ผมชื่อ\"นนท์\"นี่คือบันทึกรักแสนเศร้าของผมเมื่อปีการศึกษาที่ผ่านมาไม่นานนี้...
    ผมจำไม่ได้ว่าเห็นเค้าครั้งแรกที่ไหน แต่จำได้ชัดเจนเลยว่าเจอเค้าในวันแรกที่เปิดเรียนเลยล่ะ ตอนต้นๆเทอม 1 ผมเจอเค้าบ่อยๆ ที่โต๊ะปิงปอง เค้าจะมากับเพื่อนอีกคนหนึ่งที่หน้าตาน่ารักมากๆ แต่ดันมารู้ทีหลังว่าเป็นทอมซะงั้นนะ เค้าเป็นคนเงียบๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ตอนนั้นผมไม่ได้ติดใจอะไรมากนัก พอเค้าเริ่มมาเล่นปิงปองกับผมบ่อยๆ เข้าผมก็คิดว่าคนอะไรวะแม่งแทบจะไม่พูดเลย ไม่ชอบหน้าผมรึเปล่า ผมได้แต่คิดแบบนี้มาตลอด บางครั้งเค้าก้อพูดกับผมเหมือนกันนะ แต่ว่าผมฟังไม่เคยรู้เรื่องเลย ได้แต่พยักหน้าเพื่อไม่ให้เสียมารยาทแค่นั้นแหละ บางครั้งเพื่อนของเค้าก็ชอบมาพูดเกี่ยวกับเค้าให้ผมฟังบ่อยๆ ทั้งๆที่ผมยังไม่รู้จักชื่อของเค้าเลย แต่ก็ได้ยินเพื่อนเค้าเรียกเลยพอจะเดาออกบ้าง ระยะปลายๆ เทอม 1 นี้เค้าดูไม่ค่อยจะเห็นผมอยู่บนโลกสักเท่าไหร่หรอกนะ ดูเเล้วมองแบบผ่านๆ ซะมากกว่า (แต่ตอนนั้นผมก็มองเค้าแบบนั้นเหมือนกันแหละ)
    หลังจากที่ไปค่ายคณิตกลับมาได้ไม่นาน สักประมาณต้นเดือนสิงหา 2547 เห็นจะได้ ผมได้รู้ความจากเพื่อนของเค้าว่าความจริงแล้วเค้าแอบชอบผมมาตั้งแต่ต้นเทอมแล้ว เวลาเจอเลยชอบทำอะไรแปลกๆ พอผมได้รู้ผมถึงกับอึ้ง !!! ไปเลยล่ะ ก็ใครมันจะไปคิดล่ะว่าใครก็ไม่รู้ที่แทบจะไม่รู้จักเลย อยู่ดีๆก็มาชอบผมซะงั้นน่ะ  หลังจากวันนั้นผมก็แทบไม่ไปเล่นปิงปองอีกเลยล่ะ ถึงแม้ว่าจะอุตส่าแบกไม้ปิงปองมาจากบ้านก็เหอะ  ตอนเลิกเรียนเดินมาที่โต๊ะปิงปอง พอเห็นเค้าผมเดินกลับบ้านทันทีเลยล่ะ ก็ไม่รู้เป็นอะไรเหมือนกัน มันเหมือนจะเข้าหน้ากันไม่ค่อยติด แต่เค้าก็ไม่ได้รู้หรอกนะว่าผมรู้ว่าเค้าคิดยังไงกับผม แต่เค้าคงจะไม่ได้สนใจเท่าไหร่ล่ะมั๊ง ทุกครั้งที่ผมเจอเค้าแบบผ่านๆ หรือเดินสวนกัน  ผมก็มีความรู้สึกแปลกๆ  จะให้เรียกว่าตื้นเต้น ก็คงจะไม่ใช่ แต่หัวใจมันเต้นเป็นแร็บโย่วเลยล่ะ จนผมทนไม่ไหวต้องโทรไปปรึกษาเพื่อนของเค้าว่าผมอาจจะรู้สึกชอบเค้าแล้วก็ได้ แต่ยังไม่ค่อยจะแน่ใจเท่าไหร่ เพราะผมไม่อยากจะเจ็บอีกแล้วเรื่องความรัก เพื่อนของเค้าพูดอย่างมั่นใจเลยว่าถ้าเป็นเค้ารับรองว่าจะไม่มีวันเสียใจหรอก เพราะเค้าชอบผมอยู่แล้ว และหลังจากวันนั้นข่าวก็แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วเหมือนกับดอกเห็ดเลยล่ะ ขนาดแค่เพื่อนผมก็รู้กันทั้งห้องไม่พอ ยังมีอาจารย์โฮมรูมด้วยนะ เวรกรรมของผมจริงๆที่มีคนรู้มากขนาดนั้น คงเป็นเพราะตอนผมเข้าแถว พวกเพื่อนบังเกิดเกล้าทั้งหลายคงเห็นผมแอบมองเค้าอยู่บ่อยๆ  เลยสงสัยล่ะมั้ง และผมเองก็มั่นใจเลยล่ะว่าเค้าก็รู้ แต่เค้าทำเหมือนกับไม่รู้นั่นแหละ อะไรกันเนี่ยช่างเป็นคนที่ไร้ความรู้สึกซะจริงนะแม่คุณ แต่ก็แปลกที่ผมไม่เคยรู้สึกเสียใจเลยกับการกระทำของเค้าเลย แม้แต่อย่างเดียว ดูแล้วในความคิดของผมเค้าทำอะไรก็ดูดีไปหมดแหละ โดยเฉพาะเวลาเล่นปิงปองหละพี่แกจะเต้าลีลาศให้ดูทุกทีไม่รู้เป็นอะไร หลังจากนั้นมาเรื่อยๆ ผมคิดว่าตัวเองจะเหมือนกับคนโรคจิตเข้าไปทุกวันๆ แล้วนะเนี่ยมีโอกาสทีไรเป็นชอบมองไปตลอด
    เข้าช่วงปิดเทอมแล้วล่ะ ตอนนั้นผมได้รู้เบอร์โทรศัพท์ของเค้ามาแล้ว แต่ก็ยังไม่กล้าโทรไปสักที ไม่รู้จะเอาเบอร์มาทำไมเหมือนกัน จนวันนึงได้ฤกษ์ดีโทรไปหาเค้ารู้สึกว่าตอนนั้นจะไปแข่งเทฯที่เชียงใหม่ เค้าพูดแบบสบายๆนะ แต่ผมเองเกร็งจะตายอยู่แล้วเนี่ย ผมจำไม่ค่อยได้ว่าพูดอะไรไปบ้าง แต่คุยนานมากเลยนะ จนเงินในมือถือแทบจะหมดไปเลยล่ะ พอดีคืนนั้นตอนตี 2 ถึงกับไข้ขึ้นเลย คงเป็นเพราะความเขิน บวกกับ ตื่นเต้นที่จะเเข่งเทฯพรุ่งนี้ด้วยแหละ เลยเป็นอันว่าแข่งแพ้ไปซะงั้นนะ แต่ก็ช่างมันเถอะ ไปเชียงใหม่แล้วหาเรื่องโทรมาหาเค้าได้แล้วก็สบายใจแล้วล่ะ กลับมาจากเชียงใหม่ระยะใกล้เปิดเรียนเทอม 2 แล้วช่วงนี้เค้าชอบไปเล่นที่โรงเรียนมากเลย คงเป็นเพราะบ้านเค้าอยู่หน้าโรงเรียนด้วยมั๊ง  ผมจำได้วันนึงล่ะ ว่าเพื่อนเค้านัดผมไปบอกว่าจะเล่นปิงปองด้วย แต่พอไปให้ผมไปรอเก้ออ่ะ เค้าก็เลยลงมาเล่นกับผมแทน  และที่ประทับใจสุดๆ คือเค้ายอมเอาไม้บัตเตอร์ฟายให้ผม ส่วนเค้าใช่ไม้ธรรมดาแทน ตอนแรกผมคิดว่าเค้าคงจะหยิบผิดมั้ง แต่พอยื่นให้เค้า เค้าก็บอกไปว่าใช้ไปเถอะ อึ้ง
!!! ครับ อะไรจะแม่พระขนาดน้าน  ตลอดเวลาที่เล่นด้วยกันหัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะเลยล่ะ มันเร็ว+รัว กว่าแร็บโย่ว แบบวันนั้นอีกนะ คงเป็นวันปิดเทอมที่ดีที่สุดของผมแล้วละ ส่วนวันอื่นๆ ก็เป็นเหมือนปกตินะ ไม่ได้พิเศษอะไรไปกว่าเดิมหรอก
    เปิดเทอม 2 แล้ว ทุกวันยังคงเป็นปกติ คือได้แค่แอบมองอยู่อย่างนั้นแหละ ไม่กล้าเข้าไปคุยสักที ก็มันช่วยไม่ได้นี่ แค่เจอก็แทบจะควบคุมหัวใจไม่อยู่แล้ว เฮ้อ
เวรกรรมที่สุด คือทุกวันได้เจอเป็นสุขใจล่ะ เปิดเทอมสักพักมาก็เป็นกีฬาสี  ผมอุตส่าขอร้องเพื่อนเค้าให้ไปถ่ายรูปเค้าให้หน่อย แต่มันก็ไม่ประสบผลสำเร็จเนี่ยสิ อย่างเซ็งเลย พออีกวันมาเลยใช้เพื่อนผมเองให้เป็นประโยชน์ จัดการใช้มันซะ แต่เค้ากลับปฏิเสธ บอกว่ากำลังเครียดอยู่งานไม่เสร็จ ตอนนั้นผมเองก็ไม่รู้คิดอะไรอยู่บอกเพื่อนไปว่าเค้าทำหน้าเก่ง ไปตื้ออีกหน่อยเถอะ  นอกจากจะไปได้รูปแล้วเค้ายังโกรธผมอีกเนี่ยสิ หาว่าฝากเพื่อนไปบอกแบบนั้น เวรกรรมเลยชีวิต ดันมีเพื่อนปากปีจออีก  วันนั้นผมไม่ได้คิดอะไรมาก  แต่หลังจากนั้นเห็นเพื่อนเค้ามาบอกว่าเค้าโกรธมากจนถึงขั้นร้องไห้เลยนะ ให้โทรไปขอโทษซะ แต่ผมก็หาข้ออ้างว่าเงินใกล้หมด แต่ความจริงแล้วน่ะผมไม่กล้าที่จะโทรไปขอโทษต่างหาก  ใช้เวลาได้สัก 2-3 วัน ก็กล้าพอเลยโทรไปขอโทษ แต่พี่แกดันบอกไม่ได้โกรธ อ่าว
เวรกรรม แต่น้ำเสียงดูเหมือนคนโกรธจังอ่ะ  เลยยังไม่ค่อยแล้วใจเท่าไหร่ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ทำได้ก็แค่ให้เรื่องมันผ่านไป เผื่อเค้าจะลืมไปเอง  แต่สำหรับผมแล้วมันอาจเป็นเรื่องที่ผมละอายใจที่สุดก็ได้นะที่ได้ทำไว้กับเธออ่ะ ถ้าจำไม่ผิดตอนนั้นเค้าจะเป็นหวัดด้วยนะ แค่ถามว่าเป็นอะไรก็ยังไม่ยอมบอกเลย  มีหลายครั้งมากที่เจอกันโดยบังเอิญ(บังเอิญแบบไม่ได้แกล้งเดินไปให้เจอนะ) ผมเองก็พยายามสังเกตดูเค้าว่าจะมีสักครั้งมั้ยที่หันมามองผม แต่ก็ไม่เคยเลยที่จะเห็น มันคงเป็นความหวังริบหรี่มากเลยที่จะมีสักครั้ง ที่หันมามองกันบ้าง  มีคืนที่ไปดูงานแห่กระทงใหญ่กัน อันนี้แหละบังเอิญเจอกันอีก  แต่อย่าหวังเลยว่าจะได้คำทักทายจากเธอ ของมันแน่อยู่แล้ว ทำเหมือนคนไม่รู้จักกันจนผมเองก็เริ่มจะชินกับความรู้สึกแบบนี้แล้วเหมือนกันนะ เห็นเพื่อนเค้าจะพยายามดันเค้าให้มาใกล้ๆผม แต่เค้าก็ยังสบัดเดินหนีไปอีก  ก็เป็นซะแบบเนี่ยนะ คนผม 
    ในช่วงปีใหม่ รู้สึกว่าช่วงนี้ที่ผมรู้สึกว่าเค้าจะให้ความหวังผมมากกว่าเมื่อก่อนหน่อยนึงล่ะ  คือตอนแรกผมเอาเฟอร์เรโล่ล็อคเชอร์มาห่อด้วยฝีมือของผมเอง แล้วฝากเพื่อนเค้าไปให้เค้า แต่ผมก็ไม่คิดว่าเค้าจะให้อะไรผมตอบแทนหรอกนะ และวันต่อมาเพื่อนผมเอากล่องที่ห่อด้วนกระดาษลายเรียบๆ ไม่ฉูดฉาดมากมาให้ผม แล้วบอกว่าเค้าฝากมาให้ ผมรีบบรรจงแกะออกอย่างรวดเร็ว แม้กระทั่งกระดาษห่อตอนนี้ผมยังเก็บเอาไว้อยู่เลยล่ะ ปรากฏว่ากล่องที่บรรจุอยู่นั้นตกแต่งด้วนสีเทียน หรือสีชอล์กผมเองก็ไม่แน่ใจ แต่มันเขียนเต็มไปหมด และพอแกะออกมา มันคือหมอนทรงลูกบาศก์ เวลาที่บีบมันจะมีเสียง “ I LOVE YOU I LOVE YOU ” วันนั้นทั้งวันผมแทบจะเป็นคนบ้านั่งมองแต่หมอนใบนั้นเลยล่ะ อย่างน้อยผมก็รู้ว่าเค้าคิดกับผมยังไง  ตอนเย็นของวันที่ 30 ธันวา ผมนัดเพื่อนที่เป็นเด็กเทฯด้วยกันไปวิ่ง โดยที่รู้อยู่แล้วว่าพวกเพื่อนๆ ของเค้า และเค้าจะไปกินหมูกระทะกันแถวๆ นั้น  พอผมวิ่งเสร็จ ก็แน่นอนตามแผนแกล้งเดินไปในร้านก่อนแล้วมองๆ ดูให้แน่ใจว่าเค้ามา แล้วก็นั่งลงกินเลยล่ะ ถึงกินหมูกระทะจะไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ แต่อาหารตานี่มันอร่อยมากๆ เลยล่ะ    คืนวันที่ 31 ธันวา ผมตั้งใจว่าจะโทรไปฉลองไปใหม่กับเค้า และบอกชอบเค้าด้วยล่ะ เลยตั้งใจโทรไปตั้งแต่ประมาณ 3 ทุ่ม กว่าๆ  ตอนนั้นผมกินอาหารเรียบร้อยหมดแล้วล่ะ และดื่มไวน์ไปด้วยมากเหมือนกัน  แต่ผมมั่นใจว่าผมมีสติครบถ้วนดีอยู่นะ ตอนโทรไปผมคุยกันหลายเรื่องเลย สารพัดเรื่องที่หลุดมาจากปากของผม เว้นแต่เรื่องเดียวเท่านั้น ตอนใกล้จะวางแล้วผมบอกชอบเค้า ผมไม่รู้ว่าเค้าจะรู้สึกแบบไหน แต่เค้าก็ตอบมาชอบผมเหมือนกัน ผมเลยขอเค้าเป็น แฟน แต่เค้ายังไม่ทันจะตอบเค้าก็ต้องวางแล้ว ผมจึงบอกว่างั้นจะเอาคำตอบปีหน้าละกัน และเค้าก็วางสายไป
    ตอนแรกผมคิดว่าเมื่อบอกไปแล้วจะรู้สึกดีขึ้น เหมือนที่เพื่อนเค้าบอกมา  แต่มันทำให้ผมกลุ้มใจมากว่า และเครียดด้วยว่าคำตอบของเค้าจะออกมาเป็นยังไง ผมเล่าให้เพื่อนเค้าฟัง เพื่อนเค้าก็บอกว่าดีเเล้ว และบอกเพื่อนเค้าไปว่าผมเมาค้างไวน์เลยกล้าที่จะบอก เพราะถ้าไม่บอกอย่างงั้นผมอาจจะไม่กล้าโทรไปถามคำตอบจากเค้าก็ได้    วันที่ 3 มกรา  ผมโทรไปเอาคำตอบจากเค้า และแน่นอน เค้าคิดว่าผมเมาค้างจริงๆ ด้วย  เค้าดูไม่ได้โกรธที่คิดว่าผมเมา พอผมบอกว่าจะมาเอาคำตอบ เค้าก็พูดเล่นๆ ว่ายังไม่ได้ถามจะให้ตอบอะไร ตอนนั้นหัวใจผมมันหล่นวาบลงไปเลยล่ะ หรือว่ามันอาจไม่สำคัญสำหรับเค้าถึงพูดแบบนี้  แต่ตอนท้ายเค้าก็มาบอกว่าจำได้ เค้าก็ถามกลับมาว่าเป็นแฟนหรือว่าไม่เป็นแฟนมันสำคัญตรงไหน ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงดีอ่านะเลยตอบว่าไม่รู้ และแล้วให้ผมเป็นคนตัดสินใจว่าจะเป็นหรือไม่เป็น  ผมไม่เค้าใจเค้าเลยจริงๆ นะผมถามเค้าก็ต้องแสดงว่าผมพร้อมที่จะเป็นสิ อยู่ที่เค้านั้นแหละที่จะยอมเป็นมั้ยเท่านั้นเอง และผลสุดท้ายก็คือ
เค้ายอมเป็นแฟนผมล่ะ !!!  อยากจะปิดถนนพหลโยธินเลี้ยงฉลองหว่ะ แต่มันคงเกินไปหน่อย  มันเป็นอะไรที่ดีใจที่สุดเลยล่ะในปีใหม่นี้นะ    ผมได้เอาไปเล่าต่อให้เพื่อนเค้าฟัง แล้วก็ถามว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไงบ้าง(พรุ่งนี้คือวันอังคารที่ต้องไปโรงเรียน)  เพื่อนเค้าบอกว่าคงต้องดูก่อนว่าทำตัวเหมือนปกติ หรือเริ่มมีทักทายบ้าง ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่ลุ้นมากๆ
    วันนี้อาจเป็นวันที่มีความสุขที่สุด หรือน่าหดหู่ใจที่สุดก็ไม่รู้เนอะ เพราะผมเองก็ยังไม่รู้เลยว่าเค้าจะทำยังไง  ผู้หญิงอย่างเค้าเป็นอะไรที่ศึกษายากที่สุดตั้งแต่เคยเจอมาเลยล่ะ  และแล้วเวลาที่ผมจะเรียนห้องใกล้ๆ กันก็มาถึง
เวรกรรมจังเลย วันนี้ไม่ได้เจอเค้าแฮะ ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเค้าไปไหน ผมเริ่มใจไม่ค่อยดีแล้วล่ะ ถ้าเป็นแฟนกันแล้วรู้ว่าแฟนตัวเองจะมาเรียนห้องข้างๆ ก็น่าจะมาหาบ้างสิ แต่เค้ากลับหายไปเฉยเลยอ่ะ ผ่านมาตอนถึงพักกลางวัน ผมเจอกันแล้ว แต่เค้ากลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น !!! อะไรกันเนี่ย เธอคือคนที่เย็นชาที่สุดในโลกเลยอ่ะ หลังจากที่ กินข้าวเสร็จก็พยายามเดินผ่านหน้าเธอบ่อยๆ  แต่ก็ไร้ประโยชน์ ความเป็นแฟนของผมมันคงไม่มีประโยชน์เลยสินะ เฮ้อ
เวรกรรม
    วันนี้โรงเรียนมีจัดนิทรรศการ และที่แน่นอนมีบ้านผีสิงด้วย แล้วเค้าก็มาชวนเพื่อนผมเข้าบ้านผีสิง และที่แน่นอนไปกว่านั้นคือต้องมีผมพ่วงไปด้วย ตอนแรกเลยเค้ามาขออยู่กับเพื่อนผมที่เค้าคิวไว้  แต่เค้าต้องให้เข้าเป็นกลุ่ม เลยได้อยู่กลุ่มเดียวกัน  ทีแรกเลยผมให้เพื่อนเข้าก่อนให้หมดเหลือเค้า และผมตามหลัง มันอาจจะเป็นวิธีที่สกปรกไปหน่อย ที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับเค้า แต่ผมก็ไม่ได้ตั้งใจเลยที่จะเดินชนเค้านะ ผมเดินชนเค้าตั้งหลายครั้ง จะขอโทษผมก็ไม่กล้าที่จะคุยด้วย ผมเลยได้แต่พยายามเดินให้ห่างเค้าที่สุดเท่าที่จะทำได้ล่ะ    พอมาถึงบ้านผีสิงอีกที่นึง ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องเป็นรอบนี้ด้วยโดนดึงแขนจนหัวทิ่ม บังเอิญว่าผมไปเจอคนรู้จัก เค้าเลยแกล้งผมด้วยการดึงแขนรั้งไว้ ถึงมันจะมืดไปสักหน่อย แต่ผมก็ยังเห็นเค้าได้อย่างชัดเจน และรู้ด้วยว่าตอนที่ผมล้มไปนั้นเค้ายืนมองผมอยู่ในระยะห่างไม่ถึง 1 เมตร แต่ก็ไม่ได้เข้ามาช่วย เพราะพี่ที่เป็นผีเมื่อกี้รีบเดินมาช่วยพยุงก่อน แต่ถึงเค้าจะไม่ได้มาช่วย ผมก็สบายใจที่เค้ายังอุตส่าเป็นห่วงยืนดูผมล่ะ
เวลาคนที่ผมรักหึงผมเนี่ย ผมจะมีความสุข หรือทุกข์ใจดีนะ บางคนชอบที่จะทำให้คนรักหึง แต่สำหรับผมแล้วมันเป็นการกระทำที่แย่ที่สุดเลยนะ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจก็เหอะ  ไอ้เรื่องมันก็มีอยู่ว่าเพื่อนของเค้ามาบอกว่าเค้าหึงผมที่ผมไปเล่นจับแก้มเพื่อนของเค้า และก็ยังมาตอนเล่นปิงปองที่ไปคุยแต่กับเพื่อนของเค้าอีก เค้าเลยไม่ค่อยพอใจ ตอนแรกๆ ผมเองก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าจริงรึป่าว แต่วันต่อๆมาเวลาที่เจอกัน เห็นเค้าซึมๆไปเลยนะ  มีครั้งนึงเพื่อนไปเจอบอกว่าเห็นเค้าตาแดงๆ  นั่งอยู่คนเดียว ผมนี่ใจหายวาบไปเลยนะ  แถมตอนนั้นก็ยังเครียดเรื่องเรียนอยู่ด้วย เลยกลายเป็นโมโหตัวเองไปเลยล่ะว่าทำไมผมต้องไปทำแบบนั้นด้วย แต่ยังไงแล้วเค้าก็ชอบไปคุยกับเพื่อนของผมที่เป็น ผู้ชาย เหมือนกันแหละ  มันน่ามั้ยล่ะนั้น  ช่วงนั้นผมเลยอารมณ์ไม่ดีตลอดเลยอ่ะ เวลาเล่นปิงปองก็จะตบลูกอย่างเดียว บางครั้งเล่นปิงปองอยู่เห็นเค้าเดินมาก็เดินขึ้นห้องหลบหน้าไปซะงั้นนะ  จนเค้าเริ่มอารมณ์ดีขึ้น มาบอกเพื่อนผมว่าเค้าหายแล้ว ไม่ต้องทำหน้าบึ้งก็ได้ แล้วก็ไม่ต้องหลบหน้าด้วย พอผมได้ยินก็อารมณ์ดีขึ้นมาทันทีเลยล่ะ  เฮ้อ
ผ่านเรื่องร้ายๆไปอีกเรื่อง
“คิดถึงเธอจังเลย”  ทำไมก็ไม่รู้นะทุกครั้งอยู่คนเดียวต้องนึกถึงเธอตลอด ไม่ว่าจะกิน จะนอน จะนั่ง ก็คิดถึงเธอเสมอ แต่ก็เป็นอะไรไม่รู้เหมือนกันเนอะ เวลาเจอเธอทีไร ไม่เคยกล้าพอที่จะเข้าไปคุย ก็เป็นซะยังเงี่ยแหละผม ถึงไม่ได้เป็นแฟนตัวจริงกันซะที คุยได้แต่ทางโทรศัพท์ตลอดเลย
    ใกล้สอบแล้วล่ะ คงอีกไม่นานที่จะเจอกันที่โรงเรียน ผมคงคิดถึงเค้าจนเฉาตายแน่ๆเลยเนี่ย แต่จะให้ทำไงได้เล่า ช่วงนี้มีแต่เรื่องทั้งนั้นเลยแฮะ ไม่ว่าจะเรื่องเรียน เรื่องส่วนตัว ละก็เรื่องหัวใจ นอกจากจะมีงานค้างล้นมือแล้วเนี่ย ยิมก็ไม่ได้ไปเลย แถมหัวใจยังมาคิดหึงอีกนี่  ก็ไม่รู้ว่าใครผิดหรอกนะ แต่ที่รู้ๆคือคนมันหึงอ่ะ ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากที่เพื่อนสนิทไปคุย ไปเล่นกับเค้า แต่ช่วงหลังๆนี่ มันชักจะมากเกินไปแล้วนะ ไปอยู่ทั้งวันเลยก็มี หรือบางครั้งเจอก็วิ่งเข้าไปหาเลย มันชักจะเกินหน้าเกินตาไปหน่อยแล้วอ่ะ ไอ้ผมจะพูดมากก็ไม่ได้เดี๋ยวจะหาว่าหวงไม่เข้าเรื่อง จนเรื่องนี้ผ่านมาเกือบเดือน  จนผมเองทนไม่ไหวแล้ว ถึงกับเดินหนีเค้าไปเลยเวลาที่เจอกัน หรือไม่ก็เวลาที่ไอ้เพื่อนตัวแสบเข้าไปคุยด้วยอ่ะ มีครั้งนึงเค้าก็ถามเพื่อนผมว่าเป็นอะไรโกธรเค้ารึป่าว ผมก็ได้แต่บอกว่าป่าว ไม่มีอะไร ตอนนั้นผมเครียดมากจนบางครั้งก็ร้องไห้ออกมาโดยไม่มีสาเหตุ หรือไม่ก็อารมณ์เสียขึ้นมาซะเฉยๆ รู้สึกเรื่องจะแดงขึ้นมาตอนเย็นของวันสุดท้ายที่เรียนอ่ะ วันนั้นร้องไห้บ่อยมาก ผมไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่าเค้าจะเห็นน้ำตาของผมรึป่าว ใจนึงก็อยากให้เห็นนะเค้าจะได้รู้ซะทีว่าผมรู้สึกยังไง แต่อีกใจนึงผมก็ไม่อยากให้เค้ามาเห็นความอ่อนแอของผมหรอก ซักประมาณเย็นๆ เพื่อนตัวแสบรู้เรื่องทั้งหมดแล้วมันก็ดันร้องไห้ด้วยเลย เพราะหาว่าผมไปโกรธมัน อะไรวะคิดมากจังเลยไอ้นี่ สุดท้ายเพื่อนคนอื่นในแก๊งก็มาลงที่ผม หาว่าผมไปโกรธมัน ละก็หึงมากเกินไปด้วย อ่าว
เวรกรรม ตกลงกูผิดทุกที คืนนั้นผมเล่น m กับเพื่อนคนนึงในแก๊ง ผมถามมันว่าตกลงแล้วเรื่องนี้ใครน่าจะเป็นคนผิด มันตอบได้แบบไม่ต้องคิดเลยว่าผมผิด !!! ผมถามมันว่าทำไมผมถึงผิด มันก็บอกว่า “ ผิดที่ไปโกรธเพื่อน ละก็ยังหึงมากเกินไปด้วย พี่เค้ามาชอบอ่ะก็บุญแค่ไหนแล้ว ยังมีการไปหึงหวงอีก ” ผมฟังแล้วถึงกับอึ้งไปเลย ทั้งๆที่ใจไม่เคยคิดอะไรแบบนั้น ผมเลยตอบกลับไปว่า “ ถึงมันน่ะจะทำให้ผมหึงแค่ไหน แต่ผมก็ไม่เคยโกรธมัน ละก็จะไม่มีวันโกรธด้วย !!! ” “ ส่วนเรื่องที่หึงนะ ก็เพราะรักมาก เลยหึงมาก มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้เว้ย !!! ” ตอนนั้นได้พูดไปแล้วก็ทำให้สบายใจขึ้นมาหน่อย มันรู้สึกปลดปล่อยยังไงไม้รู้นะบอกไม่ถูก แต่หลังจากนั้นผมกับไอ้เพื่อนตัวแสบก็กลับมาสนิทกันเหมือนกันเดิม
ละก็ผ่านเรื่องใหญ่ไปอีกเรื่องนึง
    ปิดเทอมเนี่ยมันช่างน่าเบื่อซะจริงๆเลย ไม่ได้เจอเค้าตั้งหลายวันแล้วนะ อยู่บ้านก็เซ็งๆๆ เบื่อๆๆ  มีก็คงวันเสาร์นี่ที่โรงเรียนจะมีงานบอลล์อ่ะ นั่งนับวันรอเลยนะเนี่ย ไม่ได้เจอ 3-4 วันก็จะเฉาตายอยู่แว้ว !!! ละปิดเทอมนี้ผมจะอยู่ยังไงฟะ
    วันเสาร์แล้ว !!! นั่งนับวันรอมาตั้งนานแหน่ะ กว่าจะมาถึง ในงานนี่พูดได้เลยว่าแย่มากๆ อาหารกว่าจะมาก็ช้าสุดๆ นั่งมองหาเค้าตั้งนานเลยกว่าจะเจอ โชคดีที่ไปเจอเพื่อนในแก็งคนนึงพอดี เลยให้เดินไปหาเป็นเพื่อนหน่อย แต่พอไปถึงก็งั้นๆแหละ แค่ไปยืนมองเท่านั้นเอง แต่อย่างน้อยก็ดีใจนะที่เจอจนได้ คงหายคิดถึงไปได้อีก 2-3 วันแหละ ถ้างานนี้ไม่มีเธอไปนะ ผมคงเบื่อตายแหงๆ
    เบื่ออีกแล้วหว่ะ ไม่ได้เจอเธอเลยตั้งแต่วันเสาร์แล้ว ทำไงดีนะที่จะได้เจอเค้าอีกสักครั้งนึง จะโทรไปก็ไม่รู้เป็นไงมันรู้สึกแปลกๆอ่ะ เหมือนกับว่าไม่อยากโทร ทั้งๆที่คิดถึงจนจะเฉาตายอยู่แล้ว ก็เป็นยังงี้แหละเนอะ คนอย่างผม !!!
    ปิดเทอมนี้เป็นอะไรที่น่าเบื่อที่สุดในชีวิตเลยเนี่ย ผมคิดถึงเค้ามาก ตอนนี้ก็ 2 อาทิตย์แล้วอ่ะที่ยังไม่ได้เจอกันเลย ทำไมผมถึงเป็นคนที่ซวยแบบนี้นะ จะเฉาตายมั้ยเนี่ย !!!
    สบายใจจังเลย...ผมได้โทรไปหาเค้าแล้ว แต่ทำไมวันนี้น้ำเสียงของเธอถึงดูแปลกๆ นะ หรือว่าผมคิดมากไป คงไม่ใช่หรอก ผมว่าวันนี้เค้าแปลกไปจริงๆ เหมือนมีอะไรจะบอกแต่ก็บอกไม่ได้...เฮ้อ...
    สงกรานต์ !!! มันเป็นช่วงที่สนุกที่สุดเลย ผมเจอเธอติดกันตั้ง 4 วัน ตลอดเทศกาล แต่ทำไมนะ...ดูเธอไม่เห็นเหมือนปกติเลย ดูเศร้าๆ ทั้งที่เพื่อนของเค้าก็เล่นกันแบบปกติ ไม่ค่อยจะสนใจเค้าซักเท่าไหร่เลย เค้าคงไม่สบายรึไม่ก็เป็นอะไรซักอย่างแน่ๆ ผมอยากจะเดินเข้าไปถามซะจริงๆ เลยเนี่ย แต่ก็รู้ๆ อยู่ว่าไม่มีทางกล้าไปหรอก...เวรกรรมอีกละชีวิต...
    อีกเพียงสัปดาห์เดียวเท่านั้นที่โรงเรียนจะเปิดเทอม ผมเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมหมดแล้ว เหมือนกับว่าจะเปิดเรียนพรุ่งนี้ยังงั้นแหละ ตื่นเต้นซะเวอร์เลยผม แต่มันอยากไปโรงเรียนเร็วๆ นี่นา
    วันนี้เปิดเทอมวันแรก !!! ผมตื่นเต้นมากเลยที่จะได้เจอเค้า แต่เอ...ดูจากตารางสอนแล้วทำไมผมไม่เจอเธอล่ะ ทั้งๆที่เห็นเพื่อนเธอเดินมาเกือบครบกกเลยอ่ะ ละผมก็ได้รู้เหตุการณ์จากจดหมายฉบับหนึ่งที่เค้าฝากเพื่อนเค้ามาให้ผม...
  แด่...นนท์
    ถ้านนท์ได้รับจดหมายฉบับพี่คงอยู่ที่อเมริกาแล้ว พี่ขอโทษที่พี่ไม่ได้บอกนนท์ก่อนว่าพี่จะต้องย้ายครอบครัวไปเรียน และทำงานต่อที่อเมริกา คือพี่ขอพูดตรงเลยว่าพี่เสียใจมาก แต่ก็ไม่สามารถที่จะขัดใจพ่อกับแม่ได้ มีหลายครั้งที่พี่คิดจะบอกนนท์แต่ก็เหมือนมีอะไรมาจุกปากพี่ไว้ไม่ให้บอก และถ้าพี่บอกพี่รู้ดีว่าพี่คงได้ร้องไห้ต่อหน้านนท์แน่ๆ พี่เลยขอไปเสียใจที่นั่นคนเดียวดีกว่า
    ตลอดเวลาตั้งแต่ที่เราเคยเจอหน้ากันพี่มีสุข และทุกข์ปนกันมากมาย และพี่ก็ขอขอบคุณนนท์ด้วยที่ทำให้พี่รูจักคำว่า\"รัก\" ถึงแม้มันจะเป็นเวลาเพียงแค่ 1 ปี ซึ่งมันคงจะสั้นมาก แต่มันยาวนานพอที่จะทำให้ความรักงอกงามขึ้นได้ในใจของใครบางคน นนท์คงจะสงสัยว่าทำไมพี่ไม่เคยพูดกับนนท์แบบคนที่รักกันคู่อื่นๆ เหตุผลก็คือพี่ไม่กล้าพอที่จะคุยกับคนที่พี่รักมาก ได้อย่างซึ่งๆหน้ายังไงล่ะ เท่านี้นนท์คงหายสงสัยแล้วใช่มั้ย นี่คงเป็นการพูดกับนนท์ครั้งสุดท้ายแล้วในชีวิตนี้ พี่ก็ขอบอกกับนนท์ไว้ว่า \"พี่รักนนท์มาก นนท์เป็นรักแรกของพี่นะ และพี่ก็จะเก็บนนท์ไว้ตลอดไปในใจของพี่\"
                                                                                                                                    พี่แอน
    นี่คงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่ผมจะมาเขียน\"สมุดบันทึกรัก\"เล่มนี้ ตอนนี้ผมคงรู้แล้วว่าการเสียคนรักไปมันเป็นยังไง ผมอยากบอกกับพี่แอนไว้ตรงนี้เลยว่า\"ผมจะยังรักพี่แอน และจะรักคนเดียวตลอดไปครับ\"...
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย