จะมีใครดีเหมือนเธอคนนี้ - จะมีใครดีเหมือนเธอคนนี้ นิยาย จะมีใครดีเหมือนเธอคนนี้ : Dek-D.com - Writer

    จะมีใครดีเหมือนเธอคนนี้

    เราขอใช้คำแนะนำตัววว่าผมแบบเด็กผู้ชายนะคะ

    ผู้เข้าชมรวม

    489

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    489

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  15 ม.ค. 47 / 14:11 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      เที่ยงวันนี้ก็ร้อนอีกเช่นเคย..

      พระอาทิตย์ก็ยังขึ้นกลางหัวผมเสมอ..


      ผมวุ่นอยู่กับการเรียนรอบเช้าที่แสนน่าเบื่อ


      ซึ่งผมก็ได้แต่รอเวลาพักเที่ยงเพราะหิวมากแล้ว



      ทุกๆครั้งที่ผมมานั่งอยู่โรงอาหาร ผมและเพื่อนอีก8คนก็มักจะมีเรื่องเล่าสู่กันฟังเสมอๆ...


      และมันก็พูดกันว่ามีเด็กนักเรียนเข้าใหม่


      ซึ่งเธอน่ารักพอที่จะมีคนนับสิบมารุมตอมเธออยู่


      เดินผ่านไปที่ไหนก็มักจะมีเสียงแซวตามมาตลอด


      ผมเห็นหน้าเธอไม่ถนัดนักแต่สายตาผมก็ดีพอที่จะดูออกว่าเธอน่ารัก...


      แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก


      แต่ดูจากท่าทางแล้วเธอน่าจะเป็นเด็กเรียบร้อยซึ่งต่างกับผมพอควรเลย



      วันเปิดภาคเรียนวันแรก ครั้งนั้นที่เธอเดินผ่าน...


      ช่วงเวลานั้นผมถูกใจของตัวเองสั่งให้รักเธอตั้งแต่ตอนนั้น


      ผมขอร้องให้เพื่อนขอเบอร์โทรฯให้ ในใจก็คิดว่าถ้าได้แล้วจะกล้าโทรไปเหรอวะ...


      ซึ่งส่วนตัวแล้วผมเป็นคนขี้อายมากถึงมากที่สุด


      ผมกดเบอร์ครั้งแล้วครั้งเล่าก็กดไม่ครบ 9 หลักสักทีผมทำใจครู่หนึ่ง


      เอาวะเป็นไงเป็นกัน



      “สวัสดีค่ะ”


      “เอ่อ...สวัสดีครับขอสายแอนหน่อยครับ” เสียงของผมในตอนนี้สั่นมากๆสั่นจนขยับปากพูดแทบจะไม่ได้เลย


      “พูดอยู่ค่ะ...นั่นใครเหรอ”


      “เราชื่อมินนะ แอนว่างพอจะคุยด้วยมั้ย”


      “วันนี้ไม่ว่างนะ เราจะไปงานวันเกิดแม่”



      ผมหยุดคิดครู่หนึ่ง เธอคงไม่อยากคุยกับเรา แต่เสียงเธอน่ารักจริงๆ


      “งั้นไม่เป็นไร...วันหลังเราโทรมาได้มั้ย”


      “อืม....ได้...งั้น...แค่นี้นะ....สวัสดีค่ะ”



      หลังจากวันนั้นผมก็เริ่มโทรไปหาเธอบ้างแต่ไม่บ่อยเท่าคนอื่นที่โทรมาจีบเธอ


      เพื่อนในกลุ่มมักจะคอยสมน้ำหน้าผม


      หน้าอย่างผมน่ะเหรอใครจะมาชอบ


      ทุกครั้งที่โทรไปผมมักจะเป็นคนหาเรื่องพูด


      ถ้าเรื่องคุยหมดเมื่อไหร่นั่นหมายถึงการวางโทรศัพท์


      เธอและผมมีอะไรที่คล้ายกันบ้างจึงพอคุยกันได้



      ผมคิดตลอดว่าเราคงเป็นได้แค่เพื่อน


      เพราะเธอเพียบพร้อมทั้งหน้าตาและฐานะ เรียนเก่ง


      ส่วนผมน่ะเหรอ


      หาดีอะไรไม่ได้เลย แต่...ใครจะคิดล่ะว่าของแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย


      มันอยู่ที่ใจของเรามากกว่า


      2 เดือนกับการคุยโทรศัพท์กับเธอ...


      ผมแทบจะนับได้เลยว่าเธอพูดไปกี่คำ


      แต่ช่วงเวลาที่ได้คุยกับเธอมันเป็นความสุขที่สุดของผมในเวลานั้น....


      เพื่อนมักบอกว่าทำไมถึงไม่บอกความในใจให้เธอรู้ล่ะ...



      ก็เพราะผมไม่กล้าพอน่ะสิ


      กลัวว่าถ้าบอกไปความรู้สึกดีๆที่เคยมีให้กันนั้นจะหายไป


      แต่ถ้าไม่บอกไปเราก็ไม่อาจจะรู้ความในใจของกันและกันได้...


      คืนนั้นเราก็คุยโทรศัพท์กันเหมือนทุกวันที่คุยกัน....



      “แอน...มินอยากถามอะไรหน่อยได้มั้ย”


      “ได้สิ”


      “ตั้งแต่คุยกันมาแอนว่ามินเป็นคนแบบไหน”


      “ไม่รู้สิ”


      “เหรอ...งั้นถามอีกนะ”


      “แอนชอบมินมั้ย”



      เธอเงียบไปครู่ใหญ่...


      เธอคงจะตอบว่าไม่หรือเราคงเป็นได้แค่เพื่อนกัน โอ๊ยย...ไม่อยากคิดเลย


      “ชอบ........ค่ะ”



      เวลานั้นผมคิดว่าคงเป็นความฝันแต่ไม่ใช่...มันเป็นเรื่องจริงเธอชอบ ช่วงเวลานั้นผมทำอะไรไม่ถูก


      ได้แต่สั่นดีใจอยู่ตลอดเวลา...ผมตั้งสมาธิแล้วถามเธอต่อ


      “แล้วอยากรู้มั้ยว่ามินชอบแอนหรือเปล่า”


      “อยากสิ”


      “มินไม่ได้ชอบแอนครับ”


      “อ้าว ทำไมล่ะ”


      “แต่มินรักแอนมากครับ”


      ผมไม่รู้ว่าตอนนั้นผมคิดไปได้ยังไง...ผมไม่เคยพูดหวานๆแบบนี้กับใครเลย เธอคงเป็นคนแรก...


      หลังจากวันนั้นเรา2คนก็ได้รู้จักกันมากขึ้นนิสัยของเธอจริงๆแล้วเป็นคนออกจะบ๊องๆ


      แต่นั่นก็เป็นความน่ารักอย่างหนึ่งที่ผมไม่เคยเบื่อเธอเลย


      ผมมักจะคิดอยู่เสมอๆว่าคนน่ารักอย่างเธอทำไมถึงต้องมาชอบคนแบบผม


      ผมถามเธอหลายครั้งแต่ก็มักจะได้คำตอบที่เหมือนเดิมเสมอ


      เธอชอบที่ผมเป็นผม ซึ่งมันก็ทำให้ผมงงพอควร


      แต่ผมก็ไม่เค้นที่จะถามอะไรเธอมากนัก


      แต่เธอจะรู้หรือเปล่าว่าเธอเป็นกำลังใจของผมจากชีวิตที่แสนจะน่าเบื่อของคนๆหนึ่งที่วันๆเอาแต่เล่นๆ


      ไม่เคยจริงจังกับอะไรซักอย่าง...เธอเป็นคนเปลี่ยนแปลงผม


      ผมคิดอยู่ตลอดเวลาว่าถ้าผมไม่ไล่ตามเธอให้ทัน ในอนาคตเธอจะรักเหรอ


      ถ้าไม่ตั้งใจทำอะไรจริงจัง เธอจะไว้ใจเหรอ


      ผมเริ่มหันมาสนใจกับการเรียนมากขึ้นและเลือกที่จะจับกีฬาเพียงอย่างเดียว


      จากเมื่อก่อนที่ผมเล่นเป็นสิบๆอย่าง


      ผมไม่รู้ตัวเองว่าทำไปไม ถ้าวันหนึ่งเธอทิ้งไปผมจะไม่ฆ่าตัวตายเลยเหรอ


      หัวใจของผมในตอนนั้นให้เธอไปหมด


      ผมถามเธอว่ารักผมแค่ไหนเธอก็มักจะบอกว่าก็รัก รักมากและจะรักตลอดไป...


      เธอบอกว่าเธอเชื่อใจผมว่าผมจะรักเธอ...แล้วผมจะมีเหตุผลอะไรที่จะไม่เชื่อใจเธอ


      ผมกับเธอมักจะมีเรื่องขัดใจกัน แต่หลังจากที่มีเรื่องกัน


      มันก็ทำให้เรารักกันและรู้นิสัยกันมากขึ้นกว่าเก่า


      จากวันนั้นมาจนวันนี้เป็นเวลา 1 ปีแล้วผมอยากจะขอบคุณที่คอยเป็นกำลังใจให้ผม....


      ขอบคุณสำหรับเสียงน่ารักๆ...ทุกครั้งที่ได้ยินมันทำให้ผมรู้สึกสดใสมากขึ้น...


      “แอน...ถ้าวันนึงเราไม่ได้อยู่ด้วยกันล่ะ”


      “ทำไมถึงถามแบบนี้ล่ะค่ะ”


      “มินกลัวว่าในอนาคตเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันน่ะสิ”


      “ถึงเราไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่ใจเราก็ใกล้กันนี่คะ”


      “แอนคิดแบบนั้นเหรอ”


      “ค่ะ”


      เรื่องนี้ผมเคยถามเธอมานานแล้ว....มันได้หวนกลับมาในวันหนึ่งวันที่เธอจากไป.....ไม่มีวันกลับมา


      “แอนครับ พรุ่งนี้ไปเที่ยวกันนะ”


      “ค่ะ ไปสิเจอกันกี่โมงคะ”


      “เจอทีเดิมนะครับ 8โมง”


      “ค่ะแล้วเจอกัน”


      วันนั้นผมตื่นสายจึงทำให้ผมไปช้ากว่าเวลานัดมาก...ผมไปถึงที่แต่กลับไม่เจอเธอทั้งๆที่ปกติแล้วเธอเป็นคนที่ทนต่อการรอคอยมาก...ผมจึงโทรไปที่บ้านซึ่งก็ออกมานานแล้ว


      ผมนั่งอยู่สักพักก็ไม่เห็นเธอ จึงถามป้าที่ขายหนังสือ


      “ป้าครับเห็นเด็กผู้หญิงขาวๆหน้าตาดีตัวไม่สูงมากเดินอยู่แถวนี้มั้ยครับ”


      ป้าคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็บอกว่า


      “ใช่เด็กเมื่อเช้าที่ถูกรถชนหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ เพราะเมื่อเช้ามีเด็กถูกรถชน”


      ผมตกใจมากและก็หวังว่าคงไม่ใช่เธอนะ


      “ลักษณะเป็นอย่างที่ผมบอกเลยเหรอครับ”


      “เอ...ป้าก็ไม่ค่อยแน่ใจนะรู้แต่ว่าเป็นเด็กผู้หญิง”


      “งั้น...ขอบคุณครับ”


      ผมโทรไปที่บ้านอีกครั้งหนึ่งแต่คราวนี้ไม่มีใครรับสายผมจึงโทรเข้ามือถือของพ่อแอน


      ซึ่งผมก็ไม่กล้าโทรไปเท่าไหร่...ผมได้คำตอบจากพ่อไม่ดีเท่าไหร่ท่านบอกว่าแอนอยู่โรงพยาบาล


      โดนรถชนเมื่อเช้า อาการหนักมาก ผมจึงรีบตามไปที่โรงพยาบาลทันที เวลานั้นผมทำอะไรไม่ถูก


      ระหว่างทางน้ำตาที่ไม่เคยออกจากตาผมมาหลายปีกลับทะลักออกมาอย่างไม่ขาดสาย


      ผมได้แต่พร่ำบ่นอยู่คนเดียวว่า “แอนอย่าเป็นอะไรนะ” ...


      ผมไปถึงโรงพยาบาล พบพ่อกับแม่ของแอน แม่ของแอนร้องให้จนเป็นลมสลบไป


      ส่วนพ่อของแอนก็เดินวนไปวนมาตลอด


      ประมาณ 3ชั่วโมงหมอออกมาจากห้องผ่าตัดพร้อมสีหน้าที่ตึงเครียด พ่อแอนบึ่งเข้าไปหาคุณหมอทันที


      “แอนเป็นยังไงบ้างครับ”


      “ทำใจดีๆไว้นะครับ...ตอนนี้หมอได้ช่วยชีวิตไว้แล้วแต่ยังไม่พ้นขีดอันตราย”


      “หมายความว่าไงครับ”


      “เป็นตายเท่ากันครับ”


      เวลานั้นทุกคนสีหน้าเครียดมากส่วนผมก็ได้แต่ก้มหน้าร้องให้


      ...เวลานั้นผมอยากเข้าไปหาแอนมากแต่คุณหมอไม่อนุญาต...ผมกลับบ้านทั้งน้ำตา


      แม่ของผมแปลกใจเพราะแกไม่เคยเห็นผมร้องให้เลย


      “มินเป็นอะไรไปลูก”


      “วันนี้มินไม่สบายครับ ข้าวเย็นไม่ต้องทำนะมินจะนอนแล้ว”


      คืนนั้นผมได้แต่ภาวนาเพื่อขอให้แอนปลอดภัยผมขอร้องให้พระเจ้าโปรดอย่าเอาคนดีๆแบบเธอไปเลย


      จะมีใครอีกมั้ยที่ดีเท่าเธอ จะมีอีกมั้ยกับเสียงหัวเราะเบาๆ จะมีใครอีกมั้ยที่เหมือนเธอ......


      วันนี้ผมออกจากบ้านแต่เช้า...ผมพบพ่อของแอนอยู่หน้าห้องพ่อแอนเอ่ยปากสั้นๆว่า


      “แอนคงอยากพบน่ะเข้าไปสิ”


      ลักษณะท่าทางของแอนยังเหมือนเดิมเพียงแต่มีสายอะไรต่ออะไรไม่รู้เต็มไปหมด


      แอนเหลือบมองผมแล้วก็มีน้ำตาไหลออกมาแอนพูดอะไรมากไม่ได้


      เพราะทุกครั้งที่เธอพูดเธอจะเจ็บไปทั้งตัว


      ผมเข้าไปกุมมือของแอนพร้อมกับน้ำตา


      “แอนครับ..แอนต้องอดทนนะมินจะอยู่ข้างๆ”


      สีหน้าของแอนบอกกับผมซึ่งผมก็พอรู้ว่าเธอจะพูดอะไรเธอเจ็บมากเธอจะทนมันไม่ไหวอยู่แล้ว


      “อดทนไว้นะแอน อีกไม่นานมันก็หายนะ”


      วันนั้นผมนั่งเฝ้าแอนอยู่ทั้งวันแล้วก็ครุ่นคิดว่าผมเองที่เป็นตัวต้นเหตุ...ถ้าวันนั้นผมไม่ชวนเธอไปเที่ยว


      เธอคงไม่ต้องเป็นแบบนี้...ทำไมคนดีๆอย่างเธอต้องมาเป็นแบบนี้ทำไมไม่เกิดขึ้นกับผมแทนนะ.....


      ก่อนกลับผมนั่งคุยกับพ่อแอนอยู่ครู่หนึ่งท่านบอกว่าถ้าแอนรอดก็ปาฏิหาริย์เพราะหมอบอกว่า


      โอกาสรอดน้อยมาก.....ผมเดินซึมๆกลับบ้านเป็นวันที่ 2


      ผมได้แต่เก็บตัวอยู่แต่ในห้องไม่พูดไม่จากับใครทั้งนั้น


      เพื่อนๆผมที่รู้เรื่องก็โทรมาปลอบแต่มันก็ไม่ช่วยทำให้ผมดีขึ้นเลยซักนิด....


      คืนนั้นผมหวนมาคิดเรื่องอดีตของเราทั้ง2คน


      ยิ่งผมคิดมากขึ้นเท่าไหร่มันก็ทำให้ผมร้องให้ออกมาทุกครั้ง


      ผมภาวนาขอร้องพระเจ้าทุกคืน ผมไม่หวังอะไรแล้วในตอนนี้ ผมขอเพียงแค่ให้เธอปลอดภัยเท่านั้น


      เช้าวันนี้ผมก็ยังไปเยี่ยมแอนเหมือนเคย....แต่ผมกลับไม่พบแอนอยู่ที่ห้อง ผมเดินไปถามพยาบาล


      เธอบอกว่าแอนช็อค ตอนนี้เธออยู่ห้องไอซียู...เวลานั้นผมกังวลมากผมหวังว่าแอนคงจะปลอดภัยนะ


      แต่เมื่อผมเจอพ่อแอนเห็นพ่อแอนร้องให้ผมก็พอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น


      “แอนเสียแล้ว”


      คำพูดสั้นๆของพ่อเธอมันทำให้ผมเหมือนตายทั้งเป็น


      ...ทำไมล่ะ....ทำไมถึงต้องเอาคนดีๆอย่างเธอไป


      ปาฏิหาริย์สำหรับคนดีๆอย่างเธอไม่มีเลยเหรอ...ผมเข้าไปในห้องกอดร่างของเธอทั้งน้ำตา


      “แอนครับ...แอนล้อมินเล่นใช่มั้ย ทำไมแอนต้องหนีมินไปด้วย ที่เราเคยสัญญากันแอนลืมไปแล้วเหรอ แอนนนนน แอนตื่นขึ้นมาสิครับ แอนนนนนน!!!”


      ผมร้องไห้แทบจะเป็นบ้า....ตอนนี้ผมได้สูญเสียคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตผมไปแล้ว ผมไม่เหลืออะไรแล้ว


      หลังจากนี้ผมจะไล่ตามใครล่ะ...แล้วผมจะต้องทำเพื่อใครอีก จะมีใครอีกมั้ยครับที่เหมือนเธอ


      จะมีอีกมั้ยที่ดีเท่าเธอ...นิสัยบ๊องๆที่ผมเห็นประจำ เสียงหัวเราะเบาๆที่เคยได้ยินเสมอๆ เรื่องกลุ้มใจที่


      มักจะปรึกษากันประจำจากวินาทีจะไม่มีคนๆนี้อีกแล้ว........


      จากวันนั้นถึงวันนี้เป็นเวลา 3 ปีแล้วผมยังไม่เจอผู้หญิงคนไหนที่เหมือนเธอเลยซักคน ทุกครั้งที่คิดถึงแอน


      ผมจะมองขึ้นไปบนฟ้าอยู่เสมอ ผมเห็นเธอกำลังยิ้มให้...เธอจะเป็นกำลังใจให้ผมอยู่ข้างบน


      ถึงแม้เธอจะไม่อยู่ข้างๆผมแล้ว...แต่ผมยังจำคำๆหนึ่งที่เธอเคยบอกผมว่า


      “ถึงเราไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่ใจเราก็อยู่ใกล้กันนี้คะ”


      ใช่ครับแอน...ใจของเราจะอยู่ใกล้กัน....เรา2คนจะอยู่ด้วยกันตลอดไป.......

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×