อาจจะยาวไปซักหน่อย แต่อ่านให้จบนะ เผื่อคุณจะรู้จักคำว่า \"รัก\" มากขึ้น
แสงไฟติดๆดับๆจากเสาไฟฟ้าข้างทาง
> > >อาจทำให้คนที่เดินผ่านไปมาเห็นสมุดเล่มหนึ่งซึ่งตกอยู่ระหว่างกอหญ้า
> > > ที่เกิดจากที่ดินรกร้างข้างฟุตบาท
แต่ไม่เคยมีใครสักคนคิดจะหยิบมันขึ้นมา
> > >ปล่อยให้สมุดที่เคยสีสันสดใสเล่มหนึ่งนอนอยู่กับกอหญ้า
> > >ผ่านลมและฝนมานานพร้อมกับรอยหมึกคำสัญญาที่นับวันยิ่งเลือนลาง
> เพราะน้ำฝน...
> > > แต่ฝนไม่สามารถลบเลือนคำสัญญาจากจิตใจคนๆหนึ่งได้
> > >ชีวิตของเด็กมัธยมปลายทุกคนคงไม่สามารถหลีกหนีไปจากเรื่อง
> > > เพื่อน ความฝัน ความรัก เอ็นทรานซ์ ไปได้
> > >และทั้งหมดนี้คือที่มาของเรื่องราวของผมที่เริ่มต้นที่ห้องเรียนศิลปะ
> > ผม บอม กบ ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันมาตั้งแต่
> > > ม.ต้นได้มาอยู่ห้องเดียวกันในชั้นม.4
> > >คงเป็นเหตุการณ์นั้นที่ทำให้พวกเราได้รู้จักกับนุ่น
> > > > “> นี่เธอ...เธอ..ยืมของเราก็ได้นะ> ”>
บอมพูดพร้อมกับยื่นดินสอ 2b ให้ 1 แท่ง
> > > เธอก็รับไปพร้อมด้วยรอยยิ้มและเหล็กดัดฟันกลับมา
> > > >รอยยิ้มที่เราได้เห็นทำให้พวกผมนึกไปถึงรอยยิ้มของน้องสาวตัวเล็กๆน่ารักคนหนึ่ง
> > > หลังจากหมดชั่งโมงศิลปะ พวกผมอาสาพาเธอไปกินข้าวที่โรงอาหาร
> > >และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเธอก็เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพวกผม
> > >พร้อมกับความแปลกใจของหลายๆคนที่เห็นเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง
> > >นั่งอยู่ในกลุ่มของเด็กผู้ชายที่กำลังคุยกันเสียงดังด้วยคำสบถต่างๆ
> > > ซึ่งเป็นคำธรรมดาในความคิดของเด็กผู้ชาย ..
> > > จากวันป็นเดือน......จากเดือนเป็นปี....
> > > เมื่อเพื่อนคบกันมานานก็ย่อมรู้ใจกัน...
> > >และเริ่มรับรู้บางอย่างในวันที่นุ่นตัดผมสั้นมาใหม่
> > > > “> เฮ้ยนี่แกอะไรเข้าฝันวะ> ”> ผมพูด
> > > > “> อิ๊...ทรงเก่าดีกว่าแยะเลย> ”>
กบพูดพร้อมกับเสียงหัวเราะจากทุกคน
> > > > “> แต่เราว่าน่ารักดีนะ> ”> บอมพูด
> > > คำๆนี้ของบอมทำให้หน้าขาวๆของนุ่นแดงขึ้นมา
> > > ตั้งแต่เราเริ่มสังเกตุจากวันนั้นเราก็รู้ว่าคำพูดของบอมมีอิทธิพลกับนุ่นมาก
> > > และรู้ว่านุ่นต้องแอบปลื้มบอมไม่มากก็น้อย
> > > แต่ไม่เคยมีคำว่ารักคำใดๆเกิดขึ้นในกลุ่มเพื่อน
> > > ณ.โต๊ะประจำกลุ่มของเรา > “> ขนมมาแล้วจ๊ะ> ”>
> > >เสียงใสๆของนุ่นที่มาพร้อมกับขนมหลายถุงที่ถือเดินคู่มากับบอม
> > (การซื้อขนมเลี้องของนุ่นมักเป็นกิจวัตรประจำ
> > > พวกเราเคยปฎิเสธเพราะพวกผมยังไม่รู้ว่านั่นมาจากเงินเล็กน้อยของคุณหนูนุ่นนั่นเอง)
> > >ขณะที่กินขนมอยู่นั้นนุ่นถามถึงอาชีพในอนาคตของทุกคน
> > > ผม กับ กบ ยังไม่ได้คิดอะไรถ้า เอ็นติดอะไรก็เรียนไป
> > > ความฝันของบอม คือเข้าเรียนเศรษฐศาสตร์ที่ธรรมศาสตร์
> > > และเป็นนักวิเคราะห์การเงินเหมือนพ่อของเขา
> > > ความฝันของนุ่นที่ต้องการเป็นนักสังคมสงเคราะห์ช่วยเหลือเด็กไม่ทำให้พวกผมแปลกใจเลย
> > >เพราะการชอบช่วยเหลือผู้อื่นและมองโลกในแง่ดีที่เป็นนิสัยของเธอ
> > > สิ่งที่เรารู้กันเลยก็คือนุ่นต้องอยากเรียนสังคมสงเคราะห์ที่ธรรมศาสตร์แน่นอน
> > >เมื่อนุ่นพุดจบบอมก็หยิบสมุดจดศัพย์ภาษาอังกฤษของนุ่นที่วางอยู่มา
> > > เปิดไปหน้าสุดท้ายของสมุดแล้วเขียนว่า...
> > >เราสองคนจะต้องเป็นลูกแม่โดมให้ได้นะ.....ลงชื่อ....บอม...
> > > สิ่งที่เราเห็นต่อมาคือรอยยิ้มของนุ่นพร้อมกับหน้าแดงนาน 2-3นาที.
> > > ยิ้มน่ารักมากกว่าสิ่งใดๆ............
> > > วันแรกของม.6ไม่มีอะไรมากนอกจากการฉลองที่นุ่น
> > >ได้อนุญาติให้ไป-กลับโรงเรียนเองเหมือนนักเรียนทั่วไป
> > > ซึ่งเป็นสิ่งที่นุ่นต้องการมาตลอด 4-5 ปีที่แม่คอยรับคอยส่ง..
> > >วันนี้ผมได้เห็นอาการดีใจของคนที่ได้รับสิ่งที่ผมเรียกมันว่า
> > > .....> ”> อิสรภาพ> ”> .........
> > > ชีวิตของนักเรียนม.6 หลายๆคนคงไม่พ้นการเรียนพิเศษต่อตั้งแต่ 5 โมง-2 ทุ่ม
> > >แต่การที่ได้เรียนกับเพื่อนรักของผมทำให้ผมไม่เคยคิดเหนื่อยหรือท้อแท้เลย
> > > โต๊ะ 4 ตัวหลังสุดเป็นที่รู้กันว่าเป็นโต๊ะของกลุ่มผมขณะที่พวกเรากำลังนั่งคุยรออาจา รย์อยู่นั้น
> > > บอมได้ชี้ไปที่นักเรียนหญิงใส่ชุดuniformแขนยาว
หน้าตาสวยมากคนหนึ่ง
> > > พร้อมพูดว่า > “>นี่ดูผู้หญิงคนนั้นสิเราชอบเขามากเลยนะ> ”>
> > >ตั้งแต่วันนั้นผู้หญิงคนนั้นก็เป็นประเด็นสนทนาในกลุ่มอีกบ่อย
> > แต่ทุกครั้งที่พูดถึงผู้หญิงคนนั้นผมรู้สึกว่านุ่นมีความรู้สึกแปลกๆที่ไม่แสดงออกมา
> > >จนผมคิดว่าต้องให้บอมถามให้ได้ว่าเป็นอะไรเพราะเขาสองคนสนิทกันมากที่สุด
> > > แต่บอมก็ไม่เคยสงสัยและถาม
> > > สักพักผมเลิกสนใจกับสิ่งนี้เพราะผมก็แค่ผู้ชายที่ไม่เคยคิดจะเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของผู้หญิง
> > >เวลาที่พวกผมได้ผักผ่อนมากที่สุดจากการเรียนคงเป็นตอนหลังเลิกเรียนพิเศษ
> > > ซึ่งพวกผมจะเวียนไปฝากท้องตามร้านต่างๆ
> > > หลังจากนั้นก็มักไปเล่นเกมส์ เกมส์ประจำตัวของผมคือ daytona
> > > ของกบชอบเล่น dj โดยเฉพาะตอนมีสาวๆมองเยอะจะออกลีลาเป็นพิเศษ
> > > เครื่องตู้เกมส์ เตอติส ที่อยู่หลังร้านเหมือนเป็นเกมส์ที่สร้างมาเพื่อ บอมและนุ่น
> > > ผมได้เห็นทั้งคู่เล่นด้วยกัน เล่นแข่งกันได้
> > > ดูเวลาที่เขาแกล้งกัน นุ่นมักปัดมือของบอมให้ออกจากจอยเกมส์เป็นประจำ
> > >เวลาที่ทั้งคู่เล่นแข่งเพราะบอมเป็นคนที่เล่นเก่งมาก
> > >แต่บอมก็ชอบและไม่เคยเห็นบอมโกรธนุ่นสักครั้งเวลาที่นุ่นคอยแหย่คอยกวน
> > > ผมคิดว่าทั้งคู่คงมีความสุขมากที่ได้อยู่ใกล้ๆกัน
> > > พลางคิดไปถึงคำพูดใน หนัง รักออกแบบไม่ได้ ที่ว่า
> > > > ”> เป็นเพื่อนกันดีที่สุดจะได้คบกันนานๆ> ”>
> > >แต่สำหรับสำหรับคู่นี้ผมนึกภาพไปถึงตอนที่ทั้งคู่เป็นคนชราคู่หนึ่ง ที่ใช้เวลาบั้นปลายชีวิตนั่งนับดาวบนท้องฟ้าด้วยกัน และต่อเติมความสุขซึ่งกันและกัน
> > > ทุกครั้งที่มองคู่นี้อยู่ด้วยกันผมคิดว่าเค้ากำลังร่วมสร้างและต่อเติมความรัก ซึ่งกันและกันอยู่
> > > แม้เพื่อนสนิทอย่างผมจะแซวว่าทั้งคู่ไม่เหมือนแค่เพื่อนสนิทเท่านั้นนะคู่นี้
> >แต่ว่าสิ่งที่ผมเห็นคือรอยยิ้มของทั้งคู่พร้อมอาการเขิน
> > > และสายตาของนุ่นที่หันไปมองบอม
แล้วทั้งคู่ก็ช่วยกันปฎิเสธ
> > > แล้วนุ่นก็มักจะพูดว่า> ”>
พวกนี้เนี่ยไม่พูดด้วยแล้ว> ”>
> > >พรอ้มกับหันหลังเดินไปซื้อขนมและบอมก็เดินตามติดๆกันไป
> > > วันศุกใกล้ปิดคอร์สเรียนพิเศษภาษาอังกฤษเมื่อพวกเรามาถึงที่เรียนพิเศษปรากฏว่าไฟดับ โรงเรียนจึงนัดชดเชยให้วันอื่น
> > >วันนี้จึงไม่ค่อยได้เรียนเพราะวันศุกที่โรงเรียนมีเรียนแค่2วิชา
> > > พวกเราจึงถือสมุดหนังสือไปเรียนเพียงไม่กี่เล่ม
> > > หลังจากนั้นพวกเราจึงไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้า
> > > วันนี้นุ่นผิดปกติดูซึมๆตั้งแต่เช้า พวกเรารบเร้าเท่าไหร่ก็ไม่บอก
> > > ขณะที่เดินเล่นกันอยู่บอมได้จับหน้าผากของนุ่น
> > > บอมตกใจมากเพราะนุ่นตัวร้อนจัด
> > > บอมจึงพูดว่า> ”>
นุ่นเธอตัวร้อนมากนะกินยาอะไรหรือยัง?> ”>
> > > > “> ปวดหัวนิดหน่อยไม่เป็นไรหรอก> ”> นุ่นตอบ
> > > พวกผมจึงรบเร้าให้นุ่นรีบกลับไปผักผ่อนที่บ้านและตัดสินใจให้บอมเดินไปส่งนุ่น ขึ้นtaxi
> > > โดยผมกับกบจะไปรอที่food center
> > > ก่อนที่ผมจะแยกย้ายกับนุ่น บอมแซวนุ่นว่า
> > > > “>นี่ไม่สบายขนาดนี้ยังไม่ยอมนอนพักอยู่บ้านอีก> ”>
> > > > “> ก็ฉันเป็นเด็กขยันนะซิจ๊ะ> ”>
นุ่นตอบพร้อมกับยิ้มมา
> > > > “>ดูนุ่นสิหน้าเหมือนคนจะตายอยู่แล้วยังยิ้มออกอีก> ”>
> > >บอมพูดไปโดยไม่รู้ว่ารอยยิ้มนี้จะเป็นรอยยิ้มที่พวกผมจะไม่มีวันลืม
> > > สำหรับผมเหตุผลเดียวที่นุ่นมาเรียนวันนี้คือการที่ได้มานั่งเรียนพิเศษข้างๆบอม
> > >หลังจากผมแยกย้ายกับนุ่นบอมก็เดินไปส่งนุ่นขึ้นtaxi กลับบ้าน
> > > ........เอี้ยด.....ปัง......อัก......
> > > รถบบรทุกคันหนึ่งวิ่งคร่อมเลนมาชนกับtaxiคันหนึ่งที่วิ่งมาด้วยความเร็วค่อนข้างสูง
> > > ร่างของผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยกระเด็นกระแทกกระจกรถออกมา ตกลงบนพื้น
> > > และไถลไปข้างหน้าอีก7-10 เมตร
> > > สมุด หนังสือ ดินสอกระจัดกระจายอยู่บนถนนบ้างบนทางเท้าบ้าง
> > > กล่องดินสอ มือถือแตกเป็น 2 ส่วน
> > >พลเมืองดีผู้หนึ่งอุ้มร่างที่เต็มไปด้วยเลือดและบาดแผลไปส่งโรงพยาบาล
> > > เช้าวันเสาร์ ณ ที่เรียนพิเศษวิชาคณิตพวกผมรู้สึกแปลกใจที่นุ่นมาเรียนสาย
> > > เพราะปกตินุ่นจะมาเป็นคนแรก
> > >แต่พวกผมก็คิดว่านุ่นคงยังไม่ค่อยสบายและผักผ่อนอยู่ที่บ้าน
> > แต่ขณะที่เริ่มเรียนไปได้15นาที เพจของบอมก็ดังขึ้น
> > > พรอ้มกับข้อความจากแม่ของนุ่นที่ว่า ตอนนี้นุ่นอยู่ห้อง ICU โรงพยาบาลเปาโล ต้องการพบบอมด่วน
> > > เมื่อพวกผมอ่านข้อความนี้จบก็เดินออกจากห้องทันที มารู้ตัวอีกทีก็คือเห็นรอยช้ำของขอบตาที่เกิดจากการร้องไห้ของแม่ของนุ่น
> > >พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่ยอมหยุดที่หน้าห้องICU
> > >เมื่อเราเดินเข้าไปในห้องหมอบอกพวกผมว่านุ่นเสียเมื่อ 5 นาที ที่แล้ว
> > > พวกผมเหมือนตกอยู่ในภวัง น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากทุกคนที่เรียกตัวเองว่า
> > > ลูกผู้ชาย
> > > ทุกคนยืนร้องไห้อยู่ข้างๆเตียงของนุ่น
> > > ไม่มีสักคนเปิดผ้าที่คลุมร่างที่ไร้วิญญาณของนุ่นดู> >ูเพราะทุกคนรู้ดีว่านุ่นไม่ต้องการให้ใครเห็นนุ่นในสภาพอย่างนี้แน่
> > > เหตุการณ์นี้แม้ว่าผมจะเสียใจมาก
> > >แต่ยังไงก็คงไม่เท่าบอมเพราะทุกคนรู้ดีว่าบอมเสียใจมากที่สุด
> > >แต่บอมก็เก่งมากเพราะหลังจากนั้นอาทิตย์หนึ่งก็ไม่เห็นบอมร้องไห้อีก
> > > ขณะนั่งเรียนวิชาคณิตในคาบที่ 7
หลังจากงานชาปณกิจนุ่น 2 วัน
> > >แม่ของนุ่นได้ขออนุญาติอาจารย์เดินเข้ามาหาบอมในห้องและพูดว่า
> > > > ”> ในห้องICU ก่อนที่นุ่นจะสิ้นใจนุ่นบอกกับแม่ให้นำ diary
> > > เล่มนี้มาให้บอมให้ได้> ”>
> > > แล้วแม่ของนุ่นก็ยื่นถุงกระดาษที่ข้างในมีdiary
เล่มหนึ่งมาให้
> > > หลังจากหมดคาบผมและบอมได้หยิบdiary ขึ้นมา
> > > มันเป็นdiary เล่มสีชมพู
ที่นุ่นใช้เขียนความคิดและความฝันต่างๆของนุ่น
> > > ชื่อของบอมมีอยู่ในdiaryของนุ่นทุกหน้าตั้งแต่วันที่เธอได้พบกับบอมที่ห้องศิลปะ
> > > เมื่อพลิกกลับมาช่วงกลางเล่มน้ำตาของบอมก็หยดลงบนรูปๆหนึ่งที่นุ่นวาดขึ้นในdiary
> > > เป็นรูปนุ่นกับบอมที่ยืนยิ้มโดยนุ่นยืนกอดแขนบอมอยู่และทั้งคู่ใส่ชุดนักศึกษามหาลัยธรรมศาสตร์
> > > > “> ทำไมนุ่นไม่รู้ล่ะว่าเรารักเค้ามากขนาดไหน>
”>
> > > บอมพูดเมื่ออ่านdiary
และได้รู้ว่านุ่นรอคอยคำว่ารักจากบอมอยู่
> > > และเมื่อช่วงหนึ่งในdiary จึงได้รู้ว่า
> > >นุ่นเข้าใจผิดว่าบอมไปรักผู้หญิงคนหนึ่งที่บอมชี้ให้พวกเราดู ณ ที่เรียนพิเศษ
> > > สิ่งต่อมาที่ผมได้รู้ก็คือ นุ่นไม่เคยเข้า
ใจสิ่งที่บอมพูดเสมอในกลุ่ม
> > > ว่า รัก กับ ชอบ นั้นแตกต่างกันมาก
> > >ผมได้แต่นึกเสียดายที่บอมไม่ยอมพูดความรู้สึกของตัวเองให้นุ่นได้รับรู้
> > > ได้แต่ปล่อยให้นุ่นคิดไปต่างๆนาๆ
> > > เพราะถ้าบอมได้พูดและอธิบายความรู้สึกของตัวเอง
> > > นุ่นก็คงจากไปอย่างมีความสุขกว่านี้
> > > ก่อนการเร่งสอบปลายภาคไม่กี่วัน
> เพื่อให้เวลานักเรียนอ่านหนังสือเตรียมเอ็น ครั้งที่2
> > > ขณะที่ทุกคนกำลังนั่งคุยกัน
กบได้ตะโกนถามเพื่อนๆทุกคนว่า
> > > ถ้าตอนนี้มีพรวิเศษขออะไรก็ได้สิ่งหนึ่งจะขออะไร
> > > คำตอบที่ได้ก็แตกต่างกันไป บ้างขอให้ หล่อ รวย สวย
เอ็นติด
> > > ทุกคนตอบต่างๆกันไป
> > >เมื่อกบหันมามองหน้าบอมทุกคนก็หันมาเหมือนจะรอคำตอบจากบอม
> > > “>เราขอแค่ได้พบนุ่นอีกครั้งแล้วเราจะบอกเค้าว่าเรารักเค้ามากขนาดไหน>> ”>
> > > บอมตอบมาพร้อมๆกับน้ำตาที่ค่อยๆคลอออกมา
> > >หลังที่บอมพูดจบเพื่อนในห้องหลายคนหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตาของตน
> > > วันนั้นผมจึงได้รู้ว่า
นุ่นยังคงอยู่ในใจของบอมอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง
> > >วันที่ผมได้รู้อานุภาพของความรักก็คือวันประกาศผลเอ็น
> > > เรานัดเปิดซองจดหมายผลสอบพร้อมกันที่บ้านของกบ
> > > กบติด ม.เชียงใหม่ ผม ติด ที่ประสานมิตร
> > > แต่สิ่งที่ทำให้ผมตกใจมากคือ คนที่ได้คะแนน60
> > > กว่าเกือบทุกวิชาไม่ติดเศรษฐศาสตร์ได้อย่างไร
> > > แต่คำอธิบายของบอมก็ทำให้ผมรู้ว่าบอมทิ้งความฝันที่จะเป็นนักการเงินของเขา
> > > มาเรียนสังคมสงเคราะห์เพื่อเดินตามความฝันของนุ่น
> > >ทำให้ผมได้เห็นความรักที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของคนๆหนึ่ง
> > >ความฝันของบอมเปลี่ยนเป็นการได้สร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
> >และได้นำชื่อณัฐธิดาที่เป็นชื่อจริงของนุ่นมาตั้งเป็นชื่อสถานเลี้ยงเด็ก
> > >เพื่อเป็นอนุสรณ์ของผู้หญิงจิตใจดีงามคนหนึ่งที่เค้าได้เคยพบเจอในชีวิต
> > > คนที่ไม่รู้จักบอมดีจะมองเค้าเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่ปิดตัวเองไม่ยอมเปิดใจให้ใคร
> > > แต่สำหรับผมรู้ดีว่าใครอยู่ในหัวใจของเขาตลอดเวลา
........
> > > ในเวลาโพล้เพล้สายลมลมพัดเมฆมาก่อตัวรวมกันจนกลั่นป็นเม็ดฝนลงมาสู่ดินทุกหนแห่ง
> > > ลมพัดเข้ามาในหัองผมอย่างแรง
> > > ทำให้กรอบรูปที่มีรูปถ่ายของพวกเราอยู่
คว่ำด้านหน้าลง
> > > ผมหยิบมันพลิกขึ้นวางที่เดิม
> > > และมองไปที่รูปนั้น
อีกครั้งหนึ่งที่มันทำให้ผมนึกถึง ..เธอ... ..
> > > เธอ
ผู้ที่ทำให้พวกผมรู้ได้รู้ว่าคนดัดฟันกินอาหารบางอย่างไม่ได้
..
> > > เธอ ผู้ที่ทำให้พวกผมได้ห> ัดฟังเพลงค่าย DOJO
CITY
> > > เธอ ผู้ที่แนะนำให้พวกผมมองโลกในแง่ดี
และออกไปต่อสู้กับปัญหา
> > > เธอ
ผู้ที่นำความงดงามของจิตใจเธอมาให้พวกผมได้สัมผัส
> > > เธอ ผู้ที่มาเปลื่ยนแปลงชีวิตของพวกผม
> > > เธอ ผู้ที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับมา
> > > ฝนยังคงกระหน่ำลงบนถนนสายหนึ่ง
> > > เม็ดฝนกระหน่ำลงมาปานจะฉีกสมุดที่อยู่ในดงหญ้าข้างๆทางเท้าเล่มหนึ่งยุ่ยขาดเป็นส่วน
> > >แม้จะผ่านลมฝนลมหนาวมานานเท่าใดแต่สมุดเล่มนี้ก็ยังคงอยู่ที่เดิม
> >พร้อมกับรอยหมึกคำสัญญาที่ไม่อาจเป็นจริงได้เพราะคนๆหนึ่งได้จากไปแล้ว
> .....
> > > > “> รัก> ”>
บางคนคิดว่าเป็นความรู้สึกที่ไม่จำเป็นต้องพูด
> > > แต่ผมอยากให้คุณรู้ว่ามีบางคนใช้ชีวิตเพื่อเสาะหาและรอคอยคำๆนี้จากปากคุณอยู่
> > >
> > > เมื่อคุณมั่นใจแล้วคุณควรที่จะพูดออกไป
> > >
ดีกว่าที่จะต้องมานั่งเสียดายและเสียใจเพราะว่าวันนี้เป็นวันที่...สาย...เกิน
> > > ...ไป....
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น