Endless Love - Endless Love นิยาย Endless Love : Dek-D.com - Writer

    Endless Love

    เรื่องราวเทพนิยายรังสรรค์จากหัวใจของผู้เขียน... อารมณ์ถ่ายทอดออกมาเป็นเรื่องเรื่องหนึ่ง... ที่ผู้เขียนถือว่าคือเทพนิยาย

    ผู้เข้าชมรวม

    751

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    751

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  8 ต.ค. 46 / 22:49 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    นิยายแฟร์ 2024
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ...กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...

      ในอีกภพหนึ่งของโลก... มีอาณาจักรต่างๆ เพียงสี่อาณาจักร...

      ในอาณาจักรนีเรซัส มีเรื่องราวหนึ่ง... เกี่ยวกับความรักอันเป็นนิรันดร์... ที่กาลเวลาได้ผันแปรให้กลายเป็นเทพนิยายที่ตราตรึงในหัวใจของชาวนีเรซัส และชาวอาณาจักรทั้งสามที่เหลือ...

      เรื่องราวของชายหนุ่มผู้หนึ่ง... เขาเกิดในตระกูลสูงศักดิ์... เป็นถึงเชื้อราชวงศ์แห่งนีเรซัส อีกทั้งยังเป็นบุตรคนโทน...

      ชาวนีเรซัสอันเกิดในชนชั้นต่ำกว่ามักจะกล่าวถึงชายหนุ่มในฐานะผู้ที่เพรียบพร้อมทุกอย่าง ทั้งหน้าตา... เงินทอง... ชนชั้น... และความเฉลียวฉลาด...

      พวกเขาพูดเสมอว่า ...คงไม่มีอะไรอีกแล้วที่บุตรคนโทนของขุนพลแห่งนีเรซัสจะไม่มี...

      ...แต่พวกเขาไม่เคยคิด... เลยจริงๆ...

      ว่าบางที

      ความเพรียบพร้อม ก็ไม่ใช่สิ่งที่บางคนต้องการเสมอไป...

      ...ความเพรียบพร้อม... ของพญาสกุณาที่จำต้องสยายปีกงามในกรงทอง... ไร้อิสระ... ไร้สิทธิในการจะเลือกหนทางชีวิตของตนเอง

      ขุนพลแห่งนีเรซัสมักจะกล่าวกับบุตรชายเสมอ... ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง...

      \"เคอัส... เมื่อลูกโตขึ้น... ลูกจะเป็นแบบพ่อ...\"

      คำพูดที่เสมือนคมมีดโปร่งบาง... เชือดเฉือนหัวใจแห่งความรู้สึกของบุตรตนเองอย่างไม่รู้ตัว...

      ...ต้องเก่ง...

      ...ต้องกล้าหาญ...

      จะมีบ้างไหมนะ... วันที่เขา... จะได้เลือกหนทางของตนเองเสียที...

      แล้ววันหนึ่ง... เป็นวันเทศกาลสำคัญ... วันในฐานะครบรอบ 900 ปีของราชวงศ์แห่งนีเรซัส...

      เหล่าชาวเมืองต่างจัดงานเพื่อเฉลิมฉลองแก่กษัตริย์ของตน... ผู้ที่พวกตนล้วนให้ความจงรักภักดีดั่งนายบ่าวผู้ซื่อสัตย์กับนายผู้ใจดีของตน...

      ...เคอัสเองก็ร่วมงานด้วยในฐานะ เชื้อราชวงศ์

      .....และเป็นครั้งแรก......

      ที่เขาได้เจอกับเธอคนนั้น

      จะว่าเป็นการเจอกันแบบธรรมดาคงมิถูกนัก... หญิงสาวบุตรีคนสุดท้องของเศรษฐินีม่ายผู้หนึ่ง... เธอไม่ได้ร่วมงานเลี้ยง เพียงแค่พักผ่อนในห้องส่วนตัว... อยู่อย่างเงียบเหงา...

      แสงตะเกียงสีทองที่ทอรางๆ ผ่านม่านลูกไม้ขาวที่ถูกชักปิดหน้าต่างระเบียงบานใหญ่...

      แสงนั้น... ที่ดึงดูดความสนใจของชายหนุ่ม...

      เสียงครวญเพลงอ่อนโยนหวานระรื่นหูราวเสียงขับขานของมวลสกุณาตัวน้อยยามอรุณประสานไปกับเสียงสายน้ำของธาราเบื้องข้างคฤหาสน์หลังใหญ่ของเศรษฐินีม่ายชราแลเสียงเรไรกรีดร้องยามรัตติกาล

      เสียงของอิสตรีผู้นั้นพลันหยุดชะงัก... เมื่อเคอัสร่อนร่างสูงระหงลงบนระเบียงหินอ่อนที่ห้องของตน... แม้จะไร้สุ้มเสียง... หากเงาของเขาที่อาศัยแสงไฟจากโคมที่ระเบียง... ก็ทอทาบไปบนม่าน...

      \"ใครน่ะ\"

      เธอไม่ได้หวาดกลัวต่อบุคคลแปลกหน้า หากเสียงนั้นกลับฟังดูเป็นมิตรและแปลกใจ

      \"....ผม....\"

      คำแนะนำตัวเพียงเล็กน้อย...

      ...ก็สร้างไมตรีได้... ดั่งสหายที่คุ้นเคยกันดีหากต้องจากกันไปนาน...

      น่าแปลก... ที่เคอัส... ชายหนุ่มผู้มิเคยมีสหาย... และมิเคยสนใจที่จะเข้าสังคม... กับหญิงสาวที่มารดาประคบประหงมเลี้ยงดูราวไข่ในหิน และมิเคยได้พานพบกับบุรุษผู้ใดมาก่อน... จะเข้ากันได้ดีขนาดนั้น...

      เมื่อเรื่องราวแห่งมิตรภาพของทั้งคู่แพร่หลาย...

      ชาวนีเรซัสต่างก็พูดกันว่า พวกเขาคือคู่ที่เหมาะสมกันที่สุด

      ชายหนุ่มเชื้อราชวงศ์ กับ หญิงสาวที่เกิดในตระกูลดี... และมีหน้าตาสวยงามราวนางฟ้า...

      สายใยแห่งมิตรภาพที่สืบสานไปเรื่อยๆ... จนกระทั่งกลายเป็นสายใยแห่งความรัก...

      ...แต่ว่า...

      บางที... อุปสรรคก็มีอยู่เหมือนกัน... ในเทพนิยายหวานชื่น...

      อาณาจักรนีเรซัสเริ่มขัดแย้งกับอาณาจักรเฟย์ใกล้เคียง... และความขัดแย้งเพียงเล็กน้อยก็แปรเปลี่ยนเป็นสงคราม

      เคอัสผู้ต้องเจริญรอยตามผู้เป็นบิดา... ต้องเข้าร่วมสงครามด้วย... แต่เขา... ก็เข้าร่วมสงครามนั้นด้วยความเต็มใจ

      หากได้ปกป้องมาตุภูมิแล้ว... ก็เป็นการดีที่จะตอบแทนบุญคุณของธรณีที่รองรับเขานับตั้งแต่เยาว์วัย... และเพื่อปกป้องผู้คนที่รัก

      ในคืนสุดท้ายของวาระแห่งการอำลา... เคอัสไปหาหญิงสาวผู้เป็นที่รักของเขาอีกครั้ง... หากคราวนี้ เขากลับตัดสินใจที่จะพาเธอไปที่ธาราอาเรียนส์... ธาราใกล้เคียงคฤหาสน์งามของผู้เป็นมารดาของหญิงสาว...

      ใต้พฤกษางามที่แผ่กิ่งก้านสาขาไปทั่ว... กิ่งก้านสาขาสีน้ำตาลเข้มอันประดับประดาด้วยมวลบุปผาสีชมพู... กลีบบุปผชาติร่วงโรยลงเกลื่อนกลาดพื้นหญ้าสีเขียวอ่อนนุ่ม และร่วงโรยสู่ผิวธาระ...

      คำพูดของเคอัสที่ฝากไว้กับหญิงสาว... น้ำเสียงอ่อนโยนที่จะตรึงตราในหัวใจของเธอชั่วนิรันดร์...

      \"อารีน่า... ผมไม่ได้มีอะไรให้คุณ นอกจากคำสัญญา...

      รอผมได้ไหม....

      ....จนกว่าผมจะกลับมา... ผมสัญญา...

      .......

      แล้วพอถึงวันนั้น... พวกเราจะเจอกันอีกครั้งที่ใต้ต้นไม้นี่... เพราะฉะนั้น....\"

      เพราะฉะนั้น....

      ....รอนะ....

      ..............

      คำพูดที่ฝากเอาไว้..... คำสัญญาจากหัวใจที่เปล่งออกมาเป็นถ้อยคำ....

      ของชายหนุ่มผู้ลาจากไปสมรภูมิ....

      ถึงแม้ว่าความหวังจะริบหรี่... แต่หญิงสาว... อารีน่า... ก็ยังคงรอคอยอย่างเชื่อมั่น....

      ทุกๆ วัน... ทุกๆ คืน... หญิงสาวจะนั่งอยู่ ณ ใต้พฤกษาที่แผ่กิ่งก้านมอบเงาร่มรื่นแก่ตัวเธอ... มือเรียวบางทั้งสองข้างประสานกันเพื่ออธิษฐานให้แก่ชายหนุ่มเสมอ...

      วันคืนผ่านไป... พร้อมๆ กับที่สงครามใกล้จะสิ้นสุด....

      คำอธิษฐานอวยพรของหญิงสาวมิอาจส่งไปถึงพระผู้เป็นเจ้าได้...

      เคอัสได้จากไป... ในสงคราม... แต่เกียรติศักดิ์ในฐานะที่เขาเป็นผู้นำแห่งกองทัพซีเรนัส... เคียงคู่กับผู้เป็นบิดา... ก็ยังอยู่.....

      ชื่อเสียงได้กลายเป็นตำนาน... ตำนานของชายผู้หนึ่ง... ที่สามารถโค่นเฟย์ลงได้.... แต่เกาฑัณฑ์จากฝ่ายนั้นก็ได้คร่าชีวิตเขาไปชั่วนิรันดร์....

      ในวันสุดท้าย...

      ชายหนุ่มหายใจรวยริน... ทราบดีว่า... เขาคงไม่มีโอกาสได้เยือนบ้านเกิดอีกแล้ว

      สายลมที่พัดผ่าน... เขาได้ฝากคำพูดเอาไว้... ให้แก่อารีน่า...

      \"อารีน่า... ผม... ขอโทษ...

      ทั้งๆ ที่ให้สัญญาไว้แท้ๆ

      แต่ก็ทำตามสัญญานั้นไม่ได้...

      ...ไม่ว่าไง ผมก็จะรักคุณตลอดไปนะ...

      อาจจะน้ำเน่าแต่ว่า... หวังว่าคุณจะได้ยินเสียงนี้...

      ...ผม... แค่อยากขอบคุณ... ที่คุณรอผม... และขอโทษ...\"

      .....ขอโทษ.....

      เทพเจ้าแห่งสายลมได้พัดผ่านจากสมรภูมิไป... ทิ้งร่างสูงให้ทอดกายอย่างสงบ... กลางเสียงคร่ำครวญร้องไห้แห่งสงคราม....

      และเยือนนครหลวงแห่งซีเรนัส... เพียงเพื่อนำคำพูดถ้อยคำจำนรรจาแก่หญิงสาว...

      ในคืนราตรีที่ศศิธรกระจ่างใสเปล่งแสงสีนวลงดงาม... หยาดน้ำตากระจ่างใสไหลรินจากนัยน์ตาสีมรกตคู่งามเมื่อเธอได้ยินเสียงกระซิบแผ่วเบาที่ฝากมากับสายลมนั้น...

      ....การรอคอยของอารีน่าควรจะสิ้นสุดลง.... แต่ว่า....

      เธอจะขอรอคอยแบบนี้... ตลอดไป...

      คำอธิษฐานสุดท้าย...

      ที่มีเพียงเทวีแห่งความรักอันสิงสถิตที่สรวงสวรรค์เท่านั้นที่จะได้ยิน...

      ....ขอให้ฉันรอแบบนี้ไปตลอดได้ไหม.... ถึงแม้ว่า... เขาจะจากไปอย่างไม่มีวันกลับ.... แต่ฉันขอ....

      หากเป็นไปได้

      จะขอทำอะไรก็ได้... ที่ให้เขากลับมา... อีกครั้ง...

      แม้แต่จะต้องรอต่อไป...

      ด้วยเหตุนี้ เทวีแห่งความรักผู้ประทับใจใน รักแท้ ของหญิงสาว

      จึงมอบเวทย์มนตร์ให้แก่อารีน่า...

      แม้ว่าร่างของเธอจะสลายไปตามกาลเวลาแล้วก็ตาม... แต่วิญญาณของเธอก็ยังคงสิงสถิตกับพฤกษาต้นนั้นตลอดไป...

      ฤดูกาลผันผ่าน... ฤดูหนาวมาเยือน...

      ต้นไม้ทุกต้นล้วนผลัดใบเหลือเพียงกิ่งก้านว่างเปล่า... แต่ต้นไม้ ณ ริมฝั่งธารา... ยังคงออกดอกสีชมพูอ่อนบานสะพรั่ง....

      ...เรื่องราวความรักของชายหนุ่มและหญิงสาว...

      จากปากต่อปาก

      จากเรื่องแห่งความเป็นจริงกลายเป็นเรื่องเล่า... และจากเรื่องเล่ากลายเป็นเทพนิยาย

      ...แต่...

      หากมีใครที่บังเอิญพลัดหลงไปเพียงลำพังในคืนพระจันทร์เต็มดวง... ที่ธาราสายนั้น... ใต้ต้นไม้ที่ออกดอกตลอดปี...

      พวกเขาจะได้เห็น...

      นางฟ้าผู้มีหน้าตางดงามยิ่งกว่านางอัปสรใดๆ บนสรวงสวรรค์... เส้นผมสีเงินปลิวไสวไปกับสายลม... นัยน์ตาคู่งามพริ้มหลับ... มือเรียวบางประสานกัน...

      ดวงหน้าเปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่น....

      ....ถึงแม้ว่า..... ความเชื่อมั่นนั้นไม่ได้รับการตอบแทน.....

      แต่ว่า.....

      บางที เมื่อถึงคราที่ชายหนุ่มและหญิงสาวจะได้พบพานกันใหม่อีกครั้ง... ได้เกิดใหม่ และได้พบกันใหม่ในยุคใหม่ที่ปราศจากสงคราม

      รักแท้ที่สืบสานมาตั้งแต่ชาตินี้... คงจะได้อยู่ต่อไป... ชั่วนิรันดร

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×