ณ มุมหนึ่งของห้องนอนบวกกับความคิดถึงพ่ออย่างสุดหัวใจ
แด่
พ่อจ๋า
    ฉันเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งบนโลกใบนี้ซึ่งเกิดขึ้นมาจากผู้ชายคนหนึ่งที่ฉันเรียกเขาว่า \"พ่อ\" และเขาเรียกฉันว่า \"ลูก\"  ทุกคนมีพ่อคอยดูแล คอยเป็นแสงสว่างให้กับชีวิต คอยสอนให้ก้าวเดินไปข้างหน้า คอยเล่านิทานให้ฟังก่อนนอนและอีกหลายๆอย่างที่พ่อคอยเป็น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่พ่อมีให้กับลูกคงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก
\"ความรัก\" ใช่แล้วความรักเป็นสายใยที่คอยดึงหัวใจให้ใกล้กัน แม้บางทีตัวจะไม่ได้อยู่ใกล้กันก็ตาม พ่อจ๋า
ถึงแม้วันนี้พ่อจะไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้แต่พ่อจะยืนอยู่ในใจของลูกตลอดไป
    พ่อจ๋า
พ่อเป็นอย่างไรบ้างคะ สบายดีรึเปล่า พ่อทำงานหนักไหมคะ มีใครคอยหาน้ำให้พ่อดื่มรึเปล่า  และอีกหลายคำถามที่ยังค้างคาอยู่ภายในใจของลูก ลูกอยากพ่อจังเลยค่ะ แต่ลูกรู้ตัวดีว่าลูกคงไม่มีโอกาส
ลูกเข้าใจดีค่ะว่าลูกกับพ่อตอนนี้ห่างไกลกันเหลือเกิน ไกลเกินไขว่คว้า ไกลเกินที่จะตามหาซึ่งกันและกันให้พบ ยากทีเดียว แต่ลูกว่านะคะมันคงไม่ไกลเกินใจของเราที่จะใกล้ชิดกัน พ่อว่าอย่างนั้นไหมคะ ลูกอยากให้พ่อได้อ่านทุกตัวหนังสือที่ลูกเขียนจังเลยค่ะ แต่ก็คงไม่มีวิธีใด ลูกก็ต้องคอยแต่ลุ้นว่าเทวดาไปรษณีย์คงจะส่งงานเขียนชิ้นนี้ของลูกให้ถึงมือพ่อไวๆนะคะ เพราะลูกรู้ดีว่าพวกเขาเหล่านั้นใจดีใช่ไหมคะ
    นับจากวันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม 2531 จนถึงวันนี้เป็นเวลา 14 ปีแล้วที่ลูกของพ่อเติบโตจนกลายเป็นเด็กผู้หญิงที่ไม่น่ารักในสายตาของคนอื่น แต่ลูกว่าลูกก็ต้องน่ารักในสายตาของคุณพ่ออยู่แล้วใช่ไหมคะ หลายครั้งที่ลูกแอบอิจฉาทุกคนอยู่ลึกๆภายในใจที่ทุกคนคอยมีพ่อเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในยามที่ต้องการ เวลามีปัญหาเดือดเนื้อร้อนใจ พ่อจะคอยช่วยแก้ไขปัญหา ให้คำปรึกษา คำแนะนำที่ดีที่สุดสำหรับลูกที่พ่อรัก เวลาเจ็บไข้ได้ป่วย พ่อก็จะคอยดูแลไม่ห่าง คอยหาหยูกหายาให้รับประทาน เวลาที่จะไปโรงเรียนพ่อก็ยังเป็นคนขับรถที่ปลอดภัยที่สุดอีกด้วย แต่ลูกเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งบนโลกใบกว้างใหญ่ใบนี้ที่ไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับสิ่งเหล่านั้นที่พ่อได้กระทำ ลูกไม่เคยได้สัมผัสอุ่นไอรักจากพ่อ แม้กระทั่งใบหน้าของพ่อลูกก็ยังไม่เคยเห็น ช่างน่าอาภัพจริงๆหลายคนอาจคิดอย่างนั้น แต่ลูกของพ่อไม่คิดอย่างนั้นอีกต่อไปแล้วค่ะ ลูกยอมรับนะคะว่าเมื่อก่อนลูกเคยมีความคิดแบบนี้อยู่ในหัวสมอง ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปลูกก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆทั้งจิตใจ ร่างกาย และรวมไปถึงความคิดความอ่านของลูกด้วย การพบปะผู้คนในสังคมของลูกก็มากขึ้นและการที่ลูกได้พบปะผู้คนในสังคมนั้น ลูกได้รู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่งค่ะคุณพ่อ เธอเข้ามาเปลี่ยนความคิดของลูกค่ะ เธอสอนให้ลูกเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส เธอสอนลูกว่า การที่เรากับพ่อไม่ได้อยู่ด้วยกันไม่ได้มีแต่ข้อเสียเสมอไป เราต้องนึกทบทวนหาข้อดีของการที่เราไม่ได้อยู่กับพ่อ และวันนี้ลูกได้ค้นพบมันแล้วค่ะ การที่พ่อไม่ได้ยืนอยู่ตอนนี้กับลูก มันทำให้ลูกเข้มแข็ง รู้จักใช้ชีวิต รู้จักดูแลตัวเองมากขึ้น พ่อเปรียบเสมือนแม่แรงที่คอยผลักดันให้ลูกก้าวเดินต่อไปสู่จุดหมายปลายทางที่ลูกวาดฝันเอาไว้ ถึงแม้ไม่มีพ่อลูกก็รู้ได้เสมอนะคะว่า พ่อคอยมองดูลูกอยู่ไกลๆ คอยส่งทั้งแรงกาย แรงใจ ให้ลูกตลอดเวลาใช่ไหมคะ
    แม่สอนลูกเสมอๆนะคะว่า พ่อเป็นบุพการีของลูก ไม่ว่าพ่อจะเป็นอะไรก็ตามเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นโรค จนแม้กระทั่งเป็นโจร เป็นขโมย ลูกก็ไม่ควรรังเกียจพ่อ ถึงแม้ว่าแม่จะไม่ได้รักพ่อแล้วก็ตาม แต่นั่นไม่ได้หมายถึงจะให้ลูกหมดรักพ่อไปเช่นกัน ลูกยังคงต้องเคารพ รักได้ทั้งพ่อและแม่ \"ไม่เป็นไรค่ะลูกจะไม่มีพ่ออยู่เคียงข้าง แต่พ่อจะอยู่ในใจของลูกตลอดไป ลูกรักพ่อมากนะคะ\" พ่อจ๋า
พ่อได้ยินที่ลูกพูดไหมคะ ลูกตะโกนสุดเสียงแล้วนะคะ ลูกก็ได้แต่หวังนะคะว่าพ่อคงจะได้ยินที่ลูกพูด แต่ก็คงแค่จะ
    คนที่ไม่เคยเป็นแบบลูกพวกเขาเหล่านั้นจะไม่เคยได้สัมผัสความรู้สึกอันยากที่จะอธิบายออกมาเป็นตัวหนังสือได้ พวกเขาเหล่านั้นจะไม่มีวันได้รู้แน่ๆค่ะพ่อว่า ลูกรู้สึกอย่างไร ไม่มีวัน
ไม่มีวันเด็ดขาด ลูกอยากบอกกับพวกเขาเหล่านั้นจังเลยค่ะพ่อว่า \"รักพ่อให้มากๆนะ ก่อนที่พ่อจะไม่อยู่ให้เรารัก\"
    เฮ้อ
พ่อคะลูกอยากเขียนอีกต่อไปนะคะ แต่ลูกก็คงทำไม่ได้แล้วล่ะคะ  ถึงเวลาที่ลูกต้องไปทำการบ้านแล้วล่ะคะ ยังไงก็แล้วแต่ถ้าพ่อได้อ่านก็ขอให้พ่อตอบลูกด้วยนะคะ ลูกจะรอเสมอค่ะจนกว่าจะสิ้นลมหายใจ ดูแลตัวเองดีๆนะคะ
                                                                    รักพ่อเสมอ
                                              ลูก
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย