อะไรก็ตามในชีวิตคนเราถ้าได้มาอย่างง่ายๆ  มันก็คงจะไม่มีคุณค่าเท่าไร    ความรักก็เหมือนกัน ถ้าทุกอย่างมันลงเอยง่ายๆด้วยดี  มันก็คงไม่ค่อยมีคุณค่า....แต่ความรักของผม  กว่าทุกอย่างมันจะลงตัวได้  ก็ต้องใช้ทั้งเวลาและความพยายาม  เพราะฉะนั้นเมื่อผมได้มาแล้ว  ผมจะไม่มีวันปล่อยให้มันหลุดลอยไปเด็ดขาด!
    ครั้งแรกที่ผมเจอเจ้าหญิงน้อยๆของผม  ผมจำได้  วันนั้นเป็นวันเรียนปรับพื้นฐาน ม.1 วันแรก  ตอนนั้นพวกเราเด็ก ม.1 เพิ่งขึ้นมาจากการเข้าแถว  ผมเดินมาที่ห้องกับเพื่อนๆ  ผมเลือกที่หน้าสุด  เพราะสิทธ์  เพื่อนสนิทผมมันลืมเอาแว่นมา 
    “เธอๆ”เสียงเด็กผู้หญิง..ผมหันไปดูว่าคำว่า “เธอๆ” ใช่ผมรึเปล่า  “เธอๆ โทษนะคะ  ตรงนี้มีใครนั่งรึเปล่าคะ”เธอถามผม  “ไม่มีฮะ”ผมตอบเบาๆ...ผมแปลกใจตัวเองมาก...เธอเป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาธรรมดา  แต่อะไรก็ไม่รู้มาสะกิดใจผม  ทำให้ผมประทับใจเธออย่างบอกไม่ถูก..
    ถึงเวลาเลิกเรียนสักที..อะไรก็ไม่รู้มึนไปหมด...เฮ้อ..นั่งเรียนมาทั้งวันยังไม่รู้ชื่อของเธอเลย..แต่จู่ๆก็มีเหมือนเสียงอะไรหล่นข้างหลังผม..ผมหันกลับไปดู..โถ่ที่แท้กามเทพ (ปากกา)หล่น  “นี่ฮะ  เรียนด้วยกันมาทั้งวันยังไม่รู้ชื่อเลย  เราชื่อพัฒน์..เธอชื่ออะไรอ่ะ”ผมถาม  “เราชื่อหวาน”เธอบอกแล้วส่งรอยยิ้มที่น่าประทับใจมาให้
เอาวะ  อย่างน้อยเจ็ดวันที่เรียนด้วยกันก็พยายามตีสนิทไว้ละกัน
    วันสุดท้ายที่เราได้เรียนด้วยกันมาถึง  อีกประมาณ 10 นาที  เราก็จะรู้ว่าเราได้อยู่ห้องเดียวกันรึเปล่า
    เฮ้ย..สวรรค์แกล้งชัดๆเลย  ผมกับหวานอยู่คนละห้อง  แถมห้องยังอยู่ห่างกันตั้งไกล....เวรกรรม
    พอพวกเราขึ้น ม.1  ผมกับหวานแทบจะไม่ได้เจอกันเลย..ถึงบางทีเจอก็ไม่ได้ทักกัน  เพราะหวานมักถูกห้อมล้อมด้วยเพื่อนชาย-หญิงประมาณ 7 คน...เฮ้อ..คนขี้อายอย่างผมจะไปกล้าทักได้ไง..ก็ได้แต่มองห่างๆ...มองเธอยิ้ม..มองเธอหัวเราะ  แค่นั้นก็เป็นสุขใจแล้ว...
    พอขึ้น ม.2  ผมไม่เคยดีใจขนาดนี้มาก่อน (ถ้าไม่นับตอนสอบติด ม.1) ผมกับหวานได้อยู่ห้องเดียวกัน!  ผมจะได้อยู่ห้องเดียวกับหวานถึง 2 ปี!
    วันแรกที่เปิดเทอม  ผมเดินเข้าไปทักหวาน  หวานทำหน้างงๆ  ผมขำท่าทางของหวานมาก..ไม่แปลกหรอก  ก็สมัยก่อนผมไม่ได้ใส่แว่นนี่...ผมถอดแว่นออกช้าๆพร้อมบอกว่า  “พัฒน์ไง..จำได้ป่าว”  หวานพยักหน้าหงึกๆพร้อมส่งรอยยิ้มมาให้ผม
    กลุ่มผมกับกลุ่มหวานสนิทกันเร็วมาก  หวานไม่รู้หรอกว่าผู้ชายอย่างผมแอบมองเธออยู่...และแล้วเรื่องที่หน้าเศร้าก็เกิดขึ้นกับผมจนได้  เมื่อผมสังเกตุเห็นสายตาอันอ่อนโยนของเธอมองเพื่อนในกลุ่มสนิทของผม..
ท็อป...ผมไม่เถียงว่ามันนิสัยดี..ก็ใช่สิ...มันทั้งหล่อ  ทั้งนิสัยดี..สุขุม  เรียนเก่ง  ผู้ชายขี้เล่นอย่างผมจะไปเทียบได้อย่างไร...แต่ทำไมนะ..ทำไมมันถึงไม่ชอบเธอ..และทำไมเธอถึงไม่ชอบผม...ผมแอบเศร้าลึกๆ  แต่ผมก็ยังบอกตัวเองเสมอว่า  “ได้มองดูเธอใกล้ๆก็ดีเท่าไรแล้ว”
    ยิ่งนานวัน  ความรู้สึกของผมค่อยๆมากขึ้นเรื่อยๆ  เท่าที่ผมได้ฟังมา  ใครๆก็บอกว่าช่วงวัย วัยนี้  มันก็เป็นแค่ป๊อปปี้เลิฟ..แต่ทำไมป๊อปปี้เลิฟของผมมันถึงตรึงใจผมได้ขนาดนี้  หรือว่าเธอจะไม่ใช่แค่นั้น..หรือเธอคือคนที่ใช่......ผมเล่าความในใจให้เพื่อนผมคนนึงฟัง..นั่นก็คือสิทธ์..เพื่อนสนิทที่สุดของผม  ตอนที่ผมบอกครั้งแรก  มันทำหน้างงสุดๆเหมือนไม่เชื่อ เพราะตั้งแต่ไหนแต่ไร  ผมบอกสิทธ์เสมอว่าสเปกผมต้องขาว  สวย  แต่หวานเป็นคนน่าตาน่ารักธรรมดา  แต่ผมก็ไม่อายที่จะบอก  ก็มันชอบนี่  หน้าตาธรรมดา แต่นิสัยดี  ถึงเธออาจถูกใครหลายคนมองว่านิสัยไม่ดี  ถ้าผมมองว่าดีซะอย่าง..\"ใครจะทำไม\" 
    พอขึ้น ม.3  ทุกอย่างก็ไม่ค่อยต่างอะไรจากตอน ม.2 มากนัก  แต่มีอยู่อย่างนึงที่ผมรู้สึกว่าผมโชคดีเหลือเกินคือ..ผมได้นั่งข้างๆหวาน..เฮ้อ..แต่ก็มิวาย  มีไอ้ท็อปมานั่งใกล้ๆด้วย
    วันหนึ่ง  ผมตื่นมาตอนเช้า  ผมรู้สึกปวดหัวเหมือนมีไข้  แต่วันนี้มีสอบอังกฤษ  ถ้าหยุดมีหวังโดนหักคะแนนแน่  ยิ่งเจ๊แกดุๆอยู่...
    พอผมสอบอังกฤษเสร็จ  ผมเริ่มรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว..เหงื่อผมออกเยอะ  ตัวผมร้อนมาก  คงเป็นเพราะเมื่อเช้า  แม่วางยาให้ผม  แต่ผมเป็นโรคเกลียดยาสุดๆ  ผมหยิบมาทิ้งที่ท่อน้ำหน้าบ้านแทนที่จะกลืนลงคอ...แล้วอย่างนี้ไข้มันจะลดไหมเนี่ย..ผมฟุบลงกับโต๊ะ  ไม่มีใครสนใจผม..แต่เธอ..น้ำหวานย้อมใจผม..  “พัฒน์”หวานเรียกชื่อผม  ผมเงยหน้าขึ้นมา  หวานเอามืออันอ่อนนุ่มมาจับที่หน้าผากของผม  “นายมีไข้สูงนี่”หวานทำเสียงดุผม  ผมยิ้มแห้งๆให้เธอ  หวานเดินไปพูดกับอาจารย์2-3คำแล้วเดินกลับมาหาผม  “ไปห้องพยาบาลกัน”หวานพูดกับผม...ผมรู้ตัวว่าผมหน้าซีดลง..ผมเกลียดการกินยาที่สุด..แต่ถ้าเป็นพยาบาลคนนี้.. “กินก็กินวะ”ผมบอกตัวเอง
    พอถึงห้องพยาบาล  คุณพยาบาลของผมก็จัดแจงทำทุกอย่างให้ผม  “ทานยาซะ”หวานบอกผม...ผมยิ้มแห้งๆ..ผมเกลียดการกินยาที่สุด  “พัฒน์..”หวานทําเสียงดุ  ผมรับยาจากเธอมาช้าๆ  “กิน”หวานดุผม..ผมกลืนยาลงคออย่างยากเย็น.. \"นอนซะนะ  อาการจะได้ดีขึ้น”หวานพูดด้วยเสียงอ่อนโยน  ผมนอนลงอย่างว่าง่าย  หวานเอาผ้าเช็ดหน้าของเธอที่ชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้ผม...นี่เป็นครั้งแรกในชีวิต..ที่ผมรู้สึกอย่างป่วยจนไม่อยากหายทีเดียว...
    วันสุดท้ายของการแต่งชุด ม.ต้นมาถึง..ผมวันนี้ล่ะ  ไม่ว่ายังไง..ผมก็ต้องสารภาพให้ได้ทีเดียว...แต่แล้ว..ผมก็เหลือบไปเห็นหวานยืนคุยกับท็อป  เธอทำหน้าเหมือนโลกทั้งโลกมีแค่เธอกับท็อปเท่านั้น  หวานคุยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม..สีหน้าที่มีแต่รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข..สีหน้าที่เธอไม่เคยมีเวลาคุยกับผมเลย 
    “เฮ้อ..ไม่ได้เจอท็อปตั้ง 3 เดือน..อีกทั้งไม่รู้ปีหน้าจะได้อยู่ด้วยกันอีกรึเปล่า”หวานพูดกับท็อป..อิจฉา.ผมอิจฉาไอ้ท็อปเหลือเกิน...ผมอยากให้หวานพูดกับผมบ้าง..สักครั้งก็ยังดี..
    เหมือนสวรรค์แกล้งผมอีกแล้ว  ผมต้องอยู่คนคนละห้องกับหวาน..ท็อปเองก็อยู่ห้องละห้อง..ผมไม่รู้สึกดีใจเลย  ผมสงสารหวาน..ผมยอมทุกข์...ขอแค่ให้หวานมีความสุข..แค่นั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับผู้ชายอย่างผม
    นับวันผมยิ่งอยากชกท็อปมากขึ้นเรื่อยๆ  เพราะช่วงหลังๆผมมักเห็นหวานทำหน้าเศร้า  พอผมถาม  หวานก็ตอบว่า..ท็อปเย็นชา..ไม่ทัก..ผมทำอะไรเพื่อเธอไม่ได้หรอ  ผมสงสารหวาน...สงสารเธอจริงๆ  สิ่งที่ผมทำได้..ผมทำได้แค่..ทำตัวเป็นเพื่อนที่ดี  คอยปลอบใจเธอเท่านั้น
    และแล้ววันหนึ่ง  เวลาประมาณ 4 โมงเย็น..ผมเดินไปที่สวนหลังโรงเรียนเพื่อไปหาอาจารย์เรื่องโครงงาน...แต่บังเอิญ..ผมเห็นหวานกับท็อป..ผมค่อยๆคลานไปแอบหลังพุ่มไม้ใกล้ๆโดยที่ไม่ให้ทั้งสองเห็น..ผมรู้ว่ามันไม่ดี..แต่ผมจะทำ!
    “ท็อป”หวานพูด  “มีอะไร”ท็อปถามกลับ...ผมได้ยินอย่างนั้น  ผมแทบอยากจะกระโดดออกไปชกหน้ามัน “มีอะไร” พูดมาได้ไง... “หวานชอบท็อป” ผมได้ยินอย่างนั้น  ผมแทบเป็นลม..ผมรู้สึกปวดร้าวไปทั้งตัว...หวานบอกท็อปแล้ว.. “ขอโทษนะหวาน...เราคิดกับเธอแค่เพื่อนเท่านั้น”ท็อปตอบหวาน  “ท็อป..แล้วตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน..ท็อปเคยคิดกับเรา...เกินเลยคำว่าเพื่อนไหม..”หวานพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ..ผมฟังออก..เสียงของหวานฟังดูเศร้าเหลือเกิน..หวานคงปวดร้าวจนแทบทนไม่ไหวแล้ว  “เราไม่เคยคิดกับเธอเกินคำว่าเพื่อนเลย”ท็อปพูดแล้วหันหลังให้หวาน  “เดี๋ยว”หวานคราง  “อะไร”  “ยังไงก็เป็นเพื่อนกันต่อไปนะ”หวานร้องด้วยเสียงปรกติ..แต่ก็แฝงไปด้วยความเจ็บปวด  “อือ”ท็อปตอบแล้วเดินจากหวานไป...หวานทรุดตัวลงนั่งกับพื้นเหมือนจะร้องไห้..แต่ร้องไม่ออก..ผมคลานออกจากหลังพุ่มไม้ช้าๆ 
    “หวาน”ผมเรียกชื่อหวาน  แล้วคุกเข่าลงนั่งข้างๆ  “พัฒน์..นาย..”  “อือ..ขอโทษทีนะ...เราผ่านมาพอดี”ผมพูด..ผมไม่สามารถเห็นดวงตาของหวานได้  หวานก้มหน้าตลอด  “เฮ้อ..อกหักจนได้”หวานเงยหน้ามองผมช้าๆ  เธอแกล้งยิ้ม..ยิ้มที่แฝงไปด้วยความเศร้า  “หวาน”ผมเรียกชื่อเธอ...ดวงตาของหวานเริ่มมีน้ำใสๆไหลออกมา  “พัฒน์..”หวานครางชื่อผม  น้ำตาจากดวงตาเธอไหลออกมาเรื่อยๆเหมือนหยุดไม่ได้...ผมรู้ว่าเธอเจ็บมาก...เปลี่ยนกันได้ไหม..ขอผมเจ็บแทนเธอได้ไหม...ผมเอามือข้างหนี่งปาดน้ำตาให้เธอ  อีกข้างหนึ่งจับไหล่เธอไว้ 
“โฮๆๆๆๆๆ”หวานร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะกลั้น...ผมสงสารหวานเหลือเกิน  “ร้องออกมาเถอะถ้าอยากจะร้อง”ผมบอกกับหวานด้วยความรักและห่วงใย  “ฉันไม่ดีตรงไหน...ทำไม..ทำไม”หวานร้อง..ผมเอามือที่เช็ดน้ำตาเธอมาปิดที่ปากของเธอ  “เค็มมะ”ผมพูดยิ้มๆ  “หวานอย่าพูดอย่างนั้นสิ  หวานมีข้อดีตั้งมากมาย  คนเราแต่ละคนมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป..แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น..ผู้ชายคนนี้จะยังอยู่ตรงนี้..ไม่ไปไหน..จะคอยเคียงข้างผู้หญิงที่ชื่อหวานเสมอ”ผมพูดพร้อมมองตาหวาน..ให้ดวงตาของผมบอกความในใจ  “เรารักหวาน”ผมพูด..พูดคำที่อยู่ในใจผมมากว่า 3 ปี....3 ปีที่ผมทนเก็บมันไว้  ผมไม่กล้าบอกเธอเพราะกลัวจะเสียเธอไป..แต่ครั้งนี้..ผมอยากให้เธอรู้  ว่ายังมีคนที่รักเธอ...
    “สู้ต่อไปนะหวาน  ถ้าเธอต้องการใครอยู่เคียงข้างเมื่อไร..หนึ่งในคนที่เธอคิดถึง..ขอให้เป็นเรานะ..เราพร้อมเสมอ” 
    หลังจากวันนั้น  ผมเริ่มสปีดตัวเองโดยการแสดงให้หวานเห็นว่าผมจริงใจกับเธอจริงๆ  แต่ผมเองก็ต้องให้เวลาหวานเพื่อลืมท็อปเหมือนกัน..แต่ไม่ว่ามันจะอีกนานขนาดไหน...ผมจะรอ
    ผมขึ้น ม.5  ด้วยความรู้สึกที่ดีๆ โดยเฉพาะผมมั่นใจว่าหวานเริ่มมีใจให้ผมบ้างแล้ว
    จากที่ผมเคยรู้สึกว่าสวรรค์แกล้ง  แต่ตอนนี้  ผมกลับรู้สึกว่าสวรรค์คอยช่วย...ผมกับหวานได้อยู่ใกล้ชิดกันมาขึ้น  เรามีความรู้สึกดีๆให้แก่กันและกัน...จะว่าเอาจริงๆ  อยู่คนละห้องก็ดีเหมือนกัน  เวลาเรียนจะได้ไม่วอกแวก
    มีอยู่เรื่องอยู่เรื่องหนึ่ง  ที่ผมยังรู้สึกแปลกใจตัวเองไม่หาย...ตั้งแต่ผมสารภาพกับหวานตอน ม.4 เทอมต้น  ผมคะแนนดีขึ้นอย่างน่าประหลาด  ผมก็งงๆอยู่เหมือนกัน..อาจเป็นเพราะผมกลัวหวานเจ็บปวดจนเรียนไม่รู้เรื่อง  ผมเลยต้องตั้งใจเรียนเพื่อนที่จะได้เป็นติวเตอร์ให้หวานเสียเอง...อย่างที่คนโบราณว่าจริงๆ  ถ้าเราทำดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน...เราจะได้ผลตอบแทนกลับมายิ่งกว่าที่เราได้ทำไป
    และแล้ววันวาเลนไทม์..วันที่ผมต้องทนทุกข์อยู่กับความเจ็บปวด...ในที่สุด..วันนี้มันก็เป็นวันแห่งความสุขของผมเสียที
    ผมนั่งคุยกับหวานใต้ต้นไม้ใหญ่ของโรงเรียน..ถึงแม้จะเป็นการคุยในฐานะเพื่อนก็ตาม..ผมก็ดีใจที่ผมมีโอกาสอยู่กับเธอในโอกาสพิเศษอย่างนี้
    “พัฒน์”หวานเรียกชื่อผม  “จ๋า...”ผมขานตอบ  “พัฒน์เคยเหนื่อยหรือท้อกับการรอใครสักคนไหม..รอคนๆนั้นทั้งๆที่เค้าเคยชอบเพื่อนของพัฒน์  อีกทั้งเพื่อนๆของพัฒน์ก็ไม่สนับสนุนเท่าไรเพราะเธอหน้าตาไม่สวย”หวานถามผม..ผมเข้าใจว่าเธอหมายความอย่างไรและหมายถึงใคร..  “อือ...ถ้าถามว่าเหนื่อยไหม..มันก็มีบ้างนะ  แต่ถ้าถามว่าท้อไหม  เราตอบได้เลยว่าไม่เคย”ผมตอบหวานจากความรู้สึก  “3 ปีกว่าเชียวนะ  แถมเธอก็ไม่ใช่คนที่สวยอะไร  หน้าตาธรรมดาด้วยซ้ำ”หวานถามผม  “ก็เพราะเราไม่เคยมองผู้หญิงคนนั้นที่หน้าตาน่ะสิ..เรามองเธอคนนั้นที่หัวใจของเธอ  หัวใจที่แสนบริสุทธิ์ที่เต็มไปด้วยความดีงาม” 
    “เออ..จะพูดยังไงดีล่ะ...เราเชื่อใจพัฒน์”หวานบอกผมแล้วส่งกล่องของขวัญเล็กๆให้ผม  “เอ๋...”ผมร้องอย่างงงๆ  “ให้เรา...แล้วเมื่อกี๊หวานหมายถึง”ผมพดโดยแทบจะไม่หายใจ..คำพูดเมื่อกี๊เหมือนกับหวานหมายถึงโอเคให้ผมเข้าไปดูแลในใจเธอได้แล้ว  “ก็อย่างที่พูดล่ะ..เดี๋ยวก็ถอนคำพูดซะเนี่ย”หวานพูดแล้วหลบตาผม  “เฮ้ย  อย่านะหวาน  หวานเราสัญญานะ  เราจะไม่ทำให้หวานเสียใจเด็ดขาด”ผมรับปาก  “อือ”หวานครางเบาๆ..ผมหยิบมือหวานมากุมไว้  “นี่จ้า”ผมวางดอกกุหลาบสีขาวใส่มือของเธอ  “เราจำได้  ตอนที่หวานพูดเล่นๆกับเราตอน ม.2 ที่หวานบอกว่าดอกกุหลาบสีขาวก็เหมือนกับความรักที่บริสุทธ์..หวานจำได้ไหม”ผมพูดแล้วมองหน้าหวานที่มีสีชมพูอ่อนๆเต็มหน้า  “อือ..”หวานพูดแล้วเอากลีบดอกกุหลาบไปชนที่ริมฝีปากของเธอเบา...ผมยิ้มให้เธอ..ถึงแม้วันนี้ความพยายามของผมจะยังไม่ถึงที่สิ้นสุด  แต่มันก็แสดงผลออกมาให้ผมเห็นแล้ว..นับตั้งแต่นี้ผมไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว..ผมมีครอบครัวที่อบอุ่น  การเรียนผมอยู่ในเกณฑ์ดีเป็นที่พอใจของพ่อแม่  เพื่อนฝูงของผมก็จริงใจกับผม  และที่สำคัญที่สุด..ผู้หญิงที่ผมรักก็รักผมตอบแล้ว....ตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลกเลย
    ผมไม่รู้ว่าผมกับหวานจะคบกันไปได้นานขนาดไหน..ผมรู้แค่ว่าผมจะประคับประคองวันนี้ของเราให้ดีทุ่ด  และจะต้องทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่านี้..มันจะเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ...อย่างไม่มีที่สิ้นสุด..........
   
“ถึงเธอนั้นจะไม่ได้สวยโดดเด่น
ดั่งเฉกเช่นดาวเด่นโรงเรียนนี้
แต่เธอนั้นเป็นดาวที่แสนดี
หากมองที่หัวใจอันงดงาม”
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย