คนที่รักเรา - คนที่รักเรา นิยาย คนที่รักเรา : Dek-D.com - Writer

    คนที่รักเรา

    เรื่องนี้แต่งเพื่อสอนใจเพื่อนๆนะคะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับคนที่รักเราจริงๆ ^_^ อยากให้เข้ามาอ่านกันนะ แล้วก็..จะพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ ขอบคุณที่อ่านนะคะ แฮะๆ ^_^

    ผู้เข้าชมรวม

    87

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    87

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  27 มี.ค. 48 / 19:53 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ฉันวางสายโทรศัพท์ลงแล้วก้มหน้าร้องไห้ เมื่อไหร่เราจะเลิกทะเลาะกันซะทีนะ ฉันคิด
      ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันทะเลาะกับแฟนทุกวันมาตลอดเกือบ 3 เดือน
      แต่ก่อนเค้าไม่เป็นแบบนี้….ฉันจำได้ ไม่เคยมีซักครั้งที่เค้าจะพูดรุนแรงกับฉันทุกๆคำแบบนี้
      ฉันแทบไม่อยากเชื่อว่าคนที่รักฉันน่ะหรือพูดกับฉันแบบนี้ นี่เหรอ..แคร์    
      ฉันร้องไห้เสียงดังมาก คิดว่าคงดังลงไปถึงชั้นล่าง ฉันได้ยินเสียงคนเดินอยู่ใกล้กับหน้าห้อง
      “ลูก….  ลูก…”
      พ่อของฉันเรียกด้วยเสียงหนักแน่น…..แต่แฝงไปด้วยความรัก ความเอ็นดู
      ฉันรู้สึกหงุดหงิดมาก คนกำลังเสียใจอยู่ จะมาเรียกทำไม
      ทุกครั้งที่เราทะเลาะกันแล้วร้องไห้ฉันไม่กล้าลงไปให้พ่อกับแม่เห็นในสภาพแบบนั้น เพราะไม่อยากให้พ่อกับแม่เป็นห่วง
      “อะไร!”
      ฉันตะโกนกลับไปอย่างแรง ทั้งเสียใจทั้งโมโหปนกันไป
      “พ่อจะไปซื้อกับข้าว จะกิน…(ชื่ออาหารที่ฉันชอบ)… มั้ย พ่อจะซื้อมาให้” เสียงพอยังไม่เปลี่ยน
      “ไม่! ไม่หิว!”
      ฉันร้องไห้หนักกว่าเดิม แล้วตะโกนกลับไปดังกว่าครั้งที่แล้ว
      ฉันได้ยินเสียงพ่อถอนหายใจ แล้วเดินกลับลงไปข้างล่าง พ่อเงียบไปนานกว่าฉันจะได้ยินเสียงสตาร์ทรถออกไปข้างนอก….
            
      วันต่อมาฉันไปโรงเรียนอย่างเดิม….นั่น….นิคเดินตรงมาทางนี้แล้ว คงจะมาง้อเรื่องเมื่อวานนี้ล่ะซิ  เชอะ!ฝันไปเถอะ ฉันคิด  
      “ จ๋า…เมื่อวานนี้..”
      “ ไม่ต้องพูดหรอก! ” ฉันพูดตัดหน้าและสะบัดหน้าหนีด้วยความไม่พอใจ
      “ถ้าจะมาบอกว่าไม่ตั้งใจเรื่องเมื่อวานน่ะนะ ไม่ต้องพูดดีกว่า ไม่อยากฟัง! “ นิคเดินมาจับมือฉัน
      “ เราอย่าทะเลาะกันเลยนะจ้ะ เดี๋ยวไม่สวยนะ ไปกินข้าวกันดีกว่าเดี๋ยวนิคเลี้ยงเองนะจ้ะ ”
      ฉันจึงเดินตามไปแรงดึงของนิค
      ที่โรงอาหาร ตอนเช้ามีคนมานั่งทานข้าวกันไม่มากเท่าไหร่ ไม่ถึงกับเต็มโรงอาหารเหมือนตอนเที่ยง ฉันกับนิคเลือกนั่งตรงกลางๆโรงอาหาร ตรงข้ามกับโต๊ะของนักเรียนหญิงกลุ่มหนึ่งที่ดูรุ่นราวคราวเดียวกับฉัน
      “ เดี๋ยวนิคไปซื้อข้าวนะ จ๋าจะกินอะไรครับ ”
      “ อะไรก็ได้ ” ฉันตอบอย่างไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่
      ซักพักนิคก็เดินกลับมาพร้อมกระเพราไก่กับข้าวขาหมู
      “ นี่จ้ะ ข้าวขาหมูของโปรดของจ๋าใช่ไหม “ ฉันทำหน้างงเล็กน้อยก่อนจะรับอาหารจานนั้นวางลงบนโต๊ะ
      “ จ๋าไม่เคยบอกว่าชอบขาหมูนะ ใครบอกนิคว่าจ๋าชอบ? ” ฉันถามด้วยความสงสัย
      “ ฮ้า! จริงเหรอ…เอ..จำไม่ได้ เอ้ย! ไม่รู้ซิ สงสัยนิคจำผิดมั้ง ขอโทษนะ ”  
      นิคบอกว่าจะไปซื้อข้าวอันใหม่ของฉันมาให้ แต่ฉันบอกว่าไม่เป็นไร  ขณะที่เรากำลังทานอาหารอยู่นั้นฉันสังเกตเห็นนิคมีอาการเหม่อลอยบ่อยๆ บางครั้งก็ยิ้มคนเดียว จนฉันสงสัย
      “ นี่! เป็นอะไรไปนิค ยิ้มทำไม? ”
      “ อะ…จ้ะ อะไรนะจ้ะ นิคไม่ได้ยิน ” นิคตอบแบบงง งง
      “ จ๋าถามว่าเป็นอะไร? ” ตอนนี้นิคทำให้ฉันเริ่มหงุดหงิดเล็กน้อย
      ผ่านไปซักพัก  นิคก็มีอาการแบบเดิม คราวนี้ฉันหันหน้ากลับไปดูข้างหลังเห็นนักเรียนหญิงกลุ่มนั้นส่งยิ้มมาทางนิคอยู่พร้อมกับโบกมือให้ด้วย
      “ นิค!!! ” ฉันตะโกนเสียงดังจนโต๊ะข้างๆหันมามอง นิคมองหน้าฉันเลิกลั่กแล้วจับมือฉันให้นั่งลงที่เดิม
      “ จ๋าเป็นอะไรไป! ใจเย็นๆหน่อยซิ! ที่นี่มันโรงอาหารนะ ไม่ใช่ที่บ้าน!! ” สีหน้าของนิคบ่งบอกถึงความไม่พอใจมาก
      แต่ฉันก็คิดว่าไม่ควรจะได้รับการกระทำเช่นนั้นหลังจากที่ฉันเห็นแฟนตัวเองเพิ่งยิ้มให้ผู้หญิงคนอื่นไปหมาดๆต่อหน้าต่อตา
      แล้วหลังจากนั้นเราก็ทะเลาะกัน ถึงแม้ว่าเราจะอยู่โรงเรียนเดียวกันฉันก็ไม่คุยกับนิคเลย
      เวลาเดินผ่านนั้นก็ไม่มีใครยอมทักใครก่อน ฉันคิดว่า เราไม่ผิดทำไมต้องขอโทษด้วย!
            
      ผ่านไปหลายวัน ไม่มีโทรศัพท์ ไม่มีจดหมาย ไม่มี…ไม่มีอะไรทั้งนั้น ทำไมถึงเป็นแบบนี้
      นี่ฉันผิดเหรอที่ทำแบบนั้นลงไป คนที่มีแนวโน้มว่าจะนอกใจแฟนน่าจะผิดซิ!
      ตอนนี้ฉันงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว  แต่ถ้าหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต้อไปคงไม่ดีแน่
      ฉันจึงคิดว่าจะต้องทำอะไรซักอย่างในวาเลนไทน์ที่จะถึงในวันมะรืนนี้
      ตื๊ด……ตื๊ด……  ผ่านไปหลายตื๊ดจนมีเสียงดังมาจากปลายสาย
      “ สวัสดีครับ “ ฉันถือโทรศัพท์ด้วยความตื่นเต้น ด้วยมือที่สั่นนิดๆและรู้สึกดีใจที่จะได้คุยกับนิคอีกครั้ง
      “ เอ่อ…สวัสดีค่ะ ขอสายนิคค่ะ “ ปลายสายเงียบไปซักพัก
      “ กำลังพูดครับ นี่ใครเหรอ? ” ฉันเอ๋อไปนิดหนึ่ง นี่เสียงฉันเปลี่ยนไปเหรอ!
      “ หยกรึเปล่า? ” หยก…หยก! ใครกันชื่อว่าหยก!! ฉันบอกตัวเองให้ใจเย็นไว้เพราะไม่อยากทะเลาะกันอีก
      “ จ๋าเองนะจ้ะ  นี่นิครู้มั้ยว่าวันมะรืนนี้วันอะไร? ” ฉันพยายามเปลี่ยนอารมณ์ใด้สดใสกว่าเดิมและเปลี่ยนเรื่องคุย
      “ อ๋อ วันวาเลนไทน์เหรอ? ทำไมล่ะ? “ อ้าว!!
      “ จ๋าจะชวนนิคไปเที่ยวด้วยกันน่ะ วันวาเลนไทน์เป็นวันแห่งความรักนะ นิคจะไม่ไปกับจ๋าเหรอจ้ะ..หรือว่านิคไม่รักจ๋าแล้ว? “
      ฉันคิดว่า มุขนี้ต้องได้ผลชัวร์!  แล้วก็เป็นอย่างที่คิด แต่…
      “ รักซิจ้ะ นิครักจ๋าที่สุดในโลกเลยนะและจะไม่รักใครอีกแล้ว แต่ว่า….วันที่ 14 นี้นิคต้องกลับบ้านยายที่ต่างจังหวัดนะจ้ะ คงไปด้วยไม่ได้หรอก จ๋าโกรธนิคมั้ย? “
      โอ้ย! ความหวังของฉันพังลงกับตา
      “ ไม่เป็นไรจ้ะ  งั้นแค่นี้แล้วกันนะ สวัสดีจ้ะ “ ฉันวางสายไปอย่างรวดเร็ว
            
      เรื่องนี้ทำฉันซึมไปทั้งวันเลย
      เฮ้อ! น่าจะว่างนะแค่วันวาเลนไทน์เอง มันมีวันเดียวใน 1 ปีแค่นั้นแล้วทำไมต้องไปบ้านยายวันนี้ด้วย!
      คิดไปแล้วทำให้ฉันโมโหมากกว่าเดิม
      พ่อเดินมาหาฉันแล้วถามว่า “เป็นอะไรไปลูก ทำไมนั่งซึมเลย“  
      ฉันรู้สึกรำคาญที่มีคนมากวนใจเวลาที่หงุดหงิดจึงตอบหลับไปว่า “พ่ออย่ามายุ่งกับหนูน่า! ”
      แล้วพ่อก็พูดต่อว่า “มีอะไรปรึกษาพ่อก็ได้นะลูก อย่าเอาไปคิดมากคนเดียว มีอะไรให้พ่อช่วยก็บอกมานะลูก”  
      ฉันยังหน้าบูดอยู่เหมือนเดิม พ่อจึงเปลี่ยนเรื่องพูดพร่อมกับลูบหัวฉันเบาๆ
      “วันที่ 14 นี้วันอะไรหนูจำได้ไหม” พ่อยิ้ม เสียงพ่อเหมือนจะชวนให้คิดตามคำถามนั้น
      แต่ในเวลานี้ฉันกำลังอารมณ์ไม่ดี สิ่งที่ฉันทำลงไปมันก็เลย…
      “ ไม่รู้ค่ะ วันวาเลนไทน์มั้ง เดี๋ยวหนูขอไปอ่านหนังสือก่อนนะคะ”
      ว่าแล้วฉันก็เดินออกไปจากตรงนั้นให้พ่อนั่งอยู่คนเดียวโดยที่ฉันไม่หันกลับไปอีกและไม่ได้นึกถึงเลยว่าวันนั้นมันมีความสำคัญอะไรกันแน่
            
      เมื่อวันวาเลนไทน์มาถึง ฉันรู้สึกเซ็งมากๆ ฉันคิดว่าวันนี้คงจะไม่ออกจากบ้าน
      แต่พ่อกับแม่ก็พาออกไปจนได้ พ่อกับแม่พาฉันไปที่ห้างสรรพสินค้าที่ฉันชอบมาบ่อยๆหลังเลิกเรียน
      และก็เหมือนกันกับนักเรียนหลายๆคนที่มาที่นี่ในตอนเลิกเรียน  
      เมื่อเดินดูของไปเรื่อยๆ ฉันก็ซื้อกุหลาบแดงมา 1 ดอกเพื่อประชดตัวเองในวันวาเลนไทน์
      พอฉันเห็นซีดีเพลงของนักร้องคนโปรด  อยากได้จัง! ฉันคิด ฉันเดินไปดูอย่างไม่ลังเล และจับมาถือไว้กับมือ มองดูนานๆ  
      ซีดีแผ่นนี้นิคเคยบอกว่าจะซื้อให้ฉันแต่เขาก็ไม่เคยแม้แต่จะพามาดูอีกรอบตั้งแต่ตอนพบกันครั้งแรก
      พ่อมองฉันอยู่เมื่อฉันถือซีดีไว้ แล้วสายตาฉันก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงกับผู้ชายคู่หนึ่ง  
      หน้าคุ้นๆนะ ใครกัน….เอ๊ะ! นั่นมันนิคนี่นา! เป็นไปไม่ได้หรอก ไหนว่าจะไปบ้านยายไง!!
      ฉันเดินไปดูใกล้ๆเพื่อความมั่นใจ  ใช่จริงๆด้วย!  
      ฉันเดินตรงดิ่งไปทางนั้นอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจใครทั้งสิ้น โดยที่พ่อกับแม่มองตามอยู่ไกลๆ  ฉันเดินไปคว้ามือนิคไว้
      “ หมายความว่าไงนิค! ” ไม่ว่าใครจะมองดูก็คงรู้ว่าฉันโมโหมาก
      “จ๋า! นี่มาได้ไง วันนี้จ๋าน่าจะ..”
      “อยู่บ้านใช่ไหม! ถ้าจ๋าอยู่บ้านจ๋าจะเห็นเหรอว่านิคเป็นคนแบบนี้ ผู้หญิงคนนี้เป็นใครนิค!”
      ฉันพูดพร้อมกับมองหน้าผู้หญิงคนนั้น  เอ๊ะ! นี่มัน….คนที่นั่งกินข้าวตรงข้ามกันที่โรงอาหารเมื่อวันนั้นนี่นา!  
      “ คนนี้ใช่มั้ยที่ชื่อหยก..ใช่มั้ยนิค! ” นิคมีสีหน้าเปลี่ยนไป
      “เอ่อ..นิค เอ่อ…นิค ขอ..ขอโทษ..นะจะ…”
      “พอซะทีนิค จ๋าไม่อยากฟังอะไรอีกแล้ว นิคไม่จำเป็นต้องแก้ตัวอะไรอีกแล้ว “
      ฉันสะบัดมือนิคออกไปอย่างแรง
      ผู้หญิงคนนั้นมองดูฉันอย่างเหยียดๆเหมือนกับว่ากำลังดูถูกกันอย่างเห็นได้ชัด
      “นี่ดอกไม้วันวาเลนไทน์นะนิค เอาไปซะ!” ฉันโยนดอกไม้ลงพื้นแล้วใช่เท้าบี้จนแบน
      นิคตกตะลึงกับภาพที่เห็น ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ต่างกันใช้มือป้องปากไว้แล้วมองตรงมาที่ดอกไม้
      “จ๋าจะไม่จำไว้หรอกนะ…หน้าคนที่เคยบอกว่ารักจ๋ามากที่สุด! แต่ทำกับจ๋าแบบนี้..เราจบกันแค่นี้นะ!”

      ฉันวิ่งกลับไปหาพ่อกับแม่ น้ำตาแห่งความผิดหวังปนเสียใจไหลลงมาตามแก้มทั้งสอง ลลืมไปว่าพ่อกับแม่มองดูอยู่ตลอด
      “ ไม่เป็นไรหรอกลูก…ยังไงพ่อกับแม่ก็ยังรักหนูเหมือนเดิม เขาไม่รักก็ช่างเขาเถอะ ไม่มีใครรักลูกเท่าพ่อกับแม่อีกแล้วนะจ้ะ”
      พ่อกอดฉันไว้แล้วแม่ก็เดินมาลูบหัวฉันเบาๆ
      “กลับบ้านกันเถอะ” แม่พูด
            
      เช้าวันนี้ฉันตื่นขึ้นมาด้วยความอ่อนเพลียตาทั้งสองบวมเป่งเพราะเมื่อคืนนอนร้องไห้อยู่จนดึก เมื่อฉันมองไปข้างเตียงพบห่อพลาสติกสีชมพูวางอยู่ ฉันจึงเอื้อมมือหยิบขึ้นมาดู ในนั้นมีซีดีเพลงของนักร้องที่ฉันชอบอยู่และมีกระดาษสีชมพูเล็กๆหล่นลงมาด้วย  
                                                
      Happy Birth Day and Valentine Day ลูกรักของพ่อกับแม่
                                                                              
                                                                                 จาก พ่อกับแม่
            
      ฉันร้องไห้อีกครั้งด้วยความดีใจ  
      จริงซินะเมื่อวานนี้วันเกิดเรานี่เรามัวหมกมุ่นคิดเรื่องอะไรอยู่ภุงลืมแม้กระทั่งวันเกิดของตัวเอง  ฉันคิด  
      ต่อไปนี้ฉันจะไม่ร้องไห้เสียใจเพราะเรื่องนิคอีกแล้ว ฉันคิดว่าฉันทำผิดกับคนที่รักฉันมากที่สุด ดีกับฉันมากที่สุด
      บางครั้งสิ่งที่อยู่ใกล้ๆตัวเรา เราก็กลับไม่เห็นคุณค่าจนวันที่เราต้องเสียมันไป ฉันจะไม่รอให้ถึงวันนั้น
      ฉันจะทำดีกับคนที่รักฉันและฉันก็รักมากที่สุดในโลกนั่นก็คือพ่อกับแม่ พระในบ้านของเรา

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×