ดอกไม้&นายก้อนหิน - ดอกไม้&นายก้อนหิน นิยาย ดอกไม้&นายก้อนหิน : Dek-D.com - Writer

    ดอกไม้&นายก้อนหิน

    บันทึกของคน 2 คน

    ผู้เข้าชมรวม

    415

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    415

    ความคิดเห็น


    5

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  23 พ.ย. 47 / 19:32 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    นิยายแฟร์ 2024
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ผมรู้จักผู้หญิงคนหนึ่งด้วยความบังเอิญ แต่ผมบอกตัวเองว่าเป็นเพราะพรหมลิขิต ผมพบเธอที่ริมบึงขนาดใหญ่หน้ามหาวิทยาลัย ขณะที่ผมกำลังไปวิ่งออกกำลังกาย เธอกำลังง่วนอยู่กับผืนผ้าใบ และภาพอาทิตย์ลับขอบฟ้า

      ผมยาวที่ถูกรวบเป็นมวยด้านหลังถูกปักด้วยพู่กันอันโต แทนปิ่นปักผม เสื้อกล้ามตัวเล็กสีขาว สร้อยข้อมือเต็มแขนเล็กๆ กางเกงยีนส์สีซีด และรองเท้าผ้าใบโทรมๆ เธอคงดูเป็นผู้หญิงเรียนศิลปะที่เซอจนไม่น่าดู

      หากไม่เพราะใบหน้าที่งดงามราวภาพวาดของจิตรกรเอกนั้น เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่สวย หากไม่พิศมองอย่างดี แต่เธอก็ดูน่ารักมากในสายตาผม ผมบอกตัวเองว่าหากผมวิ่งวนกลับมาอีกรอบแล้วเจอเธอ ผมจะเข้าไปคุยด้วย



      วันนี้ จู่ๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาคุยกับฉัน เขาเรียนวิศวะ ท่าทางเป็นหนุ่มเจ้าสำอางเชียว แต่ก็ดูท่าทางจะเป็นที่รู้จักในคณะน่าดูนะ เพราะตอนที่ช่วยฉันหอบอุปกรณ์วาดรูปมาส่งที่รถ มีรุ่นน้องมาทักเยอะเชียว



      ยิ่งรู้จัก ผมยิ่งรู้สึกว่าเธอน่ารักครับ เธอเป็นรุ่นน้องผม 1 ปี แต่ก็ไม่เคยเรียกผมว่าพี่ซักคำ เธอบอกว่า เรารู้จักกันในฐานะเพื่อน ไม่ใช่รุ่นพี่ รุ่นน้อง เพราะเธอขี้เกียจนอบน้อมผม อย่างที่รุ่นน้องในคณะเป็น

      ก็แหม ผมเคยเป็นประธานเชียร์นี่ครับ รุ่นน้องก็ต้องเกรงเป็นธรรมดา เธอเป็นผู้หญิงที่ใจดีมากครับ ทุกวันเสาร์เธอจะไปสอนศิลปะให้เด็กกำพร้า และวันไหนที่ว่างก็จะไปอ่านนิทานอัดเทปให้เด็กๆ ตาบอด

      ตอนนี้ผมมั่นใจแล้วครับว่าผมชอบเธอมาก แถมภูมิใจมากที่คนที่ผมชอบเป็นคนดีมากด้วย



      เขาเป็นผู้ชายที่ใช้ได้ทีเดียวแหละ อย่างน้อยก็รู้จักเทคแคร์ผู้หญิงมากกว่าเพื่อนที่คณะของฉันเยอะทีเดียว แล้วก็เป็นคนมุ่งมั่นดี เขาตั้งใจเรียนมากเลยนะ ไม่เคยขาดเรียนเลย เล่นเอาฉันรู้สึกผิด ที่โดดเรียนเป็นว่าเล่น แล้วก็เป็นคนขยันทำกิจกรรมของมหาวิทยาลัย ซึ่งฉันไม่คิดจะทำ ต่างกันจริงแหะฉันกับเขา



      วันนี้เธอชวนผมไปขับรถเล่นครับ เธอบอกเธออยากไปอุทยานแห่งชาติแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยของเรานัก แต่ก็เป็นร้อยกิโลเลยนะครับ ผมมองมอเตอร์ไซต์เก่าๆ โทรมๆ ของผมแล้ว ก็ยากจะไปถึงครับ

      เธอทำหน้าขรึมแล้วยื่นกุญแจรถของเธอให้ผม บ้านเธอรวยครับ เธอมีรถยนต์ส่วนตัวใช้ ผมรู้สึกได้ทันทีว่าเธอกำลังไม่สบายใจ นั่งรถไปได้เดี๋ยวเดียว เธอก็ร้องไห้โฮเลยครับ ผมเลยรู้ว่าเธอขี้แยไม่เบา

      เรื่องของเรื่องที่เธอกลุ้มใจก็คือ ที่บ้านเธอไม่ยอมมาเยี่ยมเธอในวันนี้ตามที่นัดไว้ครับ เพราะน้องชายไม่สบายนิดหน่อย ผมขำไม่ออก เพราะท่าทางเธอเสียใจกับเรื่องที่ผมเห็นเป็นสิ่งเล็กน้อยนี้มาก จึงได้แต่เงียบ แล้วก็เล่าเรื่องของผมให้เธอฟังบ้าง



      ฉันไม่กล้าฟูมฟายเลยทีเดียว เมื่อเขาเล่าเรื่องครอบครัวของเขาให้ฉันฟัง เขาเล่าให้ฟังว่าพ่อกับแม่ของเขาเลิกกัน และเขาก็ไม่เชิงว่าใครเลี้ยง เพราะอยู่กับพ่อบ้าง อยู่กับแม่บ้าง อยู่กับญาติบ้าง และแต่ละที่ก็ไม่ใช่ที่ของเขา เพราะทุกคนต่างมีครอบครัวของตัวเอง อยู่ที่ไหนเขาก็เหมือนเป็นแค่คนอาศัย

      ตอนนี้เขาอาศัยการได้ทุนการศึกษาและค่าใช้จ่ายที่พี่สาวส่งให้นิดหน่อยดำรงชีวิต เพื่อก้าวไปยังเส้นทางที่สบายขึ้น ฉันทึ่งมากที่เขาเข้มแข็ง และไม่ร้องไห้กับโชคชะตาของตนเอง ตั้งใจเรียน ไม่เกเร ฉันโชคดีกว่าเขาเยอะมากทีเดียว สงสารเขาจังแหะ



      เธอบอกผมว่า บางทีถ้าผมเสียใจ ผมควรจะร้องไห้บ้าง เพราะถ้าไม่ร้องเสียบ้าง ความเสียใจต่างๆ จะถูกสะสมเป็นตะกอนในหัวใจของผมเอง แล้วท้ายที่สุด หัวใจผมจะกลายเป็นก้อนหิน แม้จะแข็งแกร่ง และผมจะไม่มีวันเสียใจอีก

      แต่มันจะทำให้คนใกล้ตัวผม บอบช้ำยามโดนผมกระทบ ผมก็เลยบอกเธอว่า ผมเห็นเธอเป็นดอกไม้ของนายก้อนหิน ดอกไม้ที่ช่วยมาเติมความอ่อนหวานให้ก้อนหินที่ไม่ค่อยมีค่าก้อนนี้

      สรุปแล้ววันนั้น เราก็ไปไหนไม่ได้ไกล เพราะทันทีที่เห็นทุกนาเขียวขจีกว้างไกล เธอก็ขอให้ผมหยุดรถ แล้วลงไปวิ่ง เหมือนไล่คว้าอะไรบางอย่าง เธอบอกว่า เธอกำลังวิ่งไล่จับความฝัน



      วันนี้เขารับปริญญา ฉันอาสาเป็นตากล้อง ครอบครัวเขามีแม่มาแค่คนเดียว แต่บ้านฉันมากันทั้งบ้านเลยแหละ พ่อแม่ และน้องชายฉันชอบเขามาก

      ก็ดีแล้วล่ะ เพราะฉันอยากให้เขาได้รับความอบอุ่นในครอบครัวอย่างที่ฉันได้รับมาเสมอบ้าง ฉันอยากให้เขามีความสุข เพราะความสุขของเขาก็เป็นความสุขของฉันเหมือนกัน

      วันนี้เราสนุกสนานกันใหญ่ เหล่าเด็กอย่างพวกเราพาคนสูงวัย 3 คนไปปล่อยแก่กันในคาราโอเกะทั้งคืน ก็ไม่ได้จ่ายเองนี่ พ่อแม่มาทั้งที แม่ของเขาเข้ากับแม่ของฉันดีทีเดียว



      ผมได้ทุนจากมหาวิทยาลัยมาเรียนต่อที่ญี่ปุ่น เหงามากครับ ทั้งที่ผมเคยชินกับความเหงามาตลอดชีวิต ก่อนที่จะพบเธอ ผมหลีกเลี่ยงความเหงาโดยการตั้งใจเรียน เวลาว่างก็ทำงานพิเศษ ผมเก็บเงินได้ก้อนโตทีเดียวครับ คิดว่าพอเรียนจบกลับไปจะไปขอเธอหมั้นไว้ก่อน เธออีเมล์มาเล่าให้ฟังว่า เธอได้งานในบริษัทผลิตรายการโทรทัศน์แห่งหนึ่ง กำลังสนุกกับงาน



      อีกไม่กี่เดือนเขาก็จะกลับมาแล้ว เห็นบอกว่าเอาแต่เรียนกับทำงาน จนไม่มีเวลาใช้เงิน แหมคงรวยใหญ่ ฉันเองก็กำลังสนุกกับงานที่ทำ อาจเหงาบ้าง แต่อีกไม่กี่เดือนคงหายเหงา พ่อเพิ่งซื้อคอนโดไว้ให้ กำลังตกแต่ง พ่อกับแม่วางแผนไว้เสร็จสรรพ ว่าพอเขากลับมาจะยัดเยียดลูกสาวให้ทันที แล้วให้ย้ายไปอยู่คอนโดใหม่ซะ พ่อกับแม่หาว่าอพาร์ทเม้นที่ฉันอยู่มันไม่ค่อยปลอดภัยสำหรับการอยู่คนเดียวนัก



      วันนี้ผมได้รับจดหมายจากที่บ้านของเธอ เดาได้ว่าเธอคงยังไม่รู้เรื่องแน่ๆ พ่อกับแม่ของเธอเขียนจดหมายมาบอกให้ผมกลับไปรับลูกสาวไปจากอกท่านด่วน พร้อมกับซื้อคอนโดไว้เป็นค่าสินสอดให้แล้ว ถ้าผมจะเรียกร้องอะไรอีกก็ขอให้บอก ขอเพียงช่วยรับลูกสาวท่านไปเลี้ยงดูแทนก็พอ พร้อมกับส่งเอกสารโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมาด้วย

      ที่บ้านของเธอน่ารักอย่างนี้เสมอครับ ทั้งที่ผมเป็นคนอื่น แต่ท่านทั้งคู่ก็เอ็นดูผมมากทีเดียว กลายเป็นว่าเงินทองที่ผมสะสมเพื่อขอเธอแต่งงานก็อดใช้ครับ เก็บไว้ให้ลูกแทนละกัน

      ตื่นเต้นครับ อีกไม่กี่วันผมก็จะได้กลับไปหาเธอแล้ว ดอกไม้ของผม



      พรุ่งนี้เขาจะกลับมาแล้วล่ะ เดี๋ยวตอนเย็น ฉันจะออกไปหาซื้อข้าวของ และอาหารมาเตรียมไว้ทำให้เขากินพรุ่งนี้ เขาต้องแปลกใจมากแน่ๆ ที่ฉันทำอาหารเป็นแล้ว หุหุ ใช้เวลาฝึกฝนแรมปีเชียวนะ โอ๊ย ตื่นเต้นจังเลย แล้วพรุ่งนี้เจอกันนะ นายก้อนหินของฉัน

      เราจะสมัครใจเป็นดอกไม้ที่อยู่ข้างก้อนหิน เพราะดอกไม้สักแต่สวย หากแสนบอบบาง เราจะมีก้อนหินคอยดูแล ปกป้อง….

      :

      :

      :



      นายไม่ต้องห่วงหรอก ไปเรียนแค่ 2 ปี เราอยู่คนเดียวได้สบายมาก ถึง 2 ปีนี้ ดอกไม้จะไม่มีก้อนหินคอยดูแล ดอกไม้จะฮึดเอาความแข็งแกร่งทั้งหมดมาดูแลตัวเอง เพราะเมื่อก้อนหินกลับมา ดอกไม้ก็ไม่ต้องมีความแข็งแกร่งก็ได้ ยังไงก็มีคนดูแลอยู่แล้ว

      :

      :

      :

      ผมไม่ได้ขอหมั้นเธอครับ ไม่มีงานแต่งงานเกิดขึ้นด้วย คอนโดก็ถูกขาย ผมย้ายไปอยู่ที่บ้านของเธอ กับพ่อแม่ และน้องชายของเธอ แต่… ไม่มีเธอหรอกครับ

      เธอถูกวัยรุ่นเมายากลุ่มหนึ่งขับรถชนในวันที่ไปซื้อข้าวของเพื่อทำอาหารให้ผมครับ

      แค่เสี้ยวเวลาเท่านั้น ที่ผมจะกลับมาดูแลเธอได้แล้วแท้ๆ ยังสายเกินไป ใครที่ยังมีคนสำคัญของหัวใจข้างกายอยู่

      ดูแลเขาให้ดี ทุกวินาทีนะครับ เพราะเพียงพริบตาที่ไม่ได้ดูแล ลืมตาอีกครั้ง อาจไม่มีเขาให้ดูแลแล้วก็ได้

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×