Crystal Tale : The Adventure

ลำดับตอนที่ #1 : Preface : บทนำ

         เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นในยุคที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์คาถาอันทรงพลัง โลกได้ถูกแบ่งพื้นที่การปกครองออกเป็น 6 ทวีป ได้แก่ ทวีปแห่งดิน, ทวีปแห่งน้ำ, ทวีปแห่งลม, ทวีปแห่งไฟ, ทวีปแห่งแสงสว่างและทวีปแห่งความมืด ถึงแม้ว่าจะแบ่งแยกการปกครองกันก็ตาม ทุกทวีปนั้นก็ยังอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และจะมีการส่งตัวแทนไปประชุมร่วมกันทุก 10 ปี เพื่อกระชับสัมพันธ์ไมตรีให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และในปีนี้ทวีปที่ได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ในการจัดการประชุมก็คือทวีปแห่งดิน



          และแล้ววันประชุมก็มาถึง ซาเรียล มหาเวทชราตัวแทนของทวีปแห่งดิน ได้ออกมายืนต้อนรับเหล่าตัวแทนจากทวีปต่าง ๆ แต่เช้าตรู่ เบื้องหลังของเขาคือห้องโถงขนาดใหญ่ที่ดูยังไงก็ไม่ได้สร้างด้วยฝีมือมนุษย์ เพราะทั้งหมดเกิดจากต้นไม้ขนาดยักษ์เพียงต้นเดียว กิ่งก้านขนาดใหญ่บิดกันเป็นเกลียวประดุจเสา กิ่งขนาดเล็กรวมทั้งใบของต้นไม้นั้นก็ได้สานต่อกันจนไม่ต่างอะไรกับผนัง ตรงกลางมีดอกไม้สีขาวขนาดใหญ่บานออกมาเป็นโต๊ะ และดอกไม้สีชมพูที่มีขนาดเล็กกว่าจำนวน 6 ดอกเป็นเก้าอี้



          ไม่นานนักเหล่าตัวแทนก็ทยอยกันมาเรื่อย ๆ จนครบองค์ประชุม ซาเรียลจึงเริ่มเปิดการประชุมทันทีเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา



          หัวข้อการประชุมในครั้งนี้ คือ การรักษาเวทมนตร์ไว้ไม่ให้สูญสลายไปตามกาลเวลา การประชุมเป็นไปอย่างดุเดือดเพราะความคิดเห็นไม่ตรงกัน บางคนก็อยากให้เก็บไว้เป็นลายลักษณ์อักษร บางคนก็ไม่ต้องการเช่นนั้น ในที่สุดมติที่ประชุมก็ออกมาว่า ให้รวมรวมเวททั่วหล้าไว้ในหนังสือเล่มเดียวโดยให้ผู้ที่เหมาะสมที่สุดในที่ประชุมเป็นผู้ดูแล นั่นก็คือ มหาเวทหนุ่มอัจฉริยะที่มีอายุเพียง 18 ปี ตัวแทนของทวีปแห่งความมืดผู้มีนามว่า เซร่า



           แต่ว่ามตินี้ก็มีผู้คัดค้าน นั่นก็คือ เฟเรส มหาเวทชราตัวแทนของทวีปแห่งแสงสว่างนั่นเอง ด้วยเหตุผลที่ว่าการเก็บเวทมนตร์ทั้งหมดไว้ที่คน ๆ เดียวไม่น่าจะปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นคนหนุ่มยังขาดประสบการณ์อาจเกิดการผิดพลาดได้ จึงเกิดการทะเลาะกันระหว่างเซร่าและเฟเรส สุดท้ายเฟเรสก็ออกจากที่ประชุมไปโดยไม่ให้ความร่วมมือในการรวบรวมเวทมนตร์ในทวีปของตนอีกด้วย



          ถึงจะมีผู้คัดค้านแต่ก็เป็นเพียงแค่ 1 เสียงเท่านั้น ไม่มีผลอะไรเลยกับมติการประชุม วันรุ่งขึ้นกระดาษจำนวนมากถูกแจกจ่ายไปยัง 5 ทวีปที่เหลือ เพื่อรวบรวมเวททั้งหมดของแต่ละทวีปแล้วส่งกลับไปยังทวีปแห่งความมืด ในที่สุดเวลาก็ผ่านไป 2 ปี หนังสือรวมเวทมนตร์เล่มแรกก็ได้เสร็จสมบูรณ์ โดยให้ชื่อว่า คัมภีร์ห้าพิภพ



          ตามวิสัยของมนุษย์ ถึงจะดีเลิศสักเพียงใดก็ตามความโลภก็ยังมีอยู่ ดังเช่นเซร่า เมื่อเขาได้ครอบครองคัมภีร์ห้าพิภพแล้วกลับเกิดความเหิมเกริม หมายจะรวมทุกทวีปบนโลกให้เป็นหนึ่งเดียวภายใต้การปกครองของตนเอง การกระทำเช่นนี้สร้างความไม่พอใจให้กับอีก 4 มหาเวทเป็นอย่างมาก ในที่สุดก็เกิดการประทะกันขึ้นระหว่างเซร่ากับ 4 มหาเวท



          ผลเป็นไปตามคาด ผู้ที่ถือคัมภีร์อยู่ย่อมมีชัย มหาเวททั้ง 4 พ่ายแพ้ให้กับวิชาของตนเองจนหมดสิ้น สุดท้ายก็ถูกเซร่าใช้วิชาในคัมภีร์ ทำลายร่างเนื้อจนหมดสิ้นเหลือเพียงสรีระธาตุของทั้ง 4 เท่านั้นที่ยังคงอยู่ในรูปของคริสตัลที่มีพลังเวทมหาศาล หลังจากผู้ปกครองของทวีปที่ 4 สิ้นลง เซร่าก็ทำลายทวีปที่ไม่ยอมจำนนไปเรื่อย ๆ แม้แต่ทวีปของตนเอง จนในที่สุดก็เหลือเพียงทวีปเดียว นั่นคือ ทวีปแห่งแสงสว่าง



          ณ ที่นั่น พันธมิตรกลุ่มสุดท้ายของแต่ละทวีปได้รวมพลังกันปกป้องที่มั่นสุดท้ายของมวลมนุษย์จากกองทัพสัตว์อัญเชิญของเซร่า การรวมตัวกันสัมฤทธิ์ผล เมื่อกองทัพของเซร่าไม่สามารถโจมตีแผ่นดินสุดท้ายให้แตกพ่ายได้ เขาจึงต้องใช้มนตร์บทสุดท้ายในคัมภีร์ ซึ่งเป็นวิชาที่ใข้อัญเชิญ โอเมก้า อสูรแห่งตำนานที่เคยถูกผนึกไว้ด้วยฝีมือของ 6 มหาเวทย์รุ่นแรกเมื่อ 1,000 ปีก่อน แต่การอัญเชิญนั้นจำเป็นต้องใช้พลังเวทมหาศาล แต่ว่านั่นไม่ใช่ปัญหาของเซร่า เพียงแค่พลังของคริสตัล 4 ชิ้นในกำมือของเขาก็มีพลังเพียงพอในการอัญเชิญแล้ว



          ท่ามกลางสนามรบ เซร่ากำลังยืนหลับตาร่ายเวทอัญเชิญอยู่บนโขดหินใหญ่ ฉับพลันพื้นดินก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง บรรยากาศโดยรอบเปลี่ยนไปจากกลางวันเป็นกลางคืน ท้องฟ้าเริ่มเกิดการแตกร้าว นั่นแสดงถึงประตูที่เชื่อมระหว่างมิติเริ่มเปิดออก เฟเรสที่กำลังติดพันอยู่ในสนามรบเห็นดังนั้นจึงวิ่งฝ่าเข้าไปหามหาเวทหนุ่มหวังจะหยุดการกระทำของเขา โดยมีเอลิซ่า จอมเวทสาวศิษย์เอกของเฟเรส กับซีดาน นักรบหนุ่มจากแดนเหนือคอยคุ้มกันให้



          “เวทแสงสว่าง  -  กระสุนแสงพิฆาต!!”



          เฟเรสรวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายยิงกระสุนแสงออกไปถูกมือของเซร่าจนคริสตัลในมือของเขาหล่นกระจายไปคนละทิศละทาง ส่วนตัวของเซร่าก็ถูกอานุภาพของกระสุนแสงทำให้เขาตาพร่าไปชั่วขณะ มหาเวทชราฉวยจังหวะนั้นเข้าไปล๊อคตัวของมหาเวทหนุ่มทันที



          “เอลิซ่า ใช้เวทพันธนาการเร็วเข้า ข้าจะผนึกชายผู้นี้พร้อมกับคัมภีร์ห้าพิภพ!!”  เฟเรสตะโกนสั่งลูกศิษย์สาวทันที



          “แต่ว่า...ถ้าใช้วิชานี้ ท่านอาจารย์ก็จะสูญสลายไปด้วยนะคะ!!”



          “ไม่มีเวลาแล้ว จะทำอะไรก็รีบทำเข้าเหอะ แม่คุณ!!”  ซีดานกระโดดถอยหลังเข้ามาหาเอลิซ่าเรื่อย ๆ จนหลังของเขากับหลังของจอมเวทสาวชนกัน เนื่องจากถูกศัตรูรุกไล่เข้ามาจนเขาต้านไม่อยู่แล้ว



          เอลิซ่าตัดสินใจประทับฝ่ามือทั้งสองลงพื้นพร้อมกับร่ายเวททั้งน้ำตา



          “เวทแสงสว่าง  -  พันธนาการแสงสวรรค์ดับสูญ!!”



          ทันทีที่ร่ายเวทจบ ก็ปรากฏโซ่แสงขนาดใหญ่จำนวน 4 เส้น พุ่งขึ้นมาจากพื้นดินมามัดร่างของเฟเรสและเซร่าเอาไว้ ร่างของทั้งคู่ค่อย ๆ เลือนหายไปทีละน้อยเพราะโดนแสงสว่างจากโซ่ดูดกลืน แต่ทว่าเซร่ากลับรู้สึกตัวขึ้นมาเสียก่อน เขาจึงรวบรวมพลังเวทส่งคัมภีร์ข้ามมิติไปยังสถานที่อื่นได้ทันก่อนที่ร่างของทั้งคู่จะถูกดูดกลืนหายไปอย่างถาวร



          เมื่อเซร่าสิ้นชีวิต ทุกอย่างที่เขาสร้างขึ้นมาก็สูญสลายไปด้วย รอยร้าวของมิติหายไปพร้อม ๆ กับท้องฟ้าที่กลับมาสว่างดังเดิม บรรดาสัตว์อัญเชิญก็สูญสลายกลายเป็นควันสีดำไปจนหมดสิ้น สิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงท้องทุ่งที่ว่างเปล่ามีไฟไหม้เป็นหย่อม ๆ เบื้องหน้าของเอลิซ่าและซีดาน ปรากฏคริสตัลสองชิ้นวางอยู่เคียงกัน ชิ้นหนึ่งสีขาวส่วนอีกชิ้นสีดำ รอบ ๆ บริเวณก็มีคริสตัลที่เคยอยู่ในมือเซร่าจำนวน 4 ชิ้นตกอยู่ด้วย



          โลกกลับมาสู่ความสงบสุขอีกครั้งหนึ่ง แต่ทว่าโลกได้สูญเสียเกินกว่าจะเยียวยาได้แล้ว ควันไฟจากทวีปทั้ง 5 รังแต่จะสร้างมลพิษให้แก่โลก เหล่าผู้อพยพจึงตกลงกันใช้พลังของคริสตัลทั้ง 6 บัลดาลให้น้ำท่วมทวีปทั้ง 5 เสีย ทำให้บัดนี้โลกเหลือส่วนที่เป็นพื้นดินเพียง 1 ใน 6 เท่านั้น และได้ถูกขนานนามใหม่ว่า อาณาจักรมิดการ์ด



          เหล่าประชาชนที่อพยพมายังไม่อาจทำใจได้กับที่อยู่อาศัยของตัวเองที่สูญเสียไป เหล่าชาวทวีปแห่งแสงสว่างจึงยินยอมที่จะให้ปันส่วนทวีปที่เหลือออกเป็น 6 ส่วนอีกครั้ง ทวีปแห่งแสงสว่างเดิมจึงลดขนาดลงเป็นแค่เมืองหลวงมีนามว่า มหานครแคนเดล่า รายล้อมด้วยเมืองที่เกิดใหม่ทั้ง 5 เมือง



          ส่วนคริสตัลทั้ง 6 ชิ้น ได้ถูกเก็บรักษาไว้ ณ มหาวิหารของมหาเวทแห่งแสงสว่างที่ตั้งอยู่ใจกลางมหานครแคนเดล่าเพื่อคอยส่งพลังออกไปคุ้มครองมิดการ์ดเอาไว้  ซีดานกับเอลิซ่าเห็นว่าควรมีการอารักขาคริสตัลทั้ง 6 ชิ้น เพื่อไม่ให้คนชั่วได้พลังนั้นไป จึงได้จัดตั้ง หน่วยพาลาดิน ขึ้นโดยใช้วิหารของมหาเวทเป็นฐานบัญชาการ ภารกิจหลักก็คือเพื่อรวบรวมผู้มีความสามารถมาปกป้องคริสตัลให้คงอยู่สืบต่อไป...