือบทุกคนมองสิ่งที่พอกอยู่ภายนอกนั้นมากกว่ารูปทรงสันฐานอันสร้างความรำคาญตามากกว่าอื่น



                            \"สบายมากครับพี่\" เขาตอบรับหลังจากนิ่งไปเป็นครู่ \"แล้วอย่างพี่ขับรถดึกๆ แบบนี้ไม่เคยมีคนชวนไปจิบน้ำชาดื่มกาแฟบ้างหรือครับ\"    เขานึกสนุกขึ้นอีกครั้ง  



                              ความสนุกบางอย่างต้องใช้เงินหรือเรือนกายเข้าแลก แต่ก็ไม่ได้ประเทืองอารมณ์ได้ เท่ากับการได้ใช้ลูกล่อลูกชนกับคนไม่รู้จักวิธีการเล่นบอล แต่ลงสนามด้วยความมั่นใจในรูปร่างและพละกำลังเป็นหลัก



                           \"ก็มีบ้างแต่ส่วนใหญ่เป็นพวกกระเทย พี่ไม่ชอบเลยพวกมือไม้อยู่ไม่สุข บางคนพี่ไล่ลงไปเลยนะ อะไรจะชวนเราเข้าโรงแรม เขาขอซื้อตรงๆ เลยนะ\"



                           \"พี่มีอะไรขายด้วยหรือครับ\" ชายหนุ่มแสร้งถามเหมือนไม่รู้เดียงสา



                          \"โธ่! เราก็รู้กันอยู่ว่า นังพวกนั้นน่ะมัน...\"  แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะร่วนอย่างขบขันเสียเต็มที่กับชะตาชีวิตทั้งของ \"นังพวกนั้น\" และ \"ไอ้พวกนี้\" ที่กำลังกลับมาอยู่ในอารมณ์ครึกครื้นเต็มที่



                            \"แล้วไม่มีผู้ชายจีบบ้างหรือครับ\"



                          \"โฮ้ย! มีเหมือนกัน\" โชเฟอร์รับเสียงสูง  \"แต่พี่ว่าพวกนี้มันน่าสะอิดสะเอียนน้อยกว่าพวกวี้ดว้าย พวกนั้นนะ พวกนี้เขาคุยกับเราดี ค่อยตะล่อมจนบางทีเพลินไปบ้างก็มี\"



                          \"เพลินไปถึงขั้นไหนครับ\" ชนะกระเซ้าต่อ



                         \"มันก็มีมากบ้างน้อยบ้าง\" อีกฝ่ายอ้อมแอ้มตอบไม่เต็มคำ



                        \"อย่างนี้สบายพี่ เท่ากับว่าพี่เปิดโอกาสแสวงโชคของตัวเองให้กว้างขึ้น  แถมบางทีพวกนั้นมันเป เก่งกว่าพวกผู้หญิงอีก แล้วก็ไม่คิดที่จะผูกมัดเราด้วย บริการให้สบายใจกว่ากันเยอะ



                          \"แล้วน้องทำงานอยู่ที่ไหนล่ะ\" เหมือนระดับความเร็วจะลดลงอีกและดูตั้งอกตั้งใจคุยมากกว่าขับรถ



                          \"ผมอยู่ที่ \"คนขายฝัน\" กึ่งคลับกึ่งบาร์อยู่แถวๆ ทองหล่อ





                         \"ดีจัง  ไม่เหมือนไอ้พวกที่อยู่ตามริมถนน ดูมันไม่มีศักดิ์ศรียังไงไม่รู้ อย่างว่าแหละน้องไอ้เรามันผู้ชาย อดนึกถึงเรื่องศักดิ์สงศักดิ์ศรีไม่ได้\"



                       ชนะหน้าชาขึ้นมาทันที \"ศักดิ์ศรี\" กระทบหัวใจเขาอย่างแรงแต่ก็ไม่ได้สร้างความเจ็บปวดเท่าใด เพราะครั้งหนึ่ง \"ศักดิ์ศรี\" ทำให้หัวหน้าครอบครัวทิ้งบ้านทิ้งลูกเมียไปแสวงหาคำคำนี้ และก็เพราะคำคำนี้อีกที่ทำให้เมียผู้มีทั้งศักดิ์และศรีสูงกว่าผัว  ต้องออกตามหาและยัดลูกๆ ไว้ใน \"อ้อมอกพ่อ\" แล้วก็กลับไปดำรงสถานภาพโสดอยู่ได้ไม่นาน ก็มีผู้ทรงศักดิ์และศรีเสมอกันยินดีให้เธอใช้ชื่อสกุลเดียวกัน



                       \"งานทุกงาน  คนทุกคนมีศักดิ์ศรีเหมือนกันหมดหละครับ  มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกใช้หรือเลือกมองมันอย่างไร  ผมว่าคนที่ซื่อสัตย์ต่ออาชีพของตัว  ไม่ว่าจะเป็นขุนพลหรือเป็นโจรก็มีศักดิ์ศรีเต็มภาคภูมิเหมือนกันทั้งนั้น\"



                             \"ใจเย็นไอ้น้อง พี่ไม่ได้ว่าอะไร\"  คู่สนทนาพยายามประนีประนอมเมื่อจับเค้าจากน้ำเสียงของอีกฝ่ายว่าคงสะเทือนใจในทางร้ายมากกว่าจะพูดออกมาโดยภูมิใจในสิ่งที่ตนกำลังทำ และอาจจะทำอย่างซื่อสัตย์ในอาชีพอย่างยิ่งอีกด้วย



                            \"แล้วแก่ๆ อย่างพี่เขาจะรับไหมน้อง\"



                            \"บอกแล้วอย่างพี่สบายมาก\" ชนะปลอดโปร่งขึ้นทันทีที่เปลี่ยนเรื่องเสียได้  \"อายุอย่างพี่นี่เรียกว่ากำลังบ่มจนได้ที่ อย่างพวกผมมีบางคนเขาว่ายังอ่อนไป  มันแค่ทั้งมันทั้งเปรี้ยวๆ หวานๆ พอเข็ดฟัน แต่บางคนเขาชอบแบบสุขุมนุ่มลึกคึกตลอดแบบผู้ใหญ่ๆ อะไรอย่างนี้\"



                             ชายหนุ่มผู้สูงวัยกว่าละมือจากพวงมาลัยรถมาบีบหน้าขาหนุ่มรุ่นน้องเบาๆ \"แล้วน้องพอจะแนะนำอะไรพี่ได้บ้างไหมล่ะ พี่น่ะหาคนปรึกษาเรื่องนี้มานาน เพราะเห็นน้องนี่ท่าทางอัธยาศัยใจคอดีเลยกล้าพูดกล้าถาม\" และก็บีบต้นขาอีกครั้งโดยไม่ได้ดึงมือกลับ



                             \"เลี้ยวซ้ายข้างหน้า ตรงป้ายแมนชั่นนั่นนะครับ\" ชนะต้องเป็นฝ่ายยกมือเขาออกจากที่



                            \"อยู่หรูเสียด้วย  แสดงว่ารายได้ดีจริงๆ ใช่ไหมครับน้อง\"



                           \"ก็ดีครับ  แต่บางทีก็เบื่อๆ มันเหมือนกินขนมจีนกับน้ำยาเย็นๆ นะพี่ ทั้งจืด ชืด เซ็งไปหมด จนบางทีก็อยากลองอะไรแปลกๆ บ้าง\" เขาหยอดต่อ ซึ่งดูเหมือนอีกฝ่ายจะรับรู้และทำความเข้าใจได้ทันกัน



                          รถเลี้ยวมาเทียบตรงทางเข้าที่ปูหินอ่อนสีเข้มตลอดตั้งแต่ลานรับรองจนถึงบันไดและหน้าลิฟท์  ชนะหยิบแล้วเปิดกระเป๋านับเงินสำหรับค่าโดยสารนาน...นานกว่าปกติ



                            จนคนขับต้องเปิดไฟในรถเพื่อความสะดวก มีการประสานสายตากันเล็กน้อย ขณะส่งธนบัตรใบละห้าร้อยปลายนิ้วสัมผัสกันอีกนิดหน่อย  และการควานหาเงินทอนก็เป็นไปอย่าง ช้า..ช้า



                              จนพนักงานหลังเคาร์เตอร์ชะเง้อมองอย่างเต็มใจจะถลาเข้ามาช่วยบริการแลกหรืออะไรก็ตามที่ผู้พำนักผู้นี้ขอความช่วยเหลือ



                           \"ขึ้นไปดื่มอะไรสักหน่อยไหมครับพี่  รับรองฟรีไม่คิดสตางค์\"



    -------------------(จบ บทที่ ๑)-----------------------

    นิยายรักจ้ะ ชัวร์ ไม่มีเบี่ยงเบน(ประเด็น)แน่นอน ช่วยติดตามอ่านด้วยนะจ๊ะ  





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×