อย่าดีกว่า - อย่าดีกว่า นิยาย อย่าดีกว่า : Dek-D.com - Writer

    อย่าดีกว่า

    สมองเล็กเล็กของเด็กม.ปลาย

    ผู้เข้าชมรวม

    520

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    520

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  8 ก.พ. 47 / 18:35 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      เรื่องนี้เปนเรื่องเล่าใน สมัยเรียนมัธยม ก่อนที่ผมจะเข้ามาเรียนที่มหาลัย ในกรุงเทพ เรื่องนี้เปนเรื่องเล่าของโรงเรียนเลย เรื่องมีอยู่ว่า ก่อนหน้านั้น ที่จะมีโรงเรียนมาสร้าง ที่ตรงนั้น เคยเปนที่ป่าช้าของวัดมาก่อน ต่อมาทางวัดได้ให้มีการสร้างโรงเรียน จึง ได้สร้างทับที่ของป่าช้านั้น ซึ่งในตอนที่สร้างโรงเรียน ก้อมีคนประสบอุบัติเหตุหลายคน กว่าจะสร้างโรงเรียนเสร็จ ซึ่งในตอนนั้นก่อนจะเกิดเหตุการณืกับพวกเรา ก้อมีเหตุกับอาจารย์ผู้สอนเสียก่อน โดยในเหตุการณ์นั้นอาจารย์คนนั้นได้ถูกพัดลม เพดานในห้องพักครู ตกลงมาฟาด โดยใบพัดได้เฉือนลำคอของแก แหว่งไปครึ่งนึง เลยทีเดียว เลือดงี้กระจายเต็มไปหมด อาจารย์บางคนที่อยู่ในนั้นบางคน ถึงกับสลบ พวกนักเรียนหญิงที่ เข้าไปเห็นก้อร้อง วี๊ด ว๊ายกันใหญ่ หรือแม้แต่นักเรียนชาย ที่เข้าไปดูเหตุการณื ยังขาสั่น สมัยเรียนมัธยม ทุกคนคงเคยมีการตั้งกลุ่มรวมกัน ใช่ไหมครับ ผมก้อเหมือนกัน ช่วงเรียนมัธยมนี่รู้สึกมันจะคึกคะนองมาก เรามีการตั้งกลุ่มกัน เวลาไปเที่ยวก้อไปด้วยกัน ทุกๆวันศุกร์ทางโรงเรียนมักจัดทำกิจกรรม ทำความสะอาดกัน แต่ในวันนั้นขณะที่ทำความสะอาดกันอยู่ ก้อ มี นร. หญิงคนนึงตกบันได ลงมาคอหัก เสียชีวิตทันที หลังจากนั้นก้อ นักการ ภารโรง ของโรงเรียนเรียนได้ถูก หวยรางวัล ที่หนึง่ แต่ก้อก่อนที่ไปขึ้นรางวัลก้อถูก ภรรยาน้อยยิงเสียชีวิต วึ่งเรื่องเหล่านี้มักเกิดขึ้น ในวันศุกร์ ทั้งนั้น จน กระทั่งเลยมาได้ปีนึง ไม่มีเหตุการณ์ วันศุกร์ สยองแบบนี้เกิด ขึ้นอีก จนกระทั่งวันนึงมันก้อเกิดขึ้นอีกจนได้ วันนั้นทางอาจารย์ได้ให้พวกนักเรียนจัด บอรด์เพื่อที่ เตรียมในวันงาน ของโรงเรียน ซึ่งบ้างห้องทำเสร็จก้อกลับไปก่อน จนเหลือ พวกที่ยังทำไม่เสร็จก้อต้องทำบอร์ด ต่อ ก้อเหลืออยู่ประมาณ 10 คนได้ นอกนั้นที่เหลือ ก้อได้กลับบ้านกันหมด เกลี้ยง ส่วนผมน่ะหรอ ไม่ได้เกี่ยวกับเค้าหรอก แต่รอกลับ พร้อมแฟน เลยต้องรอเค้าทำเสร็จ ขณะที่ที่แฟนผมกะลังทำบอร์ด ไป คุยเล่นกับเพื่อน ไป อย่างสนุกสนาน ผมก้อเลย ออกไปโทรศัพท์บอกทางบ้าน ว่าอาจจะกลับ ดึกสักหน่อย ขณะเดินกลับที่ที่พวกแฟนผมทำบอร์ด ผมรู้สึกว่า ตอนกลางคืนนี่ โรงเรียนมันช่างโคตร น่ากลัวเลย เงียบเป็นป่าช้าเลย ทำบอร์ดกันไปจน 3ทุ่ม ทีนี้ จนได้ครับ ไอ่เชิดตัวดี มันก้อเริ่มเล่าเรื่องผี มันทำไมต้องมีเล่าเรื่องผีกันด้วย แล้วบรรยากาศในโรงเรียนตอนนี้ก้อเงียบสุดๆ ทีนี้ล่ะไม่เปนอันทำงานต่อเลย ปวดฉี่กัน ก้อไปไม่เปนกันเลย ไปกันที ยกกันไป4-5คน ยิ่ง เหนเค้ากลัวกันมากๆ นายเชิด ก้อยิ่งได้ใจ ... ผมเลยต้องบอกให้เพลาๆ บ้าง เด๋วเสร็จดึกแล้วกลับบ้านลำบาก แล้ว แหม...ไอ่เวลาแบบนี้ คนยิ่งกลัวบรรยากาศมันยิ้งหลอนเลย ที่นี้หมาหอนเปนเปนช่วงๆ นายเชิดมันยิ่งชอบใจใหญ่ที่แกล้งพวกผู้หญิงได้ ถึงตอนนี้ยัย ต่าย กับยัย ฟ้า เบียดกระแซะมาทางผม ผมได้แต่ยิ้มๆ ให้นายเชิด ยิ่งหมาหอนสาวๆยิ่งกลัวกันมาก นาย โก้ ก้อตัดบท ว่ารีบทำกันเข้า งานยังต้องรีบ ผมเลยบอกแนน โทรกลับบ้านหรือยัง แนนบอกโทรไปแล้ว แต่บอกไม่ดึก ผมเลยบอกงั้นรีบๆทำสิ เด๋วเราไปส่งแล้วยังต้องขี่ มอ\"ไซด์กลับบ้านอีกน่ะ ทำไปทำมากว่าจะเสร็จก้อเกือบ 5ทุ่ม ตอนนี้พวกเราก้อช่วย
      กันเก็บเศษขยะ ที่ทำเอาไว้ สักพักก้อมีลมพัดมาอย่างแรง พัดจนหน้าต่างทีเกี่ยวขอไว้หลุดออกมา ฟาดกับผนัง เสียงดัง ปัง ...ทุกคนหันไปมองที่หน้าต่าง เฮ้ย นั่น พวกเรา เราเหน เงาลางๆที่หน้าต่าง นาย อาท วิ่งไปที่หน้าต่างอย่างรวดเร็ว มองไปที่ระเบียง ก้อไม่เหนใคร....ถึงตอนนี้ความเงียบเข้าปกคลุมกลุ่มผู้หญิงไปหมด แต่นายเชิดกับกลุ่มผู้ชายก้อคิดว่าเปนมุขนายอาท นายโก้จึงบอกให้นายอาทปิดหน้าต่างเพราะเราจะกลับกันแล้ว ...... แต่นายอาทก้อยังยืนยันบอกว่าเหนจิงๆๆขณะที่นายอาทจะปิดทีนี้ ลมพัดเอาหน้ากระแทกกับผนังดังอีก ปัง คราวเสียงกรี๊ด ระงมไปทั่ว นายเชิดจึงรีบไปปิดหน้าต่าง พร้อมบ่นนายอาท ว่าไม่ยอมรีบปิด ขณะที่เชิดเข้าไป ก้อเหนนายอาทยืนตัวแข็งทื่อ อยู่อย่างนั้น นายเชิดก้อต้องชะงักเมื่อเหน สายตาคู่นึงที่อยู่อีกฝั่งตรงโต๊ะม้าหินจ้องเขม็งมา นายเชิดกะนายอาทมาเล่าให้ฟังทีหลังว่า เค้ากลัวมาก แม้จะตะโกนเรียกให้เราเข้ามาดู หรือจะวิ่งออกไป ก้อทำไม่ได้ สมองมันชาไปหมด ถึงตอนนี้ผมกะโก้ ก้อได้ เข้าไปทั้งคู่แล้วจึงปิดหน้าต่างกันเอง พร้อมถามทั้ง 2คนว่าเปนอะไร แต่ทั้งคู่ก้อไม่ตอบ เราได้เดินมาตามทางเรื่อยๆ เผื่อมาเอารถตรงที่จอด ขณะเดินผ่านห้องวิทยาศาสตร์ รู้สึกมันน่ากลัวมาก เหน !ที่ถูกสตาฟฟ์ เอาไว้ เหนโครงกระดูกกายวิภาค แล้วมันน่ากลัวจิง ขณะเดินจับกลุ่มกัน ไอ่หมาเจ้ากรรม มันช่วยหอนเสริมบรรยากาศอีก ทีนี้เลยเดินกันแน่นไปเลยเบียดกันไปตลอดทาง ยิ่งนายเชิดด้วยแล้ว จับแขนผมแน่นเลย ขณะเดินๆไป ยัยบี ก้อหยุดเดิน จ้องเขม็งมาที่พวกเราพร้อมกระชากผม ยัยต่าย พวกเรารู้สึกรู้สึกตกใจ คราวนี้ เหมือนเจอของจริง เข้าแล้ว ผมกะนายโก้รีบห้ามกันใหญ่ ห้ามคนนี้เสร็จคราวนี้ นายต่อเกิดอาการนี้บ้าง เข้ากระชากผมยัยฟ้า พวกเรารีบห้ามไปมาชักวุ่น สักพัก นักการภารโรง ของโรงเรียน ก้อวิ่งเข้ามา พวกเราบอกไม่มีอะไร อาจารย์สั่งให้ทำบอรด์ ทำเสร็จก้อจะกลับ ภารโรงจึงบอกให้เรารีบๆกลับบ้าน ตอนนี้ 2 คนที่เกิดอาการ เพี้ยนๆ ก้อเหมือนเปนปกติ เราถามนายเปนไรเมื่อครู่ นายต่อก้อบอกว่าเดินตามเรามาเอามอ\"ไซด์ กะพวกเรา โยที่จำเหตุการณ์นั้นไม่ได้ ซึ่งยัยบีก้อเหมือนกัน ... เราจึงแยกย้ายกันกลับบ้าน โดยที่ผมไปส่งแนน ขณะทีผมขี่รถไปเรื่อยๆเพื่อที่จะไปส่งบ้านแนน ก้อคุยคุยกันไปตลอดทาง ทันใดนั้น เองก้อมีหมาดำมาตัด หน้า รถ พอดีผมขี่ไม่เร็วจึงหักหลบได้ทัน แต่ตอนที่หักหลบหมา ผมรู้สึกผิดสังเกต ที่หัวหมา เมื่อผมหันหัวรถไปเพื่อที่จะเอาไฟส่องดู ผมเหนหมาที่มีใบหน้าเปนผู้หญิงผมยาว ...มันแสยะยิ้มให้ผม ทีนี้ล่ะแนนร้องกรี๊ด ส่วนผมล่ะก้อร้องเหมือนกัน แถบจะบิดมอ\"ไซด์ให้ได้200เลย แต่ที่ผมบิดมานี่กว่าจะมาเข้าเกียร์4ผมบิดมาเกียร์ 2ตลอดด้วยความตกใจ...กว่าจะหายกลัวขี่กระชากมาตลอด ผมถามแนนว่าเหนเหมือนกันใช่ไหม แนนบอกเหมือนกัน ถึงตอนนี้ผมส่งแนนแล้วจะกลับยังไง ฟ่ะ แนนถามผมว่า ค้างไหม เด๋วขอ แม่ ให้ ผมบอกไม่อ่ะเด๋วขี่อ้อมตลาดเอา ไกลหน่อย แต่ไม่ต้องผ่านทางเดิมดีกว่า ขณะที่ขีอ้อมมาทางตลาด ในใจผมนี่กลัวหมามาก กลัวจะเหนหมามีหัวผู้หญิง ซึ่งหน้าตาเหมือนคนแก่ ส่วนผมงี้ยาวเชียว เวลาแสยะยิ้มออกมานี่ โหมันช่างน่ากลัวจิงๆ ขี่มาสักหน่อยฝนดันตกลงมาปอยๆแต่ผมก้อไม่หยุดหลบพัก ตรงไหน เพราะกะลังขี้ขึ้นสมอง ขี้ไปก้อมองหมาตามทางไป เรื่อยๆ จนกระทั่งเกือบถึงบ้าน ทีนี้ผมเหลือบไปมองกระจกส่องหลัง ทำเอารถแถบ คว่ำ เฮ้ย นี่มันหน้ายายแก่คนนั้น นี่ มันมาอยู่ข้างหลังได้ไง ผมคิด ผมเลยเบรคทันทีหันหน้ามาดู อีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ แต่ไม่เจอ คราวนี้ ผมรีบบิดสุดชีวิต ทันที มันวันไร ว่ะเนี่ย อีก50เมตรก้อถึงบ้านแล้ว แต่ก้อมีหมามาตัดหน้ารถอีกคราวนี้ รถผมคว่ำ ผมกระเด็นไปหลายตลบ ก่อนที่จะลุกขึ้นมามองอีกที ผมรู้สึกชาไปหมด ถ้าไม่ใส่หมวกกันน๊อค นี่ คงสมอง ไหลแน่ แต่ที่แน่ๆขาผมคงหักแล้ว ผมมองไปที่รถผมคว่ำ ผมเหนหมา 2ตัวยืนอยู่ ตัวนึงเปน หน้ายายแก่คนที่ผมเหนยืนแยกเขี้ยวยิ้มให้อยู่ อีกตัวเปนหน้านายเชิด ยืนหน้าเศร้า ผมเหนแล้วรู้สึกช๊อค หมดสติ ไปเลยกว่า จะรู้สึกก้อปาไปตอนเย็นอีกวัน แนนมาเยี่ยม ผม ได้บอกว่า นายเชิดตายเสียแล้ว รถมอ\"ไซดืคว่ำ แนนว่าผมยังโชคดี ที่ขาหักอย่างเดียว ผมเล่าให้แนนฟังว่าตอนขากลับ ได้เจอกับเชิดด้วย แต่เหนเค้าเหมือนกับที่เหนยายแก่ ที่มีตัวเปนหมา นั่น ...พูดมาถึงตอนนี้บรรยากาศก้อณุ้สึกเย็นขึ้นมา ขณะรู้สึกวังเวง นายโก้ ยัยต่าย ยัยฟ้า นายอาท นายต่อ ยัยบี ยัยเจน ก้อมาเยี่ยม ผมได้เล่าให้พวกนั้น ถึง ตอนนี้ นายอาท ได้รู้สึกกลัวขึ้นมา. นายอาท ได้บอกว่าตอนที่เค้าไปปิดหน้าต่าง เค้าก้อได้ดวงตาคู่นึงที่มองมา เค้าบอกว่ามันดวงตาของคนแก่ ที่ผมเผ้า รุงรัง จ้องมาที่เค้าอย่างเขม็ง...... เค้าเล่าด้วยความกลัว เทมื่อทุกคนได้กลับไปกัน ผม ซึ่งนอนอยู่บนเตียงก้อมี พยาบาลมาเช็ดตัว ให้ ขณะที่นอน หลับ ไปก้อต้องตกใจตื่น ขึ้นมา เหมือนมันเสียงกุก กัก อยู่ภายใต้ เตียงที่ผมนอน สักพัก ก้อ ดังอีก หลังจากนั้นได้เงียบ หายไป ผมรู้เยวสันหลังอย่างมาก ได้พยายาม กดออด เรียกพยาบาล ขณะที่ผมกดออดไปเรื่อย มันเหมือนมีตัวอะไรวิ่งไปมา แต่ผมมองไม่ถนัดเนื่องจากพยาบาลได้ปิดไฟไว้ สักพักก้อเงียบไป อีก ทีนี้มันกระโดด มาที่เตียงพร้อมจ้องมองผม อย่าง เขม็ง มันกระโดมาคร่อมร่างผมไว้ แสยะยิ้ม ออกมา ปากของมันเวลายิ้ม ปลาบมุมปากทั้ง2 ข้างเกือบชิดกับใปหูของมัน ผมอึดอัดหายใจไม่ทั่วท้องเลยตอนนี้ พยายามคิดถึงพระ เจ้า พ่อ แม่ มันหมา หน้ายายแก่คนนั้นนี่ ตอนนี้ผมปิดตา พยายามลืมทุกสิ่ง แต่เหมือนมันจะพูดอะ ไรสักอย่าง แต่ผมไม่ได้อยากรับฟังมันเลย เสียงลมหายใจของมันดังฟืด ฟาดอยู่พักนึง ถึงตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนจะขาดอากาศหายใจ เนื่องจากจะช๊อค เกินไปหรือป่าวก้อไมรู้ ถึงตอนนี้หลังจากที่ผมกดสัญญาณไป พยาบาล เริ่ม เข้ามาดูเธอได้เอา oxygen ให้ผมสูดเข้า ผมคงขาด oxygen แน่ จากนั้นหมอได้มาเช็คอาการ กว่าจะมารู้สึกก้อเปนอีกวัน ในตอนนี้ ผมคิดว่ามันอาจจะเปนภาพหลอนก้อได้ เราอาจจะคิดมาก เช้านี้แนนมาเยี่ยมอีก บอกนายอาท ถูกเหล็กที่อยู่บนรถบรรทุกเสียบเสียชีวิตผมถามมันเปนยังไงอ่ะ แนนบอกว่าอาท ขี่มอ\"ไซดืตามหลังรถบรรทุกเหล็กไป พอรถบรรทุกเหล็ก เบรคกระทันหัน เหล็กได้เลื่อนลงมา เปนเวลาเดียวกับที่ อาทซึ่งตามด้านหลัง จึงโดนเหล็กเสียบทะลุอก พอดี แล้วก้อมาสิ้นใจที่โรงพยาบาล ถึงตอนนี้ผมไม่กล้าเล่าให้แนน ฟังเรื่องเมื่อคืน ......เพราะกลัวว่าแนนจะกลัว หลังจากนั้นอีกอาทิตย์นึงผมก้อได้กลับ บ้าน แต่คราวนี้ ต้องกลายเปนเป๋ ห่าว จนได้ ผมต้องใช้ไม้ยันเพื่อพยุงตัว เพื่อเดินกายภาพบำบัดตัวเอง ซึ่งมักมีแนนมาช่วยเสมอ แต่ว่างๆก้อมียัยบีมาเหมือนกัน ตอนนี้ผมว่ายัย บีก้อน่ารักเหมือนกันเวลาดูใกล้ ๆ ผมฝึกหัดเดินอยู่พอควร แต่ก้อไม่ได้มาก เพราะมันยังเจ็บอยู่ หลังจากนั้นผมได้ชวนบี ไปที่เก็บกระดูกนายอาท โดยบอกจะเอาดอกไม้ไปไหว้ ก้อให้บีขี่มอ\"ไซด์ให้ เมื่อเข้าไปในวัด ซึ่ งอยู่ข้างโรงเรียน ผมรู้สึกว่ามั นเริ่มวังเวง อีกแล้ว ผมเดินเข้าไปไหว้อัฐิ ของอาทแล้วก้อก้อเดินออกมา ผมแลกระต๊อบหลังนึงที่ อยู่เลยเข้าไปในป่าของวัด ผมเหมือนจะสะกิดใจ ให้มองเข้าไปในบ้านหลังนั้น แต่มันไกลเกินไปที่จะมองเหน เมื่อผมชวนบีเข้าแต่ ก้อถูกบีปฏิเสธ เราทั้ง 2 คนเลยรีบเดินออกมา แต่เมื่อหันกลับไปมองเหมือนมีคนอยู่ภาย ในนั้น ต่อมาเมื่อเริ่มที่จะอาการดีขึ้น ก้อใกล้มีงานกีฬาสี ของโรงเรียนพอดี ช่วงนี้ต่างคน ต่างเตรียมงานกัน อีก พวกเราก้อถูกให้ทำอุปกรณืการเชียร์ของสี เรา ซึ่งวันนี้ผมก้อต้องรอแนนเหมือนเคย ซึ่งพวกแนนก้อพยายามทำจนเสร็จ ก่อนที่จะมืด พอ 6โมงเราก้อกลับบ้านกัน พอถึงวันงานกีฬาสี ปรากฏว่ามีรอยเท้า ของ!ขึ้นไปวิ่งเล่นบนแท่นพิธี จนเลอะ ไปหมด แต่นั่นก้อไม่ทำงานหยุดชะงักลง พอถึงช่วงเย็นขณะที่นั่งเชียร์กันอยู่ แสตนเชียร์ด้านหนึ่งได้หงายหลังลงมา นร.ที่นั่งอยู่บนแสตนบางคนก้อกระเด็นลงมา บางคนก้อได้บาดเจ็บ แต่ที่แย่กว่านั้นถึงนร. บางคนที่นั่งอยู่ด้านหลังก้อถูกแสตนเชียร์อันนั้นทับลงมา บางทับกระโหลก จนสมองทะลักออกมา บางคนทับกลางลำตัว ทุกคนตกใจกันใหญ่แม้แต่อาจารย์ยังร้องเสียงหลง วันต่อมากีฬาได้ถูกยกเลิก และโรงเรียนก้อได้หยุดลง 1วัน ผมจึงชวน นายโก้ นายต่อ และก้อแนน ส่วนบีไม่ได้ไปด้วยเพราะไปเที่ยวกับเพื่อนผู้ชาย ดังนั้นจึงมีพวกเราที่เข้า ไปดูที่บ้านร้างตรงท้ายวัดกัน เมื่อเข้าไปที่ท้ายวัดเราเข้าไปดูที่บ้านร้างพวกเราบางคนรู้สึกอึดอัดกับบรรยากาศที่เงียบ วังเวง แนนถึงกับชวนกลับ แต่ผมก้อบอกไปว่านี่มันเปนตอนกลางวันน่ะ ผีมันคงไม่ออกมาหรอก ที่บ้านร้างหลังทรุดโทรมเปนอย่างมาก ขณะที่มองเข้าไป ก้อตกใจเมื่อหมาโผล่ทีนี้คนที่ร้องเสียงดังสุด ก้อกลายเปนผม แต่ดีที่ไอ่หมาตัวนั้นมันเปนหมาธรรมาดา เเต่ ตัวมันสีดำ ตลอดทั้งตัว ดูแล้วมันน่ากลัวมาก ขณะที่จะเดินออกไป ก้อเจอคนแก่โผล่พรวดออกมาทางเจดีย์ด้านหลังท้ายวัด ที่แท้แกเปนสัปเหร่อของวัด แกถามว่าเข้ามาทำ ไรกันในนี้ ผมเลยบอกแกว่าเคยเหนคนที่บ้านหลังท้ายวัด แกบอกอีกแล้วหรอนี่ ผมถาม อีกแล้วไรหรอลุง แก เล่าว่า แต่ก่อนที่นี่ ยังไม่มี วัด ตอนหลัง มีคุณยายคนนึงแกมอบที่ดินให้แก่ทางวัด เพราะแกไม่มีลูกหลาน แกแบ่งมาให้10ไร่ หลังๆพอทางวัดมีคนมามากๆเข้าก้อขยายกินที่ของแกเข้าไป จนบ้านแกต้องไปอยู่ใกล้ป่าช้า จนในไม่ช้าแกก้อเสียชีวิต เพราะความแก่ชรา หรือตรอมใจก้อไม่รู้ ทีนี้ ทางวัดก้อได้สร้างโรงเรียน ขึ้นมา . ลุงสัปเหร่อยังบอกอีกว่า ทุกๆวันศุกร์มีคนเหนแกเดินวนเวียน แถวนี้มั่ง ในวัดมั่ง ผมเลยเอาเรื่องเหตุการณ์ที่ผมเคยเจอไปเล่าให้อาจารย์ที่ปรึกษา ฟัง และก้อเล่าเรื่องที่ลุงสัปเหร่อเล่าให้ฟัง ตอนแรกก้อกลัวแกหาว่า ผมเพ้อเจ้อ แต่ตัวอาจารย์ กลับเชื่อผม ผมถามว่าทำไมถึงเชื่อแก บอกในวันที่พัดลมเพดาน ในห้องพักครู ตกลงมาฟันคออาจารย์อีกคน แกก้อบอกว่า ก้อหน้านั้น แกเหนหญิงแก่คนนึง จ้องมาที่ห้องครู จ้องมาเหมือนจะกินเลือด กิน เนื้อ จากนั้นไม่กี่วันก้อเกิดเรื่อง และอาจารย์ ยังบอกอีกว่า เค้า ก้อยังเคยเหน ไอ่หมาที่มีหน้าเปนหญิงแก่ ด้วย ถึงตอนนี้อาจารย์ได้บอกว่า เอางี้ จะเอาเรื่องนี้ลองไปคุย กับอาจารย์ใหญ่ดู จากนั้นมา อีก วัน อาจารย์ก้อได้ให้ พวกนักเรียน ที่ว่างในวันทำกิจกรรม ให้ไปทำความสะอาดที่บ้านหลังนั้น ซึ่งพวกเราก้อได้ไปทำ ด้วย ขณะที่ทำผมเหนรูปของหญิงชรา คนนึงในรูป มันช่างเหมือนกับสิ่งที่ผมเหนจริง เหมือนกับหญิงชราที่ผมเหน แม้แต่อาจารย์ก้อยังบอกว่าใช่ ต่อมาอาจารย์ก้อนิมนต์พระมาทำบุญ และก้อถวาย สังฆทาน หลัง จากนั้นก้อไม่มีใครเหน หญิงแก่ คนนี้ อีกเลย หรือหมาหน้าคนด้วย แต่ก้อไม่แน่ ถึงตอนนี้ อาจจะมีก้อได้ ที่ไหนสักแห่ง ....ไม่แน่ที่โรงเรียนของพวกคุณ ก้ออาจมีประวัติแบบนี้ก้อได้

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×