ฉันชื่อเอลซ่า สการ์โน ลูกครึ่งไทย ออสเตรเลีย อายุ 17 ปี ตาสีฟาง ผมยาวสีน้ำตาล
ฉันฝันว่าโตขึ้นจะเป็นจิตแพทย์ แต่ตอนนี้ฉันก็เก่งแล้วนะ ฉันเชี่ยวชาญเรื่องความรักเป็นพิเศษ เพราะอยู่แต่กับบรรดาคู่รัก  แต่ฉันก็ไม่เคยได้มีความรักกับเขากันสักที เฮ้อ!
จากการทำงานหาคู่ รวมถึงทำความแตกแยก มันทำให้ฉันสรุปออกมาได้ว่า
1. ผู้ชายที่รูปร่างและนิสัยแมนเกินไป มักจะเป็นเกย์!?!
2. ถ้าผู้ชายรักชอบใครแล้วจะแสดงออก 2 แบบ ถ้าไม่ดูและ เป็นห่วงอยู่ห่างๆ ประมาณว่าขอแค่ได้รักเธอก็พอ ก็จะตรงรี่เข้าไปจีบแสดงความเป็นเจ้าของจนออกนอกหน้า
3. ถ้าผู้ชายไม่พูดด้วย ไม่สบตา ไม่ได้แปลว่าเขาเกลียด แต่เขาชอบเราแล้วต่างหาก
4. ถ้าเขาไม่ชอบใครจะแสดงออกชัดเจนมากว่า ฉันเบื่อเธอแล้วนะ
บอกมาแค่นี้คุณก็คงรู้แล้วนะว่าฉันเก่งแค่ไหน ฉันน่ะทำให้คนรักกันมานักต่อนักแล้ว คู่แรกเอิร์ธกับเลมอน ที่ฉันช่วยประสานและให้พวกเขาสานต่อความรักกันเอง ตั้งแต่นั้นเพื่อนๆก็พร้อมใจกันเรียกฉันว่า “เสือสาว” แล้วก็แนะให้ฉันเปิดบริษัท “หาคู่” ฉันจึงทำงานนี้ด้วยตัวคนเองมาเป็นถึงเวลา 3 ปี และมีรายได้ถล่มถลาย อย่าเพิ่งคิดว่าฉันขูดรีดพวกเขากันนะ ฉันเรียกแค่ 100 บาทต่อคู่แต่พอพวกเขาสมรักกัน กลับให้เงินฉันเป็นพันเลย คุณว่าแปลกไหมล่ะ?
และเพราะไอ้บริษัทนี้แหละทำให้ฉันได้พบเจอกับเขา “แพทริค”
วันนั้นฉันพาโกลเด้น สุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวผู้ของฉันไปหาหมอ เพราะครบกำหนดที่มันต้องไปฉีดยา โถ! โถ! โกลเด้นลูกแม่ น่าสงสารจริงๆ มันเอาแต่คราง แล้วก็ดิ้นไม่หยุด หมอเลยต้องเรียกผู้ช่วยเข้ามา
“แพทริค เข้ามาช่วยกันจับสุนัขหน่อยสิ” หมอเรียก แล้วเขาก็เดินเข้ามา เขาเป็นคนตัวสูงผิวแทน ผมดำ หน้าตาคมเข้ม ถ้าเกิดฉันไม่มัวแต่เป็นห่วงเจ้าโกลดี้ ฉันคงตะลึงในความหล่อของเขาเป็นแน่ หลังจากโกลเด้นของฉันโดนฉีดยาเรียบร้อยแล้ว หมอก็ปล่อยให้มันวิ่งมาหาฉัน แล้วไปดูสัตว์ตัวอื่น
“นี่คุณ” เขาเรียก แต่ฉันมัวแต่กอดมันอยู่
“คุณครับ” ฉันกำลังปลอบมันอยู่ และดูเหมือนเขาจะยังไม่หมดความพยายาม “นี่คุณ กลับบ้านแล้วอย่าเพิ่งให้มันกินอะไรล่ะ หลังจากนั้น 3 ชม. ค่อยปล่อยให้มันกิน” เขาบอก แต่ฉันก็ยังไม่ได้ใส่ใจกับเขาอยู่ดี จนในที่สุดเขาก็เดินหนีไป
วันรุ่งขึ้น พอฉันไปร.ร. เอจิ เพื่อนคนหนึ่งของฉันก็มาบอกกับฉันว่า
“เอลซ่า มีลูกค้ามารอเธออยู่แน่ะ” เอจิบอก ฉันแปลกใจมากเพราะปกติคนที่ต้องการใช้บริการมักจะเขียนจม. มาใส่ไว้ในล็อกเกอร์ ฉันจึงเดินเข้าไปดูแล้วก็พบกับเขา
“หวัดดี คุณดูหน้าตาคุ้นๆนะ” ฉันทักเขา
“ก็ต้องคุ้นอยู่แล้ว ก็ผมทำงานเป็นผู้ช่วยสัตวแพทย์ที่คลีนิค ที่คุณพาสุนัขไปรักษานี่นา” เขาบอก
“อ๋อ จำได้แล้ว” ฉันถามต่อ “แล้วคุณมีอะไรให้ฉันช่วยล่ะ อยากให้เธอมาสนใจ อยากหาแฟน หรือจะให้ช่วยประสานรอยร้าว”
“ผมอยากหาแฟน” เขาพูดตรงประเด็น “สเป็กคือ สูง ขาว สวย รักสัตว์ ร่าเริง ถ้าได้ผมยาวสีน้ำตาลจะดีมาก” ฉันรีบจดตามที่เขาพูด
“แล้วตอนนี้คุณมีคนที่อยู่ในสายตารึยัง” ฉันถาม
“จะว่ามีก็มี จะว่าไม่มีก็ไม่มี” ฉันงง
“นายหมายความว่าไง”
“ก็อย่างที่พูด” เขากวน
(โว้ย นายนี่มันกวนประสาทจริงๆ) “อืม ฉันจะหาคนคนนั้นให้ละกัน นายกลับไปได้ละ”
“นี่ ฉันยังไม่รู้ชื่อเธอเลย” เขาพูด “ฉันชื่อ แพทริค สมิธ”
“ฉันเอลซ่า สการ์โน ยินดีที่ได้รู้จัก” แล้วเราก็จับมือกัน
ตอนกลางวัน
“นี่ แพทริค ฉันมีคนอยากแนะนำให้รู้จัก” เขาเดินมาหาฉันซึ่งยืนอยู่กับเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง “แพทริคนี่มาเรีย มาเรียนี่แพทริค”
“หวัดดี”
“สวัสดีค่ะ”
“เอลซ่า นี่มันอะไรกัน” เขากระซิบถามฉัน
“ก็คู่ของนายไง ฉันอุตส่าห์หามาให้นะ”
“เอ่อ มาเรีย ขอโทษจริงๆนะ แต่วันนี้ผมไม่ว่างจะคุย คุณกลับไปก่อนนะ แล้วเจอกันวันหลัง” เขากล่าวแล้วกึ่งจูงกึ่งลากฉันไปหลังโรงเรียน
“นี่เธอพามาเรียมาหาฉันทำไม” เขาถาม
“ก็เขาคือคนที่ตรงสเป็กนายไง สูง ผิวขาว สวย รักสัตว์ แถมยังมีผมสีน้ำตาลอีก” ฉันตอบ
“นี่เธอไม่รู้อะไรเลยรึไง ยายนั่นพยายามจะจับฉันอยู่หลายเดือนแล้ว” เขาบอกหน้าเสียๆ
“อ้าว ก็น่าจะดีแล้วไม่ใช่รึไง เขาก็ตรงสเป็กนายทุกอย่าง” ฉันถามงงๆ
“ก็ใช่แต่ฉันก็ยังไม่ชอบอยู่ดี”
“เฮ้อ” ฉันถอนหายใจ “นายนี่มันเรื่องมากจริงๆ” ฉันบ่นพึมพำ
“นี่ ถ้าเธอรำคาญขนาดนั้น ไม่ต้องมายุ่งกับฉันก็ได้ หรือถ้าเธอต้องการ ฉันยอมเป็นแฟนกับมาเรียก็ได้” เขาตวาดอย่างโมโห
“นี่ นายอย่าประชดฉันได้ไหม คนอย่างฉันทำอะไรคิดถึงจิตใจลูกค้าเป็นหลัก ถ้านายไม่ชอบคนนี้ฉันหาคนใหม่ให้ก็ได้ ไม่ต้องมาตวาดกันหรอก” ฉันตะโกนกลับ
“งั้นก็ไปหามาซี อย่ามัวแต่บ่น” เขาบอก
“เออ ฉันหาแน่ไม่ต้องห่วงหรอก” ฉันพูด “แต่นายรู้ไหมสเป็กที่นายให้มาน่ะ มันมีแค่ 3-4 คนในโรงเรียน ฉันคงต้องไปหาจากนอกโรงเรียน คงไม่รังเกียจนะ”
“รังเกียจสิ ฉันต้องการคนที่อยู่ในร.ร.นี้” เขาบอก
“ฉันถึงบอกว่านายมันเรื่องมากไงเล่า”
“ก็มันไม่เห็นจะหายากตรงไหนเลยนี่”
“พูดแบบนี้ นายก็หาเอาเองซี ไม่ต้องมาพึ่งฉัน” เราสองคนเงียบกันไปสักพัก
“เอาอย่างงี้ ฉันมีข้อเสนอใหม่ ถ้าเธอหาแฟนให้ฉันได้ฉันจะยอมเป็นทาสเธอ 1 วัน แต่ถ้าไม่ได้ เธอต้องยอมทำตามความต้องการของฉัน 3 อย่าง ตกลงไหม”
“ได้อยู่แล้ว” ฉันตกปากรับคำ ทำไงดี พูดไปไม่รู้จักคิด ถ้าพลาดแล้วโดนให้ทำอะไรแปลกๆก็แย่สิ
วันนั้นฉันรีบรวบรวมรายชื่อคนที่มีลักษณะตรงกับสเป็กของเขา แล้วก็โทรไปติดต่อ จนได้ผู้หญิงมาคนนึง เธอชื่อ บี ฉันนัดเธอให้มาพบหลังโรงเรียน แล้วก็ดีใจมากที่มีลักษณะตรงกับที่ต้องการทุกอย่าง เธอเป็นคนที่ไม่สูงนัก แต่ขาวสวย รักแมว แล้วก็มีผมซอยสั้นสีน้ำตาล เว้นแต่เพียง เธอเป็นคนที่มีนิสัยแย่เอามากๆ (ทำไงดีล่ะเนี่ย)
วันรุ่งขึ้น
“เอ่อ แพทริค ฉันพาคู่ของนายมาให้ดู” เขาเดินออกมาตามเสียงเรียก
“แพทริคนี่บี บีนี่แพทริค” ฉันแนะนำทั้งสองให้รู้จักกัน
“คราวนี้ตรงสเป็กทุกอย่างแล้วนะ โอเคไหมล่ะ” ฉันกระซิบถาม
“ไม่” เขาตอบ เล่นเอาฉันงงไปเลย
“นี่นายหมายความว่าไง” ฉันเริ่มหงุดหงิด
“นี่เธอ เธอเป็นแฟนของบอยไม่ใช่หรอ” บีหน้าเสียเล็กน้อย แพทพูดต่อ “แล้วเธอก็แค่ชอบแมว ฉันได้ยินมาว่าเกลียดสุนัขด้วยนี่”
“นี่แพทคะ อย่าคิดมากสิ ฉันน่ะเลิกกับบอยตั้งนานแล้วนะ แล้วตอนนี้ใจฉันมันยังมีที่ว่างให้คุณอีกเยอะ” บีเริ่มออเซาะ ฉันทำหน้าขยะแขยงแล้วหันไปมองแพทริค เขาก็มองฉัน
“บี คุณมีผมดำไม่ใช่หรอ” แพทริคพูด
“เอ๊ะ!” บีตกใจ ฉันก็ตกใจ
“ผมข้างในของคุณมันไม่ได้เป็นสีน้ำตาลนี่ แล้วอีกอย่างคุณก็เป็นไทยแท้ ไม่มีทางที่จะมีผมน้ำตาลถ้าไม่ได้ย้อม”
“โอเค ฉันชอบแมว สัตว์อย่างอื่นฉันเกลียดหมด ผมฉันก็ไปโกรกมา แล้วไงล่ะ ฉันรักคุณนะ ถ้าไม่เชื่อฉันพิสูจน์ให้ดูก็ได้” เนื่องจากอยู่หลังร.ร. ที่ไม่ค่อยมีคน แล้วตอนนี้ยังมีแค่เรา 3 คน บีเดินเข้าไปหาแพทริคแล้วค่อยๆ ปลดเปลื้องเสื้อผ้าออก แพทตกใจ ฉันก็ตกใจ เขารีบคว้ามือฉัน แล้ววิ่งหนีกัน
“แพทริค เอลซ่า กลับมานี่นะ” เสียงบีร้องตะโกน
เมื่อวิ่งมาได้สักพักพวกเราก็นั่งพักกันที่ม้านั่งในสวนสาธารณะ เขาก็เริ่มต่อว่าฉันทันที
“นี่ คิดจะหาคู่ให้ฉันน่ะเอาคนดีๆกว่านี้หน่อยได้ไหม แล้วเธอไม่เคยรู้รึไงว่าผู้หญิงคนนี้เคยเข้าโรงแรมกับผู้ชายหลายคนแล้ว เรื่องเนี้ยพวกผู้ชายทั้งร.ร. รู้กันหมด” เขาว่าเป็นชุด
“ฉันจะไปรู้เหรอ เขาเป็นหนึ่งในลูกค้าของฉันนี่ คติของฉันคือ ไม่สนอดีตของลูกค้า แล้วฉันก็ไม่ใช่ผู้ชายด้วย ฉันจะไปรู้เหรอว่าเขาขายตัว” ฉันโต้กลับ
“เธอหาแฟนให้ฉันแต่ละคน มีแต่พวกแย่ๆทั้งนั้น เธอนี่ไม่ได้เรื่องจริงๆ”
(มากไปแล้วนะ เกิดมายังไม่มีใครมาว่าขนาดนี้เลย) “นี่ฉันบอกแล้วไง ว่าถ้าฉันไม่ได้เรื่องนายก็ไปหาเอาเองสิ” ฉันโมโหมาก น้ำตาเอ่อคลอเบ้า ฉันวิ่งหนีไปจากเขา วิ่งไปเรื่อยๆ จนไปชนกับคนคนหนึ่ง
“อ๊ะ! เอจิ” เขาดูแปลกใจมากที่เห็นฉันร้องไห้ เอจิพาฉันไปที่นั่งอยู่ริมทะเลสาบ เขาบอกให้ฉันเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ด้วยความที่เขเป็นเพื่อนฉันมาถึง 7 ปี ฉันจึงไม่ปิดบังอะไร ฉันเล่าให้เขาฟังทุกอย่าง พอเล่าจบก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก
“อืม แล้วสเป็กที่เขาบอกเธอมา คืออะไรล่ะ” เอจิถาม ฉันจึงยื่นสมุดโน้ตให้เขา
“สูง ผิวขาว สวย รักสัตว์ ร่าเริง แล้วก็ผมสีน้ำตาล เอลซ่า นี่ จนป่านนี้เธอยังไม่รู้ตัวอีกหรอ” เอจิพูดแล้วมองหน้าฉันแปลกๆ ฉันงงมาก ทำไมผู้ชายชอบทำให้งงนะ เห็นทีต้องเอามาวิเคราะห์ซะแล้ว
“อะไรของนายน่ะ ให้รู้ตัวอะไร” ฉันถามเขา
“ก็ทุกอย่างมันบ่งบอกถึงเธอทั้งนั้นเลยนี่นา”
“ฮะ บ้าน่าเอจิ อ๊ะ” ฉันคิดขึ้นได้ ฉันเป็นคนตัวสูง ผิวขาว ผมสีน้ำตาล เป็นคนร่าเริง แล้วฉันก็รักสัตว์ทุกชนิด เพื่อนๆก็รู้ดี แต่เขาชอบฉันจริงหรอ
“นี่เอจิ บีเขานิสัยไม่ดีหรอ” ฉันตัดสินใจถาม
“รายนั้นน่ะ ยอดแย่เลยล่ะ มีคนเห็นว่าไปเข้าโรงแรมกับผู้ชายตั้งหลายครั้ง ยายนี่ยังเคยยั่วฉันเลย”
“งั้นหรอ แล้วมาเรียล่ะ”
“ก็น่ารักดีนะ ได้ข่าวว่าชอบแพทริคนี่ แต่เขาก็เป็นคนที่ดีคนนึงนะ” เอจิบอก
“แต่แพทริคบอกว่า-” ฉันกำลังจะพูดก็โดนขัด
“ที่แพทริคบอกอาจเป็นเพราะเขาไม่อยากให้เธอจับคู่เขากับคนอื่นก็ได้ แต่ฉันรับรองนะเอลซ่า แพทริคน่ะชอบเธอแน่ๆ” เอจิพูดอย่างมั่นใจ
ฉันกับเอจิเดินจับมือคุยกันไปเรื่อยๆ ฉันสบายใจขึ้นมากจึงเดินหัวเราะไปตลอดทาง แล้วโชคชะตาก็เล่นตลก แพทริคมาเจอฉันเดินกับเอจิ ต้องบอกว่าโชคร้ายที่เขาเป็นคนประเภทแสดงความหึงออกนอกหน้า และยังทำตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ เขาเดินเข้ามา จากเหงื่อที่ผุดขึ้นบนใบหน้าคมเข้มแสดงให้เห็นว่า เขาคงวิ่งตามหาฉันมาแน่ๆ
“ฮึ เห็นวิ่งมานึกว่าเป็นอะไร ที่แท้ก็วิ่งมาหาผู้ชายนี่เอง” เขาพูด
“นี่คุณกรุณาให้เกียรติกันหน่อย ผมเป็นเพื่อนของเอลซ่านะครับ” เอจิบอก
“แล้วไง” เขาพูดแล้วคว้าข้อมือฉันลากไปทันที เขาเดินมาไกลมากและบีบแรงมากด้วยจนฉันเจ็บไปหมด เขาเดินโดยไม่สนใจฉันที่โวยวายมาตลอดทาง เขาพาฉันเข้ามายังที่แห่งหนึ่งซึ่งไม่ค่อยมีคน แล้วเหวี่ยงตัวฉันชนกำแพง แล้วเอามือยันกำแพงกันไม่ให้ฉันหนี
“ฮึ อุตส่าห์ตามหาแทบตาย แต่กลับไปอยู่กับผู้ชายคนอื่น” เขาพูดด้วยแววตาโกรธ
“นายพูดอะไรก็นายเองไม่ใช่รึไงที่ทำให้ฉันวิ่งหนี แล้วฉันกับเอจิก็ไม่ได้มีอะไรกัน”
“ไม่มีอะไรกันทำไมต้องจับมือด้วย”
“ก็ฉัน--อุ๊บ” เขากระชากฉันเข้าไปจูบ ฉันรู้สึกตกใจทำอะไรไม่ถูกจึงไม่ได้ขัดขวางแต่กลับปล่อยให้เขาทำตามใจชอบ พอรู้สึกตัว ฉันก็ผลักและตบหน้าเขาเต็มแรง “นาย นายมันบ้าที่สุด” ฉันร้องไห้แล้ววิ่งหนีไป (นายแพทริคบ้า นี่มันจูบแรกของฉันนะ)
วันรุ่งขึ้น แพทริคไปหาเอจิที่ห้องแล้วพวกเขาก็คุยกัน
“นายคือแพทริคใช่ไหม ฉันอยากอธิบายให้นายฟังว่า ฉันกับเอลซ่า เราไม่มีอะไรกัน เราเป็นแค่เพื่อนกัน แล้วฉันก็มีแฟนแล้วด้วย”
“นายไม่ได้เป็นอะไรกับเธอแน่เหรอ” แพทริคถามเพื่อความแน่ใจ
“แน่ซี นายเป็นแค่ลูกค้าเขาไม่ใช่หรอ ทำไมต้องหึงเค้าด้วย” เอจิถามยิ้มๆ
“คือว่า ฉัน” แพทริคเริ่มอึกอัก
“เอาเถอะ ยังไงฉันก็รู้แล้วว่านายชอบเธอ สเป็กที่นายให้มาตรงกับเธอหมดเลยนี่”
“ฉันให้สเป็กไว้ หวังว่าเขาจะเข้าใจว่าฉันหมายถึงเขา แต่เขากลับไม่รู้เรื่องซะนี่” แพทริคบ่น(ผู้หญิงอะไร ความรู้สึกช้าชะมัด)
“เอาเถอะ แต่ฉันว่าเอลซ่าก็ชอบนายเหมือนกันนะ ที่เขาไม่แสดงออกก็คงเพราะไม่เคยมีความรักเลยไม่รู้ตัว แล้วเขาก็รู้แล้วด้วยว่า นายชอบเขา”
“จริงหรือ แล้วฉันจะพบเขาได้ที่ไหน วันนี้เขาไม่มาเรียนนี่นา”
“ก็ไปที่สวนสาธารณะสิ เอลซ่าพาโกลเด้นมาวิ่งเล่นทุกวันแหละ” เอจิบอก
เย็นวันนั้น ฉันพาโกลเด้นออกมาวิ่งเล่น ฉันวิ่งทุกวันแหละ วิ่งจนได้เป็นแชมป์วิ่งเร็วของโรงเรียน วันนี้ฉันไม่ได้ไปโรงเรียน ฉันขออยู่บ้านทำใจสักวัน ฉันวิ่งไปเรื่อยๆ แล้วก็เจอกับคนที่ไม่อยากเจอ เขาจะมาที่นี่ทำไมนะ พอเขาเห็นฉันก็วิ่งเข้ามาหา แต่ฉันทำเป็นไม่ใส่ใจ
“เอลซ่า เรื่องเมื่อวานผมขอโทษนะ” เขาพูด แต่ฉันไม่สนใจยังวิ่งไปเรื่อยๆ เขาก็วิ่งตามไม่หยุด (เอาซี ตามได้ตามไป ดูซิใครจะเหนื่อยก่อนกัน) “เอลซ่า ข้อตกลงนั้นน่ะยกเลิกเถอะนะ” ฉันวิ่งต่อไปเรื่อยๆ เจ้าโกลเด้นเริ่มเหนื่อยแล้ว ฉันสงสารมันจึงหยุดวิ่ง แล้วเข้าไปในเซเว่น เพื่อซื้ออะไรให้มันกิน ฉันพามันไปนั่งตรงริมทะเลสาบ เขาก็เดินตามมา ฉันเทอาหารให้โกลเด้นกิน แล้วจึงดึงน้ำเย็นออกมาดื่มและล้างหน้า เขานั่งลงข้างๆฉัน ฉันก็หันไปดูแล ลูบหัวลูบหางเจ้าโกลเด้น
“เอลซ่า ผมรักคุณ” ฉันชะงักเล็กน้อย แต่ก็ทำเป็นไม่สนใจ
“ผมรักคุณจริงๆนะ” เขายังไม่หมดความพยายาม และเดินตามฉันมาเรื่อยๆ แล้วก็ดูเหมือนเขาจะหมดความอดทน เขากระชากแขนฉันอย่างแรง เพื่อให้ฉันมองหน้า “เอลซ่า ความอดทนของผมก็มีที่สิ้นสุดนะ ไอ้หมาตัวนั้นมันน่าดูกว่าผมตรงไหน ตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน คุณก็มัวแต่สนใจโกลเด้น ไม่สนใจผม จนวันนี้คุณก็ยังสนใจมันมากกว่าผม” เขาพูดอย่างมีโมโห ฉันตกใจมาก
“ถ้าได้ความรักจากคุณขนาดนี้ ผมยอมเป็นสุนัขดีกว่าเป็นคนอีก” ฉันตกใจมากที่เขาพูดแบบนี้ จึงเผลอหลุดปากไป
“คุณไม่เห็นต้องทำขนาดนั้นเลย”
“เอลซ่า ผมรักคุณจริงๆนะ รักตั้งแต่แรกพบ คุณล่ะรักผมรึเปล่า”
“ฉัน ฉันก็
ว้าย” เจ้าโกลเด้นกระโดดยืนสองขา เอาสองขาหน้าตะกุยฉัน ฉันนั่งลงแล้วปลอบมัน ด้วยการลูบหัว และกอด
“เอาอีกแล้ว คุณสนใจมันมากกว่าผมอีกแล้ว ผมไม่ยอมนะ” เขาทำท่าเหมือนเด็กๆ
“คุณจะบ้ารึไง หึงอะไรกับสุนัขตัวนึง” ฉันพูดขำๆ
“คุณก็บอกมาสิว่า คุณรักผมรึเปล่า” เขาต่อรอง
“ฉัน ฉันก็รักคุณ” ฉันกระซิบ
“ก็แค่เนี้ย รับรองผมจะไม่หึงคุณอีกเลยครับ ที่รักของผม” เขากระซิบตอบ แล้วดึงฉันมากอด ฉันก็กอดตอบ และรู้สึกถึงความรักที่แผ่ซ่านทั่วหัวใจ
( คุณคิดว่าตอนจบน่าจะจบโรแมนติกแบบนี้ใช่ไหมล่ะ ผิดถนัด เพราะเหตุการณ์ต่อมาคือ )
“โกลเด้น” ฉันผละจากแพททันทีที่มันโดดเข้ามาแทรกตรงกลาง เขี่ยแพทให้ออกไปห่างๆแล้วเข้ามาอ้อนฉัน
ดูเหมือนแพทจะโมโหเหมือนกันเลยจับกลางตัวโกลเด้นแล้วลากออกห่างก่อนจะจับมือฉัน เจ้าโกลเด้นก็ไม่ยอมแพ้มุดเข้ามาแทรกอีกจนได้  ฉันก็ไม่รู้จะทำไงเลยหัวเราะเสียยกใหญ่ 5555555
จนถึงตอนนี้ เราสองคนก็แทบจะไม่ได้สวีทกันเลย เพราะฉันอยู่ไหน โกลเด้นก็อยู่ที่นั่น เราเลยคุยกันเฉพาะอยู่ที่โรงเรียนเท่านั้น  ว้า! แย่จัง คู่นั้นเจอกันทีไรก็ทะเลาะกัน แกล้งกันเหมือนเด็กๆทุกที  เฮ้อ!
talk to talk
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคะ  เราได้ปรับปรุงเรื่องนิดหน่อย แต่โครงเรื่องส่วนใหญ่ยังคงเดิม
อ้อ  อย่าลืมติดตามเรื่องอื่นๆ ของเราด้วยนะคะ เรื่ององค์หญิง  รัชทายาทค่ะ
เป็นแนวผจญภัย กำลงภายใน แล้วก็มีหวานแหววนิดหน่อย
ส่วนผู้ที่ชอบคำคมและปรัชญาก็ติดตามได้ใน คำคม และปรัชญา ลงเรื่องแล้วค่า
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น