กว่าจะรักได้อย่างใจ - กว่าจะรักได้อย่างใจ นิยาย กว่าจะรักได้อย่างใจ : Dek-D.com - Writer

กว่าจะรักได้อย่างใจ

...ผมแอบรักเธอตั้งแต่แรกเห็น นานเหลือเกินกว่าจะสมหวัง ผมต้องใช้ทั้งความรัก ความจริงใจ..และเวลา

ผู้เข้าชมรวม

294

ผู้เข้าชมเดือนนี้

0

ผู้เข้าชมรวม


294

ความคิดเห็น


0

คนติดตาม


0
เรื่องสั้น
อัปเดตล่าสุด :  12 มี.ค. 48 / 15:04 น.


ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
นิยายแฟร์ 2023
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

    อะไรก็ตามในชีวิตคนเราถ้าได้มาอย่างง่ายๆ  มันก็คงจะไม่มีคุณค่าเท่าไร    ความรักก็เหมือนกัน ถ้าทุกอย่างมันลงเอยง่ายๆด้วยดี  มันก็คงไม่ค่อยมีคุณค่า....แต่ความรักของผม  กว่าทุกอย่างมันจะลงตัวได้  ก็ต้องใช้ทั้งเวลาและความพยายาม  เพราะฉะนั้นเมื่อผมได้มาแล้ว  ผมจะไม่มีวันปล่อยให้มันหลุดลอยไปเด็ดขาด!
        ครั้งแรกที่ผมเจอเจ้าหญิงน้อยๆของผม  ผมจำได้  วันนั้นเป็นวันเรียนปรับพื้นฐาน ม.1 วันแรก  ตอนนั้นพวกเราเด็ก ม.1 เพิ่งขึ้นมาจากการเข้าแถว  ผมเดินมาที่ห้องกับเพื่อนๆ  ผมเลือกที่หน้าสุด  เพราะสิทธ์  เพื่อนสนิทผมมันลืมเอาแว่นมา  
        “เธอๆ”เสียงเด็กผู้หญิง..ผมหันไปดูว่าคำว่า “เธอๆ” ใช่ผมรึเปล่า  “เธอๆ โทษนะคะ  ตรงนี้มีใครนั่งรึเปล่าคะ”เธอถามผม  “ไม่มีฮะ”ผมตอบเบาๆ...ผมแปลกใจตัวเองมาก...เธอเป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาธรรมดา  แต่อะไรก็ไม่รู้มาสะกิดใจผม  ทำให้ผมประทับใจเธออย่างบอกไม่ถูก..
        ถึงเวลาเลิกเรียนสักที..อะไรก็ไม่รู้มึนไปหมด...เฮ้อ..นั่งเรียนมาทั้งวันยังไม่รู้ชื่อของเธอเลย..แต่จู่ๆก็มีเหมือนเสียงอะไรหล่นข้างหลังผม..ผมหันกลับไปดู..โถ่ที่แท้กามเทพ (ปากกา)หล่น   “นี่ฮะ   เรียนด้วยกันมาทั้งวันยังไม่รู้ชื่อเลย  เราชื่อพัฒน์..เธอชื่ออะไรอ่ะ”ผมถาม  “เราชื่อหวาน”เธอบอกแล้วส่งรอยยิ้มที่น่าประทับใจมาให้
    เอาวะ  อย่างน้อยเจ็ดวันที่เรียนด้วยกันก็พยายามตีสนิทไว้ละกัน
        วันสุดท้ายที่เราได้เรียนด้วยกันมาถึง  อีกประมาณ 10 นาที  เราก็จะรู้ว่าเราได้อยู่ห้องเดียวกันรึเปล่า
        เฮ้ย..สวรรค์แกล้งชัดๆเลย  ผมกับหวานอยู่คนละห้อง  แถมห้องยังอยู่ห่างกันตั้งไกล....เวรกรรม
        พอพวกเราขึ้น ม.1  ผมกับหวานแทบจะไม่ได้เจอกันเลย..ถึงบางทีเจอก็ไม่ได้ทักกัน  เพราะหวานมักถูกห้อมล้อมด้วยเพื่อนชาย-หญิงประมาณ 7 คน...เฮ้อ..คนขี้อายอย่างผมจะไปกล้าทักได้ไง..ก็ได้แต่มองห่างๆ...มองเธอยิ้ม..มองเธอหัวเราะ  แค่นั้นก็เป็นสุขใจแล้ว...
        พอขึ้น ม.2  ผมไม่เคยดีใจขนาดนี้มาก่อน (ถ้าไม่นับตอนสอบติด ม.1) ผมกับหวานได้อยู่ห้องเดียวกัน!  ผมจะได้อยู่ห้องเดียวกับหวานถึง 2 ปี!
        วันแรกที่เปิดเทอม  ผมเดินเข้าไปทักหวาน  หวานทำหน้างงๆ  ผมขำท่าทางของหวานมาก..ไม่แปลกหรอก  ก็สมัยก่อนผมไม่ได้ใส่แว่นนี่...ผมถอดแว่นออกช้าๆพร้อมบอกว่า  “พัฒน์ไง..จำได้ป่าว”  หวานพยักหน้าหงึกๆพร้อมส่งรอยยิ้มมาให้ผม
        กลุ่มผมกับกลุ่มหวานสนิทกันเร็วมาก  หวานไม่รู้หรอกว่าผู้ชายอย่างผมแอบมองเธออยู่...และแล้วเรื่องที่หน้าเศร้าก็เกิดขึ้นกับผมจนได้  เมื่อผมสังเกตุเห็นสายตาอันอ่อนโยนของเธอมองเพื่อนในกลุ่มสนิทของผม..
    ท็อป...ผมไม่เถียงว่ามันนิสัยดี..ก็ใช่สิ...มันทั้งหล่อ  ทั้งนิสัยดี..สุขุม  เรียนเก่ง  ผู้ชายขี้เล่นอย่างผมจะไปเทียบได้อย่างไร...แต่ทำไมนะ..ทำไมมันถึงไม่ชอบเธอ..และทำไมเธอถึงไม่ชอบผม...ผมแอบเศร้าลึกๆ  แต่ผมก็ยังบอกตัวเองเสมอว่า  “ได้มองดูเธอใกล้ๆก็ดีเท่าไรแล้ว”
        ยิ่งนานวัน  ความรู้สึกของผมค่อยๆมากขึ้นเรื่อยๆ  เท่าที่ผมได้ฟังมา  ใครๆก็บอกว่าช่วงวัย วัยนี้  มันก็เป็นแค่ป๊อปปี้เลิฟ..แต่ทำไมป๊อปปี้เลิฟของผมมันถึงตรึงใจผมได้ขนาดนี้  หรือว่าเธอจะไม่ใช่แค่นั้น..หรือเธอคือคนที่ใช่......ผมเล่าความในใจให้เพื่อนผมคนนึงฟัง..นั่นก็คือสิทธ์..เพื่อนสนิทที่สุดของผม  ตอนที่ผมบอกครั้งแรก  มันทำหน้างงสุดๆเหมือนไม่เชื่อ เพราะตั้งแต่ไหนแต่ไร  ผมบอกสิทธ์เสมอว่าสเปกผมต้องขาว  สวย   แต่หวานเป็นคนน่าตาน่ารักธรรมดา  แต่ผมก็ไม่อายที่จะบอก  ก็มันชอบนี่  หน้าตาธรรมดา แต่นิสัยดี  ถึงเธออาจถูกใครหลายคนมองว่านิสัยไม่ดี  ถ้าผมมองว่าดีซะอย่าง..\"ใครจะทำไม\"  
        พอขึ้น ม.3  ทุกอย่างก็ไม่ค่อยต่างอะไรจากตอน ม.2 มากนัก  แต่มีอยู่อย่างนึงที่ผมรู้สึกว่าผมโชคดีเหลือเกินคือ..ผมได้นั่งข้างๆหวาน..เฮ้อ..แต่ก็มิวาย  มีไอ้ท็อปมานั่งใกล้ๆด้วย
        วันหนึ่ง  ผมตื่นมาตอนเช้า  ผมรู้สึกปวดหัวเหมือนมีไข้   แต่วันนี้มีสอบอังกฤษ  ถ้าหยุดมีหวังโดนหักคะแนนแน่  ยิ่งเจ๊แกดุๆอยู่...
        พอผมสอบอังกฤษเสร็จ  ผมเริ่มรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว..เหงื่อผมออกเยอะ  ตัวผมร้อนมาก  คงเป็นเพราะเมื่อเช้า  แม่วางยาให้ผม  แต่ผมเป็นโรคเกลียดยาสุดๆ  ผมหยิบมาทิ้งที่ท่อน้ำหน้าบ้านแทนที่จะกลืนลงคอ...แล้วอย่างนี้ไข้มันจะลดไหมเนี่ย..ผมฟุบลงกับโต๊ะ  ไม่มีใครสนใจผม..แต่เธอ..น้ำหวานย้อมใจผม..  “พัฒน์”หวานเรียกชื่อผม  ผมเงยหน้าขึ้นมา  หวานเอามืออันอ่อนนุ่มมาจับที่หน้าผากของผม  “นายมีไข้สูงนี่”หวานทำเสียงดุผม  ผมยิ้มแห้งๆให้เธอ  หวานเดินไปพูดกับอาจารย์2-3คำแล้วเดินกลับมาหาผม  “ไปห้องพยาบาลกัน”หวานพูดกับผม...ผมรู้ตัวว่าผมหน้าซีดลง..ผมเกลียดการกินยาที่สุด..แต่ถ้าเป็นพยาบาลคนนี้.. “กินก็กินวะ”ผมบอกตัวเอง
        พอถึงห้องพยาบาล  คุณพยาบาลของผมก็จัดแจงทำทุกอย่างให้ผม  “ทานยาซะ”หวานบอกผม...ผมยิ้มแห้งๆ..ผมเกลียดการกินยาที่สุด  “พัฒน์..”หวานทําเสียงดุ  ผมรับยาจากเธอมาช้าๆ  “กิน”หวานดุผม..ผมกลืนยาลงคออย่างยากเย็น.. \"นอนซะนะ  อาการจะได้ดีขึ้น”หวานพูดด้วยเสียงอ่อนโยน  ผมนอนลงอย่างว่าง่าย  หวานเอาผ้าเช็ดหน้าของเธอที่ชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้ผม...นี่เป็นครั้งแรกในชีวิต..ที่ผมรู้สึกอย่างป่วยจนไม่อยากหายทีเดียว...
        วันสุดท้ายของการแต่งชุด ม.ต้นมาถึง..ผมวันนี้ล่ะ  ไม่ว่ายังไง..ผมก็ต้องสารภาพให้ได้ทีเดียว...แต่แล้ว..ผมก็เหลือบไปเห็นหวานยืนคุยกับท็อป  เธอทำหน้าเหมือนโลกทั้งโลกมีแค่เธอกับท็อปเท่านั้น  หวานคุยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม..สีหน้าที่มีแต่รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข..สีหน้าที่เธอไม่เคยมีเวลาคุยกับผมเลย  
        “เฮ้อ..ไม่ได้เจอท็อปตั้ง 3 เดือน..อีกทั้งไม่รู้ปีหน้าจะได้อยู่ด้วยกันอีกรึเปล่า”หวานพูดกับท็อป..อิจฉา.ผมอิจฉาไอ้ท็อปเหลือเกิน...ผมอยากให้หวานพูดกับผมบ้าง..สักครั้งก็ยังดี..
        เหมือนสวรรค์แกล้งผมอีกแล้ว  ผมต้องอยู่คนคนละห้องกับหวาน..ท็อปเองก็อยู่ห้องละห้อง..ผมไม่รู้สึกดีใจเลย  ผมสงสารหวาน..ผมยอมทุกข์...ขอแค่ให้หวานมีความสุข..แค่นั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับผู้ชายอย่างผม
        นับวันผมยิ่งอยากชกท็อปมากขึ้นเรื่อยๆ  เพราะช่วงหลังๆผมมักเห็นหวานทำหน้าเศร้า  พอผมถาม  หวานก็ตอบว่า..ท็อปเย็นชา..ไม่ทัก..ผมทำอะไรเพื่อเธอไม่ได้หรอ  ผมสงสารหวาน...สงสารเธอจริงๆ  สิ่งที่ผมทำได้..ผมทำได้แค่..ทำตัวเป็นเพื่อนที่ดี   คอยปลอบใจเธอเท่านั้น
        และแล้ววันหนึ่ง  เวลาประมาณ 4 โมงเย็น..ผมเดินไปที่สวนหลังโรงเรียนเพื่อไปหาอาจารย์เรื่องโครงงาน...แต่บังเอิญ..ผมเห็นหวานกับท็อป..ผมค่อยๆคลานไปแอบหลังพุ่มไม้ใกล้ๆโดยที่ไม่ให้ทั้งสองเห็น..ผมรู้ว่ามันไม่ดี..แต่ผมจะทำ!
        “ท็อป”หวานพูด  “มีอะไร”ท็อปถามกลับ...ผมได้ยินอย่างนั้น  ผมแทบอยากจะกระโดดออกไปชกหน้ามัน “มีอะไร” พูดมาได้ไง... “หวานชอบท็อป” ผมได้ยินอย่างนั้น  ผมแทบเป็นลม..ผมรู้สึกปวดร้าวไปทั้งตัว...หวานบอกท็อปแล้ว.. “ขอโทษนะหวาน...เราคิดกับเธอแค่เพื่อนเท่านั้น”ท็อปตอบหวาน  “ท็อป..แล้วตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน..ท็อปเคยคิดกับเรา...เกินเลยคำว่าเพื่อนไหม..”หวานพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ..ผมฟังออก..เสียงของหวานฟังดูเศร้าเหลือเกิน..หวานคงปวดร้าวจนแทบทนไม่ไหวแล้ว  “เราไม่เคยคิดกับเธอเกินคำว่าเพื่อนเลย”ท็อปพูดแล้วหันหลังให้หวาน  “เดี๋ยว”หวานคราง  “อะไร”  “ยังไงก็เป็นเพื่อนกันต่อไปนะ”หวานร้องด้วยเสียงปรกติ..แต่ก็แฝงไปด้วยความเจ็บปวด  “อือ”ท็อปตอบแล้วเดินจากหวานไป...หวานทรุดตัวลงนั่งกับพื้นเหมือนจะร้องไห้..แต่ร้องไม่ออก..ผมคลานออกจากหลังพุ่มไม้ช้าๆ  
        “หวาน”ผมเรียกชื่อหวาน  แล้วคุกเข่าลงนั่งข้างๆ  “พัฒน์..นาย..”  “อือ..ขอโทษทีนะ...เราผ่านมาพอดี”ผมพูด..ผมไม่สามารถเห็นดวงตาของหวานได้  หวานก้มหน้าตลอด  “เฮ้อ..อกหักจนได้”หวานเงยหน้ามองผมช้าๆ  เธอแกล้งยิ้ม..ยิ้มที่แฝงไปด้วยความเศร้า  “หวาน”ผมเรียกชื่อเธอ...ดวงตาของหวานเริ่มมีน้ำใสๆไหลออกมา  “พัฒน์..”หวานครางชื่อผม  น้ำตาจากดวงตาเธอไหลออกมาเรื่อยๆเหมือนหยุดไม่ได้...ผมรู้ว่าเธอเจ็บมาก...เปลี่ยนกันได้ไหม..ขอผมเจ็บแทนเธอได้ไหม...ผมเอามือข้างหนี่งปาดน้ำตาให้เธอ  อีกข้างหนึ่งจับไหล่เธอไว้  
    “โฮๆๆๆๆๆ”หวานร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะกลั้น...ผมสงสารหวานเหลือเกิน   “ร้องออกมาเถอะถ้าอยากจะร้อง”ผมบอกกับหวานด้วยความรักและห่วงใย  “ฉันไม่ดีตรงไหน...ทำไม..ทำไม”หวานร้อง..ผมเอามือที่เช็ดน้ำตาเธอมาปิดที่ปากของเธอ  “เค็มมะ”ผมพูดยิ้มๆ  “หวานอย่าพูดอย่างนั้นสิ  หวานมีข้อดีตั้งมากมาย  คนเราแต่ละคนมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป..แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น..ผู้ชายคนนี้จะยังอยู่ตรงนี้..ไม่ไปไหน..จะคอยเคียงข้างผู้หญิงที่ชื่อหวานเสมอ”ผมพูดพร้อมมองตาหวาน..ให้ดวงตาของผมบอกความในใจ  “เรารักหวาน”ผมพูด..พูดคำที่อยู่ในใจผมมากว่า 3 ปี....3 ปีที่ผมทนเก็บมันไว้  ผมไม่กล้าบอกเธอเพราะกลัวจะเสียเธอไป..แต่ครั้งนี้..ผมอยากให้เธอรู้  ว่ายังมีคนที่รักเธอ...
        “สู้ต่อไปนะหวาน  ถ้าเธอต้องการใครอยู่เคียงข้างเมื่อไร..หนึ่งในคนที่เธอคิดถึง..ขอให้เป็นเรานะ..เราพร้อมเสมอ”  
        หลังจากวันนั้น  ผมเริ่มสปีดตัวเองโดยการแสดงให้หวานเห็นว่าผมจริงใจกับเธอจริงๆ   แต่ผมเองก็ต้องให้เวลาหวานเพื่อลืมท็อปเหมือนกัน..แต่ไม่ว่ามันจะอีกนานขนาดไหน...ผมจะรอ
        ผมขึ้น ม.5  ด้วยความรู้สึกที่ดีๆ โดยเฉพาะผมมั่นใจว่าหวานเริ่มมีใจให้ผมบ้างแล้ว
        จากที่ผมเคยรู้สึกว่าสวรรค์แกล้ง  แต่ตอนนี้  ผมกลับรู้สึกว่าสวรรค์คอยช่วย...ผมกับหวานได้อยู่ใกล้ชิดกันมาขึ้น   เรามีความรู้สึกดีๆให้แก่กันและกัน...จะว่าเอาจริงๆ  อยู่คนละห้องก็ดีเหมือนกัน  เวลาเรียนจะได้ไม่วอกแวก
        มีอยู่เรื่องอยู่เรื่องหนึ่ง  ที่ผมยังรู้สึกแปลกใจตัวเองไม่หาย...ตั้งแต่ผมสารภาพกับหวานตอน ม.4 เทอมต้น  ผมคะแนนดีขึ้นอย่างน่าประหลาด  ผมก็งงๆอยู่เหมือนกัน..อาจเป็นเพราะผมกลัวหวานเจ็บปวดจนเรียนไม่รู้เรื่อง  ผมเลยต้องตั้งใจเรียนเพื่อนที่จะได้เป็นติวเตอร์ให้หวานเสียเอง...อย่างที่คนโบราณว่าจริงๆ  ถ้าเราทำดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน...เราจะได้ผลตอบแทนกลับมายิ่งกว่าที่เราได้ทำไป
        และแล้ววันวาเลนไทม์..วันที่ผมต้องทนทุกข์อยู่กับความเจ็บปวด...ในที่สุด..วันนี้มันก็เป็นวันแห่งความสุขของผมเสียที
        ผมนั่งคุยกับหวานใต้ต้นไม้ใหญ่ของโรงเรียน..ถึงแม้จะเป็นการคุยในฐานะเพื่อนก็ตาม..ผมก็ดีใจที่ผมมีโอกาสอยู่กับเธอในโอกาสพิเศษอย่างนี้
        “พัฒน์”หวานเรียกชื่อผม  “จ๋า...”ผมขานตอบ  “พัฒน์เคยเหนื่อยหรือท้อกับการรอใครสักคนไหม..รอคนๆนั้นทั้งๆที่เค้าเคยชอบเพื่อนของพัฒน์  อีกทั้งเพื่อนๆของพัฒน์ก็ไม่สนับสนุนเท่าไรเพราะเธอหน้าตาไม่สวย”หวานถามผม..ผมเข้าใจว่าเธอหมายความอย่างไรและหมายถึงใคร..  “อือ...ถ้าถามว่าเหนื่อยไหม..มันก็มีบ้างนะ  แต่ถ้าถามว่าท้อไหม   เราตอบได้เลยว่าไม่เคย”ผมตอบหวานจากความรู้สึก  “3 ปีกว่าเชียวนะ  แถมเธอก็ไม่ใช่คนที่สวยอะไร  หน้าตาธรรมดาด้วยซ้ำ”หวานถามผม  “ก็เพราะเราไม่เคยมองผู้หญิงคนนั้นที่หน้าตาน่ะสิ..เรามองเธอคนนั้นที่หัวใจของเธอ  หัวใจที่แสนบริสุทธิ์ที่เต็มไปด้วยความดีงาม”  
        “เออ..จะพูดยังไงดีล่ะ...เราเชื่อใจพัฒน์”หวานบอกผมแล้วส่งกล่องของขวัญเล็กๆให้ผม  “เอ๋...”ผมร้องอย่างงงๆ  “ให้เรา...แล้วเมื่อกี๊หวานหมายถึง”ผมพดโดยแทบจะไม่หายใจ..คำพูดเมื่อกี๊เหมือนกับหวานหมายถึงโอเคให้ผมเข้าไปดูแลในใจเธอได้แล้ว  “ก็อย่างที่พูดล่ะ..เดี๋ยวก็ถอนคำพูดซะเนี่ย”หวานพูดแล้วหลบตาผม  “เฮ้ย  อย่านะหวาน  หวานเราสัญญานะ  เราจะไม่ทำให้หวานเสียใจเด็ดขาด”ผมรับปาก  “อือ”หวานครางเบาๆ..ผมหยิบมือหวานมากุมไว้  “นี่จ้า”ผมวางดอกกุหลาบสีขาวใส่มือของเธอ  “เราจำได้  ตอนที่หวานพูดเล่นๆกับเราตอน ม.2 ที่หวานบอกว่าดอกกุหลาบสีขาวก็เหมือนกับความรักที่บริสุทธ์..หวานจำได้ไหม”ผมพูดแล้วมองหน้าหวานที่มีสีชมพูอ่อนๆเต็มหน้า  “อือ..”หวานพูดแล้วเอากลีบดอกกุหลาบไปชนที่ริมฝีปากของเธอเบา...ผมยิ้มให้เธอ..ถึงแม้วันนี้ความพยายามของผมจะยังไม่ถึงที่สิ้นสุด  แต่มันก็แสดงผลออกมาให้ผมเห็นแล้ว..นับตั้งแต่นี้ผมไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว..ผมมีครอบครัวที่อบอุ่น  การเรียนผมอยู่ในเกณฑ์ดีเป็นที่พอใจของพ่อแม่  เพื่อนฝูงของผมก็จริงใจกับผม  และที่สำคัญที่สุด..ผู้หญิงที่ผมรักก็รักผมตอบแล้ว....ตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลกเลย
        ผมไม่รู้ว่าผมกับหวานจะคบกันไปได้นานขนาดไหน..ผมรู้แค่ว่าผมจะประคับประคองวันนี้ของเราให้ดีทุ่ด  และจะต้องทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่านี้..มันจะเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ...อย่างไม่มีที่สิ้นสุด..........
        

    “ถึงเธอนั้นจะไม่ได้สวยโดดเด่น
    ดั่งเฉกเช่นดาวเด่นโรงเรียนนี้
    แต่เธอนั้นเป็นดาวที่แสนดี
    หากมองที่หัวใจอันงดงาม”

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    0 ความคิดเห็น

    ×