เคยมั้ยที่แอบรักคนใกล้ตัว  โดยที่ไม่รู้ตัวเลย
    และฉันก็เป็นอีกคนที่แอบรักคนใกล้ตัว  ที่ฉันเรียกว่า “เพื่อน”
    เมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว
.  ฉันเป็นแค่เด็กผู้หญิงคนนึงที่หน้าตาธรรมดา แถมตัวสูงกว่าเพื่อนๆ วันๆนึง  ฉันไม่ได้สนใจอะไร นอกไปจากการเรียนและการได้อยู่กับเพื่อนๆ ที่ฉันรัก ฉันไม่ค่อยชอบเด็กผู้ชายนัก จะเรียกว่าเกลียด ก็ว่าได้ เพราะฉันคิดว่าพวกเด็กผู้ชายชอบรังแก  ฉันจึงไม่มีเพื่อนผู้ชายเลยสักคนเดียว  ทั้งๆ ที่ฉันอยู่โรงเรียนสห
    แล้ววันนึง  ฉันก็ต้องมาเป็นศัตรูกับเด็กผู้ชายคนนึง  เขาชื่ออะไรนั้น  ฉันเองก็ยังไม่รู้ในตอนนั้น  ฉันรู้และจำได้แค่ว่า  เขาเป็นคนที่ฉันเกลียดมากกว่าเด็กผู้ชายคนไหนๆ ในโรงเรียน  เพราะตั้งแต่วันแรกที่เขาก้าวเข้ามาในโรงเรียน  เขาก็สร้างความไม่เป็นมิตรกับฉันซะแล้ว
    “โอ๊ย!!!  ใครอะ”  ฉันหันไปมองทางที่หนังสติ๊กมาโดนแขนฉัน  แล้วฉันก็เห็นเด็กผู้ชายคนนึง  ตัวสูงพอๆ กับฉัน  หน้าตาก็งั้นๆ ท้วมๆ นิดนึง มองและยิ้มกวนๆ มาที่ฉัน  ฉันทำอะไรไม่ได้  นอกจากโมโห  หลังจากวันนั้นฉันกับเขาก็เจอกันทุกวัน  แต่ละวันนั้นเขาก็สร้างเรื่องให้ฉันโมโหและทะเลาะกับเขาได้ทุกวัน
    เขาวิ่งตามแกล้งให้ฉันโมโหเขาได้ทุกวัน  และเป็นอย่างงี้ทุกวันจนปลายเทอมสุดท้าย  เพื่อนของฉันคนนึงก็มาบอกกับฉันว่า
    “เฮ้ย! เดย์  เราได้ยินมาว่าที่ไอ้แบงค์มันชอบแย่แก  เพราะมันแอบชอบแกแหละ”
    “น้ำเน่าว่ะ  เราไม่เชื่อหรอก  มันคงเกลียดเราน่าดู  ถึงหาเรื่องให้โมโหได้ทุกวัน  ถ้าบีบคอมันได้ก็คงทำไปแล้ว” ฉันพูดแล้วก็หัวเราะในคำพูดของเพื่อน  ในใจฉันไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่า  เขาเกลียดฉัน และ ฉันก็เกลียดเขาเช่นกัน
    ทุกอย่างก็ยังเป็นไปจนเราทุกคนเรียนจบ  และต่างก็แยกย้ายกันไปเข้าโรงเรียนใหม่  ซึ่งนั่นมันก็ทำให้ฉันรู้สึกดีใจมากที่จะได้เจอกับสิ่งใหม่ๆ  และมันหมายความว่าฉันจะไม่ได้เจอนายแบงค์อีก
    5 ปีต่อมา
..
    ขณะที่ฉันนั่งรถเมล์กลับบ้านหลังเลิกเรียนนั้น  ก็มีผู้ชายคนนึงรูปร่างผอม สูง เดินขึ้นมาบนรถและหันมามองหน้าฉัน  สักพักเขาก็ขยับมานั่งเบาะข้างหน้าฉันที่ว่างอยู่แล้วถามฉันว่า
    “เอ่อ
ขอโทษนะครับ  ใช่เดย์หรือป่าว” เขาพูดอย่างไม่ค่อยแน่ใจนัก
    “อืม..ใช่  นายมีไรหรอ” ฉันถามงงๆ
    เขายิ้มอย่างตื่นเต้นแล้วถามฉันว่า “จำเราได้มั้ย  เราแบงค์ไง  ที่เราทะเลาะกันบ่อยๆ จำได้มั้ย”
    “อ๋อ  นายนั่นเอง” ฉันตอบอย่างเซ็งๆ
    “เราขอโทษนะ  ที่เราเคยแกล้งเธอบ่อยๆ น่ะ  เอาเป็นว่าลืมๆ มันไปได้ปะ แล้วเรามาเป็นเพื่อนกัน ดีมะ”
    “ง่ายขนาดนั้นเลยหรอ” ฉันยังโมโหนิดๆ เมื่อนึกขึ้น
    “เอาน่า  ลืมๆ ไปเหอะ นะๆๆๆ อืม.. เราจะลงแล้วอะ  ขอเบอร์ได้ปะ กลับไปจะได้คุยกันอีก”
    “งั้นแลกกัน” ฉันตอบ 
    หลังจากวันนั้น  เขาก็โทรหาฉันทุกวัน  ฉันค่อยๆ รู้สึกว่า  จริงๆแล้วเขาก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ฉันคิดเลย  และแล้วเราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันจนได้  เราสนิทกันเท่าๆ กับ ที่เพื่อนชายกับชาย หรือ หญิงกับหญิงสนิทกันเลย  มีอะไรเราก็คุยกันทุกเรื่อง  แม้แต่เรื่องความรัก
.
    และวันหนึ่งเขาก็โทรมาหาฉันเช่นทุกวัน  แต่น้ำเสียงเขาเปลี่ยนไป  เขากำลังอกหัก  ผิดหวังในความรักกับผู้หญิงคนหนึ่ง  ฉันได้แต่ปลอบใจเขา  ฉันได้ยินเสียงของเขาแล้ว  ฉันรู้สึกและเข้าใจในความรู้สึกของเขา  ว่าเขาเสียใจมากเพียงใด  และวันนั้นฉันก็เกิดความรู้สึกแปลกๆ ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร  ฉันแอบร้องไห้เพราะสงสารเขา  ซึ่งเขาเองก็คงไม่รู้
    พอช่วงปิดเทอม  เขากับฉันก็มักจะไปกินข้าว  ดูหนังด้วยกัน  และเขาก็จะมาส่งฉันที่บ้านทุกครั้ง  ซึ่งมันทำให้ฉันเริ่มประทับใจในตัวเขาโดยไม่รู้ตัว  ถึงแม้เราจะเจอกันเกือบทุกวัน  แต่เขาก็ยังคงโทรหาฉันทุกวัน  และก็มีวันนึง  ที่ครอบครัวของฉันจะไปเที่ยวกันที่กาญจนบุรี  พอเขารู้  เขาก็ขอให้ฉันขอแม่ให้พาเขาไปด้วย
    ช่วงเวลาที่ฉันและเขาไปเที่ยวด้วยกันนั้น  เป็นช่วงที่ฉันรู้สึกสับสน  ไม่เข้าใจตัวเอง  ว่าฉันกำลังรู้สึกเกินเพื่อนกับเขาหรือป่าว  ตอนที่เขากำลังนั่งตกปลาอยู่นั้น  ฉันนั่งอยู่ข้างๆ เขา มองดูเขา  โดยไม่ได้พูดอะไรกันสักคำ  สักพักเขาก็หันมาพูดกับฉันว่า
    “เดย์! ฟังเพลงแค่อยากบอกว่ารักเธอ หรือยัง” เขาถามฉัน
    ฉันส่ายหน้าแล้วบอกว่า”ยังอะ  ใครร้องหรอ”
    “ลองฟังซิ” เขาถอดหูซาวด์อะเบาท์ข้างหนึ่งออกจากหูของเขา  จากนั้นเขาก็จับผมของฉันทัดหู  และเอาหูฟังมาใส่ให้ที่หูของฉัน  ตอนนั้นฉันรู้สึกใจเต้นแรงมาก  ไม่รู้เพราะอะไร
    “เพราะมั้ย” เขาถาม
    “อืมม..เพราะดีอะ” ฉันตอบ และฉันก็ถอดหูฟังส่งคืนให้เขา  ขณะนั้นลมที่พัด ก็พัดผมที่ทัดหูออกมา  ผมฉันปลิวตามลม  เขาหันมาแล้วเอามือมาลูบผมและยิ้มให้ฉัน  ฉันไม่กล้าสบตาเขา  จึงหันไปมองวิวทางอื่น  ปล่อยให้เขาตกปลาต่อไป
    เมื่อกลับมาที่กรุงเทพฯ ก็เริ่มเปิดเทอมแล้ว  วันเสาร์ อาทิตย์ ฉันก็ต้องไปเรียนพิเศษ  จึงไม่ได้ไปเที่ยวกับเขาเหมือนแต่ก่อน  แต่เขาก็มารับฉันกลับบ้านทุกครั้งหลังเลิกเรียนพิเศษ เขาให้เหตุผลว่า  ฉันเลิกเรียนเย็น  กลับบ้านคนเดียวอันตรายจึงมารับฉัน ช่วงนั้นมีรุ่นพี่มาจีบฉัน  เขาก็บอกว่าไม่น่าคบไม่น่าไว้ใจ  อย่าไปคบ  และบอกฉันว่าหากจะคบใครเป็นแฟนต้องพามาให้เขาดูก่อนว่าดีหรือป่าว  เขาถึงจะให้คบนั่นมันทำให้ฉันแอบดีใจเล็กๆ ที่เขาเป็นห่วงฉัน
    และแล้ววันหนึ่ง  เขาก็โทรมาบอกฉันว่า 
    “อืมม..เดย์  แบงค์จะบอกว่า  ตอนนี้แบงค์มีแฟนแล้วนะ”
    “
..” ฉันอึ้ง
    “ฮัลโหล
.ฮัลโหล”
    “อืมมม
ได้ยินแล้ว  ดีใจด้วยนะ  แล้วเขาเป็นใครหรอ” ฉันถามและน้ำตาเริ่มไหล
    “เขาเป็นเพื่อนของเพื่อนแบงค์น่ะ  เขาบอกว่าเขาชอบแบงค์  เราเลยลองมาคบกัน  เพราะแบงค์ก็ไม่มีใคร  และแบงค์ก็คิดว่าการรักคนที่เขารักเรามันก็น่าจะแฮปปี้กว่ารักคนที่เรารักนะ” แบงค์ตอบ
    “ดีแล้วล่ะ  นายจะได้ลืมๆ เรื่องเก่าๆ ไง” ฉันยิ้มทั้งๆที่ฉันกำลังร้องไห้
หลังจากวันนั้นแบงค์ก็โทรหาฉันน้อยลง  จากทุกวัน  เป็นวันเว้นวัน  เป็นอาทิตย์ละครั้ง  และเดือนครั้ง 
และวันหนึ่งฉันก็ตัดสินใจบอกเขาว่า  อย่าโทรหาฉันอีกเลย  ถ้าโทรก็ขอให้มีธุระจริงๆ เพราะตอนนั้นเขา
กำลังผิดใจกับแฟนเพราะฉัน  เขาหาว่าฉันไม่อยากคุยกับเขา  แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่เลย  ฉันหวังดีกับเขาต่างหาก  และเขาก็หายไป  ไม่ได้ติดต่อฉันกลับมาอีก  ฉันก็เริ่มรู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น  ความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้นในใจฉันนั้นมันคือ ความรัก  ฉันกำลังรักคนที่ฉันเรียกว่าเพื่อน
    7เดือนต่อมา
.
    ฉันกะว่าฉันจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับของฉันตลอดไป  แต่ฉันก็ต้องยอมแพ้  ฉันโทรไปหาเขา
    “ฮัลโหล
แบงค์หรอ”
    “อืม  ว่าไง” เขาถาม
    “จำเราได้มั้ย”
    “จำได้ซิ  เดย์  เป็นไงบ้าง  ไม่ได้คุยกันตั้งนาน  แบงค์นึกว่าเดย์ลืมแบงค์ซะแล้ว”
    “ไม่หรอก  เราจะลืมแบงค์ได้ไงล่ะ” ฉันตอบ
    “วันนี้ที่เราโทรมา  เรามีเรื่องนึงที่จะบอกอะ  แบงค์ฟังเฉยๆ นะ เพราะเราไม่ได้ต้องการอะไร  เราอยากให้แบงค์รู้ไว้เฉยๆ ไม่ต้องตอบอะไรทั้งนั้น”
    “
อะไรหรอ”
    “แบงค์อยากรู้มั้ยว่าเรารักใครอยู่”
    “
..” เขาเงียบ
    “คนคนนั้น ก็คือ แบงค์ไงล่ะ” ฉันเริ่มน้ำตาซึม
    “
..เดย์พูดอะไรน่ะ  ล้อแบงค์เล่นใช่มั้ย” เขาถามฉันอย่างไม่เชื่อ
    “ป่าว  อย่าถามนะว่าทำไม  แค่นี้แหละที่เราอยากจะบอก”
    เขาหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า”รู้มั้ย  ว่าแบงค์ก็เคยแอบชอบเดย์นะ  ตอนเด็กๆ นั่นแหละ”
    “จริงหรอ
.ทำไมเราไม่รู้” ฉันอึ้ง  และนึกถึงคำพูดของเพื่อนที่บอกฉันในตอนนั้น
    “เดย์ไม่รู้จริงๆหรอ  แบงค์ยังจำได้ว่า เดย์เกลียดแบงค์แค่ไหน  วิ่งหนีแบงค์ทุกวัน  รู้มั้ยว่าในแฟรนด์ชิปของเพื่อน  แบงค์เขียนว่าเดย์คือคนที่แบงค์ชอบ” เขานึกภาพตอนเด็กๆ และหัวเราะ
    “
.”
    “เราหายกันนะ” เขาบอกฉัน  “ยังไงเดย์ก็ยังเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของแบงค์เหมือนเดิม  สัญญานะว่าเราจะยังเป็นเพื่อนกัน”
    ฉันดีใจที่เขาไม่โกรธฉัน  ฉันอยากจะถามเขาเกี่ยวกับเรื่องราวที่ผ่านมา  แต่
ฉันก็คิดว่า  เขาคงเห็นมันไม่สำคัญจึงไม่พูดถึงมัน  แต่สำหรับฉัน ช่วงเวลาเหล่านั้น  มันเป็นฝันดีสำหรับฉันมากๆ เขาคือคนที่ทำให้ฉันรู้จักคำว่ารัก  และเขาก็คือความรักครั้งแรกของฉัน  ซึ่งฉันจะจำและเก็บความรู้สึกดีๆ นี้ไว้ตลอดไป
    “เกือบจะรักกับไม่รัก  ไม่มีอะไรที่ต่าง  เกือบมีหวังกับหมดหวัง  ก็คือไม่เอาอยู่ดี  ไม่รู้ต้องคิดยังไง  ก็เห็นเธอบอกตลอดว่าฉันดี  วันนี้ทำไมไม่ต้องการ
                เกือบไม่รู้แต่เพิ่งรู้  ว่าเราไม่เคยรักกัน  เพิ่งจะรู้เธอให้ฉัน  เหมือนทำให้ใครต่อใคร  ที่แท้ที่คบกันมาก  ก็ฉันนั่นแหละที่ผิดที่คิดไป  แอบคิดไปไกลไม่ดูเงา
                เขาให้เป็นเพื่อนคนนึง  แต่ดันไปซื้งยิ่งกว่า  สมน้ำหน้า  ก็อยากไม่เจียมหัวใจ.....
                มันสมควรเจ็บใช่มั้ย  ดิ้นรนใช่มั้ย  ก็ช้ำใจไปอย่างนี้  ผิดที่ฉัน  ก็เจ็บที่ฉัน  ไม่ดูตัวเองให้ดี  เธอบอกรักบ้างมั้ย  ไม่เคย  ไม่เลย  สักคำก็ไม่มี  ปวดใจสักทีก็ควรอยู่แล้ว
                มันสมควรเจ็บอยู่แล้วที่รักเธอ.............\"
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น