ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Ocean Planet

    ลำดับตอนที่ #1 : ลูกชายวีรบุรุษ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 23
      0
      6 ส.ค. 46

                                                                              The Ocean Planet                                                                        



                  ณ…ท่ามกลางอวกาศที่กว้างใหญ่ไฟศาลจนไม่สามารถที่จะหาจุดสิ้นสุดได้นั้นเเม้มันจะเป็นที่ที่น่าพิศวงเพียงไรก็ตาม

                  

                                    เเต่มันก็ซ่อนความสวยงามในตัวของมันเองไว้จนไม่มีสิ่งใดที่จะหามาทดเเทนความสวยงามนั้นได้



               ดวงดาวมากมายที่ต่างเปล่งเเสงส่องประกายของตัวมันเองเเละ กาเเลคซี่หลากสีสันซึ่งเป็นที่รวมของดาวเคราะห์มากมาย



    มีดาวเคราะห์อยู่ดวงนึงที่อยู่ห่างไกลนับหลายปีเเสง เป็นดวงดาวที่มีความสวยงามด้วยพื้นผิวดาวสีฟ้าสดใสเเละปนด้วยสีเขียวของธรรมชาติ



    เเละในดวงดาวนี้ก็มีสิ่งมีชีวิตอย่างพวกมนุษย์อาศัยอยู่ด้วยชื่อของมันคือดาวเคราะห์”โคนีล” ถัดต่อมาคือดาวเคราะห์ดวงที่สองที่มีรูปลักษณะ



    เหมือนพระจันทร์ครึ่งซีกตอนกลางวันมันถูกปกคลุมด้วยสีสันของน้ำทะเลสีฟ้าเเละสีเขียวของป่าไม้ส่วนตอนกลางคืนมันถูกปกคลุมด้วยพื้น



    ผิวสีดำสนิทเเละเเสงสว่างบางจุดเท่านั้นมันคือดาวที่ถูกเรียกว่า”ดาวเมืองท่า”เป็นดาวสำหรับการส่งตัวของเรืออวกาศต่างๆ เเละดาวเคราะห์ดวง



    ที่สามคือดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ที่ถูกปกคลุมด้วยความมืดตลอดวันเผยให้เห็นถึงเส้นทางสีทองของไฟมากมายที่ล้อมรอบไปด้วยดาวเคราะห์



    นับสายสายชื่อของมันคือ “ดาวเคราะห์เซพีเลีย”เป็นดาวเคราะห์ที่มีความเจริญทางด้านวัฒธรรมที่รุ่งเรืองเเละถือเป็นดวงดาวการค้าพร้อมกับ





    เป็นดาวที่รวบรวมเทศกาลตะกานตาต่างๆอีกด้วย ความจริงเเล้วดาวเคราะห์ดวงนี้เคยเกือบที่จะสูญสลายไปเพราะเหตุการณ์ดาวหางฟุ่งชนเเต่



    เพราะเหตุการ์ณนี้นี่เองจึงทำให้เกิดวีรบุรุษคนเเรกขึ้นที่เป็นคนช่วยดาวเคราะห์ดวงนี้ไว้ถ้ากล่าวถึงวีรบุรุษคนนี้เขาได้สร้างวีรกรรมที่ยิ่งใหญ่ไว้



    ในเหตุการ์ณเมื่อ10ปีก่อน



    จอนห์ บีเเคนเนอร์ พลเอกของเรืออวกาศชื่อ ทาสซิมพาเรียที่ 4 วีรบุรุษผู้กล้าหาญที่ยอมเอาชีวิตตัวเองเข้าเสี่ยงโดยการใช้เรืออวกาศของเขา



    ขับเข้าฟุ่งชนดาวหางขนาดใหญ่ที่มีเส้นฝ่านศูนย์กลางถึง 80 กิโลเมตรที่ฟุ่งตรงมามาด้วยความเร็วสูงเเม้มันจะดูว่าอันตรายเเต่เขาก็สามารถที่



    จะช่วยเหลือดาวเคราะห์ เซพีเลีย ให้รอดพ้นจากดางหางนั้นได้สำเร็จ



    จากการกระทำอันยิ่งใหญ่อันนี้เองทำให้ทุกคนทั้งหมดต่างยกย่องในความกล้าหาญของเขาเเละต่างพากันเขาว่า “จอนห์ยอดวีรบุรุษ



    หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นจบลงเป็นเวลายาวนานถึง 10 ปี ความทรงจำที่เเสนน่ากลัวของสิบปีก่อนได้หายไปจากความคิดของทุกคนโดยสิ้น



    เชิงเเต่ชื่อเสียงของวีรกรรมครั้งนั้นยังคงถูกย่องยกให้เป็นที่ชื่นชมของทุกคนตลอดมา



    ณ..ดาวเคราะห์ “โคนีล”ที่อยู่ห่างไกลจากดาวเคราะห์ “เซพีเลีย” 3800กิโลเมตรที่นับว่าเป็นดาวเคราะห์ดวงเเรกที่ผู้เดินทางมาจากดาวดวงอื่นที่



    ห่างไกลเดินทางมาถึงเป็นดวงเเรกดาวเคราะห์ “โคนีล”คือดาวเคราะห์ที่มีสภาพพื้นผิวที่สวยงามเเละอุดมสมบรูณ์เเต่มีคนที่อาศัยอยู่บนดาวดวง



    นี้ไม่มากนักเเละจัดว่าเป็นดาวเคราะห์ของคนสังคมส่วนน้อยที่ไม่มีความเจริญมากเท่ากับดาวเคราะห์ ”เซพีเลีย” สภาพภูมิอากาศของดาวดวงนี้



    เเบ่งไปตามสภาพของธรรมชาติคือจะมีอากาศร้อนในเเถวของที่ที่มีป่าไม้เเละมีอากาศเย็นตามเเนวเชิงเขาสูงประกอบกับมีฝนตกในเวลาที่มีอากาศร้อนจัดหรือตอนกลางคืน



    คนที่อาศัยอยู่ที่ดาวดาวนี้ส่วนใหญ่มักจะประกอบอาชีพจำพวก เกษตร เช่นการเลี้ยงสัตว์ การทำไร่ทำสวนหรือตัดฟืนเป็นส่วนมากมีเมืองหลวง



    เพียงเมืองเดียวเท่านั้นที่อยู่ทางตอนกลางของหมู่บ้านต่างๆที่ตั้งอยู่ตามบริเวณพื้นที่ธรรมชาติ ส่วนเมืองหลวงที่เป็นเมืองขนาดใหญ่เเม้จะ



    มีความเจิรญมากว่าหมู่บ้านเล็กน้อยก็ตามเเต่เป็นเมืองหลวงที่มีสภาพโทรมๆภายในเมืองมีร้านค้าตั้งขายมากมายที่ถูกส่งมาจากดาวเคราะห์



    ”เซพีเลีย” โดยมีเรืออวกาศของพวกพ่อค้าต่างๆส่งมาขายต่อ ประกอบไปด้วย บาร์ เเละร้านเหล้าที่เป็นศูนย์รวมของพวกนักเลงหรือพวกนอกกฎเกนฑ์เเละที่นี่เองซึ่งดูเหมือนว่าจะมีบาร์อยู่เเห่งกำลังมีเรื่องกันเกิดขึ้น

            

    หน่อยเเน่ะ! เเก…ไอ้เด็กอวดดี กล้าหาเรื่องกับพวกเรางั้นเรอะ!



    ปึก!! ปึก!! โครม……ตึง!



    “อ้า….!” เสียงร้องของเด็กหนุ่มคนนึงที่ถูกพวกนักเลงในบาร์อัดกระเด็นออกมาจากร้านอย่างสุดเเรง เด็กหนุ่มพยายามทรงตัวเองให้ยืนขึ้น “อึ้ย…!”



    “ไง…ซ่าส์มากนักใช่มั้ย?” นักเล็งคนหนึ่งพูดเเละเตะซ้ำเข้าที่หน้าท้องของเด็กหนุ่ม

    ปึก!!



    “อั่ก…!”เด็กหนุ่มคนนั้นอุทานออกมาเเละตามด้วยอาการจุกที่ท้องเพราะลูกเตะนั้น เขาถึงกลับสำลักอยู่หลายครั้งใหญ่ “อะ..หึ่ม..อะ..หึ่ม..อะหึ่ม…”



    “เฮ้…ไอ้หนูอย่าพึ่งหมอบซิ”นักเลงรูปร่างผอมคนหนึ่งพูด “เฮ้…พวกเราซ้อมมัน!!” เขากระโกนบอก



    เเละเพียงเเค่ชั่วอึดใจพวกเขาก็ต่างพากันรุมเด็กหนุ่มอย่างสนุกสนานเหมือนกับว่าไม่ได้มีความรู้สึกสนุกเเบบนี้มาก่อน



    ปึก!! ปึก!! ปึก!! พลั่ก!! ผัวะ!!



    “เอ้า…ไอ้หนูเป็นอะไรไปละ?..ความกล้าเมื่อกี้หายไปไหนเเล้วฮึ?” นักเล็งผมตั้งคนหนึ่งพูดเยาะเย้ยเขาขณะกำลังรุมสะกำเขาอย่างเมามัน เด็กหนุ่มไม่มีโอกาสที่จะลุกขึ้นสู้เเต่

    อย่างใดเขาได้เพียงเเต่ส่งเสียงเจ็บปวดเล็กๆเท่านั้น “โอ้ย…!”



    “อย่าทำอะไรเขานะ!”เด็กสาวเเต่งตัวคล้ายกันคนเสริฟ์ในบาร์ตะโกนขึ้นพร้อมกับทำท่าเหมือนกลับจะวิ่งมาห้ามปามเเต่เจ้าของร้านบาร์นั้นมารั้งตัวเธอไว้ไม่ให้เข้าไปยุ่ง



    “อย่า…อย่า…เข้าไป”เขาพูดบอกกับเธอขณะจับตัวของเธอไว้เพื่อไม่ให้เธอออกไป

    พวกนักเลงต่างรุมอัดเขาอย่างต่อเนื่องไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเลยเเม้เเต่น้อย



    “อย่า…นะ!”เด็กสาวคนนั้นกระโกนเสียงดังเเละสะบัดตัวของเธอหลุดออกจากการถูกรั้งพร้อมกับวิ่งเข้าไปทางด้านหน้าของเด็กหนุ่ม



    “เฮ้ย..!…อะไรกันเนี่ย…อย่ามาขว้างน่า..หลีกไป”นักเลงคนหนึ่งพูดเสียงดัง

    “ขอร้องเถอะนะค๊ะ…อย่าทำร้ายเขาอีกเลย…ได้โปรดเถอะค่ะ”เด็กสาวพูดขอร้องพวกนักเลงพวกนั้น



    “เฮอะ!…ได้ถือว่าวันนี้เเกยังโชคดีไอ้หนู”นักเลงผมตั้งพูด “เฮ้ย…พวกเรากลับเหอะ”



    คราวหน้าอย่าซาส์อีกก็เเล้วกัน…..ฮ่าๆๆ เเละนักเลงพวกนั้นก็เดินจากไปทิ้งไว้เเต่คำพูดเตือนปนด้วยความสะใจ



    “เป็นอะไรหรือเปล่า?”เด็กสาวถามอย่างเป็นห่วง ขณะที่เด็กหนุ่มกำลังใช้หลังมือข้างหนึ่งเช็ดเลือดกำเดาของเขาออกเเละทรงตัวขึ้นพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองเด็กสาว

    ปรากฏให้เห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มคนนั้นได้อย่างชัดเจน หน้าของเขานั้นคมสัน ดูหล่อเหลา เเววตาดูมุ่งมั้น ผมสีน้ำตาลอ่อนเเสกระหว่างสองข้างทรงผมที่ทอดเรียงลงมาตาม

    ลอยเเสกนั้นตรงกลางหน้าผากมีจงอยผมส่วนนึงตกลงมาเเสกกลางหน้า ที่เเก้มซ้ายมีรอยบาดของมีดอยู่ เเต่งตัวดูเหมือนเด็กเสเพที่มอมเเมมด้วยเสื้อนอกสีเขียวเข้มเสื้อในสีดำสนิทเเละกางเกงสีเขียวเข้มมีรอยขาดเล็กน้อย



    “เป็นอะไรหรือเปล่า?”เด็กสาวถามอีกครั้ง “ทำไมเธอต้องยอมพวกนั้นด้วย”



    เด็กสาวถึงกับชะงั่กไปชั่วขณะเพื่อได้ยินคำถามของเด็กหนุ่มจนทำให้เธอตกใจ



    “เธอ…ไม่ควรที่ยอมพวกนั้นเลย”เขาบอกกับเธอ    “เเต่…คุณ…จะ”



    “เมื่อชั้นยอมที่จะช่วยเธอเเล้วก็ต้องช่วยเธอให้ได้เเต่ถ้า…ชั้นถูกอัดก็ถือว่าชั้นมันไม่เจียมตัวเองก็เเล้วกัน” เด็กหนุ่มพูดเเละลุกยืนขึ้นเด็กสาวเข้าไปประคองทันที



    “ฮึ้ย!…อย่ามาจับน่า!”เด็กหนุ่มออกเสียงพร้อมกับสะบัดเเขนเพื่อไม่ให้เธอประคองเขาเเละเดินจากเธอไปปล่อยให้เด็กสาวส่งสายตามองอย่างเป็นห่วงอยู่ข้างหลัง





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×