The last night 2
By: Neko
  Act1: The night of today (ค่ำคืนของวันนี้)
                    เป็นเวลา 3 เดือนเศษๆ ณ สวนสาธารนะ ยังคงสวยงามสง่าอยู่กลางเมือง ถึงมันจะเคยเปื้อนไปด้วยเลือดของหญิงสาวหลายๆคนก็ตามที
    “ให้ตายสิ!!!”เนะโกะยืนบ่นขณะคอยแอนซูลมารับที่หน้าสวนสาธารนะ หน้าตาบ่งบอกถึงความโกรธอย่างเห็นได้ชัด สภาพคิ้วผูกโบว์ของเธอ “เนะจ๋า^_^ฉันมาแล้ว”แอนเดินลงจากรถมาหาเนะ เขารู้อยู่แล้วว่าเธอต้องโกรธ “โธ่! เนะก็รถมันติดน่ะ” เขาพยายามหาข้อแก้ตัวมาพูดให้เนะหายโกรธ
แต่ก็ไม่สำเร็จ=_= เนะโกะยังคงหน้าบึ้งๆของเธอไว้ได้(เหมือนเอาปูนมาทาไว้นั้นแหละ) “เนะง่ะ
อย่าโกรธฉันเลยนะๆๆๆ” “ให้ตายสิ!! เมื่อไหร่นายจะเลิกพูดไอ้ข้อแก้ตัวไร้สาระของนายสักที” ประโยคสนทนาจบลงในทันใด เนะเดินขึ้นรถแถมปิดประตูกระแทกใส่หน้าแอนซูลอีกต่างหาก แอนได้แต่ยืนงง เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี “เมื่อไหร่นายจะมาขับรถว่ะ”เนะเปิดกระจกรถแล้วพูด(ตะโกน)กอกใส่หูแอนซูล(ผู้น่าสงสาร) ทำให้แอนรีบวิ่งไปขึ้นรถในทันที “ขอโทษจริงๆนะเนะ” แอนซูลกล่าวคำขอโทษแล้วเขาก็ขับรถออกไป ขณะที่เนะโกะนั่งเงียบ ดูเหมือนเธอกำลังคิดอะไรอยู่หลายๆอย่าง หลายๆเรื่อง
จนถึงบ้าน
“เนะจ๋า
ถึงแล้วครับ” แอนซูลหันมาบอกเนะ แต่ดูเหมือนว่าลูกแมวน้อยๆของเขาจะหลับไป
“โธ่!
”แอนยิ้มเขาถอนหายใจ เขาเดินลงจากรถแล้วเดินมาเปิดประตูข้างที่เนะนั่งอยู่
“ลูกแมวของฉัน”แอนอุ้มเนะลงจากรถ
“อ่ะ!คุณราฟาเอล”แอนซูลตกใจนิดหน่อย เพราะเขาเห็นราล์ฟมายืนคอยอยู่
“ฉันอุ้มเองแอน
นายไปพักเถอะ” ราฟาเอลพูดน้ำเสียงเย็นชา พาเอาแอนซูลขนลุก
“ไม่เป็นไรครับ”แอนยิ้มสู้ แล้วเขาก็เดินไป
“นายคิดเหรอว่าจะเอาของๆฉันไปได้น่ะแอนซูล
น้ำหน้าอย่างนายน่ะ
อย่าหวังสูงไปหน่อยเลย” ราฟาเอลพูดขึ้น
ดูเหมือนว่าแอนซูลจะไม่สนใจกับคำพูดเหยียดหยามของราฟาเอลสักเท่าไร เขาก้มหน้าก้มตาเดินจนถึงห้องเนะ “เนะโกะฉันมัน
ไม่ดีขนาดนั้นเลยเหรอ” แอนวางเนะไว้ที่เตียง เขานั่งลงตรงข้างเตียงนอนอย่างหมดสภาพ ก้มหน้าไม่มองอะไร
“Ansune น้องชายข้า” เสียงปริศนาดังขึ้น
“ฟูรูนนั้นนายเหรอ” แอนซูลมองหาเสียงพี่ชายตนรอบห้อง แต่กับไม่เจออะไร
“โธ่! แอน
เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าข้าเป็นนกน่ะ”แอนซูลเริ่มมองออกไปที่หน้าต่างเขามองไปเรื่อยๆจนเจอเขากับนกสีเหลืองทองตัวหนึ่ง
“ฟูรูนนั้นพี่เหรอ” เขาเปิดหน้าต่างออกไป
“ใช่ๆๆ” “มาทำ
อะไร
ที่นี้..ที่เมืองนี้”แอนเดินถอยหลังไปเรื่อยโดยไม่รู้ตัว เขารู้สึกได้ว่าพี่ชายเขาต้องไปทำอะไรไม่ดีไว้เลยมาหา
“โธ่!แอนซูลน้องรัก ที่พี่มาก็เพราะ
”เขาแปลงเปลี่ยนตัวเองกลายเป็นมนุษย์ ฟูรูนเดินเขามาใกล้ๆแอนซูล
“เพราะอะไรล่ะ” แอนซูลถาม เขายังคงเดินหนีพี่ชายตัวเองอยู่
“เพราะ
เด็กผู้หญิงคนนั้น”ฟูรูนชี้ไปทางเนะโกะที่นอนหลับอยู่บนเตียง
“ทำไมต้องเป็นเธอ
ฟูรูน”แอนซูลถามเสียงแข็ง เขาหยุดเดินทันที   
“เพราะ
นายชอบเธอ หึๆ”ฟูรูนเอามือของเขาจับหน้าแอนซูลเบาๆ
“บ้าน่า
แล้วนายจะทำอะไรเนะโกะ” แอนซูลเถียงฟูรูน เขาสะบัดมือฟูรูนหลุด ท่าทางฟูรูนจะไม่พอใจเท่าไหร่ที่แอนทำอย่างนี้กับเขาแต่เขายังยิ้มอยู่
“ฉันนะเหรอจะทำอะไรได้
แอนซูล”ฟูรูนกล่าวพร้อมยิ้มออกมา
“โคคุคุรุซาว่า เนะโกะ ใครๆก็รู้ว่าถ้ายุ่งแล้วจะเจออะไร”ฟูรูนเอ่ยขึ้น บรรยากาศดูเครียดขึ้นเรื่อยๆแต่ฟูรูนยังคงยิ้มอยู่
“หมายความว่ายัง”แอนซูลถามพี่ชายตนด้วยความสงสัย
“ก็บรรดาสารพันธ์เวทย์ต่างๆนาๆของเธอไงล่ะ”ฟูรูนพูดขึ้น เขาเดินไปนั่งที่โซฟา
“ใช่! แล้วใครกล้าเข้าห้องฉันโดยไม่ได้รับอนุญาตก็โดนเช่นกัน” เนะโกะที่ตื่นขึ้นมาเมื่อกี้กล่าววาจาท้าทายฟูรูนโดยไม่ได้ตั้งใจ(นิสัยมันก็เงี้ยะแหละเนะอ่ะ{ปากเสีย})
“หึๆเห็นไหมแอนซูลน้องรัก”ฟูรูนเดินไปอยู่ข้างแอนซูล มือของเขาโอบไหล่แอนซูลไว้
“เนะโกะ
ใจเย็นนะ นี้ฟูรูน
พี่ชายฉันเอง” แอนซูลเริ่มอธิบายให้เนะเข้าใจในหลายๆเรื่องที่เกิดขึ้นตอนเธอหลับ
“ให้ตายสิ
ฉันไม่ยักรู้ว่านายมีพี่ชาย” เนะเริ่มพูดใส่อารมณ์ เธอเดินไปมาทั่วห้องเหมือนคิดอะไรอยู่ระหว่างที่2คนนั้นยืนดูเธอเดินไปมาเป็นเวลาประมาณ10นาที
“เนะจ๋า
หยุดเดินได้หรือยังครับ”แอนซูลเริ่มอ้าปากพูด
“อ่ะ
” เนะโกะรีบวิ่งออกไปจากห้อง ทำให้สองพี่น้องแอนซูลและฟูรูนเกิดอาการงงเป็นอย่างยิ่ง เขาทั้งสองนั่งอยู่ได้สักพักก็เดินตามเนะออกไป
        สวนสาธารนะ เวลา 11.45 PM.
      “วันนี้ต้องกลับบ้านดึกอีกแล้ว” ไวท์บอกกับแบล็คคุง เ ธอท่าจะกังวลที่ต้องให้แบล็คคุงมารับเธอทุกวันทั้งๆที่งานของแบล็คคุงเองก็เยอะอยู่แล้ว
“ไม่เห็นเป็นไรเลย เอานี้กินซ่ะสิไวท์เดี๋ยวก็เย็นหมด”ทั้งสองนั่งกินอาหารรอบดึกอยู่ที่ข้างรถที่จอดอยู่
“นี้แบล็คคุง
”
“หืม..อะไรเหรอไวท์”ไวท์จับแขนเสื้อ แบล็คคุงไว้ หน้าตาเธอค่ำเคียด
“เมื่อไหร่นายจะ
ซื้อรถใหม่ล่ะ” ไวท์กำแขนเสื้อแบล็คคุงแน่นเหมือนจะเค้นเอาคำตอบ (เหมือนสอบปากคำผู้ต้องหา)
“ทำไมล่ะ
คันนี้ก็ยังดีอยู่เลยนี้”แบล็คคุงสงสัยขึ้นมาทันที
“ป่าวอ่ะ ก็แค่ถามดูแค่นั้นเอง”ไวท์ปล่อยเสื้อแบล็คคุง
“ถ้าอยากให้ซื้อใหม่
งั้นพรุ่งนี้ไปซื้อด้วยกันนะ”แบล็คคุงหันไปหาไวท์ เขายิ้มอย่างมีความสุข เต็งๆ!! เสียงหอนาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงคืน
ทันใดนั้นเอง [กรี๊ด!!!] เสียงหญิงสาวผู้โชคร้ายดังขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
“เสียงนั้น
มันไม่น่า
นี้มันผ่านมา3เดือนแล้วนะ”
“ไม่ไวท์
อย่าลืมสิสามเดือนนั้นตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้เลยนะ”แบล็คคุงรีบเดินไปใกล้ๆไวท์ “แบล็คคุง
จะไปดูไหม”ไวท์เข้ามากอดแบล็คคุงไว้แน่นด้วยความกลัวของเธอ
“ไม่ไปหรอกฉันจะอยู่กับเธอนี้แหละ”แบล็คคุงส่ายหน้าเขารีบพาไวท์ขึ้นรถและขับรถกลับในทันที ขณะนั้นไวท์เองก็หยิบโทรศัพท์มือถือโทรแจ้งตำรวจเช่นกัน
Act2: This is a man (นี้คือผู้ชาย)
  ในบ้าน
      “นี้ราล์ฟ
ฉันหิวน้ำ” เนะเดินเข้าไปในครัว เธอเดินไปอ้อนราฟาเอลเพื่อขอน้ำส้มกิน
“อยู่ในตู้เย็นไปหยิบเอาสิครับ”ราฟาเอลไม่ได้สนใจท่าทางอ้อนวอนของเธอเลย วันนี้เขาดูหงุดหงิดมากขึ้นเหมือนไม่ใช่ราฟาเอล
“เป็นอะไรไปน่ะราล์ฟ”เนะชักงงๆเธอเดินเข้าไปใกล้ๆราฟาเอล
“ทำไมต้องมาใช้ผมอยู่คนเดียวล่ะแอนซูลมีทำไมไม่ใช้มันบ้างล่ะ”ราฟาเอลหันมาหาเนะเขาจับไหล่เนะแล้วตะโกนใส่เธอ เนะโกะหันหน้าหนีในทันที
“ฉันขอโทษ” เนะพูดออกมาด้วยความตกใจของเธอที่ไม่เคยเห็นราฟาเอลเป็นแบบนี้มาก่อน “เนะโกะรู้ไหมว่าฉันรักเธอมากแค่ไหน
ทำไมล่ะหรือฉันมันดีไม่พอ”ราฟาเอลกอดเนะไว้แน่น เนะโกะตกใจมากที่ได้ยินอย่างนั้นแล้วน้ำตาเธอไหลออกมาในทันทีที่ได้ยิน
“ไม่หรอกราล์ฟ
นายดีเกินไปสำหรับพวกครึ่งๆกลางๆอย่างฉัน”เนะยิ้มทั้งน้ำตา เธอเดินออกไปจากห้องครัวแล้ววาป หนีไป
“ฉัน
งั้นเหรอ”ราฟาเอลคุกเข่าลงกองอยู่กับพื้นในห้องครัว
  Academy
“อ้าว
เนะกลับมาแล้วเหรอ”เสียงท่านอาจารย์ใหญ่ ของเธอท่านลูซี่นั้นเองเป็นคนพูดขึ้น “
..” เธอไม่พูดอะไรแค่คุกเข่าลงไปตรงหน้าท่านลูซี่แล้วกอดเขาไว้ น้ำตาเธอไหลไม่หยุด “เป็นอะไรไปลูกแมวน้อย” เขายิ้มอย่างอ่อนโยนเพื่อพยายามปลอบเธอ (เหมือนพ่อปลอบลูกสาวนั้นแหละ) แต่เธอได้แต่นั่งกอดเขาอยู่อย่างนั้น
“อะไรกันสาวน้อยมีอะไรเหรอ”เขาก้มหน้ามองอย่างระวัง
“อย่า
อย่าทิ้งหนูไปนะ” เนะพึมพำ ท่าทางเธอจะเจ็บหนัก สักพักเธอก็เดินจากไป
“อ่ะ
ท่านลูซี่คิดถึงจัง
เห็นเนะไหมครับ” ชายหนุ่มผมแดงยาวเดินเข้ามา แน่อยู่แล้วไม่ใช่ใครไหนไกลแบล็คจังนั้นเอง เขารู้ข่าวเลยรีบมา
“อา
เดินไปเมื่อกี้นี้”ลูซี่จังชี้ทาง ท่าทางเขาดูโมโหมากๆที่เห็นแบล็คจัง
“งั้นก็ดี
งั้นเราไปหาอะไรทำกันดีกว่า หึๆ”พอเขาพูดเสร็จลูซี่ยังไม่ทันอ้าปากพูด (ด่า) เขาก็คว้าลูซี่ตัวน้อยๆออกไปจากอคาทันที
------------------------------------------------------------------------------------------------
        สวนสาธารนะ 4.50 PM.
    “นี้
จีเน่”คุณหมออิกกิตะโกนเรียกจีเน่สุดเสียง
“มีอะไรเหรออิก”เขาหันมามองอิกกิ ก่อนหน้านั้นเขาเอาแต่นั่งมองพื้นหญ้าสีเขียว
“นายน่ะเมื่อไหร่จะเลิกมองต้นหญ้าสักที” อิกกิพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจสักเท่าไหร่หน้าตาเขาเครงเคียดเอามาก
“เลิกแล้วๆ”จีเน่รีบเงยหน้าขึ้นแล้วเอาหลังพิงกับม้านั่ง
“นาย
มันน่าเบื่อจริงๆเลย” อิกกิลุกขึ้นแล้วเดินไป
“อ่ะเดี๋ยวสิคอยฉันด้วยอิก
อิกกิ
.เหวอ!!”จีเน่ลุกขึ้นวิ่งตามไปแต่เขาก็สะดุดเข้ากับก้อนหินที่อิกแอบโยนทิ้งไว้เมื่อกี้
“เจ็บไหม” อิกกินั่งลงดูสภาพจีเน่ที่ล้มลงไป เขายิ้มนิดๆ
“นายมัน
จอมซุ่มซ่าม” อิกกิดึงจีเน่ขึ้น
“อ่ะ
เจ็บ
ขาผม” เขาร้องโอดควน
“ให้ตายสิวิ่งภาษาอะไร
ขาหักไหมเนี้ย”จีเน่ร้องด้วยความเจ็บส่วนอิกกิเฉย
แถมพูดเหมือนจะว่าจีเน่อีกด้วย
“อิกฉันเจ็บนะ” จีเน่โวยวายใหญ่ อิกกิได้แต่โดนหมัดของจีเน่ทุบที่หน้าอก
“ต้องให้ฉันอุ้มไหม”อิกกิหน้าตาเอาจริง จีเน่เริ่มเงียบลง
“ฉันเดินเองได้” จีเน่พยายามลุกขึ้นหลายครั้งโดยมีอิกกิยืนดูอยู่ข้างๆ
“ไม่ไหวๆมานี้มา”อิกกิเดินเข้าไปอุ้มจีเน่แล้วก็พาเขาเดินออกไปจากสวนสาธารนะ
“อิก
” เสียงเบาๆดังออกมาจากปากเขา
“ฉันจะพานายไปทำแผล
ทำไมนายต้องหน้าแดงด้วยหรือไม่สบาย
ตัวร้อนหรือป่าว..จีเน่”อิกกิมองจีเน่
“สบายดี
”จีเน่ตอบเสียงเบา
“ก็ดี” อิกกิเดินไปจนถึงรถ ขณะที่เขากำลังวางจีเน่ลงกับเบอะที่นั่งข้างคนขับเขาก็ต้องสดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงกรี๊ดดังลั่น [กรี๊ดดดด!!!ไม่ปล่อยฉัน] อิกกิหันหลังไปมองหาต้นเสียงแต่ไม่เจอ
“อิกฉันว่านายไปดูเถอะ” จีเน่บอกให้อิกกิเดินไปดู
“จีเน่นี้มันกี่โมงแล้ว” คำถามดังขึ้นดวงตาสีดำค่อยๆหลี่ลงช้าๆด้วยความเครียด
“ทำไมเหรอ” จีเน่ถามอิกกิเขารู้สึกงงที่อยู่ๆอิกกิมาถามเวลากับเขา
“5ทุ่ม15นาที มีอะไรเหรอ”เขาบอกเวลาแล้วถามซ้ำ
“ยังๆ
ยังๆไม่เที่ยงคืนเลย” จีเน่มองหน้าอิกทันทีที่เขาพูดจบ
“อิกกิ
ข้างหลังๆ” อิกกิรีบหันไปดูทันทีที่เสียงเตือนดังขึ้น
“อย่ามาใช้ดาบกับฉัน” อิกกิกระโดดหลบคมดาบที่ฟันลงมาที่เขา เขาคว้าประตูรถดันมันปิด “นายตาย”ชายหนุ่มที่ถึงดาบพูดขึ้น
“แก
”อิกกิเดินถอยหลังเขาไปในสวนสาธรานะ
“หยุดอยู่นั้นแหละคุณหมออิกกิ แอนเดอร์สัน” ดวงตาสีแดงกล่ำจองมองอิกกิเหมือนต้องการที่จะฆ่าเขาให้ตายซ่ะเดี๋ยวนั้น ทำให้อิกกิชะงักเขาหยุดเดินในทันที แสงจันทร์ส่องมาที่ชายหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามาใกล้อิกกิขึ้นเรื่อยๆ
“นาย
แอนซูล”อิกกิแทบช็อกเมื่อเห็น แต่
“โทษที
นายจำคนผิดแล้วแอนซูลนั้นน้องชายข้าเอง”ชายหนุ่มพูดขึ้นเสียงของเขาเย็นชา
“อิกกิ”เสียงจีเน่เดินมา ทั้งที่ขาเจ็บ
“จีเน่
อย่าเข้ามา” อิกกิบอกให้จีเน่หยุดอยู่ตรงนั้นดวงตานั่นเต็มไปด้วยความเครียด
“หึๆ
นายคือจีเน่ เอลฟา สินะ”จีเน่ชะงัก
“ทำไมแกรู้จักฉัน” เสียงสั่นๆหลุดออกมาจากปากจีเน่
“55555 ผู้รับใช้แด่โคคุเอ่ย จงสู่สุขคติเสียเถิด[หมัดปิศาจ]”หมัดข้างขวาของเขากระแทกลงกับพื้นทันทีที่เขาพูดจบ
“หึๆ”เสียงอิกกิหัวเราะ ดวงตาสีดำตอนนี้ทอประกายเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธที่ถึงขีด
สุดพร้อมควันปกคุมรอบพื้นที่
ลมพัดมาเรื่อยๆจนควันหายไป
“อ่ะ”เสียงฟูรูนอุทานขึ้นด้วยความตกใจ
“แค่นั้นทำอะไรฉันไม่ได้หรอก
แถมผลที่ได้ออกมาคือ” อิกกิยิ้มที่มุมปาก เขาอยู่ด้านหน้าของจีเน่ผู้ที่โดนโจมตีเมื่อกี้
“คืออะไร
”ฟูรูนตกใจกับคำพูดนั้น
“ผลที่ได้คือ
เวทย์หรือการโจมตีใดๆมาโดนเข้ากับHoly Wallแล้วนั้นมันจะ
”อิกกิหยุดดูผลที่จะเกิดขึ้น
“ไม่
นะ”ฟูรูนลงไปกองอยู่กับพื้น
“ฟูรูน
”แอนซูลวิ่งมา (มันมาไง)
“แอน
พี่ขอโทษ” แอนซูลนั่งลงข้างฟูรูน เขาพยุงฟูรูนขึ้นมา
“ผมจะรักษาพี่เอง
”น้ำตาแอนไหลลงมา
“อย่าร้องน้องข้า เจ้าต้องเข้มแข็ง”ฟูรูนยื่นมือของเขามาจับหน้าแอนซูลไปแล้วลูบเบาๆ [เต็งๆ] เสียงหอนาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงคืน ทำให้ทุกคนที่อยู่ต้องนั้นมองหน้ากัน ทันใดนั้น [กรี๊ด!!!] เสียงหญิงสาวผู้โชคร้ายดังขึ้น
“เป็นไปไม่ได้ก็
”อิกกิพูดขึ้น เขามองหน้าฟูรูน
“ผมไม่รู้เรื่องนะครับ” ฟูรูนมองไปที่อิกกิที่ยืนอยู่แล้วมองกลับมาที่แอนซูล
“ไปที่รถ
เดี๋ยวนี้” อิกกิวิ่งไปคว้าตัวจีเน่แล้ววิ่งไปที่รถ ส่วนแอนซูลก็พยุงฟูรูนขึ้นแล้ววิ่งไปที่รถของอิกกิที่จอดอยู่
“เฮ้ย!!คริสนายได้ยินฉันไหม
คริส”จีเน่โทรศัพท์ไปหาคริส
“อา
อืม
ได้ยินแล้ว มีอะไรเหรอจีเน่” คริสพูดเสียงงัวเงียดูเหมือนจะหลับอยู่
“คริสนายช่วยตามแบล็คคุง แบล็คจัง ฟีนิค แล้วก็เนะ ออ
นายเองก็มาด้วยนะคริส”คริสฟังจีเน่พูดจบเขารีบวางสายแล้วก็รีบโทรตามทีละคน
.
10นาทีต่อมา
      “มาแล้วๆ”เสียงคริสดังขึ้น อิกกิหันมามองท่าทางเขาจะบอกให้ทุกคนเงียบเสียงลง
“ทำไม
แบล็คคุงมากับไวท์ แบล็คจังมากับท่านลูซี่ แล้วฟีนิคมากับเนะล่ะ
”จีเน่พึมพำเสียงเบา ส่วนแบล็คจังยืนยิ้มอยู่ข้างโดยมีท่านลูซี่ติดมาด้วย ส่วนคนอื่นยืนเงียบ “มันมาแล้ว”อิกกิเดินถอยหลังออกมาจากตรงนั้นทันที เขาถอยมาจนชนกันจีเน่
“โอ้ย!!อิกนายเหยียบเท้าฉัน”จีเน่กัดฟันพูดเบาๆใส่อิกกิ
“ขอโทษ” อิกกิหันมาขอโทษเบาๆ ตาของทุกคนจับจ้องอยู่ที่ปิศาจที่เดินเข้ามาใกล้พวกเขา “นั้นมัน
ไม่จริง”เนะพูดขึ้น
“พวกเจ้าทั้งหลายเตรียมตัวตายได้แล้ว”
“ทำไมเราต้องเตรียมตัวตายมิทราบ”ลูซี่พูดขึ้นเขามองตามันราวกับว่าจะฉีกมันเป็นชิ้นๆด้วยมือน้อยๆของเขา “เพราะข้าจะฆ่า
.พวกเจ้า”ทันใดนั้นเท้าอันใหญ่โตของปิศาจตนนั้นก็กะแทรกลงมาที่กลางวง แบล็คจังคว้าลูซี่กระโดดหนีไปข้างๆ
“ทำไมยืนเหม่อ” แบล็คจังถามท่าน ลูซี่ ระหว่างที่ทุกคนกระโดดหลบกันไปคนละทาง
“หาที่หลบให้ดีล่ะทุกๆคน”เสียงเนะโกะพูดเตือนทุกคน ทำเอาทุกคนผวาและรีบวิ่งไปหลบหลังอิกกิที่กำลังกั้นSafety Wallอยู่ เธอกะโจนเข้าใส่ปิศาจตัวนั้น
“เอานี้ไปกินซ่ะ Acid Rain”เนะร่ายเวทย์ใส่มัน ส่วนตัวเธอถือดาบสุดที่รักซาไวท์เซอร์ซาเบอร์ (Schweizersabel) มุ่งตรงไปที่ตัวปิศาจนั้น แต่ก็ต้องชะงัก
“เนะโกะ
ระวัง”เสียงแอนซูลตะโกนดังลั่น พอแอนซูลเงียบเสียงลง เนะก็ลงไปนอนกองอยู่กับพื้นแล้ว ไม่นานนักเธอก็ลุกขึ้นมา
“นี้สิลูกศิษย์ฉัน”ท่านลูซี่ยิ้ม นิดๆ ขณะที่จองมองเนะท้ามกลางสายฝนน้ำกรดของเนะ เนะโกะลุกขึ้นยืนเธอท้าวเซอร์ซาเบอร์ของเธออยู่ เธอค่อยๆเดินไปตรงหน้าปิศาจตัวนั้น แล้วดึงดาบเล่มที่2ออกมาจากมือ
“ฉันจะฆ่าแก” ดาบอันที่สองของเธอคือซาเบอร์ (Saber) เนะวิ่งสุดแรงเกิด ดาบของเธอจิ้มเข้าไปที่ขาของมัน และแล้วสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นปิศาจกายเป็นมนุษย์แถมมันยังเป็น
คนใกล้ตัวอีกตั้งหาก
“อ๊าค!!เนะ
”เขาร้องด้วยความเจ็บปวด
“ฉันทำอะไรลงไปงั้นเหรอ”เขามองหน้าเนะที่พยุงเขาไว้
“มิน่าล่ะอาซิดเรน(Acid Rain)ไม่ได้ผล
”เนะพึมพำ เธอพาเขาเดินเข้ามาหาทุกคนที่ยืนอยู่ “เนะนั้น
”เสียงฟีนิคพูดขึ้นมา
“มิน่าล่ะถึงได้คุ้นๆตากับไอ้ปิศาจนี้”เสียงคริสแทรกขึ้นมา
“เออ
ให้ตายสิไอ้บ้านี้เองรึ”เสียงท่านลูซี่พึมพำทำเอาแบล็คจังที่อยู่ข้างๆหัวเราะ
“นีโอนายโดนอะไรมาทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ”จีเน่ถามขึ้น ทุกคนเงียบสนิท
“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
จำได้ว่าฉันเดินอยู่ที่ถนนในเมือง(กำลังเดินซื้อของอยู่)อยู่ๆก็มีคนวิ่งมาชนทำฉันล้มเลย
พอลุกขึ้นได้จะหันไปด่าก็ไม่อยู่แล้ว”นีโอเริ่มเล่า ขณะนี้ทุกคนนั่งจับกันอยู่ที่พื้นฟังนีโอ “ฉันเดินมาเรื่อย
มันรู้สึกเวียนหัวตอนที่เดินผ่านสวนสาธารนะ แล้วฉันก็วูบ
แล้วก็พึงมารู้สึกตัวตอนเนะเอาซาเบอร์มาจิ้มขาฉันเนี้ยแหละ”พอนีเล่าจบทุกคนก็เริ่มมองหน้ากัน แต่คนที่ไม่สนใจอะไรเลยนั้นคือเนะที่หลับไปแล้ว(=_=”)
“สรุปว่านีโอไม่ใช่คนที่เราตามล่าอยู่”แบล็คคุงพูดขึ้นหน้าตาเขาดูจริงจัง
“เอาเป็นว่าคืนนี้ไปนอนบ้านเราก่อนแล้วกัน”ไวท์กล่าวเชิญชวนทุกคน
“อืม
ก็ดีฉันเองก็ง่วงแล้วเหมือนกัน”แบล็คจังพูดขึ้น เขาอุ้มท่านลูซี่ที่หลับไปเป็นคนที่2ต่อจากเนะเดินไปที่รถ ทุกคนพากันเดินไปที่รถ ฟีนิคอุ้มเนะไปด้วย พอถึงที่บ้านก็พากันแยกย้ายไปอาบน้ำนอนกัน “แล้วเจ้าลูกแมวน้อยนี้จะเอาไว้ไหนอ่ะ”ฟีนิคพูดขึ้นขณะที่กำลังเดินขึ้นบันได “เอาไปไว้ห้องนั้นก็ได้”แบล็คคุงบอก “ส่วนนายฟีนิคพอพาเนะไปไว้ห้องนั้นแล้วนายก็ไปนอนกับแอนก็ได้” “อืม” ฟีนิคทำตามที่แบล็คคุงบอก “หลับง่ายจริงๆเลย”แบล็คจังพึมพำขณะกำลังวางท่านลูซี่ลงบนเตียง ส่วนตัวเขาก็นั่งลงอยู่ที่ข้างเตียง “ทำไมนะ
”แบล็คจังพึมพำแล้วเขาก็ฟุบลงไปกับพื้น
        ด้านเนะที่หลับอยู่ ก็ตื่นขึ้นมากลางดึก “กี่โมงแล้วเนี้ย” เธอมองไปรอบๆ “ตีสี่กว่าแล้วเหรอเนี้ย
(หาว)” เนะลุกเดินเข้าไปในห้องน้ำล้างหน้าแปงฟันและออกไปจากห้องแล้วก็ลงไปข้างล่าง
“อ้าวเนะโกะจัง
ตื่นแล้วเหรอ” ฟีนิคทักเธอ ทำให้เนะสะดุ้งนิดหน่อย
“อ้าว
ฟีนิคก็ตื่นแล้วเหรอ”เนะรีบถามกับอย่างกระตุกกะตัก
“ครับ”ฟีนิคยิ้มแล้วก็เดินเข้าไปในห้องครัว
“ทำอะไรเหรอฟีนิค”เนะชะโงกหน้าเข้าไปดู
“เนะจังเอานมกล่องไหมเดี๋ยวผมหยิบให้” ฟีนิคหันมายิ้มขณะที่กำลังเปิดตู้เย็นอยู่                    “จ้ะขอบคุณนะ” เขาเดินเอานมกล่องมาให้เนะที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้
“นี้ครับ
” ฟีนิคลากเก้าอี้มานั่งข้างๆเนะ
“นี้ฟีนิค
ฟีนิคอยู่กับแบล็คคุงกับไวท์เหรอ”เนะมองหน้าเขาที่กำลังดื่มน้ำแก้วใหญ่อยู่
“อ่ะ
ครับๆผมอยู่ที่นี้แหละ” เขามองหน้าเนะด้วยความงง
“ว่าแต่เนะจังถามทำไมเหรอ” “ก็ถามเฉยๆน่ะ
ปกตินอนไหนเหรอฟีนิคน่ะ”เนะเริ่มคำถามที่2 “เออ
นอนห้องที่เนะนอนนั้นแหละ (ว่าแต่ถ้าให้ถามคบ16ข้อจะได้เงินร้านไหมเนี้ย=_=”)”
เขามองหน้าเนะที่กำลังจะลุกไปทิ้งกล่องนมที่กินหมดแล้ว “แหะๆไม่ถามแล้ว”เธอหัวเราะกลบเกลื่อน แล้วก็เดินออกไป ทำเอาฟีนิคที่นั่งอยู่งงหนักยิ่งกว่าเก่า
    6.00 น.
    “ไวท์จ๋าวันนี้มีอะไรกินเหรอครับ” แบล็คคุงรีบร้อนเดินไปที่หน้าห้องครัว ตอนนี้เขาอยู่ในชุดที่เตรียมตัวไปทำงานเต็มที
“อยากกินอะไรล่ะค่ะ
ถ้าจะให้ทำเดี๋ยวทำให้แต่ที่ทำไว้แล้วอยู่บนโต๊ะโน้น”ไวท์ชี้ไปที่โต๊ะอาหาร แบล็คคุงมองตามมือไป เขารีบวิ่งสุดชีวิตไปที่โต๊ะหยิบขนมปังแหงะดูนาฬิกาและมองหน้าแบล็คจัง
“ทำไมถึงตื่นสาย”แบล็คจังพูดขึ้น ใบหน้าเขาอยู่หลังหนังสือพิมพ์ที่ถืออยู่ในมือ
“ก็ฉันง่วงนี้”แบล็คคุงเถียงเขารีบร้อนเดินออกไปที่รถทันทีที่พูดจบ และขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว
“แบล็คจังอ่านหนังมือพิมพ์บ้างสิ” ท่านลูซี่ที่นั่งอยู่ข้างพูดขึ้น
“หา
อ๋อ! หนังสือพิมพ์เหรอ” แบล็คจังชะโงกหน้ามาถามขณะที่ท่านลูซี่นั่งพยักหน้า
“มานั่งตักผมสิ”แบล็คจังยิ้มที่มุมปาก (ท่าทางท่านลูซี่จะได้อ่านยาก) ลูซี่นั่งจ้องหน้าแบล็คจังสักพักเขาก็ตัดสินใจ
“ฉันไปแหละ”เดินออกไป ทำให้ทุกคนเงียบสนิทขณะที่กำลังพูดคุยกันดีๆ
“ผมขอออกไปเดินเล่นแป๊ปนะครับ”ฟีนิคเดินออกไปจากห้องอาหาร
Act3: The Sing of Phoenix (บทเพลงของนกฟีนิกซ์)
      “ยังไงอากาศข้างนอกก็ดีที่สุด”ฟีนิคยืนอยู่กลางสวนหย่อมหน้าบ้าน
“จริงของนาย”เสียงมาจากทางด้านหลังของเขา เสียงท่านลูซี่นั้นเอง
“มาตอนไหนเนี้ยครับ”ฟีนิคสะดุ้งนิดหน่อย เขารีบคุกเข่าลงกับพื้นแล้วมองหน้าท่านลูซี่
“มาเมื่อกี้แหละ
ฉันรำคาญ ไอ้พวกข้างในน่ะ” ลูซี่เดินไปนั่งที่ชิงช้าใกล้ๆ เขานั่งลงแกว่งมันไปมา
“ข้างนอกมันหนาวนะครับใสเสื้อแค่นี้เดี๋ยวก็เป็นหวัดกันพอดี”ฟีนิคเอาเสื้อคุมที่เขาใสอยู่ถอดมาสวมให้ท่านลูซี่
“ขอบคุณนะ”ลูซี่ยิ้มนิดๆ
“ท่าทางไม่สดชื้นเลยนะครับ”ฟีนิคนั่งอยู่ที่ชิงช้าข้างๆกล่าวขึ้น
“หระ
เหรอไม่รู้สิคงเป็นงั้นแหละ”เขามองฟีนิคที่กำลังจองมองตัวเขาอย่างปรารถนาอะไรสักอย่าง
“งั้น
อยากไปไหนหรืออยากทำอะไรไหมครับ”ฟีนิคยิ้ม
“ไม่เป็นไร
เดี๋ยวไอ้บ้าแบล็คจังคงไปส่งน่ะ”ลูซี่ก้มหน้าลงมองพื้น
“เขาไม่ไปส่งท่านหรอก”ฟีนิคลุกขึ้นท่าทางเขาจริงจังกับเรื่องที่พูด “คุณแบล็คจังน่ะเขาต้องทำงาน
น่ะครับวันเนี้ย ผมคิดว่าเขาคงไม่มี
”ฟีนิคยังพูดไม่ทันจบเขาก็รู้สึกว่าท่านลูซี่ที่เคารพของเขากอดเขาอยู่
“งั้นนายก็ไปส่งฉันสิ
ฟีนิค”เขานั่งเงียบอยู่สักพักก็ กางปีกสีแดงปนส้มเหลืองสุดที่รักของเขาออกแล้วพาท่านลูซี่บินไปส่งที่อคา
  ระหว่างทางไปอคา (Academy)   
“Phoenix Phoenix a little of Phoenix but this’s the big phoenix
I’m the golden phoenix I’m the master of phoenix
” ฟีนิคฮัมเพลงไปเรื่อย
“เพราะดีเนอะ
”ลูซี่ยิ้มให้ ทำให้ฟีนิคหยุดร้องกระทันหัน
“คะ
ครับ”ฟีหน้าแดงนิดหน่อย ท่าทางเขาจะเขยที่ถูกชม
“ฟีนิคข้างหน้า
ปิศาจ” คำพูดที่ออกมาจากปากลูซี่ทำให้ฟีนิคที่ก้มหน้าก้มตาบินนั้นหยุดชะงักและเงยขึ้นมามองตรง
“โดนดักทางเสียแล้วสิ แย่จัง”ฟีนิคพูดขึ้นเขายิ้มน้อยๆที่มุมปาก
“พวกเจ้าผ่านไม่ได้
ไปคุยกันข้างล่างนั้น
เดี๋ยวนี้ได้โปรด”เสียงทุ้มๆของปิศาจตัวหนึ่งดังขึ้น แล้วมันก็พากันบินลงไปที่พื้นหญ้าข้างล่าง
“ทำไมเราผ่านไม่ได้”ฟีนิคพูดขึ้น พร้อมกับวางท่านลูซี่ที่เขาอุ้มอยู่ลง
“พวกเราไม่เคยเห็นหน้าพวกท่าน โปรดบอกนามท่านด้วย”ปิศาจตัวเมื่อกี้พูดขึ้น เขาจ้องมาที่ฟีนิคและค่อยๆมองลงมาที่ท่านลูซี่
“ข้า’โคคุคุรุซาว่า ฟีนิค’แล้วนี้ก็”ฟีนิคชี้ไปที่ท่านลูซี่ “ข้า’ลูซิเฟอร์ คุฟ’
” ฟีนิคยืนเงียบอยู่สักพักจ้องมองพวกนั้นด้วยสายตาที่เย็นชา ลูซี่มองขึ้นไปมองฟีนิคและหันไปมองพวกปิศาจพวกนั้น
“พวกมันกำลังทำอะไรกันอยู่เหรอ” ลูซี่กระซิบแต่ดุเหมือนว่าฟีนิคไม่ได้ยินเลย ตอนนี้ดวงตาของเขาที่เป็นสีเหลืองทองนั้นกายเป็นสีแดงเลือดอย่างไม่คาดคิด
[ฟีนิคที่อ่อนโยน อะไรทำให้เขาเป็นแบบนี้ไปได้]
ลูซี่นึกในใจ สักพักเขาก็ตักสินใจดึงแขนเสื้อของฟีนิคเบาๆ ทำให้ฟีนิคสะดุ้งเล็กน้อย
“มีอะไรครับ” ฟีนิคค่อยก้มลงมาถาม
“ป่าว
”ลูซี่ทำเฉยเขาหันกับไปมองพวกปิศาจนั้นขณะที่ทำให้ฟีนิคยืนงง
สักพัก     
“พวกท่าน
ข้าต้องขออภัย
ข้ามันโง่นักที่ไม่ให้พวกท่านไป
ข้าต้องขอโทษด้วย”ปิศาจตัวที่เป็นหัวหน้ามากล่าวขอโทษ
“พวกเจ้าปล่อยพวกเราไปได้หรือยัง”ฟีนิคพูดเสียงเย็นชา
“อ่ะ
.ครับเชิญท่านไปได้เลย” ฟีนิคเดินไปขณะที่ลูซี่ยังอยู่ที่เดิม
“ท่านไม่ไปใช่ไหม”ฟีนิคหันมาถามดวงตาของเขาเย็นชาน้ำเสียงที่ไม่คุ้นเคยนิสัยที่ไม่ใช่ฟีนิค
“ตื่นสักที”ลูซี่ตะโกนสุดเสียง
“นายไม่ใช่ นี้ไม่ใช่
ฟีนิคที่ฉันรู้จัก
เอาฟีนิคคนเก่าคืนมา”
(ชักออกนอกเรื่องแล้วแหะ
ช่างเถอะT^T)ฟีนิคเดินเขามาเรื่อยๆ
“ข้านี้แหละฟีนิค”เขามองหน้าลูซี่ จ้องมองด้วยตาที่เป็นสีเลือดนั้น
“Lord of vermilion”(อยากบอกว่าคนเขียนบ้าRagnarokT^T)เสียงท่านลูซี่ตะโกนดังลั่น สักพักกลุ่มเมฆขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นอยู่บ่นท้องฟ้า
“คิดว่าแค่นี้จะทำอะไรผมได้อย่างงั้นเหรอ” ฟีนิคยืนรับสายฟ้าที่ผ่าลงมาอย่างแรง
“ไอ้ฟีนิคที่อ่อนแอนั้นจะไม่มีอีกแล้ว
” ปัก เสียงหมัดน้อยๆของท่านลูซี่ที่ชกลงบนหน้าของฟีนิคดังขึ้น ทำให้ฟีนิคยืนเงียบ
สักพัก เขาก็ทรุดลงมานั่งกองอยู่ที่พื้น
“ฉัน
ผมทำอะไรลงไป”ฟีหันมามองท่านลูซี่ที่นั่งอยู่ข้างๆ
“เจ็บไหม” ลูซี่เอามือมาจับที่หน้าของฟีนิค
“ไม่
ครับไม่เป็นไร”ฟีนิคยิ้ม ตาของเขากับมาเป็นอย่างเดิม
.
      ที่บ้าน   
“ใครปล่อย2คนนั้นออกไปน่ะ”แบล็คจังโวยวาย
“โธ่! ไปหัดใจร้อนมาจากไหนเนี้ยพี่แบล็คจัง”ไวท์พูดขึ้นเธอมองไปทางเนะ เนะเลยชี้ไปที่แบล็คคุงที่กำลังเดินเข้าบ้าน
“นั้นไง..คนนั้นไง”ไวท์มองไป
“อะไร
ฉันทำอะไรผิดอีกล่ะ”แบล็คคุงโวย
“เห็นม่ะเหมือนกันเลย” เนะมองหน้าไวท์ ขณะที่แบล็คจังกำลังอาละวาด
“โว้ย
อะไรว่ะเนี้ย” คริสนั่งมองแบล็คจังอาละวาดอย่างเซ็งๆ ส่วนแบล็คคุงก็เดินขึ้นไปเปลี่ยนชุดข้างบน แอนซูลกับฟูรูนก็กลับปราสาทไปแล้ว จีเน่ก็ไปที่วังรัตติกาล ส่วนอิกกิก็ไปที่โบสถ์ เนะนั่งเซ็ง
    ที่อคา 
“ขอบคุณนะที่มาส่ง”ลูซี่กล่าวขอบคุณฟีนิคที่พามาส่ง “ไม่เป็นไรครับงั้นผมไปก่อนนะครับ”ฟีนิคกางปีกแล้วบินขึ้นฟ้าไป “I hear the wind call your name It calls me back home again It sparks up the fire--a flame that still burns Oh it\'s to you I\'ll always return I still feel your breath on my skin I hear your voice deep within The sound of my lover--a feeling so strong Oh it\'s to you--I\'ll always belong
Now I know it\'s true, yeah My every road leads to you And in the hour of darkness darlin\' Your light gets me through Wanna swim in your river--be warmed by your sun Bathe in your waters--cuz you are the one I can\'t stand the distance--I can\'t dream alone I can\'t wait to see you--Yes I\'m on my way home
Oh I hear the wind call your name The sound that leads me home again It sparks up the fire--a flame that still burns Oh it\'s to you I will always return Wanna swim in your river--be warmed by your sun Bathe in your waters--cuz you are the one I can\'t stand the distance--I can\'t dream alone I can\'t wait to see you--Yes I\'m on my way home Oh I hear the wind call your name The sound that leads me home again It sparks up the fire--a flame that still burns Yeah, I\'m on my way--I will always return Yes, I will always return I\'ve seen every sunset and with all that I learned Oh it\'s to you I will always, always return“(เพลงคุ้นไหมT^T) ฟีนิคดูท่าจะร้องเพลงไปเรื่อยๆตลอดทาง ลูซี่ยืนมองฟีนิคจนรับตาไป
“เด็กหนอเด็ก” ลูซี่เดินเข้าอคาไป
.
“ใครเอาลูซี่จางของฉานปายไหน
..”แบล็คจังยังโวยวายไปเลิก “เซ็งจริงๆ”เนะเอยขณะที่เดินออกไปจากบ้าน เธอกำลังจะกลับไปที่K.H.P (Kokukurusawa Home Page)
  Act4: Falling Rain (ฝนตก)
    ประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง ขณะที่ฝนตกพำๆ 
“นี้จะจับมันจริงๆเหรอ”จีเน่พูดขึ้นขณะที่กำลังเดินไปที่สวนสาธารานะกับอิกกิ
“ก็จริงน่ะสิ
”อิกกิชะงักเมื่อเห็นสิ่งที่ตกลงมาจากฟ้าท้ามกลางสายฝน
“อิกกินายจะไปไหนน่ะเดี๋ยวก็เปียกหรอก”จีเน่รีบวิ่งตามอิกกิไปแล้วยืนกลางร่มให้อิกกิที่นั่งมองอะไรบางอย่างอยู่
“อิกมีอะไรเหรอ”จีเน่ก้มลงไปดู
“ขนนกฟีนิค
”อิกกิพูดขึ้นมาเขามองหน้าจีเน่
“แล้วทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี้ตอนนี้ล่ะอิก”จีเน่รองจับดู เขารู้ได้ทันทีว่าเป็นของจริง
“ฉันไม่รู้เหมือนกัน
ไม่แน่ฟีนิคอาจจะอยู่แถวนี้ตอนนี้ก็ได้”อิกกิเดินไปโดยมีจีเน่คอยถือร่มเดินตาม
“เขาจะมาช่วยเราหาคนร้ายไหม” “ต้องช่วยสิ
หมอนั้นใจดีจะตายไป”เขาเดินคุยกันไปเรื่อยๆ “ใช่ๆฟีนิคเขาใจดีไม่เหมือนคนบางคนแถวนี้”จีเน่พูดพรางหลอกด่าอิกกิถึงนิสัยของเขา
“ออ..เหรอแล้วนายมาเดินกับฉันทำไมแล้วนายมาอยู่บ้านฉันทำไมแล้วนายมา
!!”จีเน่รีบเอามือมาอุดปากอิกกิก็ที่เขาจะส่งเสียงอีกแล้วลากเขาเข้าไปในพุ่มไม้
“มีอะไร”อิกกิกะซิบข้างหูจีเน่
“ฟีนิค
นกฟีนิค”เขาทั้งสองมองดูเงียบๆอยู่หลังพุ่มไม้
“หมดแววเลยอ่ะนะ ฟีนิคไม่มีไฟ”อิกกิเริ่มพูดสอดเสียด
“นั้น
เนะโกะ” “จริงด้วย
มาทำอะไร
จีเน่นั้นดาบมารSchweizersabel”เขาทั้งสองตกใจเป็นอย่างยิ่ง
“อย่ามาเกะกะแถวนี้เจ้านกฟีนิคไร้ญาติ”เสียงห้าวๆของเธอพูดขึ้นมา แววตาที่น่ากลัวจ้องมองไปที่นกฟีนิคราวกับว่าเธอเคยเกลียดชังมันมาก่อน
“หรือว่านี้มัน” “หืม?? อะไรเหรอ “  จีเน่พูดขึ้นมาเบาๆ เขามองหน้าอิกกิ
“Acid Rain” เพียงแค่ได้ยินก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่นกนั้นรับไปเต็มๆ
“เจ้านกออกไปจากบริเวรนี้ได้แล้ว” “ไม่ข้าไม่ไป” คำพูดของนกฟีนิคเพียงแค่นั้นมันทำให้เนะโมโหขึ้นมาได้ไม่ยากนัก
“งั้นเหรอ
.เจ้ารองของกับข้าใช่ไหม”เนะยิ้มที่มุมปาก การยิ้มอย่างนี้ทำให้อิกกิกับจีเน่ผวา เขาทั้งสองเริ่มขนลุกในการสแยะยิ้มของเธอ
“ข้าไม่กล้าขนาดนั้น...ข้าแค่อยากเจอท่านเลย
”
“เลยล่อให้ข้าออกมาโดยการบินเฉียวข้างั้นเหรอ”เนะเริ่มพูดกัดฟัน
“เจ้านก
ให้ข้าได้เห็นเจ้าในร่างคนหน่อยเถอะ
”เนะยังไม่ทันพูดจบ นกฟีนิคตัวนั้นก็กายเป็นคนให้เห็น
“ยังเด็กอยู่เลย”อิกกิพูด
“ชอบแหละสิ”จีเน่มองหน้าอิกกิที่กำลังตั้งอกตั้งใจมองดูบรรยากาศข้างนอก
“
.”อิกกิไม่พูดอะไรเขาแค่หันมาแล้วก็หันกับไปมองดูสองคนนั้นต่อ
“หึๆ5555555555 ” เนะหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง(มั้ง) “เจ้าต้องการอะไร
”เนะมองหน้าเขา
“ข้าชื่อ ฟาร์เชียร์ ข้าต้องการแค่ยานั้นที่ท่านเป็นคนเดียวที่ถืออยู่
”เนะเดินไปใกล้ๆเขา เอามือเธอจับที่ไหล่ของเขาทั้งสองข้าง
“แค่นี้เหรอที่ต้องการ”เนะมองหน้าเขา หน้าของฟาร์เชียร์นั้นเริ่มซีดเพราะโดนAcid Rainมา เขาเริ่มเงยหน้าขึ้นมาตอนนี้ตัวของเขาสั่น
“ใช่..ผมต้องการ
แค่นี้
แค่ยานั้น
.”เขาพูดเสียงสั่น พอพูดจบเขาก็ทรุดตัวลงไปนอนอยู่กับพื้น
“เนะ
”เสียงอิกกิที่วิ่งออกมาตะโกนขึ้น
“อิกกิมาพอดีเลยช่วยอุ้มเจ้านกนี้ไปทีสิ”เนะหันมายิ้มให้
“เข้าใจแล้ว”อิกกิพะยักหน้า จีเน่วิ่งตามออกมา เขาทั้ง3เดินไปที่รถอิกกิอุ้มฟาร์เชียร์อย่างระวัง “ดูท่าจะเป็นไข้นะ”จีเน่พูดขึ้น เขาเอามือมาแตะที่หน้าพากของฟาร์เชียร์เพื่อตรวจดูว่าเขาไม่สบาย
“งั้นเหรอ”เนะโกะพูดขึ้น
“ขึ้นรถเถอะ”อิกกิพูดขึ้น เนะรีบขึ้นไปนั่งด้านหลัง อิกกิเอาฟาร์เชียร์นอนลงที่เบาะด้านหลังอย่างระวัง ส่วนจีเน่ก็นั่งเรียบร้อยอยู่ด้านหน้า อิกกิขึ้นรถและขับออกไป
      ทันใดนั้นเองเสียงหอนาฬิกาก็ตีบอกเวลาเที่ยงคืน [ไม่
ม่าย
] เสียงหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายในค่ำคืนนั้นร้องดังรั้นโดยไม่มีใครได้ยินเสียงร้องของเธอ “หึๆเอาชีวิตเจ้ามาให้ข้า
แล้วข้าจะให้ความเป็นอิสระแก่เจ้า
..เนะโกะ โคคุคุรุซาว่า” เสียงชายนักฆ่าบ้าเลือดนั้นพูดขึ้น
  ตอนเช้าที่บ้านอิกกิ   
ระหว่างที่จีเน่ อิกกิ เนะโกะนั่งคุยกันอยู่ที่ห้องรับแขก
“เนะ เนะเคยโดนไอ้ฆ่าตะกอนโรคจิตนั้นเล่นงานไม่ใช่เหรอจำหน้ามันบ้างได้ไหม”จีเน่ถามขึ้น เขามองหน้าเนะ
“มันเอาผ้าพันแผลสีดำปิดหน้าไว้น่ะเลยไม่รู้ว่าเป็นใคร”เนะเริ่มพูดให้เขาฟังถึงลักษณะของมัน
“แล้วตามันล่ะสีอะไร เพราะถ้าปิดหมดก็น่าจะเหลือตรงตาไว้ดูนี้หน่า” อิกกิพูดพูดขึ้น เขาอ่านหนังสืออยู่และปิดลงเมื่อเขาเริ่มพูด
“ดวงตาสีแดงเลือด
ผมแดงส้มอมทอง”เนะพยายามนึก เธอมองไปหาอิกกิ “ตาสีแดงผมสีแดง
ใครกัน
” จีเน่พึมพำ “ถ้าไม่ใช้คนทั่วไปแต่เป็นคนในบ้านเราล่ะ”อิกกิพูดขึ้น หน้าตาเขาดูเครงเคียดมาก
“อาจจะเป็นไปได้
.แล้วใครล่ะ”เนะโกะพูดขึ้นมา
“ผมแดง ตาแดงหรือจะเป็นแบล็คคุงหรือไม่ก็แบล็คจัง”จีเน่พูดขึ้นมา
“เป็นไปไม่ได้โดยเฉพาะแบล็คคุงเพราะว่าเขาไม่น่าจะทำร้ายไวท์ได้ แล้วแบล็คจังก็คงไม่ทำร้ายเนะโกะแน่ๆ
”อิกกิมองหน้าเนะโกะแล้วหันไปมองจีเน่ “แล้วใครล่ะที่เป็นคนทำ
”จีเน่ลุกขึ้นโวย “พี่ลูก็ไม่น่าใช่
.ฟีนิกส์ก็คงไม่ใช่”เนะโกะมองหน้าอิกกิและดึงเสื้อจีเน่ให้เขานั่งลง
“จริงของเนะ งั้นเราต้องสืบต่อไป”อิกกิคว้าเสื้อคุมแล้วเดินออกไป
“เดี๋ยวสิคอยฉันด้วย”จีเน่วิ่งตามออกไป เนะนั่งมองทั้งสองเดินออกไป เธอนั่งอยู่ได้สักพักก็หยิบกุญแจรถแล้วเดินออกไป
“อ้าวไปไหนกันหมดแล้วล่ะเนี้ย” ฟาร์เชียร์ที่พึงเดินลงมา เขาไม่เห็นใครเลย
.(แย่จัง)
      ด้านเนะที่ขับรถอยู่ก็ตรงดิ่งไปที่ จุดชมวิวของเมือง
“เสดาร์เสคัส” ทันใดนั้นเองถนนสายยาวก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าทำให้เธอรีบไปโดยเร็ว
ถนนที่โพล่ขึ้นกลางทะเลนั้นเป็นจุดเชื่อมต่อVital Ocean ตรงกลางเป็นปราสาทคริสตัลที่สวยงานสง่าอยู่ถนนสายนี้มีชื่อเรียกว่า North Road (ถนนสายเหนือ) เป็นถนนสายตรงผ่านปราสาทและไปยังUnderground City ตรงไปอีกคือ Nighttime Palace (วังรัตติกาล)
“เนะ” เนะโกะจอดรถที่ปราสาทคริสตัลทันใดนั้นคริสก็เดินเข้ามาทักเธอ
“มาได้ยังไง”คริสยิ้ม “ขับรถมา
”เนะดูท่าทางไปสบอารมณ์เท่าไหร่ เธอเดินเลยไปผ่านประตูใหญ่เข้าไปในเมือง
“ฝากดูรถด้วยนะ”เนะหันมาบอกคริสที่กำลังทำหน้างงอยู่ เธอรีบวิ่งออกไป ไม่ช้าก็ถึงน้ำพุกลางเมือง
“เหนื่อย”(ใครให้แกวิ่งมาล่ะ)เนะนั่งลงที่หน้าบ่อน้ำพุ
“ให้ตายสิ”เธอก้มหน้าลงมองกับพื้น
“ขอโทษนะครับพี่สาว
พี่สาวใช่เนะโกะ โคคุคุรุซาว่าหรือป่าวครับ” เด็กชาวบ้านแถวนั้นเดินเข้ามาถามเนะที่นั่งอยู่
“อ่ะ
อา..ใช่มั้งจ้ะ”เนะยิ้มท่าทางเธอเป็นมิตร
“ใช่เหรอครับ”เขานั่งลงข้างๆเนะ “คงไม่มีที่ต่ำกว่าพี่ให้ผมนั่งแล้ว
ขออนุญาตนะครับ” เนะมองหน้าเขา
“เธออายุเท่าไหร่แล้วเนี้ย”เนะถามเขา ทำให้เด็กชายตกใจนิดหน่อย
“12ครับ”เขาตอบขึ้นทันที
“เธอเป็นมนุษย์เต็มตัวเลยเหรอ”เนะเริ่มซักถาม
“ครับ
.ใช่ครับ” “ดีจัง”เนะยิ้มเธอลุกขึ้นยืน
“ไปเดินเล่นกันม่ะ”เนะกล่าวชวนเขาอย่างจริงใจ
“ได้เหรอครับ” เขารีบวิ่งตามเนะมา
“พี่สาวใจดีจังเลย”เขายิ้มอย่างสุภาพ
“เห็นขนมปังร้านนั้นไหม” “ครับ”เนะชี้ให้เขาดู ทั้งสองเดินไปที่นั้น
“ที่นี้
ผมไม่เคยเข้ามาเลย...แม่บอกว่ามันแพงเกินไป” “เหรอ”เนะเอามือดันประตูเข้าไป
“รับอะไรดี
.”เสียงพ่อค้าที่กำลังจะต้อนรับแต่เขาก็ต้องหยุดลงเมื่อเห็นเด็กๆเข้ามา
“นี้พวกเธอถ้าคิดจะมากินฟรีที่นี้คงไม่ได้หลอกนะ”เขาพูดพร่ามใหญ่ ส่วนเนะเดินไปหยิบขนมปังใส่ถาดโดยไม่สนใจเจ้าของร้าน เธอเดินเอาถาดไปว่างตรงที่คิดเงิน
“เท่าไหร่”เนะพูดเสียงเย็นชา เด็กชายที่เดินตามหลังเนะตลอดนั้นจับเสื้อเธอแน่น
“100โคคู มีจ่ายหรือป่าว” เจ้าของร้านชะโงกหน้ามาดูเนะที่กำลังหยิบกระเป๋าตรังค์ขึ้นมา
“มีเงินทอนไหม”เนะมองหน้าเขา เธอหยิบแบงค์พันขึ้นมาจ่าย
“มีสิ”เจ้าของรีบเดินไปหยิบเงินทอนแล้วยื่นให้เธอ
“เธอเป็นใครสาวน้อยฉันไม่เคยเห็นหน้าเธอ”เจ้าของร้านกล่าวถามก่อนเนะจะเดินออกไป
“เนะโกะ โคคุคุรุซาว่า”
เนะหันมาพูดแล้วเดินออกไปอย่างไม่ใยดี เพียงแค่ชื่อเธอก็ทำให้คนหลายคนในร้านขนมปังสะดุ้งทันทีเหมือนโดนไฟฟ้าช็อตเบาๆเพื่อกระตุ้น
“พี่สาว” “จริงสิว่าแต่เธอชื่อะไรเหรอ”เนะหันมาถามดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ยินที่เขาเรียก
“อ่ะ
ผมชื่อเคนครับ”เขาตอบอย่างรวดเร็ว
“อืม
เคนบ้านเธออยู่ไหนเหรอ”เนะเริ่มมองไปทั่วๆ
“ผม
อยู่ที่โบสถ์ครับ”เคนตอบเธอ
“โบสถ์?แล้วพ่อแม่เธอล่ะ”เนะยังมองรอบๆไม่เลิก
“พ่อแม่ผมตายแล้วครับ” “อ่ะ..พี่ขอโทษนะพี่ไม่รู้จริงๆ”เนะรีบปลอบเคนที่กำลังน้ำตาไหลอยู่ “ไปนั่งกินขนมปังกัน”เนะพาเคนเดินไปที่ปราสาทคริสตัล
.
“ที่นี้”เคนพูดขึ้น เขาดูตกใจนิดหน่อย “
.บ้านพี่เหรอครับ” เคนเงยหน้าถามเนะโกะที่ยิ้มให้เขาอยู่
“ไม่ใช่จ๊ะ
แต่อยากไปไหมล่ะพี่จะพาไป”เนะพาเคนเดินไปที่รถ
“จะไปบ้านพี่เหรอครับ” “ใช่”เนะเปิดประตูให้เคน
“ขึ้นไปสิ
เอ้าและก็ฝากวางถุงไว้ข้างหลังด้วยนะจ๊ะ” เคนขึ้นมานั่งตามที่เนะบอก
“จะไปแล้วนะ”เนะหันมายิ้มก่อนที่จะขับออกไปอย่างเร็ว
“พี่ครับ
พี่ก็เป็นมนุษย์100%ใช่ไหมครับ”เคนหันมาถาม เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าที่นี้มีพวกลูกครึ่งอย่างเนะอยู่เพราะส่วนใหญ่เป็นสายพันธ์แท้ๆ
“ป่าวจ้ะ! พี่เป็นลูกครึ่งน่ะ พ่อพี่เป็นพญาเสือเป็นกษัตริย์ส่วนแม่พี่เป็นมนุษย์ พี่เลยออกมากายเป็นแมวไง เหมี๊ยว^^”เธอขับรถต่อไปโดยมีเคนที่นั่งหัวเราะจนน้ำตาไหลอยู่ข้างๆ ประมาณ5นาที
ระยะทางอันยาวไกลก็สิ้นสุดลงที่หน้าปราสาทK.H.P.
“ที่นี้เหรอครับบ้านพี่น่ะ”เคนถามขึ้น
“อยู่ข้างในต่างหากเล่าน้องรัก” เนะตอบ
ประตูปราสาทขนาดใหญ่เปิดออก เนะรีบขับรถเข้าไป
“ทำไม
ไม่เห็นมีปราสาทเลยล่ะครับ”เคนมองไปรอบๆ เขาเจอแต่ต้นไม้ ป่าและภูเขา
“หึ มันอยู่กลางหุบเขาน่ะ”เนะตอบ เคนหันมามองหน้าเธอ
“ระวังนะ ในป่านี้มีแต่ปิศาจ”เนะเตือนเคนให้เขาระวัง
“ครับ” เคนนั่งนิ่ง
[นายท่าน]เสียงปิศาจที่โพล่ออกมาเรียกเนะ “มีอะไรหรือ”เนะจอดรถ เธอเดินลงไป
[นายท่านข้ามีข่าวมาบอกกับท่าน
ได้โปรดรับฟังข้า]ปิศาจตนนั้นพูดกับเธออย่างสุภาพ ทำให้เคนตกใจนิดหน่อยเพราะปิศาจที่เขาเคยเจอนั้นมันไม่สุภาพขนาดนี้ “ว่ามา”เนะคอยฟังอยู่ [พวกสุนัขรับใช้ของเจ้านั้นมันกล้ามาสืบแถวนี้ ข้าเกรงว่ามันจะมาทำสงครามกับนายท่าน] ลูกน้องของงปิศาจตนนั้นนำตัวสายสืบของฝ่ายตรงข้ามออกมาให้เนะดู
“ช่างน่าเศร้านัก เจ้าสุนัขรับใช้
.เอาตัวมันขึ้นรถข้า”เนะสั่ง เธอเดินขึ้นรถทันทีพวกนั้นนำเจ้าสายสืบใส่หลังรถตามที่สั่ง เนะขับออกไป
“พี่ครับ
มันตายหรือยังครับ”เคนถามด้วยความสงสัย
“ยังจ้ะ”เนะตอบอย่างสุภาพ “มันแค่สลบไปนะ
”เนะรีบขับไปอย่างเร็วจนกะทั่งถึงปราสาท “โห
.ใหญ่จังเลย”เคนพูดขึ้นเนะเดินไปเปิดประตูรถด้านหลังเพื่อลากปิศาจตัวนั้นลงมา
“ตัวหนักแหะ”เนะบ่น เธอเดินมาที่หน้ารถพร้อมแบกปิศาจตัวนั้นมาด้วย
“ไปกันเร็วเคน” เคนรีบวิ่งตามเนะไป
“คุณเนะโกะ
มาแล้วเหนอค่ะ”ริสซี่เดินมาหาทันทีที่เธอเดินเขาไปถึง
“คุณริสซี่หนูฝากดูเด็กคนนี้แปปนะค่ะเดี๋ยวมาค่ะ”เนะพูดจบก็เดินไปที่ห้อง
ทันที
“สวัสดีครับ”เสียงเคนพูดทักทายริสซี่
“สวัสดีจ๊ะ”ริสซี่ยิ้มหวานใส่เขา
“ไปคอยคุณเนะที่ห้องรับแขกเถอะค่ะ”
      “เจ้าปิศาจ
แกเป็นสายสืบให้ใครกัน”เนะเริ่มสอบถามหาเจ้านายของมัน
“ข้าแค่มา
หาอะไรกินแถวนี้เอง
จ้าไม่ได้จะ
”เสียงของมันสั้นและหยุดลงเมื่อเนะนำมีดที่เธอพกมาด้วยจี้คอมัน
“จะบอกดีๆหรือ
.อยากมีแผลก่อนและค่อยบอก”เนะเริ่มขู่
สายตาเธอน่ากลัวกว่าทุกวัน “ข้า
ยอมตายดีกว่าบอกท่าน
”ปิศาจตนนั้นมองหน้าเธออย่างกล้าหาญ
“งั้นก็จงตายไปซ่ะ
อาซิดเรน”เนะเดินออกไปปล่อยให้ปิศาจนั้นอยู่ในห้องนั้นพร้อมกับเวทย์ของเธอ
“จะทนได้สักเท่าไหร่เชียว”เนะเดินหัวเราะออกมาจากห้องนั้นอย่างสะใจ
Act5: The Lucky Day (วันที่โชคดี)
“พี่สาว”เคนวิ่งไปหาเนะโกะที่กำลังเดินเข้าไปที่ห้องรับแขก
“ไง
” “คุณเนะโกะอาหารกลางวันพร้อมแล้วค่ะ”ริสซี่เดินเข้ามาบอก
“ไปกินข้าวกัน”เนะพาเคนคุงเดินไปที่ห้องอาหาร
“ทำไมมันเยอะจังล่ะครับ”เขาพูดขึ้นด้วยความตกใจนิดหน่อยที่เห็นจานที่มีอาหารอยู่เต็มวางอยู่บนโต๊ะขนาดใหญ่แล้วยาวมาก
“ปกติน่ะจ๊ะ
เพราะไม่ได้กินคนเดียว”เนะบอกเคน ที่กำลังนั่งลงข้างๆเธอ
“ไม่เห็นมีใครมาทานด้วยเลยนี้ครับ”เคนมองไปรอบๆส่วนเนะไม่ตอบใดๆกับเขาทั้งนั้น เธอกำลังคิดอะไรบ้างอย่างอยู่ เขาทั้งสองนั้นกินกันไปเรื่อยๆ
    ณ วังรัตติกาล 
“นี้พวกนาย!!เห็นเนะโกะบ้างไหม”แบล็คคุงพูดกับองครักษ์เฝ้าวัง
“ไม่เห็นครับท่าน”เขาตอบอย่างใจเย็น
“งั้นไม่เป็นไร
(หายไปไหนของเขานะ) ขอบใจนะ”แบล็คคุงเดินเข้าไปข้างใน
“อ้าว! คุณแบล็คมาทำอะไรครับ”เอฟี่กล่าวขึ้นถาม หน้าตาของเขายิ้มแย้มแจ่มใส
“มาหาเนะน่ะเห็นบ้างไหม” “ไม่เห็นครับ มีเรื่องอะไรกันเหรอครับ”แบล็คคุงนั่งลงที่โซฟาส่วนเอฟี่ก็นั่งลงตรงที่ๆยืนอยู่เมื่อกี้
“คือ
จะให้ช่วยไปดูตัวคนร้ายหน่อย”เอฟี่เริ่มงง เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลยเพราะเขาต้องอยู่ที่ๆเนะให้อยู่ -_-“
“นี่ฟี่ถ้ายัยนั้นมาแล้วให้ไปหาฉันด้วยนะเข้าใจไหม”เอฟี่พยักหน้าและปล่อยให้แบล็คคุงเดินไปตามทางเดินที่แสนจะยาวของวังรัตติกาล
  15 นาทีต่อมา
“คุณเนะจาง” เสียงเอฟี่เรียกเนะที่กำลังเดินเข้ามาในวังดังขึ้น
“มีอะไรเหรอฟี่” เนะหันมาหาเขา
“คุณแบล็คคุงมาน่ะครับ
เขาบอกว่าให้ไปหาเขาด้วยน่ะครับ ผมว่าคุณรีบไปดีกว่านะเห็นว่ามีเรื่องสำคัญอ่ะ” เนะฟังฟี่พูดเสร็จเธอก็รีบวาปหาไปในทันที
“ง่า
”ฟี่ยืนงง
เขาไม่รู้จะบอกตัวเองว่ายังไงดี
     
ที่โตเกียว     
“มีอะไรเหรอแบล็คคุง”เนะโกะพูดขึ้น
“เนะจำหน้าคนร้ายได้มั้งไหม”แบล็คคุงถามเธอแบบไม่อ้อมค้อม
“ฉัน
ฉันคือ...ฉัน”เนะมองไปทั่วห้อง เธอเหมือนว่าจะไม่ตอบแบล็คคุง
“คืออาไร...เนะเธอบอกมาดีกว่านะเรื่องจะได้ง่าย”แบล็คคุงมองหน้าเธอ
“ฉันจำไม่ได้แล้ว”เนะมองหน้าแบล็คคุง เธอตอบอบ่างหมั้นใจ
“ขอบคุณ”แบล็คคุงเดินออกไปข้างนอก เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ฉันกลับก่อนนะ”เนะตะโกนมาจากในบ้าน
“บ้าเอ้ย!”กำปั้นของเขาลงไปอยู่กะพื้นหญ้า หมัดนั้นลงไปด้วยความเจ็บใจ “ทำไมต้องให้ไอ้คนประเภทนั้นลอยนวลนอยู่ด้วยนะไม่เข้าใจเลย” “ใจเย็นเถอะครับ” ฟีนิกซ์เดินมาข้างหลังของเขา
“อา
นายเองเหรอ”แบล็คคุงหันไปมองแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน “คุณไวท์ให้มาตามน่ะครับ” เขาทั้งสองเดินเข้าบ้านไป “เนะเค้า...กลับไปแล้วเหรอ”ไวท์มองซ้ายมองขวาเธอไม่เจอเด็กผู้หญิงที่เธอต้องการเจอเลย “อืม
ยัยนั้นกลับไปแล้ว”แบล็คคุงพูดขึ้น “ว่าเสียดายจัง”ไวท์ถอนหายใจเธอเดินเข้าไปในห้องรับแขก “ขอบคุณนะครับ”ฟีนิกซ์กล่าวในใจ เค้ายิ้มเล็กยิ้มน้อยตลอดทั้งวัน
    วังเหนือ(ปราสาทคริสตัล)
“โอ้ย
>.<เหมื่อยจังเลย” คริสเดินบ่นระหว่างทางเดินจากห้องทำงานไปที่ประตูข้างหน้าวัง “มันเหมื่อยขนาดนั้นเลยเหรอคริส” “อ้าว! เนะ” คริสทักทายอย่างหวาดๆเขาไม่ทันสังเกตเห็นลูกแมวสีดำที่อยู่ตรงเท้าเขา ทำให้เขาเกือบเหยีบไป
“ก็ใช่น่ะสิ โลกนี้จะมีแมวปิศาจอย่างฉันอยู่อีกกี่ตัว” เนะเดินนำคริสไป ตัวเธอเหลืออยู่เพียงแค่ตัวเล็กๆเหมือนดังว่าเธอแมวธรรมดาๆตัวนึง
“ก็
แล้วเนะมีเรื่องอะไรหรือป่าวมาหาฉันถึงนี้น่ะ”คริสถามเธอ เขาคิดว่าเธอต้องมีปัญหาอะไรแน่ๆ
“ไม่นี้หน่าแค่อยากมาก็มา”เนะเริ่มตอบแบบไม่ใส่ใจสักเท่าไหร่
“อ่ะนะ
”คริสไม่ได้ใส่ใจกับคำตอบของเธอสักเท่าไหร่ เขารู้สึกเคยชินแล้ว (มั้ง)
“แล้วนายล่ะจาไปไหนเหรอ” “อ๋อ! ฉันจะไปสูดอากาศข้างนอกน่ะ”คริสยิ้มแล้วเดินนำออกไปข้างนอก
“หิมะตกด้วยเหรอ”เนะชะโงกหน้าออกมาดูลาดราว
“อืม
ก็มันเข้าหน้าหนาวแล้วนี้หน่า”คริสหันมายิ้ม เขาเดินกลับมาอุ้มลูกแมวออกไปจาปนะตู “ถ้าหนาวก็อยู่ใกล้ๆฉันแล้วกัน”เนะมองหน้าคริส
“นายนี้มัน
.”เธอพูดด้วยความหมั่นไส้ที่มี
“เอาน่า
ตัวเล็กๆอย่างนี้อุ้มง่ายดี ดีกว่าเป็นคนเยอะ”คริสพูดแนวประชด
“
น่าอัดจริงๆเลยนายนี้นะ>.<” เนะพึมพำ
”คิกๆ”คริสหัวเราะเบาๆ
หิมะตกลงมาเรื่อยๆอย่างช้าๆ
.สายลมพัดเบาๆ
“ขอบคุณ”เนะพูดขึ้นเบาๆ
“อะไรนะ”คริสหันไปทางเธออย่างเร็ว
. “ฉันหูฝาดเหรอ”คริสพึมพำ เขามองหน้าเนะโกะที่กำลังหลับสนิทใต้ต้นไม้ที่นั่งอยู่
”อะไรกัน เมื่อกี้ฉันได้ยินจริงๆนา”เขารู้สึกว่ามันเป็นเพียงความคิดชั่ววูบ
แต่คริสคงจำมันไปตลอดเพราะเขาไม่เคยได้คำขอบคุณจากปากเธอตรงๆเลยสักครั้ง แม้มันอาจจะเป็นเพียงความฝันก็ตามที
Act6: The true Murder (ฆาตกรตัวจริง)
ในเมือง...ณ สวนสาธารนะ
“ให้ตายสิวันนี้ฉันต้องจับมันให้ได้เลย”แบล็คคุงโวยวาย
“ใจเย็นน่า”แบล็คจังบอก เขาทั้งสองเดินไปตามสวนสาธารนะ เดินไปรอบๆ
“นี้...ไปหาอะไรกินกันนะ ฉันหิวแล้วนะ”แบล็คคุงมองหน้าพี่ชายตอน เขาพยายามจะขอร้องที่จะให้แบล็คจังพาไปหาอะไรกินสักนิด
“ตามใจนายสิ อยากไปไหนก็ไปเดี๋ยวฉันอยู่ดูเองก็ได้ ใครง้อ
” แบล็คจังเดินนำไป ปล่อยให้แบล็คคุงยืนนิ่งอยู่
“อะไรกันเนี้ยคนเค้าอุตส่าห์ขอนะ” แบล็คคุงเดินไปที่ร้านอาหารใกล้ๆ 
“อ่ะ!”แบล็คจังเดินไปได้สักพักเค้าก็เจอกับเนะโกะ
“เนะ มาทำอะไรที่นี้น่ะ นี้มันดึกมากแล้วนะ”แบล็คจังเดินเข้าไปหาเธอ
“แบล็คจัง...”เนะโกะหันมาทันที
“ฉันมา...คอยเขา” “เขา...ใครเหรอเนะ”แบล็คจังเดินมานั่งข้างๆ เค้ามองหน้าเนะแต่เธอไม่ตอบกลับ
“ฮา....โหลท่านคุณพี่ อุ้ย! เนะจาง~~~~>.<”  แบล็คคุงที่เดินมาจากร้านอาหาร เดินตรงเข้ามาทักทันทีที่เห็น
“อา...หวาดดี”เนะกล่าวสั้นๆ “ไงล่ะอิ่มหรือยังไอ้คุณน้องรัก” แบล็คจังพูดประชดนิดๆ
“แหม...ก็ไม่เท่าไหร่หลอกก็กลัวแบล็คจังเป็นห่วงเลยรีบมา” “ใครเค้าจาห่วงแก ห๊า~~~~”
เต็งๆ!! เสียงนาฬิกาเวลาเที่ยงคืนดังขึ้นเรื่อยๆ
ทันใดนั้นเนะเองก็เปลี่ยนตนเป็นแมวปิศาจขนาดใหญ่วิ่งออกไป
“เดี๋ยวเนะจาไปไหน...คอยด้วย”สองพี่น้องตะโกนพร้อมกันแล้ววิ่งตามไปทันทีที่พูดจบ
[กรี๊ดๆๆๆ!!!]
“เสียงร้อง”แบล็คจังพูดขึ้นขณะที่วิ่งตามเนะไปอยู่
“เสียงมันอยู่ใกล้ๆนี้หน่า” แบล็คคุงเสริม สักพักเขาทั้งสองก็ต้องหยุดเพราะคนที่โดนเนะจังกระโดดจับตัวไว้ คือฟินิกซ์
“ฟินิกซ์นี้นาย”แบล็คคุงพูดขึ้น
“เขาไม่ใช่ฟินิกซ์ที่เรารู้จัก”เนะหันหน้ามามอง สายตาเธอที่ดูจริงจังหน้าเชื่อถือนั้นทำให้สองพี่น้องเชื่อสนิทเลย...
”ปล่อยข้า”เสียงฟินิกซ์พูดออกมา
“หุบปากแกซ่ะ”เนะตะคอกใส่
“พวกนายสองคน...ช่วยพาผู้หญิงคนนั้นไปส่งโรงพยาบาลทีนะ” เนะพูดอย่างอ่อนโยน
“เข้าใจแล้ว”แบล็คคุงรับคำ
“แล้วเราจะรีบกลับมานะเนะ”แบล็คจังหันกลับไปบอกเนะ ท่าทางเขากังวลสุดๆ
“เราต้องมาเคลียกัน...ฟีนิกซ์”เนะโกะกล่าว สายตาเธอดุราวกับว่าจะกินเขาเข้าไป
“เรื่องอะไรแมวน้อย หึๆ”ฟินิกซ์พูดขึ้นพร้อมยิ้มที่มุมปากอย่างชั่วๆ
“เรื่องที่แกฆ่าคน...ผู้หญิงพวกนั้นไง”เนะเริ่มมีโทสะขึ้นมานิดๆ
“อ๋อ! ฉันแค่...ทำตามใจปรารถนาน่ะ ไม่เห็นเดือดร้อน”เขาพูดพล่อยๆออกมานั้นทำให้เนะโกรธอย่างถึงที่สุด
“ไม่เดือดร้อนงั้นเหรอ”เธอตะโกนลั่น
“แกอย่าอยู่เลย...อ่ะ”เนะโกะชะงักเนื่องจากมีคนมาลูบหัวเธอ
“พอเถอะเนะอย่าฆ่าเขาเลย...” เสียงชายในตาสีแดงผมเขียววิ่งเข้ามา
“ลูซิเฟอร์...”ทันใดเธอกับร่างมนุษย์...ทันทีที่พูดชื่อนั้นออกมา
“ฟินิกซ์น่ะ....ถึงอุปนิสัยและจิตใจจะไม่เหมือนเดิมแต่ร่างกายก็คนเดียวกัน เนะจะฆ่าฟินิกซ์ได้ลงเหรอ” เขาถามเธอ
“ไม่หนู...หนูทำไม่ได้”เนะโกะเดินถอยออกไปจาฟินิกซ์
“นายคืนฟินิกซ์คนเดิมมาให้พวกเราเถอะและก็อย่าฆ่าใครอีกเลย พวกโคคุฯเขาเดือดร้อน”
ท่านลูซี่พูดขึ้นช้าๆ เขามองดูฟินิกซ์อย่างสงสาร
“ทำไมข้าต้องเชื่อเจ้า”เขาพูดขึ้นและมองหน้าท่านลูซี่อย่าข้องใจ
“เพราะ...ข้าไม่ใจดีเหมือนเนะโกะน่ะสิ...ถ้าฉันพูดว่าจะฆ่านายฉันก็จะทำจริงๆ”ลูซี่คุกเข่าลง เอื้อมมือไปจับผมของฟินิกซ์เบาๆ
“ข้าไม่กลัวหลอกเพราะนี้ไม่ใช่ร่างที่ข้าปรารถนา” “เจ้าปรารถนาสิ่งใด”ท่านถามโดยไม่รอช้า
“ข้าไม่ต้องการให้นางนั้นมีชีวิตอยู่”เขาชี้ไปที่เนะโกะที่ยืนอยู่หางออกไปไม่กี่เก้า
“งั้นเหรอ...ข้าว่าเจ้าฆ่าเธอไม่ได้หลอก”ลูซี่ยิ้มเล็ก
“ทำไม”ฟีนิกซ์รู้สึกโมโหเป็นอันมาก
“เพราะว่าเธอ...อมตะ” “อมตะ! งั้นเหรอ”ฟินิกซ์รู้สึกตกใจนิดๆ เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเนะโกะเป็นอมตะ (แต่อีกคนรู้นะ)
“ใช่น่ะสิ”เสียงยัยตัวดีแทรกขึ้นมา “ฉันถึงไม่แก่นี้ไง”เนะพูดอย่างเอาจริงเอาจัง
“เอาแหละคืนฟีนิกซ์ตัวจริงมาให้เราได้หรือยัง”ลูซี่พูดขึ้น
“555555555+”ฟีนิกซ์หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“ไม่มีทาง ข้ากำลัง....”เขาชะงัก
“ไปตายซ่ะ”เนะและลูซี่พูดขึ้นพร้อมกัน
“ม่าย~~~~~!!!!”เสียงวิณญาณร้ายในร่างฟีนิกซ์หลุดออกมาจากร่าง
“อาเมน”เนะดึงซาไวเซอร์ซาเบอร์ออกมาแล้วฟันลงที่วิณญาณนั้น
“ขอให้สงบสุข”เนะพูด เธอมองหน้าฟีนิกซ์ที่หลับอยู่ในอ้อมแขนของท่านลี่ที่รับเอาไว้
“อาเมน”เสียงท่านลูพูดขึ้น
“อ่ะๆท่านลูซี่มาตอนไหนอ่ะ แล้วเนะเอาดาบออกมาทำไมหรือฆ่าเขาแล้ว ไม่นะ”แบล็คคุงพูดขึ้นส่วนแบล็คจังเงียบ
“ฉันจะฆ่านายน่ะสิ”เนะเดินไปโดยไม่หันมาสนใจ
“อ้าว!เนะ”แบล็คคุงพูดอย่างเศร้าๆ
“ปล่อยเขาเถอะ”ท่านลูซี่พูดพร้อมกับอุ้มฟีนิกซ์เดินตามเนะไป
“เราก็กลับกันเถอะ”แบล็คจังเอามือตบที่ไหล่แบล็คคุงเบาแล้วเดินไป
“ง่า
รอฉันด้วยสิ”แบล็คคุงวิ่งตามไป
    และแล้วก็หมดเสียงร้องของหญิงสาว...ฟีนิกซ์ปลอดภัยแล้วสบายดี ส่วนโคคุฯก็เหมือนๆทุกๆวันที่เคยเป็น...ไม่มีอะไรที่เธอจะทำไม่ได้...จะเชื่อมั่นและศรัทราในสิ่งที่ตนเชื่อ ความหวังจะมาถึงเธอในไม่ช้า......
                                                                                อำนาจ มีไว้ เพื่อประชา
                                                                                ศรัทรา มีไว้ ให้นับถือ
                                                                                ชื่อเสียง มีไว้ ให้เรื่องลือ
                                                                                รัก มีไว้ คล้ำชูผู้มีกัน
                                                                    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
                                                                                      • The End •
                                                                    _/|\\_ขอบคุณทุกท่านค่ะที่กรุณาอ่านจบ_/|\\_
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น