จริงหรือ...ความรักทำให้คนตาบอด - เธเธฃเธดเธเธซเธฃเธทเธญ...เธเธงเธฒเธกเธฃเธฑเธเธเธณเนเธซเนเธเธเธ•เธฒเธเธญเธ” นิยาย จริงหรือ...ความรักทำให้คนตาบอด : Dek-D.com - Writer

    จริงหรือ...ความรักทำให้คนตาบอด

    หลายคนคิดว่า ความรักทำให้คนตาบอด แต่ถ้าตาบอดแล้วผมได้รัก...ผมก็ยอม

    ผู้เข้าชมรวม

    251

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    251

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  12 มิ.ย. 48 / 13:18 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ***คุณเชื่อมั๊ยว่า...***

                ***ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ...***

                     ***แต่ถ้าถามผม...ผมไม่เชื่อ***

                          ***เพราะถ้าผมเชื่อ...เท่ากับว่า...ผมกำลังหลอกตัวเอง...***

      ชีวิตผมตั้งแต่เกิดจนโต เหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาบ   พ่อแม่ผมเหรอครับ...ท่านเสียไปตั้งแต่ผมอายุ 15   ญาติคนไหนๆก็อยากได้ผมไปเลี้ยงดูทั้งนั้น  ก็สมบัติที่พ่อแม่ผมทิ้งไว้ มันใช่น้อยๆเสียเมื่อไหร่  ผมรู้ทันพวกผู้ใหญ่ทุกอย่าง  ผมยืนยันว่าผมดูแลตัวเองได้ ถึงแม้ไม่มีใครเชื่อ แต่ก็ไม่มีใครมาบังคับใจผมได้เหมือนกัน

      วัยรุ่นกับความรักน่ะ มันของคู่กัน ตามที่ใครๆเรียนวิชาสุขศึกษามานั่นแหละว่าวัยรุ่นจะมีพฤติกรรมสนใจเพศตรงข้าม...ผมก็เหมือนกัน...

      สาวน้อยหน้าใสที่นั่งอยู่หน้าห้องคนนั้นล่ะ เสป็คผมเลย  ผิวหน้าขาวมีเลือดฝาดเปล่งปลั่งของเธอมักกระชากใจผมให้หันไปมองเธออยู่เสมอ  

      ถ้ารู้ว่าขึ้น ม.4 แล้วได้เจอนางฟ้าน่ารักๆอย่างนี้ล่ะก็...ผมตัดสินใจขึ้น ม.4มาตั้งนานแล้ว

      ปฏิบัติการเรียกร้องความสนใจมาถึงแล้ว  ด้วยความที่ผมเป็นคนรูปหล่อ เกิดมารวย  คงไม่ยากเกินไปที่จะให้สาวน่ารักๆซักคนมาเป็นเพื่อนคู่ใจ

      เธอชื่อเก๋ครับ  ไม่ใช่ว่าผมใจกล้าหน้าด้านเดินเข้าไปถามเธอในกลุ่มเพื่อนเป็นสิบหรอก  แต่การเรียนวันแรกก็ต้องแนะนำตัวเองหน้าห้องเรียนเสียก่อน  ผมแน่ใจว่าเธอหน้าแดงแป๊ดเมื่อผมออกไปแนะนำตัวหน้าห้อง แล้วมองเธอไม่วางตา

                                 \"เราชื่อ นที  เรียกว่านทีเฉยๆก็ได้  นิสัยร่าเริงและ...รักใครรักจริง\"

      ดูเหมือนว่าเพื่อนใหม่ทั้งห้องจะรู้ใจผมเป็นพิเศษ วี้ดว้ายกระตู๊วู้กันใหญ่  แต่ผมต้องรีบกลับเข้าที่ เพราะสายตาอาจารย์ประจำชั้นรุ่นป้าของผมกำลังปรายตามองมาอย่างไม่สบอารมณ์นัก

      ***

      ผมบอกแล้วว่ารูปหล่อเกิดมารวยอย่างผมน่ะ  สาวๆหลงกันทั้งโรงเรียน  เหลือแต่น้องเก๋สุดสวย หนึ่งเดียวในดวงใจของผมนั่นแหละที่ยังทำเมินเฉย
      \"เก๋...เราจีบเก๋มาตั้งนานแล้วนะ ทำไมเก๋ไม่ใจอ่อนให้เราซะที\"  ผมเอ่ยเป็นกิจลักษณะ เมื่อเพื่อนๆทำท่ารู้ทันหลบฉากออกไปขณะทำรายงาน
      \"เบื่อแล้วเหรอ\"  เธอพูด  มือยังเขียนต่อไปเหมือนไม่สนใจผมเลย
      \"ไม่ได้เบื่อ  แต่เราก็อยากจะรู้ว่าเก๋ชอบเราบ้างรึเปล่า...เราไม่อยากรอเก้อ\"
      \"งั้น...\"  เธอทำท่าคิด  ดูน่ารักน่าหยิกซะเหลือเกิน  \"...นายก็คบคนอื่นไปก่อน  ถ้าฉันโอเคเมื่อไหร่ฉันจะบอกละกัน\"
      \"ไม่อ่ะ\"  ผมส่ายหัวยิกๆ  ถ้าเป็นคนอื่นคงรับข้อเสนอแสนหวานนี้ไปแล้ว  \"เรามีหัวใจดวงเดียว  แล้วเราก็ให้เก๋คนเดียวหมดแล้วด้วย\"
      เก๋หน้าแดง  อายม้วนต้วน  ทำเอาผมยิ้มออก อย่างน้อยเธอก็ต้องมีใจให้ผมบ้างล่ะ
      \"อี๋...เสี่ยวแ_ก\"   เพื่อนๆผมที่หลบอยู่หลังพุ่มไม้ก็ร้องขึ้นมาดังลั่น


           ***คุณเชื่อมั๊ย...***

                ***ความพยายามอยู่ที่ไหน...ความสำเร็จก็อยู่ที่นั่น***

                     ***ผม...เชื่อสนิทใจ***

      เก๋ยอมตกลงปลงใจคบกับผมในวันปัจฉิมนิเทศ นักเรียนชั้นม.6   ใครๆก็ร้องไห้ที่ต้องจากเพื่อนไป  คงจะมีผมคนเดียวที่ทำหน้าระรื่นกระโดดดีใจเป็นลิงโลด...แต่คงจะไม่ใช่คนเดียวซะแล้ว
      \"ไอ้นทีโว้ย  น้องพลอยมาบอกว่าชอบข้า  เค้าเป็นแฟนข้าแล้ว\"  ไอ้โต้งเพื่อนคู่หูของผมที่คบกันมาแต่เล็กแต่น้อยร้องโวยวายดังลั่น  ทำเอาเพื่อนนักเรียนแถวนั้นคิดว่าเรา 2 คนเสียใจที่ต้องจากกันขั้นรุนแรง


           ***คุณเชื่อมั๊ย...***

                ***น้อยนัก...ที่รักแรกจะไม่จีรังยั่งยืน***

                     ***ตอนแรก...ผมไม่เชื่อหัวชนฝา***

                          ***...แต่เชื่อเถอะ...***

      ผมกับเก๋คบกันหวานชื่นมาสี่ปีจนเรียนจบมีงานทำ  โดยที่ผมไม่เคยระแคะระคายเลยว่า  เธอ...มีคนอื่น
      \"เก๋เห็นเราโง่นักรึไง  เก๋ปั่นหัวเรามาตลอด\"  ผมเสียงดังใส่เธอ ทั้งๆที่ไม่เคยทำมาก่อน
      \"เก๋ไม่ได้หลอกนทีนะ  พี่เค้ามาคุยดีเก๋ก็ดีตอบ  แค่เนี้ย...ผิดด้วยเหรอ\"  เก๋ตอบเบาๆ  แต่มันกลับทำให้ลมเพชรหึงของผมกระพือขึ้นอีก
      \"ไม่ผิด  ถ้าเก๋ไม่ออกไปเที่ยวกินข้าวดูหนังกับมันบ่อยๆ\"
      \"เค้าชวนแล้วให้เก๋ปฏิเสธ มันเสียมารยาทนะ\"
      \"เก๋ปฏิเสธได้แต่เก๋ไม่ทำต่างหาก  เก๋ชอบมันใช่มั๊ย\"  ผมตะคอกใส่
      \"ใช่...แล้วไง\"  เธอตะคอกกลับมา แต่น้ำเสียงสั่นๆ
      \"แล้วเราล่ะ\"  ผมเริ่มอ่อนลง เมื่อคำที่ไม่อยากได้ยินเล็ดลอดออกจากปากของคนที่ผมรักมากที่สุด
      \"เก๋เบื่อ...ได้ยินมั๊ยว่าเก๋เบื่อ\"  เธอน้ำตาไหลพรากวิ่งออกไปจากห้องของผม  ผมไม่อยากตามเธอไปเลย...แต่มันสุดจะห้ามใจจริงๆ

      ผมวิ่งตามเก๋ลงมาถึงริมถนน  เห็นเธอวิ่งกึ่งเดินอยู่ลิบๆ เลยรีบตามไป ไม่มองทาง  เป็นเหตุให้...
      กรรมกรสองสามคนเดินแบกไม้พาดบ่ามาตามทาง  แล้วอยู่ๆก็หัน  สันไม้ซึ่งอยู่ระดับเดียวกับเบ้าตาของผมชนกันอย่างแรง  ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นคือคนมากมายเข้ามามุงดู  แต่เสียงสุดท้ายที่ผมได้ยิน  เป็นเสียงเก๋ที่เรียกชื่อผมดังลั่น  โดยที่ผม...หาเธอไม่เจอ


           ***คุณเชื่อมั๊ย***

                ***สิ่งที่เราไม่เคยคิดว่าขาด...***

                    ***...อาจเข้ามาตอนที่เรากำลังขาด***

      ผมลืมตาขึ้นโดยที่ทุกสิ่งทุกอย่างดำมืดไปหมด  ผมส่ายหัวไปมา เผื่ว่าตัวเองจะมองอะไรเห็นบ้าง...แต่ไม่เลย

      \"ตื่นแล้วรึคะ\"  เสียงไม่คุ้นหูดังขึ้น  แต่ก็ไพเราะพอที่จะทำให้ผมหันไปสนใจ แม้จะไม่รู้ทาง
      \"คุณเป็นใคร  แล้วผมอยู่ที่ไหน  ทำไมผมมองไม่เห็น\"  ผมเอ่ยถามไปทางที่คิดว่าเป็นต้นเสียง
      \"ดิฉันเป็นพยาบาลที่ต้องคอยดูแลคุณค่ะ  ประสาทสายตาคุณถูกกระทบกระเทือน  ช่วงนี้อาจจะ...เออ ไม่สะดวกในการมองเห็นนะคะ\"  เธอพูดตะกุกตะกัก  เหมือนไม่อยากบอก
      \"...ผมตาบอดเหรอ...\"  ผมเอ่ยถามเมื่อจับใจความได้
      \"เปล่าค่ะ...แค่...กำลังรอดวงตาที่ต้องถูกบริจาคมาน่ะค่ะ\"  เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
      ผมเงียบ  ไม่อยากพูดต่อ เพราะยังไงความหมายของมันก็คือ \"ตาบอด\"
      \"แฟนผมล่ะ\"  ผมเอ่ยถามเมื่อเราทั้งคู่เงียบกันไปพักหนึ่ง
      \"เพิ่งกลับไปเมื่อเช้าค่ะ  ช่วงบ่ายๆคงมา\"  เธอตอบเบาๆ  ก่อนจะพยายามเอาหลอดดูดน้ำจ่อที่ปากผมให้ผมดูดแต่โดยดี
      \"คุณชื่ออะไรครับ\"  ผมถามขึ้นเมื่อเห็นว่าคุยกันมาระยะหนึ่งแล้ว
      \"วาลุกาค่ะ  เรียกวาเฉยๆก็ได้\"  ผมพยักหน้ารับรู้แล้วค่อยๆล้มตัวลงนอนโดยมีวาลุกาช่วยเหลือ  รอคอยคนที่ผมรักมาถึง

      เก๋ไม่ได้มาหาผมตอนช่วงบ่ายแต่กลับเป็นตอนค่ำของทุกวัน  ผมนอนโรงพยาบาลมาสองอาทิตย์แล้ว  อยากจะเห็นโลกภายนอกผ้าก็อตแต่ก็ทำไม่ได้  ผมจึงใช้เวลาที่เปล่าประโยชน์รอคอยการมาของเก๋  แต่บางวันก็รอเก้อ...
      \"เธอคงงานยุ่งน่ะค่ะ\"  วาลุกาบอกผมทุกครั้งที่เก๋ไม่มา
      \"คุณวาคงเหนื่อยแย่นะครับ  ต้องดูแลผมทั้งวันทั้งคืน\"  ผมเอ่ยขึ้นด้วยความเกรงใจ
      \"ไม่หรอกค่ะ...วายินดีทำ\"  เธอตอบ  ด้วยประสบการณ์ที่ต้องใช้หูผ่านมาสองอาทิตย์ทำให้ผมจับน้ำเสียงรื่นเริงของเธอออก
      \"คุณดีใจที่ได้ดูแลผม...\"  ผมเอ่ยถาม  พอจะรู้คำตอบเมื่อมือที่ช่วยห่มผ้าชะงัก
      \"วาดีใจค่ะที่ได้ดูแลผู้ป่วยทุกคน\"  วาลุกาตอบเร็วๆ  \"ราตรีสวัสดิ์นะคะ\"  เธอเอ่ยแล้วปิดประตูลง
      ผมมองไปตามเสียง  นึกดีใจทีได้ยินเสียงไพเราะก่อนนอนทุกคืน  คุยยามเหงา และปลุกทุกเช้า  \"ราตรีสวัสดิ์ครับคุณวา\"


           ***คุณเชื่อมั๊ย***

                ***บางอย่าง...ถ้ายิ่งตามหา***

                     ***มันจะยิ่งหนีหาย...***

      ผมดีใจยิ้มระรื่นเมื่อได้ฟังข่าวดีจากนางพยาบาลประจำตัว
      \"อาทิตย์หน้าคุณจะได้ผ่าตัดเปลี่ยนดวงตาค่ะ\"
      \"ผมจะมองเห็นได้เหมือนเดิมใช่มั๊ยครับ\"
      เธอตอบรับสั้นๆ ทำให้ผมรีบพูดต่อ
      \"ดีจัง ผมจะได้เห็นหน้าคุณวาเร็วๆ\"  ต่อมขี้หลีของผมเริ่มทำงานทั้งที่ตามองไม่เห็น  \"เสียงเพราะขนาดนี้แล้วจะสวยขนาดไหน\"  
      \"วาไม่สวยอย่างที่คุณคิดหรอกค่ะ\"  เธอพูดเบาๆ
      \"อะไรกันครับ  คนสวยมักถ่อมตัวอย่างนี้ทุกคนรึเปล่า\"
      วาลุกาเงียบไป  แม้ผมจะติดใจว่า ทำไมเธอถึงปฏิเสธ แต่ความคิดของผมยังคงเดิม
      \"วันที่ผมเปิดตา  คุณวาต้องอยู่ด้วยนะครับ ผมอยากเห็นหน้าคุณ\"

      แต่ความหวังของผมหมดลงเมื่อผมเปิดตา  เห็นแสงจ้าส่องเข้ามาในห้องคนไข้ พร้อมกับใบหน้าที่ผมไม่มีวันลืม
      \"นที นายมองเห็นแล้ว\"  เก๋กอดผมหลวมๆ ก่อนที่ผมจะพูดอะไร  เธอไม่รู้ว่าผมสอดส่ายสายตามองหาวาลุกา

      \"วาลุกาลางานกลับบ้านค่ะ  ไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไร\"  พยาบาลที่ดูแลผมวันสุดท้ายตอบผม
      \"เธอสวยมั๊ยครับ\"  ผมถามอีก  นึกสงสัยสายตาที่พยาบาลคนนั้นมองมา
      \"คุณคิดว่ายังไงล่ะคะ\"  เสียงเธอกลั้วหัวเราะ  ไม่เหมือนเสียงหัวเราะเสนาะหูของวาลุกายามคุยกับผม
      \"คงจะ...สวย\"  ผมตอบ
      \"แล้วแต่คนจะมองค่ะ\"  พยาบาลตอบเพียงแค่นั้นแล้วออกจากห้องไป  ให้ผมนั่งครุ่นคิดอยู่คนเดียว

      \"ผมอยากทราบที่อยู่ของพยาบาลที่ชื่อวาลุกาครับ\"  ผมเข้าไปถามประชาสัมพันธ์ เมื่อออกจากโรงพยาบาลได้ประมาณหนึ่งเดือน  สายตาสอดส่ายหาวาลุกาตลอด
      \"อยากทราบไปทำไมคะ\"
      \"ผมอยากพบเธอน่ะครับ\"
      \"คงให้ไม่ได้หรอกค่ะ  ประวัติของบุคลากรของโรงพยาบาลเป็นความลับค่ะ\"
      ผมเดินคอตกออกมา  นึกน้อยใจที่วาลุกาทำผิดสัญญาที่เขาขอไว้


           ***คุณเชื่อมั๊ย***

                ***ความรักทำให้คนตาบอด***

                     ***แต่สำหรับผม...***

                         ***ยอมตาบอด...เพื่อที่จะได้รัก***

      ผมทะเลาะกับเก๋อย่างรุนแรงอีกครั้งเมื่อจับได้ว่าเธอไปเที่ยวกับไอ้หนุ่มคนเดิมอีก  
      \"เราสุดจะทนแล้วนะเก๋\"
      \"ความผิดของนายนั่นแหละ  วันๆเอาแต่ตามหาพยาบาลคนนั้น ไม่สนใจเก๋เลย\"  เธอขึ้นเสียง  ผมสะอึกไปเหมือนกันเมื่อเธอพูดความจริง
      \"แม่นั่นไม่ได้สวยอย่างที่นทีคิดหรอกนะ  หน้าตาอย่างกับ...\"
      \"หยุดนะเก๋  อย่าว่าวาเด็ดขาด\"
      \"นี่ถึงกับว่าไม่ได้เลยเหรอ\"
      \"เก๋...เรารักเก๋นะ\"
      \"แล้วแม่พยาบาลนั่นล่ะ  นทีบอกเก๋สิ  ว่าไม่ได้ชอบมัน\"
      \"...เรา...\"  ผมชะงัก  ไม่อยากพูดอะไรที่ตรงข้ามกับใจตัวเอง
      น้ำตาของเก๋ไหลพราก  เหมือนเรื่องราวในอดีตย้อนกลับ  รวมทั้ง...ไม้ที่กระทบกับเบ้าตาจุดเดิม

      ผมลืมตาขึ้น  ทุกสิ่งทุกอย่างดำมืด เหมือนเมื่อหลายเดือนก่อน  ผมเงี่ยหูฟัง  เพื่อจะได้ยินเสียงไพเราะเสนาะหู
      \"ตื่นแล้วหรือคะคุณ\"  เสียงหญิงสาวอย่างกับนกกระแตแต้แว้ดดังขึ้น  ทำเอาผมถอนใจ

      \"มาแล้วเหรอเก๋\"  ผมพูดขึ้นเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าจากรองเท้าส้นสูง
      \"นที...\"  คนรักของผมพูดขึ้น  เธอจับมือผมไว้  คราวนี้ไม่ได้มีเพียงเสียงฝีเท้าของเธอคนเดียว แต่มีเสียงของอีกคนหนึ่ง
      \"เก๋รักนทีนะ...\"  ผมยิ้มออก  พร้อมจะพูดว่าผมก็รักเธอเหมือนกัน  แต่เธอชิงพูดก่อน
      \"...แต่เก๋ไม่มีความอดทนพอที่จะอยู่ดูแลคนตาบอดได้หรอก\"  ผมอึ้ง  
      \"หมายความว่ายังไง\"  ผมถามเบาๆ
      \"หมอบอก...\"  เธอสะอื้นเบา  \"ตาของนายอาจจะไม่สามารถเปลี่ยนใหม่ได้อีก  เพราะประสาทตาเสียหายมาก  นายต้องตาบอดตลอดชีวิต\"
      ผมนิ่งเงียบ  เหมือนถูกตีกลางแสกหน้า
      \"แล้วเก๋กับพี่ปริญจะมาเยี่ยมบ่อยๆนะ\"  เธอบอก  ค่อยๆปล่อยผมออกจากการจับกุม  เสียงปิดประตูเหมือนกักขังผมไว้คนเดียว...ตลอดไป

      ประตูถูกเปิดขึ้นอีกครั้งเมื่อถึงเวลาอาหารกลางวัน  ผมเบือนหน้าหนี ไม่อยากกินอะไรทั้งนั้น
      \"ทานซะหน่อยเถอะค่ะ  ประสาทตาใช้ไม่ได้และประสาทอย่างอื่นยังใช้ได้อยู่นะคะ\"  เสียงไพเราะที่ผมอยากได้ยินดังขึ้น  ทำให้ผมหันขวับไปทางต้นเสียง
      \"วาลุกา!\"
      \"ค่ะ  วาเอง\"  เธอตอบ  ผมเอื้อมมือเปะปะไปหาเธอก่อนรั้งเธอเข้ามาใกล้
      \"คุณวา  อย่าไปอีกนะ  ผมไม่เหลือใครแล้ว\"
      \"วาไม่สวยนะคะ\"  เธอบอกผมด้วยเสียงแผ่วเบา เหมือนน้อยใจในโชคชะตา
      \"ช่างเถอะ...ผมไม่สนใจ\"
      \"คุณนทีไม่อยากเห็นหน้าวาแล้วเหรอคะ\"
      ผมส่ายหน้า  \"ผมไม่มีทางได้เห็นแล้วล่ะ  อีกอย่าง พอผมมองเห็นคุณก็หนีผมไปอีก  ผมยอมเป็นอย่างนี้เพื่อได้อยู่กับคุณดีกว่า\"
      วาลุกากอดผมแน่น  เสียงสะอื้นไห้ทำไห้ผมรู้ว่าเธอร้องไห้
      \"ไม่เคยมีใครรักวา  ตั้งแต่พ่อกับแม่ตาย ก็ไม่มีใครรักวาเลย เพราะว่าไม่สวยไม่ดูดีเหมือนคนอื่น\"
      ผมพยายามใช้มือทั้งสองข้อนใบหน้าเธอขึ้นมา
      \"วาของผมดีเสมอ  เชื่อผมนะ  วาเสียงเพราะ พูดเพราะ  ผมชอบฟังวาพูด เหมือนให้นางฟ้าเล่านิทานให้ฟังเลยล่ะ  วามีน้ำใจ วาดูแลคนไข้  แค่นี้มันก็ควรค่าพอแล้วที่ผมจะรักคุณ\"
      วาลุกาไม่พูดอะไรอีก  นอกจากสะอื้นอยู่ในอ้อมอกผม  


           ***คุณเชื่อมั๊ย***                                                                                                              ***คุณเชื่อมั๊ย***

               ***ความรักจะเป็นสิ่งที่สวยงาม...ถ้าเราใช้ใจมอง***                ***ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ***                    

                     ***...เพราะความรักเกิดขึ้นมาจากใจ...***                ***...แต่มันจะเห็นได้ชัดขึ้นมาก...***

                         ***แต่มันจะด้อยค่าลงไป...***                                                                     ***...ถ้าเราใช้...***

                              ***ถ้าถูกเหยียดหยามด้วยสายตา***                                        ***...หัวใจเป็นประตู...***

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×