ชีวิตใหม่
บทประพันธ์ เคออซ
    ริมสวนข้างบ้าน
ฉันนั่งอยู่บนม้านั่งท่ามกลางแสงตะวันยามเช้าซึ่งสาดส่องแสงอันอบอุ่นสู่ผิวกายของฉัน ล้อมรอบด้วยเสียงนกและเสียงแมลง ฟังแล้วมีความสุขยิ่งนัก พลางคิดเรื่องราวเก่าๆ ที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับคนทุกคนโดยทั่วไป เรื่องราวของฉันหลายคนที่ฟังแล้วอาจจะคิดว่าฉันเป็นคนลวงโลก แต่อย่างไรก็ช่าง ใครจะเชื่อ หรือจะไม่เชื่ออย่างใดฉันก็ไม่สนใจหรอก  แต่ฉันเชื่ออย่างสนิทใจเลยว่าสิ่งเร้นลับที่เราค้นหามีจริง เพราะมันได้เกิดขึ้นกับฉันและลูก
    ฉันเคยเป็นนักโบราณคดี ศึกษาเกี่ยวกับอารยธรรมอียิปต์โบราณและสิ่งเร้นลับที่เรายังพิสูจน์ไม่ได้ เงินเดือนก็มากอยู่ เกือบสองแสนบาท เพราะทำให้กับ  องค์กรต่างประเทศ ฉันมีลูกชายคนหนึ่งชื่อว่า นนท์ ส่วนสามีของฉันเราแยกทางกันอยู่  อาจเป็นไปได้ว่าฉันเป็นผู้หญิงที่เก่งกว่าเขา และอีกอย่างไม่ค่อยมีเวลาให้กับครอบครัวมากนัก เพราะต้องเทียวไปเทียวกลับต่างประเทศอยู่บ่อยๆ  แต่ใครจะไปสน? แยกก็แยกกัน ฉันสามารถเลี้ยงดูตัวเองและลูกได้ด้วยมือคู่นี้ของฉัน
    ลูกของฉันเป็นคนใช้เงินฟุ่มเฟือย  เอาเงินไปวันละเป็นพันๆ ยังไม่รวมบัตรเครดิตที่ต้องจ่ายให้เดือนละหลายหมื่น เป็นคนหน้าใหญ่ใจโตเชียว ที่เอาเงินไปมากๆ ก็เอาไปเลี้ยงพวกเพื่อนกินทั้งหลายของเขา  แต่เขาก็ไม่เคยเสียการเรียน
เกรด 3 ขึ้นไปตลอด มารยาทก็อยู่ในเกณฑ์ที่สังคมยอมรับเป็นอย่างมาก แต่ที่เสียอยู่อย่างเดียวก็คือ เรื่องใช้เงิน ถึงอย่างไรก็ช่าง ฉันหาเงินก็เพื่อลูกของฉันให้เขาใช้ไปก่อน เขายังไม่รู้อะไร ถึงเวลาเขาก็จะรู้เองโดยอัตโนมัติว่าเงินหามายากลำบากเพียงใด แต่ว่ามันก็ให้ฉันอดที่จะพูดสั่งสอนลูกไม่ได้เป็นครั้งคราวในเรื่องเงิน และอีกอย่าง ฉันไม่เคยเห็นลูกของฉันมีเพื่อนสนิทเลยสักคนตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย
    วันหนึ่งเป็นวันเกิดของนนท์ เขาออกไปฉลองกับเหล่าเพื่อนที่พึ่งไม่ได้ของเขาเช่นเดิม  อันที่จริงแล้ววันเกิดของเขา เขาน่าจะมากราบฉัน พาฉันไปกินข้าวที่ร้านอาหารดีๆสักมื้อ คอยปรนนิบัติฉันเสียมากกว่า เพราะอุตส่าห์เกิดเขาออกมา
ในคืนนั้น
หลังจากสังสรรค์งานวันเกิด  นนท์ถือกล่องของขวัญมาใบหนึ่ง  เขาเอามาอวดฉัน แล้วบอกว่า
“ปีนี้นนท์ได้ของขวัญด้วยนะแม่ ไอ้โอมันดีจริงๆ ให้ของขวัญนนท์ด้วย”
“ใครกันลูก
โอน่ะ” ฉันถามด้วยความสงสัยกับชื่อที่ไม่คุ้นหู
“ก็เพื่อนสนิทผมไงแม่ แค่นี้ก็จำไม่ได้”
ฉันได้แต่งง ลูกฉันมีเพื่อนสนิทด้วยหรือ? ยังมาว่าฉันอีก แค่นี้ก็จำไม่ได้ ฉันจะไปจำได้ยังไง? ลูกไม่เคยบอกฉันนี่ แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอก เขาอาจจะนึกว่าบอกฉันไปแล้วก็ได้
“ไหนๆ แม่เอาของไปเก็บให้  โห! หนักจังเลยลูก แม่แกะดูได้มั๊ยคะ”
ฉันอาสาจะเอาของไปเก็บให้เพราะเห็นลูกท่าทางเพลียๆ แต่ก็ยังอยากจะแกะดูว่าปีนี้เขาได้อะไรหลังจากไม่ได้มา 2-3 ปี
“ไม่ต้องหรอกแม่ โอมันบอกว่าอย่าเพิ่งแกะ แกะได้เมื่อไหร่มันจะมาบอกเอง เอาไปไว้ที่ห้องนนท์เถอะแม่” นนท์บอกกับฉัน
ฉันไม่อยากขัดใจลูก ไม่แกะก็ไม่เป็นไร
“นนท์ไปอาบน้ำแล้วนะแม่  เออ
แม่ เกือบลืม โอมันจะย้ายไปอยู่อเมริกาพอมันเรียนจบ มันเลยให้ของขวัญอันนี้นนท์มา” นนท์บอกกับฉัน
“จ้าจ้า
.ไปอาบน้ำแล้วนอนเถอะลูก ดึกแล้ว เดี๋ยวแม่เอาไปเก็บให้”
ฉันสงสัยกับกล่องใบนั้นว่ามันมีอะไรอยู่กันแน่  ทำไมต้องรอเวลาเปิดด้วย?
!และในที่สุดฉันก็ทราบ
.
   
    ขณะนั้นฉันอยู่ที่อียิปต์ กำลังขุดซากอะไรบางอย่าง กลางผืนทรายอันแห้งแล้ง และแสงสุริยาอันร้อนแรงราวกับจะแผดเผาทุกสิ่งให้มอดไหม้ไปกับสายลมที่กรรโชกบนทะเลดินอันยิ่งใหญ่ เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น!  มันแสดงหมายเลขโทรศัพท์แปลกๆ ที่ฉันไม่เคยรู้จัก และก็คิดว่าคนอื่นคงไม่รู้จักเช่นกัน คือ หมายเลขซึ่งเป็นเลขศูนย์ทุกตำแหน่ง
“สวัสดีค่ะ ใครคะ” ในขณะนั้นฉันพูดเป็นภาษาอังกฤษ แต่มันก็ไม่มีเสียงตอบรับจากโทรศัพท์ ได้ยินแต่เสียงลมที่พัดเข้าหูอีกข้างหนึ่งของฉันเท่านั้น ฉันจึงวางสายโทรศัพท์ และสักครู่มันก็ดังขึ้นมาอีก! เป็นหมายเลขเดิมที่ฉันเพิ่งวางสาย ฉันรับสายอีกครั้ง และในครั้งนี้ ฉันยังไม่ทันที่จะถามหรือทักทายอะไร เสียงในโทรศัพท์ก็พูดกับฉันก่อน
“กลับบ้านซะ! ลูกกำลังรอ
..” และสายก็หลุดไป ฉันได้แต่พูดตะโกนใส่ในสายโทรศัพท์
“นั่นใคร? นั่นใคร?” อยู่เช่นนั้น จนเพื่อนร่วมงานของฉันชาวอเมริกัน ต้องเดินเข้ามาถามว่า
“เป็นอะไรหรือเปล่า?”
ตอนแรกฉันคิดว่าคงมีใครแกลังฉันเล่นแน่ๆ ฉันบอกกับเพื่อนๆร่วมงานเช่นนั้น  แต่แล้วมันก็ไม่ใช่ มีโทรศัพท์ดังขึ้นอีก เป็นหมายเลขคุ้นๆที่หายไปนาน ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก คนที่ทิ้งฉันไปให้ฉันอยู่กับลูกเพียงสองคน คนที่ไม่รับผิดชอบอะไร
..เขาคือ สามีของฉันเอง เขาโทรมาบอกฉันว่า นนท์ประสบอุบัติเหตุรถชน ให้รีบกลับไปดูลูก น้ำเสียงของเขาที่บอกกับฉันฟังไม่ค่อยดีนัก มันทำให้ฉันรู้ได้ทันทีว่ามีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับลูก ฉันรีบลางานและบินกลับกรุงเทพฯอย่างเร่งด่วน ระหว่างที่บินกลับก็ร้องไห้ไป ไหว้สวดมนต์ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยลูกไปเรื่อยๆ
    เมื่อถึงกรุงเทพฯก็ตรงดิ่งมาที่โรงพยาบาลทั้งสภาพโทรมๆพร้อมทั้งหน้าตาที่ดูไม่ได้เพราะร้องไห้มาตลอด สามีของฉันรออยู่หน้าโรงพยาบาลพาฉันเข้าไปหาลูก ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ ความรู้สึกระหว่างเดินไปห้องผู้ป่วยพิเศษนั้นรู้สึกเศร้าและหดหู่เป็นอย่างมาก ซึ่งฉันไม่เคยรู้สึกมาก่อน
    เมื่อเปิดประตูห้องผู้ป่วยที่ลูกของฉันพักอยู่เข้าไป มันก็ทำให้ฉันได้คลายความโศกเศร้าไปได้ในตอนแรกๆเท่านั้น เพราะดูเพียงผิวเผินมีเพียงแค่รอยฟกช้ำนิดหน่อยตามตัว ใบหน้าเขายังเป็นสีชมพูอยู่ แต่มันก็เป็นเพียงแค่ภายนอกที่ฉันเห็น คุณหมอเจ้าของไข้เข้ามาบอกกับฉันว่าให้ทำใจได้แล้ว เขาคงไม่พ้นคืนนี้เพราะเซลล์สมองได้ตายหมดแล้ว
    ได้ฟังแค่คำนั้นของแพทย์เจ้าของไข้  มันก็ทำให้ฉันหมดทุกสิ่งทุกอย่าง ฉันไม่มีอะไรเหลือแล้ว ฉันจะอยู่กับใคร? จะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่ออะไรกัน? ในเมื่อลูกจะจากฉันไปแล้ว ยิ่งคิดมากเท่าไหร่น้ำตามันก็ไหลมากขึ้นเท่านั้น  สามีก็คอยปลอบใจฉันอยู่ข้างๆอีกแรงหนึ่ง ให้ทำใจ ให้ทำใจ การทำใจมันอาจจะง่ายสำหรับเขา แต่ฉันไม่ใช่ มันยากสำหรับฉัน ฉันเลี้ยงเขามาโดยตลอดกว่า 15 ปี การที่สูญเสียคนที่รักสุดดวงใจ มันทำใจยาก
    แต่ทว่า เหมือนสวรรค์จะไม่เป็นใจ ชีพจรของนนท์หยุดเต้นไปต่อหน้าต่อตาของเราทั้งสามคน คุณหมอวิ่งเปิดประตูไปตามนางพยาบาลเข้ามาช่วยกันปั๊มหัวใจของนนท์เพื่อให้เขากลับมาอีกครั้ง  ส่วนตัวฉันชาหมดแรงไปทั้งตัว นั่งกองอยู่กับพื้นห้อง ทำอะไรไม่ถูก นอกจากยกมือขึ้นประนมไหว้พระ  คุณหมอกับพยาบาลก็ช่วยกันอย่างสุดความสามารถเป็นเวลานาน ก่อนที่จะแน่ใจว่านนท์ได้จากฉันไปแล้ว ฉันรวบรวมกำลังพยุงตัวขึ้นมาดูหน้าลูก พร้อมทั้งบอกกับทุกคนที่อยู่ในห้องให้ออกไปก่อน เพราะอยากอยู่กับลูกเพียงลำพัง สามีฉัน คุณหมอ และพยาบาลก็ไม่ได้ขัดใจทำตามที่ฉันขอร้อง  ฉันนั่งกอดร่างซึ่งไร้วิญญาณของลูกอยู่เป็นเวลานาน
ด้วยความรู้สึกที่โศกเศร้า โดยที่ไม่รู้ว่าจะบรรยายอย่างไรให้เข้าใจได้
..
พลางคิดไปเรื่อยๆว่า หากตายแทนได้ ก็อยากจะตายแทนลูก อยากให้ลูกกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เขาเป็นเด็กดีไม่ควรจะมีชีวิตที่สั้นเพียงเช่นนี้ ขณะคิดไปฉันก็เริ่มที่ไม่มีสติ กอดลูกและก็หัวเราะเบาๆไปเรื่อยๆ อย่างคนบ้า ทันใดนั้นก็มีเสียงโทรศัพท์ในห้องผู้ป่วยพิเศษที่ร่างอันแน่นิ่งของลูกฉันนอนอยู่ดังขึ้น! ฉันไม่มีจิตใจที่จะรับมัน แต่มันก็ดังขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดดัง  ฉันยกหูมันและพูดตะคอกด้วยความโมโห
“ใครโทรมาวะ! ไม่รู้เลยนี่มันเวลาไหน” ฉันตะคอกใส่มันทั้งน้ำตาและเสียงอันสั่น
เสียงในโทรศัพท์บอกกับฉันอย่างนุ่มๆว่า ให้ก้มมองลงใต้เตียงผู้ป่วย หยิบมันขึ้นมาแล้วแกะออก สิ้นเสียงพูด โทรศัพท์ก็ตัดสายไป
    ฉันก้มมองลงใต้เตียงผู้ป่วย สิ่งที่ฉันเห็นนั้น มันทำฉันแปลกใจมาก
“มันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” 
ฉันพูดกับตัวเอง พร้อมก้มหยิบกล่องของขวัญสีชมพูกล่องหนึ่ง ซึ่งฉันจำได้อย่างแม่นยำว่ามันเป็นของขวัญที่นนท์ได้ในวันเกิดของเขาจากเพื่อนที่เรียกว่า เพื่อนสนิท ฉันอยากรู้มานานแล้วว่ามันมีอะไรอยู่ข้างใน จึงไม่รีรอที่จะแกะมันออก แต่ก่อนแกะฉันก็มองหน้าอันซีดขาวของลูกบนเตียง
“แม่ขอโทษนะลูก” ฉันกลัวเขาจะโกรธที่ไม่ได้บอกเรื่องแกะห่อของขวัญ
    เมื่อแกะห่อกระดาษ เป็นกล่องไม้สีน้ำตาลใบเก่าๆ มีอักษรเฮียโรกิฟฟิก
จารึกอยู่รอบกล่อง ฉันเปิดกล่องไม้ใบนั้นออกก็พบกับใบไม้สีเขียวมรกตอยู่ภายในกล่อง มันสวยมาก เปล่งแสงระยิบระยับก่อนที่มันจะเปล่งแสงจ้าจนทำให้ฉันสลบไป
อากาศในยามเช้านี้ช่างสดใสเหลือเกิน ฉันไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อนเลย นานแค่ไหนแล้วที่ฉันไม่ได้รู้สึกถึงความรู้สึกที่มีความสุขเช่นนี้ ความรู้สึกที่อบอุ่น และอ่อนโยนของแสงตะวันยามเช้า
“แม่ๆ ไอ้โอเพื่อนนนท์ มันโทรมาจากอเมริกา” ลูกฉันตะโกนบอกฉันออกมาทางหน้าต่าง
“ไงล่ะลูก?” ฉันถาม
“โอมันบอกนนท์ว่า ของขวัญที่มันให้มา  แม่ถูกใจรึเปล่า?” นนท์ถามฉัน
“ฝากบอกเพื่อนลูกด้วยว่าแม่ขอบใจมาก” ฉันบอกกับลูกไป
“ของขวัญอะไรกันแม่? นนท์ไม่เห็นรู้เรื่องเลย” นนท์ถามฉันด้วยความสงสัย
ฉันตอบลูกไป โดยที่ไม่อยากให้เขารู้เรื่อง กับกล่องใบนั้น
“ไม่มีอะไรหรอกลูก....”
ถึงตอนนี้ฉันก็ไม่ได้เป็นนักโบราณคดีอีกแล้ว ฉันเอาเงินที่เก็บสะสมไว้มาลงทุนเปิดร้านอาหารใกล้ๆบ้านกับเพื่อนบ้านของฉัน บางส่วนก็เอาให้คุณหมอและพยาบาลไปเป็นค่าปิดปากเพราะไม่อยากลงหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ในพาดหัวข่าว “ตายแล้วฟื้นขึ้นมาใหม่ อย่างปาฏิหาริย์” และอีกอย่างหลังจากวันนั้นลูกของฉันดูเหมือนจะจำอะไรไม่ได้เลย ตั้งแต่เรื่องที่ไปฉลองวันเกิดกับเพื่อน  ไม่เป็นไร...อย่างน้อยฉันก็ได้ชีวิตใหม่กลับมาแล้ว  ชีวิตใหม่ที่มีความสุข ได้อยู่กับลูก ได้ดูเขามีหน้าที่การงานมีครอบครัว นี่ล่ะคือชีวิตใหม่ ที่ฉันจะไม่ลืม....
ใบไม้ซึ่งเกิดขึ้นมาพร้อมโลก จะนำพาคนรักจะกลับมาอีกครั้ง หากมีรักแท้และจิตใจที่เสียสละ  ข้อความนี้ปรากฏอยู่บนกล่องไม้ใบนั้น.
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น