เมืองสวรรค์ของคนบาป
                                เพียงวูบหนึ่งแห่งกาลเวลาที่มนุษย์ให้กำเนิดความวุ่นวายสับสนอลหม่าน ป่าไม้ที่ยืนหยัดให้ความชุ่มชื่นแก่ผืนดินถูกความเจริญทางวัตถุซัดโค่นจนราบเป็นหน้ากลอง แล้วพลิกแผ่นดินให้เป็นป่าคอนกรีต ณ ใจกลางมหานครที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองสวรรค์บนดิน แต่กลับเป็นนรกแหล่งซ่องสุมความบัดซบโลภโมโทสัน ที่จุดตัดบนถนนอุทัยและถนนจัทราอันเปรียนเหมือนจุดตัดของความดีและความเลว มีความเสื่อมทรามหยาบช้าของชาวสวรรค์เกิดขึ้น มุมหนึ่งที่ห้างแสงฟ้า ชายหนุ่มหน้าตาเรียบร้อยสะอาดสะอ้านผู้ปกปิดความชั่วร้ายไว้ใต้เสื้อสูท เขาหาเลี้ยงปากท้องด้วยการขโมยอาหาร ความสนุกตื่นเต้นเร้าใจที่แฝงเร้นอยู่ในการลักขโมยช่างเป็นเสน่ห์เย้ายวนที่ดึงดูดคนรักความท้าทายเช่นเขายิ่งกว่าอะไรในโลก จะไปสนใจอะไรในเมื่อมันเป็นแค่การเอาเปรียบเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ใคร ๆ ในเมืองนี้ก็ทำอยู่เป็นนิจ ขณะที่เขากำลังสาละวนอยู่กับการหากินของเขานั้น หนุ่มวัยรุ่นหน้าทะเล้นก็แอบย่องมาประชิดรถของเขาในที่ห้ามจอด ไม่ทันที่เจ้าของรถจะสังเกตเห็นความเป็นไปรอบตัว เด็กหนุ่มคนนั้นก็ลงมือขโมยอะไหล่รถอย่างชำนาญ และทิ้งรอยขีดเป็นทางยาวไว้บนตัวรถเป็นของขวัญชิ้นหนึ่ง
                              ถัดมาไม่ไกลนั้น ชายฉกรรจ์ชาติโจรร่างสูงใหญ่ ๒ คนกำลังบุกปล้นธนาคารอย่างอุกอาจ แม้ว่าจะมีปืนอยู่ในอำนาจและข่มขู่ด้วยเสียงกระโชกโฮกฮากเท่าไร แต่หาได้ปลุกกระตุ้นสามัญสำนึกแห่งพลเมืองดีไม่ ต่างคนต่างหมกมุ่นอยู่กับโลกส่วนตัวและปิดประตูความรับรู้เรื่องราวโลกรอบตัว บริกรยังคงยืนตัวแข็งทื่ออยู่อย่างนั้นไม่รู้สึกรู้สา ในมือถือแก้วเบียร์ที่เขาแอบถ่มน้ำลายและกำลังจะนำไปให้ลูกค้าผู้อาภัพดื่ม หญิงชรากรีดร้องแผดเสียงด้วยความตื่นตระหนกตกใจ ในใจนึกเสียดายเงินที่อุตส่าห์ขูดเลือดขูดเนื้อชาวสลัมจะมาโดนขโมยไปง่าย ๆ แบบนี้ ซ้ำร้ายชายหนุ่มผมฟูโต๊ะข้าง ๆ ซึ่งหมายตากระเป๋าถือราคาแพงของหญิงชราผู้นี้มานาน ก็ไม่รีรอที่จะฉวยโอกาสทีเผลอฉกกระเป๋าของเหยื่อไปอย่างรวดเร็ว
                              ความอัปยศอดสูมิได้จำกัดอยู่แต่ภาคพื้นดินเท่านั้น ที่ริมระเบียงบ้านชั้นบนแต่จ่อมจมด้วยความประมาทเลินเล่อของเจ้าของบ้านนั้น หล่อนมิได้ระมัดระวังเลยแม้แต่น้อย ว่ากระถางต้นไม้ที่หล่อนว่างไว้อย่างหมิ่นเหม่จะสามารถตกลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลกได้ และหากใครที่โชคร้ายพอก็อาจจะเจ็บตัวได้
                                แสงไฟบนถนนยังคงส่องสว่างไปทั่ว แต่ความมืดมิดกลับปกคลุมไปทั่วทุกซอกทุกมุมของจิตใจ ความชั่วร้ายยังคงสำแดงเดชอหังการอยู่เช่นนั้น  เยี่ยงว่าพระเจ้ามิได้สดับฟังเสียงโอดครวญร่ำไห้ขอความเมตตากรุณาเลยหรือไร จึงทำให้ความดีงามสูญสิ้นเหือดหายไปจากแผ่นดินนี้ จะมีประโยชน์อันใดเล่า หากผู้คนยังคงเหยียบย่ำเอารัดเอาเปรียบกัน เฉยชาต่อความทุกข์ร้อนของผู้อื่น และมิได้ยกระดับจิตใจของตน เมืองสวรรค์เมืองนี้ก็คงเป็นเมืองสวรรค์ของคนบาปดี ๆ นี่เอง
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น