ความจริงของช็อกโกแลตที่คุณอาจไม่รู้

เนื้อเรื่อง

ช็อกโกแลตทำมาจากเมล็ดพืชเขตร้อนที่ชื่อว่า  คาเคา [cacao]  คาเคามาจากคำว่า  cacahuatl  เป็นชื่อที่ชาวอินเดียนนแดง
เผ่าแอชเท็กใช้เรียกพืชชนิดนี้  แต่พ่อค้าชาวอังกฤษ  ที่เข้าไปซื้อเมล็ดคาเคาในยุคแรก ๆ สะกดคำผิดจาก  cacao  เป็น  cacoa  ชึ่งออกเสียงว่า  โกโก้  ชื่อวัตถุดิบที่นำมาผลิตช็อกโกแลตจึงเพี้ยนเป็นโกโก้นับแต่นั้น
        ///จะเป็นสิวหรือไม่///
        ขึ้นอยุ่กับฮอร์โมนและความสะอาดของแต่ละคน  คนที่ไม่เป็นสิวอยู่แล้วถึงกินช็อกโกแลตเข้าไปก็จะไม่เป็น  แต่คนที่เป็นสิวมาก ๆ ต้องเลี่ยงเพราะช็อกแลตอุดมไปด้วยไขมัน  หากต่อมไขมันขับไขมันออกมาไม่ทันก็จะเกิดการอุดตันและเป็นสิว
        ช็อกโกแลตทำให้ฟันผุเพราะมีน้ำตาลมาก  และทำให้อ้วนแน่นอน  แต่เครื่องดื่มช็อกโกแลตร้อนมีไขมันน้อยกว่าช็อกโกแลต
แท่งถึง  50%
        ///องค์การนาซา///  ทุ่มงบในการวิจัยและพบว่า  ช็อกโกแลตเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูงและมีวิตามินหลายชนิด  นักบินอวกาศจึงกินช็อกโกแลต  เพราะกินง่ายและไม่มีกากใย  (จะได้ไม่ต้องขัยถ่ายกันบ่อย ๆ อะน่ะ)
        นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ  พบว่า  นักเรียนหญิงในชั้นมัธยมมักขาดธาตุเหล็ก  ทำให้สมองมีประสิทธิภาพลดลง  วิธีแก้คือ  กินอาหารที่ให้ธาตุเหล็กมาก ๆ เช่น  ข้าวซ้อมมือ  ตับ  ผักใบเขียว  และช็อกโกแลต
        ///ช็อกโกแลตมีคาเฟอีนเล็กน้อย///
        ทำให้กระปรี้กระเปร่าโดยไม่เป็นอันตรายและมีเฟนนีลิทีลามีน  [phenylethylamine]  ทำให้ความดันเลือดสูงขึ้น  คนที่ความดันด่ำ  หน้ามืดบ่อย ๆ จึงทิ้งยาและหันมาคว้าช็อกโกแลตได้ค่ะ
        ***ในวันวาเลนไทน์  สาวญี่ปุ่นนิยมให้ช็อกโกแลตแต่แฟนมากกว่าสาวชาติอื่น ๆ***
       //รูปทรงสามเหลี่ยมของช็อกโกแลตทอเบลอโรน  [Toblerone]  หมายถึง  ภูเขาแมตเตอร์ฮอร์น  [Matterhorn]  ในสวิตเซอร์แลนด์//
        ***ในเยอรมนีมีพิพิธภัณฑ์ช็อกโกแลตที่เมืองโคโลญ  เมื่อจ่ายเงินค่าผ่านประตู  เราจะได้ช็อกโกแลตหนึ่งชิ้นแทนตั๋ว***
        ***ค.ศ.  1000  อินเดียแดงเผ่ามายา  ใช้เมล็ดคาเคาหรือเมล็ดโกโก้แทนเงิน  (เหมือนคนไทยในอดีตใช้เปลือกหอย)***
        ***รถไฟที่แล่นจากอังกฤษไปพื้นที่ห่างไกลในสกอตแลนด์จะมีช็อกโกแลตเก็บไว้ในหีบฉุกเฉิน เผื่อในกรณีหิมะตกหนักจนเดินทางไม่ได้  ทุกคนจะได้ไม่อดตาย***

@@จบแล้วค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านน่ะค่ะ@@