ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1
( เฮ้อ . )
( นี่กรูมาทำไรตรงนี้วะ )
( เฮ้ย! ทำข้อสอบๆ )
ใช่แล้ว ตอนนี้ผมกำลังทำข้อสอบคัดเลือกเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนมอปลายแห่งหนึ่ง ทั้งๆ ที่ใจจริงผมไม่ได้อยากมาเล้ยยย แต่ผู้ใหญ่น่ะสิ
( “ลองไปลองดูสิ หัวขนาดเธอ ก็น่าจะไหวนะ” จากป้า )
( “ลองดูก่อนสิลูก ถึงแม้โรงเรียนนี้จะเปิดใหม่ แต่ก็มีแต่ข่าวลือดีๆนะ ลูก เห็นว่าเขาดึงอาจารย์เก่งๆ ตั้งหลายคน มาสอนที่โรงเรียนนี้โดยเฉพาะเลยนะ” จากพ่อ )
( “ไปๆ ไม่ต้องบ่น เดี๋ยวแม่พาไปเอง” จากแม่ )
เฮ้อ ผู้ใหญ่ก็อย่างนี้สินะ คิดแทนเราไปเสียหมด เฮ้อ เอาเถอะ
ข้อสอบคัดเลือกที่ผมกำลังทำอยู่นี่เป็นข้อสอบความถนัดทางการเรียน ไม่ค่อยยากเท่าไหร่นัก ( ผมว่านะ ) เพราะพ่อก็ซื้อแบบฝึกหัดมาเก็งข้อสอบให้ก่อนมาสอบครั้งนี้อยู่แล้ว คล้ายๆ ปัญหาเชาว์เสียมากกว่า มีรูปมาให้ ถ้ามองจากมุมขวาล่าง จะได้ภาพยังไง รูป A,B,C รึรูป D  หึ ! หมูมากๆ สำหรับนักสะสมโมเดลกันดั้มอย่างผม ผมคิดในใจก่อนที่จะกาคำตอบลงไปในกระดาษคำตอบ
.
.
.
อ๊อดดดดดดดดดดดดด !
เสียงออดหมดเวลาดังขึ้น ผมทำเสร็จก่อนหน้านั้นสัก 10 นาทีได้ แต่ก็นั่งตรวจทานรอเวลาหมดอยู่ เสียงอาจารย์บอกดังๆ ขึ้นมาว่า “เอ้า ! ลุกขึ้นมาได้แล้ว คว่ำกระดาษคำตอบไว้บนโต๊ะ เอ้าๆ หมดเวลาแล้ว เร็วๆ” จารย์แกคงบอกคนอื่นที่ยังคงเขียน ( หรือมั่ว ) คำตอบอยู่ ผมเองก็ลุกบิดขี้เกียจคลายเมื่อย แล้วก็เดินออกจากห้องไป
พอออกมา ก็เจอกับไอ้อ้นยิ้มกริ่มรออยู่แล้ว ไอ้อ้นนี่เป็นเพื่อนซี้สมัยมอต้นของผม เป็นคนเรียบร้อยน่ารักไม่พูดกรูพูดมรึงกับใคร และผลการเรียนเราไล่ๆกัน ( ผมแพ้มันนิดนึง “- ) นิสัยไม่พูดยกตนข่มท่าน ไม่ชอบเยาะเย้ยถากถางไม่ชอบด่าใคร จึงทำให้ผมกับมันเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากเพราะนิสัยคล้ายกันนั่นเอง
“เป็นไงมั่ง สัน”
“อื้อ ก็ดีว่ะ พอได้ๆ แล้วแกล่ะ”
“โห สบายๆอ่ะ อย่างเบ อย่างเบ”  แล้วมันก็ทำหน้าตาอันเป็นเอกลักษณ์ของมันคือทำตาหยีๆ ยิ้มแบบกรุ้มกริ่มๆ มองดูแล้วช่างเหมือนกับหมาจิ้งจอกเสียนี่กะไร เพราะหน้าตาแบบนี้นี่โคตรเจ้าเล่ห์เลย ( อธิบายนิ๊ด อย่างเบ ในที่นี้ย่อมาจาก basic นั่นเอง และจริงๆ มันเป็นคนที่ไม่ขี้โอ่อย่างนี้หรอกครับ เพียงแต่มันโอ่เกทับผมที่สนิทกับมันอยู่แล้วนั่นเอง )
“เออ ! ดิ ข้อนั้นแกตอบไรวะ”
“ข้อไหนล่ะ“
“48 อ่ะ”
“555 แกสงสัยเหมือนเค้าเลย สัน รู้เปล่า? โจทย์มันหลอกเว้ย !”
“เฮ้ย จริง?”
“จริงดิ แกลองนึกดูสิ ถ้า .บลาๆๆๆ มันก็คง .บลาๆ ..”
“ บลาๆ ”
“ บลาๆ ”
หลังจากเถียงเรื่องข้อสอบกันมาสักพัก ผมก็ลามันเพราะปล่อยให้แม่รออยู่ข้างล่างนานมันก็ไม่ดี ก็รีบลงมาจากอาคารที่ใช้สอบแห่งนั้นมาหาแม่ที่จอดรถรอลูกทำข้อสอบอยู่ที่จอดรถด้านล่าง
“เป็นไงบ้างลูก”
ผมยิ้มแทนคำตอบ แม่ผมก็ยิ้มตอบแล้วยื่นเป๊บซี่กระป๋องมาให้
“เอ้านี่ ! ใช้สมองจนเหนื่อยล่ะสิ”
“ครับ ขอบคุณครับ”
แม่ผมก็อย่างนี้แหละครับ ถึงแม้จะชอบบ่นชอบว่าอยู่เป็นประจำ แต่ท่านก็ห่วงผมเสียยิ่งกว่าใคร รู้ดีว่าเวลาเหนื่อยๆ นี่ถ้าได้เป๊บซี่ซักกระป๋องจะหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งทีเดียว ขึ้นมาบนรถก็เจอกับลูกชิ้นที่แม่เตรียมไว้ให้ แม่บอกให้รองท้องไปก่อนเพราะตอนนี้เที่ยงแล้ว ก่อนจะออกรถพาไปหาอะไรกินกัน
เย็นนั้นพ่อก็พาทั้งครอบครัวไป “เลี้ยงฉลองล่วงหน้า” ไปทานอะไรที่ร้านอาหารเจ้าอร่อยเจ้าประจำของบ้านเรา
( โธ่ ! พ่อ ถ้าผมเกิดแป้กตกขึ้นมาก็แย่สิ ) ทานอะไรเสร็จก็กลับบ้านอย่างมีความสุข  :D
เวลาผ่านไป 2 สัปดาห์
ณ โรงเรียน มอต้นของผม
“เฮ้ย สันเว้ยยย แกสอบติดว่ะ” ไอ้อ้นเป็นคนวิ่งมาบอกนั่นเอง ซึ่งดูจากการที่มันยิ้มแก้มแทบปลิก็รู้ทันทีว่ามันก็ต้องติดด้วยแน่
“555 จริงดิ แล้วเป็นไงบ้าง มีใครติดอีกบ้างนอกจากเรา 2 คน”
“เออๆ แฮ่กๆ โอย ก็มีไอ้นัท ไอ้นนท์ แล้วก็เรารวม 4 คนนี่แหละ”
“เหรอ “ ผมตอบก่อนที่จะคิดถึงไอ้ 2 คนที่เหลือ ไอ้นนท์ คนตัวดำๆ สูงๆ ล่ำๆ ยังกะเด็กเกนั่นอานะ เพราะมันอยู่คนละกลุ่มกันเลยไม่รู้จักมันมากนัก ส่วนไอ้นัทนี่แค่หน้าก็นึกไม่ออกเลยเพราะอยู่คนละห้องกัน
“ไป เย็นนี้ไปฉลองกันดีกว่า”
“ไปไหนล่ะ”
“บ้านกรูสิ นั่งเล่นเกมกัน มา” อ้นมันก็ทำหน้าแหย เพราะเกมนั้น นอกจากวินนิ่ง อิเลฟเว่น เกมบอลสุดโปรดของมันแล้วมันไม่โปรดเกมอื่นอะไรอีกเลย แต่มันก็ยอมตามใจผมบอก เออๆ ก็ได้ๆ แล้วก็ด่าเหน็บแนมผมที่มีเพลย์อยู่ที่บ้าน ( เพลย์ ก็ Play station เครื่องเกมต่อทีวีครับ ) แต่ดันไม่ยอมซื้อแผ่นวินนิ่งเตรียมไว้ให้เพื่อนฝูงเล่น ( แหงสิ ผมเล่นไม่เป็นนี่นา เล่นทีไรโดนมันยำทุกที ) แล้วก็ชวนกันมาบ้านเล่นเกมกัน พร้อมกับบอกข่าวดีให้พ่อแม่ผมรู้ด้วย
พอมาถึงบ้าน อ้นมันก็เอ่ยทักทายแม่ของผม
“สวัสดีครับ คุณแม่”
“อ้าว สวัสดี ลูก อะไรเนี่ย สัน เพื่อนจะมาบ้านทำไมไม่โทรบอกแม่ก่อน แม่จะได้เตรียมอะไรไว้ให้”
“โธ่ ! คุณแม่ อย่างหมอนี่ไม่ต้องเตรียมอะไรมากหรอก มันไม่เรื่องมากอยู่แล้ว”
“ครับๆ ไม่ต้องอะไรมากหรอกครับ” แล้วอ้นมันก็หันมามองผม ทำสีหน้าบุ้ยใบ้ให้บอกแม่ไปเลย
“จริงด้วยคุณแม่ เดี๋ยวจะลืมบอกไป ไอ้ที่สอบน่ะ สันได้แล้วนะ อ้นมันก็ติดเนี่ยแม่ เลยมาฉลองกัน”
แม่ผมยิ้มดีใจสุดฤทธิ์ “ติดเหรอลูก เยี่ยมไปเลย งั้นคืนนี้ไปกินไรที่ไหนดี”
“โอ้ย ไม่เอาหรอกครับ เพิ่งออกไปกินไรกันหมาดๆ เมื่อไม่นานมานี้เอง กินมาก เปลืองป่าวๆ”
“จ้า ตามใจลูกละกันนะ งั้นเดี๋ยวแม่ไปโทรบอกพ่อให้รู้ก่อนดีกว่า”
“ครับ สันกับอ้น อยู่ในห้องสันนะ”
“จ้า จ้า”
แล้วเรา 2 คนก็ไปขลุกอยู่ในห้องส่วนตัวของผม พอขึ้นมาห้องผมก็หยิบเกมมาเลือกว่าจะเล่นเกมไรดี ส่วนไอ้อ้นเหรอครับ รื้อกองการ์ตูนใหม่ๆ หามาอ่าน ( การ์ตูนใหม่ๆ จะกองเป็นตั้งๆ อยู่กับพื้น ส่วนการ์ตูนเก่าจะขึ้นหิ้งใส่ตู้ไว้อย่างเรียบร้อย ) พอมันเลือกเรื่องที่มันชอบมันก็ไปนอนเอกเขนกบนเตียงผมอ่านการ์ตูนสบายไปเลย
“เฮ้ย ! แล้วนี่ไม่เล่นกันแล้วใช่ไหม เกมอ่ะ”
“เล่นดิ แกก็เลือกมาสิ”
“ไม่มาช่วยกันเลือกละวะ”
“ฮื๊อ บ้านเค้ามีเพลย์ที่ไหนเล่า มีแต่คอม”
“เออๆ ขืนมีเพลย์ก็คงมีแต่วินนิ่งเกมเดียวอ่ะดิ ขนาดคอมยังเล่นมันแต่ CM เลย ไอ้พวกบ้าบอล” ( CM = Championship Manager ก็เกมบอลอีกนั่นแหละ )
“555 แกไม่หัดเล่นบ้างเล่า ?”
“ขี้เกียจอ่ะ เล่นไม่เป็นจริงๆอ่ะ รู้ว่ากดนี่ส่ง กดนี่ยิง แต่ก็ไม่เห็นมันจะเข้าเลย”
“ของงี้มันต้องหัดเว้ย”
“เออๆ เอาเหอะๆ”
และแล้วผมก็ต้องใช้ศิลป์ในการเล่นเลือกเกมมาเล่นกับเพื่อนอีกครั้ง มันไม่ใช่ง่ายๆ ที่จะเลือกเกม 2 คนที่ไม่ใช่แนวต่อสู้กันเอง ( เพราะผมจะเชือดมันฝ่ายเดียว ) และก็ต้องเป็นเกมที่ตื่นตาตื่นใจพอที่จะ present ให้เพื่อนสนุกไปกับเกมด้วยได้ เผื่อจะฉุดมันจากโลกของบอลได้บ้าง
..
“เฮ้ย ! อ้น แกโกงนี่หว่า แบ่งๆ ปืนมาให้บ้างสิ”
.
“โห่ แย่งกันเฉยเลย”
.
“พอเลยๆ เล่นงี้ดวลกันเกมนี้ดีกว่า”
.
“ว้ากกกก ! ท่าไม้ตายหยุดเวลา !”
.
“โกงนี่หว่า เล่นเป็นอยู่คนเดียว เค้าเล่นไม่เป็นนี่”
“555 หัดดูดิ สี่เหลี่ยม ต่อยเบา สามเหลี่ยม ปานกลาง โอ ต่อยหนักอ่ะ”
.
“เออๆ นั่นแหละๆ ท่าส่วนมากก็ลงเฉียงหน้าต่อย ท่าไม้ตายก็ลงเฉียงหน้า R1 “
.
“555”
“555 อ้น แกสำเร็จวิชาแล้ว อาจารย์ไม่มีอะไรที่ต้องสอนเจ้าอีกแล้ว”
“555 ขอรับ”
.
.
.
เล่นกันจนเย็น แม่ก็เรียกเรา 2 คนลงมากินข้าว แล้วผมก็ขี่มอไซต์ไปส่งมันที่บ้านระหว่างทางก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อยจนถึงบ้านมัน ผมก็ไปหวัดดีพ่อกับแม่มันแล้วก็มาคุยกันที่สวนต่อ
“เฮ้อ อ้น ต้องย้ายโรงเรียนงี้คิดไงวะ”
“อื้อ ก็คงคิดถึงไอ้เปี๊ยก ไอ้ไหล ไอ้หมู แย่ล่ะมั๊ง”
“นั่นสินะ คงคิดถึงมันแย่”
.
“เอาเหอะ ไงก็ยังมีแกอยู่ อย่างน้อยก็ไม่นั่งเหงาคนเดียวล่ะ”
“อื้ม” ผมรับคำก่อนที่จะนึกถึงโรงเรียนที่เราจะย้ายไปอยู่ใหม่
โรงเรียนชื่อดัง ?
ไกลจากเมือง 14 กิโลเมตร ?
เนื้อที่เป็นร้อยไร่ ?
ค่าเรียนเทอมนึงเป็นหมื่น ?
และที่สำคัญ เป็นโรงเรียนประจำ ครูใหม่ เพื่อนใหม่ ?
อืม มันจะเป็นยังไงกันนะ .. 
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น