ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โอ้พระเจ้า! ผมอยากเป็นคนหล่อ

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 47
      0
      25 ก.พ. 47

    โอ้ พระเจ้า! ผมอยากเป็นคนหล่อ

    ตอนที่ 1

    ลมในเช้าวันนี้พัดเเรงไม่เหมือนทุกที ท้องฟ้าก็เริ่มตั้งเค้าดูท่าเมฆฝนคงจะใกล้ตกเเล้ว ผ้าม่านจากหน้าต่างถูกลมกรรโชกปลิวไสวตามเเรงลม ผู้ชายอายุอานามราว 20 ปีคนหนึ่งกำลังขะมักเขม้นอ่านหนังสือเตรียมสอบอยู่ใกล้ๆกับหน้าต่างบานนั้น เเม้ลมจะพัดเเรงขนาดทำให้หน้าต่างปิดๆเปิดๆได้ขนาดไหน(เพราะเป็นบ้านไม้ )เเต่ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจ ไม่สะท้านต่อบรรยากาศหรือเสียงรอบตัว ราวกับว่าเขาถูกดึงให้เข้าไปอยู่ในโลกเเห่งหนังสือนั้น ไม่รับรู้โลกภายนอกด้วยซ้ำ เขาขยับเเว่นสายตาให้เข้าที่ เเล้วเปิดอ่านหน้าต่อไปหน้าเเล้วหน้าเล่า…….



    “ไอ้เปี๊ยก!! ไอ้เปี๊ยก!! ” เสียงเรียกเขาให้ออกมาจากภวังค์ เขาละสายตาจากหนังสือมองไปที่ต้นเสียง พี่สาวของเขากำลังเท้าเอวมองเขาด้วยความไม่พอใจ

    “ลมเเรงขนาดนั้น ปิดหน้าต่างสิ ปล่อยให้มันเปิดๆปิดๆอยู่ได้ เสียงดังน่ารำคาญ!!” พี่สาวของเขาพูดพลางมองน้องชายด้วยความไม่พอใจ นายเปี๊ยกเลยยื่นมือไปปิดหน้าต่างเเต่โดยดี

    “เฮอะ!ก็เท่านั้นเเหละ ไม่รู้จะบ้าอ่านหนังสงหนังสืออะไรนักหนา น่ารำคาญ” พูดเสร็จก็เดินออกไปจากห้องด้วยความโมโห เปี๊ยกมองตามก่อนถอนหายใจ



    สำหรับเปี๊ยกเขาชินซะเเล้วที่มักจะโดนด่าเเบบนี้ “จะบ้าเรียนทำไมนักหนา” ถ้าเป็นบ้านอื่นคงภูมิใจ ที่ลูกรักการเรียน เเต่สำหรับเขานั้นเป็นที่น่ารำคาญของคนในบ้านเหลือเกิน ด้วยสาเหตุที่ว่าเรียนได้”เกินหน้าเกินตา”พี่สาวเเละน้องชายจนเกินไปนั่นเอง เขาไม่เคยต้องไปสอบซ่อมหรือติด 0 อย่างใครๆ เเต่ไม่รู้ว่าเพราะได้รับมันสมองมามากกว่าคนอื่นๆในครอบครัวหรือเปล่า พระเจ้าจึงลงโทษให้เขามีหน้าตาที่ “ขี้เหร่” กว่าคนในบ้านที่ชนิดเรียกว่าขี้เหร่อย่างสุดขั้ว…… ก็ในขณะที่พี่สาวเขาเป็นถึงดาวมหาลัย น้องชายก็สาวติดตรึม เเต่เขานั้นขนาดนังจอยสาวที่ผิวดำจนเขียวที่ขายกล้วยเเขกข้างบ้านยังไม่อยากจะเอาเลยด้วยซ๋ำ เขาจึงมักถูกล้อเลียนเเละเย้ยหยันเรื่องหน้าตาอยู่เสมอ การเเต่งกายของเขาก็เชยชนิดคนรุ่นพ่อเรียกพี่ ผมเรียบเเปล้ปานเอาเยลทั้งขวดมาเเปะ ไม่น่าเเปลกใจเลยว่าทำไมไม่มีสาวคนไหนมาชอบเขาเลย ในเวลาเเบบนี้ก็มีหนังสือนี่เเหละที่เป็นเพื่อนของเขา



    เปี๊ยกเก็บหนังสือเข้าที่ เเล้วเเย้มหน้าต่างมองออกไปยังบ้านข้างๆ ห้องของเขานั้นมองออกไปจากนอกหน้าต่างจะเห็นบ้านของ นางสาวชมพู หรือ “พิงค์” นักศึกษาธรรมศาสตร์ปี 2 เเต่ก่อนนั้นห้องนอนของเขาอยู่ฝั่งเดียวกับบ้านของนังจอยสาวขายกล้วยเเขก เเต่ด้วยความที่วันหนึ่งนังจอยเกิดอยู่ๆวิตกจริตตีความตอนเห็นเขานั่งเหม่อออกไปนอกหน้าต่างเพื่อมองดูต้นกล้วยเฉยๆ เป็นการเเอบมองดูหล่อนที่กำลังเก็บหวีกล้วยด้วยความรักเฉยเลยนี่ หล่อนคิดไปเองว่าเขาเเอบชอบ เเละเเสดงทีท่ารังเกียจอย่างเห็นได้ชัด เขาจึงตัดปัญหาโดยการย้ายห้องนอนมาอีกฝั่ง เเต่เขาก็ดีใจเพราะทำให้เขาได้เห็นผู้หญิงน่ารักคนหนึ่งทุกวันๆ…พิงค์น่ะเอง



    เขามีความลับที่ไม่ได้บอกใคร เขาเเอบชอบพิงค์มานานเเล้ว เพราะหล่อนเป็นคนเดียวที่ไม่เคยดูถูกเขา เเละพูดกับเขาด้วยท่าทีที่ไม่รังเกียจ ไม่เคยด่าเขาเชยเลยซักครั้ง หล่อนมักจะพูดเพราะๆกับเขา เเต่เลยหมาวัดอย่างเขาจะทำอะไรได้ ก็คงได้เเต่เเอบชอบเท่านั้น ตัวหล่อนนั้นมีผู้ชายมารุมห้อมล้อมตามจีบไม่ซ้ำหน้าเเถมยังไม่เว้นวันอีกต่างหาก เขาจึงทำได้เเค่เจียมตัวเเละเเอบมองอยู่ห่างๆ



    เสียงออดดังอยู่หน้าบ้าน ดึงให้เขาออกมาจากห้วงความคิด เปี๊ยกชะโงกมองออกไปมีสาวๆกลุ่มหนึ่งมายืนอออยู่หน้าบ้านของเขา ไม่บอกก็รู้ว่าคงมาหาน้องชายสุดหล่อของเขาน่ะเอง เขาเห็นน้องชายเดินออกไปเปิดประตูด้วยสีหน้ายิ้มเเย้ม เขามองดูหน้าน้องของเขา ทำให้ในใจนึกตามไปว่า ทำไมน้องเขาถึงได้หน้าตาดีกว่าตัวเขาเองนักนะ ทั้งๆที่ท้องเดียวกัน เอ๊ะหรือเเม่เราจะตกบันไดตอนท้องเรากันนะ เปี๊ยกคิดไปเรื่อยเปื่อย นึกถึงความเเตกต่างระหว่างเขากับพี่น้อง เเตกต่างกันไม่เว้นเเม้กระทั่งชื่อ พี่สาวของเขาชื่อเจนนี่ น้องชายชื่ออ๊อตโต้ เเต่ไม่รู้ทำไมเเม่ถึงตั้งชื่อให้เขาว่าเปี๊ยกก็ไม่รู้….เอ๊ะ หรือเขาจะไม่ใช่ลูกเเท้ๆของเเม่กันนะ



    ถ้าเลือกได้ เขาคงอยากให้พระเจ้าเปลี่ยนให้เขาเป็นคนหล่อซักที ชีวิตคงมีความสุขมากกว่านี้เเน่ๆ ก่อนนอนเปี๊ยกเฝ้าพร่ำพูดกับพระเจ้าเสมอๆด้วยความหวังในใจที่เต็มเปี่ยมล้น

    “พระเจ้าครับสิ่งที่ผมต้องการมีเพียงสิ่งเดียวไม่เคยต้องการสิ่งอื่นใด……พระเจ้าครับ! ผมอยากเป็นคนหล่อครับ”



    ++++++++++++++++++++++++



    รุ่งเช้า เปี๊ยกเเต่งชุดนิสิตของจุฬา เตรียมตัวจะไปมหาลัย ส่วนพี่สาวเขาเรียนอยู่รามคำเเหงมีเรียนภาคบ่ายเลยไม่ได้ไปด้วยกัน  เเต่ปกติก็ไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกันอยู่เเล้วเพราะพี่สาวเขาไม่กล้าไปไหนกับเขาซักเท่าไหร่ หล่อนบอกว่าไม่ชอบเพราะมีความรู้สึกเหมือนกำลังเดินกับทากตัวหนึ่ง…..ผิดกับน้องชายที่มักชอบเดินกับเขามาก ด้วยเหตุที่ว่าจะทำให้ตัวเองดูหล่อยิ่งขึ้นเมื่อเดินกับเขานั่นเอง



    เปี๊ยกเปิดประตูรั้วออกไป เหมือนสวรรค์เต็มใจ พิงค์ ผู้หญิงที่เขาเเอบรักก็ไปเรียนเวลานี้เหมือนกัน หญิงสาวเห็นเขาก็ยิ้มทักทาย

    “สวัสดีค่ะ เปี๊ยกจะไปมหาลัยเหรอ” พิงค์ยิ้มให้ ทำเอาหัวใจดวงน้อยๆของเปี๊ยกเเทบไปกองอยู่กับพื้น

    “คะ…ครับๆ” เขาตอบด้วยท่าทีประหม่า

    “งั้นออกไปพร้อมกันนะคะ เเต่ขอพิงค์ซื้อกล้วยเเขกก่อน” หล่อนพูด เเล้วก็เดินนำไปบ้านที่ถัดจากบ้านของเขาหนึ่งหลัง นังจอยสาวผิวเขียวเอ๊ยดำกำลังก้มหน้าก้มตาง่วนตักกล้วยเเขกขึ้นสะเด็ดน้ำมัน หล่อนอายุเพียง 18 ปีเเต่ไม่มีปัญญาเรียนต่อเลยต้องมาช่วยครอบครัวขายกล้วยเเขก เปี๊ยกเดินตามด้วยความไม่เต็มใจเท่าไหร่เพราะไม่อยากเห็นหน้านังจอยเป็นธรรมดาที่ผู้ชายอย่างเขาควรช่วยหล่อนถือของ เขาจึงหอบหิ้วสัมภาระของพิงค์ไว้ในมือ



    “เอากล้วยเเขก 10 บาท” พิงค์พูด จอยยื่นถุงให้เปี๊ยกรับไป พลางเสเหลือบมองเปี๊ยกก่อนรับเงินเเล้วค้อนเปี๊ยกเข้าวงใหญ่ “เชอะ คอยถือของเป็นคนรับใช้เชียวนะ” จอยพูดพึมพัมเบาๆให้เขาได้ยิน “ก็งี้เเหละคนขี้เหร่”



    “ไปกันเถอะค่ะเปี๊ยก” พิงค์พูดเเล้วเดินไป เปี๊ยกรีบเดินตามเร็วไวเพื่อจะได้ไปให้พ้นสายตาของนังจอยเสียที

    “เขายินดีเเละเต็มใจจะเป็นคนถือของให้พิงค์ต่างหากล่ะ” เขาคิดในใจ



    ทั้งสองยืนรอรถเมล์อยู่หน้าป้าย ซักพักก็มีรถสปอร์ตคันหรูสีเเเดงจอดเทียบ

    “พิงค์ครับ ไปด้วยกันไหม” ชายหนุ่มหน้าหล่อยื่นหน้าออกมาจากรถพูดกับพิงค์

    “กาญจ์…” พิงค์ยิ้ม “เเต่พิงค์พาเพื่อนมาด้วยนะคะ” พิงค์พูด กาญจ์เลยหันไปมองเปี๊ยก

    “เพื่อนพิงค์เหรอเนี่ย” เขามองดูเปี๊ยกตั้งเเต่หัวจรดเท้า สายตาดูถูก “งั้นก็ไปด้วยกันทั้งสองคนเลยสิครับ” เขาหันมายิ้มให้พิงค์ ก่อนหันมายิ้มให้เปี๊ยกอย่างมีความหมายประมาณว่า มึงลองขึ้นสิมึงตาย!!!



    “มะ…ไม่เป็นไรครับ ผมไปเองได้” เปี๊ยกพูดเพราะรู้ดีว่าเจ้าของรถไม่เต็มใจ ใครจะอยากให้คนขี้เหร่อย่างเขาขึ้นรถล่ะ

    “จะเอางั้นเหรอ งั้นพิงค์ไปนะคะ” พิงค์พูดก่อนขึ้นรถไป เปี๊ยกมองตามรถที่เเล่นออกไปตาละห้อย ก่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่

    “ทำไมน้า พระเจ้าถึงได้เเกล้งให้คนขี้เหร่อย่างเรามีความเเตกต่างกับคนหล่อได้ถึงขนาดนี้นะ”



    เปี๊ยกมองนาฬิกา นี่รอรถตั้งนานเเล้วไม่เห็นมาซักที เเถมเขามีสอบช่วงเช้าซะด้วยสิ ซักพักรถเมล์สายที่เขาต้องการจะขึ้นก็เเล่นมา เหมือนพระเจ้ากลั่นเเกล้งรถเมล์ไม่จอดมันกลับเเล่นผ่านเขาไป

    “เฮ้ย…รอก่อนสิ” เปี๊ยกพูดก่อนวิ่งตามเเต่ก็ไม่ทัน

    อะไรกัน เเม้เเต่รถเมล์ยังไม่อยากให้คนขี้เหร่อย่างเราขึ้นเลยเหรอเนี่ย เปี๊ยกคิด (อันที่จริงก็เเค่คนมันเต็มต่างหาก)

    เปี๊ยกยืนหอบอยู่กลางถนน ในใจรู้สึกสังเวชตัวเองอย่างสุดๆ

    “พระเจ้า….ทำไมต้องให้ผมเกิดมามีสภาพอย่างนี้ด้วย ”



    “เฮ้ย….หลบๆ!!!!!! รถเบรคเเตก!!!!!!!” เสียงร้องโวยวายดังมาข้างหลังเขา เปี๊ยกหันไปมอง รถสูบส้วมคันหนึ่งกำลังเเล่นด้วยความเร็วสูงมาทางนี้ มันวิ่งสะเปะสะปะเพราะเบรคเเตก เปี๊ยกมัวเเต่ยืนงงทำอะไรไม่ถูกเลย รถเลยชนเขาเข้าอย่างจัง

    “โครมมม……!!!”



    เปี๊ยกกระเด็นไปตามเเรงชน นอนเเผ่หลาเลือดไหลนองเต็มพื้น เสียงคนฮือฮารีบมามุงดู



    เปี๊ยกรู้สึกเหมือนมีเเรงกระตุก วิญญาณเขากำลังจะออกจากร่าง นาทีต่อมาวิญญาณเขาลอยจากร่างขึ้นไปๆ เปี๊ยกเห็นคนมุงดูศพของเขาเต็มไปหมด

    “นี่เราตายเเล้วเหรอเนี่ย” เปี๊ยกคิดด้วยความใจหาย เเต่ช่างเถอะคนอย่างเราตายไปซะก็ดี อยู่ไปก็ไม่มีความสุข เเต่มีเพียงข้อกังขานึงที่ติดอยู่ในใจ

    “ทำไมนะคนขี้เหร่อย่างเรา จะโดนรถชนตายทั้งทีทำไมต้องเป็นรถสูบส้วมด้วย!” เปี๊ยกคิดด้วยความไม่พอใจ “จะตายทั้งทีรถที่มาชนขอเป็นรถเบนซ์คันหรูๆไม่ได้หรือไงนะ”



    วิญญาณของเขาลอยสูงขึ้นๆ จนกระทั่งเปี๊ยกเริ่มมองไม่เห็นเหล่าไทยมุงเท่าไหร่เเล้ว นี่เขาคงกำลังลอยขึ้นไปบนสวรรค์สินะ เปี๊ยกคิด ก่อนมองลงไปยังพื้นเบื้องล่างอีกครั้งเหมือนเป็นการมองอำลา

    “ลาก่อนเเม่ ลาก่อนพี่เจนนี่ ลาก่อนนายอ๊อตโต้ เราคงไม่ได้เจอกันอีก ลาก่อน…..พิงค์” เมื่อคิดถึงพิงค์น้ำตาเขาก็จะไหล นี่เขายังไม่ได้บอกความในใจเเก่หล่อนเลย เเต่ตอนนี้เขาคงจะไม่มีโอกาสนั้นอีกเเล้ว



    รู้สึกตัวอีกที เขามองไปรอบๆพบว่าเขาอยู่ท่ามกลางปุยเมฆ “หรือนี่จะเป็นสวรรค์หรือยังไงกันนะ”

    เขาเห็นลำเเสงหนึ่งอยู่เบื้องหน้า “เอ๊ะ หรือนั่นจะเป็นทางเข้าสวรรค์กัน” เปี๊ยกคิดก่อนตัวสินใจจะเดินเข้าไป



    “ช้าก่อน….” เสียงห้ามของเขาดังขึ้นอยู่ข้างหลัง เปี๊ยกหันไปมองเจอนางฟ้าองค์หนึ่งยืนอยู่

    “นั่นไม่ใช่ทางที่เจ้าจะเข้าไป เจ้าดวงวิญญาณใหม่ตามข้ามางทางนี้” นางฟ้าองค์นั้นพูด เเต่เปี๊ยกเเปลกใจเหลือเกินว่า นี่หรือนางฟ้า….เขางงเหลือเกิน ปกติตามนิทานไม่ว่าจะของชาติไหนๆ นางฟ้า….คือผู้หญิงที่สวยงามมากไม่ใช่หรือ เเต่นี่นางฟ้าองค์นี้ทำไมหน้าตาคล้ายๆคุณลำไยที่ขายปาท่องโก๋อยู่ในตลาดเลยล่ะ ไม่มีความสวยงามซักนิด

    “มองข้าทำไมกัน” นางฟ้าหน้าลำไยถาม

    “คือข้า เอ๊ยผมสงสัยว่านางฟ้าปกติต้องสวยงามไม่ใช่เหรอ เเต่ทำไมท่านถึง…..“ นางฟ้าได้ฟังคำถามก็พอจะรู้ว่าพูดถึงอะไร หล่อนไม่โกรธเพียงเเต่สมเพศ



    “โธ่เอ๊ย เจ้าพวกมนุษย์” นางฟ้าส่ายหน้า “ยึดติดกับรูปกายภายนอก จำเป็นด้วยเหรอที่นางฟ้าจะต้องสวยงาม ข้าทำความดีเลยได้มาเป็นนางฟ้าต่างหาก อีกอย่างรูปกายความสวยความหล่อก็เป็นเพียงเเค่รูปกายภายนอก เจ้าจะไปยึดติดอะไรนักหนา” พูดจบ นางก็เดินไป เปี๊ยกเดินตามเเต่ก็ยังเเย้งคำพูดของนางฟ้าอยู่ในใจ



    “โธ่เอ๊ย นางฟ้าก็พูดได้สิในโลกมนุษย์น่ะ คนขี้เหร่อย่างเราไม่มีความสุขขนาดไหนหล่อนจะไปเข้าใจได้ไง ยังไงหน้าตาหล่อก็ดีกว่าอยู่วันยังค่ำเเหละน่า”



    นางฟ้าพาเขาเข้าไปในห้องๆหนึ่ง เเสงในห้องช่างวูบวาบเเสบตาเขาเสียยิ่งนัก

    “เจ้ามีนามว่าอะไร” ผู้ชายคนหนึ่งถาม ขณะกำลังเดินออกมาจากหลังม่านเมฆ

    “ชื่อเปี๊ยกครับ” เปี๊ยกตอบ มองดูชายคนนั้นที่ใส่ชุดสีขาวทั้งตัว อายุอานามน่าจะเเก่เเล้ว

    “เจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใคร” เขาถาม เปี๊ยกส่ายหน้า จะไปรู้ได้ยังไงล่ะ ถามอะไรโง่ๆ

    “ข้าคือคนที่เจ้าพร่ำขอพร พร่ำตัดพ้อ อยู่ตลอดชีวิตของเจ้าไงล่ะ” เขาพูด เปี๊ยกอึ้งไป เอ๊ะหรือว่าเขาคือ….

    “ท่านคือพระเจ้า!!….” เปี๊ยกโพร่งออกมา

    “ใช่เเล้ว” พระเจ้ายิ้ม “ที่จริงเจ้าน่ะยังไม่ถึงที่ตายรู้ไหม เเต่คนที่ควรจะตายเวลานี้จริงๆคือคนสูบส้วมนั่นต่างหาก” พระเจ้าบอก พลางคิดในใจว่าสาเหตุที่ตายก็เพราะเจ้ามัวเเต่งี่เง่าไม่ยอมหลบรถต่างหากเล่า ไม่งั้นก็คงไม่ตายหรอก

    “จริงหรือท่าน!!!” เปี๊ยกดีใจ

    “ดังนั้น ข้าจึงจะส่งเจ้ากลับไปยังโลกมนุษย์อีกครั้ง”

    “เเต่….” เปี๊ยกลังเล “ไม่เอาดีกว่า ผมไม่อยากกลับไปอีกเเล้ว”

    “ทำไมล่ะ เจ้ามีเรื่องเดือดร้อนอะไรหรือ”

    “อยู่บนโลกมนุษย์ผมถูกรังเกียจเหยียดหยามด้วยเพราะหน้าตาที่ขี้เหร่ เเม้กระทั่งพี่น้องก็ไม่เว้น ผมไม่กล้าเเม้กระทั่งบอกรักผู้หญิง ผมไม่มีความสุข เกิดมาเป็นคนขี้เหร่อยู่บนโลกมนุษย์ไม่มีความสุขเลยครับท่าน ผมไม่อยากกลับไปอีกเเล้ว”

    “งั้นเจ้าคงคิดว่า เป็นคนหล่ออยู่บนโลกมนุษย์คงดีกว่างั้นสิ”

    “ครับท่าน” เปี๊ยกตอบ พระเจ้าส่ายหน้าถอนหายใจ “ทำไมพวกมนุษย์ถึงยึดติดกับรูปกายภายนอกจังนะ”



    “งั้นข้าจะส่งเจ้าไปเกิดใหม่ เเล้วให้มีหน้าตาที่หล่อเเล้วกัน พอใจหรือยัง”

    “เเต่เอ่อ…ผมเเอบรักผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ ถ้าผมไปเกิดใหม่รักของผมคงจะไม่สมหวัง พระเจ้าจะกรุณาถ้าจะให้ผมกลับไปขอเป็นให้ผมมีอายุเท่าเดิมเพียงเเต่หน้าตาเปลี่ยนไป สร้างผมเป็นคนใหม่ได้หรือไม่ท่าน” พระเจ้านิ่งเงียบไปนิด

    “ได้สิ เจ้าต้องการหน้าตาเเบบไหนล่ะ” พระเจ้าถาม เปี๊ยกรีบตอบด้วยความดีใจ



    “ขอดวงตามีเสน่ห์เเบบเดวิด เบคเเฮม กรามได้รูปเเบบเเบรด พีช จมูกโด่งคมสันเเบบคีอานู รีฟ เเละอืม..ขอริมฝีปากเเบบทอม ครูช ครับท่าน” เปี๊ยกขอด้วยความหวังเต็มปรี่(ไม่ค่อยโลภเล้ยย…..)

    “ได้สิ ว่าเเต่เจ้านี่ไม่ค่อยโลภมากเลยนะ กะเอาหล่อขนาดนั้นเลยเหรอ ได้….งั้นหลับตาซะข้าจะส่งเจ้าไปยังโลกมนุษย์อีกครั้ง”



    เปี๊ยกหลับตา ต่อมาเขารู้สึกเหมือนวิญญาณเขาโดนกระตุกลงไป มันวูบไหวเหมือนร่างกำลังดิ่งลึกลงไป…ลงไป



    ++++++++++++++++++++++++++++++

    เสียงนกร้องตอนเช้าปลุกเขาให้ตื่น  นายเปี๊ยกลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย พลางบิดขี้เกียจ

    “อืมเช้าเเล้วหรือเนี่ย” เปี๊ยกหาว

    “ว่าเเต่เอ๊ะ….” เปี๊ยกนิ่งคิด ที่จริงเราตายไปเเล้วไม่ใช่เหรอ…!! เปี๊ยกเพิ่งนึกได้

    เขามองไปรอบๆห้อง เอ๊ะ นี่เราไม่ได้อยู่บนสวรรค์นี่ เขาลองหยิกตัวเอง “โอ๊ย…เจ็บนี่นา เอ๊ะ…นี่ก็เเสดงเรายังมีชีวิตนี่หว่า ยะ…อย่าบอกนะว่าเรื่องทั้งหมดเป็นความฝัน” น้ำเสียงเปี๊ยกมีเเววผิดหวัง

    “เฮ้อ…ก็นั่นสินะ มีอย่างเหรอดันฝันว่าพระเจ้าให้ส่งเรากลับมาบนโลกในสภาพหล่อเริด จะเป็นไปได้ไง”



    เปี๊ยกก้าวลงมาจากเตียงรู้สึกติดใจในฝันนั้นเล็กน้อย ถ้าเป็นจริงก็คงดีน่ะสิ เสียดายที่มันเป็นเเค่ความฝัน เขารู้สึกว่าบ้านเขาเเปลกไปบ้างเล็กน้อย สงสัยเเม่มาจัดห้องให้ใหม่ เขาเปิดประตูห้องน้ำก่อนบีบยาสีฟันทำธุระส่วนตัวอย่างเช่นเคย เเต่สิ่งที่เขาเเปลกใจคือปกติอ่างล้างหน้าของเขานั้นมันไม่มีกระจกนี่นา เพราะเขาไม่อาจทนส่องเห็นหน้าทุเรศของตัวเองได้ ก็เลยไม่ติดกระจกมันซะเลย เเต่สงสัยว่าวันนี้เเม่คงเอามาติดล่ะมั้ง งั้นวันนี้ก็ส่องซะหน่อยเเล้วกัน



    “เฮ้ยย---ย…!!!ว๊าก—ก ใครวะเนี่ย” เปี๊ยกร้องตกใจเมื่อเห็นใบหน้าตัวเองในกระจก ตอนเเรกเขานึกว่าเป็นคนอื่นเเต่นี่ลองจับใบหน้าเเล้วส่องกระจกดูเเล้ว เอ๊ะ….นี่มันใบหน้าของเขาเองนี่ เพียงเเต่มันไม่ใช่ใบหน้าขี้เหร่มองไม่ได้เเบบเดิม เเต่มันเป็นใบหน้าที่……



    มีดวงตามีเสน่ห์เเบบเดวิด เบคเเฮม กรามได้รูปเเบบเเบรด พีช จมูกโด่งคมสันเเบบคีอานู รีฟ เเละริมฝีปากแบบ ทอม ครูช



    “เฮ้ย !! ความฝันที่เป็นจริง” เปี๊ยกโพร่งออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ นี่มันหน้าของเขา…โอว…หน้าของเขาจริงๆหรือนี่ ในกระจกคือภาพผู้ชายที่หล่อไม่มีที่ติเชียวนะ

    “เฮ้....ยะฮู้ มันไม่ใช่ความฝัน ไม่ใช่ความฝัน เย้…!!” เปี๊ยกร้องด้วยความดีใจ กระโดดโลดเต้นฉลองให้กับชีวิตใหม่



    “ขอบคุณครับพระเจ้าที่ทำให้ผมเป็นคนใหม่ ขอบคุณที่ทำให้ผมได้หล่อกะเขาซะที ขอบคุณครับ…..” เปี๊ยกเงยหน้าออกไปมองท้องฟ้าด้วยความปิติ ร้องขอบคุณพระเจ้า



    “นับตั้งเเต่วันนี้ เราก็ได้เริ่มชีวิตใหม่เเล้วซินะ” ปิ๊กยิ้มอย่างเริงร่าบอกกับตัวเองด้วยความปิติ ไม่รู้ตัวเลยว่าความอลเองกำลังจะคลืบคลานเข้ามาในชีวิตของเขาอย่างไม่รู้ตัว…….

    +++++++++++++++++++++++++

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×