บ้านของเราอยู่ใกล้กัน  แม้กระทั้งห้องนอนของเรายังติดกัน...ฉันกับเขา  แต่เรากลับไม่เคยคุยกันเลยทั้งๆที่แม่ของเราสองคนสนิทกันมาก  คงจะเริ่มตั้งแต่ตอนนั้น 
    ตอนฉันอายุได้สิบขวบฉันกับแม่ย้ายมาอยู่ที่นี่  แม่ของเขาออกมาต้อนรับเราสองแม่ลูกอย่างเป็นมิตร  ทั้งสองคนคุยกันได้ถูกคอกันมาก  และแล้ว...เขาก็ออกมา  ทาชิบานะ  นาโอยะ  เด็กผู้ชายตัวเล็กที่เดินมาเกาะอยู่ด้านหลังแม่ของเขา  เขาอายุเท่ากับฉัน  แม่ของเราแนะนำเราให้รู้จักกัน  และฉันส่งยิ้มให้เขาแต่เขากลับหันหน้าหนีมองไปทางอื่น  ด้วยใบหน้าที่เฉยเมยเหมือนไม่อยากจะยุ่งกับฉัน  และนี้หละมั้งที่ทำให้ฉันไม่กล้าพูดกับเขาอีกเลย  แม้แต่มองหน้าเขานานๆฉันยังไม่กล้าเลย  จนถึงทุกวันนี้
    “ไปนะคะแม่”
“ระวังตัวนะ” แม่ฉันเอ่ยกลับมา
เมื่อฉันออกมาถึงถนนหน้าบ้าน ... นั้นเขา ทาชิบานะ  นาโอยะ  เขายืนอยู่ตรงหน้าบ้านของเขา  แต่ฉันจะไม่หันไปมองเขาหรอก  เราเดินไปโรงเรียนกันแบบนี้มาตลอด  เขาจะเดินเว้นระยะห่างจากฉันเท่าเดิมตลอดจนมาถึงสถานีรถไฟ    รินรินเพื่อนของฉันมารอฉันที่หน้าสถานี  และฉันกับเขาก็แยกกัน  ฉันจะยืนอยู่กับรินรินส่วนเขาก็จะยืนห่างออกไป  เพราะเราสองคนอยู่กันคนละโรงเรียน
“ชิโฮะ  ผู้ชายคนนั้นหนะเธอรู้จักหรอ” รินรินเอ่ยถามพลางมองไปทางนาโอยะ
“ทำไมหรอ” ฉันถามขึ้นโดยไม่หันไปมองนาโอยะเลย
“ก็เขามองเธออยู่หนะซิ  แล้วฉันก็เห็นเขาเดินตามเธอมาทุกครั้งเลย  เห็นมาตั้งนานแล้วนะ” รินรินเอ่ยพลางมองไปที่มาโอยะอีกครั้ง
ฉันเหลือบมองเขาโดยไม่ได้หันไป  ฉันเห็นเขามองอยู่แล้วก็หันไปมองทางอื่นด้วยสีหน้าที่เฉยเมยเหมือนทุกครั้งที่ฉันหันไปเจอเขา
“เขาอยู่ข้างบ้านฉัน”
“ฉันว่านะ  เขาต้องแอบชอบเธอแน่ๆเลย” รินรินเอ่ยพลางใช้ข้อศอกกระทุ้งฉันเบาๆ
“อย่าพูดบ้าๆหนะ”  หน้าแบบนั้นหนะหรอชอบ ... ไม่มีทาง
      ในตอนเย็นรินรินต้องอยู่ซ้อมเชียร์ที่โรงเรียน  ฉันเลยต้องเดินกลับบ้านคนเดียว  พอมาถึงหน้าสถานีฉันก็เจอเขาอีกแล้ว  เขานั่งอยู่ที่เก้าอี้ไม้หน้าสถานี  เขานั่งก้มหน้ามองดูมือตัวเองที่วางอยู่บนกระเป๋านักเรียนที่อยู่บนตักเขา  เขาคงจะมารอใครซักคน  แล้วฉันก็เดินเข้าไปในสถานี  เรายังคงยืนอยู่บนรถไฟขบวนเดียวกันเพียงแต่ยืนห่างกันเท่านั้น  เขายังคงเดินเว้นระยะห่างเท่าเดิม
“กลับมาแล้วคะ ... เอ้! แม่ยังไม่กลับอีกหรอ”
กริ๊งๆๆ  เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“สวัสดีคะ”
“ชิโฮะจังวันนี้คุณแม่บอกว่าจะกลับดึกนะจ๊ะ  มาทานข้าวที่บ้านน้านะ  น้าเตรียมกับข้าวไว้เยอะเลย” แม่ของนาโอยะนั้นเอง
“ขอบคุณคะ  คือ ...”
“รีบมานะจ๊ะเดี๋ยวน้าจะให้นาโอยะออกไปรับ” แล้วแม่ของนาโอยะก็วางสายไป
ฉันไม่คอยอยากไปนักหรอก  เพราะต้องเจอหน้าเขาและมันก็เป็นเวลานานซะด้วย  ฉันขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า  แล้วไม่นานนักเสียงออดก็ดังขึ้น  เขานั้นเอง  เขายืนห่างจากประตูรั้วเล็กน้อย  เขายังคงหันไปมองทางอื่นด้วยสีหน้าแบบเดิม  ฉันเดินไปเปิดประตูรั้ว  เขายืนรออยู่อย่างนั้นจนฉันปิดประตูรั้วเรียบร้อยแล้ว  เขาจึงเดินนำฉันไปที่บ้านของเขา
“ชิโฮะจัง  มีงานอดิเรกมั๊ยจ๊ะ” แม่ของนาโอยะถามขึ้นที่โต๊ะอาหาร
“มีคะ  หนูชอบอ่านนิยาย”
เขายังคงนั่งนิ่ง  ฉันรู้สึกอึดอัดเพราะฉันต้องนั่งตรงข้ามกับเขา  ต้องมองเห็นหน้าที่เฉยเมยนั้นอยู่บ่อยๆ
“อ่านนิยายหรอ  แนวไหนจ๊ะ”
“แฟนตาซีคะ”
“ดีจังเลยนะ  นาโอยะเขาชอบวาดรูปหนะจ๊ะ” แม่ของเขาเอ่ยถึงเขา  ฉันเห็นเขาชะงักเล็กน้อย  ก็แค่นั้นแล้วเขาก็กลับเป็นเหมือนเดิม
“เด็กๆนั่งคุยกันไปก่อนนะจ๊ะ  เดี๋ยวน้าจะไปหยิบขนมมาให้” แล้วแม่ของนาโอยะก็ทิ้งเราให้อยู่ด้วยกัน
ฉันรู้สึกอึดอัดมากที่สุด  ฉันได้แต่นั่งก้มหน้ามองผ้าปูโต๊ะสีครีมสายตารางเล็กๆสีน้ำตาล  เขามองอยู่ ... ฉันรู้แต่ฉันจะไม่มองเขาหรอก  ฉันไม่ชอบเวลาที่เขาหันหน้าหนีฉันแล้วทำหน้าแบบนั้น...หน้าที่เฉยเมยแบบนั้น 
    เมื่อทานอาหารเสร็จแม่ของนาโอยะก็ให้เขามาส่งฉันที่หน้าบ้าน  เขายังคงทำเหมือนเดิม  เดินตามหลังฉันมาแล้วหยุดยืนรอจนฉันเข้าบ้านแล้วเขาถึงจะเดินกลับไป  ฉันขึ้นมาบนห้องนอนของฉัน  อ่านหนังสือเรื่องที่ฉันอ่านค้างอยู่ที่ข้างหน้าต่างซึ่งก็ตรงกับหน้าต่างห้องของนาโอยะ  ฉันก็ไม่ค่อยอยากมานั่งตรงนี้ซักเท่าไหร่หรอกเพียงแต่ตรงนี้เย็นสบาย  เขายืนอยู่ตรงหน้าต่างนั่น  ฉันเห็นชุดนอนของเขาอยู่เหนือขอบหนังสือของฉัน  ฉันจะไม่สนใจเขาแล้ว
    วันนี้ฉันยังคงกลับบ้านคนเดียว  และทุกอย่างก็เหมือนเดิม  เขายังคงเดินตามมาเหมือนเดิม  จนฉันเดินมาถึงมุมถนนก็เจอกับนักเลงคนหนึ่งเข้า
“เฮ้! น้องสาวไปเที่ยวด้วยกันหน่อยซิ” นักเลงคนนั้นเข้ามาจับข้อมือฉันไว้ข้างหนึ่ง
“ปล่อยนะ!” ฉันสะบัดมือของหมอนั้นออก  และนั้นก็ทำให้หมอนั้นโกรธมาก
“เล่นตัวจริงนะ” นักเลงคนนั้นตรงเข้ามาจะทำร้ายฉัน 
แต่เขา ... นาโอยะ  ก็เข้ามาขวาง  เขาต่อยหน้าหมอนั้นไปหมัดหนึ่ง  เลือดสีแดงฉานไหลออกมาจากปากของหมอนั้น  แต่หมอนั้นกับหยิบมีดพกออกมาและตรงเข้าแทงเขา
“นาโอยะ!!  ช่วยด้วยคะ  ช่วยด้วย” ฉันตะโกนด้วยความตกใจพลางเข้าไปประคองนาโอยะไว้ 
แต่แล้วเราสองคนก็ล้มลง  ฉันพยุงเขาไม่ไหว  เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากบาดแผลของเขามันมากมายจนทำให้ฉันทำอะไรไม่ถูก  และตอนนั้นเองมีพนักงานบริษัทเดินผ่านมาพอดี  เขาวิ่งไล่ตามนักเลงคนนั้นไป
“ชิโฮะ  เธอไม่เป็นไรนะ” เขาเอ่ยด้วยเสียงที่แผ่วเบาราวสายลม
“ฉันไม่เป็นไร  แต่เธอ ...”
เขาเอื้อมมือมาจับที่แก้มของฉัน  ฉันเพิ่งรู้ตัวว่าตอนนี้น้ำตาฉันกำลังไหล...มันไหลไม่ยอมหยุด  เขาใช้มือของเขาเช็คน้ำตาให้ฉัน  และฉันก็เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา  แม้จะดูอ่อนแรงแต่นั้นเป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็น  แล้วมือของเขาก็เลื่อนหล่นจากแก้มของฉันไปพร้อมกับรอยิ้มนั้น
“นาโอยะ!!!”
    ฉันพาเขามาส่งที่โรงพยาบาล  เขาต้องอยู่ในห้องไอซียู  อาการของเขาหนักมาก
“คุณคุจิอาริ  ชิโฮะคะ  คนไข้อยากพบคุณคะ” นางพยาบาลออกมาเรียกฉัน 
เมื่อฉันเข้าไปในห้อง  ฉันก็เห็นสายตาที่อ่อนแรงของเขามองมาที่ฉัน  ฉันเดินเข้าไปจับที่แขนของเขา 
“นาโอยะมีอะไรหรอ”
เขาทำเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง  ฉันจึงเข้าไปใกล้เขาจนแก้มของฉันเกือบจะติดกับจมูกของเขา  เขาใช้มือของเขาจับที่ผมของฉันและเขาก็หอบแก้มของฉันก่อนจะกระซิบที่ข้างหูของฉันด้วยเสียงที่แผ่วเบา
“ฉันรักเธอ” เขาพูดคำๆนั้นก่อนจะจากฉันไปตลอดกาล
“นาโอยะ!!” น้ำตาฉันไหลอาบแก้มอย่างไม่ยอมหยุด  ขาของฉันอ่อนจนไม่มีแรงที่จะยืน  ฉันทรุดลงร้องไห้อยู่กับแขนของเขา
    เมื่อกลับมาถึงบ้านฉันเอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง  มองเหม่อไปที่หน้าต่าง  มองเข้าไปในห้องของเขา  จนเสียงเคาะประตูดังขึ้น  แม่ของนาโอยะนั้นเอง  แม่ของเขาเอาสมุดสเก็ตภาพของเขามาให้ฉัน
“น้าว่านาโอยะคงอยากให้หนูเก็บเอาไว้”
ฉันเปิดดูในนั้น  มีภาพสเก็ตหลายภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าตาเหมือนฉันมาก  มีทุกกิริยาบทของฉัน  ทั้งในรถไฟ  ตอนทานอาหาร  ตอนที่ฉันหัวเราะอยู่กับรินริน  ตอนที่ฉันนั่งฟังเพลงอยู่บนเตียง  และตอนที่ฉันกำลังอ่านหนังสือ  น้ำตาฉันเริ่มไหลอาบแก้มอีกครั้ง  เขาน่าจะยิ้มให้ฉันเร็วกว่านี้  ถ้าเขายิ้มให้ฉันเร็วกว่านี้เราคงจะได้คุยกันมากกว่านี้  ได้หัวเราะด้วยกัน  ฉันยังคงจำได้ดี  คำๆนั้นที่เขาพูดก่อนจะจากฉันไป ฉันรักเธอ...
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น