ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กลเกมส์ความรัก

    ลำดับตอนที่ #1 : กลเกมส์ความรัก ตอนที่ 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 27
      0
      21 ส.ค. 48

    ระหว่างเราฉันนั้นรู้  มันคงเป็นไปไม่ได้

    ระหว่างเราฉันนั้นรู้  ระหว่างเราฉันเข้าใจ

    โลกความจริงมันรุนแรง  เกินกว่าใครจะรับไหว

    ฉันนั้นรู้ ฉันนั้นรู้  ว่าตัวฉันต้องห้ามใจ



    ในเรื่องจริงเธอได้ยืน  อยู่บนทางอันแสนไกล

    แต่ฉันยังคงเก็บเธอเอาไว้



    อยู่ในจิตนาการ  อยู่ในฝันฉันข้างใน

    โลกความจริงเป็นเช่นไร  ฉันไม่รู้ไม่สนใจ

    อยู่ในจิตนาการ  อยู่ในฝันฉันเรื่อยไป

    จะเก็บเรื่องราวของเราเอาไว้...ในจินตนาการ



    ทุกครั้งที่ผมได้ยินเพลงนี้ทีไรเป็นต้องหยุดฟังทุกที เพราะเพลงนี้ทำให้ผมนึกถึงใครบางคน

    ใครคนนั้นที่อยู่ไกลแสนไกล บางครั้งผมก็อดนึกไม่ได้ว่า เธอคนนั้นจะคิดถึงผมบ้างไหม

    ไม่ต้องมากมายเท่าที่ผมคิดถึงเธอหรอก ขอเพียงแค่เศษเสี้ยวห้วงคำนึงที่เธอมีผมบ้างก็พอ



    เพื่อนๆของผมมักบอกว่าผมเป็นคนมักน้อย ส่วนเจ้าน้องสาวตัวดีของผมก็นิยามผมว่า โง่และดีเกินไป

    แต่สำหรับตัวผมเอง ผมไม่คิดว่าตัวเองโง่หรอกนะ แล้วผมก็ไม่ใช่คนมักน้อย คนดีอะไรมากมายด้วย

    ผมคิดว่าความรักไม่มีคำจำกัดความว่าโง่หรอก แต่ถ้าหากการที่ผมรักเธอมากเกินไปคือความโง่แล้วล่ะก็

    ผมคงจะไม่มีวันหลุดพ้นวัฏจักรความโง่ที่กัดกร่อนจิตใจผมเป็นแน่



    ผมไม่รู้ว่าตัวเองเอาแต่เฝ้ามองท้องฟ้าตั้งแต่เมื่อไหร่ อาจจะเป็นตั้งแต่ตอนที่เธอคนนั้นจากไป

    ผมได้แต่เฝ้ามองท้องฟ้า มองพระจันทร์ และแอบหวังลึกๆว่าเธอจะมองจันทร์ดวงเดียวกับผม

    ผมไม่ได้คาดหวังอะไรจากเธอมากไปใช่มั้ย



    คำถามซ้ำๆที่ผมเพียรถามตัวเองอยู่เสมอ คือเรื่องของเราเป็นความผิดของใคร ซึ่งแน่นอนผมไม่โทษ

    ว่าเป็นความผิดของเธอหรอก ถ้าจะต้องมีคนรับผิด ผมว่าผมเองนั่นแหล่ะที่เป็นคนผิด

    ผิดที่ไม่รู้จักเจียมตัวเจียมใจไปหลงรักหงส์ฟ้าเข้า

    แต่ใครบ้างจะรู้ว่าการห้ามใจตัวเองไม่ให้รักใครสักคนยากกว่าการบังคับใจให้รักใครสักคนซะอีก



    “อีกสักครู่ติดตามรับฟังข่าวต้นชั่วโมงค่ะ”



    ผมเดินไปปิดวิทยุหลังจากที่เสียงเพลงจบลง แล้วก็เหลือบมองนาฬิกาที่บอกเวลาใกล้เที่ยงคืนแล้ว

    เหลืออีกไม่กี่สินะที่ผมจะหมดเวลาคิดถึงเจ้าหญิงในฝันของผม พอเริ่มวันใหม่เมื่อไหร่ผมก็ต้องกลับไปเป็นอดิกันต์

    คนที่สดใสร่าเริงเหมือนเดิม



    +++++++



    เข้านี้ผมรีบมาทำงานแต่เช้า เพราะมีงานบางอย่างอยู่ที่ผมต้องรีบทำให้เสร็จ

    ทั้งๆที่ปกติแล้วผมไม่ใช่คนตื่นแต่เช้า ออกจะขี้เซาหน่อยๆด้วยซ้ำ แต่วันนี้ผมต้องรีบเคลียร์งานให้เสร็จ

    ไม่งั้นเจ้านายเอาผมตายแน่



    “เอ็กซ์ ทำไมวันนี้มาแต่เช้าเชียว ฝนต้องตกแน่ๆเลย”



    “ฝนไม่ตกหรอกปิ๊ก แต่เราสิจะจมน้ำลายหัวหน้า ถ้าไม่รีบเคลียร์งานให้เสร็จก่อน 9 โมง”



    ผมไม่ได้ล้อเล่นนะ ผมจะจมน้ำลายจริงๆ เพราะงานชิ้นนี้ผมได้รับมอบหมายตั้งแต่เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน

    ถ้า 9 โมงเช้านี้ไม่เสร็จล่ะก็ ผมไม่อยากคิดถึงเลยจริงๆ



    “ให้ปิ๊กช่วยมั้ย”



    “ไม่เป็นไรหรอก เราต้องขอตัวไปเคลียร์งานก่อนนะ”



    ผมไม่กล้าให้ปิ๊กช่วยผมหรอก ผมจะใจร้ายเอาเปรียบเธอได้ยังไงกันล่ะ ในเมื่อผมรู้ทั้งรู้ว่าเธอชอบผม

    แต่ผมก็ชอบเธอนะ แต่ไม่ใช่แบบแฟน ผมชอบเธอแบบเพื่อนมากกว่า ความจริงผมน่าจะรักเธอได้ไม่ยาก

    ถ้าบังเอิญหัวใจของผมไม่เป็นของเธอคนนั้นไปซะก่อน



    “โชคดีนะ ถ้ามีอะไรให้ปิ๊กช่วยก็บอกได้นะ”



    “ขอบใจนะ งั้นเที่ยงนี้ปิ๊กช่วยไปทานข้าวกับเราหน่อยละกัน”



    “ได้สิ พอดีเลยวันนี้ปิ๊กยังไม่มีนัด”



    “ขอบใจนะ”



    วันนี้ผมขอบใจปิ๊ก 2 ครั้งใน 10 นาที ปกติผมไม่ใช่คนพูดขอบคุณ ขอบใจบ่อยนักหรอก

    ถ้าผมไม่รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ แต่ปิ๊กเป็นเพื่อนที่ดีของผมตั้งแต่สมัยเรียนแล้วล่ะ

    ทุกครั้งที่ผมมีปัญหา ปิ๊กมักจะคอยช่วยเหลือผมเสมอ รวมทั้งวันนั้นด้วย

    วันที่เธอคนนั้นขอเลิกกับผมเพราะเธอไม่ต้องการการผูกมัด เธอไม่ชอบรักทางไกล

    เธอพูดด้วยสีหน้า ท่าทางเป็นปกติ แต่เธอไม่รู้หรอกว่าใจของผมมันแตกเป็นเสี่ยงๆ

    แต่ผมก็ไม่สามารถยึดเธอไว้ได้ สุดท้ายเธอก็จากผมไปอย่างไม่ไยดี แต่ผมยังโชคดี

    ผมมีปิ๊กเป็นเพื่อนคอยปลอบใจ คอยดูแลผมในวันที่ผมไม่มีเธอคนนั้น นั่นแหล่ะที่ทำให้ผมรู้สึกผิด

    เพราะผมไม่สามารถตอบแทนความรักของเธอมากเกินไปกว่าคำว่าเพื่อนได้



    +++++



    เย็นวันนี้ผมมีนัด เป็นนัดกับเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งปกติเรามักจะนัดพบกันทุกเย็นวันศุกร์

    มีบางครั้งที่เราดื่มเหล้ากันบ้าง แต่ผมไม่ชอบเหล้าหรอก ผมคิดว่ามันขมและสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ

    ก็ผมไม่ได้เป็นลูกชายมหาเศรษฐีมีเงินถุงเงินถังนี่น่า ถึงกล้าดื่มเหล้าขวดละเป็นพันโดยไม่รู้สึกอะไร

    แล้วอีกอย่างที่สำคัญคือผมคออ่อน นั่นคงช่วยให้ผมปฏิเสธเพื่อนๆที่ทำงานได้เวลามีเลี้ยงเหล้า



    ”อ้าวเอ็กซ์ เพิ่งจะมาเรอะ นายสายไปชั่วโมงนะ”



    นอกจากผมจะเป็นคนตื่นสาย ขี้เซา ชอบมักงานเป็นดินพอกหางหมูแล้ว

    ผมยังมักเป็นนายสายเสมอของเพื่อนๆอีกด้วย ไม่ใช่ว่าผมอยากจะมาสายหรอกนะ

    แต่ทำไงได้มันมาสายเองนี่น่า ทั้งๆที่ผมคิดว่าผมรีบแล้วนะ



    “ขอโทษจริงๆเพื่อน รถมันติด พวกนายก็รู้ว่าเย็นวันศุกร์รถติดขนาดไหน”



    คำขอโทษเดิมๆที่ผมมักใช้เป็นประจำเมื่อผมมาสาย ความจริงแล้วผมมารถไฟฟ้า

    ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับรถติดหรอก แต่ก็รู้ๆอยู่ว่าคำแก้ตัวของคนมาสาย

    นอกจากจะบอกว่ารถติดแล้วยังมีคำแก้ตัวไหนที่ฟังขึ้นอีกล่ะ



    “ช่างเถอะ เราคิดไว้แล้วล่ะว่านายต้องมาสาย”



    ผมเกลียดคนรู้ทันจริงๆ แต่ก็อย่างว่านะ ต้นเป็นเพื่อนกับผมตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลาย

    จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ต้นจะรู้จักผมดี



    “เอ็กซ์นายรู้รึยังว่าปอกำลังจะกลับมา”



    แค่ผมได้ยินชื่อเธอคนนั้นกำลังจะกลับมา ผมก็หัวใจพองโตแล้วล่ะ เพราะลึกๆแล้วผมยังแอบหวังอยู่

    ว่าเธอจะกลับมารักผมเหมือนเดิม ผมได้แต่ภาวนาทุกวันกับพระจันทร์ ขอให้เธอยังยังคงรักผมบ้าง

    ไม่ต้องมากมายเท่ากับที่ผมรักเธอหรอก



    “ปอจะกลับมาวันพรุ่งนี้”



    “ขอบใจนะต้น แต่เราคงไม่ไปรับหรอก”



    จริงๆแล้วใจผมวิ่งไปถึงสนามบินแล้วล่ะ ผมอยากเห็นเธอมากที่สุด แต่ผมยังมีศักดิ์ศรีเหลืออยู่บ้าง

    ผมไม่อยากให้พ่อของเธอมองผมด้วยสายตาดูถูกแบบนั้นอีก มันทำให้ผมรู้สึกต่ำต้อย ด้อยค่า

    ไม่คู่ควรกับเธอสักนิด



    “แล้วเราจะบอกปอให้ว่านายคิดถึง”



    ทั้งๆที่ผมไม่กล้าไปรับปอ แต่ผมก็ยังรู้สึกดีที่มีต้น อันเป็นเสมือนตัวแทนของผมไปรับปอ

    ต้นเป็นลูกพี่ลูกน้องกับปอ ถ้าจะนับญาติแล้วล่ะก็ถือว่าสนิทกันพอสมควร ที่ผมได้ข่าวคราว

    ของปอจากอเมริกา ก็มาจากต้นเพื่อนรักของผมคนนี้แหล่ะ



    “ว่าแต่ ปอคงไม่พาฝรั่งผมทองกลับมาแน่นะ”



    ผมถามออกไปทั้งๆที่กลัวคำตอบเป็นที่สุด



    “ไม่พามาแน่ เราคุยกับปอแล้ว ปอบอกว่ากลับมาคนเดียวแน่นอน สบายใจได้เพื่อน”



    ผมรู้สึกสบายใจขึ้นเมื่อได้รับคำยืนยันจากต้นเป็นมั่นเหมาะ เพราะอย่างน้อยผมก็ยังมี

    โอกาสทำให้ปอกลับมารักผมอีกครั้ง แม้ว่าผมเองก็ไม่ค่อยแน่ใจก็ตามทีว่าผมจะชนะใจเธอได้



    ผมรู้ตัวดีว่าผมเป็นเพียงแค่ข้าราชการเงินเดือนไม่กี่บาท แม้ไม่ยากจน แต่ก็ไม่ใช่ร่ำรวยอะไร

    และที่สำคัญนามสกุลผมดันไม่ดังซะด้วยสิ แล้วผมจะมีอะไรที่คู่ควรกับเธอ ในเมื่อเธอเป็นถึง

    ลูกสาวคนเดียวของมหาเศรษฐีที่มีกิจการก่อสร้างใหญ่โตชนะประมูลระดับประเทศมามากมาย

    แต่สิ่งหนึ่งที่ผมมั่นใจว่าเวลาที่เธอควงผมออกงานแล้วล่ะก็ ไม่น้อยหน้าใครที่ไหนแน่

    ก็คือความหล่อของผมไงล่ะ แล้วก็ความจริงใจ ความมั่นคงในรักที่ผมมั่นใจว่า

    ผมมีมันมากพอๆกับเงินที่เธอมี แต่เธอคงมองไม่เห็นมัน ผมคิดว่าอย่างนั้น

    เพราะถ้าเธอมองเห็นค่าความรักที่ผมมอบให้แล้วล่ะก็ เธอคงไม่ทิ้งผมไปตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อน

    ทั้งๆที่เธอใจร้ายกับผมแบบนั้น แต่ผมก็ยังเกลียดเธอไม่ลง ผมให้อภัยเธอได้ที่เธอมอง

    ไม่เห็นค่าความรักของผม ผมขอเพียงเธอไม่มองข้ามผมก็พอ



    +++++++++



    “เลิกมองเราแบบนั้นได้มั้ยปิ๊ก”

    ผมเกลียดจริงๆสายตาเวทนาที่มองผมเหมือนผมน่าสงสารซะเต็มประดา ก็ผมคิดว่าตัวเอง

    ไม่ได้น่าสงสารขนาดนั้นสักหน่อย ทำไมใครๆในหมู่เพื่อนฝูงต้องคอยคิดว่าผมน่าสงสารด้วย



    “ปิ๊กสงสารเอ็กซ์นี่น่า ปิ๊กได้ข่าวว่าปอแก้วจะกลับมาวันนี้”



    “แล้วการที่ปอกลับมาวันนี้ ทำให้เราน่าสงสารตรงไหนกัน”



    “เอาเถอะปิ๊กรู้ว่า เอ็กซ์ยังรักปออยู่”



    ผมสังเกตว่าหางเสียงที่ปิ๊กบอกว่าผมยังรักปออยู่สั่นเครือเล็กน้อย ผมว่าคนที่น่าสงสาร

    ไม่ใช่ผมหรอก แต่เป็นปิ๊กมากกว่า เพราะปิ๊กก็ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกับผม คือรักเขาข้างเดียว



    “เอ็กซ์ไม่ไปรับปอหรอ”



    “ไม่ล่ะ”



    “ทำไมล่ะเอ็กซ์ ปิ๊กรู้นะว่าเอ็กซ์อยากเจอปอมากแค่ไหน”



    “แล้วปิ๊กคิดว่าปออยากเจอเอ็กซ์ มากเท่าที่เอกซ์อยากเจอปอรึเปล่าล่ะ”



    ผมไม่น่าหลุดประโยคนั้นไปเลย ทั้งๆที่มันควรเป็นแค่ความคิดของผมมากกว่า

    ผมเสียใจจริงๆที่กระแทกเสียงกับปิ๊ก เพื่อนที่ดีที่สุดของผม



    “เราขอโทษ”



    ทั้งๆที่ผมรีบขอโทษแล้วแต่ปิ๊กคงโกรธผมอยู่แน่ๆเลย ก็เธอก้มหน้านิ่งไม่ยอมสบตา

    รับคำขอโทษจากผม ผมรู้ว่าผมผิดเองที่ไม่ควรระบายความในใจอย่างนั้นกับปิ๊ก

    เพราะมันจะยิ่งทำให้ปิ๊กต้องเจ็บ ผมรู้ว่าการไม่ได้รับความรักตอบมันเจ็บปวดแค่ไหน

    ผมจึงไม่อยากให้ปิ๊กต้องมาตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกับผม



    “เราขอโทษ ยกโทษให้เรานะปิ๊ก”



    ผมใจชื้นขึ้นมานิดหนึ่งตอนที่เธอเงยหน้าขึ้นมายิ้มเศร้าๆให้ผม ผมไม่อยากเป็นต้นเหตุ

    ให้เธอเศร้าเสียใจเลย อย่างน้อยเธอก็เพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับผมคนหนึ่ง แม้ว่าผมไม่อาจตอบรับ

    ความรักของเธอได้ ก็อย่าให้ผมต้องทำร้ายเธอด้วยการที่ผมรักคนอื่นเลย



    “ช่างเถอะ ปิ๊กผิดเอง ปิ๊กไม่น่าเซ้าซี้เอ้กซ์เลย”



    “ไม่ใช่ความผิดของปิ๊กหรอก เป็นความผิดของเราเอง”



    “ช่างเถอะ ถือว่าผิดทั้งคู่ก็แล้วกัน”



    “งั้นเที่ยงนี้ขอเราเลี้ยงข้าวปิ๊กเป็นการขอโทษนะ”



    ในเมื่อผมไม่สามารถให้ความรักตอบแทนในความดีของปิ๊กได้ ผมก็ใช้มิตรภาพตอบแทนเธอแล้วกัน

    ผมหวังว่าสักวันหนึ่ง ปิ๊กจะเจอใครที่คู่ควรกับความรักของเธอมากกว่าผม



    +++++++++



    หลังจากที่ผมได้รับโทรศัพท์รายงานการมาถึงของปอแก้วจากต้นแล้ว ผมก็ไม่มีกระจิตกระใจ

    ทำงานเท่าไหร่เพราะตอนนี้ใจของผมมันวิ่งไปอยู่ที่ปอแก้วแล้ว



    เมื่อผมเห็นว่าการจับเจ่าอยู่โต๊ะทำงานโดยไม่มีสมาธิทำงานไม่น่าจะเกิดประโยชน์อะไร

    ผมตัดสินใจเก็บเอกสารไว้ทำต่อวันพรุ่งนี้ เพราะถ้าผมจะกลับบ้านตอนนี้คงไม่มีใครหาว่า

    ผมอู้งานเป็นแน่ ก็ผมดูนาฬิกาแล้ว นี่มันใกล้เวลาเลิกงานแล้วนี่น่า



    ก๊อก ก๊อก



    ผมขยาดเสียงเคาะประตูตอนเลิกงานเป็นที่สุด เพราะนั่นหมายความว่าผมอาจโดนเจ้านายเรียกตัว

    หรืออาจจะต้องอยู่แก้งานจนเย็นน่ะสิ แต่ยังไงผมก็ต้องเดินไปเปิดประตู

    แม้ว่าขาของผมมันไม่ยอมก้าวออกไปโดยดีก็เถอะ



    “อ้าวปิ๊ก”



    ผมดีใจจริงๆที่คนเคาะประตูไม่ใช่หัวหน้า



    “เอ็กซ์ เคลียร์งานเรียบร้อย เตรียมกลับบ้านแล้วหรอ”



    “อืม”



    ผมเดาว่าปิ๊กคงเห็นกองเอกสารบนโต๊ะที่ผมจัดเป็นระเบียบเรียบร้อย

    เหมือนคนกำลังจะกลับบ้าน



    “งั้นเอ็กซ์คงมีเวลาสินะ”



    “ทำไม มีอะไรหรอปิ๊ก”



    “ปิ๊กว่า เอ็กซ์ดูเอาเองดีกว่าว่าใครมา”



    ผมเห็นปิ๊กส่งสัญญาณเรียกคนที่หลบอยู่หลังประตูให้เดินออกมาจากลืบเล็กๆนั่น

    ใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อผมรู้ว่าใครคือคนที่เคยหลบอยู่หลังประตูบานนั้น



    “สบายดีหรอเอ็กซ์”



    “ครับ แล้วปอล่ะ ปอดูสวยขึ้นนะ”



    ผมตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก เพราะผมไม่คิดว่าปอจะมาหาผมที่นี่ นี่ผมฝันอยู่รึเปล่าเนี่ย

    ถ้านี่เป็นความฝัน ผมไม่อยากตื่นจากฝันดีนี้เลย



    “งั้นปิ๊กไปก่อนนะ คนไม่เจอกันนานคงมีเรื่องคุยกันแค่สองคนมากกว่า”



    ผมเดาว่าปิ๊กคงน้อยใจที่เห็นผมให้ความสนใจปอมากกว่า แต่ทำไงได้ล่ะก็เจ้าของหัวใจ

    ของผมคือปอนี่น่า ถึงแม้ว่าผมจะสงสารปิ๊กอยู่บ้าง แต่ผมก็อยากคุยกับปอมากกว่า

    ขอโทษนะปิ๊ก เอาไว้ผมจะโทรไปหาแล้วกัน



    +++++++



    ฉันรู้ตัวดีว่าสิ่งที่ฉันทำลงไปมันไม่ถูกต้อง แต่ว่าฉันก็ทนยืนอยู่ตรงนั้นไม่ได้

    ฉันทนเห็นผู้ชายที่ตัวเองแอบรักกำลังมีความสุขกับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ แม้ว่าฉัน

    จะรู้ตัวดีว่าฉันไม่มีแม้กระทั่งสิทธิ์ที่จะโกรธเอ็กซ์ แต่ฉันไม่เข้าใจว่าฉันไม่มีสิทธิ์

    ที่จะรักเอ็กซ์ด้วยรึเปล่า ความรักของฉันเป็นความรักที่ไม่อาจบอกใครได้ โดยเฉพาะเอ็กซ์

    ฉันยิ่งให้เขารู้ไม่ได้ว่าฉันคิดกับเขามากเกินกว่าคำว่าเพื่อน แต่ฉันกลัวจริงๆ

    ฉันกลัวใจตัวเองว่าสักวันหนึ่งฉันอาจหลุดมันออกไป ฉันกลัวว่าเอ็กซ์จะไม่มองฉันแบบเดิมอีก

    ฉันไม่อยากสูญเสียมิตรภาพที่ตอนนี้ฉันมีอยู่ไป ฉันกลัวจริงๆ

    กลัวว่าถ้าวันใดเขารู้ว่าความจริง ฉันจะต้องสูญเสียเขาไป



    ทั้งที่ความจริงฉันรู้จักกับเอ็กซ์ก่อนปอซะอีก แต่ทำไมนะเอ็กซ์ถึงไม่มองฉันแบบที่มองปอบ้างเลย

    เขาคงไม่รู้หรอกว่าฉันน้อยใจแค่ไหนเมื่อในสายตาของเขาฉันมีค่าน้อยกว่าปอแก้ว

    ผู้หญิงใจร้ายคนนั้น ถึงแม้ว่าฉันจะทุ่มเทเพื่อเขามากแค่ไหน

    แต่เมื่อเทียบกับการกลับมาของปอแล้ว ทุกสิ่งที่ฉันทำก็สูญค่าไปในพริบตา

    ฉันเองก็น่าจะตัดใจจากเขาสักที ฉันไม่อยากต้องทนทุกข์เพราะรักคนที่ไม่ได้รักฉัน

    แต่ฉันไม่เคยทำสำเร็จเลยสักครั้ง ทำไมนะการตัดใจถึงได้ยากเพียงนี้



    กริ๊งงงงงงงงง



    ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเพื่อดูว่าใครกันโทรมาดึกดื่นป่านนี้ แต่พอฉันรู้ว่าใครโทรมาเท่านั้น

    ฉันหลับตาตั้งสติสงบจิตใจ ก่อนกดปุ่มรับสาย



    “ฮัลโหลปิ๊ก เราขอโทษนะที่โทรมาดึกป่านนี้”



    “ไม่เป็นไรหรอกเอ็กซ์ มีธุระอะไรสำคัญรึเปล่า”



    เขาคงไม่รู้หรอกว่าแม้จะดึกแค่ไหน แต่ถ้าเป็นเขาโทรมาล่ะก็

    ฉันจะไม่ยอมพลาดแม้แต่สายเดียว



    “เราอยากจะโทรมาขอบคุณปิ๊ก เรื่องปอ”



    “ปิ๊กไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ขอบคุณปิ๊กทำไม”



    “ก็วันนี้ปิ๊กพาปอมาหาเราไง”



    “งั้นเอ็กซ์ไม่ต้องขอบคุณปิ๊กหรอก เพราะปอมาหาเอ็กซ์เอง”



    ตอนแรกที่ฉันเห็นปอแก้ว ฉันเองก็ตกใจไม่น้อย ฉันไม่คิดว่าปอจะมาที่นี่

    ที่ๆฉันไม่อยากให้ปอมามากที่สุดเพราะที่นี่ฉันอยากให้มีแค่ความทรงจำระหว่างฉันกับเอ็กซ์เท่านั้น



    “ปิ๊กไม่โกรธเรานะ”



    “ทำไมถามอย่างนั้นล่ะเอ็กซ์ ปิ๊กจะโกรธเอ็กซ์เรื่องอะไร ในเมื่อเอ็กซ์ไม่ได้ทำอะไรผิด”



    คนที่ผิดคือฉันเอง ผิดที่ดันไปรักเพื่อนสนิททั้งๆที่รู้ว่าเขาไม่มีวันรักตอบ แต่ฉันก็ยังรัก

    เอ็กซ์คงไม่รู้หรอกว่า ตอนที่ปอไปอเมริกาฉันดีใจแค่ไหน แม้ว่าเอ็กซ์จะเสียใจเพียงใด

    แต่ฉันก็ยังดีใจที่อย่างน้อยฉันได้ยืนอยู่ตรงนี้ ยืนอยู่ข้างๆเขาในวันเวลาที่เขาเสียใจ

    ต้องการใครสักคน ฉันยังแอบหวังลึกๆว่าเอ็กซ์จะรักฉันบ้าง ไม่ใช่แบบเพื่อน

    แต่เป็นความรักที่ลึกซึ้งมากกว่าที่เอ็กซ์เคยมีให้ปอ แต่ฉันคิดผิด

    เพราะไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด เอ็กซ์ก็ไม่เคยรักฉันแบบนั้นเลย

    บางทีหัวใจของเอ็กซ์คงบินไปอเมริกาพร้อมกับปอตั้งแต่ตอนนั้น

    จึงไม่มีวันที่ฉันจะได้ครอบครองหัวใจดวงนั้น ดวงที่ฉันอยากได้แต่ไม่มีวันได้มา



    ----------------------------------------------------------

    โปรดติดตาม ตอนต่อไป @^ ^@

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×