ความทรงจำของเล่ย [F4นะ] - ความทรงจำของเล่ย [F4นะ] นิยาย ความทรงจำของเล่ย [F4นะ] : Dek-D.com - Writer

    ความทรงจำของเล่ย [F4นะ]

    เรื่องที่กล่าวถึงการสูญเสียน้ำตาครั้งแรกให้แก่ผู้หญิงคนหนึ่ง ของเล่ย น่ะ

    ผู้เข้าชมรวม

    702

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    702

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  27 ม.ค. 47 / 22:41 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    นิยายแฟร์ 2024
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ลองอ่านดูนะ  เป็นเรื่องเกี่ยวกับ F4 อ่า เพราะว่าเราชอบ F4 มากเลย  ยังงัยก็ขอติเตียนด้วยนะ  แล้วเดี๋ยวถ้าดี เราจะเอาเรื่องยาวที่แต่งไว้มาลงหใ้อ่านนะ  เพราะเราเอาไปลงอีกที่อยู่อ่า  ถ้าชอบกันเดี๋ยวเราเอามาลงหใ้นะ



          ณ  PuB VS

        ผับแห่งนี้ถือได้ว่าเป็น PuB ที่ดี หรู ไฮโซ แห่งหนึ่งในกรุงไทเป   ซึ่ง PuB แห่งนี้จะโต๊ะ อยู่โต๊ะหนึ่งซึ่งได้ถูกจองไว้ตลอดเวลาไว้สำหรับ ต้อนรับคุรชายที่มีอิทธิพลที่สัด (เกือบจะว่าได้) ในกรุงไทเป ซึ่งก็คือ F4 กลุ่ม F4 นั้นประกอบไปด้วย 1. เต้าหมิงซื่อ ลูกชายประธานบริษัทเต้าหมิงกรุ๊ป ซึ่งมีกิจการและโรงแรมที่มีสาขากระจายอยู่เกือบจะทั่วโลก    2.  ซีเหมิน นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงลูกชายประธานซีเหมินกรุ๊ป ดำรงตำแหน่งผู้จัดการของบริษัท เดินทางดูงานต่างประเทศบ่อยๆ   3. เหม่ยจั้ว  ลูกชายประธานบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งในไต้หวัน  และคนสุดท้าย 4.  ฮัวเจ๋อเล่ย  ลูกชายประธานบริษัท ฮัวเจ๋อกรุ๊ป ประกันภัย และได้เปิดขยายสาขาไปถึงประเทศญี่ปุ่น   และในวันนี้กลุ่มนี้ก็ได้มารวมตัวกันที่ PuB แห่งนี้เพื่อที่จะสังสรรค์ตามปกติ โดยมี ซานไช่  เสี่ยวโยว  และ  เสี่ยวเฉียว มาด้วย

      “นี่ซานไช่ เทไวน์ให้หน่อยสินะนะ” อาซื่ออ้อนซานไช่ที่รักของเขา และยื่นแก้วไวน์ที่ว่างเปล่าของเขาให้ซานไช่

      “เทเองสิ มีมือมีเท้าเหมือนกันนี่” ซานไช่ตอบอาซื่อ และไม่รับแก้วไวน์ที่อาซื่อยื่นมา

      “ทำไมเธอไม่บริการชั้นเหมือนกับที่เสี่ยวเฉียวบริการเหม่ยจั้วบ้างห๊ะ” อาซื่อน้อยใจพลางมองไปที่เสี่ยวเฉียวที่กำลังรินไวน์ลงในแก้วของเหม่ยจั้วทันทีที่ไวน์ในแก้วของเหม่ยจั้วหมด

      “ok นายอยากให้ชั้นทำให้เหมือนกับที่เสี่ยวเฉียวทำใช่มั๊ย?”  ซานไช่เริ่มหงุดหงิด แล้วจึงหยิบขวดไวน์จะมากรอกใส่ปากของอาซื่อ

      “โอ๊ย!! พอแล้วๆ ชั้นรินเองก็ได้” อาซื่อเริ่มยอมแพ้  แล้วหยิบขวดไวน์จากมือซานไช่รินลงในแก้วไวน์ของตน

      “5555  ซานไช่นี่ยังเจ๋งเหมือนเดิมทำให้อาซื่อจนมุมได้” เหม่ยจั้วหัวเราะชอบใจคู่นี้ แล้วหยิบแก้วไวน์ของตนขึ้นมาดื่มจนหมด  แล้วมีเสี่ยวเฉียวคอยบริการรินให้ตลอด  โดยมีสายตาของอาซื่อมองด้วยความน้อยใจ

      “นี่  ซีเหมินคะ อาเล่ยล่ะ  อาเล่ยไปไหน” เสียงใสๆถามที่รักของตนเมื่อมองไม่เห็นฮัวเจ๋อเล่ย

      “นั่นสิ อาเล่ยไปไหน ซานไช่เธอรู้ป่าว”  ซีเหมินตะโกนถามซานไช่อีกต่อ

      “อ๋อ!! อาเล่ยหรอ  อาเล่ยเค้าไปตามพี่จิ้งที่ฝรั่งเศสน่ะ” ซานไช่ตะโกนตอบซีเหมิน

      “เหม่ยจั้วคะ  พี่จิ้งเค้าคือใครหรือคะ” เสี่ยวเฉียวหันไปถามเหม่ยจั้วที่นั่งข้างๆ

      “อ๋อ ลูกสาวประธานบริษัทเถิงซื่อน่ะ ชื่อเต็มๆคือ เถิงถังจิ้ง งัย” เหม่ยจั้วตอบแฟนสาวด้วยเสียงอ่อนโยน

      “ใช่คนที่ไปเป็นทนายอาสา ให้คนยากจนที่ฝรั่งเศสใช่มั๊ยคะ” เสี่ยวเฉียวหันไปถามเหม่ยจั้วต่อ

      “นั่นแหล่ะ ที่รักฉลาดจัง” เหม่ยจั้วทำเสียงหวานตอบที่รัก พลางลูบหัวเสี่ยวเฉียวไป

      “เฮ้อ!! เมื่อไหร่นะ เล่ยจะง๊อ พี่จิ้งได้ซักทีนะ  ทั้งๆที่คู่ออกจะรักกัน” อาซื่อบ่นขึ้นมา

      “นั่นสิ ทั้งๆที่อาเล่ยเสียน้ำตาให้พี่จิ้ง ซึ่งเป็นผู้หญิงคนแรกที่อาเล่ยสียน้ำตาหใ” ซานไช่บ่นตาม และนึกถึงความหลังตอนที่อาเล่ย ร้องไห้แล้วบอกกับตนว่า “เวลาร้องไห้ให้ทำท่าหกสูงน้ำตาจะได้ไม่ไหลออกมา”

      “ฮึฮึ 55 เล่ยไม่ได้เสียน้ำตาให้พี่จิ้งคนแรกซักหน่อย ยัยบื้อ” อาซื่อแย้งซานไช่

      “จริงหรอ” ซานไช่ทำตาวาวอยากรู้อยากเห็น

      “จริงสิ” ซีเหมินยืนยัน

      “ตอนนั้นพวกเราอยู่ด้วยนะ” เหม่ยจั้วยืนยันแปะฝาอีกคน “มาเดี๋ยวชั้นจะเล่าให้ฟัง”

      “เดี๋ยวๆรอก่อน น้องขอน้ำส้มเพิ่มด้วย 1 แก้ว” ซานไช่เรียกบ๋อยเพราะเห็นว่ายาวแน่

      “ชั้นด้วย” เสี่ยวโยวและเสี่ยวเฉียวขอด้วยเหมือนๆกัน

      “อืม งั้นเอา น้ำส้มเป็น 3 แก้ว popcorn ด้วยนะ” ซานไช่สรุป โดยมีเหม่ยจั้วงอนๆอยู่ข้างๆเสี่ยวเฉียว

      “ครับๆ” บ๋อนรับ order จากซานไช่

      “เมื่อก่อนพวกเรากับพี่จิ้งนั้น เรียนอยู่ที่เดียวกันตลอดตั้งแต่อนุบาล ยันถึง สมัยมหาลัย แต่พี่จิ้งนั้นจบก่อนพวกเรา  ตอนนั้นเกิดขึ้นเมื่อตอนที่พวกเราเรียนอยู่ม.ปลาย.........” เหม่ยจั้วเล่า

      Flash  Back

      “นี่  นี่  เล่ยวาดรูปเหมือนชั้นให้หน่อยสินะนะนะ” จิ้งขอเล่ย พลางยื่นสมุดวาดภาพให้

      “อืมได้  เดี๋ยวนะ” อาเล่ยตอบ  รับสมุดวาดภาพจากมือจิ้ง

           ขณะวาดนั้นได้มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง  กำลังโดนเพื่อนๆ แกล้งอยู่

      “นี่!! โอ เอาขยะไปทิ้งหน่อยสิ” เด็กผู้หญิง 1 (ขี้เกียจคิดชื่ออ่ะ) สั่งเด็กคนนั้นให้เอาขยะไปทิ้งแต่เธอดันเทขยะใส่เด็กคนนั้น “ อ๊ายหลุดมือ โทดทีนะ อ๊ะ เสื้อชั้นเปื้อนเลย เป็นเพราะเธอคนเดียวเลย ดูซิ เสื้อที่ใช้ผ้าจากฝรั่งเศสดู้ดู เลอะหมดแล้ว” เด็กหญิง 1 โวยวาย

      “.........” เด็กคนนั้นก็ได้แต่ผงกหัวรับโดยไม่กล่าวอะไรทั้งสิ้น (นางเอ๊ก...นางเอกเน๊อะ)

      “นี่เล่ยคนนั้นเค้าคือใครหรอ  ทำไมถึงยอมโดนโขกสับล่ะ” จิ้งมองดูผู้หญิงคนนั้นอย่างเวทนาสงสาร

      “อ๋อ!! เค้าชื่อเสี่ยวเถา  เป็นลูกสาวท่านทูตของประเทศประเทศหนึ่ง” เล่ยเงยหน้าจากสมุดวาดเขียนแล้วตอบจิ้งด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แล้วก้มลงไปวาดต่อ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

      “เค้าโดนอย่างนี้บ่อยป่าว” จิ้งถามเล่ยต่อตาก็มองไปที่เสี่ยวเถาที่กำลังเก็บขยะที่หกเกลื่อนกลาดพื้อห้องเรียน

           เล่ยไม่ตอบจิ้ง แต่ใช้วิธีพยักหน้าเล็กน้อยตอบจิ้งแทนคำพูด  จิ้งได้ต่ส่ายหน้าไปมากับนิสัยของเล่ย

            เมื่อเสี่ยวเถาเก็บกวาดห้องเสร็จล้วกำลังจะเดินไปล้างมือ  แต่ไม่วายก็โดนนักเรียนชายแถวนั้นขัดขา “ โอ๊ะ โทดนะไม่รู้ว่าเธอเดินอยู่”  นักเรียนชาย 1 ตอบเธอพลางหัวเราะในลำคอด้วยความสะใจ

      “ไม่เป็นไร” เสี่ยวเถาตอบแล้วจะลุกขึ้นยืน แต่เธอก็ไม่สามารถที่จะยืนขึ้นได้  อาจิ้งเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งมาช่วยพยุงเสี่ยวเถาขึ้น  แล้วก้มลงไปดูที่เท้าของเธอ “ เอ๊ะ  ข้อเท้าเธอแพลงนี่”  จิ้งบอกเธอ  “นี่เล่ยมาช่วยพยุงเธอไปห้องพยาบาลเร็ว”

            เล่ยได้ยินดังนั้นจึงได้สายตาจากสมุดวาดภาพ แล้วเดินเข้าไปช่วยอาจิ้งที่กำลังพยายามพยุงเสี่ยวเถาขึ้น

      “แหม มีรุ่นพี่สุดสวยมาช่วยด้วย” นักเรียนชาย 2 ตะโกนไล่หลังเสี่ยวเถา

      ณ  ห้องพยาบาล


      “นี่เสี่ยวเถา ชั้นเถิงถังจิ้งนะ เรียกว่า จิ้งก็ได้”  จิ้งแนะนำตัวเมื่อพยาบาลเสี่ยวเถาเสร็จ

      “ค่ะ”  เสี่ยวเถาตอบจิ้ง

      “โอ๊ย!! นี่เธอพูดได้แต่คำว่า ค่ะหรอ”จิ้งเริ่มหงุดหงิดแล้วหันมาหาเล่ย “ ล่ยนายช่วยพูดอะไรหน่อยได้ไหม๊”

      “........” เล่ยหันมามองจิ้งแล้วจึงยิ้มที่มุมปากทีหนึ่ง แล้วหันไปมใบไม้ที่พลิ้วไหวนอกหน้าต่างต่อ

      “โอ๊ย!!  พวกเธอเป็นอะไรกันนี่”  จิ้งหงุดหงิดเต็มที่ “ ชั้นทนไม่ไหวแล้วนะ งั้นต่อจากนี้เล่ย นายมาคอยเป็นบอดี้การ์ดให้เสี่ยวเถาละกัน” จิ้งออกคำสั่ง

      “หา.....” เล่ยและเสี่ยวเถาอุทานออกมาพร้อมกัน

      “ตกลงไม่มีข้อโต้แย้ง”  จิ้งรีบสรุปทันที

      “ชั้นไม่ทำนะ” เล่ยตอบด้วยสีหน้าเรีบยเฉย

      “ใช่ ชั้นด้วยชั้นรักอิสระ” เสี่ยวเถาปฏิเสธจิ้ง

      “หรือว่าเธออยากโดนรังแกอีกเสี่ยวเถา” จอ้งหันมาให้เหตุผลกับเสี่ยวเถา เสี่ยวเถาส่ายหน้ากับเหตุผลของจิ้ง “ แล้วนายล่ะเล่ยนายอยากเห็นเพื่อนร่วมชั้นโดนรังแกหรอ” เล่ยมองเสี่ยวเถาที่ก้มหน้าก้มตา  แล้วจึงส่ายหน้าตอบอาจิ้ง “ เอาเป็นว่าตกลงตามนี้ละกัน” จิ้งสรุปอีกรอบ  คราวนี้ไม่มีใครแย้งจิ้งเลย “งั้นดีดี” แล้วอาจิ้งก็เดินจากไปพร้อมกับเสียงหัวเราะสบายใจ  โดยทิ้งให้ทั้งสองมองหน้ากันอย่างงงๆ

      “ชั้นฝากตัวด้วยนะ ฮัวเจ๋อเล่ย”  เสี่ยวเถาน้อมตัวลงฝากตัวกับเล่ยแล้วหันหลังวิ่งจากไปแต่ก็จากไปได้ไม่ทันไร ก็วิ่งไปชนประตูห้องพยาบาล ล้มไปนอนกับพื้น “โอ๊ย” เสี่ยวเถาร้องออกมาพลางจับหัวตัวเอง เล่ยเห็นดังนั้นจึงยิ้มแล้วเดินมาช่วยเสี่ยวเถา

      “ขะ...ขอบคุณนะ” เสี่ยวเถากล่าว ด้วยสีหน้าอายๆ

      “อืม” เล่ยรับคำ แล้วยิ้มที่มุมปาก

      ณ  ห้องเรียน

      “นี่เล่ยนายหายไปไหนมา ชั้นหานายทั่วโรงเรียนเลย” เหม่ยจั้วถามเล่ยแล้วหันไปหลีสาวๆ

      “ใช่นายหายไปไหนมา” อาซื่อที่กำลังเล่นบาสอยู่หันมาถาม (เล่นในห้องเรียนนะ)

      “อ๋อ พาเสี่ยวเถาไปห้องพยาบาลมาน่ะ”  เล่ยตอบทุกคน

      “ห๊ะ เสี่ยวเถาน่ะหรือ” ซีเหมินหันมาถามเล่ยด้วยสีหน้างงงวย

      “อืม” เล่ยตอบ พลางมองดูใบไม้ที่พลิ้วไหวตามลม


           วันเวลาผ่านไปเล่ยกับเสี่ยวเถาก็เริ่มสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ  จากเพื่อนเปลี่ยนเป็นความรัก ดดนเฉพาะความรู้สึกของเสี่ยวเถาที่มีต่อเล่ยนั้นได้มากกว่าคำว่าเพื่อนแล้ว  แต่...แต่เล่ยนั้นก็ยังคิดกับเสี่ยวเถาได้แค่เพื่อนเพราะ ในหัวใจของเขานั้นมีแต่จิ้ง ที่อยู่ในใจของเขาและเป็นคนเดียวตลอดไป  ไม่มีใครมาแทนที่เธอได้

      ****************วันหนึ่ง****************

      “เล่ย ช่วยอะไรชั้นหน่อยสิ ช่วยวาดรูปเหมือนชั้นหน่อยสินะ” เสี่ยวเถาขอร้องเล่ยที่กำลังคุยกับ F3

      “อืมได้สิ  แล้วสมุดวาดภาพเธอล่ะ” เล่ยหันมาถามเสี่ยวเถา

      “อ๋อ ไม่ใช่ที่นี่ แต่เป็นที่ ตึกเรียน 8 ชั้น 5 นะ ตอนบ่าย 3 ห้ามเลทนะ” เสี่ยวเถานัดเล่ย  แล้วเดินจากไป  แต่ก่อนจากไปเธอเอามือมาจุ๊ที่ปากว่าเป็นความลับ พร้อมด้วยรอยยิ้ม

      “เหม่ยจั้วตบบ่าเล่ยแล้วพูดกับเล่ยว่า “ ช่วงนี้เธอดูสดใส ร่าเริง แถมน่ารักขึ้นมากนะ” เหม่ยวจั้วยิ้มกริ่ม

      “555 บ้าน่า เหม่ยวจั้ว สวยกว่านั้นมีถมไป “ ซีเหมินหันมาปรามเหม่ยจั้ว

            เมื่อถึงเวลาที่เสี่ยวเถานัดเล่ยไว้  เล่ยก็ได้เดินไปที่นัดหมายพร้อมกับ F3 ทั้งหมดแหงนมองไปที่หน้าต่างชั้น 5 ตามเสียงเรียกร้อง ก็ได้พบ เสี่ยวเถาคอบอยู่แล้ว โบกมือให้ F4

      “เดี๋ยวพวกเราขึ้นไปหาเธอนะ” อาซื่อตะโกนขึ้นไป เสี่ยวเถายิ้มรับ

            กล่าวถึงเสี่ยวเถาเมื่อ F4 ลับตาไปแล้วได้หันหน้าไปมองได้พบกับ นักเรียนชายกลุ่มหนึ่งกำลังซื้อขายยากันอยู่  เธอพยายามที่จะหลบแต่ก็หลบไม่พ้น นักเรียนกลุ่มนั้นจึงได้จับตัวเสี่ยวเถามาแล้วถามว่า

      “เธอเป็นใคร  แล้วมาทำอะไรที่นี่” คนคนหนึ่งจากกลุ่มนั้นถามเสี่ยวเถา  แต่เสี่ยวเถาไม่ตอบ จึงทำให้หัวหน้ากลุ่มไม่พอใจ จึงชักปืนออกมายิงเสี่ยวเถาเข้าที่หน้าอก 2 นัด เสี่ยวเถาล้มลงทันที

            ซึ่งขณะนั้น F4 กำลังเดินิ ขึ้นบันไดมาหาเธอที่ชั้น 5 ทั้งหมดได้ยินเสียงปืน 2 นัด จึงรีบวิ่งขึ้นไปหาเสี่ยวเถา  แต่แล้ว  พวกเขาได้พบกับ....ร่างของเสี่ยวเถาที่นอนจมกองเลือดอยู่  และได้พบนักเรียนชายกลุ่มนั้นกำลังซื้อชายกันต่อ  เต้าหมิงซื่อ เหม่ยจั้ว  และซีเหมิน จึงวิ่งเข้าไปจัดการพวกนั้นก่อนที่พวกนั้นจะชักปืนได้ทัน  ส่วนเล่ยเดินเข้าไปหาเสี่ยวเถา แล้วโทรเรียกรถ พยาบาลกับ ตำรวจ

      “เสี่ยวเถา....เสี่ยวเถา”  เล่ยพยายามเรียกเสี่ยวเถา

      “เล่ย..ชั้นมีบางสิ่งที่อยากจะพูดกันเธอนะ คือว่า....ชั้น...ชั้นอยากจะแทนที่พี่จิ้งในใจเธอได้รึเปล่า.....เล่ย” เสี่ยวเถาถามเล่ยด้วยน้ำเสียงร่อแร่เจียนไม่รอด

      “ไม่...เธอก็คือเธอ  พี่จิ้งก็คือพี่จิ้งนะ คนละคนกัน” เล่ยตอบเสี่ยวเถาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

      “เล่ย....อาเล่ย ชั้นชอบเธอนะ”  เสี่ยวเถาพูดกับเล่ยประโยคสุดท้ายแล้วสิ้นใจ

      “เสี่ยวเถา!!!!” เล่ยตะโกนเรียกเสี่ยวเถา  โดยมี F3 ให้กำลังใจอยู่ข้างๆ

      “เล่ย ชั้นเห็นมันตกอยู่เสี่ยวเถาคงอยากจะมอบมันให้นายนะ  เพราะมี note แปะอยู่ว่าถึงนาย “ ซีเหมินยื่นสิ่งๆนั้นให้เล่ย  สิ่งๆนั้นก็คือ Diary ของเสี่ยวเถา

      เล่ยจึงรีบเปิด Diary เล่นนั้นมาอ่าน

            ถึงฮัวเจ๋อเล่ย

      ถึงชั้นจะทำตัวเปิ่น เอ๋อ แต่เธอก็คอยอยู่เคียงข้างชั้น  ทำให้ชั้นมีวันนี้ได้  เธอทำให้ชั้นรู้จักกับ ความรัก เสียงหัวเราะ ความสุข และสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เธอได้มอบให้ชั้นเป็นสิ่งที่ชั้นไม่เคยได้ตั้งแต่ เรียน อนุบาลจนถึงวันนี้ นั่นคือ “มิตรภาพระหว่างเพื่อน” Diary  เล่มนี้จึงเป็นสิ่งที่แสดงช่วงเวลาสั้นๆตั้งแต่ที่ชั้นรู้จักกับเธอ นะเล่ย  ชั้นอยากให้เธอเก็บไว้ เพราะมันเป็นสิ่งสิ่งเดียวที่ชั้นสามารถมอบให้เธอได้นะ  และขอบคุณ F3 ด้วยนะที่คอย เล่นกับชั้นเมื่อเวลาที่เธอไม่อยู่  ขอบคุณจริงๆนะ

                      ขอบคุณ   เสี่ยวเถา  (เล่ยชั้นรักเธอนะเล่ย)

            เมื่อเล่ยอ่านจบน้ำใสใสก็ค่อยๆไหลจากตา พลางพูดว่า “ ฮึฮึบ้าน่าเสี่ยวเถา ขอบคุณนะ” แต่เนื่องด้วยเล่ยเป็นผู้ชายจึงแอบร้องไห้เงียบๆไม่ให้พวก F3 รู้  แต่ก็ไม่สามารถจะพ้นจากสายตาของ F3 ไปได้

      Now

      “ไม่น่าเชื่อเลยนะ ว่าอาเล่ยจะมีอดีตที่น่าสงสารอย่างนี้ เสี่ยวเถานี่ก็น่าสงสารเหมือนกันเนอะ”  ซานไช่พูดออกมาพลางเหม่อคิดถึงเล่ย  ว่าเขาจะเป็นยังบ้าง

      “เธอไม่สงสารชั้ยบ้างเลยหรอ  ให้ชั้นรินไวน์เองน่ะ” อาซื่อย้อนกลับเข้าเรื่องเดิมเพราะยังงอนไม่หาย

      “ok งั้นชั้นรินให้้ก็ได้แต่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ”  ซานไช่พูดพร้อมกับยกขวดไวน์ รินใส่แก้วอาซื่อ

      “เย้  ดีใจจังเลย”  อาซื่อดีใจพลางกระโดโลดเต้น เหมือนเด็กๆ แล้วดึงซานไช่มากอด แกล้วหอมแก้ม

      “อายเค้า น่าตาบ๊อง”  ซานไช่หน้าแดงตีแขนอาซื่อ

      “5555”  ทุกคนหัวเราะให้กับคู่นี้  ที่ทะเลาะกันน่ารักๆไม่เคยเปลี่ยนแปลง



      ***แล้วคุณล่ะ  เคยร้องไห้เพื่อคนที่คุณรักหรือไม่.........?***

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×