๛ตำนานลิตเติ้ลเมอร์เมด๛ - ๛ตำนานลิตเติ้ลเมอร์เมด๛ นิยาย ๛ตำนานลิตเติ้ลเมอร์เมด๛ : Dek-D.com - Writer

    ๛ตำนานลิตเติ้ลเมอร์เมด๛

    เมื่อหญิงสาวซึ่งเป็นนางเงือกซึ่งเธออยากออก ไปดูโลกภายนอกแล้วเมื่อเขาได้พอกับเจ้าชายผลจะลงเอยอย่างไรโปรดติดตามชมกันต่อไปได้นะครับ งุงิ

    ผู้เข้าชมรวม

    4,751

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    4.75K

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  2 ม.ค. 47 / 22:04 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      เดินไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของหมู่บ้านยักษ์ก็จะถึงทุ่งหญ้านิค เนื่องจากทุ่งหญ้านิคอยู่ติดกับบึงกบ ดังนั้นพื้นดินบริเวณนั้นจึงชื้นมาก

      ซึ่งสามารถดูได้จากต้นหญ้าที่ขึ้นสูงกว่าทุ่งหญ้าทั่วไป แต่ไหนแต่ไรมาก็มีน้อยคนนักที่จะเดินผ่านทุ่งหญ้าแห่งนี้ แต่พักหลังนี้อาณาจักรลูกัส

      ได้สร้าง “ท่าเรือเปโป้” ซึ่งเป็นท่าเรือแห่งเดียวบนแผ่นดิน จึงทำให้พ่อค้าและนักผจญภัยไม่น้อยที่เริ่มเดินทางผ่านทุ่งหญ้านิค

      ท่าเรือเปโป้เป็นท่าเรือที่สวยงามมาก แค่มองก็รู้ว่าอาณาจักรลูกัสทุ่มเทกายใจสร้างท่าเรือนี้ขนาดไหน สิ่งก่อสร้างของที่นี่เป็นสีฟ้า ส่วนพื้น

      เป็นสีเทาอ่อน ดูแล้วสบายตา บรรยากาศเช่นนี้ทำให้นึกถึงฤดูร้อนที่เย็นสบาย

      ที่ใดมีท่าเรือที่นั่นก็ย่อมต้องมีเรื่องราวผจญภัยที่เล่าต่อกันมา ไม่เว้นแม้แต่ท่าเรือเปโป้ ที่นี่ก็มีเรื่องราวประสบการณ์การผจญภัยของเหล่า

      กะลาสีชรามากมาย

      เมื่อเวลาล่วงเลยไปอย่างไร้ปราณีทำให้พวกเขาแก่เฒ่าจนออกเรือผจญภัยไม่ได้อีก พวกเขาจึงได้แต่มานั่งฆ่าเวลาอยู่ในร้านเหล้า พูดคุยถึง

      เรื่องราววีรกรรมครั้งสมัยยังหนุ่มอย่างออกรส มันไม่สำคัญหรอกว่าเรื่องที่เล่านั้นจะมีส่วนที่จริงเท็จสักแค่ไหน แต่การผูกเรื่องราวเดินทางผจญ

      ภัยอย่างมีสีสรรนี่สิที่ดึงดูดความสนใจของคนรุ่นหนุ่มสาว ทำให้พวกเขาอยากจะลองพิสูจน์ความกล้าของตัวเอง

      “ในโลกนี้มีเงือกอยู่จริงๆ” ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นของปีเตอร์แดงกล่ำด้วยความโกรธ

      “ฮ่าฮ่า เล่นพูดแต่ปากแบบนี้ใครเขาจะไปเชื่อล่ะลุง” กะลาสีวัยกลางคนที่นั่งตรงข้ามปีเตอร์ มือถือแก้วเบียร์ที่เพิ่งสั่ง พูดจาถากถางอย่างไม่

      เกรงใจ

      “แกพูดให้มันน้อยๆหน่อยไม่ได้รึไงคริส” เจ้าของร้านเหล้าเอ่ยปากปรามคริส เขารู้ดีว่าคริสปากไม่สร้างสรค์ขนาดไหน แล้วปีเตอร์ก็เป็นคนขี้

      โมโหด้วย ขืนนิ่งเฉยไม่พูดห้ามปรามพวกเขา อีกสักเดี๋ยวต้องเป็นเรื่องแน่

      “เฮอะ ฉันก็ไม่ได้อยากจะหาเรื่องหรอกนะ แต่คนเราจะพูดอะไรมันต้องมีหลักฐานสิ ถ้าใต้ทะเลสกายวอล์คเกอร์มีเงือกอยู่จริง งั้นนอกจากตา

      เฒ่านี่แล้ว มีใครเคยเห็นอีกบ้างล่ะ” เถ้าแก่ร้านเหล้าจ้องคริสเขม็ง และพูดด้วยความโมโห

      “ฉันขอเตือนนายนะคริส หากนายยังอยากนั่งดื่มเหล้าอยู่ที่นี่อีกล่ะก้อ ทางที่ดีนายหุบปากแมวๆของนายซะ”

      คริสทำท่าเหมือนจะพูดอะไรต่อ แต่พอนึกถึงตอนที่เถ้าแก่ร้านเหล้าหักขาคนที่มาก่อกวนในร้านจนหักเมื่อสองสามวันก่อน จึงยอมหุบปากถึง

      แม้จะไม่ค่อยพอใจนัก หนุ่มที่นั่งอยู่อยู่ที่มุมร้าน ดวงตาสีน้ำเงินเข้มคู่นั้นจับตามองเหตุการณ์ทุกอย่างอยู่อย่างเงียบๆ แต่พอปีเตอร์เดินโซเซ

      ออกจากร้านเหล้า เขาก็จากไปอย่างเงียบๆ

      แสงจันทร์กระจ่างที่สาดส่องถนนบนท่าเรือเปโป้ซึ่งว่างเปล่าไร้ผู้คน ต่างกับตอนกลางวันที่มีผู้คนขวักไขว่คึกคัก เสียงสะอึกสะอื้นเบาๆดังมา

      จากมุมมืดแห่งหนึ่งของท่าเรือทำลายความเงียบสงัดของคืนอันเงียบสงบ

      “ทำไม...ทำไมเธอ...ถึงยังไม่มา...ทำไมไม่มารับฉันไปสักที...” ปีเตอร์นั่งหดตัวซุกอยู่ในกองลังไม้ข้างท่าเรือ น้ำตาปริ่มเอ่อเล้นขอบตาอัน

      เหี่ยวย่น ร่วงพลูดุจน้ำฝนรตกลงมาชะผืนดินอันแห้งแล้ง จนดินซับน้ำไม่ทันท่วมเจิ่งนอง

      เงาดำตะคุ่มค่อยๆปรากฏออกมาจากหัวมุมถนนพร้อมกับเสียงฝีเท้า ปีเตอร์เงยหน้าขึ้นมอง สายตาจับจ้องผู้ที่มา

      ชายหนุ่มคนนั้นมีผมสีทองเป็นประกายดุจดวงอาทิตย์ ถึงแม้ว่าในตอนนี้ปีเตอร์ยังคงสะลึมสะลืออยู่ แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าหนุ่มน้อยคนนี้เป็นคน

      ต่างถิ่น

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×