ใกล้... - ใกล้... นิยาย ใกล้... : Dek-D.com - Writer

    ใกล้...

    ...เพราะความไม่กล้า ทำให้ไม่อาจรู้ความในใจของกันและกัน... เพิ่งส่งเป็นเรื่องแรก ฝากด้วยนะคะ

    ผู้เข้าชมรวม

    379

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    379

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  26 ธ.ค. 46 / 20:40 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      บ้านของเราอยู่ใกล้กัน   แม้กระทั้งห้องนอนของเรายังติดกัน...ฉันกับเขา   แต่เรากลับไม่เคยคุยกันเลยทั้งๆที่แม่ของเราสองคนสนิทกันมาก  คงจะเริ่มตั้งแต่ตอนนั้น  

           ตอนฉันอายุได้สิบขวบฉันกับแม่ย้ายมาอยู่ที่นี่   แม่ของเขาออกมาต้อนรับเราสองแม่ลูกอย่างเป็นมิตร  ทั้งสองคนคุยกันได้ถูกคอกันมาก   และแล้ว...เขาก็ออกมา   ทาชิบานะ  นาโอยะ   เด็กผู้ชายตัวเล็กที่เดินมาเกาะอยู่ด้านหลังแม่ของเขา   เขาอายุเท่ากับฉัน   แม่ของเราแนะนำเราให้รู้จักกัน   และฉันส่งยิ้มให้เขาแต่เขากลับหันหน้าหนีมองไปทางอื่น  ด้วยใบหน้าที่เฉยเมยเหมือนไม่อยากจะยุ่งกับฉัน   และนี้หละมั้งที่ทำให้ฉันไม่กล้าพูดกับเขาอีกเลย   แม้แต่มองหน้าเขานานๆฉันยังไม่กล้าเลย   จนถึงทุกวันนี้

           “ไปนะคะแม่”
      “ระวังตัวนะ” แม่ฉันเอ่ยกลับมา
      เมื่อฉันออกมาถึงถนนหน้าบ้าน ... นั้นเขา ทาชิบานะ  นาโอยะ  เขายืนอยู่ตรงหน้าบ้านของเขา   แต่ฉันจะไม่หันไปมองเขาหรอก   เราเดินไปโรงเรียนกันแบบนี้มาตลอด   เขาจะเดินเว้นระยะห่างจากฉันเท่าเดิมตลอดจนมาถึงสถานีรถไฟ    รินรินเพื่อนของฉันมารอฉันที่หน้าสถานี   และฉันกับเขาก็แยกกัน   ฉันจะยืนอยู่กับรินรินส่วนเขาก็จะยืนห่างออกไป   เพราะเราสองคนอยู่กันคนละโรงเรียน
      “ชิโฮะ  ผู้ชายคนนั้นหนะเธอรู้จักหรอ” รินรินเอ่ยถามพลางมองไปทางนาโอยะ
      “ทำไมหรอ” ฉันถามขึ้นโดยไม่หันไปมองนาโอยะเลย
      “ก็เขามองเธออยู่หนะซิ  แล้วฉันก็เห็นเขาเดินตามเธอมาทุกครั้งเลย   เห็นมาตั้งนานแล้วนะ” รินรินเอ่ยพลางมองไปที่มาโอยะอีกครั้ง
      ฉันเหลือบมองเขาโดยไม่ได้หันไป   ฉันเห็นเขามองอยู่แล้วก็หันไปมองทางอื่นด้วยสีหน้าที่เฉยเมยเหมือนทุกครั้งที่ฉันหันไปเจอเขา
      “เขาอยู่ข้างบ้านฉัน”
      “ฉันว่านะ   เขาต้องแอบชอบเธอแน่ๆเลย” รินรินเอ่ยพลางใช้ข้อศอกกระทุ้งฉันเบาๆ
      “อย่าพูดบ้าๆหนะ”   หน้าแบบนั้นหนะหรอชอบ ... ไม่มีทาง

            ในตอนเย็นรินรินต้องอยู่ซ้อมเชียร์ที่โรงเรียน   ฉันเลยต้องเดินกลับบ้านคนเดียว   พอมาถึงหน้าสถานีฉันก็เจอเขาอีกแล้ว   เขานั่งอยู่ที่เก้าอี้ไม้หน้าสถานี   เขานั่งก้มหน้ามองดูมือตัวเองที่วางอยู่บนกระเป๋านักเรียนที่อยู่บนตักเขา   เขาคงจะมารอใครซักคน   แล้วฉันก็เดินเข้าไปในสถานี   เรายังคงยืนอยู่บนรถไฟขบวนเดียวกันเพียงแต่ยืนห่างกันเท่านั้น   เขายังคงเดินเว้นระยะห่างเท่าเดิม
      “กลับมาแล้วคะ ... เอ้! แม่ยังไม่กลับอีกหรอ”
      กริ๊งๆๆ   เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
      “สวัสดีคะ”
      “ชิโฮะจังวันนี้คุณแม่บอกว่าจะกลับดึกนะจ๊ะ   มาทานข้าวที่บ้านน้านะ   น้าเตรียมกับข้าวไว้เยอะเลย” แม่ของนาโอยะนั้นเอง
      “ขอบคุณคะ  คือ ...”
      “รีบมานะจ๊ะเดี๋ยวน้าจะให้นาโอยะออกไปรับ” แล้วแม่ของนาโอยะก็วางสายไป
      ฉันไม่คอยอยากไปนักหรอก   เพราะต้องเจอหน้าเขาและมันก็เป็นเวลานานซะด้วย   ฉันขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า   แล้วไม่นานนักเสียงออดก็ดังขึ้น   เขานั้นเอง   เขายืนห่างจากประตูรั้วเล็กน้อย   เขายังคงหันไปมองทางอื่นด้วยสีหน้าแบบเดิม   ฉันเดินไปเปิดประตูรั้ว   เขายืนรออยู่อย่างนั้นจนฉันปิดประตูรั้วเรียบร้อยแล้ว   เขาจึงเดินนำฉันไปที่บ้านของเขา
      “ชิโฮะจัง   มีงานอดิเรกมั๊ยจ๊ะ” แม่ของนาโอยะถามขึ้นที่โต๊ะอาหาร
      “มีคะ   หนูชอบอ่านนิยาย”
      เขายังคงนั่งนิ่ง   ฉันรู้สึกอึดอัดเพราะฉันต้องนั่งตรงข้ามกับเขา   ต้องมองเห็นหน้าที่เฉยเมยนั้นอยู่บ่อยๆ
      “อ่านนิยายหรอ   แนวไหนจ๊ะ”
      “แฟนตาซีคะ”
      “ดีจังเลยนะ   นาโอยะเขาชอบวาดรูปหนะจ๊ะ” แม่ของเขาเอ่ยถึงเขา   ฉันเห็นเขาชะงักเล็กน้อย  ก็แค่นั้นแล้วเขาก็กลับเป็นเหมือนเดิม
      “เด็กๆนั่งคุยกันไปก่อนนะจ๊ะ   เดี๋ยวน้าจะไปหยิบขนมมาให้” แล้วแม่ของนาโอยะก็ทิ้งเราให้อยู่ด้วยกัน
      ฉันรู้สึกอึดอัดมากที่สุด   ฉันได้แต่นั่งก้มหน้ามองผ้าปูโต๊ะสีครีมสายตารางเล็กๆสีน้ำตาล   เขามองอยู่ ... ฉันรู้แต่ฉันจะไม่มองเขาหรอก   ฉันไม่ชอบเวลาที่เขาหันหน้าหนีฉันแล้วทำหน้าแบบนั้น...หน้าที่เฉยเมยแบบนั้น  

           เมื่อทานอาหารเสร็จแม่ของนาโอยะก็ให้เขามาส่งฉันที่หน้าบ้าน   เขายังคงทำเหมือนเดิม   เดินตามหลังฉันมาแล้วหยุดยืนรอจนฉันเข้าบ้านแล้วเขาถึงจะเดินกลับไป   ฉันขึ้นมาบนห้องนอนของฉัน   อ่านหนังสือเรื่องที่ฉันอ่านค้างอยู่ที่ข้างหน้าต่างซึ่งก็ตรงกับหน้าต่างห้องของนาโอยะ   ฉันก็ไม่ค่อยอยากมานั่งตรงนี้ซักเท่าไหร่หรอกเพียงแต่ตรงนี้เย็นสบาย   เขายืนอยู่ตรงหน้าต่างนั่น   ฉันเห็นชุดนอนของเขาอยู่เหนือขอบหนังสือของฉัน   ฉันจะไม่สนใจเขาแล้ว

           วันนี้ฉันยังคงกลับบ้านคนเดียว   และทุกอย่างก็เหมือนเดิม  เขายังคงเดินตามมาเหมือนเดิม   จนฉันเดินมาถึงมุมถนนก็เจอกับนักเลงคนหนึ่งเข้า
      “เฮ้! น้องสาวไปเที่ยวด้วยกันหน่อยซิ” นักเลงคนนั้นเข้ามาจับข้อมือฉันไว้ข้างหนึ่ง
      “ปล่อยนะ!” ฉันสะบัดมือของหมอนั้นออก   และนั้นก็ทำให้หมอนั้นโกรธมาก
      “เล่นตัวจริงนะ” นักเลงคนนั้นตรงเข้ามาจะทำร้ายฉัน  
      แต่เขา ... นาโอยะ  ก็เข้ามาขวาง   เขาต่อยหน้าหมอนั้นไปหมัดหนึ่ง   เลือดสีแดงฉานไหลออกมาจากปากของหมอนั้น   แต่หมอนั้นกับหยิบมีดพกออกมาและตรงเข้าแทงเขา
      “นาโอยะ!!  ช่วยด้วยคะ  ช่วยด้วย” ฉันตะโกนด้วยความตกใจพลางเข้าไปประคองนาโอยะไว้  
      แต่แล้วเราสองคนก็ล้มลง   ฉันพยุงเขาไม่ไหว   เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากบาดแผลของเขามันมากมายจนทำให้ฉันทำอะไรไม่ถูก   และตอนนั้นเองมีพนักงานบริษัทเดินผ่านมาพอดี   เขาวิ่งไล่ตามนักเลงคนนั้นไป
      “ชิโฮะ  เธอไม่เป็นไรนะ” เขาเอ่ยด้วยเสียงที่แผ่วเบาราวสายลม
      “ฉันไม่เป็นไร   แต่เธอ ...”
      เขาเอื้อมมือมาจับที่แก้มของฉัน   ฉันเพิ่งรู้ตัวว่าตอนนี้น้ำตาฉันกำลังไหล...มันไหลไม่ยอมหยุด   เขาใช้มือของเขาเช็คน้ำตาให้ฉัน   และฉันก็เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา   แม้จะดูอ่อนแรงแต่นั้นเป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็น   แล้วมือของเขาก็เลื่อนหล่นจากแก้มของฉันไปพร้อมกับรอยิ้มนั้น
      “นาโอยะ!!!”

           ฉันพาเขามาส่งที่โรงพยาบาล   เขาต้องอยู่ในห้องไอซียู  อาการของเขาหนักมาก
      “คุณคุจิอาริ  ชิโฮะคะ   คนไข้อยากพบคุณคะ” นางพยาบาลออกมาเรียกฉัน  
      เมื่อฉันเข้าไปในห้อง   ฉันก็เห็นสายตาที่อ่อนแรงของเขามองมาที่ฉัน   ฉันเดินเข้าไปจับที่แขนของเขา  
      “นาโอยะมีอะไรหรอ”
      เขาทำเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง   ฉันจึงเข้าไปใกล้เขาจนแก้มของฉันเกือบจะติดกับจมูกของเขา   เขาใช้มือของเขาจับที่ผมของฉันและเขาก็หอบแก้มของฉันก่อนจะกระซิบที่ข้างหูของฉันด้วยเสียงที่แผ่วเบา
      “ฉันรักเธอ” เขาพูดคำๆนั้นก่อนจะจากฉันไปตลอดกาล
      “นาโอยะ!!” น้ำตาฉันไหลอาบแก้มอย่างไม่ยอมหยุด   ขาของฉันอ่อนจนไม่มีแรงที่จะยืน   ฉันทรุดลงร้องไห้อยู่กับแขนของเขา

           เมื่อกลับมาถึงบ้านฉันเอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง   มองเหม่อไปที่หน้าต่าง   มองเข้าไปในห้องของเขา   จนเสียงเคาะประตูดังขึ้น  แม่ของนาโอยะนั้นเอง   แม่ของเขาเอาสมุดสเก็ตภาพของเขามาให้ฉัน
      “น้าว่านาโอยะคงอยากให้หนูเก็บเอาไว้”
      ฉันเปิดดูในนั้น   มีภาพสเก็ตหลายภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าตาเหมือนฉันมาก   มีทุกกิริยาบทของฉัน   ทั้งในรถไฟ  ตอนทานอาหาร  ตอนที่ฉันหัวเราะอยู่กับรินริน   ตอนที่ฉันนั่งฟังเพลงอยู่บนเตียง   และตอนที่ฉันกำลังอ่านหนังสือ   น้ำตาฉันเริ่มไหลอาบแก้มอีกครั้ง   เขาน่าจะยิ้มให้ฉันเร็วกว่านี้   ถ้าเขายิ้มให้ฉันเร็วกว่านี้เราคงจะได้คุยกันมากกว่านี้   ได้หัวเราะด้วยกัน   ฉันยังคงจำได้ดี   คำๆนั้นที่เขาพูดก่อนจะจากฉันไป ฉันรักเธอ...

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×