วันกีฬาสี - วันกีฬาสี นิยาย วันกีฬาสี : Dek-D.com - Writer

    วันกีฬาสี

    เรื่องแต่งน่ะครับ เอามาให้อ่านกัน

    ผู้เข้าชมรวม

    535

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    535

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  23 ธ.ค. 46 / 17:20 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      วันนี้เป็นวันกีฬาสีของโรงเรียนครับ กีฬาสีโรงเรียนของผมมีสองวัน นี่เป็นวันที่สองที่ทุกคนต้องไปที่สนามกีฬา อย่างน้อยก็ไปนั่งเชียร์เพื่อนๆที่เป็นตัวแทนของสีที่จะไปแข่งกีฬา
               ความจริงแล้วทุกๆปีที่ผ่านมา ผมมักจะเบื่อกับงานกีฬาสีมาก ที่ต้องไปนั่งตากแดดเชียร์ตั้งแต่เช้าถึงเย็น ความจริงแล้วผมก็เป็นนักกีฬาเหมือนกันนะ ผมเป็นนักวิ่ง แน่นอนว่ากีฬาสียังไงมันก็มีแข่งวิ่งแน่นอน แต่ผมมันแค่นักเรียน ม.4นี่ ถึงจะเป็นนักกีฬาโรงเรียน ก็ใช่ว่าจะชนะรุ่นพี่ ม.ปลายได้ง่ายๆ(เพระโรงเรียนของผมมันแบ่งเป็น ม.ต้นกับ ม.ปลาย) ดังนั้น ผมก็เลยไม่ได้ลงแข่งกีฬา แน่นอนว่า หน้าที่ของผมในวันนั้น ก็คือนั่งเชียร์ตามคำสั่งของรุ่นพี่เหมือนทุกปี
               แต่ผมน่ะไม่สนใจการเชียร์หรอก กีฬาในสนามนั่นต่างหากที่ผมสนใจ ถึงแม้ว่าวันนี้ มันจะเหลือแค่กรีฑาลู่กับกรีฑาลานเท่านั้นแหละ
      กรีฑาลู่ของโรงเรียนผมก็คือวิ่งนั่นแหละส่วนกรีฑาลานก็มีทั้งพุ่งแหลน กระโดดไกล แล้วก็กระโดดสูงอะไรประมาณนี้ ผมไม่แน่ใจว่ามีอะไรบ้างเพระผมไม่สนใจพวกนั้นหรอก กีฬาที่ผมอยากดูอย่างเดียวก็คือวิ่ง
               โค้ชมักจะบอกผมเสมอว่า หากเราเจอกับนักกีฬาที่มีช่วงก้าวยาวกว่าเราเท่าตัว เราก็ต้องก้าวให้ถี่กว่าเขาสามเท่า หึหึหึหึหึหึ แล้วมันจะเป็นไปได้มั้ยครับท่านผู้ชม ไอ้การที่จะวิ่งให้ก้าวมันถี่กว่าเขาสามเท่าเนี่ย ผมไม่เข้าใจ แต่ว่ายังไงก็เถอะ ผมก็ซ้อมของผมเหมือนเดิม
               จะว่าไปการได้นั่งดูกรีฑานี่มันก็ไม่เลวเหมือนกัน ถึงแม้ว่าผมต้องแหกปากร้องเชียร์บางครั้งก็เถอะ โถ่คุณอย่างน้อยก็ทำเพื่อสีของเราไม่ใช่เหรอ รุ่นพี่เขาก็จะจบไปแล้วด้วย ถ้าน้องๆไม่ให้ความร่วมมือ พี่ๆคงเสียใจแย่ ยิ่งถ้าตอนเราต้องไปคุมน้องเอง แล้วน้องไม่ยอมร้องกันนี่เราก็คงปวดหัวเหมือนกัน ผมมักจะคิดอย่างนั้น แต่กับกีฬาแล้วผมคิดไปอีกแบบ ผมไม่รู้ว่าการพยายามฝึกซ้อมของเรา มันจะได้ผลมากมายแต่ไหน ถ้าเราใช้ความสามารถเต็มที่แล้ว เราจะเป็นที่หนึ่งไหม ร่างกายของเรามันจะไปได้ขนาดไหน ผมมักจะคิดว่า ถึงฝึกซ้อมไปมากเท่าไหร่ก็คงสู้คนที่มีร่างกายพร้อมกว่าเราไม่ได้ อย่างเช่นสูงกว่าเราซักยี่สิบเซ็น หรือจำพวกขายาวๆอย่างนี้เป็นต้น ผมก็เลยไม่รู้ว่าจะซ้อมหนักไปเพื่ออะไร แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ในวันนี้ ที่บางทีผมรู้สึกว่า มันเปลี่ยนความคิดของผมไปมากเลย !!!
               ตอนที่ผมดูการแข่งวิ่งไปเรื่อยๆ ผมก็เห็นน้องป่านลงแข่งขันวิ่งสี่ร้อยด้วย (คุณคงพอจะเดาได้ นี่เป็นรุ่นน้องที่ผมแอบชอบเอง) ตั้งแต่ผมเรียนอยู่โรงเรียนนี้มา 9 ปี (ตั้งแต่ประถม)ผมแทบจะไม่เคยเห็นเธอแข่งกีฬาเลย แต่มันก็ไม่แปลกมากหรอกครับที่เธอจะมาแข่ง เพราะกีฬาสีอย่างนี้ เป็นเวทีของนักเรียนทั่วไปที่อยากจะแข่งกีฬาอยู่แล้ว วันนี้ผมจะได้ดูเธอแข่งด้วย ดีใจจัง เย้เย้ๆๆ หะหะหะเธอไปที่ลู่แล้วครับ ท่าทางไม่เลวเลย แต่คุณอย่าลืม นี่มันเป็นการแข่งวิ่งสี่ร้อยเมตรเชียวนะ บางทีคุณอาจจะรู้ว่าเป็นระยะที่มีความ - เหน็ดเหนื่อย - มากที่สุด อย่าพูดถึงคำนี้มากเลยคุณ ผมเกลียจมัน!!! เธอออกวิ่งไปแล้วครับ อ้าวอะไรกันนี่เธออยู่ลู่กลาง แต่ผ่านไปสองร้อยเมตร เธอมาอยู่ที่โหล่เลย โอ้ น้องป่านที่น่ารัก ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ชนะในสนาม แต่ว่าเธอก็มีความพยายามยอดเยี่ยมมาก ไม่เป็นไรหรอก เพราะอย่างน้อยๆเธอก็ชนะใจคนทั้งสนาม รวมทั้งผมด้วย ก๊ากๆๆๆๆๆ ผมคิดอะไรอยู่เนี่ย งี่เง่าจริงๆ ผมหันไปคุยกับเพื่อน ทั้งๆที่ไม่อยากจะละสายตาไปจากน้องป่านเลย ผมพูดไปแค่แป๊บเดียวเท่านั้นแหละ พอหันกลับมาที่เดียวเห็นน้องป่านกำลังวิ่งมาเป็นอันดับสาม อันดับสอง อันดับสอง สองแล้ว แล้วเธอก็เข้าเส้นชัย.....
               นั่นเป็นสิ่งที่ผมประทับใจมาก ถึงแม้ว่ามันเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆก็เถอะ แต่สีหน้าของเธอดูเอาจริงเอาจังมาก นั่นไม่ได้เกิดจากที่เธอมีช่วงก้าวยาวกว่าคนอื่น หรือมีร่างกายที่ไร้ที่ติมาตั้งแต่เกิดหรอก แต่เธอความพยายามและเชื่อมั่นว่าจะชนะ ซึ่งตอนนี้ ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับนักกีฬาทุกคน ตอนนี้ผมเพิ่งเข้าใจว่า ชัยชนะที่แท้จริงนั้น สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน
               ตั้งแต่วันนั้น ผมก็ตั้งใจฝึกซ้อมทุกวัน และผมก็รักน้องป่านเพิ่มขึ้นมากตามไปด้วย ถึงแม้ว่ามันจะไม่ค่อยเกี่ยวข้องกันเท่าไหร่ก็ตามทีเถอะ แต่ที่น่าเศร้า เพราะผมได้ข่าวจากรุ่นน้องม.3ที่เป็นนักกีฬาว่า น้องป่าน พอขึ้นม.4จะย้ายโรงเรียนแล้ว จะให้ผมย้ายตามไปมันก็คงไม่ได้แน่ เพราะผมอยู่ม.4 จะขึ้นม.5แล้วนี่ ผมจึงต้องรีบไปบอกรักเธอแล้วล่ะ ทั้งๆที่ผมไม่เคยคุยกับเธอเลยซักคำเนี่ยนะ มันเป็นไปได้เหรอ ผมยังงงตัวเองเลย แต่คุณนี่มันเรื่องแต่งขึ้นนี่ อะไรก็เกิดขึ้นได้ เอาละไปกันเลย

      \"น้องป่านครับ\"

      \"คะ\"

      \"พี่มีเรื่องจะสารภาพน่ะครับ\"

      \"อะไรล่ะคะ\"

      \"พี่ชอบน้องป่านมาก เป็นแฟนกับพี่เถอะนะครับ\"

               หนึ่งในล้าน โอกาสเป็นของผมเสมอ\"

      \"ก็ได้ค่ะ\"

               ผมบอกคุณแล้ว

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×