\"อุ๊บ! ขอโทษครับ\" ชายคนนั้นพูดขณะที่ก้มลงเก็บกระเป๋าของฉันที่ตกลงอยู่บนพื้น  ฉันเองก็ก้มลงเก็บสมุดของเขาเหมือนกัน
\"ไม่..ไม่ต้องหรอกครับ\" เขาพยายามปฏิเสธแต่ฉันกลับส่ายหน้าและยื่นสมุดให้เขา เขาก็รับไว้อย่างเขินๆ
\"ขอโทษครับที่เดิชนคุณเมื่อสักครู่\" เขากล่าวขอโทษฉัน ซึ่งฉันเองก็ได้แต่ยิ้มเล็กๆ\"ไม่เป็นไรค่ะ\"  หลังจากนั้นเราก็เดินแยกกันไป...
  \"นั่งด้วยคนนะครับ\" เสียงของคนๆหนึ่งดังขึ้นต่อหน้าฉันในห้องสมุด ฉันกำลังสนใจกับหนังสือที่อยู่ตรงหน้าเลยไม่ได้สนใจว่าเป็นใคร
เพียงแต่พยักหน้าเล็กน้อย  จนกระทั่งฉันเงยหน้าจากหนังสือเมื่อเห็นว่าใกล้เวลาเข้าเรียนแล้ว  ฉันก็พบกับชายคนนั้นที่ชนฉันเมื่อเช้า
เขาก็ส่งยิ้มให้ฉันเหมืนเป็นคนรู้จักกัน ฉันก็ยิ้มตอบแล้วก็เดินจากเขาไป...
  \"ชอบทานข้าวร้านนี้หรอครับ\" เสียงของชายคนหนึ่งถามฉัน ซึ่งทำให้ฉันต้องเหลียวมอง นั่น...ผู้ชายเมื่อวานนี่นา เขากำลังจะซื้ออาหารจากร้านเดียวกับฉันนี่เอง  ฉันพยักหน้าแทนคำตอบ เขาก็เงียบไม่ได้พูดอะไร แต่ฉันมองเขาด้วยหางตาอยู่ตลอดเลยเห็นว่าเขาจ้องมองฉันอยู่ตลอดเวลา  แต่เราก็ไม่ได้คุยอะไรกันมาก พอฉันได้อาหารที่สั่ง  ฉันก็เดินกลับไปที่โต๊ะของฉัน โดยที่เขามองตามฉันอยู่...
  \"คุณก็ไปทัศนศึกษาเหมือนกันหรอครับ\" ฉันได้ยินเสียงที่คุ้นหูเลยหันไปมองเจ้าของเสียง  เขาอีกแล้ว!!!ฉันเพียงแต่พยักหน้าตอบรับเช่นเคย  อย่าสงสัยเลยว่าทำไมฉันถึงไม่พูด  ฉันไม่ได้เป็นใบ้หรอก แต่ฉันไม่พูดกับคนแปลกหน้า แต่ว่า...เขาก็ไม่ได้แปลกหน้าสักหน่อย
วันนี้ฉันเจอเขาที่โต๊ะลงทะเบียนไปทัศนศึกษา  ซึ่งฉันอยากไปมานานแล้ว  แต่เพื่อนๆของฉันขอบายหลายคนเพราะทั้งไกล
ต้องตื่นมาขึ้นรถตั้งแต่ดาวยังไม่หมดฟ้า และกว่าจะกลับก็แทบจะไม่มีรถราวิ่งบนถนน  แต่ฉันอยากไปมาก เพราะยังไงผู้ปกครองของฉันคงไม่พาไปแน่ๆ เขาเองก็คงจะไปด้วยกระมัง แต่พอฉันลงทะเบียนเสร็จฉันก็เดินออกไปโดยไม่สนใจเขา...
  \"นึกว่าจะมาไม่ทันรถซะแล้ว\" เขาวิ่งกระหืดกระหอบตรงมาที่ฉัน ซึ่งใบหน้าของเขาดูแจ่มใสเป็นพิเศษ ทำให้ฉันพลอยสดชื่นไปด้วย
ฉันยิ้มแห้งๆให้เขาก่อนที่จะก้าวขึ้นรถ  แต่พอได้ที่นั่ง  ฉันกลับต้องนั่งข้างๆเขา  ดูเหมือนว่าเขาจะดีใจมาก แต่ว่าฉันกลับรู้สึกเฉยๆซะนี่
ฉันนั่งริมหน้าต่างตามที่ฉันขอเขาไว้ เพราะฉันชอบชมวิวนี่นา...ช่วยไม่ได้  พอรถออกฉันก็เอาแต่มองออกไปทางหน้าต่าง ทั้งๆที่ยังมืดสนิท
ฉันไม่หันกลับไปมองเขาเลย....
  \"ช่วยถ่ายรูปให้ผมได้มั้ยครับ\" เขาถามฉันในฐานะที่ฉันเป็นเพื่อนร่วมเดินทาง  แหงล่ะฉันต้องลงมาเดินเที่ยวกับเขา เพราะฉันไม่มีเพื่อนลย ครั้นจะเดินคนเดียวก็กระไรอยู่  ฉันจำใจหยิบกล้องถ่ายรูปดิจิตอลของเขามาถ่ายรูปของเขาให้  ฉันเองก็ไม่ได้เอากล้องถ่ายรูปมา
เพราะว่าถึงอเอามาก็ไม่มีคนถ่ายให้  ดูเหมือนเขาจะมองสายตาที่อยากจะถ่ายรูปของฉันออก  เขาก็เลยแอบถ่ายรูปของฉันขณะที่ชม
ความงามของธรรมชาติอยู่  ฉันหันควับ แต่เขายังยิ้มเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ฉันเพียงแต่ทำเป็นไม่สนใจเขาเหมือนกัน...
  \"สนุกจังนะครับวันนี้\" เขาบอกกับฉันขณะที่รถกำลังวิ่งเข้าสู่โรงเรียน  ฉันพยักหน้าเห็นด้วยกับเขาพลางมองนาฬิกา 5 ทุ่มกว่าแล้ว
ฉันคงต้องนั่งแท็กซี่กลับบ้าน  แล้วคงต้องเดินเข้าไปในซอยปลี่ยวๆอีกหรือ  ฉันคิดแล้วสยอง แต่ก็ต้องทำในเมื่อไม่มีทางเลือก
ฉันโบกรถแท็กซี่คันหนึ่งแล้วก็รีบเข้าไปนั่งในรถ ฉันบอกให้แท็กซี่พาฉันไปส่งฉัน  ในขณะที่ฉันกำลังจะปิดประตูรถเขาก็รีบเข้ามาก่อน
เขายังบอกกับคนขับแท็กซี่ด้วยว่าไปทางเดียวกัน  ฉันเพียงแต่เลิกคิ้ว  แต่เขากลับยิ้มให้ฉัน...
  \"ทีหน้าทีหลังถ้าทางเข้าบ้านเปลี่ยวอย่างนี้ต้องหาเพื่อนไปด้วยนะครับ\" เขาเตือนฉันเมื่อถึงบ้านฉันแล้ว  ฉันพยักหน้ารับ
เขาถอนหายใจ แล้วเดินออกไปจากบ้านของฉัน  เขาอุตส่าห์มาส่งฉันหรือเนี่ย  ฉันรู้สึกว่าเขายุ่งไม่เข้าเรื่องเสียจริง แต่ก็ดีใจนิดๆ
ฉันรีบวิ่งขึ้นไปชั้นสอง แล้วเปิดหน้าต่างเพื่อมองเขาที่เดินออกจากบ้านฉันไป  ฉันอยากบอกเขาจริงๆว่า\"ขอบคุณมาก\" แต่ฉันกลับ
ทำได้แค่มองตามหลังเขาไปจนสุดสายตา
  เช้าวันต่อมาที่โรงเรียนของฉัน  วันนี้ฉันมาโรงเรียนด้วยความแจ่มใสเป็นพิเศษ ฉันมองหาเขาตั้งแต่ยังไม่ถึงรั้วโรงเรียนด้วยซ้ำ 
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม  เพียงแต่อยากได้ยินเสียงของเขาอีกครั้งเท่านั้น  แต่ว่าวันนั้นทั้งวันฉันกลับไม่เห็นเขา  ฉันรู้สึกกระวนกระวายใจมาก
เรียนหนังสือไม่มีสมาธิ  เวลาเดินไปไหนก็เหม่อลอย  ฉัน...อยากพบเขาเลือเกิน...
  เวลาล่วงเลยไปนานแสนนาน  ทั้งที่เพิงผ่านไปเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้นฉันกลับรู้สึกว่าเป็นเวลาหลายสิบปี  ฉันยังรอเขาเหมือนเดิม
ทั้งหน้าโรงเรียนที่เคยชนกัน  โต๊ะตัวที่นั่งกันในห้องสมุด ร้านอาหารร้านนั้นในโรงอาหาร  หรือแม้แต่หน้าบ้านซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอกัน
ฉันอยากเจอเขาเหลือเกิน...อยากพบเขาเหลือเกิน...เขาไปอยู่ที่ไหน...  ฉันอยากพบเขาอีกครั้ง  อยากบอกว่าขอบคุณ
อยากเล่าความรู้สึกที่แท้จริงของฉันให้ฟัง  ว่าฉันรักเขา  แต่ว่า...จะทำยังไง  ในเมื่อเรายังไม่ได้แม้แต่รู้จักกันเลย...
  \"ขอโทษนะครับนั่งด้วยได้มั้ยครับ\" เสียงของเขาดังขึ้น  ฉันรีบเงยหน้าขึ้น  เขายิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน  ฉันคว้าข้อมือของเขาไว้
แต่ว่าแขนของเขากลับไม่มี  พอฉันดูดีๆร่างของเขาก็หายไปเหลือแต่เสื้อของเขาทิ้งไว้ให้....ฉันลืมตาขึ้นมาอย่างตื่นตระหนก
ฉันฝันไปนั่นเอง  ฉันหันไปมองนาฬิกาซึ่งบอกเวลา 6 โมงเช้า ฉันเลยลุกขึ้นจากที่นอนพร้อมไปโรงเรียน  ที่โต๊ะข้างเตียงมีนาฬิกาอยู่เรือนหนึ่ง
และก็หนังสือพิมพ์ฉบับเมื่อหลายเดือนก่อน  พาดหัวข่าวว่า
ดับกลางซอย  นร.โรงเรียนชื่อดัง ถูกจิ๊กโก๋เจ้าถิ่นฆ่าปาดคอ
มีต่อหน้า 7...
...ถึงอย่างนั้น...ฉันก็จะรอ...สายลมของฉัน...
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น