เรื่องซึ้งๆของคำว่า - เรื่องซึ้งๆของคำว่า นิยาย เรื่องซึ้งๆของคำว่า : Dek-D.com - Writer

    เรื่องซึ้งๆของคำว่า

    เศร้าอ่ะ ลองอ่านดู

    ผู้เข้าชมรวม

    729

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    729

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  6 ก.พ. 47 / 16:30 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      อาจจะยาวไปซักหน่อย แต่อ่านให้จบนะ เผื่อคุณจะรู้จักคำว่า \"รัก\" มากขึ้น

      แสงไฟติดๆดับๆจากเสาไฟฟ้าข้างทาง
      > > >อาจทำให้คนที่เดินผ่านไปมาเห็นสมุดเล่มหนึ่งซึ่งตกอยู่ระหว่างกอหญ้า
      > > > ที่เกิดจากที่ดินรกร้างข้างฟุตบาท
      แต่ไม่เคยมีใครสักคนคิดจะหยิบมันขึ้นมา
      > > >ปล่อยให้สมุดที่เคยสีสันสดใสเล่มหนึ่งนอนอยู่กับกอหญ้า
      > > >ผ่านลมและฝนมานานพร้อมกับรอยหมึกคำสัญญาที่นับวันยิ่งเลือนลาง
      > เพราะน้ำฝน...
      > > > แต่ฝนไม่สามารถลบเลือนคำสัญญาจากจิตใจคนๆหนึ่งได้
      > > >ชีวิตของเด็กมัธยมปลายทุกคนคงไม่สามารถหลีกหนีไปจากเรื่อง
      > > > เพื่อน ความฝัน ความรัก เอ็นทรานซ์ ไปได้
      > > >และทั้งหมดนี้คือที่มาของเรื่องราวของผมที่เริ่มต้นที่ห้องเรียนศิลปะ
      > > ผม บอม กบ ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันมาตั้งแต่
      > > > ม.ต้นได้มาอยู่ห้องเดียวกันในชั้นม.4
      > > >คงเป็นเหตุการณ์นั้นที่ทำให้พวกเราได้รู้จักกับนุ่น
      > > > > “> นี่เธอ...เธอ..ยืมของเราก็ได้นะ> ”>
      บอมพูดพร้อมกับยื่นดินสอ 2b ให้ 1 แท่ง
      > > > เธอก็รับไปพร้อมด้วยรอยยิ้มและเหล็กดัดฟันกลับมา
      > > > >รอยยิ้มที่เราได้เห็นทำให้พวกผมนึกไปถึงรอยยิ้มของน้องสาวตัวเล็กๆน่ารักคนหนึ่ง
      > > > หลังจากหมดชั่งโมงศิลปะ พวกผมอาสาพาเธอไปกินข้าวที่โรงอาหาร
      > > >และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเธอก็เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพวกผม
      > > >พร้อมกับความแปลกใจของหลายๆคนที่เห็นเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง
      > > >นั่งอยู่ในกลุ่มของเด็กผู้ชายที่กำลังคุยกันเสียงดังด้วยคำสบถต่างๆ
      > > > ซึ่งเป็นคำธรรมดาในความคิดของเด็กผู้ชาย ..
      > > > จากวันป็นเดือน......จากเดือนเป็นปี....
      > > > เมื่อเพื่อนคบกันมานานก็ย่อมรู้ใจกัน...
      > > >และเริ่มรับรู้บางอย่างในวันที่นุ่นตัดผมสั้นมาใหม่
      > > > > “> เฮ้ยนี่แกอะไรเข้าฝันวะ> ”> ผมพูด
      > > > > “> อิ๊...ทรงเก่าดีกว่าแยะเลย> ”>
      กบพูดพร้อมกับเสียงหัวเราะจากทุกคน
      > > > > “> แต่เราว่าน่ารักดีนะ> ”> บอมพูด
      > > > คำๆนี้ของบอมทำให้หน้าขาวๆของนุ่นแดงขึ้นมา
      > > > ตั้งแต่เราเริ่มสังเกตุจากวันนั้นเราก็รู้ว่าคำพูดของบอมมีอิทธิพลกับนุ่นมาก
      > > > และรู้ว่านุ่นต้องแอบปลื้มบอมไม่มากก็น้อย
      > > > แต่ไม่เคยมีคำว่ารักคำใดๆเกิดขึ้นในกลุ่มเพื่อน
      > > > ณ.โต๊ะประจำกลุ่มของเรา > “> ขนมมาแล้วจ๊ะ> ”>
      > > >เสียงใสๆของนุ่นที่มาพร้อมกับขนมหลายถุงที่ถือเดินคู่มากับบอม
      > > (การซื้อขนมเลี้องของนุ่นมักเป็นกิจวัตรประจำ
      > > > พวกเราเคยปฎิเสธเพราะพวกผมยังไม่รู้ว่านั่นมาจากเงินเล็กน้อยของคุณหนูนุ่นนั่นเอง)
      > > >ขณะที่กินขนมอยู่นั้นนุ่นถามถึงอาชีพในอนาคตของทุกคน
      > > > ผม กับ กบ ยังไม่ได้คิดอะไรถ้า เอ็นติดอะไรก็เรียนไป
      > > > ความฝันของบอม คือเข้าเรียนเศรษฐศาสตร์ที่ธรรมศาสตร์
      > > > และเป็นนักวิเคราะห์การเงินเหมือนพ่อของเขา
      > > > ความฝันของนุ่นที่ต้องการเป็นนักสังคมสงเคราะห์ช่วยเหลือเด็กไม่ทำให้พวกผมแปลกใจเลย
      > > >เพราะการชอบช่วยเหลือผู้อื่นและมองโลกในแง่ดีที่เป็นนิสัยของเธอ
      > > > สิ่งที่เรารู้กันเลยก็คือนุ่นต้องอยากเรียนสังคมสงเคราะห์ที่ธรรมศาสตร์แน่นอน
      > > >เมื่อนุ่นพุดจบบอมก็หยิบสมุดจดศัพย์ภาษาอังกฤษของนุ่นที่วางอยู่มา
      > > > เปิดไปหน้าสุดท้ายของสมุดแล้วเขียนว่า...
      > > >เราสองคนจะต้องเป็นลูกแม่โดมให้ได้นะ.....ลงชื่อ....บอม...
      > > > สิ่งที่เราเห็นต่อมาคือรอยยิ้มของนุ่นพร้อมกับหน้าแดงนาน 2-3นาที.
      > > > ยิ้มน่ารักมากกว่าสิ่งใดๆ............
      > > > วันแรกของม.6ไม่มีอะไรมากนอกจากการฉลองที่นุ่น
      > > >ได้อนุญาติให้ไป-กลับโรงเรียนเองเหมือนนักเรียนทั่วไป
      > > > ซึ่งเป็นสิ่งที่นุ่นต้องการมาตลอด 4-5 ปีที่แม่คอยรับคอยส่ง..
      > > >วันนี้ผมได้เห็นอาการดีใจของคนที่ได้รับสิ่งที่ผมเรียกมันว่า
      > > > .....> ”> อิสรภาพ> ”> .........
      > > > ชีวิตของนักเรียนม.6 หลายๆคนคงไม่พ้นการเรียนพิเศษต่อตั้งแต่ 5 โมง-2 ทุ่ม
      > > >แต่การที่ได้เรียนกับเพื่อนรักของผมทำให้ผมไม่เคยคิดเหนื่อยหรือท้อแท้เลย
      > > > โต๊ะ 4 ตัวหลังสุดเป็นที่รู้กันว่าเป็นโต๊ะของกลุ่มผมขณะที่พวกเรากำลังนั่งคุยรออาจา รย์อยู่นั้น
      > > > บอมได้ชี้ไปที่นักเรียนหญิงใส่ชุดuniformแขนยาว
      หน้าตาสวยมากคนหนึ่ง
      > > > พร้อมพูดว่า > “>นี่ดูผู้หญิงคนนั้นสิเราชอบเขามากเลยนะ> ”>
      > > >ตั้งแต่วันนั้นผู้หญิงคนนั้นก็เป็นประเด็นสนทนาในกลุ่มอีกบ่อย
      > > แต่ทุกครั้งที่พูดถึงผู้หญิงคนนั้นผมรู้สึกว่านุ่นมีความรู้สึกแปลกๆที่ไม่แสดงออกมา
      > > >จนผมคิดว่าต้องให้บอมถามให้ได้ว่าเป็นอะไรเพราะเขาสองคนสนิทกันมากที่สุด
      > > > แต่บอมก็ไม่เคยสงสัยและถาม
      > > > สักพักผมเลิกสนใจกับสิ่งนี้เพราะผมก็แค่ผู้ชายที่ไม่เคยคิดจะเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของผู้หญิง
      > > >เวลาที่พวกผมได้ผักผ่อนมากที่สุดจากการเรียนคงเป็นตอนหลังเลิกเรียนพิเศษ
      > > > ซึ่งพวกผมจะเวียนไปฝากท้องตามร้านต่างๆ
      > > > หลังจากนั้นก็มักไปเล่นเกมส์ เกมส์ประจำตัวของผมคือ daytona
      > > > ของกบชอบเล่น dj โดยเฉพาะตอนมีสาวๆมองเยอะจะออกลีลาเป็นพิเศษ
      > > > เครื่องตู้เกมส์ เตอติส ที่อยู่หลังร้านเหมือนเป็นเกมส์ที่สร้างมาเพื่อ บอมและนุ่น
      > > > ผมได้เห็นทั้งคู่เล่นด้วยกัน เล่นแข่งกันได้
      > > > ดูเวลาที่เขาแกล้งกัน นุ่นมักปัดมือของบอมให้ออกจากจอยเกมส์เป็นประจำ
      > > >เวลาที่ทั้งคู่เล่นแข่งเพราะบอมเป็นคนที่เล่นเก่งมาก
      > > >แต่บอมก็ชอบและไม่เคยเห็นบอมโกรธนุ่นสักครั้งเวลาที่นุ่นคอยแหย่คอยกวน
      > > > ผมคิดว่าทั้งคู่คงมีความสุขมากที่ได้อยู่ใกล้ๆกัน
      > > > พลางคิดไปถึงคำพูดใน หนัง รักออกแบบไม่ได้ ที่ว่า
      > > > > ”> เป็นเพื่อนกันดีที่สุดจะได้คบกันนานๆ> ”>
      > > >แต่สำหรับสำหรับคู่นี้ผมนึกภาพไปถึงตอนที่ทั้งคู่เป็นคนชราคู่หนึ่ง ที่ใช้เวลาบั้นปลายชีวิตนั่งนับดาวบนท้องฟ้าด้วยกัน และต่อเติมความสุขซึ่งกันและกัน
      > > > ทุกครั้งที่มองคู่นี้อยู่ด้วยกันผมคิดว่าเค้ากำลังร่วมสร้างและต่อเติมความรัก ซึ่งกันและกันอยู่
      > > > แม้เพื่อนสนิทอย่างผมจะแซวว่าทั้งคู่ไม่เหมือนแค่เพื่อนสนิทเท่านั้นนะคู่นี้
      > >แต่ว่าสิ่งที่ผมเห็นคือรอยยิ้มของทั้งคู่พร้อมอาการเขิน
      > > > และสายตาของนุ่นที่หันไปมองบอม
      แล้วทั้งคู่ก็ช่วยกันปฎิเสธ
      > > > แล้วนุ่นก็มักจะพูดว่า> ”>
      พวกนี้เนี่ยไม่พูดด้วยแล้ว> ”>
      > > >พรอ้มกับหันหลังเดินไปซื้อขนมและบอมก็เดินตามติดๆกันไป
      > > > วันศุกใกล้ปิดคอร์สเรียนพิเศษภาษาอังกฤษเมื่อพวกเรามาถึงที่เรียนพิเศษปรากฏว่าไฟดับ โรงเรียนจึงนัดชดเชยให้วันอื่น
      > > >วันนี้จึงไม่ค่อยได้เรียนเพราะวันศุกที่โรงเรียนมีเรียนแค่2วิชา
      > > > พวกเราจึงถือสมุดหนังสือไปเรียนเพียงไม่กี่เล่ม
      > > > หลังจากนั้นพวกเราจึงไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้า
      > > > วันนี้นุ่นผิดปกติดูซึมๆตั้งแต่เช้า พวกเรารบเร้าเท่าไหร่ก็ไม่บอก
      > > > ขณะที่เดินเล่นกันอยู่บอมได้จับหน้าผากของนุ่น
      > > > บอมตกใจมากเพราะนุ่นตัวร้อนจัด
      > > > บอมจึงพูดว่า> ”>
      นุ่นเธอตัวร้อนมากนะกินยาอะไรหรือยัง?> ”>
      > > > > “> ปวดหัวนิดหน่อยไม่เป็นไรหรอก> ”> นุ่นตอบ
      > > > พวกผมจึงรบเร้าให้นุ่นรีบกลับไปผักผ่อนที่บ้านและตัดสินใจให้บอมเดินไปส่งนุ่น ขึ้นtaxi
      > > > โดยผมกับกบจะไปรอที่food center
      > > > ก่อนที่ผมจะแยกย้ายกับนุ่น บอมแซวนุ่นว่า
      > > > > “>นี่ไม่สบายขนาดนี้ยังไม่ยอมนอนพักอยู่บ้านอีก> ”>
      > > > > “> ก็ฉันเป็นเด็กขยันนะซิจ๊ะ> ”>
      นุ่นตอบพร้อมกับยิ้มมา
      > > > > “>ดูนุ่นสิหน้าเหมือนคนจะตายอยู่แล้วยังยิ้มออกอีก> ”>
      > > >บอมพูดไปโดยไม่รู้ว่ารอยยิ้มนี้จะเป็นรอยยิ้มที่พวกผมจะไม่มีวันลืม
      > > > สำหรับผมเหตุผลเดียวที่นุ่นมาเรียนวันนี้คือการที่ได้มานั่งเรียนพิเศษข้างๆบอม
      > > >หลังจากผมแยกย้ายกับนุ่นบอมก็เดินไปส่งนุ่นขึ้นtaxi กลับบ้าน
      > > > ........เอี้ยด.....ปัง......อัก......
      > > > รถบบรทุกคันหนึ่งวิ่งคร่อมเลนมาชนกับtaxiคันหนึ่งที่วิ่งมาด้วยความเร็วค่อนข้างสูง
      > > > ร่างของผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยกระเด็นกระแทกกระจกรถออกมา ตกลงบนพื้น
      > > > และไถลไปข้างหน้าอีก7-10 เมตร
      > > > สมุด หนังสือ ดินสอกระจัดกระจายอยู่บนถนนบ้างบนทางเท้าบ้าง
      > > > กล่องดินสอ มือถือแตกเป็น 2 ส่วน
      > > >พลเมืองดีผู้หนึ่งอุ้มร่างที่เต็มไปด้วยเลือดและบาดแผลไปส่งโรงพยาบาล
      > > > เช้าวันเสาร์ ณ ที่เรียนพิเศษวิชาคณิตพวกผมรู้สึกแปลกใจที่นุ่นมาเรียนสาย
      > > > เพราะปกตินุ่นจะมาเป็นคนแรก
      > > >แต่พวกผมก็คิดว่านุ่นคงยังไม่ค่อยสบายและผักผ่อนอยู่ที่บ้าน
      > > แต่ขณะที่เริ่มเรียนไปได้15นาที เพจของบอมก็ดังขึ้น
      > > > พรอ้มกับข้อความจากแม่ของนุ่นที่ว่า ตอนนี้นุ่นอยู่ห้อง ICU โรงพยาบาลเปาโล ต้องการพบบอมด่วน
      > > > เมื่อพวกผมอ่านข้อความนี้จบก็เดินออกจากห้องทันที มารู้ตัวอีกทีก็คือเห็นรอยช้ำของขอบตาที่เกิดจากการร้องไห้ของแม่ของนุ่น
      > > >พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่ยอมหยุดที่หน้าห้องICU
      > > >เมื่อเราเดินเข้าไปในห้องหมอบอกพวกผมว่านุ่นเสียเมื่อ 5 นาที ที่แล้ว
      > > > พวกผมเหมือนตกอยู่ในภวัง น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากทุกคนที่เรียกตัวเองว่า
      > > > ลูกผู้ชาย
      > > > ทุกคนยืนร้องไห้อยู่ข้างๆเตียงของนุ่น
      > > > ไม่มีสักคนเปิดผ้าที่คลุมร่างที่ไร้วิญญาณของนุ่นดู> >ูเพราะทุกคนรู้ดีว่านุ่นไม่ต้องการให้ใครเห็นนุ่นในสภาพอย่างนี้แน่
      > > > เหตุการณ์นี้แม้ว่าผมจะเสียใจมาก
      > > >แต่ยังไงก็คงไม่เท่าบอมเพราะทุกคนรู้ดีว่าบอมเสียใจมากที่สุด
      > > >แต่บอมก็เก่งมากเพราะหลังจากนั้นอาทิตย์หนึ่งก็ไม่เห็นบอมร้องไห้อีก
      > > > ขณะนั่งเรียนวิชาคณิตในคาบที่ 7
      หลังจากงานชาปณกิจนุ่น 2 วัน
      > > >แม่ของนุ่นได้ขออนุญาติอาจารย์เดินเข้ามาหาบอมในห้องและพูดว่า
      > > > > ”> ในห้องICU ก่อนที่นุ่นจะสิ้นใจนุ่นบอกกับแม่ให้นำ diary
      > > > เล่มนี้มาให้บอมให้ได้> ”>
      > > > แล้วแม่ของนุ่นก็ยื่นถุงกระดาษที่ข้างในมีdiary
      เล่มหนึ่งมาให้
      > > > หลังจากหมดคาบผมและบอมได้หยิบdiary ขึ้นมา
      > > > มันเป็นdiary เล่มสีชมพู
      ที่นุ่นใช้เขียนความคิดและความฝันต่างๆของนุ่น
      > > > ชื่อของบอมมีอยู่ในdiaryของนุ่นทุกหน้าตั้งแต่วันที่เธอได้พบกับบอมที่ห้องศิลปะ
      > > > เมื่อพลิกกลับมาช่วงกลางเล่มน้ำตาของบอมก็หยดลงบนรูปๆหนึ่งที่นุ่นวาดขึ้นในdiary
      > > > เป็นรูปนุ่นกับบอมที่ยืนยิ้มโดยนุ่นยืนกอดแขนบอมอยู่และทั้งคู่ใส่ชุดนักศึกษามหาลัยธรรมศาสตร์
      > > > > “> ทำไมนุ่นไม่รู้ล่ะว่าเรารักเค้ามากขนาดไหน>
      ”>
      > > > บอมพูดเมื่ออ่านdiary
      และได้รู้ว่านุ่นรอคอยคำว่ารักจากบอมอยู่
      > > > และเมื่อช่วงหนึ่งในdiary จึงได้รู้ว่า
      > > >นุ่นเข้าใจผิดว่าบอมไปรักผู้หญิงคนหนึ่งที่บอมชี้ให้พวกเราดู ณ ที่เรียนพิเศษ
      > > > สิ่งต่อมาที่ผมได้รู้ก็คือ นุ่นไม่เคยเข้า
      ใจสิ่งที่บอมพูดเสมอในกลุ่ม
      > > > ว่า รัก กับ ชอบ นั้นแตกต่างกันมาก
      > > >ผมได้แต่นึกเสียดายที่บอมไม่ยอมพูดความรู้สึกของตัวเองให้นุ่นได้รับรู้
      > > > ได้แต่ปล่อยให้นุ่นคิดไปต่างๆนาๆ
      > > > เพราะถ้าบอมได้พูดและอธิบายความรู้สึกของตัวเอง
      > > > นุ่นก็คงจากไปอย่างมีความสุขกว่านี้
      > > > ก่อนการเร่งสอบปลายภาคไม่กี่วัน
      > เพื่อให้เวลานักเรียนอ่านหนังสือเตรียมเอ็น ครั้งที่2
      > > > ขณะที่ทุกคนกำลังนั่งคุยกัน
      กบได้ตะโกนถามเพื่อนๆทุกคนว่า
      > > > ถ้าตอนนี้มีพรวิเศษขออะไรก็ได้สิ่งหนึ่งจะขออะไร
      > > > คำตอบที่ได้ก็แตกต่างกันไป บ้างขอให้ หล่อ รวย สวย
      เอ็นติด
      > > > ทุกคนตอบต่างๆกันไป
      > > >เมื่อกบหันมามองหน้าบอมทุกคนก็หันมาเหมือนจะรอคำตอบจากบอม
      > > > “>เราขอแค่ได้พบนุ่นอีกครั้งแล้วเราจะบอกเค้าว่าเรารักเค้ามากขนาดไหน>> ”>
      > > > บอมตอบมาพร้อมๆกับน้ำตาที่ค่อยๆคลอออกมา
      > > >หลังที่บอมพูดจบเพื่อนในห้องหลายคนหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตาของตน
      > > > วันนั้นผมจึงได้รู้ว่า
      นุ่นยังคงอยู่ในใจของบอมอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง
      > > >วันที่ผมได้รู้อานุภาพของความรักก็คือวันประกาศผลเอ็น
      > > > เรานัดเปิดซองจดหมายผลสอบพร้อมกันที่บ้านของกบ
      > > > กบติด ม.เชียงใหม่ ผม ติด ที่ประสานมิตร
      > > > แต่สิ่งที่ทำให้ผมตกใจมากคือ คนที่ได้คะแนน60
      > > > กว่าเกือบทุกวิชาไม่ติดเศรษฐศาสตร์ได้อย่างไร
      > > > แต่คำอธิบายของบอมก็ทำให้ผมรู้ว่าบอมทิ้งความฝันที่จะเป็นนักการเงินของเขา
      > > > มาเรียนสังคมสงเคราะห์เพื่อเดินตามความฝันของนุ่น
      > > >ทำให้ผมได้เห็นความรักที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของคนๆหนึ่ง
      > > >ความฝันของบอมเปลี่ยนเป็นการได้สร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
      > >และได้นำชื่อณัฐธิดาที่เป็นชื่อจริงของนุ่นมาตั้งเป็นชื่อสถานเลี้ยงเด็ก
      > > >เพื่อเป็นอนุสรณ์ของผู้หญิงจิตใจดีงามคนหนึ่งที่เค้าได้เคยพบเจอในชีวิต
      > > > คนที่ไม่รู้จักบอมดีจะมองเค้าเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่ปิดตัวเองไม่ยอมเปิดใจให้ใคร
      > > > แต่สำหรับผมรู้ดีว่าใครอยู่ในหัวใจของเขาตลอดเวลา
      ........
      > > > ในเวลาโพล้เพล้สายลมลมพัดเมฆมาก่อตัวรวมกันจนกลั่นป็นเม็ดฝนลงมาสู่ดินทุกหนแห่ง
      > > > ลมพัดเข้ามาในหัองผมอย่างแรง
      > > > ทำให้กรอบรูปที่มีรูปถ่ายของพวกเราอยู่
      คว่ำด้านหน้าลง
      > > > ผมหยิบมันพลิกขึ้นวางที่เดิม
      > > > และมองไปที่รูปนั้น
      อีกครั้งหนึ่งที่มันทำให้ผมนึกถึง ..เธอ... ..
      > > > เธอ
      ผู้ที่ทำให้พวกผมรู้ได้รู้ว่าคนดัดฟันกินอาหารบางอย่างไม่ได้
      ..
      > > > เธอ ผู้ที่ทำให้พวกผมได้ห> ัดฟังเพลงค่าย DOJO
      CITY
      > > > เธอ ผู้ที่แนะนำให้พวกผมมองโลกในแง่ดี
      และออกไปต่อสู้กับปัญหา
      > > > เธอ
      ผู้ที่นำความงดงามของจิตใจเธอมาให้พวกผมได้สัมผัส
      > > > เธอ ผู้ที่มาเปลื่ยนแปลงชีวิตของพวกผม
      > > > เธอ ผู้ที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับมา
      > > > ฝนยังคงกระหน่ำลงบนถนนสายหนึ่ง
      > > > เม็ดฝนกระหน่ำลงมาปานจะฉีกสมุดที่อยู่ในดงหญ้าข้างๆทางเท้าเล่มหนึ่งยุ่ยขาดเป็นส่วน
      > > >แม้จะผ่านลมฝนลมหนาวมานานเท่าใดแต่สมุดเล่มนี้ก็ยังคงอยู่ที่เดิม
      > >พร้อมกับรอยหมึกคำสัญญาที่ไม่อาจเป็นจริงได้เพราะคนๆหนึ่งได้จากไปแล้ว
      > .....
      > > > > “> รัก> ”>
      บางคนคิดว่าเป็นความรู้สึกที่ไม่จำเป็นต้องพูด
      > > > แต่ผมอยากให้คุณรู้ว่ามีบางคนใช้ชีวิตเพื่อเสาะหาและรอคอยคำๆนี้จากปากคุณอยู่
      > > >
      > > > เมื่อคุณมั่นใจแล้วคุณควรที่จะพูดออกไป
      > > >
      ดีกว่าที่จะต้องมานั่งเสียดายและเสียใจเพราะว่าวันนี้เป็นวันที่...สาย...เกิน
      > > > ...ไป....

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×