เมื่อปีพ.ศ. 2533 ดิฉันได้ย้ายตามสามีไปอยู่ที่จ.พิษณุโลก เขารับราชการทหาร เป็นพลขับ ตัวฉันเองได้ทำงานอยู่ในค่าย
เดียวกับสามี มีหน้าที่รับโทรศัพท์ติดต่อไปยังจุดต่าง ๆในค่าย
ฉันและสามีย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านพักหลังหนึ่ง หลังจากพักได้ประมาณ 1 อาทิตย์ สามีได้บอกฉันว่า วันนี้ต้องไปกรุงเทพฯ
กับผู้การ อีกสองสามวันถึงจะกลับ ฉันก็พยักหน้ารับรู้ เพราะเป็นเรื่องปกติของพลขับที่ต้องขับรถไปต่างจังหวัดบ่อย ๆ วันนั้น
ตอนเย็นหลังเลิกงานดิฉันมาถึงบ้านพักประมาณ 6 โมงเย็นเห็นจะได้ จึงเสียบหม้อข้าวไฟฟ้า เพื่อหุงข้าว แล้วจึงไปอาบน้ำ อาบเสร็จ
ก็ตั้งใจจะมากินข้าว แต่ยังไม่ทันจะได้กิน ไฟก็กระพริบถี่ ๆ 3-4 ครั้งแล้วก็ดับลง ฉันก็เดินไปที่ตู้เย็นเพื่อหยิบไฟฉาย พอไปถึงตู้เย็น
ได้กลิ่นสาบสางอะไรบางอย่าง เหม็นมากจนทานข้าวไม่ลง ฉันคิดว่าคงจะมีหนูไปตายอยู่ในห้องเก็บของใต้บันได เพราะเป็นห้องเดียว
ที่ยังไม่ได้ทำความสะอาด
กลิ่นเริ่มทวีความรุนแรงขึ้นฉันรู้สึกกลัว จึงรีบขึ้นไปชั้นบนเพื่อที่จะเข้านอน แต่กลิ่นยังทวีความรุนแรงมากขึ้น จนฉันต้อง
ตัดสินใจฉายไฟมาดูที่ห้องใต้บันได ฉันมองเห็นเงาดำทะมึนอยู่ตรงทางเข้าห้องใต้บันได ฉันไม่ได้กลัวจนตาฝาดไปแน่นอน
เพราะเงานั้นกำลังหันหน้ามาหาฉันช้า ๆ ก่อนที่ดิฉันจะล้มพับลงไปนั้น ฉันได้ยินเสียงแผ่วเบาลอยมาว่า ผม...มาเอาของคืนฉันมารู้สึกตัว
อีกครั้งก็มานอนอยู่ที่ห้องพยาบาลของค่ายแล้ว
มาทราบทีหลังว่าบ้านพักหลังนั้นเคยมีนายสิบทหาร ฆ่าตัวตายเพราะเป็นโรคร้าย และของบางอย่างของเขายังอยู่ในห้องเก็บของใต้บันได
พอสามีกลับมาฉันจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง สามีจึงไปเปิดห้องใต้บันได และเห็นลังไม้ใบหนึ่ง จึงเปิดดู ภายในพบเครื่องแบบทหาร และ
เครื่องหมายยศของนายสิบทหารพับไว้อย่างเรียบร้อย และมีกระดาษ 1 แผ่นซึ่งเขียนชื่อที่อยู่ไว้ เราจึงจัดการส่งของทั้งหมดกลับไปตามที่อยู่นั้น
ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นอีกเลย
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น