ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อะโลห้า แก็งซ่า ผ่ายุธรถพ

    ลำดับตอนที่ #1 : ตำนาน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 22
      0
      13 เม.ย. 47

            “อืม............  ฟ้าดินแปรปรวน ดาวกษัตริย์ดับหาย ทะเลคลั่ง ธรณีแยกออก” ชายวัยกลางคนกำลังนับนิ้วอยู่ หน้าผากมีเหงื่อโชก ไหลลงไปที่หนวดเคราสีขาว ปากมุบมิบ ส่งเสียงออกมาเบาๆ “อะ...แย่แล้ว” เขารีบวิ่งตรงออกจากห้องพุ่งตรงไปยังห้องของอ่องเต้ ทันทีฝนตกสาดกระหน่ำ ท้องฟ้ามืดครึ้ม ฟ้าผ่า เปรี๊ยงปร้าง ใบหน้าส่อถึงความเครียด เขาวิ่งไปยังประตุ

            ก๊อก ก๊อก “ฮ่องเต้ ฮ่องเต้” ชายคนนั้นกล่าว

        “มีเหตุอันใดหรือ ท่านโหร เชิญท่านเข้ามาก่อน” ชายหนุ่มใส่ชุดนอน ใบหน้าสีขาวอมชมพู มีเส้นที่หน้าผากแสดงถึงความเครียด หน้าตาอันหล่อเหลา ส่งรอยยิ้มออกมา เขาคือ อ่องเต้น้อย ฮ่องเต้ กล่าวอย่างไม่ร้อนรนและเชื้อเชิญท่านโหรเข้าไปนั่งยังเก้าอี้ในห้อง “ท่านมีเหตุอันใดหรือ จึงตื่นมาแต่กลางดึกและรีบมาอย่างร้อนรนเยี่ยงนี้”

        “กราบทูลฮ่องเต้ ข้าพเจ้าได้ทำนาย ดวงดาวบนท้องฟ้าไว้ ปรากฏว่าจะเกิดการณ์วิบัติ ขึ้น”ท่านโหรกล่าว

        “ท่านว่าเยี่ยงใดนะ” ฮ่องเต้ ทรงถึงกับสีหน้าเปลี่ยนไป ดูเคร่งเครียดขึ้น

                    “ข้าได้ทำนายท้องฟ้าแล้ว ข้าเกรงว่าตามคำทำนายจะเป็นจริง……ดังนั้น ข้าคิดว่า ควรเปิดสถานที่ลับที่เก็บคำทำนายไว้ เพื่อ ตรวดหาทางแก้”

                    “ได้ ทหาร”ฮ่องเต้ ตะโกนเสียงดัง เรียกทหารยาม “เจ้าจงจัดการ พาข้าและท่านโหรไปยัง ที่ปราสาทขาว ทั้ง 2 เดินไปยังที่วางเกี้ยว และเดินไปนั่งยังบนเกี้ยวด้วยอาการร้อนรนเต็มที่ ทั้งสองเริ่มออกเดินทาง

    เปรี๊ยง !!!!!!!!!!!!!!!!!!

    เสียงสายฟ้า และฝนดังกระหึ่ม “ท่านคิดว่า เราจะสามารถแก้ได้หรือไหม” ฮ่องเต้ถาม อาการร้อนรนยังคงอยู่แม้ไม่ต้องเดินเองก็ตาม

                   “ข้าคิดว่าได้” ท่านโหร พยายามตะเบ็งเสียงแข่งกับเสียงของฟ้าร้องและเสียงฟ้าผ่า เกี้ยวเดินทางออกมาอย่างช้าๆ สู่ปราสาทขาว          ฮ่องเต้ เอื้อมมือออกไปเปิดผ้าที่บิดอยู่ที่หน้าต่าง บ้างเมืองสงบเงียบ แต่ก็ยังคงเต็มไปด้วยเสียงฝนตกหนักฟ้าร้อง และฟ้าผ่า ประชาชนหลับกันอย่างสบายอยู่ ภายในบ้านขณะที่ ฮ่องเต้เคลื่อนตัวอย่างๆ ไปยังปราสาทขาวด้วยความวิตกกังวลพร้อมกับท่านโหร

    และแล้ว เกี้ยวก็หยุดลงที่หน้าปราสาทขาว

    ปราสาทขาว ภายในปราสาทขาวจะเป็นถ้ำขนาดใหญ่ ที่มีถึงสามชั้น ชั้นกลาง ชั้นบน และชั้นใต้ดิน แต่ละชั้นจะบอกสิ่งต่างๆมากมาย

    ชั้นกลางจะบอกถึงสิ่งที่ปรากฏบนโลกมนุษย์ ชั้นล่างจะเป็นเกี่ยวกับปีศาจ นรก และตำนานแห่งปีศาจ ส่วนชั้นบนสุด เป็นสถานที่ แห่งสวรรค์ จะมีปล่องไฟอยู่ตรงกลางถ้ำทำให้แสงส่องลงมาถึง บ่อน้ำศักย์สิทธ์ ซึ่งเมื่อถึงวันแรม 15 ค่ำเดือน เก้า ในตอนเช้า และอาทิตย์จะส่องลงมายังบ่อน้ำ และตอนกลางคืนจะมีดวงจันทร์ปรากฏ เหนือตรงบนถ้ำพอดี และที่สำคัญยังมี รูปปั่น เหล่าผู้กล้า แห่ง3 โลกอีกด้วย

    ภายในแต่ละชั้นจะมีมีวัตถุโบราณ และรวมถึงภาพฝาผนังที่คอยบอกภาพในอดีต รวมถึงภาพ ของ  “ตำนาน” ภายนอกปราสาทขาว เป็นปราสาทขนาดใหญ่ สีขาว รูปร่าง แปลกประหลาดพิศดานตามรูปร่างของภูเขา

    ฮ่องเต้และท่านโหร โผล่ออกมาจากเกี้ยว ด้วยอาการรีบร้อน  ท่านทั้งสองมุ่งตรงเข้าไปยังปราสาท ทหารสองคนยืนเฝ้าที่ปราสาท ก้มหัวลงคำนับฮ่องเต้และท่านโหร แต่ทั้งสองไม่สนใจและรีบตรงเข้าไปทันที ท่านโหรรีบหยิบคบเพลิงและจุดไฟ พวกเขาเข้าตรงไปยังชั้นสอง โดยตรงไปยังบันไดเวียนที่อยู่ด่านในสุดของ ถ้ำ แสงอันน้อยนิดของคบเพลิง ส่องให้เห็น ลักษณะภายในเล็กน้อย มีรูปของมนุษย์ต่างคน มีรูปช้างขนาดให้

                เมื่อทั้งสองท่านเดินขึ้นถึงชั้นสอง แสงระยิบระยับของน้ำค้างที่หยดลงมาจากใบไม้ ลมแรงพัดพาเอาหญ้าหรือดอกไม้ขนาดเล็กเบื้องหน้าปลิวขึ้นสู่ท้องฟ้า วนเป็นวงกลมเหนือบ่อน้ำที่กระสาดกระเซ็นไปทั่ว บริเวณ เพราะฝนที่ตกห่ากระหน่ำลงมายังเบื้องล่าง

    ท่านทั้งสองเดินตรงไปยัง ภาพที่บอกเกี่ยวกับตำนาน ภาพนี้ ใครๆ ก็อ่านไม่ออกหากมิได้ เรียนมา ซึ่งกำลังจะศูนย์หายไปแล้ว แต่ยังโชคดีที่ ท่านโหรสามารถ อ่านได้ อยู่ ท่านโหร เกิด จากในวัง พ่อท่านเป็นโหรประจำตัวท่านอ่ององค์ก่อน  ส่วนแม่เป็นพระสนมในตำหนัก เนื่องจากท่านพ่อของท่านโหรนี่เองที่ทำให้ท่านสามารถอ่าน ภาษานี่ออก และสามารถตรวจดูทุกสิ่งทุกอย่างได้ เมื่อท่านตายไป ท่านโหรก็ได้ขึ้นเป็นโหรประจำองค์แก่อ่ององค์ปัจจุบัน นอกจากท่านโหรจะเก่งเรื่อง ทำนายทายทัก แล้วยังเก่งทั้งเรื่องกำลังภายในอีกด้วย

                  “ออกมาเถอะ”เมื่อท่านโหรหยุดเดินก็กล่าวออกมา

                  “ท่านโหรพูดเรื่องอะไร เรากำลังรีบอยู่นะฮ่องเต้กล่าวโดยอาการไม่พอใจ

                  “ท่านไปก่อนเถอะ พะยะคะเดี่ยวข้าจะตามท่านไป”

                 “ได้ รีบๆ เข้าละ ข้าจะไปรออย่านานนะ”และฮ่องเต้ก็เดินจากไป

                 “เก่งมาก ท่านโหร ข้าขอยอมรับท่านจริงๆ” ชายคนหนึ่งปรากฏออกมาจากมุมมืดข้างหลังท่านโหร ชายผู้นี้สวมเสื้อคลุมปิดหน้า โผล่เหลือแต่ตาสสีแดงที่คอยแอบจ้องอยู่ปรากฏออกมา

                “ท่านเป็นใคร จึงแอบตามข้ามา ฮะ รีบบอกข้ามา”

                “ฮะฮะฮะฮะฮะ ท่านต่างหากที่ตามข้ามา ข้ามารอท่านอยู่นานแล้ว ข้าขออภัยที่มิได้แนะนำตัวแก่ท่านในตอนแรก ข้าคือ ไซม่อน อคุนาดิน”

                “แล้วเจ้า ต้องการอะไร ถ้าเจ้ามาดี ข้าก็จะไม่ว่าอะไร แต่ถ้ามาร้ายละก็เจ้า ไม่รอดแน่”

                “ฮะฮะฮะฮะ ท่านอย่าทำเช่นนี้สิ ข้าแค่มาคุยกับท่านเล็กน้อย มิได้มี เหตุอะไรที่ข้าจะมาทำร้ายท่านหรือท่านอ่องเลย ข้าอยากมาบอกท่านให้ท่านจงเตรียมตัวไว้ อีกไม่นาน นายใหญ่ของข้าจะเกิดใหม่อีกครั้ง”

               “อะไรนะ นายเจ้า เจ้า เดธ คุโอ นะหรือ”ใบหน้าท่านโหรปรากฏความเครียดขึ้นอีกเท่าตัว

               “จุ จุ จุ ท่านอย่าเรียกกับนายใหญ่ข้าเยี่ยงนี้สิ ข้าจะมาชวนท่านเข้ากลุ่มข้า”

              “ไม่ เด็ดขาด”

              “ข้ายื่นขอเสนอให้ท่านแล้ว ท่านปฏิเสธเอง ข้าก็ช่วยท่านมิได้ และโปรดระวังไว้ คืนวิบัติจะมาถึง จงจำไว้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า”แล้วชายลึกลับก็จากไป

    ท่านโหรรีบวิ่งไปยังทางที่ฮ่องเต้ไปทันที

              “เอ้าท่านโหร ข้ารอท่านนานแล้วนะ ทำไมท่านพึ่งมา” ฮ่องเต้ตวาดท่านโหร แต่ท่านโหรก็ไม่สนใจและรีบตรงไปยังป้ายศิลาขนาดใหญ่ และเริ่มอ่านภาพทันที

             “เมื่อท้องฟ้า แปรปรวน ลมกรรโชคแรง ธรณีแยกออก ดาวกษัตริย์ดับสูญ และเมื่อ ดาวแห่งปีศาจปรากฏ โลกก็ใกล้ถึงการวิบัติ ประชาชนจะล้มตาย โลกจะแปรปรวน....” ท่านโหรกล่าว แม้ฝนจะตกหนักแต่ ก็ไม่ทำให้ท่านโหรเย็นลงได้ เหงื่อไหลออก ในขณะที่ฮ่องเต้ก็ทรงตกใจที่ได้ยินเช่นกัน

            “ทุกๆ เวลา 500 ปี เมื่อถึงเวลานั้น เหล่าปีศาจจะปรากฏ มาทำลายโลกใบนี้ ประชาชนจะเดือดร้อน ไร่นาเสียหาย ประชาชนตกไปเป็นของเหล่าปีศาจ ความทุกข์นี้ ส่งถึงสวรรค์เหล่าปีศาจฮึกเหิม ย่างกรายเข้าสู่เมืองและจัดตั้งกองทัพ ไปโจมตีเมืองต่างๆ แต่เมื่อถึง คืนวิบัติ....”ท่านโหรหยุดอ่าน

    (คืนวิบัติ หรือ ไปเจ้านั้นก็พูดถึงนิ หรือว่า...)

             “ไม่นะ ศิลาที่เหลือศูนย์หายไป” ทานโหรกล่าว ด้วยสีหน้าผิดหวังและปนด้วยความเครียด

             “ไม่ แล้วเราจะทำเช่นไรละท่านโหร”ฮ่องเต้ กล่าวด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดไม่แพ้กัน

             “ก็คงแล้วแต่บุญ กรรม ของประชาชน ของฮ่องเต้เอง และคงเป็นบัญชาจากฟ้าให้เราพบกรรมเช่นนี้”ท่านโหรกล่าว ใบหน้าเศร้าหมอง

    ท่านโหรคิดพลางยกมือลูบเคราสีขาวของตัวเอง ทั้งสองคนยืนอยู่ในถ้ำแห่งนั้น ฝนตกกระหน่ำห่าใหญ่ เมฆดำทมิฬ  ฟ้าร้องไม่หยุดหย่อน  ประชาชน แห่งเมืองนี้ กำลังจะพบกับ วิบัติ แล้ว

                                                                                              จบตอนแรก

                                                                                                                                                   โปรดติดตามตอนต่อไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×