ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    e-แรด

    ลำดับตอนที่ #1 : ขันทีที่ขันไม่ออก

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 70
      1
      24 ก.พ. 47

    ถึงแม้ว่าคุณจะเคยเห็นพวกขันทีมาทำท่ากระตุ้งกระติ้งเรียกเสียงฮาในหนังจีนหลายๆ เรื่อง

    แต่จริงๆ แล้วชีวิตขันทีนั้น ช่างรันทดเหลือหลาย ในเมืองจีน เดิมถือว่าการเป็นขันทีคือการลงโทษประเภทหนึ่ง

    แทนการประหารชีวิตให้ดับดิ้น แต่ไม่ค่อยมีใครสิ้นคิดยอมโดนเจี๋ยน เพราะรู้สึกอับอายชาวบ้านเหลือทน

    ไปๆ มาๆ คนพวกนี้กลับได้รับคัดเลือกให้เข้าไปรับใช้ใกล้ชิดเชื้อพระวงศ์ฮ่องเต้

    จนถึงกับมีขันทีที่สมัครใจมาให้เจี๋ยนแบบ ไม่ต้องรอสอบจอหงวนให้เสียเวลา

    เหตุที่ฮ่องเต้นิยมใช้ขันทีเพราะคิดว่าคนที่ไม่มีลูกเมียคงไม่ต้องการสมบัติ

    แต่ที่สำคัญสุดคงไม่ไปยุ่งกับนางสนมของพระองค์แน่

    (แล้วกับพระโอรสล่ะ จะเหลือเหรอ???)



    อันว่าวิธีการเป็นขันทีนั้น จะเริ่มผ่าตัดโดยใช้คนจับแขน จับขา และจับเอว

    พูดง่ายๆ ว่าขึงพืดให้ร่างกายอยู่นิ่งกับเตียงมากที่สุด

    เกิดกลัวเจ็บแล้วเปลี่ยนใจก็คงสายไปเสียแล้ว ไม่รู้ว่างานนี้หมอซาดิสต์หรือเทคโนโลยีการแพทย์ยังไม่ถึงขั้น

    การเจี๋ยนถึงไม่ต้องมีการโปะยาสลบกันล่ะ ฉันเดาว่าอาจต้องเอาผ้ายัดปาก

    ไม่ให้ว่าที่ขันทีร้องโหยหวนเหมือนบัฟฟาโร่ถูกเชือด

    เดี๋ยวชาวบ้านเขาแตกตื่นนึกว่ามีการฆ่ากันตายเกิดขึ้น

    หมอจะใช้มีดรูปเคียวตัดและกรีดลูกอัณฑะออกไปอย่างรวดเร็ว

    แล้วก็ต้องห้ามเลือดและฆ่าเชื้อกันแผลอักเสบ

    โดยใช้กระดาษบางๆ แช่เหล้าผสมพริกไทย ปิดไว้หลายๆ ชั้น

    (ซี๊ดสุดๆ คงเจ็บปวดยิ่งกว่าตอนถูกคว้านซะอีก)



    ทีนี้คงอยากรู้กันสิว่าแล้วสัญลักษณ์ความเป็นชายจะเอาไปทำหยัง

    เอาไปปั่นมูลิเน็กซ์ ทิ้งชักโครก หรือเป็นเมนูเด็ดให้เป็ดกิน

    แบบนี้คงเป็นที่สะเทือนใจขันทีอยู่ไม่น้อย หมอจึงดองอัณฑะที่ถูกตัดออกมาไว้ในขวดโหล

    เพื่อให้ลูกค้าตนเอาไปเป็น resume สมัคร งานเป็นขันที

    ฟันธงกันชัดๆ ไปเลยว่าชาตินี้หมดโอกาสปล้ำมเหสีหรือพระสนมแน่แล้ว

    แต่ที่ลืมไม่ได้เลย คือตอนตายต้องเอาขวดนี้ใส่ไปในโลงด้วย

    เชื่อว่าไม่งั้นชาติหน้าจะเกิดมากลายเป็นลาตัวเมีย

    ส่วนถ้าใส่ไปแล้ว ชาติหน้าจะเกิดมาเป็นไมเคิล แจ็กสันหรือเปล่า อันนี้ข้อมูลไม่ได้ระบุ

        

    ที่เราเห็นๆ กันในหนังจีนว่าขันทีบางคนจะมีอำนาจล้นฟ้าสะท้านพสุธา

    สามารถชักใยอยู่เบื้องหลังราชบัลลังก์อันยิ่งใหญ่

    ของฮ่องเต้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าชายแท้จะถูกชายเทียมครอบงำเอาได้

    อาจด้วยเป็นเพราะไว้ใจเกินไป หรือเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวก็มิอาจทราบ ได้

    ไม่ว่าจะโลภระเริงอำนาจไปถึงไหน แต่สุดท้ายขันทีก็ต้องปลดเกษียณไปตอนอายุ 70 ปี

    แล้วต้องไปย้ายอยู่ที่ศาลาขันทีรอวันตาย แบบที่มีเบี้ยเลี้ยงบำนาญให้ตลอดชีวิต

    ดีกว่าบ้านบางแคหน่อยนึง พอถึงยุคที่จีนเปลี่ยนแปลงการปกครองไร้จักรพรรดิ

    ขันทีเลยสูญพันธุ์ตามความเป็นชายของตนที่หายไปนานแล้ว

            

    ในแวดวงโฆษณาที่ฉันทำอยู่ก็มีชาวเกย์ระริกระรี้อยู่ทุกหัวระแหง

    (จะใช่ขันทีเวอร์ชั่นใหม่หรือไม่ มิอาจทราบได้)

    ขอสารภาพตามตรงว่ามิได้รังเกียจพวกหล่อนเลย

    ขอนับถือในฝีมือเข้าให้ด้วย ดีซะอีกที่ช่วยสร้างสีสันในการทำงาน

    แต่ยังไงก็ตามถ้าจะให้เลือกได้เป็นคนมีอำนาจ แล้วต้องถูกเจี๋ยนเป็นขันที

    ไอ้ฉันขอทำงานหนักเยี่ยงทาสเหมือนเดิมดีกว่า

    เพราะคติประจำใจฉันคือชอบขัน หลายที ขันทีเดียวมันไม่พอหรอก...ฮิฮิ

            

    โลกเรานี้ยังเคยมีคนอีกกลุ่มที่ต้องถูกเฉือนของรักของหวงไปแบบไม่ปรานี

    คือพวกเด็กชายที่ทำหน้าที่ีขับร้องบทเพลงสรรเสริญพระเจ้า

    ณ สำนักวาติกัน กรุงโรม ประเทศอิตาลี พูดง่ายๆ ว่าจะถูกตอนเพื่อไม่ให้เสียงแตกห้าวตามประสาชายหนุ่ม

    แต่หลังจากปี ค.ศ. 1890 เป็นต้นมา กฎหฤโหดนี้ก็ถูกยกเลิกไป
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×