วันเสาร์ แรมสองคำ่ เดือนสิบสอง ปีจออัฐศก ศักราชหนึ่งพันหนึ่งร้อยยี่สิบแปด
                  ฉันย่างกรายไปอย่างเงียบเชียบในความมืดมิด ใจเต้นระทึกเมื่อนึกถึง \"สิ่งนั้น\" ....ของลำ้ค่าของฉันที่อาจเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าประวัติศาสตร์....ฉันไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร รับรู้ได้แต่เพียงความรู้สึกตื่นเต้นที่เข้ามาเอ่อล้นในจิตใจของฉันตอนนี้...ฉันลูบคลำ \"สิ่งนั้น\"อย่างทะนุถนอมมันส่องประกายสีเขียวงดงามในความมืด พลันนั้นฉันก็ได้ยินเสียงคนตะโกนเรียกชื่อฉันดังลั่นวัดพระศรีสรรเพชร...
\"ดุจดาว...ดุจดาว เธออยู่ที่นี่หรือปล่าวน่ะ...แย่แล้วๆเขาว่าพวกพม่าจะเข้ากำแพงเมืองมาได้ล่ะ...\"
เฮ้อ....ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก...นึกว่าใครที่แท้ก็ \"วารี\" เพื่อนผู้ลับรู้แผนการของฉันนี่เอง ฉันเอื้อมมือไปคว้าตัวหล่อนเข้ามาในมุมๆหนึ่งที่ฉันใช้ทำสิ่งนั้นขึ้นมา.....
              \"จุ๊ๆอย่าเสียงดังไปวารีเธอๆดูนี่สิ...สะ...สำเร็จแล้ว\"ฉันพูดด้วยเสียงสั่นเครือหลังจากที่จัดการหยด \"สิ่งนั้น\" เจ้าของเหลวสีเขียวข้นเรืองแสงลงไปบนตัวของเด็ฏคนหนึ่ง...ฉันก็อดที่จะสงสารพ่อแม่ของเด็กคนนี้ไม่ได้นะ...แต่ก็ช่วยไม่ได้นี่หน่า...พวกเขาช่างไม่รู้อะไรเลยจริงๆ...พวกเต่าล้านปีกรุงศรีอยุธยาเชื่อมั่นว่าพวกเขาจะปลอดภัยภายใต้กำแพงเมืองนี้...พวกเขาไม่รู้เลยว่าอีกไม่นานข้าศึกก็จะบุกเข้าเมืองมาได้แล้ว.....โอ๊ยฉันไม่อยากจะคิดเลยจริงๆ...เอาเป็นว่าช่างมันเหอะ...ตอนนี้สิ่งที่น่าสนใจปรากฎอยู่ตรงหน้าชัดๆ....
            \"ดะ...ดุจดาว...มันสำเร็จแล้วจริงๆด้วย...มันสำเร็จแล้ว \" วารีร้องออกมาเสียงสั่นเครือจนโอเวอร์(ความจริงฉันก็ด้วยแหละ)ขณธจ้องมองร่างของเด็กน้อยที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง...บริเวณศรีษะที่เคยมีเส้นผมปรกคลุมอยู่ก็ปรากฎขั้วสีเขียวงอกขึ้นมา  ร่างก็หดเล็กลงไปจนกลายเป็นลูกกลมๆดูแปลกตา...ลักษณะทางกายภาพพอบ่งบอกได้ว่ามันต้องเป็นพืชแน่ๆ...ใช่..มันจะดูคล้ายพืชมากทีเดียวหากเจ้าพืชต้นนี้ไม่ได้กำลังแหกปาก...เอ๊ย...ร้องไห้จ้าออกมา...
            \"วารีเป็นยังไงล่ะ...เราสำเร็จอย่างงดงามใช่ใหม\"ฉันพูดกับวารีพลางหันไปยิ้มเสแสร้งให้เด็กน้อยในร่างพืชแปลกประหลาดนั้น(แหะๆๆประมาณว่าสร้างภาพ)วารียิ้มตอบกลับมาให้ฉันพยักหน้าหงึกๆสองทีก่อนที่ฉันจะค่อยๆกล่อมเด็กน้อยให้หลับแล้วอุ้มไปซ่อน
            \"มันคือผลไม้ของฉัน....ฉันจะเรียกมันว่า \"เมลอน\"ล่ะกันนะ\" ฉันโฮบอุ้มผลเมลอนไว้ในอ้อมแขนด้วยความยินดี.......
                            วัน....เอ๊ย...วันอะไรก็ไม่รู้เหมือนกันแต่ก็ช่างมันเถอะ...ตอนนี้แผนการเพื่อมวลมนุษยชาติของฉันใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้วล่ะ เหลือเพียงอีกไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้นแหละ...ฮ่าๆๆๆๆ  เราสองคนเดินฝ่าความมืดมิดอันธการนั้นไปด้วยกัน สายตาของวารีชินกับความมืดแล้ว...แต่ฉันสิ...แต่ก็ไม่เป็นไร..ฉันคว้ากระบอกไฟฉายผลงานประดิษฐ์อันน่าภาคภูมิใจของฉันขึ้นมา...ฉันตั้งชื่อมันจากชื่อของป้า \"โฉมฉาย\" ป้าขายบัวลอยข้างบ้านในฐานะที่หล่อนให้ฉันกินบัวลอยฟรีถ้วยนึง...ฉันพุ่งตัวไปคว้าเจ้านำยากลายพันธ์ุของฉันในความมืด  ความยินดีพลุ่งพล่านไปทั่วร่างของฉัน....เหลือแค่ขั้นตอนสุดท้ายเท่านั้น....ฉันรำพึงกับตนเอง
                            วัน...เฮ้อ...ก็ไม่รู้เหมือนเดิมแหละ...ตอนนี้สิ่งที่ฉันรู้ก็คือ ข้าศึกบุกเข้ามาแล้ว...พวกพม่ากำลังจะทลายกำแพงเข้ามาได้แล้วเหอะ...ฉันอยากเห็นนำ้หน้าไอ้พวกพม่านัก  ถ้าพวกพม่าเข้ามาแล้วพบแต่ลูกเมลอนเต็มเมืองไปหมดจะว่ายังไง...หนอย...คิดจะมาลอกทองในเมืองเหรอ...เสียใจย่ะ...ฉันลอกไว้เอาไปฝากร้านทองที่เยาวราชหมดแล้ว...เอ๋..แต่เดี๋ยวก่อนนะ..ฉันกับวารียังไม่ได้กินนำ้ยานี่เลยนิ
ฉันรีบส่งนำ้ยาสีเขียวมรกตนั่นให้วารีกิน หล่อนคว้าไปซัดเอิ้กๆ...ต๊าย...ยัยนี่ไม่มีสมบัติผู้ดี...ก่อนที่ฉันจะเอามาดื่มบ้าง...ร่างของฉันค่อยๆกลายเป็นหนึ่งในฝูงเมลอนอยุธยา...ยัยวารีหัวเราะฉันคืกๆ...เหอะๆๆ..ยัยนี่...เดี๋ยวฉันจะจับทำ....เอ๊ะทำอะไรดี.....ช่างเถอะ ตอนนี้พวกพม่าบุกเข้ามาในกำแพงเมืองได้แล้ว....ก็อย่างที่คิดนั่นแหละนะ...พวกมันตกใจพากันล่าถอยไปหมด...ก็จะไม่ให้ตกใจได้ไงล่ะ...ในเมืองน่ะมีแต่เมลอนเป็นพันๆลูกไม่มีคนเลยสักคน....เย้...ชาวกรุงศรีรอดแล้ว...รอดเพราะฉันผู้น่ารักคนนี้ แต่ว่า...เอ๋...
                            \"วารี...เอ่อ...ฉันคิดว่าฉันลืมคิดสูตรนำ้ยาคืนร่างเดิมอ่ะ....\"ฉันอุทานออกไป...คุณว่าผลเป็นยังไงเหรอค่ะ....ฮือๆชาวกรุงนับพันในร่างผลไม่ย่างสามขุมมาทางฉันด้วยอาวุธครบมือ...นั่นแหละค่ะ...ความผิดพลาดครั้งสำคัญของฉัน...ฮือๆ....ช่วยด้วยค่าาาาาา
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น