เรื่องของดาว
          ดาวที่ผมจะกล่าวถึงในบันทึกหน้านี้ไม่ใช่ดวงดาวบนท้องฟ้าแต่เป็นคน  เธอเป็นหญิงสาวที่สวยงามน่าทะนุถนอม 
          ไร้ซึ่งจริตมารยา  ด้วยความใสซื่อบริสุทธิ์ของเธอจึงนำพาภัยมาสู่ตัวเธอเอง  เรื่องราวของเธออาจเหมือนนิยาย
          น้ำเน่า  ถ้านำมาสร้างเป็นละครก็ต้องจัดเป็นประเภทโศกเศร้าเคล้าน้ำตา  และมีเธอแสดงนำในบทนางเอกที่ถูก
          นางอิจฉาคอยกลั่นแกล้งตลอดเวลา  แต่ในชีวิตจริงที่ไม่ใช่ละครเธอต้องแสดงทุกบทบาทเพื่อความอยู่รอด  ยก
          เว้นอยู่บทเดียวที่เธอไม่สามารถจะเป็นได้นั่นคือ  คนเขียนบทละคร  เธอไม่สามารถเป็นผู้กำหนดบทบาทชีวิตของ
          ตัวเธอเองได้  แล้วใครหละ?  ที่เป็นคนเขียนบทชีวิตของเธอ
                                ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นเพียงดาวในจินตนาการที่ผมจะเขียนถึงเธอถ้าผมคิดจะเขียนเรื่องเศร้า
          สักเรื่อง  แต่ดาวที่ผมจะกล่าวถึงจริงๆคือดาวคนนี้  เธอชื่อดาวเหมือนกันแต่ในชีวิตจริงของเธอไม่ได้เต็มไปด้วย
          ความเศร้าเคล้าน้ำตาเหมือนในละคร  ชีวิตของเธอออกจะโลดโผนสนุกสนาน  และเธอก็ไม่ได้เป็นนางเอกที่สวย
          งามน่าทะนุถนอม  รูปร่างของเธอค่อนข้างเจ้าเนื้อสักนิด  สูงได้มาตราฐานหญิงไทย  สวมแว่นตาหนาเตอะ  ที่
          สำคัญเธอเป็นคนร่าเริงสนุกสนานจึงพอจะมีเสน่ห์อยู่บ้างนิดหน่อย
                                ดาวเรียนจบจากมหาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง  ซึ่งกว่าจะกระเสือกกระสนเรียนจบก็ใช้เวลาไปห้าปี
          ทั้งนี้เพราะเธอคิดว่าการใช้ชีวิตนักศึกษาเป็นสิ่งที่สนุกสนานไม่มีภาระต้องรับผิดชอบมากมายเพียงแค่มีหน้าที่เรียน
          อย่างเดียวเท่านั้น  เธอจึงยังไม่อยากที่จะรีบจบออกมาเพื่อเผชิญกับโลกภายนอก  ดังนั้นเธอจึงเรียนไปเรื่อยๆจน
          ถึงห้าปี  นี่ถ้าไม่ติดเกรงใจพ่อแม่ที่ส่งเสียค่าล่าเรียนเธอกะว่าจะเรียนจนครบแปดปีตามเกณฑ์สูงสุดที่ทางมหาลัย
          กำหนดไว้  แต่ในเมื่อเธอเรียนจบออกมาแล้วสิ่งที่เธอต้องทำต่อไปคือหางานทำให้ได้  แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นดั่ง
          ใจหวังเมื่อเธอยังไม่สามารถหางานทำได้หลังจากเรียนจบมาได้หนึ่งปีแล้ว  เธอจึงตัดสินใจที่จะทิ้งบ้านเกิดเมืองนอน
          ไปลองเผชิญภัยในต่างแดนสักระยะหนึ่ง
                     
                                \" คิดดีแล้วหรือลูก?  ที่จะไปอยู่เมืองนอกตัวคนเดียว \"  แม่ถามดาวด้วยความเป็นห่วงเมื่อดาวมา
            ขออนุญาติไปใช้ชีวิตในต่างแดน
                                \" โธ่!  แม่
หน้าตาอย่างดาวไม่มีใครมาทำอะไรหรอก  มีแต่ดาวนี่แหละที่จะไปทำอะไรเค้า  หรือ
            ว่าดาวจะหาลูกเขยฝรั่งมาให้แม่สักคนดีมั้ยจ๊ะ? \"   
                                \" นะค่ะแม่  ให้ดาวไปลองใช้ชีวิตคนเดียวดูบ้าง  เอกสารต่างๆดาวก็เตรียมเรียบร้อยแล้ว  ถ้าแม่
            อนุญาติอีกสองอาทิตย์ดาวจะเดินทาง \"
                                สนามบินดอนเมืองวันนี้เต็มไปด้วยผู้คนที่จะเดินทางไปต่างประเทศรวมไปถึงบรรดาญาติๆที่มาส่ง
            หรือมารอรับผู้ที่จะเดินทางกลับมา  หนึ่งในจำนวนผู้คนเหล่านั้นก็มีดาวและครอบครัวร่วมปะปนอยู่ด้วย  แม้ว่าดาว
            จะขอร้องให้ไม่ต้องมาส่งก็ตามเพราะรู้ดีว่าแม่ยังทำใจไม่ได้ที่ลูกสาวจะไปอยู่แดนไกลเพียงลำพัง
                                \" อย่าร้องไห้สิแม่  ดาวไม่ได้ไปนานไปแป๊บเดียวก็กลับมาแล้ว  ถ้าแม่คิดถึงดาวก็ส่งเงินมาบ่อยๆ
            นะค่ะ  คิดถึงก็ส่งเงินมาทุกครั้งไม่นานแม่ก็จะเลิกคิดถึงดาวไปเอง \" 
                                \" ถ้าทำอย่างที่แกบอกชั้นว่าไม่เกินเดือนชั้นคงเลิกคิดถึงแกแน่ๆ \"    แม่พูดทั้งๆที่คราบน้ำตายัง
            เปรอะเปื้อนแก้มทั้งสองข้าง
                                \" ดูแลตัวเองนะค่ะ  ดาวต้องไปแล้วได้เวลาเครื่องจะออกแล้ว
.หนูรักแม่นะค่ะ  ฮือ ฮือ  ฮือ  ฮือ \" 
            แล้วดาวก็ร้องไห้โฮออกมาทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังร่าเริงอยู่เลย
                                เครื่องบินโบอิ้งของการบินไทยค่อยๆเคลื่อนอย่างช้าๆหันหัวสู่รันเวย์ก่อนที่จะเชิดหัวขึ้นบินตรงสู่
            ดินแดนแห่งความหวังสหรัฐอเมริกา  ผู้โดยสารไฟต์นี้เต็มทุกที่นั่งส่วนใหญ่จะเป็นคนไทยเกือบทั้งลำจะมีพวกฝรั่ง
            นั่งปะปนบ้างเล็กน้อย  ที่นั่งของดาวอยู่ติดริมหน้าต่างทางฝั่งซ้ายของเครื่องบิน  ทางซ้ายมือของดาวเป็นแขกหัว
            ล้านรูปร่างอ้วนอายุค่อนข้างมากแล้วท่าทางเป็นมิตรดีจะเสียอย่างเดียวที่กลิ่นตัวค่อนข้างแรง  แต่ดาวก็ไม่ได้สนใจ
            ตาลุงแขกข้างๆ  เธอยังคงตื่นเต้นกับวิวนอกหน้าต่างจนกระทั่งบังเอิญหันมาสบตากับตาลุงแขกที่กำลังนั่งมองมา
            ทางดาว  แกคงแปลกใจกับท่าทางตื่นเต้นเหมือนเด็กๆของดาว  เมื่อสายตามาบรรจบกันมีหรือที่ดาวจะหลบสายตา
            ให้เสียเชิงหญิงไทยใจกล้า
                                \" Where  you  come  from? \"    ดาวถามตาลุงแขกว่ามาจากไหน  เมื่อแกได้ยินดาวถามจึงยิ้ม
            และตอบกลับมาอย่างรวดเร็วด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงแขก
                                \" India  and  my  name  is  Rasim
\"
                                ตาลุงแขกบอกดาวว่าแกชื่อราซิม  มาจากอินเดียและเล่าเรื่องราวต่างๆของแกอีกมากมายจนดาว
            จับใจความไม่ได้  ได้แต่นั่งมองหน้าอีตาลุงราซิมที่กำลังพ่นภาษาอังกฤษสำเนียงแขกอย่างเมามันในอารมณ์อยู่
            คนเดียวจนกระทั่งแกเหนื่อยจึงได้หยุดพูดและยิ้มให้กับดาวอีกครั้ง  ทางด้านสาวดาวแม้จะไม่เข้าใจที่แกพูดแต่ก็
            ไม่ยอมเสียเชิงให้เค้าจับได้ว่าฟังไม่รู้เรื่องจึงยิ้มตอบกลับไปและแกล้งทำเป็นหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านโดยไม่หันไป
            มองหน้าตาลุงราซิมอีกเลย
                                เวลาผ่านไปได้ประมาณหนึ่งชั่วโมงดาวยังคงก้มหน้าอ่านหนังสืออย่างขมักเขม้นไม่สนใจกับสิ่ง
            รอบๆตัว  จนตาลุงราซิมนึกสนใจในหนังสือที่ดาวกำลังอ่านจึงเริ่มเอ่ยปากถามอีกครั้ง
                                ( ขออนุญาติเขียนบทสนทนาระหว่างดาวกับตาลุงราซิมเป็นภาษาไทยเพื่อให้ง่ายกับการอ่านของ
            ผู้อ่านและการเขียนของผู้เขียน )
                                \" ขอโทษนะจ๊ะหนู๋  อีนี่จ๋านเห็นเธออ่านหนังสือเล่มนี้แล้วน่าโสนจายดีม้ากมาก  อีนี่มานเป็นเรื่อง
            เกี่ยวกับอาราย?  อีนี่หนู๋บอกจ๋านโหน่ยด้ายหมาย? \"  ตาลุงราซิมถามพลางชะโงกหน้าเข้ามาดูใกล้ๆ
                                ดาวสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นตาลุงราซิมชะโงกหน้าเข้ามาใกล้กับใบหน้าของเธอ  แต่ดาวก็ยังตอบคำ
            ถามที่ตาลุงราซิมถามเธอ
                                \" อ๋อ!  มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับ
\"
                                ดาวอธิบายเกี่ยวกับหนังสือที่เธออ่านอย่างละเอียดว่าเป็นหนังสือเกี่ยวกับอะไร  โดยไม่สนใจตาลุง
            ราซิมว่าจะเข้าใจที่เธอพูดหรือไม่  เพราะว่าเธออธิบายให้ตาลุงราซิมฟังเป็นภาษาไทยทั้งหมด  ก่อนที่เธอจะทิ้งท้าย
            หันมาถามตาลุงราซิมเป็นภาษาอังกฤษว่าชอบหนังสือที่เธออ่านหรือไม่
                                \" โอ้!  อีนี่จ๋านชอบม้ากมาก  แต่ว่ามันเป็นหนังสือเกี่ยวกับอาราย?  อีนี่จ๋านไม่ข้าวจายที่หนู๋พูดมาเลย
            แต่ท่าทางจะซาหนุกดี \"
                                ฮะ  ฮะ  ฮะ  แล้วเสียงหัวเราะก็ดังออกมาจากปากของดาวอย่างกลั้นไม่อยู่จริงๆ
                                \" ขอโทษนะราซิม  ฉันกลั้นไม่อยู่จริงๆ \"    ดาวกล่าวคำขอโทษตาลุงราซิมเป็นภาษาอังกฤษพร้อม
            ทั้งยื่นมือไปจับตาลุงราซิมเขย่าเบาๆเป็นการขอโทษที่เสียมารยาทไป
                                \" ม่ายเป็นราย  อีนี่จ๋านข้าวจาย  อีนี่จ๋านไม่โกรธหรอก  อีนี่หนู๋ร่าเริงดีม้ากมาก  อีนี่จ๋านโชบ \"   
                                แล้วสัมพันธภาพอันดีระหว่างหญิงสาวชาวไทยกับตาลุงแขกอินเดียก็ดำเนินไปอย่างราบรื่นตลอด
            การเดินทางที่ยาวนาน  อาจจะมีบ้างที่สื่อสารกันไม่เข้าใจเพราะภาษาอังกฤษของดาวก็ไม่ค่อยแข็งแรงแล้วมาเจอ
            กับภาษาอังกฤษสำเนียงแขกเข้าให้อีก  แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำคัญซะเท่าไร  เพราะทั้งสองสื่อสารกันด้วยใจและ
            แววตาท่าทางต่างๆ  เพียงเท่านี้การเดินทางที่ยาวนานก็คงจะไม่เงียบเหงาและน่าเบื่ออีกต่อไป
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น