เรื่องนี้คือเรื่องที่ฉันส่งมาเล่าให้คุณฟัง นี้เป็นเรื่องสยองขวัญที่สุดเท่าที่เกิดขึ้นกับเพื่อนฉัน
    สมัยก่อนย้อนไปเมื่อฉันอายุ18(ตอนนี้20 ผ่านไป2ปีกว่าแล้ว) เพื่อนมักเรียกชื่อเล่นว่าตุ้ยนุ้ย ฉันว่าฉันไม่อ้วนนะ แค่อวบนิดๆ
    ตอนนั้นเรียนอยู่มัธยม6 ห้องของม.6จะย้ายไปอยู่อีกตึกนึงซึ่งนับว่าเป็นตึกที่เก่าแล้ว สร้างเป็นแบบแฟชั่นสมัยก่อนละกัน ประตูก็ไม้ๆ ดูผุๆผังๆ ทำให้ดูขลังดีนะ
    ตึกนี้นับว่าเป็นตึกที่สบายที่สุดแล้ว ถึงไม่มีแอร์แต่พวกเราอยู่กันได้ ห้องของม.6/1 หรือห้องวิทย์-คณิตจะอยู่ริมสุดของฝั่งซ้ายตึก ทำให้เห็นวิวได้ ตึกนี้มี2ชั้น ชั้นบนจะเป็นห้องเรียนของม.6 ส่วนข้างล่างจะเป็นห้องอาหารครูและห้องนั่งเล่น(หรือลานนั่งเล่นนั้นแหละ) มีห้องของน้องม.5อีก2ห้อง(ส่วนที่เหลือจะอยู่อีกตึกหนึ่งซึ่งไม่ไกลจากตึกนี้) ข้างหลังจะมีลานสนามเด็กเล่น พวกเด็กประถมชอบมาวิ่งกันแถวนี้ ทำให้พวกเราต้องชะโงกหน้าลงไปดุหลายครั้งเวลาอ่านหนังสือสอบ(ใกล้เอ็นท์)
    ตอนนั้นเป็นวันที่ฉันกับเพื่อนสนิทอีกคน(ชื่อต่าย) ต้องมานั่งสอบแก้ตัวทั้งคู่เพราะไม่ผ่าน อาจารย์จึงเรียกให้นั่งอยู่รอสอบตอนเย็น เพื่อนคนอื่นๆจึงกลับไปเกือบหมดแล้ว ที่ยังไม่กลับก็นั่งรออยู่ข้างล่างที่เป็นลานนั่งเล่นที่ว่างน่ะ
    เมื่อเราทั้งคู่นั่งรออาจารย์ที่กำลังหาข้อสอบจากห้องมาให้ ฉันก็ชวนต่ายคุย
“ต่ายๆ แกว่ามั้ย ตึกนี้ดูเก่าเวอร์ๆ เมื่อไหร่อาจารย์เค้าจะสร้างตึกใหม่ให้เสร็จซะทีนะ”
“ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกันหว่ะ ชั้นไม่อยากเรียนตึกเก่าๆน่าเบื่อนี้หรอก”
“เฮ้ย เมื่อไหร่อาจารย์จะมาว๊า เซ็งจะตาย ไม่น่ามาสอบแก้ตัวเล๊ย”
“พูดมากน่ะตุ้ยนุ้ย ทั้งเธอทั้งชั้นก็ไม่ได้อ่านหนังสือนิหว่า จะเอาอะไรมาคิด”
    จากนั้นเราสองคนก็เงียบไป เรา
“ต่าย
แกว่าโลกนี้มีผีมะ? ”
“
” ต่ายเงียบและทำท่าอึ้งนิดๆ
“ชั้นว่าไม่มีหรอก เพราะยังไม่เคยเห็นกับตาเล๊ย”
    เมื่อครูเข้ามา เราทั้งคู่จึงหยุดคุย และนั่งทำข้อสอบต่อ ฉันสามารถทำข้อสอบได้สบายเพราะอ่านมาแล้ว แต่ต่ายต้องทำอีกรอบ ฉันจึงขอต่ายกลับบ้านก่อน ต่ายก็ไม่ได้ว่าอะไร
    ตอนนั้นเป็นเวลาเกือบ5โมงเย็นแล้ว ไม่มีนักเรียนหรือครูอยู่(เพราะครูที่มาสอบเราเค้าก็กลับไปแล้ว แปลกดี) ที่เหลืออยู่ก็มีต่ายที่อยู่บนตึกนั้นเท่านั้น ฉันก็รีบๆกลับบ้านเพราะมีงานตั้งเยอะ
    วันรุ่งขึ้นฉันมาโรงเรียน ฉันก็ไปนั่งคุยกับเจ้าต่ายเหมือนเดิม แต่ทำไมวันนี้มันดูหน้าซีดๆพิลึก
“เมื่อวานทำได้มั้งป่ะต่าย?”
“ตุ้ย ชั้นมีเรื่องจะบอกแก ตามมานี้ซิ”
    ต่ายลากฉันออกมา ลงมาจากตึกนั้นมาที่สนามเด็กเล่น  เท่าที่ฟังจากต่ายเล่นตรงนั้น ต่ายบอกว่า หลังจากที่ฉันกลับไปแล้ว เขาก็ทำข้อสอบเสร็จ ก่ะว่าจะส่งให้อาจารย์พรุ่งนี้เลยเก็บไว้ที่ใต้โต๊ะ ตอนนั้นเวลาเกือบจะ6โมงแล้วด้วยซ้ำ เมื่อเดินลงมาจากตึก ได้ยินเสียงคนเดินตามลงมา แต่ไม่ได้คิดอะไร เลยทำเป็นหูฝาด เมื่อลงมาถึงสนามเด็กเล่น(กำลังจะถึงประตูทางออกโรงเรียนพอดี) ต่ายเสียวสันหลังวาบ เมื่อต่ายหันไปมองที่สนามเด็กเล่นพบเด็กผู้หญิงคนหนึ่งนั่งเล่นชิงช้า หันหน้ามาทางต่ายแล้วชี้มือมา ที่สำคัญ เด็กไม่มีหัว หัวกลับมาอยู่ที่ตักเด็กคนนั้นยิ้มแล้วเค้าพูดว่า
“มึ ง อย่ามาลบหลู่กรู กรูมาให้มึ งเห็นแล้วไง”
    ต่ายแทบจะบ้าตายเมื่อเห็น รีบยกมือไหว้พงกๆ วิ่งกลับบ้านด้วยความเร็วจี๋ เมื่อฉันรู้เรื่องแทบจะบ้าตายตามกัน ฉันไปถามพี่ภารโรง เข้าบอกว่า
“อ๋อ เด็กคนนั้นเค้าแค่ออกมาให้เห็น เค้าไม่ทำอะไรหรอก เค้าคงโกรธนิดๆละมั้ง ที่ต่ายไปลบหลู่ เค้าเป็นเด็กลูกช่างก่อสร้างน่ะ วิ่งเล่นบนตึกแล้วหัวดิ่งลงมาคนหัก ตายมาเกือบ10ปีแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ไม่ไปผุดไปเกิดซะที ทั้งที่โรงเรียนก็ทำบุญกันทุกปี”
    นี้คือเรื่องที่เกิดขึ้นกับเพื่อนของฉัน นี้แหละที่เค้าเรียกว่า
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
                                                                                                                                                                                                            ตุ้ยนุ้ย
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น