ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ซีเรียส
                เมื่อตื่นเช้าขึ้นมาด้วยเสียงอันดังของดัดลีย์ ลูกพี่ลูกน้องหมูอ้วนสุดแสบของแฮร์รี่ผู้ซึ่งแฮร์รี่คาดว่าสมองเค้าคงหยุดการเจริญเติบโตไปตั้งแต่เมื่อสิบสองปีที่แล้ว แฮร์รี่ยังคงอยู่ในอาการหงุดหงิดและสลึมสลือก่อนจะไปจัดแจงแต่งตัวอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย และต้องไม่ลืมที่จะคว้าแว่นและทำผมให้กระเซิงอยู่เป็นประจำ เค้าค่อยๆเดินลงไปทานอาหารเช้าซึ่งมีเพียงแพนเค้กหนึ่งแผ่นและน้ำเปล่าอย่างว่าง่าย โดยปล่อยให้เสียงบ่นเสียงด่าจากลุงและป้าทั้งสองผ่านหูต่อไปอย่างเงียบๆ แต่ก็ไม่วายต้องมีเรื่อง เมื่อเหล่าครอบครัวปากหมาพวกนี้ไม่พอใจที่เด็กหนุ่มอย่างแฮร์รี่แค่ฟังเงียบๆเฉยๆ
    “ไม่ได้ยินที่ชั้นพูดรึไง!! ทำไมแกลงมาช้าขนาดนี้!!!” เสียงมาจากลุงเวอร์นอนซึ่งตอนนี้หน้ากลายเป็นสีม่วงและพองลมอย่างลูกโป่ง
    “คุณดูสิค่ะ มันทำเป็นเหมือนไม่ได้ยินพวกเรา!!” ป้าเพ็ตทูเนียร์พูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดพลางเอาหน้าเหมือนม้าแห้งๆจ้องมาทางเค้า
    “หยิ่งนักรึไงแก!! แล้วนั่นแกยิ้มหาอะไร!!” ดัดลีย์ส่งเสียงตะโกนด้วยเสียงอันดัง
    ไม่ใช่ว่าแฮร์รี่เป็นบ้าหรืออะไร เพียงแต่ว่าภาพของครอบครัวที่เหมือนออกมาจากโรงพยาบาลบ้านั้นทำให้แฮร์รี่อดที่จะขำไม่ได้ แฮร์รี่จึงรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนที่จะไม่สามารถกลั้นหัวเราะได้อยู่ แล้วจึงรีบเดินออกไปจากบ้านทันทีพร้อมกับเสียงปล่อยหัวเราะอย่างดังเหมือนคนบ้า ซึ่งอีกราวๆห้านาทีต่อมาจึงสามารถตั้งสติได้
    แฮร์รี่เดินไปเรื่อยๆจนถึงทางเปลี่ยวๆทางหนึ่ง เค้าหันซ้ายหันขวาจนแน่ใจแล้วว่าจะไม่มีใครมา ก่อนที่จะร่ายมนตร์ด้วยภาษาแปลกๆโดยไม่แม้แต่จะใช้ไม้กายสิทธิ์!! ทันใดนั้นเกิดแสงเรืองรองครู่หนึ่งก่อนที่แสงนั้นจะค่อยๆจางหายไปพร้อมกับสถานที่แปลกใหม่ที่อยู่ในสายตา
    เค้าอยู่ในห้องโถงกว้างๆที่ถูกประดับประดาอย่างสวยงามพร้อมด้วยเครื่องเรือนแบบสมัยเรเนสซองซ์ กำแพงที่จากหินที่ถูกตัดไว้ในรูปทรงอย่างดี และรูปภาพสีน้ำมันสวยงามขนาดใหญ่ บ่งบอกได้ไม่ยากว่าสถานที่ๆเค้าอยู่นั้นคือปราสาทอย่างแน่นอน
    แฮร์รี่เดินออกจากห้องนั้นพร้อมเดินออกไปอย่างรวดเร็วราวกับคุ้นเคยกับสถานที่นี้มานาน เค้าเดินเข้าไปในห้องครัวซึ่งเป็นที่มาของเสียงก้องแก้งที่เค้าได้ยินเมื่อครู่
    ชายผู้ผมดำผู้ซึ่งตอนนี้ยังสวมชุดนอนอยู่กำลังลงมือทำอาหารเช้า และในทันทีที่เค้าได้ยินเสียงเปิดประตู ชายคนนั้นหันมายิ้มกว้างให้กับแฮร์รี่อย่างเบิกบาน ก่อนจะเดินเข้ามาหาเค้า
    “ซีเรียสกำลังทำอาหารเช้าอยู่เหรอครับ” แฮร์รี่พูดพร้อมกับส่งยิ้มกลับไปให้เค้า สภาพของเค้าตอนนี้ดูดีขึ้นกว่าเดิมเป็นกองทีเดียวเมื่อนับตั้งแต่ที่แฮร์รี่เจอเค้าเป็นครั้งแรก เวลาผ่านไปห้าปีในที่สุดซีเรียสก็ได้กลับมาอยู่กับแฮร์รี่อีกครั้ง
                เมื่อปีที่แล้วแฮร์รี่ได้วางแผนกับลอร์ดโวลเดอมอร์ โดยการสร้างเรื่องขึ้น ทำทีเป็นว่าซีเรียสตายหลังจากถูกลูกหลงระหว่างการต่อสู้ของเหล่าภาคีฟินิกซ์กับผู้เสพความตายเมื่อครั้งที่แล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้วก่อนหน้านั้น แฮร์รี่ได้ให้ยาตัวหนึ่งกับซีเรียสไปก่อนแล้ว ซึ่งหลังจากการกินไปสองชั่วโมง ยาจะออกฤทธ์ทำให้ผู้ใช้เหมือนตายไปชั่วขณะ แต่อีก 24 ชั่วโมงต่อมาจึงจะฟื้น
                และหลังจากช่วงงานศพนั้นเอง ที่แฮร์รี่ได้แอบให้โวลเดอมอร์ไปขโมยร่างของซีเรียสมาไว้ที่นี่ ปราสาทแห่งหนึ่งในสก็อตแลนด์ที่ซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาจากญาติทางฝ่ายแม่ของเค้า ตระกูลผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีบรรพบุรุษเป็นแม่มดผู้ลือชื่อในสมัยยุคกลาง ผู้ว่ากันว่าสามารถคงความงามไว้ได้ด้วยเลือดของหญิงสาวบริสุทธ์ ทั้งที่จริงๆแล้วมันเป็นเพียงสารสีแดงซึ่งสกัดมาจากดอกกุหลาบและสมุนไพรทั้งหลายเท่านั้นเอง
                ในยุคสมัยของการล่าแม่มดครั้งนั้น ปราสาทนี้จึงถูกสร้างขึ้นอย่างลับๆ เพื่อเป็นสถานที่หลบซ่อนตัวของบรรพบุรุษผู้นั้น มันถูกร่ายด้วยอาคมโบราณที่สาบสูญเช่นเดียวกับที่ฮอกวอตส์ซึ่งจะไม่ปรากฏบนแผนที่ และถ้ามีบุคคลจากภายนอกหลงเข้ามาก็จะเห็นเพียงแค่ซากปรักหักพังเท่านั้น มันจึงกลายเป็นสถานที่สำหรับหลบซ่อนชั้นเยี่ยม อีกทั้งยังมีตำราคาถาโบราณต่างๆมากมายไว้ให้ศึกษา
                  ซีเรียสได้ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่อย่างมีความสุขโดยที่ไม่มีใครรู้ โดยมีแฮร์รี่มาหาอยู่ตลอดเวลา มันช่างเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากสำหรับแฮร์รี่ ตลอดช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา พวกเค้าอยู่ที่นี่กันอย่างมีความสุข ถึงแม้จะมีลอร์ดโวลเดอมอร์เข้ามายุ่งบ้างเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่แฮร์รี่ก็มักจะอยู่กับซีเรียสอย่างเป็นสุข
    “มาทานด้วยกันมั้ยแฮร์รี่? ถ้าให้ชั้นทายยัยป้าตัวร้ายของเธอคงจะไม่เอาอะไรให้เธอกินมากนัก” แฮร์รี่พยักหน้าตอบก่อนจะไปนั่งรออาหารเช้าที่ซีเรียสนำมาเสิร์ฟ
    “เป็นไงมาไงล่ะวันนี้?” เค้าถามเมื่อกำลังจะนั่งลง
    “ก็ดีครับ” แฮร์รี่ตอบก่อนจะลงมือตักเบคอนใส่ปากอย่างเป็นสุข การที่มีซีเรียสอยู่ข้างๆทำให้เค้ารู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด เหมือนกับว่าความรู้สึกของครอบครัวที่แฮร์รี่ไม่เคยได้รับกลับเกิดขึ้นอีกครั้ง แต่แล้วเวลาแห่งความสุขก็หายไปอย่างรวดเร็ว เมื่อแฮร์รี่เริ่มที่จะมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้น ซีเรียสก็เหมือนจะรับรู้เช่นเดียวกัน
    “ที่มาวันนี้มีอะไรหรือแฮร์รี่?” ซีเรียสพูดขึ้น “เรื่องโวลเดอมอร์ใช่มั้ย?”
    แฮร์รี่พยักหน้าด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “ผมคิดว่าเค้าจะก่อเรื่องอีกแล้ว ไม่เคยมีปีไหนเลยที่เค้าจะไม่มาวุ่นวาย หรือเราจะจัดการกับเค้าไม่ได้จริงๆ” แฮร์รี่ถอนใจอย่างเหนื่อยอ่อน แต่แววตากลับวาวโรจน์ด้วยความโมโห
    “ไม่มีศัตรูคนไหนยอมก้มหัวให้อีกฝ่ายง่ายๆหรอกแฮร์รี่ โดยเฉพาะมัน!! เจ้าเล่ห์นัก!!!” ซีเรียสพูดด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น “ดูที่มันทำกับเจมส์กับลิลลี่สิ!!!” เค้าเอามือทุบกับโต๊ะเสียงดังลั่น “ถ้าเธอไม่ห้ามนะ ชั้นจะ....”
    “ใจเย็นๆฮะซีเรียส มันยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง ผมถึงบอกให้คุณจับตามองเค้าอย่างใกล้ชิด อย่าให้ก่อเรื่องได้เหมือนปีก่อนๆอีก” แฮร์รี่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หากแต่ก็แฝงความโกรธแค้นที่ซ่อนอยู่ในใจไม่ได้ “แล้วนากินีล่ะครับ?”
    ซีเรียสถอนใจเฮือกหนึ่ง ก่อนจะกลับมาพูดอีกครั้ง “ตามโวลเดอมอร์อยู่เหมือนเดิม นี่เห็นมันหายไปไหนก็ไม่รู้ตั้งสองสามวันมานี้ แต่คงจะไม่มีอะไรมากหรอก มีนากินีคอยดูอยู่”
    “ซีเรียสครับ ผมอยากให้คุณพักผ่อนมากๆ ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ให้สบาย พอทุกอย่างจบลงแล้วเราจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง”
    “ชั้นก็รอวันนั้นอยู่แฮร์รี่ ถ้าเป็นไปได้ชั้นไม่อยากให้เธอกลับไปที่ฮอกวอตส์เลย พรุ่งนี้เธอก็จะไปแล้วใช่มั้ย” ซีเรียสพูดเศร้า มือถูแก้วกาแฟไปมา น้ำเสียงมีร่องรอยของความว้าเหว่
    “ครับ วันนี้ผมมาลา แต่ผมก็จะแวะมาหาคุณได้บ่อยๆ” แฮร์รี่ยิ้มให้อีกฝ่ายด้วยความจริงใจ
    ซีเรียสดวงตาวาววับด้วยความเป็นสุข “จริงนะแฮร์รี่!!”
    แฮร์รี่พยักหน้า “ผมก็ใช้วิธีเดียวกับที่มาหาคุณไงครับ แล้วจะมาหาบ่อยๆ” แฮร์รี่พูดก่อนจะลุกขึ้นยืน
    “จะไปแล้วหรือ?”
    แฮร์รี่พยักหน้าอีกครั้ง “ครับ เดี๋ยวพวกเดอร์สลี่จะสงสัย”
    “งั้นก็โชคดีนะแฮร์รี่ แล้วพบกัน” ซีเรียสฉีกยิ้มกว้าง
    “ครับ แล้วพบกัน”
    “ไม่ได้ยินที่ชั้นพูดรึไง!! ทำไมแกลงมาช้าขนาดนี้!!!” เสียงมาจากลุงเวอร์นอนซึ่งตอนนี้หน้ากลายเป็นสีม่วงและพองลมอย่างลูกโป่ง
    “คุณดูสิค่ะ มันทำเป็นเหมือนไม่ได้ยินพวกเรา!!” ป้าเพ็ตทูเนียร์พูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดพลางเอาหน้าเหมือนม้าแห้งๆจ้องมาทางเค้า
    “หยิ่งนักรึไงแก!! แล้วนั่นแกยิ้มหาอะไร!!” ดัดลีย์ส่งเสียงตะโกนด้วยเสียงอันดัง
    ไม่ใช่ว่าแฮร์รี่เป็นบ้าหรืออะไร เพียงแต่ว่าภาพของครอบครัวที่เหมือนออกมาจากโรงพยาบาลบ้านั้นทำให้แฮร์รี่อดที่จะขำไม่ได้ แฮร์รี่จึงรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนที่จะไม่สามารถกลั้นหัวเราะได้อยู่ แล้วจึงรีบเดินออกไปจากบ้านทันทีพร้อมกับเสียงปล่อยหัวเราะอย่างดังเหมือนคนบ้า ซึ่งอีกราวๆห้านาทีต่อมาจึงสามารถตั้งสติได้
    แฮร์รี่เดินไปเรื่อยๆจนถึงทางเปลี่ยวๆทางหนึ่ง เค้าหันซ้ายหันขวาจนแน่ใจแล้วว่าจะไม่มีใครมา ก่อนที่จะร่ายมนตร์ด้วยภาษาแปลกๆโดยไม่แม้แต่จะใช้ไม้กายสิทธิ์!! ทันใดนั้นเกิดแสงเรืองรองครู่หนึ่งก่อนที่แสงนั้นจะค่อยๆจางหายไปพร้อมกับสถานที่แปลกใหม่ที่อยู่ในสายตา
    เค้าอยู่ในห้องโถงกว้างๆที่ถูกประดับประดาอย่างสวยงามพร้อมด้วยเครื่องเรือนแบบสมัยเรเนสซองซ์ กำแพงที่จากหินที่ถูกตัดไว้ในรูปทรงอย่างดี และรูปภาพสีน้ำมันสวยงามขนาดใหญ่ บ่งบอกได้ไม่ยากว่าสถานที่ๆเค้าอยู่นั้นคือปราสาทอย่างแน่นอน
    แฮร์รี่เดินออกจากห้องนั้นพร้อมเดินออกไปอย่างรวดเร็วราวกับคุ้นเคยกับสถานที่นี้มานาน เค้าเดินเข้าไปในห้องครัวซึ่งเป็นที่มาของเสียงก้องแก้งที่เค้าได้ยินเมื่อครู่
    ชายผู้ผมดำผู้ซึ่งตอนนี้ยังสวมชุดนอนอยู่กำลังลงมือทำอาหารเช้า และในทันทีที่เค้าได้ยินเสียงเปิดประตู ชายคนนั้นหันมายิ้มกว้างให้กับแฮร์รี่อย่างเบิกบาน ก่อนจะเดินเข้ามาหาเค้า
    “ซีเรียสกำลังทำอาหารเช้าอยู่เหรอครับ” แฮร์รี่พูดพร้อมกับส่งยิ้มกลับไปให้เค้า สภาพของเค้าตอนนี้ดูดีขึ้นกว่าเดิมเป็นกองทีเดียวเมื่อนับตั้งแต่ที่แฮร์รี่เจอเค้าเป็นครั้งแรก เวลาผ่านไปห้าปีในที่สุดซีเรียสก็ได้กลับมาอยู่กับแฮร์รี่อีกครั้ง
                เมื่อปีที่แล้วแฮร์รี่ได้วางแผนกับลอร์ดโวลเดอมอร์ โดยการสร้างเรื่องขึ้น ทำทีเป็นว่าซีเรียสตายหลังจากถูกลูกหลงระหว่างการต่อสู้ของเหล่าภาคีฟินิกซ์กับผู้เสพความตายเมื่อครั้งที่แล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้วก่อนหน้านั้น แฮร์รี่ได้ให้ยาตัวหนึ่งกับซีเรียสไปก่อนแล้ว ซึ่งหลังจากการกินไปสองชั่วโมง ยาจะออกฤทธ์ทำให้ผู้ใช้เหมือนตายไปชั่วขณะ แต่อีก 24 ชั่วโมงต่อมาจึงจะฟื้น
                และหลังจากช่วงงานศพนั้นเอง ที่แฮร์รี่ได้แอบให้โวลเดอมอร์ไปขโมยร่างของซีเรียสมาไว้ที่นี่ ปราสาทแห่งหนึ่งในสก็อตแลนด์ที่ซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาจากญาติทางฝ่ายแม่ของเค้า ตระกูลผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีบรรพบุรุษเป็นแม่มดผู้ลือชื่อในสมัยยุคกลาง ผู้ว่ากันว่าสามารถคงความงามไว้ได้ด้วยเลือดของหญิงสาวบริสุทธ์ ทั้งที่จริงๆแล้วมันเป็นเพียงสารสีแดงซึ่งสกัดมาจากดอกกุหลาบและสมุนไพรทั้งหลายเท่านั้นเอง
                ในยุคสมัยของการล่าแม่มดครั้งนั้น ปราสาทนี้จึงถูกสร้างขึ้นอย่างลับๆ เพื่อเป็นสถานที่หลบซ่อนตัวของบรรพบุรุษผู้นั้น มันถูกร่ายด้วยอาคมโบราณที่สาบสูญเช่นเดียวกับที่ฮอกวอตส์ซึ่งจะไม่ปรากฏบนแผนที่ และถ้ามีบุคคลจากภายนอกหลงเข้ามาก็จะเห็นเพียงแค่ซากปรักหักพังเท่านั้น มันจึงกลายเป็นสถานที่สำหรับหลบซ่อนชั้นเยี่ยม อีกทั้งยังมีตำราคาถาโบราณต่างๆมากมายไว้ให้ศึกษา
                  ซีเรียสได้ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่อย่างมีความสุขโดยที่ไม่มีใครรู้ โดยมีแฮร์รี่มาหาอยู่ตลอดเวลา มันช่างเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากสำหรับแฮร์รี่ ตลอดช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา พวกเค้าอยู่ที่นี่กันอย่างมีความสุข ถึงแม้จะมีลอร์ดโวลเดอมอร์เข้ามายุ่งบ้างเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่แฮร์รี่ก็มักจะอยู่กับซีเรียสอย่างเป็นสุข
    “มาทานด้วยกันมั้ยแฮร์รี่? ถ้าให้ชั้นทายยัยป้าตัวร้ายของเธอคงจะไม่เอาอะไรให้เธอกินมากนัก” แฮร์รี่พยักหน้าตอบก่อนจะไปนั่งรออาหารเช้าที่ซีเรียสนำมาเสิร์ฟ
    “เป็นไงมาไงล่ะวันนี้?” เค้าถามเมื่อกำลังจะนั่งลง
    “ก็ดีครับ” แฮร์รี่ตอบก่อนจะลงมือตักเบคอนใส่ปากอย่างเป็นสุข การที่มีซีเรียสอยู่ข้างๆทำให้เค้ารู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด เหมือนกับว่าความรู้สึกของครอบครัวที่แฮร์รี่ไม่เคยได้รับกลับเกิดขึ้นอีกครั้ง แต่แล้วเวลาแห่งความสุขก็หายไปอย่างรวดเร็ว เมื่อแฮร์รี่เริ่มที่จะมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้น ซีเรียสก็เหมือนจะรับรู้เช่นเดียวกัน
    “ที่มาวันนี้มีอะไรหรือแฮร์รี่?” ซีเรียสพูดขึ้น “เรื่องโวลเดอมอร์ใช่มั้ย?”
    แฮร์รี่พยักหน้าด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “ผมคิดว่าเค้าจะก่อเรื่องอีกแล้ว ไม่เคยมีปีไหนเลยที่เค้าจะไม่มาวุ่นวาย หรือเราจะจัดการกับเค้าไม่ได้จริงๆ” แฮร์รี่ถอนใจอย่างเหนื่อยอ่อน แต่แววตากลับวาวโรจน์ด้วยความโมโห
    “ไม่มีศัตรูคนไหนยอมก้มหัวให้อีกฝ่ายง่ายๆหรอกแฮร์รี่ โดยเฉพาะมัน!! เจ้าเล่ห์นัก!!!” ซีเรียสพูดด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น “ดูที่มันทำกับเจมส์กับลิลลี่สิ!!!” เค้าเอามือทุบกับโต๊ะเสียงดังลั่น “ถ้าเธอไม่ห้ามนะ ชั้นจะ....”
    “ใจเย็นๆฮะซีเรียส มันยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง ผมถึงบอกให้คุณจับตามองเค้าอย่างใกล้ชิด อย่าให้ก่อเรื่องได้เหมือนปีก่อนๆอีก” แฮร์รี่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ หากแต่ก็แฝงความโกรธแค้นที่ซ่อนอยู่ในใจไม่ได้ “แล้วนากินีล่ะครับ?”
    ซีเรียสถอนใจเฮือกหนึ่ง ก่อนจะกลับมาพูดอีกครั้ง “ตามโวลเดอมอร์อยู่เหมือนเดิม นี่เห็นมันหายไปไหนก็ไม่รู้ตั้งสองสามวันมานี้ แต่คงจะไม่มีอะไรมากหรอก มีนากินีคอยดูอยู่”
    “ซีเรียสครับ ผมอยากให้คุณพักผ่อนมากๆ ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ให้สบาย พอทุกอย่างจบลงแล้วเราจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง”
    “ชั้นก็รอวันนั้นอยู่แฮร์รี่ ถ้าเป็นไปได้ชั้นไม่อยากให้เธอกลับไปที่ฮอกวอตส์เลย พรุ่งนี้เธอก็จะไปแล้วใช่มั้ย” ซีเรียสพูดเศร้า มือถูแก้วกาแฟไปมา น้ำเสียงมีร่องรอยของความว้าเหว่
    “ครับ วันนี้ผมมาลา แต่ผมก็จะแวะมาหาคุณได้บ่อยๆ” แฮร์รี่ยิ้มให้อีกฝ่ายด้วยความจริงใจ
    ซีเรียสดวงตาวาววับด้วยความเป็นสุข “จริงนะแฮร์รี่!!”
    แฮร์รี่พยักหน้า “ผมก็ใช้วิธีเดียวกับที่มาหาคุณไงครับ แล้วจะมาหาบ่อยๆ” แฮร์รี่พูดก่อนจะลุกขึ้นยืน
    “จะไปแล้วหรือ?”
    แฮร์รี่พยักหน้าอีกครั้ง “ครับ เดี๋ยวพวกเดอร์สลี่จะสงสัย”
    “งั้นก็โชคดีนะแฮร์รี่ แล้วพบกัน” ซีเรียสฉีกยิ้มกว้าง
    “ครับ แล้วพบกัน”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น