พี่สาวผู้ใจดี
                                   
                                ผมรู้อยู่แก่ใจว่ารู้สึกอย่างไรกับพี่เขา แต่เมื่อผมสบตามองเธอครั้งใด ความรู้สึกดังกล่าวกลับเจิดจ้าขึ้นทันใด ผมเองก็เพิ่งเจ็บปวดมากับหญิงสาวคนหนึ่ง เธอตอบผมว่าให้เป็นเพื่อนกันไปจะดีกว่า ผมเองค่อนข้างฉลาดไปตีความว่าเธอคงยินดีให้เราคบกันฉันเพื่อนไปก่อนแล้วค่อยพัฒนาความสัมพันธ์ไปเรื่อยๆ แต่เธอกลับปฏิเสธการติดต่อของผมหมดทุกทาง อย่างนี้ไม่ให้ผมครวญครางร้องไห้ฟูมฟายได้อย่างไร
    แม้เธอจะเป็นดอกไม้ดอกเดียวในที่ทำงาน แต่เธอเป็นเหมือนที่พึ่งแห่งสุดท้ายที่ผมมีอยู่ ผมเล่าเรื่องทุกสิ่งทุกอย่างให้เธอฟัง เพื่อนร่วมงานรุ่นพี่คนนี้ก็ดูนิสัยดี คอยรับฟังและให้คำปรึกษาผมเสมอว่าลองพยายามติดต่อเธอบ่อยๆ ซักวันเธอต้องใจอ่อนหากผมไม่คิดยอมแพ้เสียก่อน ไม่งั้นก็ควรทำใจยอมรับความจริงของการอกหักซึ่งดีกว่ารักใครไม่เป็นเป็นไหนๆ ในยามทุกข์รุ่มร้อนใจเช่นนี้ผมย่อมสบายใจ ผ่อนคลายได้เยอะเพราะมีพี่ที่แสนใจดีคนนี้อยู่เคียงข้าง
    “ผมมีความสุขมากเลยพี่
วันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา มันเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำจริงๆ”
    “ทำไมเหรอ
พี่ว่าน้องตั้มควรหาโอกาสไปพักผ่อนเที่ยวทะเลบ่อยๆนะ”
    “ไม่ใช่พี่
คือว่า
คนที่ผมแอบชอบเขาไปด้วยสิ”
    “แล้วยังไงล่ะ?”
    ผมได้เล่าเรื่องราวการเดินทางไปพักผ่อนชายทะเลที่บ้านกรูด เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาให้เธอฟัง มันเป็นเหตุการณ์ที่น่าประทับใจมาก เพื่อนฝูงคนใกล้ชิดทั้งหมดที่ไปต่างอำนวยความสะดวกให้ผมอยู่กับคนพิเศษสองต่อสอง ทั้งที่ริมทะเลตลอดทั้งวัน และยามเช้าตรู่ แต่ผมกลับรวบรวมความกล้าได้ช้าเต็มที จึงได้คุยกับเธอช้าไปในยามรุ่งขึ้นของวันเดินทางกลับ แล้วก็ได้การตอบรับอย่างถนอมน้ำใจจากเธออย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย ทำให้ผมแอบฝันละเมอถึงความเป็นไปในอนาคตข้างหน้าว่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้อยู่ข้างเดียว ที่แท้ก็เป็นฝันกลางวัน!!! เฮ้อ !!
    สองสามวันมานี้ ผมเหมือนมีไฟสุมในกายตน มันร้อนไปหมดไม่สามารถดับไฟแห่งความคิดถึงลงได้ จิตใจไม่อยู่กับตัว ไม่อยู่กับงาน จ่อมจมอยู่กับภาพชายทะเลและรอยยิ้ม ความสนุกสนานของวันวาน มันน่าประทับใจไหมล่ะ
.ขนาดเพื่อนที่ไปเที่ยวที่ดูไพ่ยิบซีเป็น ยังทำนายทายทักว่าผมเป็นคนรักเก่าที่จะกลับมาหาผู้หญิงคนพิเศษอีกครั้ง แต่ต้องให้เวลาตัดสินใจแก่เธอหน่อย ผมเปิดไพ่ได้ใบที่แม่หมอพูดไว้ว่าเป็นรักสามเส้า ให้ระวังไว้ให้ดี และจะต้องเจออุปสรรคเป็นเรื่องยากที่จะสมหวัง
    “ไม่เป็นไรหรอก
ทำใจดีๆ ไว้”
    เพื่อนรุ่นพี่ยังคงพูดปลอบผมอยู่ตลอดยามที่เห็นผมนั่งเหม่อลอย ผมมองหน้าพี่เขาด้วยแววตาของคนหมดอาลัย เจ็บปวดสุดจะเกินทน พี่เขาก็มองตอบด้วยความเข้าใจ เพื่อนๆ ในห้องที่ล้วนเป็นผู้ชายต่างทำสีหน้าเป็นห่วงผม มีแต่พี่คนนี้ที่คอยปรับอารมณ์ให้ตรงกับความรู้สึกของผม
.ซึ่งผมรับรู้ได้
    “มีอะไรก็พูดปรึกษาพี่ขวัญสิ”
    เพื่อนคนหนึ่งแนะนำแก่ผมขณะที่พี่ผู้ใจดีได้ยินด้วย ผมได้แต่ตอบไปว่า
    “เกรงใจน่ะ
กลัวจะรบกวนเปล่าๆ”
    “เล่ามาสิตั้ม
ถ้าไม่พูดแล้วพี่จะรู้หรือว่ารู้สึกอย่างไร”
    “พี่
ผมโทรไปเขาก็ไม่ยอมรับ
ส่งเมล์ไปไม่ยอมตอบกลับ
”
    “มันเหมือนว่าเขากำลังปิดกั้น
มิให้ผมรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวของเขา”
    “คงต้องให้เวลาเขาหน่อย
พยายามส่งเมล์ไป
แต่อย่าใช้คำพูดบีบบังคับเขานะ
พูดทำนองเพื่อนที่หวังดี
”
    “ได้ครับ
ต้องอดทนเนอะ
”
    ผมมองหน้าพี่อย่างเรียกร้องความเห็นใจ รุ่นพี่ส่งแววตาตอบอย่างเป็นห่วง อย่างน้อยมันก็เป็นความหวังดีจากคนชิดใกล้ที่มีอยู่จริง มิใช่พร่ำเพ้อ
   
    หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป ผมเริ่มทำใจได้บ้าง อีกทั้งเริ่มวันจันทร์ก็มีงานยุ่งด่วนๆ เข้ามา ทำให้ผมลืมคิดถึงใครบางคนไปได้ และได้มีโอกาสช่วยพี่ผู้ใจดีของผมอย่างเต็มใจ  ผมคอยช่วยพี่เขาค้นหาข้อมูล ช่วยร่างจดหมาย และช่วยค้นหาข่าวในหนังสือพิมพ์ อะไรที่ผมพอช่วยพี่เขาได้ ผมทำให้หมด เพราะรู้สึกขอบคุณน้ำใจที่พี่เขามีต่อผมในการเป็นที่ปรึกษาหัวใจให้
    ผมเริ่มมองหน้าพี่เขาด้วยสายตาของคนปกติมากขึ้น ก่อนหน้านั้นแววตาของผมจะชุ่มด้วยหยาดน้ำตลอดเวลา ตอนนี้ผมเริ่มมองเห็นความหวังดีที่อยู่ตรงหน้ามากขึ้น เริ่มห่วงใยพี่เขามากขึ้น และคอยเป็นกังวลคอยช่วยเหลืองานของพี่คนที่คอยปลอบผมแต่ต้น
    ยามที่ผมทุกข์ท้อใจ พี่เขาจะส่งยิ้มมาเป็นกำลังใจให้ ผมเพิ่งมองเห็นชัดเจนว่ามันเป็นรอยยิ้มที่ออกมาจากใจจริงของผู้หญิงที่หวังดี จากแววตาที่อ่อนโยนที่สุด แล้วผมจะยิ้มกลับให้พี่เขา บางครั้งเราก็พูดคุยกันอย่างสนิทสนม ยืนใกล้กันและนั่งคุยกันใกล้ๆ ผมรู้สึกอบอุ่นเมื่ออยู่ใกล้พี่เขา รู้สึกว่าชีวิตไม่โดดเดี่ยวเกินไป
จนในที่สุดผมเริ่มรู้สึกชอบรอยยิ้มของพี่เขา อยากให้พี่ยิ้มในยามผมเหนื่อยหัวใจ
อยากให้พี่เขามาอยู่ใกล้ๆ เวลาผมไม่มีใคร
และพี่เขาก็ดูไม่รังเกียจผม
พี่เขามักจะหลบสายตาผมเวลาผมมองหน้าเขาตรงๆ มองแล้วเหมือนหญิงสาวที่เขินอายอย่างไรไม่รู้
    เวลาผมทำงานเหนื่อยๆ ผมจะหันไปมองพี่เขา พี่เขาก็จะยิ้มตอบ หรือไม่ก็มองมาด้วยความห่วงใย ผมชอบอาการที่พี่เขาเสยเส้นผมบ๊อบของตนไปเรื่อยๆ ดูแล้วมีความสุขดี จริงๆ แล้วพี่เขาก็หน้าตาน่ารัก เป็นคนดี แต่เสียอย่างเดียวคือมีครอบครัวแล้ว ผมคงรักษาความสัมพันธ์ของเพื่อนร่วมงานที่ดีต่อไป
    แล้ววันหนึ่ง
ผมได้อยู่สองคนกับพี่ในห้องทำงาน มันเป็นวันที่ผมล่วงรู้ว่าพี่เขามีความรู้สึกอย่างไรต่อผม
    “ตั้ม
เรามีแผ่นซีดีเพลงใหม่ของเสาวลักษณ์ไหม”  พี่สาวใจดีถามผม
    “เพลงอะไรเหรอพี่
เดี๋ยวผมจะค้นให้”
    “เพลงที่มีเนื้อร้องว่า
”
    “มีนี่พี่
.เดี๋ยวผมเปิดให้ฟัง”
    พี่สาวคนเดิมขยับเดินเข้ามาใกล้ เธอฮัมเพลงคลอเบาๆ อยู่ใกล้ๆ หู ผมกำลังจะเลือกเพลง แต่บังเอิญมือของผมไปชนท่อนแขนของพี่เขาซึ่งจะมาหมุนปุ่มเร่งเสียง ผมสะดุ้ง ดึงมือกลับทันทีที่รู้สึกถึงไออุ่นของผิวกายจากผู้หญิงคนหนึ่ง เธอก็เช่นกัน แต่ผมก็จับความรู้สึกได้ว่าเธอไม่รังเกียจ ผมทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    “พี่ชอบเพลงนี้เหรอ
”
    “จ๊ะ
.เนื้อหามันเพราะดี
    “เดี๋ยวผมจะเปิดบ่อยๆ แล้วกัน”
    เนื้อหาของเพลงเกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งคร่ำครวญว่าตนเองเหลือเวลาให้กับความรักได้น้อยเต็มทน
จริงนี่นา
พี่เขาคงเจตนาให้ผมล่วงรู้ถึงความรู้สึกในจิตใจเขาในตอนนี้ ความรู้สึกของผมมันก็คงเป็นความรู้สึกที่ดีต่อกัน มันอาจจะเป็นความรักที่ไม่สามารถเป็นในทางชู้สาวได้
    ผมเป็นคนที่คิดมาก ไม่อยากคาดหวังความสัมพันธ์ที่นอกลู่นอกทาง ไม่อยากสร้างตรารอยบาปความเจ็บช้ำให้แก่ใคร ฉะนั้นผมจะต้องสลัดความคิดไม่ดีต่างๆ ออกไปจากหัว แต่ในความจริง กลับทำเช่นนั้นได้ไม่
    ผมพยายามไม่สบตาพี่เขา แม้ในยามสนทนากัน ผลสะท้อนกลับมาคือพี่เขามองหน้าผมด้วยความสงสัยมึนงง  แม้จะเหลือบมองเห็นพี่สาวมองผมด้วยท่าทีนิ่งเงียบและดูเศร้า การวางตนที่เย็นชา ไม่ยิ้มแย้มเหมือนวันก่อนคงทำให้พี่ที่แสนดีของผมเจ็บปวดอยู่เช่นเดียวกันกับผม หลายครั้งพี่เขาจ้องมองดูผมผ่านทางกระจกหน้าต่างของห้อง เธอคอยแอบมองผม คอยดูผมอยู่ไกลๆ ว่าผมเป็นอะไรไป จิตใจผมรับรู้ได้ แม้จะบังคับตนเอง แต่ก็อดที่จะหันไปมองพี่สาวไม่ได้ มันเหมือนเรามีอะไรผูกพันลึกๆ ภายใน ที่ผมเองก็ไม่เข้าใจว่ามันคือสิ่งใดแน่
    ผมยังคงช่วยเหลืองานพี่เขาอยู่ บางครั้งการยื่นเอกสารให้กัน ก็ต้องมีการสัมผัสมือบ้าง ผมล่วงรู้ถึงอาการของคนที่มีใจให้กันว่าเขาจะใช้โอกาสดังกล่าวอย่างไร บางครั้งผมก็ใช้โอกาสดังกล่าวแสดงความรู้สึกของตนเช่นกัน พี่เขาก็นิ่งชะงัก พร้อมทั้งรีบดึงมือกลับ แต่เราก็ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับสิ่งนั้นอีกเลย
    บางครั้งเจ้าความรู้สึกที่ผมมีต่อพี่ ทำให้ผมเรียกร้องความสนใจ ด้วยการมองพี่เขา ซึ่งการทำงานร่วมกันในฝ่ายบางหนก็มีงานยุ่ง ไม่สามารถมองเห็นกันได้ มันจึงเป็นความทรมานอย่างหนึ่งต่อผมและคงเป็นความทุกข์เช่นกันของพี่ผู้นี้ ที่เราต่างรับรู้ด้วยกัน ใจผมอยากจะอยู่เพียงลำพังกับพี่เขา เพื่อจะแสดงความรู้สึกนึกคิดของตน เปิดอกคุยกันให้รู้เรื่อง
    มันเป็นความรู้สึกที่ทุกข์ทรมานอยู่ในใจ ผมและพี่ก็คงรู้ว่ามันไม่ถูกต้องทางศีลธรรมแม้แต่เพียงคิด แต่บางครั้งอะไรล่ะที่ทำให้คนเรากระทำไปตามสิ่งที่เกิดขึ้นข้างในโดยยอมขัดกับเหตุผล
   
.
    ที่ผมเคยแสดงอาการเมินเฉยต่อพี่ที่ใจดี ในตอนนี้ผมกลับเป็นฝ่ายถูกกระทำบ้าง ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดพี่เขาถึงเฉยเมยไม่เหมือนแต่ก่อน ผมพยายามทบทวนว่าทำสิ่งใดให้พี่เขาเคืองโกรธหรือเปล่า ไม่เห็นมี หรือว่าผมประพฤติตัวไม่ช่วยเหลือพี่เขาก็ไม่ใช่ อาการที่พี่เขาไม่ใยดีผมเหมือนในวันวานกลับสร้างความทรมานในจิตใจผมเป็นอย่างยิ่ง ทั้งที่มันน่าจะเป็นหนทางที่ถูกที่ควรจะเป็น แต่ผมรู้สึกกำลังสูญเสียบางสิ่งที่สำคัญไป
    เป็นเวลาหลายสัปดาห์ที่ผมกับพี่ที่ใจดีไม่ค่อยได้พูดจากัน ผมไม่รู้เป็นเพราะเหตุใด ผมจะไม่พยายามไถ่ถามถึงเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น เวลาเพื่อนร่วมงานคนอื่นพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องผม พี่เขาจะทำเป็นไม่สน ไม่ยุ่งเกี่ยว พยายามถอยห่างออกไป แม้ผมจะเข้าไปพูดคุยด้วย เธอก็ยังปิดกั้นไมตรีไม่ยอมรับรู้ใดๆ
    ผมได้แต่ทำดีกับพี่เขาต่อไปทั้งที่ในใจยังมึนงงอยู่ อย่างน้อยในฐานะเพื่อนร่วมงานที่ต้องพบกันทุกวันไป ก็ควรที่จะเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีต่อกันได้ ในใจยังหวังลึกๆ ว่าเธอคงจะกลับมาเป็นคนเดิมผู้ที่ดูแลห่วงใยไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบดังเช่นวันวาน
   
..
    ในช่วงต้นเดือนมกราคม พี่ขวัญลาพักร้อนหนึ่งสัปดาห์ ผมเป็นทุกข์ไม่สบายใจในช่วงดังกล่าว กังวลเรื่องงานใหญ่ที่เข้ามา ทั้งเรื่องงานและเรื่องคน มีอยู่ครั้งหนึ่งผมคิดไปว่าพี่เขาตั้งใจหลบหน้าผมหรือเปล่าถึงได้ลาหยุด แต่ผมก็หาได้ทราบไม่
   
.หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป พี่ขวัญกลับมาทำงานเหมือนเดิม คราวนี้พี่เขายอมพูดจากับผมโดยดี แต่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของงานต่างๆ มากกว่าเรื่องส่วนตัว แล้วผมก็ได้รู้จากคนรอบข้างว่าตอนนี้พี่ขวัญกำลังจะมีน้องคนแรก
..เพียงเท่านี้ก็ทำให้ผมเข้าใจได้ทุกสิ่งทุกอย่างแล้วว่า ที่ผ่านมาเหตุใดพี่เขาถึงไม่ยอมพูดจาอะไรกับผม และเหตุใดผมถึงไม่สามารถเข้าไปก้าวล้ำความสัมพันธ์ที่เกินเลยกว่าเพื่อนร่วมงานได้
    พี่ผู้แสนดี
...ยินดีด้วยครับกับความสำเร็จในการได้เป็นแม่คนในครั้งนี้ ขอให้เรายังเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีต่อกันไปตลอดนะ
..ถ้าเป็นไปได้นำชื่อเล่นผมไปตั้งให้ลูกน้อยก็ได้ครับ
   
               
.จบ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น