ในวันนี้ฉันก็ยังคงปฏิบัติตัวเหมือนเดิม คือได้แต่แอบมองและแอบสนใจเรื่องของเธออยู่ห่างๆ
โดยที่ไม่กล้าจะเข้าไปพูดกับเธอ ที่เรื่องราวมันเป็นอย่างนี้คงเพราะว่าฉันไม่เชื่อใจเธอ
และไม่ยอมรับฟังคำอธิบายของเธอ เรื่องราวมันเลยดูย่ำแย่ลงไปแบบนี้ โดยที่เรื่องมันเริ่มขึ้น
ในเย็นวันจันทร์ของสองอาทิตย์ที่แล้ว \" บี เดี๋ยวเราขึ้นไปหยิบของบนห้องก่อนนะ
พอดีเราลืมไว้ในลิ้นชักโต๊ะอ่ะ เธอจะกลับก่อนก็ได้นะ \" \" ไม่เป็นไร เดี๋ยวเรารอแอมอยู่ตรงนี้ก็ได้
รีบไปรีบมานะ \" แล้วเธอก็วิ่งขึ้นห้องไป แอม คือเพื่อนสนิทของฉัน เรารู้จักกันมาตั้งแต่ ป.5
จนตอนนี้เราทั้งคู่อยู่ ม.3แล้วและเราก็ยังคงเป็นเพื่อนสนิทกันอยู่ ส่วน บี ก็คือชื่อของฉันเอง
แอมขึ้นไปหยิบของบนห้องสักพักก็วิ่งลงมา \" เสร็จแล้วไปเหอะ  \" และเราก็กลับบ้านกัน
บ้านของเราอยู่ทางเดียวกันเราจึงกลับบ้านด้วยกันทุกวัน เช้าวันต่อมา ฉันมาโรงเรียนแต่เช้า
และพบว่าแอมยังไม่มา ฉันจึงนั่งอยู่ที่โต๊ะของกลุ่มเรา เพื่อรอแอมและเพื่อนๆคนอื่นๆในกลุ่มที่ยังไม่มา
ฉันนั่งอ่านหนังสือการ์ตูนรอเพื่อนๆอยู่สักพักแซนและทรายก็เดินเข้ามาที่โต๊ะด้วยท่าทางแปลกๆ
ฉันไม่ได้สนใจกับท่าทางนั้นเท่าไหร่จึงทักทายไปปกติ \" ดีแซน ทราย มาช้าจังนะวันนี้ \"
\" ดีบี เรากับทรายมาตั้งนานแล้วแหละ แต่อยู่ในโรงอาหารกันน่ะ \" แซนทักตอบพร้อมกับทำท่าทาง
เหมือนจะให้ทรายพูดอะไรกับฉันซักอย่าง \" เอ่อ เอ่อ ดีบี คือเรามีอะไรจะบอกบีอ่ะ คือว่า คือ
\"
ทรายทำท่าอึกอักจนฉันทนไม่ได้ ก็มันอยากรู้นี่นา \" มีอะไรก็พูดมาเลยดิ่ อยากรู้นะเนี่ย \"
ฉันพูดไปอย่างไม่คาดคั้นเท่าไหร่นัก \" คือว่า เมื่อวานเรากับแซน กลับบ้านช้าอ่ะนะ
ก็เลยเห็นแอมขึ้นมาบนห้องก่อนกลับบ้านอ่ะ แล้วก็มารื้อโต๊ะของบีแล้วก็ขโมยกระเป๋าตังค์ของบี
ที่บีลืมไว้ไปด้วยอ่ะ \" เมื่อแซนพูดจบฉันแทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ฉันได้ยิน แต่มันมีคนรู้เห็นตั้ง 2 คน
ก็ยากที่จะไว้ใจ ฉันเงียบอึกอักอึกอัก ใจนึงอยากแก้ต่างให้แอมแต่อีกใจนึงมันกลับไม่ไว้ใจ
ก็เลยได้แต่เงียบอยู่อย่างนั้น จนถึงเวลาใกล้เข้าแถวแอมก็มาถึงโรงเรียนพร้อมกับอุ้มและอั้ม
เนื่องจากแอมมาใกล้เวลาเข้าแถวพอดีในเช้านั้นเราจึงยังไม่ได้พูดคุยกันถึงเรื่องนั้น แต่จากที่ฉันเห็น
แอมดูปกติทุกอย่างเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอถึงช่วงพักกลางวันกลุ่มของพวกเราลงมากินข้าวที่โรงอาหาร
พอกินเสร็จเราก็มาอยู่ที่โต๊ะหลังตึกซึ่งเป็นโต๊ะประจำของกลุ่มเรา แอมคงเห็นฉันเงียบๆไม่ค่อยร่าเริง
เหมือนทุกวันจึงถามฉันด้วยความเป็นห่วง \" บี เป็นไรป่าวอ่ะ เห็นเงียบตั้งแต่เช้าแล้วอ่ะ \"
ฉันไม่รู้จะตอบว่าอะไรดี แต่ทันใดนั้นแซนก็พูดขึ้นว่า \" ยังกล้าถามอีกหรอ ตัวเองเป็นคนทำแท้ๆ
ยังมีหน้ามาถามอีกว่าบีเป็นอะไร \" ดูแอมจะงงๆกับประโยคนั้นนิดหน่อยจึงถามกลับ
\" เราเนี่ยนะทำ เราไปทำอะไรบีตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ \" แล้วก็เหมือนเดิมฉันยังไม่ทันพูดอะไร
ทรายก็พูดขึ้นมาอีก \" ก็เมื่อวานเธอขโมยกระเป๋าตังค์ของบีไปไม่ใช่หรอ ฉันกับแซนเห็นนะ \"
\" ฉันเนี่ยนะขโมย\" แอมดูประหลาดใจและงงกับประโยคนี้เข้าไปใหญ่ \" ฉันจะไปขโมยของบีทำไม
ในเมื่อบีก็เพื่อนฉัน ฉันไม่ทรยศทำร้ายเพื่อนตัวเองหรอกนะ \" แอมพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ซึ่งฉันก็ไม่แน่ใจ
ว่าแอมกำลังมีความรู้สึกแบบไหนในตอนนั้น \" ก็เพราเธอเห็นว่าบีดีกว่าเธอใช่มั้ยล่ะ
เธอถึงคิดที่จะแกล้งบีเค้าแบบเนี้ย \" แซนพูดตะคอกเสียงดังใส่ \" นี่ยัยแซน ยัยทราย
ฉันยังไม่เห็นบีพูดอะไรเลยนะ เธอเป็นใครกันเจ้าของของก็ไม่ใช่ยังมีหน้ามาพูดใส่ร้าย
แอมเค้าอีก \" อุ้มพูดขึ้นมาอย่างเหลืออด ฉันได้แต่นั่งนิ่งไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดีในตอนนั้น
ได้แต่รู้สึกสับสนว่าฉันจะเชื่อใครดี แอมเพื่อนตั้งแต่ป.5 หรือว่าแซนทรายเพื่อนใหม่ตอนม.1
ฉันได้แต่นั่งสับสนอยู่อย่างนั้นโดยไม่ได้พูดอะไรออกไปเลย \" แล้วที่เธอบอกว่าแอมเค้าอิจฉาที่บีดีกว่าอ่ะนะ
ไม่มีทางซะหรอก พวกเธอมากกว่ามั้งที่อิจฉาความดีของแอมกับบีเค้าน่ะ อยากทำให้เค้าแตกกันใช่มั้ยล่ะ \"
อั้มมีอารมณ์ขึ้นมาอีกคน ฉันมองไปที่แอมเห็นแอมกำลังร้องไห้ ฉันเองก็อยากจะร้องออกมา
กับเหตุการณ์ตรงหน้าเหมือนกันแต่มันกลับร้องไม่ออก \" ไปกันเถอะแอม เราไว้รอให้บีเค้าสบายใจ
จะพูดเมื่อไหร่ค่อยมาคุยกันอีกที \" อุ้มหันมาพูดและชวนแอมเดินออกไป ฉันอยากจะวิ่งตามไป
แต่ไม่รู้ว่าอะไรทำให้ฉันลังเลและเลือกที่จะนั่งอยู่อย่างนั้น ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ก็เป็นเวลากว่า 2 อาทิตย์แล้ว
แต่ฉันก็ยังไม่ได้พูดกับแอมเลย แต่วันนี้มันมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันอยากจะพูดกับแอมเหลือเกิน
และมันก็มีความรู้สึกอยากกลับไปเป็นเหมือนเดิม และก็รู้สึกใจหวิวๆชอบกล
แต่ก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกนั้นมันคืออะไรกันแน่ และสุดท้ายเวลาก็มาถึงคาบสุดท้ายของวัน คาบนี้เป็นคาบชมรม
ครูทุกคนติดประชุม มันจึงกลายเป็นคาบอิสระของพวกเราไปซะงั้น ฉันนั่งอ่านหนังสือการ์ตูนไปซักพัก
แซนและทรายก็เข้ามาคุยกับฉันด้วยท่าทีแปลกๆ ฉันเก็บความสงสัยไว้ไม่ได้จึงถามออกไป
\" พวกเธอเป็นอะไรอ่ะ ทำท่าแปลกๆตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว \" ทั้งสองคนอึกอักอยู่ซักพักก็พูดออกมา
โดยแซนเป็นคนพูดออกมา \" คือเราสองคนมีอะไรอยากจะสารภาพกับบีอ่ะ \" ฉันแปลกใจกับประโยคนี้นิดๆ
\" คือ
คือ
คือเราสองคนเป็นคนขโมยกระเป๋าตังค์ของเธอไปอ่ะ เราต้องการใช้เงินอ่ะ
แล้ววันนั้นเราเห็นแอมขึ้นมาก็เลยใส่ร้ายแอมไปน่ะ พวกเราขอโทษนะ ที่ทำให้พวกเธอทะเลาะกันน่ะ
ขอโทษจริงๆนะ \" ทรายเป็นคนสารภาพเรื่องราวทั้งหมดออกมา ประโยคนั้นทำให้ฉันรู้สึกช็อกมากๆ
รู้สึกเสียใจ แต่ไม่ใช่เสียใจเพราะถูกเพื่อนหักหลัง เสียใจที่ตัวเองไม่ยอมเชื่อใจเพื่อนของตัวเอง
ทั้งที่สนิทกันมาตั้งนาน ทันทีที่ฉันตั้งสติได้กริ่งหมดเวลาเรียนก็ดังขึ้นมาทันที ฉันรีบวิ่งหาแอม
อย่างรีบเร่งและลนลาน เพราะฉันอยากเจอแอมมากๆ แต่ฉันถามใคร ใครๆก็บอกว่าแอมกลับไปแล้ว
ฉันจึงถอดใจคิดว่าค่อยคุยก็ได้ จึงตัดสินใจจะข้ามถนนกลับบ้าน ขณะที่ฉันกำลังก้าวขาข้ามถนนนั้น
อยู่ดีๆก็มีเสียงของแอมดังขึ้นพร้อมกับเสียงกรี๊ดกร๊าดของเพื่อนร่วมโรงเรียน \" บี ! ระวัง \"
ฉันหันไปก็พบว่ามีรถบรรทุกขับออกมาจากซอยและพุ่งมาทางฉัน ทันทีที่เสียงของแอมสิ้นสุดลง
ร่างของฉันก็กระทบเข้ากับฟุตบาทเต็มแรง ฉันค่อยๆลืมตาขึ้น แทบไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เห็น
แอม เพื่อนที่ดีที่สุดของฉันกำลังนอนอยู่หน้ารถบรรทุกคันนั้นพร้อมทั้งมีเลือด
ท่วมตัวเต็มไปหมด ฉันรีบวิ่งเข้าไปกอดร่างนั้นอย่างรวดเร็ว น้ำตานองหน้าฉันไปหมด
ฉันฟูมฟายอย่างไม่อายใคร และแอมก็ได้ทำให้ฉันต้องร้องไห้หนักกว่าเดิมเมื่อแอมพูดออกมาว่า
\" บี เธอไม่เป็นไรใช่มั้ย \" แอมพูดด้วยน้ำเสียงขาดๆหายๆ ฉันรู้สึกตื้นตันมาก ทั้งๆที่แอมเจ็บหนักสาหัส
ขนาดนี้แต่ยังสนใจและห่วงใยฉันโดยที่ไม่ห่วงตัวเองเลย \" ใช่ ฉัน ฉัน ไม่เป็นไร เธอไม่ต้องพูดแล้วนะ
เดี๋ยวรถพยาบาลก็จะมาแล้วนะ ทำใจดีๆไว้นะ \" ฉันพูดอึกอัก เพราะเสียงสะอื้น แอมได้แต่ยิ้ม
และพยักหน้าให้ฉันและอยู่นิ่งๆตามที่ฉันบอก \" แอม ฉันรู้แล้วนะว่าเธอไม่ได้ขโมยของของฉัน
ฉันขอโทษนะ ฉันขอโทษ ขอโทษที่ไม่เชื่อใจเธอ ขอโทษ ขอโทษ \" ฉันพูดและร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง
\" พอเถอะบี ฉันไม่โกรธเธอหรอก ฉันเข้าใจ เธอคือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันนะ ฉันไม่โกรธเธอหรอก
อย่าร้องไห้เลยนะ \" เธอปลอบฉันอย่างอ่อนโยน \" ฉันรักเธอนะบี เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด
ที่ฉันเคยมีมาเลยรู้มั้ย ฉันหวังว่าเธอจะรักฉันตลอดไปนะ \" ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีกับประโยคนี้เท่าไหร่
แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนักเพราะฉันกำลังร้องไห้ฟูมฟายและควบคุมสติไม่ค่อยได้เท่าไหร่ 
\" ฉันก็รักเธอนะแอม เธอเองก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดที่ฉันเคยมีมาเหมือนกัน แล้วฉันก็จะรักเธอตลอดไปนะ
ฉันสัญญานะฉันสัญญา \" \" ขอบใจนะบี ฉันดีใจมากที่เธอพูดประโยคนี้ออกมา ฉันรักเธอนะ ”
พอจบประโยคนั้นมือแอมที่จับมือฉันอยู่ก็หลุดลงไป ฉันช็อกมาก
\" แอม แอม แอม ไม่นะ ไม่ ไม่ ม่ายยยยยย \" ฉันร้องเรียกพร้อมตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
นี่ฉันเสียเพื่อนที่ดีที่สุดไปเพราะความไม่เชื่อใจหรือนี่
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
หลังจากนั้นฉันก็ได้ย้ายไปเรียนเมืองนอก เพราะฉันทนอยู่ในที่ ที่ฉันเคยอยู่กับแอมไม่ได้
เพราะวันนี้ไม่มีแอมอยู่อีกแล้ว ทุกๆวันเกิด และครบรอบวันตายของแอม
ฉันจะบินกลับมาหาแอมที่หลุมศพเสมอ และฉันก็ยังคงรักแอมเหมือนเดิม และจะรักตลอดไป
เหมือนกับที่ฉันได้สัญญาไว้กับแอม
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
คำว่าเพื่อน    แม้นานเดือน    มิเลือนหาย
คำว่าเพื่อน    แม้สิ้นฟ้า        มิมลาย
คำว่าเพื่อน    แม้มิมีร่างกาย    ยังคงมั่น
คำว่าเพื่อน    ก็ยังคือ        เป็นเพื่อนกัน
แม้สินเดือนหรือชีวันก็ยั่งยืน
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น