The Last Night II - The Last Night II นิยาย The Last Night II : Dek-D.com - Writer

    The Last Night II

    มัน3เดืนแล้วนะ....มันนานมาแล้ว แต่เสียงนั่น....

    ผู้เข้าชมรวม

    123

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    123

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  8 ต.ค. 48 / 13:14 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    นิยายแฟร์ 2024
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      The last night 2
      By: Neko
        Act1: The night of today (ค่ำคืนของวันนี้)
                          เป็นเวลา 3 เดือนเศษๆ ณ สวนสาธารนะ ยังคงสวยงามสง่าอยู่กลางเมือง ถึงมันจะเคยเปื้อนไปด้วยเลือดของหญิงสาวหลายๆคนก็ตามที
           “ให้ตายสิ!!!”เนะโกะยืนบ่นขณะคอยแอนซูลมารับที่หน้าสวนสาธารนะ หน้าตาบ่งบอกถึงความโกรธอย่างเห็นได้ชัด สภาพคิ้วผูกโบว์ของเธอ “เนะจ๋า^_^ฉันมาแล้ว”แอนเดินลงจากรถมาหาเนะ เขารู้อยู่แล้วว่าเธอต้องโกรธ “โธ่! เนะก็รถมันติดน่ะ” เขาพยายามหาข้อแก้ตัวมาพูดให้เนะหายโกรธ…แต่ก็ไม่สำเร็จ=_= เนะโกะยังคงหน้าบึ้งๆของเธอไว้ได้(เหมือนเอาปูนมาทาไว้นั้นแหละ) “เนะง่ะ…อย่าโกรธฉันเลยนะๆๆๆ” “ให้ตายสิ!! เมื่อไหร่นายจะเลิกพูดไอ้ข้อแก้ตัวไร้สาระของนายสักที” ประโยคสนทนาจบลงในทันใด เนะเดินขึ้นรถแถมปิดประตูกระแทกใส่หน้าแอนซูลอีกต่างหาก แอนได้แต่ยืนงง เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี “เมื่อไหร่นายจะมาขับรถว่ะ”เนะเปิดกระจกรถแล้วพูด(ตะโกน)กอกใส่หูแอนซูล(ผู้น่าสงสาร) ทำให้แอนรีบวิ่งไปขึ้นรถในทันที “ขอโทษจริงๆนะเนะ” แอนซูลกล่าวคำขอโทษแล้วเขาก็ขับรถออกไป ขณะที่เนะโกะนั่งเงียบ ดูเหมือนเธอกำลังคิดอะไรอยู่หลายๆอย่าง หลายๆเรื่อง…จนถึงบ้าน
      “เนะจ๋า…ถึงแล้วครับ” แอนซูลหันมาบอกเนะ แต่ดูเหมือนว่าลูกแมวน้อยๆของเขาจะหลับไป
      “โธ่!…”แอนยิ้มเขาถอนหายใจ เขาเดินลงจากรถแล้วเดินมาเปิดประตูข้างที่เนะนั่งอยู่
      “ลูกแมวของฉัน”แอนอุ้มเนะลงจากรถ…
      “อ่ะ!คุณราฟาเอล”แอนซูลตกใจนิดหน่อย เพราะเขาเห็นราล์ฟมายืนคอยอยู่
      “ฉันอุ้มเองแอน…นายไปพักเถอะ” ราฟาเอลพูดน้ำเสียงเย็นชา พาเอาแอนซูลขนลุก
      “ไม่เป็นไรครับ”แอนยิ้มสู้ แล้วเขาก็เดินไป
      “นายคิดเหรอว่าจะเอาของๆฉันไปได้น่ะแอนซูล…น้ำหน้าอย่างนายน่ะ…อย่าหวังสูงไปหน่อยเลย” ราฟาเอลพูดขึ้น
      ดูเหมือนว่าแอนซูลจะไม่สนใจกับคำพูดเหยียดหยามของราฟาเอลสักเท่าไร เขาก้มหน้าก้มตาเดินจนถึงห้องเนะ “เนะโกะฉันมัน…ไม่ดีขนาดนั้นเลยเหรอ” แอนวางเนะไว้ที่เตียง เขานั่งลงตรงข้างเตียงนอนอย่างหมดสภาพ ก้มหน้าไม่มองอะไร


      “Ansune น้องชายข้า” เสียงปริศนาดังขึ้น
      “ฟูรูนนั้นนายเหรอ” แอนซูลมองหาเสียงพี่ชายตนรอบห้อง แต่กับไม่เจออะไร
      “โธ่! แอน…เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าข้าเป็นนกน่ะ”แอนซูลเริ่มมองออกไปที่หน้าต่างเขามองไปเรื่อยๆจนเจอเขากับนกสีเหลืองทองตัวหนึ่ง
      “ฟูรูนนั้นพี่เหรอ” เขาเปิดหน้าต่างออกไป
      “ใช่ๆๆ” “มาทำ…อะไร…ที่นี้..ที่เมืองนี้”แอนเดินถอยหลังไปเรื่อยโดยไม่รู้ตัว เขารู้สึกได้ว่าพี่ชายเขาต้องไปทำอะไรไม่ดีไว้เลยมาหา
      “โธ่!แอนซูลน้องรัก ที่พี่มาก็เพราะ…”เขาแปลงเปลี่ยนตัวเองกลายเป็นมนุษย์ ฟูรูนเดินเขามาใกล้ๆแอนซูล
      “เพราะอะไรล่ะ” แอนซูลถาม เขายังคงเดินหนีพี่ชายตัวเองอยู่
      “เพราะ…เด็กผู้หญิงคนนั้น”ฟูรูนชี้ไปทางเนะโกะที่นอนหลับอยู่บนเตียง
      “ทำไมต้องเป็นเธอ…ฟูรูน”แอนซูลถามเสียงแข็ง เขาหยุดเดินทันที    
      “เพราะ…นายชอบเธอ หึๆ”ฟูรูนเอามือของเขาจับหน้าแอนซูลเบาๆ
      “บ้าน่า…แล้วนายจะทำอะไรเนะโกะ” แอนซูลเถียงฟูรูน เขาสะบัดมือฟูรูนหลุด ท่าทางฟูรูนจะไม่พอใจเท่าไหร่ที่แอนทำอย่างนี้กับเขาแต่เขายังยิ้มอยู่
      “ฉันนะเหรอจะทำอะไรได้…แอนซูล”ฟูรูนกล่าวพร้อมยิ้มออกมา
      “โคคุคุรุซาว่า เนะโกะ ใครๆก็รู้ว่าถ้ายุ่งแล้วจะเจออะไร”ฟูรูนเอ่ยขึ้น บรรยากาศดูเครียดขึ้นเรื่อยๆแต่ฟูรูนยังคงยิ้มอยู่
      “หมายความว่ายัง”แอนซูลถามพี่ชายตนด้วยความสงสัย
      “ก็บรรดาสารพันธ์เวทย์ต่างๆนาๆของเธอไงล่ะ”ฟูรูนพูดขึ้น เขาเดินไปนั่งที่โซฟา
      “ใช่! แล้วใครกล้าเข้าห้องฉันโดยไม่ได้รับอนุญาตก็โดนเช่นกัน” เนะโกะที่ตื่นขึ้นมาเมื่อกี้กล่าววาจาท้าทายฟูรูนโดยไม่ได้ตั้งใจ(นิสัยมันก็เงี้ยะแหละเนะอ่ะ{ปากเสีย})
      “หึๆเห็นไหมแอนซูลน้องรัก”ฟูรูนเดินไปอยู่ข้างแอนซูล มือของเขาโอบไหล่แอนซูลไว้
      “เนะโกะ…ใจเย็นนะ นี้ฟูรูน…พี่ชายฉันเอง” แอนซูลเริ่มอธิบายให้เนะเข้าใจในหลายๆเรื่องที่เกิดขึ้นตอนเธอหลับ
      “ให้ตายสิ…ฉันไม่ยักรู้ว่านายมีพี่ชาย” เนะเริ่มพูดใส่อารมณ์ เธอเดินไปมาทั่วห้องเหมือนคิดอะไรอยู่ระหว่างที่2คนนั้นยืนดูเธอเดินไปมาเป็นเวลาประมาณ10นาที
      “เนะจ๋า…หยุดเดินได้หรือยังครับ”แอนซูลเริ่มอ้าปากพูด
      “อ่ะ…” เนะโกะรีบวิ่งออกไปจากห้อง ทำให้สองพี่น้องแอนซูลและฟูรูนเกิดอาการงงเป็นอย่างยิ่ง เขาทั้งสองนั่งอยู่ได้สักพักก็เดินตามเนะออกไป…
              สวนสาธารนะ เวลา 11.45 PM.
             “วันนี้ต้องกลับบ้านดึกอีกแล้ว” ไวท์บอกกับแบล็คคุง เ ธอท่าจะกังวลที่ต้องให้แบล็คคุงมารับเธอทุกวันทั้งๆที่งานของแบล็คคุงเองก็เยอะอยู่แล้ว
      “ไม่เห็นเป็นไรเลย เอานี้กินซ่ะสิไวท์เดี๋ยวก็เย็นหมด”ทั้งสองนั่งกินอาหารรอบดึกอยู่ที่ข้างรถที่จอดอยู่
      “นี้แบล็คคุง…”
      “หืม..อะไรเหรอไวท์”ไวท์จับแขนเสื้อ แบล็คคุงไว้ หน้าตาเธอค่ำเคียด
      “เมื่อไหร่นายจะ…ซื้อรถใหม่ล่ะ” ไวท์กำแขนเสื้อแบล็คคุงแน่นเหมือนจะเค้นเอาคำตอบ (เหมือนสอบปากคำผู้ต้องหา)
      “ทำไมล่ะ…คันนี้ก็ยังดีอยู่เลยนี้”แบล็คคุงสงสัยขึ้นมาทันที
      “ป่าวอ่ะ ก็แค่ถามดูแค่นั้นเอง”ไวท์ปล่อยเสื้อแบล็คคุง
      “ถ้าอยากให้ซื้อใหม่…งั้นพรุ่งนี้ไปซื้อด้วยกันนะ”แบล็คคุงหันไปหาไวท์ เขายิ้มอย่างมีความสุข เต็งๆ!! เสียงหอนาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงคืน……ทันใดนั้นเอง [กรี๊ด!!!] เสียงหญิงสาวผู้โชคร้ายดังขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
      “เสียงนั้น…มันไม่น่า…นี้มันผ่านมา3เดือนแล้วนะ”
      “ไม่ไวท์…อย่าลืมสิสามเดือนนั้นตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้เลยนะ”แบล็คคุงรีบเดินไปใกล้ๆไวท์ “แบล็คคุง…จะไปดูไหม”ไวท์เข้ามากอดแบล็คคุงไว้แน่นด้วยความกลัวของเธอ
      “ไม่ไปหรอกฉันจะอยู่กับเธอนี้แหละ”แบล็คคุงส่ายหน้าเขารีบพาไวท์ขึ้นรถและขับรถกลับในทันที ขณะนั้นไวท์เองก็หยิบโทรศัพท์มือถือโทรแจ้งตำรวจเช่นกัน…

      Act2: This is a man (นี้คือผู้ชาย)
         ในบ้าน
             “นี้ราล์ฟ…ฉันหิวน้ำ” เนะเดินเข้าไปในครัว เธอเดินไปอ้อนราฟาเอลเพื่อขอน้ำส้มกิน
      “อยู่ในตู้เย็นไปหยิบเอาสิครับ”ราฟาเอลไม่ได้สนใจท่าทางอ้อนวอนของเธอเลย วันนี้เขาดูหงุดหงิดมากขึ้นเหมือนไม่ใช่ราฟาเอล
      “เป็นอะไรไปน่ะราล์ฟ”เนะชักงงๆเธอเดินเข้าไปใกล้ๆราฟาเอล
      “ทำไมต้องมาใช้ผมอยู่คนเดียวล่ะแอนซูลมีทำไมไม่ใช้มันบ้างล่ะ”ราฟาเอลหันมาหาเนะเขาจับไหล่เนะแล้วตะโกนใส่เธอ เนะโกะหันหน้าหนีในทันที
      “ฉันขอโทษ” เนะพูดออกมาด้วยความตกใจของเธอที่ไม่เคยเห็นราฟาเอลเป็นแบบนี้มาก่อน “เนะโกะรู้ไหมว่าฉันรักเธอมากแค่ไหน…ทำไมล่ะหรือฉันมันดีไม่พอ”ราฟาเอลกอดเนะไว้แน่น เนะโกะตกใจมากที่ได้ยินอย่างนั้นแล้วน้ำตาเธอไหลออกมาในทันทีที่ได้ยิน
      “ไม่หรอกราล์ฟ…นายดีเกินไปสำหรับพวกครึ่งๆกลางๆอย่างฉัน”เนะยิ้มทั้งน้ำตา เธอเดินออกไปจากห้องครัวแล้ววาป หนีไป
      “ฉัน…งั้นเหรอ”ราฟาเอลคุกเข่าลงกองอยู่กับพื้นในห้องครัว
        Academy
      “อ้าว…เนะกลับมาแล้วเหรอ”เสียงท่านอาจารย์ใหญ่ ของเธอท่านลูซี่นั้นเองเป็นคนพูดขึ้น “…..” เธอไม่พูดอะไรแค่คุกเข่าลงไปตรงหน้าท่านลูซี่แล้วกอดเขาไว้ น้ำตาเธอไหลไม่หยุด “เป็นอะไรไปลูกแมวน้อย” เขายิ้มอย่างอ่อนโยนเพื่อพยายามปลอบเธอ (เหมือนพ่อปลอบลูกสาวนั้นแหละ) แต่เธอได้แต่นั่งกอดเขาอยู่อย่างนั้น
      “อะไรกันสาวน้อยมีอะไรเหรอ”เขาก้มหน้ามองอย่างระวัง
      “อย่า…อย่าทิ้งหนูไปนะ” เนะพึมพำ ท่าทางเธอจะเจ็บหนัก สักพักเธอก็เดินจากไป
      “อ่ะ…ท่านลูซี่คิดถึงจัง…เห็นเนะไหมครับ” ชายหนุ่มผมแดงยาวเดินเข้ามา แน่อยู่แล้วไม่ใช่ใครไหนไกลแบล็คจังนั้นเอง เขารู้ข่าวเลยรีบมา
      “อา…เดินไปเมื่อกี้นี้”ลูซี่จังชี้ทาง ท่าทางเขาดูโมโหมากๆที่เห็นแบล็คจัง
      “งั้นก็ดี…งั้นเราไปหาอะไรทำกันดีกว่า หึๆ”พอเขาพูดเสร็จลูซี่ยังไม่ทันอ้าปากพูด (ด่า) เขาก็คว้าลูซี่ตัวน้อยๆออกไปจากอคาทันที
      ------------------------------------------------------------------------------------------------
              สวนสาธารนะ 4.50 PM.
          “นี้…จีเน่”คุณหมออิกกิตะโกนเรียกจีเน่สุดเสียง
      “มีอะไรเหรออิก”เขาหันมามองอิกกิ ก่อนหน้านั้นเขาเอาแต่นั่งมองพื้นหญ้าสีเขียว…
      “นายน่ะเมื่อไหร่จะเลิกมองต้นหญ้าสักที” อิกกิพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจสักเท่าไหร่หน้าตาเขาเครงเคียดเอามาก
      “เลิกแล้วๆ”จีเน่รีบเงยหน้าขึ้นแล้วเอาหลังพิงกับม้านั่ง
      “นาย…มันน่าเบื่อจริงๆเลย” อิกกิลุกขึ้นแล้วเดินไป
      “อ่ะเดี๋ยวสิคอยฉันด้วยอิก…อิกกิ….เหวอ!!”จีเน่ลุกขึ้นวิ่งตามไปแต่เขาก็สะดุดเข้ากับก้อนหินที่อิกแอบโยนทิ้งไว้เมื่อกี้
      “เจ็บไหม” อิกกินั่งลงดูสภาพจีเน่ที่ล้มลงไป เขายิ้มนิดๆ
      “นายมัน…จอมซุ่มซ่าม” อิกกิดึงจีเน่ขึ้น
      “อ่ะ…เจ็บ…ขาผม” เขาร้องโอดควน
      “ให้ตายสิวิ่งภาษาอะไร…ขาหักไหมเนี้ย”จีเน่ร้องด้วยความเจ็บส่วนอิกกิเฉย…แถมพูดเหมือนจะว่าจีเน่อีกด้วย
      “อิกฉันเจ็บนะ” จีเน่โวยวายใหญ่ อิกกิได้แต่โดนหมัดของจีเน่ทุบที่หน้าอก
      “ต้องให้ฉันอุ้มไหม”อิกกิหน้าตาเอาจริง จีเน่เริ่มเงียบลง
      “ฉันเดินเองได้” จีเน่พยายามลุกขึ้นหลายครั้งโดยมีอิกกิยืนดูอยู่ข้างๆ
      “ไม่ไหวๆมานี้มา”อิกกิเดินเข้าไปอุ้มจีเน่แล้วก็พาเขาเดินออกไปจากสวนสาธารนะ
      “อิก…” เสียงเบาๆดังออกมาจากปากเขา
      “ฉันจะพานายไปทำแผล…ทำไมนายต้องหน้าแดงด้วยหรือไม่สบาย…ตัวร้อนหรือป่าว..จีเน่”อิกกิมองจีเน่
      “สบายดี…”จีเน่ตอบเสียงเบา
      “ก็ดี” อิกกิเดินไปจนถึงรถ ขณะที่เขากำลังวางจีเน่ลงกับเบอะที่นั่งข้างคนขับเขาก็ต้องสดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงกรี๊ดดังลั่น [กรี๊ดดดด!!!ไม่ปล่อยฉัน] อิกกิหันหลังไปมองหาต้นเสียงแต่ไม่เจอ
      “อิกฉันว่านายไปดูเถอะ” จีเน่บอกให้อิกกิเดินไปดู
      “จีเน่นี้มันกี่โมงแล้ว” คำถามดังขึ้นดวงตาสีดำค่อยๆหลี่ลงช้าๆด้วยความเครียด
      “ทำไมเหรอ” จีเน่ถามอิกกิเขารู้สึกงงที่อยู่ๆอิกกิมาถามเวลากับเขา
      “5ทุ่ม15นาที มีอะไรเหรอ”เขาบอกเวลาแล้วถามซ้ำ
      “ยังๆ…ยังๆไม่เที่ยงคืนเลย” จีเน่มองหน้าอิกทันทีที่เขาพูดจบ
      “อิกกิ…ข้างหลังๆ” อิกกิรีบหันไปดูทันทีที่เสียงเตือนดังขึ้น
      “อย่ามาใช้ดาบกับฉัน” อิกกิกระโดดหลบคมดาบที่ฟันลงมาที่เขา เขาคว้าประตูรถดันมันปิด “นายตาย”ชายหนุ่มที่ถึงดาบพูดขึ้น
      “แก…”อิกกิเดินถอยหลังเขาไปในสวนสาธรานะ
      “หยุดอยู่นั้นแหละคุณหมออิกกิ แอนเดอร์สัน” ดวงตาสีแดงกล่ำจองมองอิกกิเหมือนต้องการที่จะฆ่าเขาให้ตายซ่ะเดี๋ยวนั้น ทำให้อิกกิชะงักเขาหยุดเดินในทันที แสงจันทร์ส่องมาที่ชายหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามาใกล้อิกกิขึ้นเรื่อยๆ
      “นาย…แอนซูล”อิกกิแทบช็อกเมื่อเห็น แต่
      “โทษที…นายจำคนผิดแล้วแอนซูลนั้นน้องชายข้าเอง”ชายหนุ่มพูดขึ้นเสียงของเขาเย็นชา
      “อิกกิ”เสียงจีเน่เดินมา ทั้งที่ขาเจ็บ
      “จีเน่…อย่าเข้ามา” อิกกิบอกให้จีเน่หยุดอยู่ตรงนั้นดวงตานั่นเต็มไปด้วยความเครียด
      “หึๆ…นายคือจีเน่ เอลฟา สินะ”จีเน่ชะงัก
      “ทำไมแกรู้จักฉัน” เสียงสั่นๆหลุดออกมาจากปากจีเน่
      “55555 ผู้รับใช้แด่โคคุเอ่ย จงสู่สุขคติเสียเถิด[หมัดปิศาจ]”หมัดข้างขวาของเขากระแทกลงกับพื้นทันทีที่เขาพูดจบ
      “หึๆ”เสียงอิกกิหัวเราะ ดวงตาสีดำตอนนี้ทอประกายเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธที่ถึงขีด
      สุดพร้อมควันปกคุมรอบพื้นที่… ลมพัดมาเรื่อยๆจนควันหายไป
      “อ่ะ”เสียงฟูรูนอุทานขึ้นด้วยความตกใจ
      “แค่นั้นทำอะไรฉันไม่ได้หรอก…แถมผลที่ได้ออกมาคือ” อิกกิยิ้มที่มุมปาก เขาอยู่ด้านหน้าของจีเน่ผู้ที่โดนโจมตีเมื่อกี้
      “คืออะไร…”ฟูรูนตกใจกับคำพูดนั้น
      “ผลที่ได้คือ…เวทย์หรือการโจมตีใดๆมาโดนเข้ากับHoly Wallแล้วนั้นมันจะ…”อิกกิหยุดดูผลที่จะเกิดขึ้น
      “ไม่…นะ”ฟูรูนลงไปกองอยู่กับพื้น
      “ฟูรูน…”แอนซูลวิ่งมา (มันมาไง)
      “แอน…พี่ขอโทษ” แอนซูลนั่งลงข้างฟูรูน เขาพยุงฟูรูนขึ้นมา
      “ผมจะรักษาพี่เอง…”น้ำตาแอนไหลลงมา
      “อย่าร้องน้องข้า เจ้าต้องเข้มแข็ง”ฟูรูนยื่นมือของเขามาจับหน้าแอนซูลไปแล้วลูบเบาๆ [เต็งๆ] เสียงหอนาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงคืน ทำให้ทุกคนที่อยู่ต้องนั้นมองหน้ากัน ทันใดนั้น [กรี๊ด!!!] เสียงหญิงสาวผู้โชคร้ายดังขึ้น
      “เป็นไปไม่ได้ก็…”อิกกิพูดขึ้น เขามองหน้าฟูรูน
      “ผมไม่รู้เรื่องนะครับ” ฟูรูนมองไปที่อิกกิที่ยืนอยู่แล้วมองกลับมาที่แอนซูล
      “ไปที่รถ…เดี๋ยวนี้” อิกกิวิ่งไปคว้าตัวจีเน่แล้ววิ่งไปที่รถ ส่วนแอนซูลก็พยุงฟูรูนขึ้นแล้ววิ่งไปที่รถของอิกกิที่จอดอยู่
      “เฮ้ย!!คริสนายได้ยินฉันไหม…คริส”จีเน่โทรศัพท์ไปหาคริส
      “อา…อืม…ได้ยินแล้ว มีอะไรเหรอจีเน่” คริสพูดเสียงงัวเงียดูเหมือนจะหลับอยู่
      “คริสนายช่วยตามแบล็คคุง แบล็คจัง ฟีนิค แล้วก็เนะ ออ…นายเองก็มาด้วยนะคริส”คริสฟังจีเน่พูดจบเขารีบวางสายแล้วก็รีบโทรตามทีละคน….
      10นาทีต่อมา
            “มาแล้วๆ”เสียงคริสดังขึ้น อิกกิหันมามองท่าทางเขาจะบอกให้ทุกคนเงียบเสียงลง
      “ทำไม…แบล็คคุงมากับไวท์ แบล็คจังมากับท่านลูซี่ แล้วฟีนิคมากับเนะล่ะ
      ”จีเน่พึมพำเสียงเบา ส่วนแบล็คจังยืนยิ้มอยู่ข้างโดยมีท่านลูซี่ติดมาด้วย ส่วนคนอื่นยืนเงียบ “มันมาแล้ว”อิกกิเดินถอยหลังออกมาจากตรงนั้นทันที เขาถอยมาจนชนกันจีเน่
      “โอ้ย!!อิกนายเหยียบเท้าฉัน”จีเน่กัดฟันพูดเบาๆใส่อิกกิ
      “ขอโทษ” อิกกิหันมาขอโทษเบาๆ ตาของทุกคนจับจ้องอยู่ที่ปิศาจที่เดินเข้ามาใกล้พวกเขา “นั้นมัน…ไม่จริง”เนะพูดขึ้น
      “พวกเจ้าทั้งหลายเตรียมตัวตายได้แล้ว”
      “ทำไมเราต้องเตรียมตัวตายมิทราบ”ลูซี่พูดขึ้นเขามองตามันราวกับว่าจะฉีกมันเป็นชิ้นๆด้วยมือน้อยๆของเขา “เพราะข้าจะฆ่า….พวกเจ้า”ทันใดนั้นเท้าอันใหญ่โตของปิศาจตนนั้นก็กะแทรกลงมาที่กลางวง แบล็คจังคว้าลูซี่กระโดดหนีไปข้างๆ
      “ทำไมยืนเหม่อ” แบล็คจังถามท่าน ลูซี่ ระหว่างที่ทุกคนกระโดดหลบกันไปคนละทาง
      “หาที่หลบให้ดีล่ะทุกๆคน”เสียงเนะโกะพูดเตือนทุกคน ทำเอาทุกคนผวาและรีบวิ่งไปหลบหลังอิกกิที่กำลังกั้นSafety Wallอยู่ เธอกะโจนเข้าใส่ปิศาจตัวนั้น
      “เอานี้ไปกินซ่ะ Acid Rain”เนะร่ายเวทย์ใส่มัน ส่วนตัวเธอถือดาบสุดที่รักซาไวท์เซอร์ซาเบอร์ (Schweizersabel) มุ่งตรงไปที่ตัวปิศาจนั้น แต่ก็ต้องชะงัก…
      “เนะโกะ…ระวัง”เสียงแอนซูลตะโกนดังลั่น พอแอนซูลเงียบเสียงลง เนะก็ลงไปนอนกองอยู่กับพื้นแล้ว ไม่นานนักเธอก็ลุกขึ้นมา
      “นี้สิลูกศิษย์ฉัน”ท่านลูซี่ยิ้ม นิดๆ ขณะที่จองมองเนะท้ามกลางสายฝนน้ำกรดของเนะ เนะโกะลุกขึ้นยืนเธอท้าวเซอร์ซาเบอร์ของเธออยู่ เธอค่อยๆเดินไปตรงหน้าปิศาจตัวนั้น แล้วดึงดาบเล่มที่2ออกมาจากมือ
      “ฉันจะฆ่าแก” ดาบอันที่สองของเธอคือซาเบอร์ (Saber) เนะวิ่งสุดแรงเกิด ดาบของเธอจิ้มเข้าไปที่ขาของมัน และแล้วสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นปิศาจกายเป็นมนุษย์แถมมันยังเป็น…คนใกล้ตัวอีกตั้งหาก
      “อ๊าค!!เนะ…”เขาร้องด้วยความเจ็บปวด
      “ฉันทำอะไรลงไปงั้นเหรอ”เขามองหน้าเนะที่พยุงเขาไว้
      “มิน่าล่ะอาซิดเรน(Acid Rain)ไม่ได้ผล…”เนะพึมพำ เธอพาเขาเดินเข้ามาหาทุกคนที่ยืนอยู่ “เนะนั้น…”เสียงฟีนิคพูดขึ้นมา
      “มิน่าล่ะถึงได้คุ้นๆตากับไอ้ปิศาจนี้”เสียงคริสแทรกขึ้นมา
      “เออ…ให้ตายสิไอ้บ้านี้เองรึ”เสียงท่านลูซี่พึมพำทำเอาแบล็คจังที่อยู่ข้างๆหัวเราะ
      “นีโอนายโดนอะไรมาทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ”จีเน่ถามขึ้น ทุกคนเงียบสนิท
      “ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน…จำได้ว่าฉันเดินอยู่ที่ถนนในเมือง(กำลังเดินซื้อของอยู่)อยู่ๆก็มีคนวิ่งมาชนทำฉันล้มเลย…พอลุกขึ้นได้จะหันไปด่าก็ไม่อยู่แล้ว”นีโอเริ่มเล่า ขณะนี้ทุกคนนั่งจับกันอยู่ที่พื้นฟังนีโอ “ฉันเดินมาเรื่อย…มันรู้สึกเวียนหัวตอนที่เดินผ่านสวนสาธารนะ แล้วฉันก็วูบ…แล้วก็พึงมารู้สึกตัวตอนเนะเอาซาเบอร์มาจิ้มขาฉันเนี้ยแหละ”พอนีเล่าจบทุกคนก็เริ่มมองหน้ากัน แต่คนที่ไม่สนใจอะไรเลยนั้นคือเนะที่หลับไปแล้ว(=_=”)
      “สรุปว่านีโอไม่ใช่คนที่เราตามล่าอยู่”แบล็คคุงพูดขึ้นหน้าตาเขาดูจริงจัง
      “เอาเป็นว่าคืนนี้ไปนอนบ้านเราก่อนแล้วกัน”ไวท์กล่าวเชิญชวนทุกคน
      “อืม…ก็ดีฉันเองก็ง่วงแล้วเหมือนกัน”แบล็คจังพูดขึ้น เขาอุ้มท่านลูซี่ที่หลับไปเป็นคนที่2ต่อจากเนะเดินไปที่รถ ทุกคนพากันเดินไปที่รถ ฟีนิคอุ้มเนะไปด้วย พอถึงที่บ้านก็พากันแยกย้ายไปอาบน้ำนอนกัน “แล้วเจ้าลูกแมวน้อยนี้จะเอาไว้ไหนอ่ะ”ฟีนิคพูดขึ้นขณะที่กำลังเดินขึ้นบันได “เอาไปไว้ห้องนั้นก็ได้”แบล็คคุงบอก “ส่วนนายฟีนิคพอพาเนะไปไว้ห้องนั้นแล้วนายก็ไปนอนกับแอนก็ได้” “อืม” ฟีนิคทำตามที่แบล็คคุงบอก “หลับง่ายจริงๆเลย”แบล็คจังพึมพำขณะกำลังวางท่านลูซี่ลงบนเตียง ส่วนตัวเขาก็นั่งลงอยู่ที่ข้างเตียง “ทำไมนะ…”แบล็คจังพึมพำแล้วเขาก็ฟุบลงไปกับพื้น
               ด้านเนะที่หลับอยู่ ก็ตื่นขึ้นมากลางดึก “กี่โมงแล้วเนี้ย” เธอมองไปรอบๆ “ตีสี่กว่าแล้วเหรอเนี้ย…(หาว)” เนะลุกเดินเข้าไปในห้องน้ำล้างหน้าแปงฟันและออกไปจากห้องแล้วก็ลงไปข้างล่าง
      “อ้าวเนะโกะจัง…ตื่นแล้วเหรอ” ฟีนิคทักเธอ ทำให้เนะสะดุ้งนิดหน่อย
      “อ้าว…ฟีนิคก็ตื่นแล้วเหรอ”เนะรีบถามกับอย่างกระตุกกะตัก
      “ครับ”ฟีนิคยิ้มแล้วก็เดินเข้าไปในห้องครัว
      “ทำอะไรเหรอฟีนิค”เนะชะโงกหน้าเข้าไปดู
      “เนะจังเอานมกล่องไหมเดี๋ยวผมหยิบให้” ฟีนิคหันมายิ้มขณะที่กำลังเปิดตู้เย็นอยู่                    “จ้ะขอบคุณนะ” เขาเดินเอานมกล่องมาให้เนะที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้
      “นี้ครับ…” ฟีนิคลากเก้าอี้มานั่งข้างๆเนะ
      “นี้ฟีนิค…ฟีนิคอยู่กับแบล็คคุงกับไวท์เหรอ”เนะมองหน้าเขาที่กำลังดื่มน้ำแก้วใหญ่อยู่
      “อ่ะ…ครับๆผมอยู่ที่นี้แหละ” เขามองหน้าเนะด้วยความงง
      “ว่าแต่เนะจังถามทำไมเหรอ” “ก็ถามเฉยๆน่ะ…ปกตินอนไหนเหรอฟีนิคน่ะ”เนะเริ่มคำถามที่2 “เออ…นอนห้องที่เนะนอนนั้นแหละ (ว่าแต่ถ้าให้ถามคบ16ข้อจะได้เงินร้านไหมเนี้ย=_=”)”
      เขามองหน้าเนะที่กำลังจะลุกไปทิ้งกล่องนมที่กินหมดแล้ว “แหะๆไม่ถามแล้ว”เธอหัวเราะกลบเกลื่อน แล้วก็เดินออกไป ทำเอาฟีนิคที่นั่งอยู่งงหนักยิ่งกว่าเก่า
          6.00 น.
          “ไวท์จ๋าวันนี้มีอะไรกินเหรอครับ” แบล็คคุงรีบร้อนเดินไปที่หน้าห้องครัว ตอนนี้เขาอยู่ในชุดที่เตรียมตัวไปทำงานเต็มที
      “อยากกินอะไรล่ะค่ะ…ถ้าจะให้ทำเดี๋ยวทำให้แต่ที่ทำไว้แล้วอยู่บนโต๊ะโน้น”ไวท์ชี้ไปที่โต๊ะอาหาร แบล็คคุงมองตามมือไป เขารีบวิ่งสุดชีวิตไปที่โต๊ะหยิบขนมปังแหงะดูนาฬิกาและมองหน้าแบล็คจัง
      “ทำไมถึงตื่นสาย”แบล็คจังพูดขึ้น ใบหน้าเขาอยู่หลังหนังสือพิมพ์ที่ถืออยู่ในมือ
      “ก็ฉันง่วงนี้”แบล็คคุงเถียงเขารีบร้อนเดินออกไปที่รถทันทีที่พูดจบ และขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว
      “แบล็คจังอ่านหนังมือพิมพ์บ้างสิ” ท่านลูซี่ที่นั่งอยู่ข้างพูดขึ้น
      “หา…อ๋อ! หนังสือพิมพ์เหรอ” แบล็คจังชะโงกหน้ามาถามขณะที่ท่านลูซี่นั่งพยักหน้า
      “มานั่งตักผมสิ”แบล็คจังยิ้มที่มุมปาก (ท่าทางท่านลูซี่จะได้อ่านยาก) ลูซี่นั่งจ้องหน้าแบล็คจังสักพักเขาก็ตัดสินใจ
      “ฉันไปแหละ”เดินออกไป ทำให้ทุกคนเงียบสนิทขณะที่กำลังพูดคุยกันดีๆ
      “ผมขอออกไปเดินเล่นแป๊ปนะครับ”ฟีนิคเดินออกไปจากห้องอาหาร…
      Act3: The Sing of Phoenix (บทเพลงของนกฟีนิกซ์)
             “ยังไงอากาศข้างนอกก็ดีที่สุด”ฟีนิคยืนอยู่กลางสวนหย่อมหน้าบ้าน
      “จริงของนาย”เสียงมาจากทางด้านหลังของเขา เสียงท่านลูซี่นั้นเอง
      “มาตอนไหนเนี้ยครับ”ฟีนิคสะดุ้งนิดหน่อย เขารีบคุกเข่าลงกับพื้นแล้วมองหน้าท่านลูซี่
      “มาเมื่อกี้แหละ…ฉันรำคาญ ไอ้พวกข้างในน่ะ” ลูซี่เดินไปนั่งที่ชิงช้าใกล้ๆ เขานั่งลงแกว่งมันไปมา
      “ข้างนอกมันหนาวนะครับใสเสื้อแค่นี้เดี๋ยวก็เป็นหวัดกันพอดี”ฟีนิคเอาเสื้อคุมที่เขาใสอยู่ถอดมาสวมให้ท่านลูซี่
      “ขอบคุณนะ”ลูซี่ยิ้มนิดๆ
      “ท่าทางไม่สดชื้นเลยนะครับ”ฟีนิคนั่งอยู่ที่ชิงช้าข้างๆกล่าวขึ้น
      “หระ…เหรอไม่รู้สิคงเป็นงั้นแหละ”เขามองฟีนิคที่กำลังจองมองตัวเขาอย่างปรารถนาอะไรสักอย่าง
      “งั้น…อยากไปไหนหรืออยากทำอะไรไหมครับ”ฟีนิคยิ้ม
      “ไม่เป็นไร…เดี๋ยวไอ้บ้าแบล็คจังคงไปส่งน่ะ”ลูซี่ก้มหน้าลงมองพื้น
      “เขาไม่ไปส่งท่านหรอก”ฟีนิคลุกขึ้นท่าทางเขาจริงจังกับเรื่องที่พูด “คุณแบล็คจังน่ะเขาต้องทำงาน…น่ะครับวันเนี้ย ผมคิดว่าเขาคงไม่มี…”ฟีนิคยังพูดไม่ทันจบเขาก็รู้สึกว่าท่านลูซี่ที่เคารพของเขากอดเขาอยู่
      “งั้นนายก็ไปส่งฉันสิ…ฟีนิค”เขานั่งเงียบอยู่สักพักก็ กางปีกสีแดงปนส้มเหลืองสุดที่รักของเขาออกแล้วพาท่านลูซี่บินไปส่งที่อคา
         ระหว่างทางไปอคา (Academy)    
      “Phoenix Phoenix a little of Phoenix but this’s the big phoenix…I’m the golden phoenix I’m the master of phoenix…” ฟีนิคฮัมเพลงไปเรื่อย
      “เพราะดีเนอะ…”ลูซี่ยิ้มให้ ทำให้ฟีนิคหยุดร้องกระทันหัน
      “คะ…ครับ”ฟีหน้าแดงนิดหน่อย ท่าทางเขาจะเขยที่ถูกชม
      “ฟีนิคข้างหน้า…ปิศาจ” คำพูดที่ออกมาจากปากลูซี่ทำให้ฟีนิคที่ก้มหน้าก้มตาบินนั้นหยุดชะงักและเงยขึ้นมามองตรง
      “โดนดักทางเสียแล้วสิ แย่จัง”ฟีนิคพูดขึ้นเขายิ้มน้อยๆที่มุมปาก
      “พวกเจ้าผ่านไม่ได้…ไปคุยกันข้างล่างนั้น…เดี๋ยวนี้ได้โปรด”เสียงทุ้มๆของปิศาจตัวหนึ่งดังขึ้น แล้วมันก็พากันบินลงไปที่พื้นหญ้าข้างล่าง
      “ทำไมเราผ่านไม่ได้”ฟีนิคพูดขึ้น พร้อมกับวางท่านลูซี่ที่เขาอุ้มอยู่ลง
      “พวกเราไม่เคยเห็นหน้าพวกท่าน โปรดบอกนามท่านด้วย”ปิศาจตัวเมื่อกี้พูดขึ้น เขาจ้องมาที่ฟีนิคและค่อยๆมองลงมาที่ท่านลูซี่
      “ข้า’โคคุคุรุซาว่า ฟีนิค’แล้วนี้ก็”ฟีนิคชี้ไปที่ท่านลูซี่ “ข้า’ลูซิเฟอร์ คุฟ’…” ฟีนิคยืนเงียบอยู่สักพักจ้องมองพวกนั้นด้วยสายตาที่เย็นชา ลูซี่มองขึ้นไปมองฟีนิคและหันไปมองพวกปิศาจพวกนั้น
      “พวกมันกำลังทำอะไรกันอยู่เหรอ” ลูซี่กระซิบแต่ดุเหมือนว่าฟีนิคไม่ได้ยินเลย ตอนนี้ดวงตาของเขาที่เป็นสีเหลืองทองนั้นกายเป็นสีแดงเลือดอย่างไม่คาดคิด
      [ฟีนิคที่อ่อนโยน อะไรทำให้เขาเป็นแบบนี้ไปได้]
      ลูซี่นึกในใจ สักพักเขาก็ตักสินใจดึงแขนเสื้อของฟีนิคเบาๆ ทำให้ฟีนิคสะดุ้งเล็กน้อย
      “มีอะไรครับ” ฟีนิคค่อยก้มลงมาถาม
      “ป่าว…”ลูซี่ทำเฉยเขาหันกับไปมองพวกปิศาจนั้นขณะที่ทำให้ฟีนิคยืนงง
      สักพัก      
      “พวกท่าน…ข้าต้องขออภัย…ข้ามันโง่นักที่ไม่ให้พวกท่านไป…ข้าต้องขอโทษด้วย”ปิศาจตัวที่เป็นหัวหน้ามากล่าวขอโทษ
      “พวกเจ้าปล่อยพวกเราไปได้หรือยัง”ฟีนิคพูดเสียงเย็นชา
      “อ่ะ….ครับเชิญท่านไปได้เลย” ฟีนิคเดินไปขณะที่ลูซี่ยังอยู่ที่เดิม
      “ท่านไม่ไปใช่ไหม”ฟีนิคหันมาถามดวงตาของเขาเย็นชาน้ำเสียงที่ไม่คุ้นเคยนิสัยที่ไม่ใช่ฟีนิค… “ตื่นสักที”ลูซี่ตะโกนสุดเสียง
      “นายไม่ใช่ นี้ไม่ใช่…ฟีนิคที่ฉันรู้จัก…เอาฟีนิคคนเก่าคืนมา”
      (ชักออกนอกเรื่องแล้วแหะ…ช่างเถอะT^T)ฟีนิคเดินเขามาเรื่อยๆ
      “ข้านี้แหละฟีนิค”เขามองหน้าลูซี่ จ้องมองด้วยตาที่เป็นสีเลือดนั้น
      “Lord of vermilion”(อยากบอกว่าคนเขียนบ้าRagnarokT^T)เสียงท่านลูซี่ตะโกนดังลั่น สักพักกลุ่มเมฆขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นอยู่บ่นท้องฟ้า
      “คิดว่าแค่นี้จะทำอะไรผมได้อย่างงั้นเหรอ” ฟีนิคยืนรับสายฟ้าที่ผ่าลงมาอย่างแรง
      “ไอ้ฟีนิคที่อ่อนแอนั้นจะไม่มีอีกแล้ว…” ปัก เสียงหมัดน้อยๆของท่านลูซี่ที่ชกลงบนหน้าของฟีนิคดังขึ้น ทำให้ฟีนิคยืนเงียบ…สักพัก เขาก็ทรุดลงมานั่งกองอยู่ที่พื้น
      “ฉัน…ผมทำอะไรลงไป”ฟีหันมามองท่านลูซี่ที่นั่งอยู่ข้างๆ
      “เจ็บไหม” ลูซี่เอามือมาจับที่หน้าของฟีนิค
      “ไม่…ครับไม่เป็นไร”ฟีนิคยิ้ม ตาของเขากับมาเป็นอย่างเดิม….
            ที่บ้าน    
      “ใครปล่อย2คนนั้นออกไปน่ะ”แบล็คจังโวยวาย
      “โธ่! ไปหัดใจร้อนมาจากไหนเนี้ยพี่แบล็คจัง”ไวท์พูดขึ้นเธอมองไปทางเนะ เนะเลยชี้ไปที่แบล็คคุงที่กำลังเดินเข้าบ้าน
      “นั้นไง..คนนั้นไง”ไวท์มองไป
      “อะไร…ฉันทำอะไรผิดอีกล่ะ”แบล็คคุงโวย
      “เห็นม่ะเหมือนกันเลย” เนะมองหน้าไวท์ ขณะที่แบล็คจังกำลังอาละวาด
      “โว้ย…อะไรว่ะเนี้ย” คริสนั่งมองแบล็คจังอาละวาดอย่างเซ็งๆ ส่วนแบล็คคุงก็เดินขึ้นไปเปลี่ยนชุดข้างบน แอนซูลกับฟูรูนก็กลับปราสาทไปแล้ว จีเน่ก็ไปที่วังรัตติกาล ส่วนอิกกิก็ไปที่โบสถ์ เนะนั่งเซ็ง…
          ที่อคา  
      “ขอบคุณนะที่มาส่ง”ลูซี่กล่าวขอบคุณฟีนิคที่พามาส่ง “ไม่เป็นไรครับงั้นผมไปก่อนนะครับ”ฟีนิคกางปีกแล้วบินขึ้นฟ้าไป “I hear the wind call your name It calls me back home again It sparks up the fire--a flame that still burns Oh it\'s to you I\'ll always return I still feel your breath on my skin I hear your voice deep within The sound of my lover--a feeling so strong Oh it\'s to you--I\'ll always belong
      Now I know it\'s true, yeah My every road leads to you And in the hour of darkness darlin\' Your light gets me through Wanna swim in your river--be warmed by your sun Bathe in your waters--cuz you are the one I can\'t stand the distance--I can\'t dream alone I can\'t wait to see you--Yes I\'m on my way home
      Oh I hear the wind call your name The sound that leads me home again It sparks up the fire--a flame that still burns Oh it\'s to you I will always return Wanna swim in your river--be warmed by your sun Bathe in your waters--cuz you are the one I can\'t stand the distance--I can\'t dream alone I can\'t wait to see you--Yes I\'m on my way home Oh I hear the wind call your name The sound that leads me home again It sparks up the fire--a flame that still burns Yeah, I\'m on my way--I will always return Yes, I will always return I\'ve seen every sunset and with all that I learned Oh it\'s to you I will always, always return“(เพลงคุ้นไหมT^T) ฟีนิคดูท่าจะร้องเพลงไปเรื่อยๆตลอดทาง ลูซี่ยืนมองฟีนิคจนรับตาไป
      “เด็กหนอเด็ก” ลูซี่เดินเข้าอคาไป….
      “ใครเอาลูซี่จางของฉานปายไหน…..”แบล็คจังยังโวยวายไปเลิก “เซ็งจริงๆ”เนะเอยขณะที่เดินออกไปจากบ้าน เธอกำลังจะกลับไปที่K.H.P (Kokukurusawa Home Page)


         Act4: Falling Rain (ฝนตก)
          ประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง ขณะที่ฝนตกพำๆ  
      “นี้จะจับมันจริงๆเหรอ”จีเน่พูดขึ้นขณะที่กำลังเดินไปที่สวนสาธารานะกับอิกกิ
      “ก็จริงน่ะสิ…”อิกกิชะงักเมื่อเห็นสิ่งที่ตกลงมาจากฟ้าท้ามกลางสายฝน
      “อิกกินายจะไปไหนน่ะเดี๋ยวก็เปียกหรอก”จีเน่รีบวิ่งตามอิกกิไปแล้วยืนกลางร่มให้อิกกิที่นั่งมองอะไรบางอย่างอยู่
      “อิกมีอะไรเหรอ”จีเน่ก้มลงไปดู
      “ขนนกฟีนิค…”อิกกิพูดขึ้นมาเขามองหน้าจีเน่
      “แล้วทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี้ตอนนี้ล่ะอิก”จีเน่รองจับดู เขารู้ได้ทันทีว่าเป็นของจริง
      “ฉันไม่รู้เหมือนกัน…ไม่แน่ฟีนิคอาจจะอยู่แถวนี้ตอนนี้ก็ได้”อิกกิเดินไปโดยมีจีเน่คอยถือร่มเดินตาม
      “เขาจะมาช่วยเราหาคนร้ายไหม” “ต้องช่วยสิ…หมอนั้นใจดีจะตายไป”เขาเดินคุยกันไปเรื่อยๆ “ใช่ๆฟีนิคเขาใจดีไม่เหมือนคนบางคนแถวนี้”จีเน่พูดพรางหลอกด่าอิกกิถึงนิสัยของเขา
      “ออ..เหรอแล้วนายมาเดินกับฉันทำไมแล้วนายมาอยู่บ้านฉันทำไมแล้วนายมา…!!”จีเน่รีบเอามือมาอุดปากอิกกิก็ที่เขาจะส่งเสียงอีกแล้วลากเขาเข้าไปในพุ่มไม้
      “มีอะไร”อิกกิกะซิบข้างหูจีเน่
      “ฟีนิค…นกฟีนิค”เขาทั้งสองมองดูเงียบๆอยู่หลังพุ่มไม้
      “หมดแววเลยอ่ะนะ ฟีนิคไม่มีไฟ”อิกกิเริ่มพูดสอดเสียด
      “นั้น…เนะโกะ” “จริงด้วย…มาทำอะไร…จีเน่นั้นดาบมารSchweizersabel”เขาทั้งสองตกใจเป็นอย่างยิ่ง
      “อย่ามาเกะกะแถวนี้เจ้านกฟีนิคไร้ญาติ”เสียงห้าวๆของเธอพูดขึ้นมา แววตาที่น่ากลัวจ้องมองไปที่นกฟีนิคราวกับว่าเธอเคยเกลียดชังมันมาก่อน
      “หรือว่านี้มัน” “หืม?? อะไรเหรอ “  จีเน่พูดขึ้นมาเบาๆ เขามองหน้าอิกกิ
      “Acid Rain” เพียงแค่ได้ยินก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่นกนั้นรับไปเต็มๆ
      “เจ้านกออกไปจากบริเวรนี้ได้แล้ว” “ไม่ข้าไม่ไป” คำพูดของนกฟีนิคเพียงแค่นั้นมันทำให้เนะโมโหขึ้นมาได้ไม่ยากนัก
      “งั้นเหรอ….เจ้ารองของกับข้าใช่ไหม”เนะยิ้มที่มุมปาก การยิ้มอย่างนี้ทำให้อิกกิกับจีเน่ผวา เขาทั้งสองเริ่มขนลุกในการสแยะยิ้มของเธอ
      “ข้าไม่กล้าขนาดนั้น...ข้าแค่อยากเจอท่านเลย…”
      “เลยล่อให้ข้าออกมาโดยการบินเฉียวข้างั้นเหรอ”เนะเริ่มพูดกัดฟัน
      “เจ้านก…ให้ข้าได้เห็นเจ้าในร่างคนหน่อยเถอะ…”เนะยังไม่ทันพูดจบ นกฟีนิคตัวนั้นก็กายเป็นคนให้เห็น
      “ยังเด็กอยู่เลย”อิกกิพูด
      “ชอบแหละสิ”จีเน่มองหน้าอิกกิที่กำลังตั้งอกตั้งใจมองดูบรรยากาศข้างนอก
      “…….”อิกกิไม่พูดอะไรเขาแค่หันมาแล้วก็หันกับไปมองดูสองคนนั้นต่อ
      “หึๆ5555555555 ” เนะหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง(มั้ง) “เจ้าต้องการอะไร…”เนะมองหน้าเขา
      “ข้าชื่อ ฟาร์เชียร์ ข้าต้องการแค่ยานั้นที่ท่านเป็นคนเดียวที่ถืออยู่
      ”เนะเดินไปใกล้ๆเขา เอามือเธอจับที่ไหล่ของเขาทั้งสองข้าง
      “แค่นี้เหรอที่ต้องการ”เนะมองหน้าเขา หน้าของฟาร์เชียร์นั้นเริ่มซีดเพราะโดนAcid Rainมา เขาเริ่มเงยหน้าขึ้นมาตอนนี้ตัวของเขาสั่น
      “ใช่..ผมต้องการ…แค่นี้…แค่ยานั้น….”เขาพูดเสียงสั่น พอพูดจบเขาก็ทรุดตัวลงไปนอนอยู่กับพื้น
      “เนะ…”เสียงอิกกิที่วิ่งออกมาตะโกนขึ้น
      “อิกกิมาพอดีเลยช่วยอุ้มเจ้านกนี้ไปทีสิ”เนะหันมายิ้มให้
      “เข้าใจแล้ว”อิกกิพะยักหน้า จีเน่วิ่งตามออกมา เขาทั้ง3เดินไปที่รถอิกกิอุ้มฟาร์เชียร์อย่างระวัง “ดูท่าจะเป็นไข้นะ”จีเน่พูดขึ้น เขาเอามือมาแตะที่หน้าพากของฟาร์เชียร์เพื่อตรวจดูว่าเขาไม่สบาย
      “งั้นเหรอ”เนะโกะพูดขึ้น
      “ขึ้นรถเถอะ”อิกกิพูดขึ้น เนะรีบขึ้นไปนั่งด้านหลัง อิกกิเอาฟาร์เชียร์นอนลงที่เบาะด้านหลังอย่างระวัง ส่วนจีเน่ก็นั่งเรียบร้อยอยู่ด้านหน้า อิกกิขึ้นรถและขับออกไป
            ทันใดนั้นเองเสียงหอนาฬิกาก็ตีบอกเวลาเที่ยงคืน [ไม่…ม่าย…] เสียงหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายในค่ำคืนนั้นร้องดังรั้นโดยไม่มีใครได้ยินเสียงร้องของเธอ “หึๆเอาชีวิตเจ้ามาให้ข้า…แล้วข้าจะให้ความเป็นอิสระแก่เจ้า…..เนะโกะ โคคุคุรุซาว่า” เสียงชายนักฆ่าบ้าเลือดนั้นพูดขึ้น
         ตอนเช้าที่บ้านอิกกิ    
      ระหว่างที่จีเน่ อิกกิ เนะโกะนั่งคุยกันอยู่ที่ห้องรับแขก
      “เนะ เนะเคยโดนไอ้ฆ่าตะกอนโรคจิตนั้นเล่นงานไม่ใช่เหรอจำหน้ามันบ้างได้ไหม”จีเน่ถามขึ้น เขามองหน้าเนะ
      “มันเอาผ้าพันแผลสีดำปิดหน้าไว้น่ะเลยไม่รู้ว่าเป็นใคร”เนะเริ่มพูดให้เขาฟังถึงลักษณะของมัน
      “แล้วตามันล่ะสีอะไร เพราะถ้าปิดหมดก็น่าจะเหลือตรงตาไว้ดูนี้หน่า” อิกกิพูดพูดขึ้น เขาอ่านหนังสืออยู่และปิดลงเมื่อเขาเริ่มพูด
      “ดวงตาสีแดงเลือด…ผมแดงส้มอมทอง”เนะพยายามนึก เธอมองไปหาอิกกิ “ตาสีแดงผมสีแดง…ใครกัน
      ” จีเน่พึมพำ “ถ้าไม่ใช้คนทั่วไปแต่เป็นคนในบ้านเราล่ะ”อิกกิพูดขึ้น หน้าตาเขาดูเครงเคียดมาก
      “อาจจะเป็นไปได้….แล้วใครล่ะ”เนะโกะพูดขึ้นมา
      “ผมแดง ตาแดงหรือจะเป็นแบล็คคุงหรือไม่ก็แบล็คจัง”จีเน่พูดขึ้นมา
      “เป็นไปไม่ได้โดยเฉพาะแบล็คคุงเพราะว่าเขาไม่น่าจะทำร้ายไวท์ได้ แล้วแบล็คจังก็คงไม่ทำร้ายเนะโกะแน่ๆ
      ”อิกกิมองหน้าเนะโกะแล้วหันไปมองจีเน่ “แล้วใครล่ะที่เป็นคนทำ
      ”จีเน่ลุกขึ้นโวย “พี่ลูก็ไม่น่าใช่….ฟีนิกส์ก็คงไม่ใช่”เนะโกะมองหน้าอิกกิและดึงเสื้อจีเน่ให้เขานั่งลง
      “จริงของเนะ งั้นเราต้องสืบต่อไป”อิกกิคว้าเสื้อคุมแล้วเดินออกไป
      “เดี๋ยวสิคอยฉันด้วย”จีเน่วิ่งตามออกไป เนะนั่งมองทั้งสองเดินออกไป เธอนั่งอยู่ได้สักพักก็หยิบกุญแจรถแล้วเดินออกไป
      “อ้าวไปไหนกันหมดแล้วล่ะเนี้ย” ฟาร์เชียร์ที่พึงเดินลงมา เขาไม่เห็นใครเลย….(แย่จัง)
             ด้านเนะที่ขับรถอยู่ก็ตรงดิ่งไปที่ จุดชมวิวของเมือง
      “เสดาร์เสคัส” ทันใดนั้นเองถนนสายยาวก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าทำให้เธอรีบไปโดยเร็ว
      ถนนที่โพล่ขึ้นกลางทะเลนั้นเป็นจุดเชื่อมต่อVital Ocean ตรงกลางเป็นปราสาทคริสตัลที่สวยงานสง่าอยู่ถนนสายนี้มีชื่อเรียกว่า North Road (ถนนสายเหนือ) เป็นถนนสายตรงผ่านปราสาทและไปยังUnderground City ตรงไปอีกคือ Nighttime Palace (วังรัตติกาล)
      “เนะ” เนะโกะจอดรถที่ปราสาทคริสตัลทันใดนั้นคริสก็เดินเข้ามาทักเธอ
      “มาได้ยังไง”คริสยิ้ม “ขับรถมา
      ”เนะดูท่าทางไปสบอารมณ์เท่าไหร่ เธอเดินเลยไปผ่านประตูใหญ่เข้าไปในเมือง
      “ฝากดูรถด้วยนะ”เนะหันมาบอกคริสที่กำลังทำหน้างงอยู่ เธอรีบวิ่งออกไป ไม่ช้าก็ถึงน้ำพุกลางเมือง
      “เหนื่อย”(ใครให้แกวิ่งมาล่ะ)เนะนั่งลงที่หน้าบ่อน้ำพุ
      “ให้ตายสิ”เธอก้มหน้าลงมองกับพื้น
      “ขอโทษนะครับพี่สาว…พี่สาวใช่เนะโกะ โคคุคุรุซาว่าหรือป่าวครับ” เด็กชาวบ้านแถวนั้นเดินเข้ามาถามเนะที่นั่งอยู่
      “อ่ะ…อา..ใช่มั้งจ้ะ”เนะยิ้มท่าทางเธอเป็นมิตร
      “ใช่เหรอครับ”เขานั่งลงข้างๆเนะ “คงไม่มีที่ต่ำกว่าพี่ให้ผมนั่งแล้ว…ขออนุญาตนะครับ” เนะมองหน้าเขา
      “เธออายุเท่าไหร่แล้วเนี้ย”เนะถามเขา ทำให้เด็กชายตกใจนิดหน่อย
      “12ครับ”เขาตอบขึ้นทันที
      “เธอเป็นมนุษย์เต็มตัวเลยเหรอ”เนะเริ่มซักถาม
      “ครับ….ใช่ครับ” “ดีจัง”เนะยิ้มเธอลุกขึ้นยืน
      “ไปเดินเล่นกันม่ะ”เนะกล่าวชวนเขาอย่างจริงใจ
      “ได้เหรอครับ” เขารีบวิ่งตามเนะมา
      “พี่สาวใจดีจังเลย”เขายิ้มอย่างสุภาพ
      “เห็นขนมปังร้านนั้นไหม” “ครับ”เนะชี้ให้เขาดู ทั้งสองเดินไปที่นั้น
      “ที่นี้…ผมไม่เคยเข้ามาเลย...แม่บอกว่ามันแพงเกินไป” “เหรอ”เนะเอามือดันประตูเข้าไป
      “รับอะไรดี….”เสียงพ่อค้าที่กำลังจะต้อนรับแต่เขาก็ต้องหยุดลงเมื่อเห็นเด็กๆเข้ามา
      “นี้พวกเธอถ้าคิดจะมากินฟรีที่นี้คงไม่ได้หลอกนะ”เขาพูดพร่ามใหญ่ ส่วนเนะเดินไปหยิบขนมปังใส่ถาดโดยไม่สนใจเจ้าของร้าน เธอเดินเอาถาดไปว่างตรงที่คิดเงิน
      “เท่าไหร่”เนะพูดเสียงเย็นชา เด็กชายที่เดินตามหลังเนะตลอดนั้นจับเสื้อเธอแน่น
      “100โคคู มีจ่ายหรือป่าว” เจ้าของร้านชะโงกหน้ามาดูเนะที่กำลังหยิบกระเป๋าตรังค์ขึ้นมา
      “มีเงินทอนไหม”เนะมองหน้าเขา เธอหยิบแบงค์พันขึ้นมาจ่าย
      “มีสิ”เจ้าของรีบเดินไปหยิบเงินทอนแล้วยื่นให้เธอ
      “เธอเป็นใครสาวน้อยฉันไม่เคยเห็นหน้าเธอ”เจ้าของร้านกล่าวถามก่อนเนะจะเดินออกไป

      “เนะโกะ โคคุคุรุซาว่า”
      เนะหันมาพูดแล้วเดินออกไปอย่างไม่ใยดี เพียงแค่ชื่อเธอก็ทำให้คนหลายคนในร้านขนมปังสะดุ้งทันทีเหมือนโดนไฟฟ้าช็อตเบาๆเพื่อกระตุ้น
      “พี่สาว” “จริงสิว่าแต่เธอชื่อะไรเหรอ”เนะหันมาถามดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ยินที่เขาเรียก
      “อ่ะ…ผมชื่อเคนครับ”เขาตอบอย่างรวดเร็ว
      “อืม…เคนบ้านเธออยู่ไหนเหรอ”เนะเริ่มมองไปทั่วๆ
      “ผม…อยู่ที่โบสถ์ครับ”เคนตอบเธอ
      “โบสถ์?แล้วพ่อแม่เธอล่ะ”เนะยังมองรอบๆไม่เลิก
      “พ่อแม่ผมตายแล้วครับ” “อ่ะ..พี่ขอโทษนะพี่ไม่รู้จริงๆ”เนะรีบปลอบเคนที่กำลังน้ำตาไหลอยู่ “ไปนั่งกินขนมปังกัน”เนะพาเคนเดินไปที่ปราสาทคริสตัล….
      “ที่นี้”เคนพูดขึ้น เขาดูตกใจนิดหน่อย “….บ้านพี่เหรอครับ” เคนเงยหน้าถามเนะโกะที่ยิ้มให้เขาอยู่
      “ไม่ใช่จ๊ะ…แต่อยากไปไหมล่ะพี่จะพาไป”เนะพาเคนเดินไปที่รถ
      “จะไปบ้านพี่เหรอครับ” “ใช่”เนะเปิดประตูให้เคน
      “ขึ้นไปสิ…เอ้าและก็ฝากวางถุงไว้ข้างหลังด้วยนะจ๊ะ” เคนขึ้นมานั่งตามที่เนะบอก
      “จะไปแล้วนะ”เนะหันมายิ้มก่อนที่จะขับออกไปอย่างเร็ว
      “พี่ครับ…พี่ก็เป็นมนุษย์100%ใช่ไหมครับ”เคนหันมาถาม เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าที่นี้มีพวกลูกครึ่งอย่างเนะอยู่เพราะส่วนใหญ่เป็นสายพันธ์แท้ๆ
      “ป่าวจ้ะ! พี่เป็นลูกครึ่งน่ะ พ่อพี่เป็นพญาเสือเป็นกษัตริย์ส่วนแม่พี่เป็นมนุษย์ พี่เลยออกมากายเป็นแมวไง เหมี๊ยว^^”เธอขับรถต่อไปโดยมีเคนที่นั่งหัวเราะจนน้ำตาไหลอยู่ข้างๆ ประมาณ5นาที
      ระยะทางอันยาวไกลก็สิ้นสุดลงที่หน้าปราสาทK.H.P.
      “ที่นี้เหรอครับบ้านพี่น่ะ”เคนถามขึ้น
      “อยู่ข้างในต่างหากเล่าน้องรัก” เนะตอบ…ประตูปราสาทขนาดใหญ่เปิดออก เนะรีบขับรถเข้าไป
      “ทำไม…ไม่เห็นมีปราสาทเลยล่ะครับ”เคนมองไปรอบๆ เขาเจอแต่ต้นไม้ ป่าและภูเขา
      “หึ มันอยู่กลางหุบเขาน่ะ”เนะตอบ เคนหันมามองหน้าเธอ
      “ระวังนะ ในป่านี้มีแต่ปิศาจ”เนะเตือนเคนให้เขาระวัง
      “ครับ” เคนนั่งนิ่ง
      [นายท่าน]เสียงปิศาจที่โพล่ออกมาเรียกเนะ “มีอะไรหรือ”เนะจอดรถ เธอเดินลงไป
      [นายท่านข้ามีข่าวมาบอกกับท่าน…ได้โปรดรับฟังข้า]ปิศาจตนนั้นพูดกับเธออย่างสุภาพ ทำให้เคนตกใจนิดหน่อยเพราะปิศาจที่เขาเคยเจอนั้นมันไม่สุภาพขนาดนี้ “ว่ามา”เนะคอยฟังอยู่ [พวกสุนัขรับใช้ของเจ้านั้นมันกล้ามาสืบแถวนี้ ข้าเกรงว่ามันจะมาทำสงครามกับนายท่าน] ลูกน้องของงปิศาจตนนั้นนำตัวสายสืบของฝ่ายตรงข้ามออกมาให้เนะดู
      “ช่างน่าเศร้านัก เจ้าสุนัขรับใช้….เอาตัวมันขึ้นรถข้า”เนะสั่ง เธอเดินขึ้นรถทันทีพวกนั้นนำเจ้าสายสืบใส่หลังรถตามที่สั่ง เนะขับออกไป
      “พี่ครับ…มันตายหรือยังครับ”เคนถามด้วยความสงสัย
      “ยังจ้ะ”เนะตอบอย่างสุภาพ “มันแค่สลบไปนะ…”เนะรีบขับไปอย่างเร็วจนกะทั่งถึงปราสาท “โห….ใหญ่จังเลย”เคนพูดขึ้นเนะเดินไปเปิดประตูรถด้านหลังเพื่อลากปิศาจตัวนั้นลงมา
      “ตัวหนักแหะ”เนะบ่น เธอเดินมาที่หน้ารถพร้อมแบกปิศาจตัวนั้นมาด้วย
      “ไปกันเร็วเคน” เคนรีบวิ่งตามเนะไป
      “คุณเนะโกะ…มาแล้วเหนอค่ะ”ริสซี่เดินมาหาทันทีที่เธอเดินเขาไปถึง
      “คุณริสซี่หนูฝากดูเด็กคนนี้แปปนะค่ะเดี๋ยวมาค่ะ”เนะพูดจบก็เดินไปที่ห้อง…ทันที
      “สวัสดีครับ”เสียงเคนพูดทักทายริสซี่
      “สวัสดีจ๊ะ”ริสซี่ยิ้มหวานใส่เขา
      “ไปคอยคุณเนะที่ห้องรับแขกเถอะค่ะ”
            “เจ้าปิศาจ…แกเป็นสายสืบให้ใครกัน”เนะเริ่มสอบถามหาเจ้านายของมัน
      “ข้าแค่มา…หาอะไรกินแถวนี้เอง…จ้าไม่ได้จะ…”เสียงของมันสั้นและหยุดลงเมื่อเนะนำมีดที่เธอพกมาด้วยจี้คอมัน
      “จะบอกดีๆหรือ….อยากมีแผลก่อนและค่อยบอก”เนะเริ่มขู่…สายตาเธอน่ากลัวกว่าทุกวัน “ข้า…ยอมตายดีกว่าบอกท่าน…”ปิศาจตนนั้นมองหน้าเธออย่างกล้าหาญ
      “งั้นก็จงตายไปซ่ะ…อาซิดเรน”เนะเดินออกไปปล่อยให้ปิศาจนั้นอยู่ในห้องนั้นพร้อมกับเวทย์ของเธอ…
      “จะทนได้สักเท่าไหร่เชียว”เนะเดินหัวเราะออกมาจากห้องนั้นอย่างสะใจ……




      Act5: The Lucky Day (วันที่โชคดี)
      “พี่สาว”เคนวิ่งไปหาเนะโกะที่กำลังเดินเข้าไปที่ห้องรับแขก
      “ไง…” “คุณเนะโกะอาหารกลางวันพร้อมแล้วค่ะ”ริสซี่เดินเข้ามาบอก
      “ไปกินข้าวกัน”เนะพาเคนคุงเดินไปที่ห้องอาหาร
      “ทำไมมันเยอะจังล่ะครับ”เขาพูดขึ้นด้วยความตกใจนิดหน่อยที่เห็นจานที่มีอาหารอยู่เต็มวางอยู่บนโต๊ะขนาดใหญ่แล้วยาวมาก
      “ปกติน่ะจ๊ะ…เพราะไม่ได้กินคนเดียว”เนะบอกเคน ที่กำลังนั่งลงข้างๆเธอ
      “ไม่เห็นมีใครมาทานด้วยเลยนี้ครับ”เคนมองไปรอบๆส่วนเนะไม่ตอบใดๆกับเขาทั้งนั้น เธอกำลังคิดอะไรบ้างอย่างอยู่ เขาทั้งสองนั้นกินกันไปเรื่อยๆ……
          ณ วังรัตติกาล  
      “นี้พวกนาย!!เห็นเนะโกะบ้างไหม”แบล็คคุงพูดกับองครักษ์เฝ้าวัง
      “ไม่เห็นครับท่าน”เขาตอบอย่างใจเย็น
      “งั้นไม่เป็นไร… (หายไปไหนของเขานะ) ขอบใจนะ”แบล็คคุงเดินเข้าไปข้างใน
      “อ้าว! คุณแบล็คมาทำอะไรครับ”เอฟี่กล่าวขึ้นถาม หน้าตาของเขายิ้มแย้มแจ่มใส
      “มาหาเนะน่ะเห็นบ้างไหม” “ไม่เห็นครับ มีเรื่องอะไรกันเหรอครับ”แบล็คคุงนั่งลงที่โซฟาส่วนเอฟี่ก็นั่งลงตรงที่ๆยืนอยู่เมื่อกี้
      “คือ…จะให้ช่วยไปดูตัวคนร้ายหน่อย”เอฟี่เริ่มงง เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลยเพราะเขาต้องอยู่ที่ๆเนะให้อยู่ -_-“
      “นี่ฟี่ถ้ายัยนั้นมาแล้วให้ไปหาฉันด้วยนะเข้าใจไหม”เอฟี่พยักหน้าและปล่อยให้แบล็คคุงเดินไปตามทางเดินที่แสนจะยาวของวังรัตติกาล
         15 นาทีต่อมา
      “คุณเนะจาง” เสียงเอฟี่เรียกเนะที่กำลังเดินเข้ามาในวังดังขึ้น
      “มีอะไรเหรอฟี่” เนะหันมาหาเขา
      “คุณแบล็คคุงมาน่ะครับ…เขาบอกว่าให้ไปหาเขาด้วยน่ะครับ ผมว่าคุณรีบไปดีกว่านะเห็นว่ามีเรื่องสำคัญอ่ะ” เนะฟังฟี่พูดเสร็จเธอก็รีบวาปหาไปในทันที
      “ง่า…”ฟี่ยืนงง…เขาไม่รู้จะบอกตัวเองว่ายังไงดี
            

      ที่โตเกียว      
      “มีอะไรเหรอแบล็คคุง”เนะโกะพูดขึ้น…
      “เนะจำหน้าคนร้ายได้มั้งไหม”แบล็คคุงถามเธอแบบไม่อ้อมค้อม
      “ฉัน…ฉันคือ...ฉัน”เนะมองไปทั่วห้อง เธอเหมือนว่าจะไม่ตอบแบล็คคุง
      “คืออาไร...เนะเธอบอกมาดีกว่านะเรื่องจะได้ง่าย”แบล็คคุงมองหน้าเธอ
      “ฉันจำไม่ได้แล้ว”เนะมองหน้าแบล็คคุง เธอตอบอบ่างหมั้นใจ
      “ขอบคุณ”แบล็คคุงเดินออกไปข้างนอก เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่
      “ฉันกลับก่อนนะ”เนะตะโกนมาจากในบ้าน
      “บ้าเอ้ย!”กำปั้นของเขาลงไปอยู่กะพื้นหญ้า หมัดนั้นลงไปด้วยความเจ็บใจ “ทำไมต้องให้ไอ้คนประเภทนั้นลอยนวลนอยู่ด้วยนะไม่เข้าใจเลย” “ใจเย็นเถอะครับ” ฟีนิกซ์เดินมาข้างหลังของเขา
      “อา…นายเองเหรอ”แบล็คคุงหันไปมองแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน “คุณไวท์ให้มาตามน่ะครับ” เขาทั้งสองเดินเข้าบ้านไป “เนะเค้า...กลับไปแล้วเหรอ”ไวท์มองซ้ายมองขวาเธอไม่เจอเด็กผู้หญิงที่เธอต้องการเจอเลย “อืม…ยัยนั้นกลับไปแล้ว”แบล็คคุงพูดขึ้น “ว่าเสียดายจัง”ไวท์ถอนหายใจเธอเดินเข้าไปในห้องรับแขก “ขอบคุณนะครับ”ฟีนิกซ์กล่าวในใจ เค้ายิ้มเล็กยิ้มน้อยตลอดทั้งวัน…
          วังเหนือ(ปราสาทคริสตัล)
      “โอ้ย…>.<เหมื่อยจังเลย” คริสเดินบ่นระหว่างทางเดินจากห้องทำงานไปที่ประตูข้างหน้าวัง “มันเหมื่อยขนาดนั้นเลยเหรอคริส” “อ้าว! เนะ” คริสทักทายอย่างหวาดๆเขาไม่ทันสังเกตเห็นลูกแมวสีดำที่อยู่ตรงเท้าเขา ทำให้เขาเกือบเหยีบไป
      “ก็ใช่น่ะสิ โลกนี้จะมีแมวปิศาจอย่างฉันอยู่อีกกี่ตัว” เนะเดินนำคริสไป ตัวเธอเหลืออยู่เพียงแค่ตัวเล็กๆเหมือนดังว่าเธอแมวธรรมดาๆตัวนึง
      “ก็…แล้วเนะมีเรื่องอะไรหรือป่าวมาหาฉันถึงนี้น่ะ”คริสถามเธอ เขาคิดว่าเธอต้องมีปัญหาอะไรแน่ๆ
      “ไม่นี้หน่าแค่อยากมาก็มา”เนะเริ่มตอบแบบไม่ใส่ใจสักเท่าไหร่
      “อ่ะนะ…”คริสไม่ได้ใส่ใจกับคำตอบของเธอสักเท่าไหร่ เขารู้สึกเคยชินแล้ว (มั้ง)
      “แล้วนายล่ะจาไปไหนเหรอ” “อ๋อ! ฉันจะไปสูดอากาศข้างนอกน่ะ”คริสยิ้มแล้วเดินนำออกไปข้างนอก
      “หิมะตกด้วยเหรอ”เนะชะโงกหน้าออกมาดูลาดราว
      “อืม…ก็มันเข้าหน้าหนาวแล้วนี้หน่า”คริสหันมายิ้ม เขาเดินกลับมาอุ้มลูกแมวออกไปจาปนะตู “ถ้าหนาวก็อยู่ใกล้ๆฉันแล้วกัน”เนะมองหน้าคริส
      “นายนี้มัน….”เธอพูดด้วยความหมั่นไส้ที่มี
      “เอาน่า…ตัวเล็กๆอย่างนี้อุ้มง่ายดี ดีกว่าเป็นคนเยอะ”คริสพูดแนวประชด
      “…น่าอัดจริงๆเลยนายนี้นะ>.<” เนะพึมพำ…
      ”คิกๆ”คริสหัวเราะเบาๆ
      หิมะตกลงมาเรื่อยๆอย่างช้าๆ….สายลมพัดเบาๆ
      “ขอบคุณ”เนะพูดขึ้นเบาๆ
      “อะไรนะ”คริสหันไปทางเธออย่างเร็ว…. “ฉันหูฝาดเหรอ”คริสพึมพำ เขามองหน้าเนะโกะที่กำลังหลับสนิทใต้ต้นไม้ที่นั่งอยู่…”อะไรกัน เมื่อกี้ฉันได้ยินจริงๆนา”เขารู้สึกว่ามันเป็นเพียงความคิดชั่ววูบ…แต่คริสคงจำมันไปตลอดเพราะเขาไม่เคยได้คำขอบคุณจากปากเธอตรงๆเลยสักครั้ง แม้มันอาจจะเป็นเพียงความฝันก็ตามที

      Act6: The true Murder (ฆาตกรตัวจริง)
      ในเมือง...ณ สวนสาธารนะ
      “ให้ตายสิวันนี้ฉันต้องจับมันให้ได้เลย”แบล็คคุงโวยวาย
      “ใจเย็นน่า”แบล็คจังบอก เขาทั้งสองเดินไปตามสวนสาธารนะ เดินไปรอบๆ
      “นี้...ไปหาอะไรกินกันนะ ฉันหิวแล้วนะ”แบล็คคุงมองหน้าพี่ชายตอน เขาพยายามจะขอร้องที่จะให้แบล็คจังพาไปหาอะไรกินสักนิด
      “ตามใจนายสิ อยากไปไหนก็ไปเดี๋ยวฉันอยู่ดูเองก็ได้ ใครง้อ
      ” แบล็คจังเดินนำไป ปล่อยให้แบล็คคุงยืนนิ่งอยู่
      “อะไรกันเนี้ยคนเค้าอุตส่าห์ขอนะ” แบล็คคุงเดินไปที่ร้านอาหารใกล้ๆ  
      “อ่ะ!”แบล็คจังเดินไปได้สักพักเค้าก็เจอกับเนะโกะ
      “เนะ มาทำอะไรที่นี้น่ะ นี้มันดึกมากแล้วนะ”แบล็คจังเดินเข้าไปหาเธอ
      “แบล็คจัง...”เนะโกะหันมาทันที
      “ฉันมา...คอยเขา” “เขา...ใครเหรอเนะ”แบล็คจังเดินมานั่งข้างๆ เค้ามองหน้าเนะแต่เธอไม่ตอบกลับ
      “ฮา....โหลท่านคุณพี่ อุ้ย! เนะจาง~~~~>.<”   แบล็คคุงที่เดินมาจากร้านอาหาร เดินตรงเข้ามาทักทันทีที่เห็น
      “อา...หวาดดี”เนะกล่าวสั้นๆ “ไงล่ะอิ่มหรือยังไอ้คุณน้องรัก” แบล็คจังพูดประชดนิดๆ
      “แหม...ก็ไม่เท่าไหร่หลอกก็กลัวแบล็คจังเป็นห่วงเลยรีบมา” “ใครเค้าจาห่วงแก ห๊า~~~~”

      เต็งๆ!! เสียงนาฬิกาเวลาเที่ยงคืนดังขึ้นเรื่อยๆ
      ทันใดนั้นเนะเองก็เปลี่ยนตนเป็นแมวปิศาจขนาดใหญ่วิ่งออกไป
      “เดี๋ยวเนะจาไปไหน...คอยด้วย”สองพี่น้องตะโกนพร้อมกันแล้ววิ่งตามไปทันทีที่พูดจบ

      [กรี๊ดๆๆๆ!!!]
      “เสียงร้อง”แบล็คจังพูดขึ้นขณะที่วิ่งตามเนะไปอยู่
      “เสียงมันอยู่ใกล้ๆนี้หน่า” แบล็คคุงเสริม สักพักเขาทั้งสองก็ต้องหยุดเพราะคนที่โดนเนะจังกระโดดจับตัวไว้ คือฟินิกซ์
      “ฟินิกซ์นี้นาย”แบล็คคุงพูดขึ้น
      “เขาไม่ใช่ฟินิกซ์ที่เรารู้จัก”เนะหันหน้ามามอง สายตาเธอที่ดูจริงจังหน้าเชื่อถือนั้นทำให้สองพี่น้องเชื่อสนิทเลย...
      ”ปล่อยข้า”เสียงฟินิกซ์พูดออกมา
      “หุบปากแกซ่ะ”เนะตะคอกใส่
      “พวกนายสองคน...ช่วยพาผู้หญิงคนนั้นไปส่งโรงพยาบาลทีนะ” เนะพูดอย่างอ่อนโยน
      “เข้าใจแล้ว”แบล็คคุงรับคำ
      “แล้วเราจะรีบกลับมานะเนะ”แบล็คจังหันกลับไปบอกเนะ ท่าทางเขากังวลสุดๆ
      “เราต้องมาเคลียกัน...ฟีนิกซ์”เนะโกะกล่าว สายตาเธอดุราวกับว่าจะกินเขาเข้าไป
      “เรื่องอะไรแมวน้อย หึๆ”ฟินิกซ์พูดขึ้นพร้อมยิ้มที่มุมปากอย่างชั่วๆ
      “เรื่องที่แกฆ่าคน...ผู้หญิงพวกนั้นไง”เนะเริ่มมีโทสะขึ้นมานิดๆ
      “อ๋อ! ฉันแค่...ทำตามใจปรารถนาน่ะ ไม่เห็นเดือดร้อน”เขาพูดพล่อยๆออกมานั้นทำให้เนะโกรธอย่างถึงที่สุด
      “ไม่เดือดร้อนงั้นเหรอ”เธอตะโกนลั่น
      “แกอย่าอยู่เลย...อ่ะ”เนะโกะชะงักเนื่องจากมีคนมาลูบหัวเธอ
      “พอเถอะเนะอย่าฆ่าเขาเลย...” เสียงชายในตาสีแดงผมเขียววิ่งเข้ามา
      “ลูซิเฟอร์...”ทันใดเธอกับร่างมนุษย์...ทันทีที่พูดชื่อนั้นออกมา
      “ฟินิกซ์น่ะ....ถึงอุปนิสัยและจิตใจจะไม่เหมือนเดิมแต่ร่างกายก็คนเดียวกัน เนะจะฆ่าฟินิกซ์ได้ลงเหรอ” เขาถามเธอ
      “ไม่หนู...หนูทำไม่ได้”เนะโกะเดินถอยออกไปจาฟินิกซ์
      “นายคืนฟินิกซ์คนเดิมมาให้พวกเราเถอะและก็อย่าฆ่าใครอีกเลย พวกโคคุฯเขาเดือดร้อน”
      ท่านลูซี่พูดขึ้นช้าๆ เขามองดูฟินิกซ์อย่างสงสาร
      “ทำไมข้าต้องเชื่อเจ้า”เขาพูดขึ้นและมองหน้าท่านลูซี่อย่าข้องใจ
      “เพราะ...ข้าไม่ใจดีเหมือนเนะโกะน่ะสิ...ถ้าฉันพูดว่าจะฆ่านายฉันก็จะทำจริงๆ”ลูซี่คุกเข่าลง เอื้อมมือไปจับผมของฟินิกซ์เบาๆ
      “ข้าไม่กลัวหลอกเพราะนี้ไม่ใช่ร่างที่ข้าปรารถนา” “เจ้าปรารถนาสิ่งใด”ท่านถามโดยไม่รอช้า
      “ข้าไม่ต้องการให้นางนั้นมีชีวิตอยู่”เขาชี้ไปที่เนะโกะที่ยืนอยู่หางออกไปไม่กี่เก้า
      “งั้นเหรอ...ข้าว่าเจ้าฆ่าเธอไม่ได้หลอก”ลูซี่ยิ้มเล็ก
      “ทำไม”ฟีนิกซ์รู้สึกโมโหเป็นอันมาก
      “เพราะว่าเธอ...อมตะ” “อมตะ! งั้นเหรอ”ฟินิกซ์รู้สึกตกใจนิดๆ เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเนะโกะเป็นอมตะ (แต่อีกคนรู้นะ)
      “ใช่น่ะสิ”เสียงยัยตัวดีแทรกขึ้นมา “ฉันถึงไม่แก่นี้ไง”เนะพูดอย่างเอาจริงเอาจัง
      “เอาแหละคืนฟีนิกซ์ตัวจริงมาให้เราได้หรือยัง”ลูซี่พูดขึ้น
      “555555555+”ฟีนิกซ์หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
      “ไม่มีทาง ข้ากำลัง....”เขาชะงัก
      “ไปตายซ่ะ”เนะและลูซี่พูดขึ้นพร้อมกัน
      “ม่าย~~~~~!!!!”เสียงวิณญาณร้ายในร่างฟีนิกซ์หลุดออกมาจากร่าง
      “อาเมน”เนะดึงซาไวเซอร์ซาเบอร์ออกมาแล้วฟันลงที่วิณญาณนั้น
      “ขอให้สงบสุข”เนะพูด เธอมองหน้าฟีนิกซ์ที่หลับอยู่ในอ้อมแขนของท่านลี่ที่รับเอาไว้
      “อาเมน”เสียงท่านลูพูดขึ้น
      “อ่ะๆท่านลูซี่มาตอนไหนอ่ะ แล้วเนะเอาดาบออกมาทำไมหรือฆ่าเขาแล้ว ไม่นะ”แบล็คคุงพูดขึ้นส่วนแบล็คจังเงียบ
      “ฉันจะฆ่านายน่ะสิ”เนะเดินไปโดยไม่หันมาสนใจ
      “อ้าว!เนะ”แบล็คคุงพูดอย่างเศร้าๆ
      “ปล่อยเขาเถอะ”ท่านลูซี่พูดพร้อมกับอุ้มฟีนิกซ์เดินตามเนะไป
      “เราก็กลับกันเถอะ”แบล็คจังเอามือตบที่ไหล่แบล็คคุงเบาแล้วเดินไป
      “ง่า…รอฉันด้วยสิ”แบล็คคุงวิ่งตามไป
          และแล้วก็หมดเสียงร้องของหญิงสาว...ฟีนิกซ์ปลอดภัยแล้วสบายดี ส่วนโคคุฯก็เหมือนๆทุกๆวันที่เคยเป็น...ไม่มีอะไรที่เธอจะทำไม่ได้...จะเชื่อมั่นและศรัทราในสิ่งที่ตนเชื่อ ความหวังจะมาถึงเธอในไม่ช้า......
                                                                                       อำนาจ มีไว้ เพื่อประชา
                                                                                       ศรัทรา มีไว้ ให้นับถือ
                                                                                       ชื่อเสียง มีไว้ ให้เรื่องลือ
                                                                                       รัก มีไว้ คล้ำชูผู้มีกัน
                                                                          ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
                                                                                             • The End •
                                                                          _/|\\_ขอบคุณทุกท่านค่ะที่กรุณาอ่านจบ_/|\\_

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×